ได้โปรดจงอย่ากลัวเลยพวกท่าน

คำทำนายพระพุทธองค์ ที่เรียกว่าพระพุทธทำนายนั่น สามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยกรรมปัจจุบันจงอย่ากลัวเลย จงทำกรรมดีสั่งสมไหวเถิด คนเรานั่นเกิดมามีเอกลักษณ์ของแต่ละคน กรรมแตกต่างกัน จะตายพร้อมกันเป็นจำนวนมากๆคงเป็นไปไม่ได้ กรรมของแต่ละคนลิขิตไหวแล้วว่าเขาจะต้องตายเมื่อตอนอายุเท่าใด ถ้าหากไม่โดนกรรมปัจจุบันที่ท่านสร้างตัดรอนไปสะก่อน ดิฉันเลยอยากยก เนื้อหาจากคลิบมาค่ะ .... เว็บมาสเตอร์ค่ะ อย่าลบนะค่ะ...

เดี๋ยวจะหาว่าไม่เป็นกลาง


[ame="http://www.youtube.com/watch?v=Z_rmuRpcmm0"]YouTube - ???????????????????????????[/ame]


[ame="http://www.youtube.com/watch?v=QjtN7nP_hKk"]YouTube - 2012 ??????????????????[/ame]

 

แก้ไขเสร็จแล้วๆๆๆๆๆๆๆ

 

คุณ famesod4 ผมนั่งฟังคำชี้แนะจากคุณจนจบ ok คุณคิดได้อย่างนี้ก็ดีแล้ว
แต่คุณต้องเข้าใจว่า มนุษย์ก็คือสัตว์จำพวกหนึ่ง เหนือกว่าตรงที่มีความคิด มีสติปัญญา แต่ลึกๆ แล้วก็ยังมีสัณชาตญาณของสัตว์ ในเรื่องการต้องการมีชีวิตรอด มีความกลัว แต่ก็คงไม่ทุกคน

ถามว่า ผมเชื่อเรืองคำทำนาย เรืองภัยพิบัติหรือไม่ ... ผมเชื่อนะ แต่ไม่ตื่นกลัว ไม่ตระหนก ผมยินดีที่จะเป็นคนอยู่ หรือ เป็นคนไปหากเกิดภัยพิบัติ ผมเป็นคนร้อยเอ็ด
ผมคงไม่หนีไปที่ไหนหรอก แต่..การเตรียมพร้อมเพื่อการเอาชีวิตรอดมันก็ต้องมีบ้าง
ไม่กลัวตาย ไม่ใช่ว่าไม่คิดจะมีชีวิต ถ้าเราสามารถพาตัวเรา หรือ พาคนอื่น คนรอบข้าง
พ่อ แม่ ญาติพี่น้อง ให้ผ่านพ้นวิกฤติได้ ผมก็ว่าเป็นบุญกุศลเหมือนกันนะ

คนที่เขาคิดจะหนีไปอยู่ที่โน้นบ้าง ที่นี่บ้าง ตื่นตระหนกต่าง ๆ นานา ก็อย่างว่าเขาเลย
คนเราอยู่ที่ไหนก็ต้องตาย หากถึงคราวตาย ถึงแม้คุณ famesod4 เอง แม้คุณจะบอกว่าคุณจะไม่หนีไปไหน ทำใจยอมรับ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แต่ถ้าหากคุณเป็นคนมีศีลธรรม
ยังไม่ถึงคราวที่คุณต้องตาย หากเกิดเหตุการขึ้นมาจริง เวลานั้น อาจจะมีอะไรดลใจให้คุณต้องมีการเดินทาง ไปยังที่.. ที่ปลอดภัย

