ไม่ใช่นะครับที่มักกล่าวว่า “สมถะเหมือนการหลบภัย วิปัสสนาเหมือนการผจญภัย”

การพูดถึงสิ่งแวดล้อมที่เจอ ไม่มีผิดมีถูก เพราะที่กล่าวมา เห็นจนชิน ไม่ได้กล่าวให้ใครเชื่อ แต่บอกมันเป็นแบบนั้น

ตาเราบอด แต่ใจเราไม่ได้บอด

พิจารณาที่ธรรมใคร ไม่ใช่ใครทำ เปิดโลกให้กว้างอีกนิด โปรดพิจารณา

 

อาจานนิฯครับ ถ้าท่านอาจารย์ให้ตอบว่า ท่านสอนสภาวะธรรม
ผมขอใช้คำว่า ท่านสอนสภาวะคลำมากกว่าครับ ท่านเล่นคำไปมา
เดี๋ยวจิต เดี๋ยวใจ เดี๋ยวใช่ เดี่ยวไม่ใช่ เดี่ยวตั้งมั่น เดี่ยวอ่อนไหว

พูดทางไหนก็ถูกทั้งนั้น(ถูกใจทุกคนที่ฟัง)
สงสารแต่คนฟังที่ไม่น้อมนำมานมสิการเนื้อความทั้งหมด
มาพิจารณาว่าขัดกันเองมั้ย

เอาแค่ง่ายๆอะไรๆก็ไม่มี จิตผู้รู้ก็มีไม่ได้
แต่ตอนท้ายพอจะบรรลุต้องมีมรรคจิต ผลจิต

เอ้าไอ้เจ้าจอมกระล่อน
ตอนต่อสู้กับกิเลสแทบเป็นแทบตาย ทำตนไร้สาระหายหน้าไปไหน???
แต่พอจะบรรลุรีบเสนอหน้าเชียวหรือ
แต่ก็อย่าดีใจไปที่สุดท้ายเจ้าจะถูกทำลายทิ้งอยู่ดี

แต่บอกไม่ได้นะว่าใครทำลาย ข้อนี้ถือว่าเป็นความลับสุดยอด
อย่าถามเชียวนะ ไม่ดีหรอก เพราะข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
เพราะมันเป็นความลับ ถ้าข้ารู้มันจะเป็นความลับหรือ

;aa24

 

จบ ก็หมายถึงไม่เล่น ถาม-ตอบ กันต่อไปไง

เพราะอีกฝ่ายเกรงว่าทางตนจะไม่สามารถแสดงเหตุผลให้ผู้อ่านเห็นถูกได้

พอแสดงความกลัวแบบนั้น ผมก็ต้องเข้าใจ .....ไม่งั้นยุ่ง เพราะคำถาม
มันจะขมวดปมไปเรื่อยๆ ยากขึ้นเรื่อยๆ ทนต่อการตั้งมั่นตอบให้ดีได้ยาก
ขึ้น พอตั้งมั่นตอบกันยากขึ้น ก็มักขุดวิธีข่มไว้ก่อน ปรักปราไว้ก่อน

จริงๆก็ไม่ได้ยากอะไร ผมตั้งคำถามมา ก็รู้ว่าคุณจะตอบอะไร พอตอบ
ออกมามันก็ตรงตามนั้น ...ซึ่งพวกคุณก็น่าจะดีใจที่ตอบได้ตรงอยู่ แต่
กลับ งง เสียเอง ที่ตอบแล้วกลับกลายเป็นปริศนายิ่งขึ้น

 

นะ เห็นไหม พอรู้สึกว่าตัวเองจะตอบไม่ได้ หรือ เริ่มเห็นว่ามีอะไรที่ตนไม่รู้

พอพลาดพลั้งแสดงความไม่รู้ ประมาท ศีลมันก็ทะลุ พอศีลทะลุก็มันส์

พอมันส์ก็ร่ายออกมาเป็นปริศนาหยาบโลน

ผมเห็นคุณวิสุโทโธยก กรณีพระท่านหนึ่งฟังธรรมจากปากคนสอนอยู่ก็
บรรลุได้ คนสอนคนนั้นคงสอนลูบคลำสินะ คงไม่มีหลอกนะที่จะเทศน์
เอื้อให้จิตใจมันควรแก่การงานในการเห็นธรรมได้

