เตรียมตัวให้พร้อม...มันกำลังมา!

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย >_<.ST.>_<, 6 พฤศจิกายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,363
    งงครับ มีรูปก็ย่อมมีขันธ์นะครับท่านจิตยิ้ม
     
  2. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    กรณีรูปขันธ์ นามขันธ์ นะหรือค่ะ ที่ว่าขันธ์สร้างรูป แม้ว่ารูปกายแตกสลาย แต่นามขันธ์ยังอยู่ จึงยังมิพ้นเหตุเกิดดับ แต่ว่ารูปธรรมทางพลังงานนี้ ไร้รูปขันธ์ ไร้นามขันธ์ เป็นคุณสมบัติของพลังงานคลื่นอนุภาคความถี่สั่นสะเทือนที่ละเอียดยิ่งกว่าอนุภาคโฟตอน ที่อยู่ในรูปกล่องพลังงานสามารถคิดรู้ได้ในทุกสรรพสิ่งค่ะ ประมาณนี้นะค่ะ แต่เอารายละเอียดจริง ๆ จะนำมาลงให้ทีหลังอีกค่ะ

    ที่จริงแล้วตนเองอยากจะนำรายละเอียดมาลงอีกครั้งค่ะ เป็นศาสตร์ของจักรวาล ตนเองนำมากล่าวไม่ตรง คำพูดนั้นก็จะกลายเป็นขยะพลังงานไปเปล่า ๆ นะค่ะ

    ทีนี้พอตนเองพยายามจะหาคำตอบให้กับท่าน กลับมีคำถามให้กับตนเอง ดังนี้คือ

    ๑.สนามพลังงานสากล กับสภาวะสุญญตา เป็นละสภาวะกัน หรือ เนื้ออวกาศ กับเนื้อนอกอวกาศ หรือ สนามที่มีการเคลื่อนไหลไม่หยุดนิ่ง กับสนามพลังงานที่ไร้การเคลื่อนไหวเป็นความมีที่เหมือนไม่มี ทั้งสองอย่างนี้แตกต่างกัน สภาวะไม่เหมือนกัน
    ๒.จิตจักรวาล เป็นรูปธรรมทางพลังงาน ที่มีคุณสมบัติพลังงาน หรือกล่องพลังงานห่อหุ้มเอาไว้ หากไม่มีกล่องพลังงานห่อหุ้มเอาไว้จะไร้คุณสมบัติในการคิดนึกไปทันที
    ๓.ภายในกล่องพลังงานส่วนที่เป็นนิวเคลียสที่อยู่ในสุด มีคุณสมบัติเช่นเดียวกันกับสนามพลังงานที่ไร้การเคลื่อนไหว เมื่อนำกรอบออกไป ก็ไปเป็นคุณสมบัติเดิม

    ทีนี้...คำพูดดังกล่าวนี้

    ธาตุทั้งยวงของวิวัฒนาการนั้นคือ อาการที่เรียกว่า "วัฏฏะสสาร" ลักษณะ "วัฏฏะสสาร" นี้มีลักษณะเช่นเดียวกันกับสิ่งที่เรียกว่า "Galaxy" นั้นเอง จิตจักรวาล คือ จิตที่พ้นจากอัตตา จิตแห่งความเป็นตนออกพ้นไปจากกระแสของ"วัฏฏะ" หรือ การแยกออกจากอัตตา เข้าสู่จักรวาล นี้เรียกว่า "จิตจักรวาล" คือ เกิดจาก "วิมุตติแยกจากอัตตาจิตแห่งความเป็นตน" ออกไปจนพ้นกระแสของวัฎฎะ เข้าสู่เนื้อความว่างของอวกาศ" นอกวัฎฎะ สู่ อวกาศ อันแท้จริง ซึ่งเป็นคนละเนื้อกับสภาวะนิพพาน

    ให้ท่านพิจารณาค่ะ เห็นไหมว่าจิตยิ้มเป็นคนอย่างไร? ถ้าไม่รู้ก็บอกไม่รู้ค่ะ ไม่ได้รู้ทุกเรื่องเลยค่ะ แต่เดี๋ยวจะเอาคำเบื้องบนมาลงให้พิจารณาอีกทีค่ะ
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สงครามใหญ่กำลังจะมาแล้ว คราวนี้ไม่รู้ว่าร่างอวตารของพระศรีอาริย์ จะยับยั้งได้อีกครั้งหรือไม่?

    a.jpg
    พุทธศักราช ๒๕๖๑ ในขณะที่เราซวนเซไปสู่ "วันแห่งการลงโทษของพระเจ้า" และสงครามทั้งหมดกำลังออกมา ส่วนใหญ่ของโลกไม่ได้มีเงื่อนงำเกี่ยวกับนรกบนโลกที่กำลังพรวดพราดมา ..