เรื่องอย่างงี้มัน นานาจิตตังครับ ห้ามใจตัวเรายังห้ามไม่ค่อยได้ จะห้ามคนอื่น ไม่ให้คิดอย่างที่คุณว่าไม่ถูกต้องคงยาก ให้คนอื่นคิดเหมือนเรา..คงยาก กรรมใคร ก็กรรมเรา กรรมใครกรรมเผือก
อ้อ ที่คุณว่าคุณกินหญ้า กินน้ำคลอง กินโน้น กินนี่ อยู่อย่างงี้ อยู่อย่างงั้นไม่ได้ เพราะสิ่งแวดล้อมของคุณ เพราะคุณเกิดมาไม่เคยเป็น ไม่เคยอยู่ แล้วคุณจะอยู่ไม่ได้ ไม่ต้องห่วงครับ ถึงเวลา ไม่มีมนุษย์คนไหนปล่อยให้ตัวเองหิว ตัวเองตายง่าย ๆ หรอก ชีวิต คือการต่อสู้ ศัตรูคือยากำลัง
ยินดีที่มีโอกาสได้ฟังคำชี้แนะ .. จากคุณ

 

อันนี้คลิปคุณfamesod4 เอาyoutube เองไหมคะ

 

อย่าทำแบบนี้เลยนะคะ...ดิฉันว่า(เรากันไว้ดีกว่าแก้) ค่ะ.... เตียมใจเอาไว้ไม่เสียหายหรอกค่ะ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นองค์(สัพพัญญู)(อนาคตังสญาณ) ของพระพุทธเจ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงได้คะ คำทำนายของพระองค์ท่านทายถูกหมด.."เป็นไปได้หรือคะ ที่จะมาผิดในยุคนี้?" ขอบพระคุณค่ะ

 

ห้ามไม่ไห้คนกลัวความตาย ....!!!!

 

ผมกะแล้ว ว่าเป็นคุณสันโดษ ทำไมเปลี่ยนชื่อล่ะครับ

 

คุณสันโดษมาแปลก ๆ นะผมว่าคงไม่ใช่มั่ง

 

ลองเข้าไปที่เว็บ youtube โดยตรง เป็นคุณสันโดษจริงๆ ครับ

 

ผมไม่ได้เปิดดูนะ แต่ที่บอกว่า "คุณกินหญ้า กินน้ำคลอง กินโน้น กินนี่ อยู่อย่างงี้ อยู่อย่างงั้นไม่ได้ เพราะสิ่งแวดล้อมของคุณ เพราะคุณเกิดมาไม่เคยเป็น"

อ่ะ โดนใจผมเลย

ผมท้องเสีย ที่ ผ้าแดง เขาคิชกูฏ ห้องน้ำมี แต่ไม่มีทิชชู่ ต้องใช้ใบไม้แทน เช็ดก้นครับ มันก็เคยทำหลายครั้งแล้วล่ะครับ ชินซะแล้ว ด้วยสัญชาตญาณ มนุษย์ยังไงก็ต้องหาทางรอดให้ได้

 

อะอะ ไม่เคยกลัวเลยครับ เชื่อว่าจะเกิดนะ แต่ไม่เคยกลัว อยากเห็นด้วยซ้ำ ถ้าเกิดจริง ส่วนตัวแล้ว คิดว่าคุ้มครับ ..คนเกิดมากี่รุ่นถึงจะได้อยู่ในเหตุการณ์ใหญ่ขนาดนี้ .. ยืนยันว่าคุ้มครับ
ไม่กลัวเลยครับ

 

ผมดูข่าวน้ำท่วมภาคใต้มา 2 วันแล้ว น้ำป่า ดินโคลนถล่ม อ่างเก็บน้ำแตก สะพาน ถนน ขาด คุณลองหาทางสื่อให้ถึงพี่น้องชาวใต้ดิ ว่า อย่าแตกตื่น อย่าไปเชื่อเลย ลองดูนะ

 

ผมหมายถึง จกท นะไม่ใช่คลิบ คือคำพูดดูเหมือนคนละคนกันแปลกจริง ๆ

 

ขอบคุณสำหรับทุกๆมุมมองและหลากหลายแง่คิดที่นำเสนอครับ

 

