การ ควบคุมไม่ให้เกิดความคิด ด้วยการมีสติ (สมาธิ)

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย โทรศัพท์, 5 พฤษภาคม 2017.

  1. โทรศัพท์

    โทรศัพท์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +114
    เหมือนสภาวะจิต จะติดอยู่กับสมาธิ แนบแน่นขึ้น คล้ายจะจมแช่ อยู่แบบนั้น ครับ ?
     
  2. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    เก่ง ที่ ยกขึ้นระลึกสภาพธรรมได้ว่า " จมแช่อยู่ "

    ก่อนอื่น เจ้าของกระทู้ กลับไป ทบทวน กระทู้แรกในชีวิต ที่ตั้งขึ้นในบอร์ดนี้

    ตอนนั้น ธรรมะที่สมควรมีเท่านั้น ตอนนี้ เจ้าของกระทู้ มีภูมิธรรมเพิ่ม
    และ ยกขึ้น กำหนดรู้เองได้

    ความคิด ทำให้หายไปไม่ได้ ไม่ใช่แค่ ความคิดไม่ดี เราจะยกเห็น
    แม้นความคิดดีๆ มันก็เกิดตลอด แม้นกระทั่ง คิดที่จะไม่คิด(จมแช่ นั่นแหละ)
    มันก็เกิดขึ้น สลับกันไป หากไป จมความคิดเดียวนิ่งๆ(เหมือนไม่คิด)
    เพราะ ความเคลื่อนไปของจิตไปสู่การหมายรู้(สัญญา)ต่อ ผัสสะอื่นไม่มี
    มัน นิ่งจมอยู่ใน ความคิดเดียว อันนี้คือ ความคิดมันทำงานอยู่ แต่ทำ
    งานแบบเกิดเป็น พระพรหม

    ดังนั้น

    อุบายนำออกเนี่ยะ จะต้องเฝ้นธรรมให้ดีๆ โดยเอา จิตที่จมแช่อยู่
    นั่นแหละ มาทำบ่อยๆ ไม่ต้องกลัวติด จมความคิดนั้น เพราะ เจ้าของกระทู้
    มี "ปัญญาอันยิ่งเอง" ในการยกเห็น ว่า มันเป็นสภาวะธรรมจมแช่ เห็น
    ได้แบบนี้ จะไม่ติด

    เมื่อไม่ติด ก็ให้เสพมากๆ แต่อย่า จงใจ ให้มันเกิด ธรรมพิศมัย น้อมเข้า
    น้อมออก เพราะมันเห็น คุณ(ดีกว่าคิดอกุศล หรือ คิดกุศล) และโทษ(มัน
    ตั้งอยู่ไม่ได้ จมแช่สักพักก็ต้องหลุดออกมา)

    อาศัย การหลุดออกมา เดี๋ยวเข้า เดี๋ยวออก เดี๋ยวอยู่ เป็น สิ่งระลึกของจิต
    เป็นที่อาศัยเจริญ "สติ"


    บริหาร ความคิด ไม่ใช่ ดับความคิด

    เมื่อบริหารชำนิ ชำนาญ จิตจะเริ่มมีกำลัง มีความตั้งมั่น ในการเห็น
    การเข้า การออก การอยู่ สภาวะจมแช่(8 ชนิด) เวียนกันไป ตามแต่
    ความสามารถของจิต ในการพิจารณา คุณ และ โทษ [ เป็นแค่การทำ
    สมถะ ให้จิตมันเกิด สภาพโยคาวจร แต่จะยังไม่พ้น ไม่เกษมจากโยคะ ]

    ภาวนาไปเรื่อยๆ จะค่อยๆ วิจัย จิตที่มันโน้มไป มันปักอยู่ แล้วมันก็
    คลายออก นั้นเกิดจาก เวทนาขันธ์ มันไม่เที่ยง

    เวทนาไม่เที่ยง ทำให้เห็นได้ว่า การตั้งอยู่ของจิต ไม่มีจริง จิตมันจึง
    เกิดดับไปพร้อมๆกับเวทนา

    พอเห็นได้แบบนี้ จิตจะถึง ฐาน เริ่มเห็น ฐีติจิต ฐีติภูตัง เข้ามาสักครั้ง
    เรียกว่า เห็น สัมมาสมาธิ

    จิตเห็นได้แบบนี้ จิตจะมีกำลังในการ พรากจาก รูปขันธ์ และ นามขันธ์(แล้วแต่สามารถ)

    พอจิต พรากจาก รูปขันธ์ นามขันธ์4 จะเกิด ธรรมเอก เอโกธิภาวะ พร้อม
    กับการเกิด ฌาณจิต ชนิดต่างๆ ที่ สะอาดขึ้น เกิดจากปัจจัยการ ไม่เหมือน
    เกิดตอนที่เราฝึก ติดจมแช่ชนิดต่างๆ

    ฝึกไปเรื่อยๆ บางคนเห็นแค่ ครั้งเดียว ต่อเนื่องกัน สองขณะจิต ในการ
    เห็นความดับของจิต ก็จะ ชำแรกกิเลส วางขันธ์ลง ไม่ฉวยขึ้นมาอีก