พวกคุณต้องกลับไปไตร่ตรองให้ดีนะครับ

ว่า ธรรมฤทธิ์ คืออะไร

 

อาจานนิฯครับ คุณเล่นบทตีหน้าเศร้าเล่าเรื่องโกหก
แบบนี้คนโดยพาดพิง ก็แย่สิครับ

เรื่องตอบคำถามแล้ว ถ้าเกิดประโยขน์ ไม่ซ้ำซากจนคนอ่านรำคาญ
ผมยินดีเสมอ เรื่องใช้มุกข่มไว้ก่อน ปรักปรำไว้ก่อนนี้ ใครกันแน่ครับ???

คุณจะเอาหลักฐานมั้ยครับ??? ผมมีเก็บไว้หมดครับ
อย่าลืมนะครับว่า คุณค้างตอบคำถามผม
โดยวิธีเลี่ยงจะตอบและแถออกนอกเรื่องมากมายขนาดไหน???

;aa24

 

ขออนุโมทนากับคุณวิสุทโธครับ
ที่ยกเอาคำสอนของครูบาอาจารย์ที่เป็นพระแท้มาให้อ่าน
ท่านขานนาคเข้ามาในพุทธศาสนา เพื่อเดินตามรอยพุทธบาท
ที่ทรงเน้นย้ำสั่งสอนไว้เรื่องจิตกับอารมณ์เท่านั้น(สัมมาสมาธิ)

แต่น่าเสียดายที่ท่านเหล่านั้น
ไม่เป็นเรื่องการตลาดหรือมีผู้ที่มีความรู้เรื่องการตลาดมาช่วย
ถึงมีจริงท่านก็คงไม่ใช้ เนื่องด้วย ธรรมะของพระองค์มีแต่ให้

แต่เหตุไฉนปัจจุบันใช้การตลาดนำ แถมติดลิขสิทธิ์อีกต่างหาก
ของได้มาฟรีตั้งแต่ครั้งพุทธกาล แต่กับเป็นของต้องห้ามในปัจจุบัน

;aa24

 

เรื่องลิขสิทธิ์ ...นี่ก็เป็นประเด็นจัง มะ ผมจะลองอธิบายให้ จะเรียกว่าแถก็
ตามใจนะ

ลิขสิทธิ์การตีพิมพ์นั้น เป็นเรื่องของฟรั่งมังค่า คนไทยนั้นแม้จะระบุว่ามีลิขสิทธิ์
แต่มีน้อยรายมากที่จะ อ้างสิทธิ์นั้นในชั้นศาล เพื่อให้ศาลสั่งคุ้มครอง

ทุกวันนี้ ฟรั่งมังค่า เริ่มเข้ามาศึกษาพุทธศาสนา และได้ทำการตีพิมพ์ในรูปแบบ
ลับเฉพาะ ถอดรหัสลับ มีกันหลากรูปแบบแล้วแต่จะเอาไปผลิกแผลงใส่สำนวน
แล้วใครจะเอามาใช้ ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ พี่ไทยบางคนก็เริ่มสนุกไปกับเขา เข้า
ทางเขาไปแล้ว ดังนั้น ในอนาคตข้างหน้าสำนวนธรรมที่ร้อยตามภาษา จะถูก
จดลิขสิทธิ เรื่องนี้สำหรับผู้ดูแลเห็นการณ์ไกล จึงได้ทำพระไตรปิฏกฉบับภาษา
ต่างประเทศออกแจกจ่ายแก้กันไป 1เปาะ

แต่ของมันไม่แน่ หากวันไหนก็ตามที่ภาษาไทยหมดไปจากโลก วันนั้นก็จะหมด
คำว่าลิขสิทธิ์แบบไทยๆ ไปเลย

