ศิษย์โง่
ความเคลื่อนไหวล่าสุด:
29 ธันวาคม 2008
วันที่สมัครสมาชิก:
5 ตุลาคม 2006
โพสต์:
56
พลัง:
109

โพสต์เรตติ้ง

ได้รับ: ให้:
ถูกใจ 106 26
อนุโมทนา 1 0
รักเลย 1 0
ฮ่าๆ 1 0
ว้าว 0 0
เศร้า 0 0
โกรธ 0 0
ไม่เห็นด้วย 0 0

กำลังติดตาม 3

ผู้ติดตาม 2

แชร์หน้านี้

ศิษย์โง่

เป็นที่รู้จักกันดี

ศิษย์โง่ เห็นครั้งสุดท้าย:
29 ธันวาคม 2008
    1. noobeibei
      noobeibei
      [IMG]

      [IMG]

      มาส่งข้าววันนี้ทำ จับฉ่ายมา น่ากินไหมขอให้มีความสุขนะจ๊ะ อิๆๆหอมมาก อิ่มแร้ว คิดถึงสุด้วย
    2. noobeibei
      noobeibei
      อ่านนะ ศิลย์พี่
      [IMG]

      ศิษย์รักเอ๋ย…

      จริงใจ ลดละชื่อเสียง ผลประโยชน์
      บำเพ็ญเพิ่มพูนเมตตาธรรมให้ปรากฏ
      จริงใจ ลดละอารมณ์นิสัยเคยชิน
      บำเพ็ญเพิ่มพูนให้บรรยากาศธรรมให้ปรากฏ
      จริงใจ ลดละความดื้อดึงความเห็นแก่ตัว
      บำเพ็ญเพิ่มพูนความซื่อสัตย์เที่ยงตรงให้ปรากฏ
      จริงใจ ลดละความใคร่อยาก
      บำเพ็ญเพิ่มพูนจิตกุศลทานให้ปรากฏ
      จริงใจ ลดละการยึดมั่นถือมั่นโกรธเคือง
      บำเพ็ญเพิ่มพูนเมตตากรุณา อภัยให้ปรากฏ

      ในหลักธรรมจริงคือความจริงที่สืบทอดมายั่งยืนไม่เปลี่ยนแปลง เกิดมาหลายภพชาติ มิสู้เกิดมาแล้วเพื่อบำเพ็ญธรรม บรรลุอริยมรรค บำเพ็ญธรรมยุคขาวปฏิบัติภายนอกเที่ยงตรง บำเพ็ญภายในบริสุทธิ์โดยแท้

      ศิษย์รักเอ๋ย...
      อลคัททูปสูตร พุทธะสอนว่า คือแพนำพาใช้ข้ามฝั่ง ให้นำปฏิบัติบำเพ็ญสู่จุดหมายนิพพาน หากชีวิตมีความยึดมั่นถือมั่นก็จะเป็นทุกข์ ชื่อเสียงเงินทอง หากยึดมั่นถือมั่นมากเกินไปก็จะเป็นทุกข์ ดังนั้นหลักธรรมคำกล่าวทั้งหลาย เพื่อสอนชี้นำให้เจ้าทุกคนก้าวล่วงพ้นจากปุถุชนสู่อริยเมธี
    3. noobeibei
      noobeibei
      จะบอกว่าต้มจับฉ่ายมาให้กิน หอมมากตอนนี้ หอมเครื่องเทศ ต้มหม้อหย่ายเรย เอาไปให้เพื่อนกินดวย ได้บุญกันเพียบพรุ่งนี้
    4. noobeibei
      noobeibei
      [IMG]