ไม่กลัวที่จะตาย แต่ไม่ใช่ไม่อยากอยู่รอด
การเตรียมตัว การเตรียมการ เพื่อตั้งอยู่ในความไม่ประมาท
ถึงคราวตาย อยู่ที่ไหนก็ตาย
ฉะนั้น หากเกิดภัยพิบัติขึ้นจริง จำเป็นต้องพยายามรักษาชีวิตไว้ให้ได้ถึงที่สุด
แต่จะรอดหรือไม่ มันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

 

ที่มา : Luangpudu.com / Luangpordu.com

[FONT=&quot]กระแส ตื่นกลัวภัยธรรมชาติต่างๆ นับวันจะมีมากขึ้น เรื่องที่ไม่คิดว่าจะได้พบเห็น ก็ได้พบเห็น อย่างเช่นมีการทำนายว่าโลกจะแตกและเกิดภัยพิบัติเร็ว ๆ นี้ ทำให้มีผู้คนจำนวนมากหลงเชื่อ แตกตื่นอพยพหนี ทิ้งงานการที่ทำ ทิ้งบ้านทิ้งเรือน ดังที่เป็นเป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์[/FONT]
[FONT=&quot]พฤติกรรม และความเชื่อแปลก ๆ นี้ นับวันจะเพิ่มขึ้นและขยายวงกว้างออกไป ใน อดีตมักเกิดขึ้นกับคนที่มีการศึกษาไม่มากนัก แต่หากสังเกตดูในปัจจุบัน ผู้คนที่เชื่อเรื่องนี้ มีกลุ่มผู้มีการศึกษา มีตำแหน่งหน้าที่การงาน ทำไมถึงเป็นเช่นนี้...[/FONT]
[FONT=&quot]หากพิจารณาให้ดีจะพบว่าสาเหตุมาจากสองส่วนใหญ่ ๆ [/FONT]
[FONT=&quot]ส่วนแรก[/FONT][FONT=&quot] คือ ตัวบุคคลคนผู้นั้นเองที่ขาดปัญญาที่จะวินิจฉัยแยกแยะถูกผิด ด้วยเหตุที่มีนิสัยเป็นศรัทธาจริตนำ ทำให้หลงเชื่อและคล้อยตามผู้อื่นได้ง่าย[/FONT]
[FONT=&quot]ส่วนที่สอง[/FONT][FONT=&quot] คือ อิทธิพลจากสื่อต่าง ๆ ในยุคปัจจุบัน ทั้งภาพยนตร์ โทรทัศน์ หนังสือ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อออนไลน์ต่าง ๆ ที่ผุดอย่างรวดเร็ว มากมายทุกเวลานาที ประกอบกับในช่วงเวลาที่ผ่านมาได้มีเหตุการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นทั้งแผ่นดิน ไหว น้ำท่วม สึนามิ...สิ่งที่ไม่เคยเกิดในรอบหลายสิบปีหรือร้อยปี ก็เกิดบ่อยขึ้น รุนแรงขึ้น...ฤดูหนาวที่ควรหนาว ก็ไม่หนาว พอถึงหน้าร้อน ก็กลับหนาวเย็นธรรมชาติวิปริตแปรปรวนอย่างน่ากลัว[/FONT]
[FONT=&quot]ทำให้อดนึกถึงคำสอนของหลวงพ่อที่ครั้งหนึ่งท่านถามข้าพเจ้าว่า[/FONT]
[FONT=&quot]แกลองตรองดูให้ดี ทุกอย่างที่เราทำวันนี้ ...เพื่อไว้กินวันข้างหน้าใช่มั้ย[/FONT]
[FONT=&quot]ใช่ครับ ข้าพเจ้าตอบท่าน[/FONT]
[FONT=&quot]นั่นซิ ที่ข้าสอนแกภาวนาวันนี้ ก็เพื่อวันข้างหน้านี่แหละ ฝากแกไปคิดดู...[/FONT]
[FONT=&quot]หลวงพ่อกล่าวต่อด้วยรอยยิ้มที่เมตตายิ่ง[/FONT]
[FONT=&quot](บทความโดยคุณเมธาฯ)[/FONT]