ถึงแม้ภาษาไทยไม่หมดไปจากโลก แต่ด้วยธรรมชาติของภาษาทุกภาษา มีการ
เกิดคำศัพท์ใหม่ๆตลอดเวลา ภาษาไม่เคยตาย นั่นคือธรรมชาติของภาษา และ
ตรงภาษาแบบใหม่ๆนั่นแหละที่เป็น อ้อยที่ทะยอยเดินเข้าปากช้าง ดังนั้นสำนวน
ธรรมใหม่ๆ หากมี เราก็เอามาล้อมกรอบไว้ ....ก็ทำไปเพื่อสงวนไว้ให้ใครหละ หาก
ไม่ใช่เพื่อการณ์ไกลในอนาคตของลูกหลานเหลนโหลน ....หากมองการไกลไม่เป็น
ก็ระงับความวิตกที่ไม่ถ้วนไว้จะดีกว่า

 

พูดถึงเรื่องการตลาดนะ ตอนนี้รู้สึกว่า จะมีบุคคลชื่ออาจารย์สุรศักดิ์ ท่านได้
ประมวลเนื้อหาสาระของหลวงพ่อจาก cd ผมยังไม่เคยเห็น แต่คิดว่าน่าออก
มากแนว ประมวลลักษณะปัญหา และการถามตอบ คงไม่รวบรวบแบบดึงเป็น
ข้อตามปริยัติ เพราะสื่อแบบนั้นมีมากมายอยู่แล้ว

ถ้ารวบรวมออกมาได้ ความมีเนื้อหาสาระคงง่ายขึ้น ต่อคนที่จะไม่สามารถมอง
เห็นเนื้อหาสาระ

อันนี้ก็บอกไว้ ไหนๆก็กล่าวถึงแล้ว ก็ขอทำการตลาดไว้เลย คนที่ฟัง cd แล้ว
ไม่เข้าใจ หาสาระไม่ได้ อาจจะสนใจสื่อที่พึ่งทำออกมาใหม่ สนองแก่คนที่ศึกษา
อะไรแล้วเห็นยาก

แหม...ผมพูดแล้วก็เกิดอยาก สงสัยต้องคอยๆมองหา จะได้ทันสมัย

 

จริงสิพี่ภูติ ผมว่าผมเคยทักไปแล้วนะว่า เรื่องควักๆ ดมๆ อมๆ เก็บไว้ แบบที่พี่ภูติ
ทำอยู่ตลอดหนะ เลิกทำบ้างก็ได้ แต่ถ้าจะไม่เลิกนะ ผมทักไปแล้วมองไม่ออกนะ

ก็เก็บไว้เถอะ ...

ไม่ยักรู้ว่า นอกจากภาวนาแล้วติดคิด ยังติดอักขระแบบดิจิตอลอีกด้วย

 

เริ่มมาจากไม่ยอมรับในกันและกัน เห็นไม่ตรงกัน ดูถูกกันและกัน เดี๋ยวนี้ขุดครูอาจารย์มากล่าวโทษกันเสียแล้ว

สนทนากันเห็นไม่ตรงกัน จะมายัดเยียดความคิดตนให้คนอื่นได้อย่างไร เป็นผู้ดำรงธรรมกันได้ไง กล่าววาจาเสียดแทงกันตลอด ถ้าคุยกันต่อหน้านี่วุ่นวายเลยนะ ดีนะที่คุยกันในเว็ป แต่ก็ไม่แน่ถ้าคุยกันต่อหน้าคงอาจไม่โต้กันไปโต้กันมาขนาดนี้

มีธรรมมีธรรม เมตตา กรุณา อุเบกขา หาไม่เจอ

ใครเค้าจะดูจิต ก็ปล่อยเค้าซิ เค้าทำได้ เค้ามั่นใจ เป็นไปในทางเจริญก็ปล่อยเค้า ถ้าเค้าละได้ที่เหตุเลย มันก็เรื่องของเค้า

ใครเค้าดูนามมันไม่เห็นเหตุ เห็นแต่ส่วนปลาย ส่วนกลาง แล้วจะเอาอุบาย เอากรรมฐานมาข่ม มายอก ให้การหลงมันน้อยลง มันก็เรื่องของเค้า

จริตใคร จริตมัน ทางไม่เห็นจะต่าง มองอย่างไรให้มันต่าง ^-^

 

ได้มุขการตลาดอีกแบบและ ไหล ไหล ...