      งั้นค่อยกินตอนเช้านะ มันจะเข้าเนื้ออร่อยมาก เดียวเอาไปให้กินนะจ๊ะ หอมไปหมดแระตอนนี้อบอวน ด้วยเครื่องเทศ นานาชนิด ฝีมือสุเอง
    5. ศิษย์โง่
      ศิษย์โง่
      เอาอารายมาฝากเจ้จ๊ะ ไม่ยู้เยื่องเยยอ่ะ
    6. noobeibei
      noobeibei
      [IMG]15Q17631[1].jpg
      [IMG]
      [IMG]13A210511[1].jpg
      [IMG]
      [IMG]8A210502[1].jpg
      [IMG]
      [IMG]5A210497[1].jpg
      [IMG]
      [IMG]6A210498[1].jpg
      [IMG]
      [IMG]2A210494[1].jpg
      [IMG]
      [IMG]10A210505[1].jpg
      [IMG]
      [IMG]7A210500[1].jpg
      [IMG]
      [IMG]4A210496[1].jpg
      [IMG]
      [IMG]14A210513[1].jpg
      [IMG]
      [IMG]11A210507[1].jpg
      [IMG]
      [IMG]3A210495[1].jpg
      [IMG]
      [IMG]9A210503[1].jpg
      [IMG]
      [IMG]12A210508[1].jpg
      [IMG]
    7. noobeibei
      noobeibei
      [IMG]

      คติธรรมประจำวันนี้

      "ย้อนมองส่องตน"

      ย้อนอย่างไร มองอย่างไร ส่องอย่างไร ในกายตนใช่ไหม
      ไม่ว่าในโลกของความเป็นจริงทุกคนเจอเรื่องต่างๆๆมากมาย และมีคำว่ากิเลสเยอะมากมายมาเกี่ยวพันในชีวิต การที่เราจะทำให้ตัวเองหลุดพ้นจากโลกีย์ทุกได้นั้น สิ่งที่ทำได้ก็คือ
      "การย้อนมองส่องตน " ย้อนไม่ใช่ว่าย้อนมองส่องแต่คนอื่น นั่นและคือทุกข์ คือ การสร้างกิเลส การสร้างบาปกรรม โดยเราไม่รู้ตัว พึ่งสังวรเสมอ ว่า อย่าพยายามไปส่องไปย้อน ผู้อื่น ถ้าย้อนทั่งส่อง เรื่องในของคนอื่น คิด ซาระตะ สะ ทำให้ตน เหนื่อยและเป็นทุกข์ คนที่ถูกส่อง ถูกย้อน เขาไม่ได้รู้สึกไรกะคุณเรย แต่ คนที่ทุกข์คือใคร ก็คนที่พยายามไปจับผิดคนอื่นนั้นแหละ ย่อมทุกข์และตกในวิบากกรรม ย่อมหนีในโลกีย์ไม่พ้น
      แต่ในทางกลับกัน สิ่งที่ ควรทำดีที่สุด
      "ย้อนมองส่องตน ส่องในกายตน ส่องใจตน พิจารณา ว่าเรา ทำดีแร้วหรอ เรากำหราบจิตเราแร้วหรอ เรามีสติ ในการแก้ปัญหาเราแร้วหรอ เราเรียกจิตเราที่วิ่งโลดแล่นในโลกีย์มาครบแร้วหรอ นี้คือส่งที่เราต้อง ทำ และนี้คือ คติธรรม ที่ว่า ย้อนมองส่องตน ส่องตัวเอง ก่อน กวาดส่องไปติไปเตียนไป วิจารณ์คนอื่น จำไว้ ว่าคนที่ถูกวิจารณ์ ไม่ได้ทุกข์เหมือนคนไปส่องนะ ฝากไว้ให้เพื่อนได้นำไปเป็นข้อคิดในการศึกษาธรรมต่อไป
    8. noobeibei
      noobeibei
      [IMG]

      ศึกษาธรรม นำเปลี่ยนในใจตนหนา

      ศึกษาธรรมวันนี้ นำพาจิต ไม่โลดแล่น ไปในโลก โลกียวิสัย กำหนดใจ ฝ่าฝัน ข้ามพ้นทะเลทุกข์ด้วยกายเนื้อ