    บางคนก็เห็นสามขณะจิต

    เห็นสองขณะจิต สามขณะจิต จะ เป็นบุคคลสี่คู่ ชนิดใด ยังมี ธรรมนิยาม
    อื่นขึ้นกับ เวรกรรม (ความสมควรแก่ธรรม ก็เรียก) อันพ้นอำนาจการเข้า
    ไปแทรกแซง แม้นพระพุทธองค์ ก็ ควบคุมไม่ได้ ได้แต่ ชี้ทาง ให้อุบาย
    แก่ผู้มีความเพียร
     
  3. โทรศัพท์

    โทรศัพท์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +114
    รบกวน คุณนิวรณ์ ที่ช่วยแนะนำ ผมลองสอบทวนสภาวะ ที่เจอบางอย่าง ขอบคุณครับ
     
  4. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    มันเป็น หรือว่า เราเห็นมันเป็นอะครับ ;)
     
  5. โทรศัพท์

    โทรศัพท์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +114
    มันเป็นเกิดขึ้นมา ตัวเบา ไปเรย. เหมือนจิตเจอสภาวะใหม่ ครั้งแรก ครับ
     
  6. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    อ๋อ ครับ ตามเหตุปัจจัยครับ
     
  7. โทรศัพท์

    โทรศัพท์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +114
    ขอบคุณ คุณ Tboon ครับ
     
  8. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ถ้าจะพัฒนาต่อนะครับ ในระหว่างวัน
    ให้สังเกตุว่าระหว่างวันเราพลาด
    กิเลสตัวไหนครับ ปล่อยให้รู้
    แต่ไม่ต้องปรุงครับ
    แล้วระลึกกิเลสเรื่องนั้นไว้ก่อนและลืมมันไป
    วันหนึ่งเจอกี่เรื่องก็ระลึกไว้และลืมไปอย่างนี้
    พอเรามานั่งสมาธิ เรื่องพวกนั้น
    มันจะผุดขึ้นมาเอง. ตามลำดับที่ละเรื่องครับ
    เราก็จะสามารถพิจารณาได้ โดยไม่เป็น
    วิปัสสนึกและหลุดจากอารมย์
    หลักสังเกตุผล ถ้าเราพิจารณาได้ตอนนั่ง
    พอลืมตาจิตจะยังฟูอยู่(คือเหมือนเกิด
    แต่ไม่มีผลต่อความคิด) ทำได้ในเรื่องใด
    ก็ตามได้ ๓ ถึง ๔ ครั้ง สามารถตัดกิเลส
    เรื่องนั้นได้ถึงขั้นละเอียดได้. เหมือนการ
    พิจารณาในสมาธิระดับสูง ซึ่งแม้ครั้งเดียว
    ได้ถึงละเอียดแต่ว่า มันอาจเข้าถึงยากครับ
    ปล. แค่เพียงแต่เล่าให้ฟัง
     
  9. โทรศัพท์

    โทรศัพท์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +114
    ตอนนี้มี สภาวะรื่นเริง พร้อมเฝ้ามองความคิด ที่กำลังจะเกิดขึ้น พอลองสังเกตุ. เห็นสติที่มีอารมณ์สมาธิเบาขึ้น ทรงตัว ไม่เผลอหลุด แม้แต่ในขณะลืมตา ยืน เดิน นั่ง เริ่มสนุกกับการ ที่พลาดเห็น หลงตามความคิด ..

    ขอบคุณ คุณ nopphakan ที่ช่วยแนะแนวทางในครั้งนี้ ครับ
     
  10. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ปลาได้น้ำใหม่น่ะครับ ออกจากมุมเดิมๆ ได้ ก็เป็นอะไรที่ เป็นไปตามเหตุปัจจัยเช่นกัน ถือว่าได้เรียนรู้ เห็นความเป็นเหตุเป็นปัจจัยแก่กันมากขึ้น ความสำคัญคือ บุคคลหว่านพืชเช่นไร ย่อมได้รับผลเช่นนั้นเอง มันเป็นไปตามเหตุปัจจัย ไม่มีตัวเรา ไม่มีของเรา รู้ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ไปตามความเป็นจริง เท่าทันการมีอุปาทาน นิมิตภาวะอารมณ์เป็นของเกิดดับ
     
  11. โทรศัพท์

    โทรศัพท์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +114
    สาธุ ขอบพระคุณ คุณ Tboon ที่ช่วยแนะแนวทาง ครับ
     
  12. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,287
    มาแนวนี้ฝึกปฏิบัติการมีสัมปชัญญะในอิริยาบทต่างๆ ได้ ความคิดจะเป็นตัววิเคราะห์ข้อมูลทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ถ้าเราเฝ้าคุ้มครองทวารเหล่านี้เราก็จะละ บรรเทา ความดำริในกาม ความดำในความโกรธแค้น ความดำริในการเบียดเบียนได้ อันนี้เป็นความคิดที่ต้องระวัง ความคิดหรือวิตกเหล่านี้เกิดเป็นลำดับ จากเวทนา สัญญา แล้วก็เกิดวิตก เกิดได้จากตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจเหมือนกันhttp://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=23&A=3405&Z=3448
     

แชร์หน้านี้

Loading...