    มีสี่ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และเป็นสี่ขั้นตอนที่จะมีบทบาทสำคัญในวันต่อไป

    1. การล่มสลายของเงินดอลลาร์
    2. การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของเฟด
    3. ปัญหาและอุปสรรคการค้า
    4. สงคราม

    "ประชากรของข้าเอ๋ย จงเข้าไปในห้องของพวกท่านเถิด แล้วปิดประตู
    ซ่อนตัวอยู่สักระยะหนึ่ง จนกว่าพระพิโรธของพระองค์ผ่านพ้นไป อิสยาห์ 26 : 20

    "ดูเถิด พระยาห์เวห์ กำลังเสด็จออกมาจากสถานที่ของพระองค์
    เพื่อลงโทษชาวแผ่นดินโลก เพราะความบาปผิดของเขาทั้งหลาย
    และแผ่นดินโลกจะเผยโลหิต ซึ่งหลั่งอยู่บนมัน
    และจะไม่ปิดบังผู้ถูกฆ่าของมันไว้อีก" อิสยาห์ 26 : 21

    สวัสดีปีจอ.


    ที่มา https://th-th.facebook.com/SIGNSOFTHEENDTIME/
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    'ดอลล่าร์' ของ "มะกัน" อาจกลายเป็น "แบงค์กงเต๊ก" เช่นนั้นหรือ?


    เผยแพร่เมื่อ 18 ก.ย. 2017
     
  5. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,868
    เมื่อมี ทิฐิ ที่คล้ายๆกันอยู่หลายคน ก็สามารถก่อเป็น ลัทธิ ได้
    บุคคลผู้ไหนมีที่พอจะมีสติปัญญามากที่สุด หรือ มีวิชาความรู้มากที่สุด ก็ขึ้นเป็นเจ้าลัทธิได้
    หากไม่ใช่ลัทธิ ก็คือ จริงๆแล้วคุณจะว่า เป็นความคิดของคุณเพียงคนเดียวอย่างนั้นหรือ
    อย่างที่คุณเคยพิมพ์มาว่าไม่ได้ไปเอามาจากใครมาจากใจคุณเอง

    หากว่านี้ไม่ใช่ศาสนาแล้วคุณบวชชีนี้ คุณบวชเพื่ออะไร
    เพื่อใช้คำสอนพระพุทธศาสนา เข้ามาเตือนภัยภิบัติในแง่วิทยาศาสตร์หนะหรือ

    ผมขอเตือนคุณหน่อยละกัน ระวังจะเป็นสัญญาวิปลาส
    เริ่มด้วย ทิฐิ
    ที่เบี่ยงเบนไปจากความจริงนี้หละ เพราะใช้หลักการคาดคะเนในธรรม
    ประมาณในตัวผู้อื่น ก่อนที่จะสามารถรับทราบได้จริงๆ

    ตอนนี้คุณแยก โลกความคิด กับ ความเป็นจริงได้หรือยัง

    แรงสั่นสะเทือนที่คุณกล่าวถึงนั้นก็ เวทนา นี้หละ ลำพังข้อความของผู้อื่น
    คุณยังไปจับอารมณ์เขาผิดๆถูกๆอยู่เลย จำเป็นใหมว่าจะต้องกล่าวไปไกลๆ
    ว่าสิ่งที่คุณได้รับสื่อสารมา จะคลาดเคลื่อน หรือ ไม่คลาดเคลื่อน

     
  6. Unexpected

    Unexpected เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    683
    ค่าพลัง:
    +1,513
    ปวีอ่านลัทธิจิตจักรวาล(มีหลายคนเขียนบทความ) เอาจิงๆ ข้อมูลมันยังตีกันเองเลยค่ะ โดยปกติตามพระศาสดาเราสอนธรรมะเดียวกันต้องไม่ขัดแย้งกัน

    ..ที่แปลกคือทำไมบิดาจิตจักรวาลไม่สื่อจิตมาทางพวกผุ้นำโลกระดับบิ๊กๆ เมกา หรือมาร์คเจ้าของเฟสไรแบบนั้น พวกนี้คุมสื่อยักษ์ใหญ่ไว้ในมือ โพสอะไรทีรุ้กันทั้งโลก ทำไมสื่อมาหาคนไทยโนเนมตลอด จะว่าคนไทยนั่งมาธิ ฝรั่งก้นั่งกันเยอะ ทำได้ดีกว่าคนไทยอีกนะคะ

    btw,หวัดปีใหม่ไทยย้อนหลังนะคะคุนมล เมกาช้ากว่าวันนึงเนอะ เพื่อนปวีที่ไวโอมิ่งก้บอกว่าพายุหิมะเข้า แต่ไวโอมิ่งน่าจะหนาวกว่ารัฐที่คุนมลอยุ่มาก เที่ยวให้สนุก รักษาสุขภาพนะคะ
     