[FONT=&quot]เกี่ยว กับเรื่องที่นับวันโลกยิ่งวุ่นวาย โลกยิ่งวิปริตนี้ ผู้คนต่างเอารัดเอาเปรียบ แก่งแย่งแข่งขันกัน ต่อไปคงหาอยู่หากินกันลำบาก หากไม่นับภัยธรรมชาติแล้ว ภัยที่เกิดจากมนุษย์ด้วยกันเองก็มีมากมายทีเดียว ข้าพเจ้าเคยหาโอกาสเรียนถามหลวงพ่อว่า ต่อไปข้างหน้าจะเตรียมตัวอย่างไรดี[/FONT]
[FONT=&quot]หลวงพ่อตอบคำถามข้าพเจ้า ด้วยการถามกลับว่า...[/FONT][FONT=&quot]แกตอบข้าที คนเรากลัวอะไร [/FONT]
[FONT=&quot]ข้าพเจ้าตอบท่านว่า... ส่วนมากกลัวตาย ถ้าไม่กลัวตายก็กลัวทุกข์ กลัวต้องลำบากครับ[/FONT]
[FONT=&quot]หลวงพ่อได้เมตตาสอนข้าพเจ้าต่อว่า...[/FONT][FONT=&quot]คน สมัยนี้ สมัยไหนก็เหมือนกัน เหมือนกันที่เมื่อมีความกลัวแล้วต่างก็หาที่พึ่ง สุดท้ายไม่มีอะไรเป็นที่พึ่งได้จริง ข้าว่าอย่างนี้ แกจะว่าอย่างไร...[/FONT]
[FONT=&quot]ข้าพเจ้านั่งเงียบ เพราะคิดแล้วจริงอย่างที่ท่านพูดทุกอย่างท่านจึงกล่าวต่อว่า...[/FONT][FONT=&quot]จะมีก็แต่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์พุทธัง ธัมมัง สังฆัง นี่แหละเป็นที่พึ่งจริง ๆ ไปตรองดูให้ดีเถอะ![/FONT]
[FONT=&quot](บทความโดยคุณเมธาฯ)[/FONT]