      ดีตอนเช้าเจ้าค่ะ ศิลย์พี่ที่รักของน้อง...
      บทนี้น้องแต่งเองนะ เราคือศิลย์พุทธจี้ก๋ง ย่อม กำหนดจิตเรียนรู้ด้วยตนเอง กำหรายจิตด้วยจิตเราเอง พึ่งสังวร ก้าวเดินด้วยความ ไม่ประมาท โลกโลกีย์พระจารย์ย้ำหนักย้ำหนาว่า ศิลย์เอ๋ย อย่าประมาท ก้าวพลาด เจ้าจะเสียเวลา รีบรุดศึกษาบำเพ็ญ ธรรมฉุดช่วยตนเอง ฉุดช่ายบรรพบุรุษ ฉุดช่วยไวไนย และที่สำคัญ พระอาจารย์ย้ำหนักหนา ว่า ก่อนฉุดช่วยใคร ฉุดช่วยกายใจ กายเนื้อ ของตัวเองก่อน ณ วันนี้ ก่าวศึกษาธรรมอย่างจริงใจหรือป่าว ศัทธา มุ่งมั่นเพียงใดหรือป่าว เจ้าทำถึงที่สุด สุดจิตสุดใจ เจ้าหรือยัง เจ้าเหนื่อยเพียงเรียกขานชื่อพระจารย์ พระอาจารย์ ดีใจ และไม่เคยให้เจ้า เดิน ไปเพียงลำพัง พระอารย์รักและห่วงเราพร้อมก้าวเดินร่วมงานธรรมไปพร้อมกะเราเสมอ ขอเพียง เรากำหนดรู้ตน รู้จิตเราสะก่อน เรากำลังทำไร นั้นแหละ เรียกว่า เจ้าได้ก้าวสู้การศึกษาบำเพ็ญ แล้วละศิลย์พี่เจ้าค๊า...
    9. noobeibei
      noobeibei
      [IMG]

      พระโอวาทพระอรหันต์จี้ก๋ง...เตื่อนสติปุถุชนคนเดินดิน...

      ร่วมศึกษาพระโอวาท..ที่คนทุกคนควรนำไปปฏิบัตเพื่อ สิ่งดีๆในตัวคุณเองนะไม่ใช่เพื่อใคร...

      ฟังนะ คน..ไม่ใช่ปราญ หรือ เมธี กระทำความผิด ทำผิดอะไรรู้ตัวปรับเปลี่ยนแก้ไข ในใจตน ย่อมได้รับการอภัย จากคนรอบข้างเสมอ "
      และที่สำคัญนะค่ะ พระอาจารย์ กล่าวว่า การที่เรา มีคนเกียด มีคนว่า มีคนทำให้เรา รู้สึกไม่ดี รู้สึกเสียใจ หรออะไรก็ตามที่ทำให้เรา รู้สึกไม่ดี เราต้องดีใจมากๆๆ และกล่าว ขอบคุณคนคนนั้น เพราะไร รู้ไหมค่ะ การที่เขา กระทำอันใดต่อเรา นั้นคือ เราได้สลายกรรมของเรา เราควรจะสำนึกขอบคุณบุคคลนั้น และให้โมทนาบุญให้เขา เราจะได้ไม่มีปาบติดตัวไป การโกรธ การเคือง การไม่ชอบ นำมามาสู้การสร้างกรรม ทั้งนั้นค่ะ ทางที่ดี ใครด่า ใครว่า ใครทำการใดๆๆที่ทำให้เรารู้สึกแย่ เพียงกล่าวคำว่า ขอบคุณค่ะ...ยิ้มรับด้วยความเต็มใจ ยอมรับ ...อะไรตามมารู้ไหมค่ะ พระอาจารย์จี้ก๋งกล่าว สันติงัยศิลย์ ใจพุทธะ ย่อมเกิดในกายเนื้อเจ้า ความสงบทั้งภายในกาย ภายในจิต..กล่าวคือ ความเป็นพุทธะที่เปร่งประกายในใจเจ้าอย่างเต็มเปี่ยมที่สุด...นั่นแหละถึงเรียกได้ว่า คุณ และ คุณ ได้ศึกษาบำเพ็ญ อย่างจริงใจ และเข้าใจ คำว่า ธรรมะ ไม่ใช่แค่ ปาก แต่ใจคุณยังยึดติดเหมือนคนที่ไม่ได้ก้าวมาสู่การศึกษาธรรมะ...จำไว้นะศิลย์รัก...