  7. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,363
    ครับก็อาจจะใช่ หรือ อาจจะไม่ใช่ผมก็ไม่รู้ ข้อสุญญาตาเป็นนิพพานนั้นผมไม่รู้แต่คิดว่าอาจเป็นไปได้ แต่ในกรณีของสิ่งที่ครอบรูปธรรมทางพลังงานที่ท่านจิตยิ้มกล่าวว่าไม่มีขันธ์ย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะสิ่งที่ครอบนั่นแหละที่เรียกว่าขันธ์ตามความเข้าใจของผม ท่านจิตยิ้มลองเอามาลงเพิ่มก็ได้นะครับเพราะผมอาจจะเข้าใจไม่ตรงกับท่าน แต่ผมไปลองค้นมาอ่านดูกลับพบว่าความรู้ในเรื่องนี้นั้นน่าจะโดนหลอกมามากกว่านะครับ ด้วยเหตุว่า (ขออนุญาตก๊อบจากเวบของจิตจักรวาล โดยตรงเลยนะครับ)


    หัวข้อ : ทำไมพระพุทธเจ้าไม่เคยกล่าวถึงพระบิดา?
    (link : http://www.jitchakraval.com/home/in...12-02-03-02-53-48&catid=67:news-jit&Itemid=48)

    4.ด้วยเหตุนี้เอง ตลอดระยะเวลาในช่วงพระชนมชีพของพระองค์จนกระทั่งถึงวันตรัสรู้ ทุกกาลทุกสถานที่ซึ่งพระองค์ตรัสเทศนาโปรดสัตว์และมนุษย์ทั้งหลาย พระองค์จึงใช้ข้อสัจธรรมที่ทรงค้นพบและเข้าถึงได้ด้วยพระองค์เองตรัสสอนอยู่เนืองๆ แต่สำหรับองค์เยซูคริสต์กับท่านนบีมหะหมัดนั้น ทั้งสองพระองค์ต่างก็ถือพันธะสัญญาต่อพระบิดาเสด็จลงมาจุติเป็นพระศาสดาในต่างยุคกัน โดยทรงมีหน้าที่สื่อถ่ายทอดพระโอวาทและข้อสัจธรรมทั้งหลายจากองค์จิตจักรวาล (พระบิดาแห่งจิตวิญญาณและพระผู้ทรงกำหนดสร้างทุกสรรพสิ่งหรือพระผู้เป็นเจ้า หรือพระเจ้า แล้วแต่พวกเธอจะกล่าวก็ล้วนหมายถึงพระองค์ทั้งสิ้น) มาสู่มวลมนุษยชาติในยุคนั้นๆ เพราะมนุษย์โลกทั้งหลายพลังอำนาจทางจิตเสื่อม ด้วยอำนาจแห่งกิเลสตัณหาราคะจริตจนมิอาจติดต่อกับพระบิดาได้ด้วยตนเอง


    กับ


    “จิตจักรวาล” เป็นองค์ความรู้ผู้สูงส่งของ อาจารย์ปริญญา ตันสกุล และทรงเป็นผู้ประทานพระมหาภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 60,000 ปีโลกของพระองค์ ให้แก่อาจารย์ปริญญา เพื่อเป็นตัวแทนในพระองค์ แต่เพียงผู้เดียว ในการปฏิบัติหน้าที่สำคัญซึ่งสามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ รวม 3 ประการ คือ

    (link : http://www.jitchakraval.com/home/index.php?option=com_content&view=article&id=223&Itemid=238)

    กับ

    ความหมายของ นิพพาน
    6. แดนนิพพานนอกระบบเอกภพ เป็นดินแดนของผู้ที่อิ่มเอิบอยู่กับความว่าง ผู้ใดจักนิพพานได้จะต้องถอดรหัสคุณสมบัติต่างๆที่เกื้อกูลกับการเป็นคนสองมิติออกหมด ตรงวิหารสีขาวหรือด่านนภาลัยซึ่งเป็นประตูนิพพานเสียก่อนเท่านั้น ดังนั้น รูปธรรมใดผ่านประตูมิติของเอกภพออกไปได้ก็จะไร้ซึ่งความทรงจำทั้งหมดทั้งมวลโดยสิ้นเชิง