นานมาแล้ว พระท่านหนึ่ง ที่รู้กันว่า ได้วิชาลูกไก่ฝักจากไข่จากพระอาวุโสอีกท่านหนึ่ง
เมื่อท่านฟักเป็นลูกไก่แล้ว ความชัดเจนในการมองเห็นอนาคตก็มีมากขึ้น แล้วพระท่าน
นั้นก็กล่าวไว้ว่า

ในอนาคต ราวปีพุทธศักราช 2553 เป็นต้นไป จะมีฆารวาสจำนวนมากสำเร็จโสดาบัน
พร้อมเจโตปริญาณ อาจะมีนับ 1000 นับหมื่น หรืออาจจะถึง 78400 ท่าน
(ใส่ไข่นิหน่อย ตัวเลขนี้ผมไปควักเอามาจากกาละมัง)

ก็เรียกว่า กรรมฐานแนวดูจิต หรือวิปัสสนาสติปัฏฐานนั้นจะเจริญรุ่งเรือง ดังนั้น หาก
ท่านยังไม่มีสื่อบันทึกใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับสติปัฏฐาน4 ก็สงสัยต้องขวนขวายมาติดไม้
ติดมือไว้เสียหน่อย เวลาเจอใครที่เราไม่รู้ว่าเขารู้อะไร แต่เขาพูดอะไรที่เกี่ยวกับสติ
ปัฏฐาน4 จะได้ไม่เก้อเขิลลลล

.....แล้วจะหาว่า หนูหล่อไม่เตือน

 

<table class="tborder" width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 5 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </td> <td class="thead" width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ] ​

</td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%">บดินทร์จ้า, ..กลับตัวกลับใจ..
</td></tr></tbody></table>

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 8 คน ( เป็นสมาชิก 7 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ] ​

</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>..กลับตัวกลับใจ.., jinny95, บดินทร์จ้า, ธรรมภูต</TD></TR></TBODY></TABLE>




:boo::boo:

 

เห็นด้วยคน อ๊ะ อยู่กันคนละแยก คนละซอย แต่ก็ต้องมารวมกันที่เส้นใหญ่ อยู่ดี

 

วันนี้ไม่มีงานซ่อม ไม่รู้จะทำอะไรดี เลยแวะมาดูพวกท่านสนทนาธรรม ครับ

 

ก้มหน้าก้มตาเอาแต่เดินดุ่ยๆ ไม่ชำเลืองมองป้ายบอกทาง ไว้บ้าง
ก็มีสิทธิ์ หลงทางไปตามความคิดได้เหมือนกัน เดินบ้างดูทางบ้าง
ตรวจสอบเส้นทางกับผู้รู้ทางไว้บ้าง ก็ยังดี ได้เพิ่มความมั่นใจว่า
เดินได้ถูกทางอยู่ แล้วไปจ๊ะเอ๋ กันอีกที เมื่อไรก็เมื่อนั้นนะ เพราะ
บางคนเขาจะไปโลกพระจันทร์ บางคนเขาจะไปดำน้ำหาสมบัติสุดขอบฟ้า
บางคนเขามักน้อยก็ค้นหาสมบัติที่มีในตัวใช้เท่าที่มี ย่อยรู้เอาเท่าที่รู้ได้
วิบากรรมที่เป็นอยู่ก็ไม่เหมือนกัน จะให้เข้าใจเหมือนกันคงจะยากส์
ใครชอบทางไหน ก็เดินไปทางนั้น ที่สำคัญบอกรายละเอียดที่ทำอยู่ได้
บอกในสิ่งที่ตนเองรู้ ให้คนอื่นรู้ ด้วยความจริงใจ ก็เป็นการแบ่งปันวิทยาทาน
อย่างหนึ่ง ส่วนใครจะไม่เห็นด้วย ก็ขออภัย

 

<TABLE id=post2139345 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2><SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("2139345")</SCRIPT></TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt1 align=right></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD background=images/gradients/bg_p.gif>สมาชิก 1 คน ได้กล่าว "ไม่เห็นด้วย" กับข้อความของ คุณ ธรรมภูต ที่เขียนไว้ทางด้านบน</TD></TR><TR><TD class=alt2 height=29>k.kwan (วันนี้)

คุณผ้หญิงครับ ที่ไม่เห็นด้วยเรื่องอันใดครับ โปรดชี้ด้วยครับ
ถ้าเนื่องจากคำว่า "เอ้าไอ้เจ้าจอมกระล่อน" กรุณาอ่านดีๆนะครับ ผมพูดถึงจิต