      **เอาธรรม มาฝากค่ะ ..อ่านแร้วทำเข้าใจนะค่ะและโปรดน้ำมาวิเคราห์ว่า.. วันนี้ คุณ ก้าว เดิน คิด ปฏิบัติ แบบ นี้หรือป่าว**
    10. noobeibei
      noobeibei
      ศิลย์พี่จ๋า มี
      สุมี คัมภีร์ไร้อักษร 無字經 (อู๋จื้อจิง)
      มานำเสมอ อยากอ่านไหมค่ะ สนใจติดต่อสุนะค่ะ เดียวส่งให้ค่ะไม่อยากโพสเดียวเพื่อนๆรำคาน ฝันดีนะ...จุ๊บๆๆ
    11. noobeibei
      noobeibei
      พระโอวาทพระนาจาเมตตา เมื่อ วันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม 2542

      "ยึดอดีตกลับจมฝันลอยคอ สุขทุกข์ที่พะนอหวานและขม "

      มนุษย์เราขณะมีชีวิต มีอยู่สามกาลที่เราต้องประสบ กาลแรกก็คือ อดีต กาลที่สองก็คือปัจจุบัน กาลที่สามก็คืออนาคต ถ้าเรามีชีวิตแล้วมัวแต่
      คำนึงถึงอดีตมากเกินไปจะเป็นอย่างไร เราจะเล่าให้ฟัง

      ชายคนหนึ่งเป็นคนที่อยากมีความก้าวหน้าให้กับชีวิต เขาก็เลยคิดว่าพรุ่งนี้เขาจะทำอย่างนี้ๆ วางแผนดิบดี พอถึงพรุ่งนี้ก็บอกว่าไม่ใช่สิต้องทำ
      อย่างนี้ ๆ พอถึงพรุ่งนี้อีกก็บอกว่ายังไม่ถึงนี่เดี๋ยวค่อยทำ รอพรุ่งนี้ก่อน อย่างนี้เขาจะก้าวหน้าไหม (ไม่ก้าวหน้า) เพราะอะไร เพราะเขาคิดแต่ไม่ทำ มองแต่
      อนาคตไม่ยอมทำปัจจุบันให้ดี กับคนอีกแบบหนึ่งกลุ้มใจ ไม่สบายใจ ที่แล้วมาทำไม่ดี รู้สึกเสียใจจังเลย พอผ่านไปอีกวัน ก็ยังทำใจไม่ได้ เพราะว่าจมอยู่
      กับอดีตจนเกินไป
      มนุษย์เราจึงขึ้นอยู่กับสามกาลนี้ แต่ถ้าเกิดว่าเรารู้จักวางสามกาลนี้ให้ถูก แล้วทำปัจจุบันให้ดี อนาคตย่อมสมใส อดีตแม้จะเลวร้ายไม่เป็นไร
      ถือเป็นบทเรียนที่มีค่า ใช่หรือเปล่า (ใช่) ฉะนั้นคนเราจะสามารถมีอนาคตที่สดใสได้ต้องถามตอนนี้ ใครไม่เชื่อกรรมเราไม่ว่าอะไร แต่ถ้าเกิดว่าตอนนี้ท่าน
      ไม่ทำดี ต่อไปไม่ได้ดีท่านก็โทษใครไม่ได้ เพราะว่าตอนนี้ท่านไม่รู้จักเริ่มทำ มัวแต่กังวลข้างหน้าแล้วก็ระแวงข้างหลัง ใช่หรือเปล่า (ใช่) ------------------

      เอามาฝากค่ะ ต้องอ่าน พระโอวาทเยอะๆๆ เตื่อนสติเราได้ดีค่ะ เห็น เฮียชอบพระอาจารย์เรยเอามาฝากค่ะคงเป็นสิ่งดีให้กะใครๆๆนะค่ะ คงไม่ทำใครเดือดร้อนนะค่ะ


      [IMG]
    12. noobeibei
    13. noobeibei
    14. noobeibei
      noobeibei
      ฝากศิลย์พี่ค่ะ


      เหล้าเนื้อ เพียงแค่ผ่านร่างกาย แต่จิตพุทธ อยู่ภายใน พระวจน พระอรหันต์จี้กง

      (济公)

      [IMG]






      [IMG]


      [IMG]
      [IMG]
    15. noobeibei
      noobeibei
      ดีค่ะศิลย์พี่ เอาพระโอวาทมาฝากค่ะ

      [IMG]
      พระโอวาทพระอาจารย์จี้กงเมตตา เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2542