    10. เธอแน่ใจหรือว่า...ถ้าให้จิตวิญญาณจำอดีตได้จริงๆ....แล้วจะทำหน้าที่ได้ดีกว่า? ซึ่งจริงๆแล้วตอนเป็นจิตวิญญาณน่ะจำได้ทุกเรื่องแหละ แต่ตอนเกิดเป็นมนุษย์ต่างหากที่ถูกปิดมิติไว้ไม่ให้ล่วงรู้
    - ถ้าเธอมีสามียั่วโมโหอย่างแรง (เป็นไปตามบทละครที่เขียนร่วมกันมาใน "พันธะสัญญากรรม") หากเธอรู้ทันว่ามันเป็นบทละครไม่ใช่เรื่องจริง เธอจะเฉยๆหรือขบขันที่สามีทำยังงั้นใช่มั้ย? หน้าที่ของเธอผู้ถูกยั่วยุก็คือต้องรักเขาให้ได้ ให้อภัยเขาให้เป็น เพื่อมอบพลังงานความรักที่เป็นด้านบวกให้เขากลับไป และ 1% แบ่งให้โลกเพื่อช่วยให้โลกหมุน!!! ซึ่งเธอจะทำได้ก็ต่อเมื่อเธอต้องดับความโกรธด้วยความไม่โกรธ ความไม่โกรธจะเกิดได้ก็ด้วยความรักใช่รึไม่ล่ะ....ถ้าเธอรู้แล้วว่ามันเป็นบทละครที่จิตวิญญาณเธอสองคนขีดเขียนร่วมกันมาการมาเกิดเป็นมนุษย์ของพวกเธอก็เป็นโมฆะ "เสียชาติเกิด" มั้ยล่ะเธอ....

    (link : http://www.jitchakraval.com/home/in...12-05-12-06-01-36&catid=67:news-jit&Itemid=48)


    ข้อสังเกตุ
    1.พระพุทธเจ้าทรงมีญานทราบสรรพสิ่ง แล้วจะไม่ทราบถึงจิตจักรวาลได้อย่างไร ?
    2.แล้วข้อมูลต่างๆมากมายมาจากไหนถ้า อ.ปริญญา รับถ่ายทอดได้เพียงคนเดียวแสดงว่าผู้อื่นเดาสญาณมาทั้งนั้น
    3.หากข้อความของจิตจักรวาลเป็นจริงพระอรหันต์หรือผู้สำเร็จผลจิตระดับสูงๆย่อมทราบถึงจิตจักรวาลได้ด้วยตนเอง
    4.ซึ่งจากศาสนาอื่นๆธรรมต่างๆก็ไม่ขัดกันเช่นกัน อย่างสารภาพบาปของศาสนาคริส ก็คือ แสดงอาบัติ นั่นแล ไม่ใช่ว่าบาปหายไปแต่เพราะโดนบิดเบือน หรือจะหมายความว่า อ.ปริญญาก็โดนบิดเบือนมาเช่นกัน
    5.ยิ่งแปลกใหญ่เลยเพราะจิตจักรวาลต้องการให้สั่นสะเทือนพลังงานบวก แต่แดนสุญญตาต้องการความอิ่มเอิบในความว่าง มันคือคนละอย่างกันอย่างสิ้นเชิง
    6.เกี่ยวกับการระลึกชาติถ้าปล่อยให้ระลึกชาติคงไม่ดีเพราะคงเฉยๆและขบขันในกรณีของภรรยาที่เฉยๆกับสามีและขบขัน แต่หน้าที่ ที่จิตจักรวาลบอกคือให้รักเขากลับให้ได้? ยิ่งแปลกไปใหญ่เพราะอาการขำขันมันก็เป็นการสั่นสะเทือนด้านบวกเช่นกัน หากจะใช้ในพื้นฐานของคำว่าอารมณ์(เวทนา) และที่สำคัญหากมนุษย์รู้ว่าไม่ใช่เรื่องจริงเพราะกายหยาบกับจิตมันอยู่คนละส่วนกัน มันไม่ดีตรงไหนทั้งชีวิตคนมีแต่คนเฮฮาพลังด้านบวกล้นหลาม มันขัดกันอย่างมหันต์
    7.และที่สำคัญไม่มี "มรรค" ให้เดินดังนั้นไม่ว่าจะจริงจะเท็จก็ช่างเพราะเราพิสูจน์ไม่ได้ถ้าไม่มีมรรคก็จบกันตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยเพราะพิสูจน์ไม่ได้ ครั้นจะบอกว่าการสั่นสะเทือนก็ไม่น่าใช่เพราะนั่นคือ เวทนา หรือหากจะลึกลงไปก็อาจจะเป็นการกระพริบของนิโรธ ? ซึ่งทั้งหมดก็ไม่เกี่ยวกับจิตจักรวาลเช่นกัน หรือผมอาจจะเข้าใจนิโรธผิดไปก็ได้ แต่ช่างมันไปก่อน เพราะสิ่งสำคัญคือ รูปธรรมพลังงานที่ไม่มี ขันธ์ ต่อให้มีจริงๆก็ตาม แต่ก็ไม่มีมรรคให้เดินไปถึงระดับนั้นได้อยู่ดี ดังนั้นจึงไม่ควรจะสนใจอยู่ดีครับ หรือถ้ามีผมคงหาไม่เจอเองก็ขออภัยด้วยครับ
    8.และจากการสังเกตุเพิ่มจิตจักรวาลก็ไม่ใช่พระยาห์เวห์เช่นกัน เพราะต้องการครอบธรรมอื่นๆที่มีอยู่แล้วให้หายไปที่สำคัญคือมันขัดกันหลายอย่างมากๆจนไม่สามารถสรุปได้ไม่ว่าจะธรรมจากศาสนาไหนที่คำพูดเปลี่ยนแปลงก็ตาม หรือบางทีเหตุผลพวกนี้ก็คงไม่จำเป็นถ้าท่านเป็นพระเจ้าจริงๆละก็นะ แต่ถ้าท่านเป็นจริงๆเสมือนท่านเป็นผู้ใช้คอมพิวเตอร์ถ้าระบบพัง ก็ล้างและลงใหม่เลยท่าจะสิ้นเรื่องก็ไม่น่าทำเช่นนี้นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 เมษายน 2018
  8. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    จิตยิ้มมีคำตอบให้ทุกคำตอบค่ะ แต่จะรอคำตอบนั้นได้ไหม? เพราะตอนนี้ไม่มีข้อมูลอยู่ในมือค่ะ