มีพุทธพจน์รองรับไว้นะครับว่า สภาพจิตนั้น ผันทนังคือ กลอกกลิ้งเจ้าเลห์
อย่าเข้าใจผิดสิครับ ผมเองมิบังอาจจะกล่าวถึงท่านอาจารย์ในลักษณธนั้น

หรือที่ไม่เห็นด้วยเป็นอื่นจากนี้เชิญชี้แจงครับ

++++++++++++++++++++++++

อาจานนิฯครับ ทุกวันนี้ คุณใช่เอาของเก่ามา
ควักๆ ดมๆ อมๆ เก็บไว้หรือเปล่าครับ???
ที่คุณและทุกคนใช่เอาของที่เกิดขึ้นมาเมื่อ๒พันปีกว่า
มาควักๆ ดมๆ อมๆ เก็บไว้หรือเปล่าครับ???

ถ้าไม่ใช่ก็แสดงว่าคุณเรียนรู้มานั้น
เป็นการคิดขึ้นมาเองทั้งนั้นเลยใช่มั้ยครับ???

;aa24





</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD background=images/gradients/bg_p.gif>สมาชิก 1 คน ได้กล่าว "ไม่เห็นด้วย" กับข้อความของ คุณ ธรรมภูต ที่เขียนไว้ทางด้านบน</TD></TR><TR><TD class=alt2 height=29>k.kwan (วันนี้)</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD background=images/gradients/bg_p.gif>สมาชิก 1 คน ได้กล่าว "ไม่เห็นด้วย" กับข้อความของ คุณ ธรรมภูต ที่เขียนไว้ทางด้านบน</TD></TR><TR><TD class=alt2 height=29>k.kwan (วันนี้)</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD background=images/gradients/bg_p.gif>สมาชิก 1 คน ได้กล่าว "ไม่เห็นด้วย" กับข้อความของ คุณ ธรรมภูต ที่เขียนไว้ทางด้านบน</TD></TR><TR><TD class=alt2 height=29>k.kwan (วันนี้)</TD></TR><TR><TD class=alt1>

</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD background=images/gradients/bg_p.gif>สมาชิก 1 คน ได้กล่าว "ไม่เห็นด้วย" กับข้อความของ คุณ ธรรมภูต ที่เขียนไว้ทางด้านบน</TD></TR><TR><TD class=alt2 height=29>k.kwan (วันนี้)</TD></TR><TR><TD class=alt1>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

คุณ จินนี่ คุณพูดแบบนี้ไม่ถูกหรอก คุณลืมอะไรหรือเปล่าว่า คนที่พูดนี้เขามีประเด็นว่าอะไร
และที่คุณบอกว่าไม่ต่าง แสดงว่าคุณยังไม่เข้าใจธรรมดีพอ
ผมถามว่า เพียร กับ ไม่เพียร ต่างกันไหม
ดูอย่างเดียว กับ พิจารณา ต่างกันไหม

ผมขอถามหน่อยว่า การดูอย่างเดียวเมื่อเกิดทุกข์ไม่ต้องพิจารณา มันคืออะไร ตรงนี้ดูให้ดีๆ อ่านให้กระจ่าง
ถ้าคุณนึกว่า การดูอย่างเดียวคือการแก้ทุกข์ได้ ถ้าผมจะถามว่า นั่นคือ ศรัทธาที่คุณมีต่อการดูอย่างเดียว
มันจะทำให้เกิดอะไร มันจะทำให้คุณ เชื่อในสิ่งนั้น จนทิ้งความทุกข์นั้นได้
เหมือนกับ เบนความสนใจไปไว้ที่การดูอย่างเดียว จิตใจที่เคยทุกข์ก็มีศรัทธาในการดูเฉย ว่าจะช่วยตนได้
เมื่อ มุ่งไปที่การดูเฉย ทุกข์ อารมณ์ที่เคยมีมันก็ดับลงไปด้วยอำนาจแห่งไตรลักษณ์