***************************************

[FONT=&quot]นึกถึงคำกล่าวของหลวงปู่นะครับ..."เวลาเหลืออีกไม่มากแล้ว ให้รีบพากันปฏิบัติ"[/FONT]
[FONT=&quot]มอง ได้ทั้งมรณานุสติ และนัยที่แฝงอยู่จากคำพูดนี้ เพราะยิ่งนับวันก็ยิ่งเห็นเหตุการณ์ทางธรรมชาติที่แปรปรวนและมีความรุนแรง มากขึ้น แต่ยังไงก็แล้วแต่ การรีบพากันปฏิบัติตามที่หลวงปู่ท่านเตือนสติก็มีแต่ประโยชน์กับผู้ปฏิบัติ ทั้งนั้น[/FONT][FONT=&quot]ไม่ว่าจะ คิดปรุงแต่งหรือฟุ้งกลัวว่า น้ำจะท่วมโลก โลกจะแตก แต่ผมว่าถ้าจะฟุ้งให้ได้ประโยชน์น่าจะคิดว่า...หากน้ำจะท่วมหรือโลกจะแตก จริงๆ เราได้สะสมกำลังสติของเราเพียงพอยัง เพื่อพร้อมจะตายไปด้วยสติ ?[/FONT]
[FONT=&quot]หากคิดเป็นธรรมก็ควรจะคิดอย่างนี้[/FONT]
[FONT=&quot]บาง คนบอกใคร ๆ ว่าปล่อยวางได้หมด แต่อาการภายนอก คืออาการหนีตายอย่างร้อนรนชนิดพร้อมทิ้งลูกทิ้งสามีทิ้งภรรยา ที่สำคัญคือทิ้งพ่อแม่ที่แก่เฒ่า แล้วอย่างนี้ ถึงจะรอดตายจริง ๆ จะมีความสุขได้จริงหรือ [/FONT]
[FONT=&quot]หากเป็นกรรมของ โลก กรรมของประเทศ มันจะมีที่ต้านทานหรือ ดูอย่างประเทศญี่ปุ่นที่เจริญทางด้านเทคโนโลยีสูงสุดสิ ยังเอาตัวไม่รอดเลย แต่น่าอัศจรรย์ที่คนส่วนใหญ่ยังประคองสติอยู่ได้ ไม่เกิดจราจลภายในเหมือนอย่างกรณีที่เกิดกับประเทศอื่นทั้งหลาย แล้วจะมีใครคิดบ้างว่า วินัยของคนเหล่านั้นมาจากพุทธศาสนาที่หยั่งรากลึกลงในจิตใจของชาวญี่ปุ่น ตั้งแต่ที่พุทธศาสนาจากจีนเข้าไปสร้างอารยธรรมที่เจริญให้แก่ญี่ปุ่นเมื่อ กว่าพันปีมาแล้ว ประกอบกับความพร้องเพรียงกันสร้างชาติของพวกเขาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้ง ที่ ๒[/FONT]
[FONT=&quot]หากเป็นคนปล่อยวางจริง และตั้งอยู่ในความไม่ประมาทจริง จะมุ่งเน้นการสั่งสมคุณทาน คุณศีล คุณภาวนา ทั้งสติ สมาธิ และปัญญาที่มากเท่าที่จะมากได้เพื่อเป็นเชื้อต่อไปในภายภาคหน้า มากกว่าจะอยู่อย่างระทึกใจ รวมทั้งอาจเผลอภาวนาให้เป็นจริงดังคำพยากรณ์ของตนหรือของครูอาจารย์ตนจะได้ สะใจว่าฉันเตือนเธอแล้วนะ เธอไม่ฟังฉันเอง ฯลฯ[/FONT]
[FONT=&quot]อัน ที่จริงแล้ว เรื่องของธรรมชาติที่วิปริตนั้น ไม่ต้องพยากรณ์ก็ได้ ใคร ๆ ก็ตระหนักในข้อนี้อยู่แล้ว เพราะปัจจัยสำคัญส่วนหนึ่งที่รู้ ๆ กันอยู่ก็คือ สิ่งที่มนุษย์ได้เข้าไปทำลายสมดุลของธรรมชาติไว้เอง และมนุษย์ก็มีทีท่าว่าจะยังคงทำลายต่อไป ๆ ไม่มีที่จะหยุดยั้ง [/FONT]
[FONT=&quot]สรุป สุดท้าย การ "ตื่น" แบบ "รู้ ตื่น เบิกบาน" นั้นเป็นสิ่งที่พึงประสงค์ แต่ตื่นเรื่องโลกแตกนั้น ไม่ควรเกิดกับชาวพุทธผู้มีสติปัญญาเลย[/FONT]

 

นานาจิตตัง
ถ้าบังเอิญคุณไม่ตายแต่พิการขึ้นมา จะลำบากกว่ากินน้ำคลองนะค่ะ
สำหรับเรา ไหนๆก็ได้เกิดเป็นมนุษย์แล้ว ยังอยากจะมีชีวิตที่สะสมบุญมากกว่านี้ค่ะ
ไม่ใช่หูเบาที่จะเชื่อเขาเล่า เราก็มีปัญญาพิจารณาความน่าจะเป็นด้วยค่ะ
และผู้ที่ออกมาเตือนไม่ใช่พวกนั่งณานอย่างเดียว มีทั้งพระอริยะเจ้า ทั้งดอกเตอร์
ทั้งนาซ่า

แต่ถ้าพร้อมที่จะตาย คิดว่าบุญเราพอไม่ไปอบาย ก็ทำตัวตามปกติ ใช้ชีวิตให้มีความสุข ทุกคนมีสิทธิเลือกกำหนดชีวิตตนเอง นานาจิตตัง

 