    ส่วน อ.ป จะไม่ขอกล่าวถึงท่านค่ะ ว่าท่านจะเผยแพร่โดยวิธีใด นั้นเป็นเหตุผลส่วนตัวของแต่ละคน และสิ่งที่ link มา หรือฟังจากการถ่ายทอด ไม่เคยเข้าไปอ่านหรือฟังเลยค่ะ อ่านเฉพาะข้อมูลที่อยู่ในมือเท่านั้น แต่ถ้าใครมีข้อมูลที่อยู่ในมือของจิตยิ้มแล้ว แล้วเอาข้อมูลนั้นมานั่งถกกันทีละประเด็นที่สงสัยกันต่อหน้า ตามแนวทางพุทธศาสตร์ ก็จะเข้าใจได้ในวิถีทางของแนวพุทธค่ะ แต่ถ้านำมาโยโสมนสิการตามวิถีพุทธด้วยอย่างเปิดใจจะได้ในทุกคำตอบ และเกิดปัญญาที่รอบลึกยิ่งขึ้นหากนำไปปฏิบัติได้ แต่สิ่งที่จะนำมาตอบให้ท่านจะพยายามให้เคลียร์มากที่สุด และทุกประเด็นที่จะทำได้ แต่ต้องรอหน่อยค่ะ
     
  9. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,868
    ในเรื่อง จิตจักยาน หากหมายไปที่ข้อความนี้ ผมก็ต้องขอตอบก่อนว่า ผม กับ ท่านคือคนไทย
    นั้นเป็นคนละคนกัน แต่ด้วยสถานณ์การที่มาตอบข้อความ ที่คุณจิตยิ้มตอบผมอยู่พอดี
    มันก็อาจจะทำให้ดูเหมือน ผมไปมีอีกไอดีเข้ามาตอบก็เป็นได้


    เรื่องแปลนบ้านนี้หากบวชมาแล้ว วิหารธรรมที่ดีที่สุด ก็ใคร่ครวญธรรมพุทธศาสนา
    และก็ปฏิบัติตามแบบปรกตินี้หละครับ ศีลก็ประดิษฐ์ตามแบบที่เคยสืบต่อกันมาอยู่
    หากประดิษฐ์เองก็จะกลายเป็นการ สร้างบัญญัติขึ้นมาใหม่
    หากแต่เป็นการสาธยายธรรม จะประดิษฐ์คำพูดให้เหมาะแก่กาลตามยุคนั้นๆก็ได้อยู่ครับ
    ส่วนเรื่องขโมย ผมมองว่าจะเริ่มๆเป็นขโมยก็ตอนที่กล่าวว่า ไม่ใช่ศาสนา ไม่ใช่ลักธิ นี้หละ
    กล่าวแบบนี้ก็จะกลายเป็นว่า ตนนี้หละที่เป็นผู้คิดค้นขึ้นมา ผมก็เห็นด้วยกับท่านว่าไม่สมควร


    แต่ที่ฟังแล้วดูแปลกๆไปก็ตรงที่ ฟังมาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งที่วิหารธรรม
    ที่จะทำให้เราสามารถไปเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็มีอยู่แล้วในศาสนาพุทธ
    แต่กลับมาบอกว่านี้เป็น ความรู้ใหม่ ในยุคพลังงานใหม่เท่านั้น
    พอมีท่านที่ปฏิบัติได้อย่างท่าน ธรรมชาติ มากล่าวชี้แจงมาแบบคนเป็นๆหละก็กลับไม่เชื่อ
    ใครมาเตือนอะไรๆ ก็ไปกดไม่เห็นด้วยกับเขา