ทัสนะแบบนี้ เปรียบกับว่า ศาสนาคริสต์ เขาสอนคนว่า เวลาทุกข์ใจก็ให้นึกเสียว่าใช้โทษบาป คนที่เขาทุกข์ใจเขาก็ทนเขาก็รู้ แล้วมันก็ดับลงเพราะเขามีศรัทธาต่อพระเจ้า คือเชื่อมั่นว่า เขามีที่พึ่ง
ดังนั้นปรมัตธรรม สองวิธีนี้ไม่แตกต่างกันเลย

เพียงแต่ อย่างหนึ่ง เชื่อใน การดูจิต
อย่างหนึ่ง เชื่อในพระเจ้า
วิธีการของทั้งคู่คือ ไม่ได้ทำอะไรให้ดีไปกว่า การรู้เฉยๆ

ศ่าสนาพุทธที่แท้จริง คือ ศาสนาแห่ง ศีล สมาธิ ปัญญา ไม่ใช่ ศาสนาแห่งความเชื่อ


<!-- google_ad_section_end -->

 

ทีนี้ คำถามที่ผมถามไป คือ หลักการที่ชัดเจน ก็ไม่มีใครมาพูด
มิหนำซ้ำนะครับ คุณ จินนี่ ผมไม่ชอบ การที่คุณมาบอกว่า จะไปสนใจ คนดูจิตทำไม
คุณ จำอะไรได้ไหมว่า คุณเคยร่วมมือ กับฝ่ายดูจิต มาชำระความกับผม กล่าวหาว่า ผมพูดธรรมไม่ถูกต้อง
คุณบอกว่า การพูดธรรมไม่ถูกต้อง ทำให้คนอ่านเสียหาย

วันนี้ คุณ ออกมาบอกว่า ใครเขาจะทำอย่างไร ก็ปล่อยเขาไป
คุณจินนี่ คุณอย่าทำนิสัยแบบนี้ มันไม่ใช่ ของผุ้มีธรรม ทำอะไรให้มันมีมาตรฐานในตัวเองหน่อย

 

ที่ผ่านมา ที่ผมออกมาพูด เพราะอะไร เพราะว่า
1 เพราะว่า คำสอนนั้นไม่ใช่คำสอนศาสดา ไม่ใช่คำสอนครูบาอาจารย์
ดูแค่สองประเด็นนี้ ใครก็ได้ช่วยยกมาหน่อยว่า มันเหมือนคำสอน ศาสดา และ คำสอนครูบาอาจารย์ตรงไหน

2 เมื่อไม่ใช่คำสอนศาสดา ไม่ใช่คำสอนครูบาอาจารย์ แล้ว คนรุ้ เขาออกมาพูด เขาทำถูกต้องแล้ว ใครจะมาต่อว่า ว่าไม่ควร
โต้แย้งกัน ผมขอให้ทบทวนความคิด

ทีนี้ การดูหมิ่นครูบาอาจารย์ ของอีกฝ่าย ผมก็ต้องตอบว่าใช่ ผมยอมรับว่าผมดุหมิ่น เพราะว่า อีกฝ่ายหนึ่งกระทำสิ่งที่ไม่ทำให้ผมเคารพ ด้วยเหตุที่ว่า อ้างคำสอนครูบาอาจารย์ แล้วนำไปบิดเบือน อ้างว่าเป็นลูกศิษย์ แต่สอนคนละเรื่องกับครู
อ้างว่า เป็นคำสอนของพระศาสดา ผมต้องข่มครับ

เขาสอนกันทั่วบ้านทั่วเมือง ให้คนมีความเพียร แต่นี่มาสอนให้ละความเพียร ถ้าบอกว่าตนเองเห็นเองรุ้เอง โดยไม่อ้างครูบาอาจารย์
ไม่อ้างว่า ครูบาอาจารย์รับรอง ผมก็จะไม่พูดอะไรเลย ดูอย่างแม่ชีบงกช เกาะมหามงคล ก็ไม่มีใครไปยุ่งกับท่าน
ดู อย่าง ศุภวรรณ กรีน ก็ไม่มีใครไปยุ่งกับท่าน เพราะท่านไม่ได้อ้าง ครูบาอาจารย์

นี่ต้องทำความเข้าใจกันด้วยครับ การสนทนาธรรม ถ้ามาจากคนปฎิบัตเหมือนกันแล้ว แม้อาจจะแตกต่างกันในรายละเอียด และ ภุมิรู้ แต่แนวทางต้องไม่ขัดกันเลย