      เวลาที่นาข้าวจะเก็บเกี่ยวผลได้มากที่สุด คือเวลาที่รวงข้าวสุกแล้วใช่หรือไม่ (ใช่) ช่วงเวลาที่เกี่ยวข้าวนี้เปรียบชีวิต

      คนก็คือบั้นปลายชีวิต เป็นช่วงที่สำคัญที่สุด ใช่หรือไม่ (ใช่) บั้นปลายชีวิตชี้ชัดให้เห็นถึงชีวิตทุกวันนี้ที่ผ่านไป

      ถ้าหากว่าตอนที่เราชรา ไม่มีใครอยากจะเลี้ยงเราเลย แสดงว่าตลอดมา เราทำให้คนไม่เคารพเราเลยไม่มีใคร

      อยากเลี้ยงลูกหลานไม่อยากเลี้ยงเรา เพราะฉะนั้นคนนั้นสำคัญที่ปั้นปลาย

      ตอนบั้นปลายไม่มีเงินใช้เลย เป็นเพราะตอนที่สมัยหนุ่มสาวหาเงินแล้วไม่รู้จักอดออม

      ในบั้นปลายนั้นมีโรคมาก เพราะว่าอาจจะชอบสูบบุหรี่ ชอบดื่มเหล้า ชอบเล่นการพนัน ไม่รู้จักรักษาสุขภาพ

      ตนเอง ในที่สุดบั้นปลายชีวิตของตนเองเป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นชัดที่สุด เหมือนกับนาข้าวที่รวงนั้นสามารถงอกเงยออกมางดงาม

      งอกออกมาพร้อมกันทั้งนาไหม แล้วเป็นรวงข้าวที่ดีหรือเปล่า เป็นข้าวชนิดดีหรือเปล่า ย่อมชี้ชัดได้ในตอนนั้น ใช่หรือไม่ (ใช่)

      ตอนที่ปักข้าวลงไปก็หน้าตาเหมือนกันหมดแลย เขียว ๆ เต็มไปหมดเลย ชีวิตของศิษย์ก็คือเวลานี้

      ในบั้นปลายนั้น อยากให้เกิดสิ่งใดขึ้นจงทำเสียแต่ตอนนี้ ไม่ใช่รอคอยโชคลาภวาสนา

      คนที่ไปขอพระขอพร คนที่ขอสำเร็จ เพราะว่าชาติก่อนนั้นเคยสั่งสมคุณงามความดีไว้ ก็ดึงเวลาของ

      ลายศเข้ามาเร็วนิดหนึ่งให้ก่อน เป็นบุญกรรมของใครสร้าง ตัวเราสร้างไว้พระท่านช่วยดึงมาให้ไว แต่เราต้องสร้าง

      ใช่หรือไม่ (ใช่) ถ้าหากไม่สร้างแล้ว ถามว่าดึงที่ไหนมา มีไหม ไม่มีใช่ไหม

      ส่วนคนที่ไม่ได้สร้างก็ขอแล้วย่อมไม่สำเร็จ เพราะเราไม่เคยสร้างไว้ ถามโชควาสนา แท้จริงมีไหน (ไม่มี)

      ขึ้นอยู่กับตัวศิษย์ทั้งนั้น ว่าได้ทำสิ่งใดไว้ ทำสิ่งที่ดีก็ย่อมได้รับผลดี ทำสิ่งที่ไม่ดีก็ย่อมได้รับผลเสีย เพราะฉะนั้นชีวิตนี้จงดำเนินไป

      ตามครรลองอันถูกต้อง ไม่ต้องไปเพ้อฝันว่าเรานั้นจะร่ำรวยมหาศาลถ้าเรานั่งอยู่เฉยๆ ไม่ต้องคิดฝันว่าจะมีคนดีกับเรา

      ถ้าเรายังคิดไม่ดีกับคนอื่น ใช่หรือไม่ (ใช่)
    16. noobeibei
    17. noobeibei
      noobeibei
      [IMG]

      ฝากศิลย์พี่ค่ะ
    18. noobeibei
      noobeibei
      [IMG]ดอกไม้มาฝากจ๊ะ
    19. noobeibei
      noobeibei
      [IMG]ศิลย์พี่ หายดีหรือยังค่ะ รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ ห่วงศิลย์พี่ค่ะ
    20. noobeibei
  • Loading...
  • Loading...
Loading...