    ท่านมิติที่ 8 มาเตือนเรื่องข้อความหาย ได้หายงมงาย จากที่สังเกตไม่รู้ว่าจะหายจริงรึเปล่า

    ท่าน 00000 มาเตือนเรื่องจิตจักวาลโน้มน้าวให้เข้ามาทางพุทธด้วยวิธิต่างๆ

    คุณปวี มาเตือนเรื่องศีลกับคลุกคลีฆราวาส คุยกันต่อๆมากลายเป็นคนขี้อิจฉา


    ท่านนารายณ์ มาเตือนถึงคนรอบข้าง แต่อาจจะด้วยพิมพ์ไปว่า อย่าให้ผมโกรธนะ
    ก็เลยได้เป็นมีความอำมหิตในการพิมพ์อักษร ให้ไปตั้งสติให้ดีๆ ฮ่าๆๆๆ

    โดยส่วนตัวผมไม่คาดหวังอะไรๆกับคุณจิตยิ้มคนนี้เลยจริงๆ
    หากสื่อสารแบบมีตัวอักษรที่มองเห็นกันได้ด้วยตาเปล่ายังเป็นของหยาบๆอยู่ยังไม่เข้าใจ
    การสื่อสารที่ละเอียดไปกว่านั้นคงไม่พ้นไปจาก ความคลาดเคลื่อน


    หากเป็นฆราวาส ใครจะเป็นอะไร หากความหวังนั้นก็ไม่ได้ไปทำร้ายใคร
    ก็คงไม่มีความจำเป็นต้องไปทำลายความหวังใคร จะทำได้ในชาตินี้หรือไม่ได้ก็ไม่เป็นไร

    ผมพิมพ์ยาวหน่อยได้ยกสถานการณ์คร่าวๆขึ้นมาอีกที เพื่อคนขี้เกียจอ่านมาทีหลัง
    เพราะโดยส่วนตัวผมก็ไม่ได้อ่านหมดและก็ว่าจะไม่อ่านละด้วย
    แต่ก็ยังเข้ามาอ่านอยู่เผื่อมีข้อความตอบกลับ หากดูท่าทางไม่มีอะไรแล้วก็ไม่รู้จะอ่านเอาอะไร
     
  10. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    หลายคนได้สอบถามว่า ทำไมภัยพิบัติจึงเลื่อนหลายครั้ง! ทำไมไม่เกิดสักที! ที่ผ่านมาเกือบสิบปีเกิดภัยพิบัติย่อย ๆเกิดขึ้นบ้างแล้ว เฉพาะแห่ง ๆ ไป เพราะมีเหตุเนื่องจากโลกขาดพลังงานเสียสมดุลไปมาก เมื่อโลกไม่สามารถสร้างพลังงานของตนทดแทนได้ เพราะมีสาเหตุจากจิตใจมนุษย์ ไร้การช่วยเหลือโลก เบื้องบนจึงมีการส่งพลังงานที่เข้ามาช่วยเหลือโลกที่มาในรูปของระบบพายุสุริยะทั้งจากอาทิตย์และดวงจันทร์ ที่เห็นเป็นปรากฎการณ์มายาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากภัยธรรมชาติที่ผิดปกติไปของโลกเพื่อทำให้มนุษย์ทราบเบื้องต้นว่า ขณะนี้!!! โลกกำลังเข้าขั้นวิกฤติแล้ว จากสภาวะอากาศและธรรมชาติวิปริตแปรปรวนจากฝีมือของมนุษย์ทั้งทางด้านกายภาพ คือทำลายทรัพยากรของโลก และ ด้านมิติพลังงาน คือ พลังงานลบจากจิตใจของมนุษย์ พอลลูชั่นต่าง ๆที่อยู่ในชั้นบรรยากาศโลก ล้วนเป็นเหตุให้โลกเกิดการเสียสมดุลทางพลังงานอย่างหนัก มนุษย์จึงมีความอยากลำบากจากปัจจัยสี่ จากภัยจิตใจมนุษย์ด้วยกัน เพราะเมื่อบ้านเสื่อมโทรม ย่อมส่งผลการอยู่อย่างยากลำบากของผู้อาศัยเป็นธรรมดา

    โลกมิได้ล่องลอยไปเฉย ๆ โดยไร้ทิศทางควบคุม โลกจะต้องมีพลังงานเป็นพลังอำนาจของโลกด้วย เพื่อที่จะทำให้โลกเคลื่อนหมุนรอบตนเอง และหมุนรอบดวงอาทิตย์ พลังงานของโลกที่ผลิตที่มีขึ้นนั้นได้บ่งบอกถึงว่าโลกมีพลังอำนาจของตนเอง ที่ทำให้โลกเกิดความสมดุล เพื่อทำให้ประสิทธิภาพที่จะยึดเหนี่ยวรั้งกับดาวฤกษ์ดวงอื่น ๆ ในระบบสุริยะที่ต้องเหนี่ยวรั้งซึ่งกันและกันไว้ และคอยฉุดรั้งซึ่งกันและกันหมุนรอบดวงอาทิตย์ไปพร้อมกัน เป็นหนึ่งเดียวกันภายในระบบสุริยะของตนเอง