ขอบคุณสำหรับสาระและแง่คิดดีๆครับ ผมคิดว่ายังมีคนที่วิตกจริตและทุกข์กับเรื่องโลกแตกและภัยพิบัติ นี้อีกมากอันเนื่องจาก การบริโภคข่าวสารต่างๆมากเกินไป และไม่ได้ไตร่ตรองแยกแยะเหตุผล ให้ดีก่อนกลายเป็นมงคลตื่นข่าวกันไปมาก ในช่วงนี้ ส่วนตัวถ้าถามว่าเชื่อว่าปีหน้าโลกแตกมั๊ย ผมคงบอกว่าไม่เชื่อ แต่ถ้าถามว่าจะเกิดภัยพิบัติไหม ผมก็จะตอบว่าภัยพิบัตินั้นเกิดอยู่ตลอดเวลาทั่วโลกอยู่แล้ว การเตือนภัยพิบัติหรือคำทำนายต่างๆนั้น ได้มีการกล่าวถึงมานานหลายปีแล้ว ผมเองได้สนใจศึกษาและหาข้อมูลต่างๆพอสมควร ตั้งแต่ทราบคำทำนายจากพระอริยสงฆ์และผู้ทรงภูมิทางจิตบางท่านก่อนเกิดเหตุการซึนามิเมื่อปี47 ทำให้เข้ามาหาข้อมูลในเวปนี้อยู่บ่อยๆ และไตร่ตรองข้อมูลต่างๆ ผมคิดว่าที่มีหลายๆท่านออกมาเตือนนั้นเป็นสิ่งที่ดีนะครับ เป็นการให้สติไม่ประมาทในชีวิต ถึงไม่มีใครเตือนธรรมชาติก็เป็นผู้เตือนเราอยู่ดี(ยกตัวอย่างพฤติกรรมของสัตว์ต่างๆ น้ำที่ไหลลงมาจะขุ่นก่อนที่ภูเขาและดินจะถล่ม แผ่นดินไหวใหญ่ก่อนเกิดสึนามิ) ผมเองตอนนี้อยู่ในพื้นที่จังหวัดที่เคยโดนทั้งซึนามิปี47และน้ำท่วมใหญ่ที่ผ่านมา ถ้าให้ไปบอกชาวบ้านไม่ให้กลัวภัยพิบัติ ถ้าเป็น10ปีที่แล้วคงโดนด่าออกมา แต่ปัจจุบันบางคนยังหลอนอยู่เลยครับ ประเด็นสำคัญคือที่ว่าทำไมในช่วงนี้ คนถึงกลัวโลกแตกและภัยพิบัติกันมากก็เพราะ การเตือนของธรรมชาติหนักๆ ที่ให้เห็นกันผ่านสื่อต่างๆมากขึ้นเป็นตัวตอกย้ำความเชื่อนั่นเอง ส่วนที่ว่ากรรมคนเราแตกต่างกัน จะตายพร้อมกันเป็นจำนวนมากๆนั้นคงเป็นไปไม่ได้ ผมคิดว่าไม่แน่เสมอไปนะครับระบบของกรรมนั้นมันซับซ้อนมากๆ ดูอย่างที่ เฮติ หรือที่ญี่ปุ่น หลักแสนหลักหมื่น ไม่รู้หากันครบหรือยังเลย ความกลัวยังมีอยู่ในจิตของมนุษย์ มากน้อยทุกคนแหละครับ ตราบใดที่ยังไม่บรรลุธรรมชั้นสูง ที่มีผู้รู้หลากหลายสาขาในเวปนี้ออกมาเตือนก็เพื่อเตือนให้ตื่นครับหาก รู้ข้อมูลอย่างเท่าทันก็ไม่ต้องตกเป็นทาสความกลัว และมีสติอยู่เสมอ เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ต่างๆได้ไม่มากก็น้อยนะครับ
หลักธรรมในเรื่องพระมหาชนก นี้ผมว่าเหมาะกับยุคนี้ที่สุดแล้ว น่าจะนำมาปรับใช้กันนะครับ คือความมีสติไม่ประมาทในชีวิตและมีความเพียรเป็นที่ตั้ง