    โลก ก็เปรียบเป็นสรรพสิ่งหนึ่งที่เหมือนเป็นเทหวัตถุทั้งหลายในเอกภพและจักรวาลนี้ แต่ถ้าเทหวัตถุชนิดใดอย่างกรณีดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ เป็นเทหวัตถุให้มีสภาพลักษณะที่มีทำหน้าที่ของตนเองแบบคงที่ เพราะไม่มีวัตถุหรือสรรพสิ่งใดที่มีพลังงานและเคลื่อนไหวดำรงอยู่ในนั้น เทหวัตถุชนิดนี้จะมีพลังงานสมดุลคงที่สม่ำเสมอ เพราะไม่มีปัจจัยเป็นตัวผันแปรขึ้นลง แต่ก็เพียงก็คงสภาพเกิดขึ้น ดำรงอยู่ และสลายไป ตามธรรมดาของทุกสรรพสิ่ง แต่ถ้าเทหวัตถุใด เช่น โลกมีวัตถุหรือมีพลังงานขับเคลื่อนไหวได้อยู่ร่วมกันแล้ว ทั้งพลังงานทั้งหมดที่อยู่ร่วมกันต้องสัมพันธ์กัน คือ ต้องอาศัยซึ่งกันและกัน ความแตกต่างระหว่างเทหวัตถุสองชนิดคือตรงนี้ ถ้าเปรียบสมือนโลกเหมือนกับบ้านที่ตนเองสร้างขึ้นมาแล้ว ก็คงจะเหมือนกันต่างก็คงจะสลายไปตามกาลเวลา ใช่ค่ะ...แต่โลกกับบ้านแตกต่างกันบ้านเป็นวัตถุเคลื่อนที่ไม่ได้ แต่โลกเคลื่อนที่หมุนรอบตนเองได้ต้องใช้พลังงานเหมือนไดนาโมที่หมุนไป ลองนึกดูก็ได้ค่ะบ้านก็ย่อมมีพลังงานเป็นของตนเอง มิเช่นนั้นย่อมเสื่อมสลายไปไม่ได้ หากเราไม่ดูแลรักษาให้ดี ๆ บ้านก็คงทรงสภาพไว้ได้ไม่นาน แล้วโลกซึ่งหลายคนคิดว่าเหมือนกับสภาพแบบบ้าน คิดผิดค่ะ! โลกแตกต่างกับบ้าน โลกคล้ายกับมนุษย์ มนุษย์และโลกต่างเคลื่อนไหวได้ มนุษย์มีอาหารที่ดีเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงกาย และมีอาหารของใจคือสมาธิและอารมณ์ที่ดีเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงใจ มนุษย์นั้นจึงสมดุลหรือสมบูรณ์ทั้งกายและใจสามารถดำรงอยู่ได้อย่างปกติสุขและยืนยาว

    แต่แล้วโลกล่ะ! อาหารของโลกก็มีสองอย่างเช่นกันคือ ทางกายภาพ (รูปธรรมของโลก) และทางพลังงานที่ทำให้โลกขับเคลื่อนหมุนไป ทางกายภาพก็คือ ความสมดุล หรือ การถ่วงดุลของสรรพสิ่งที่อยู่ในโลก น้ำหนักมวลของสรรพสิ่ง การเพิ่มการลดมวลของสรรพสิ่งที่ตั้งอยู่ในโลกต้องสมดุลกัน น้ำหนักต้องถ่วงกันไม่เอียงไปข้างใดข้างหนี่ง ส่วนพลังงานของโลกที่ผลิตขึ้นมา ทำไม? มนุษย์จึงต้องช่วยโลกผลิตพลังงานและช่วยเหลือโลกผลิตพลังงาน! บางคนบอกว่าแล้วมนุษย์ไปเกี่ยวข้องอะไรกับโลกล่ะ! โลกก็มีหน้าที่ผลิตออกซิเจนเป็นบรรยากาศไปซิ! นั่นเป็นหน้าที่ของโลกนี่! มนุษย์ก็มีหน้าที่อยู่ก็อยู่ไปจะเกี่ยวกันไปได้อย่างไร!คนละหน้าที่กันเลย! เมื่อมนุษย์ส่วนมากคิดอย่างนี้ตนเองจึงไม่เชื่อเรื่องพลังงานบวกจากจิตใจของมนุษย์สร้างโลก มันไม่เห็นจะเกี่ยวกันตรงไหนเลย! แล้วลองพิจารณาสิ่งนี้ดูค่ะ อ้างถึงธรรมชาติที่เป็นแบบอย่างให้มนุษย์เรียนรู้ กรณีของต้นไม้ ต้นไม้ที่อยู่สองต้นจะไม่ล่วงเกินกัน ถ้าต้นไม้สองกันอยู่ชิดหรือเบียดกัน ก็จะมีต้นใดต้นหนึ่งเบี่ยงเบนออกไปเพื่อให้อยู่ร่วมกันได้ เพื่อให้มนุษย์เข้าใจและเรียนรู้หลักการอยู่ร่วมกันจากธรรมชาติ จะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขคือ การไม่เบียดเบียนกัน แล้วโลกล่ะ! พลังงานจากโลกมาจากไหน! ถ้าไม่มีมนุษย์อยู่โลกก็หมุนรอบตัวเองอยู่แล้ว ใช่ค่ะ! ตอนแรกที่โลกหมุนรอบตัวเองได้เพราะช่วงแรกของการระเบิดบิ๊กแบงนั้น โลกจะมีแรงเหวี่ยงหมุนในครั้งแรกเพราะมีแต่ธรรมชาติที่มีพลังงานบวกที่คงที่ แต่เมื่อเกิดสิ่งที่มีชีวิตเคลื่อนไหวที่มีทั้งพลังงานบวกและพลังงานลบร่วมอยู่ด้วย พลังเดียวกันย่อมส่งเสริมกัน พลังงานต่างกันย่อมบั่นทอนกัน เมื่อพลังงานที่ลบมากกว่าก็ย่อมที่จะทำลายหรือฉุดรั้งให้พลังงานบวกให้ลดลงได้ หรือหักล้างหรือถ่วงดุลกันได้ เปรียบเสมือน !! การอยู่ร่วมกันถ้าสถานที่ใดมีสิ่งดีมากกว่า สถานที่นั้นก็สวยงามราบรื่นและร่มรื่น แต่ถ้าสถานที่ใดมีสิ่งไม่ดีมากกว่าสถานที่นั้นย่อมถูกทำลายลงไม่ส่งเสริมให้สถานที่นั่น และสถานที่นั้นก็ไม่น่าอยู่ เปรียบเช่นเดียวกันถึงแม้โลกจะผลิตพลังงานของตนเองได้ แต่โลกและมนุษย์เป็นพลังงานชนิดเดียวกัน คือ คลื่นความถี่กระแสไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวกเหมือนกัน โลกก็ยังคงทำหน้าที่ปกติคือ ผลิตพลังงานบวกตามหน้าที่เป็นปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือมนุษย์เพราะมนุษย์สามารถผลิตคลื่นความถี่กระแสแม่เหล็กไฟฟ้าได้ทั้งบวกและลบ คือ ความดีความชั่วจากจิตใจมนุษย์ เมื่อโลกและมนุษย์เป็นคลื่นพลังงานกระแสเดียวกัน เมื่อพลังงานเดียวดันย่อมส่งเสริมโลกให้น่าอยู่ แต่ถ้าพลังงานต่างกันพลังงานใดมากกว่าพลังงานนั้น หรือสิ่งนั้นย่อมมีอำนาจมากกว่า ดังนั้นพลังงานมนุษย์ด้านลบจึงเป็นตัวทำลายโลก ฉุดกระแสพลังงานโลกให้ต่ำลงพอนึกภาพออกไหมค่ะ นอกจากไม่ช่วยโลกแล้วยังทำลายอีก

    ทีนี้ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นนั้น ไม่มีพลังมืดใดมีอำนาจชนะพลังแสงสว่างได้ ไม่มีมารตนใดที่มีอำนาจมือทำลายอำนาจแสงสว่างได้ มีแต่พลังแสงสว่างส่องลงมาพลังมืดก็หายไป หากโลกนี้มีแต่พลังงานบวก พลังแสงสว่างที่ใดจะมาทำลายได้เพราะพลังแสงสว่างเป็นพลังยิ่งใหญ่เป็นพลังธรรมชาติเดิมอยู่แล้ว เพราะธรรมชาติด้วยกันย่อมเกื้อกูลกัน ที่หลายคนบอกว่าการที่สิ่งศักดิ์มาล้างระบบไม่ถูกต้อง ก็คือด้วยสาเหตุพลังลบฝ่ายมืดมีอำนาจมากกว่าที่กำลังจะปกคลุมจึงเกิดการเดือดร้อนระส่ำระสายไปทั่ว เมื่อนั้นสิ่งนั้นก็จะดำรงอยู่ต่อไปอีกไม่ได้ ก็ต้องมีการสลายความมืดที่ปกคลุมให้สลายหายไป หรือให้มีสภาพแสงสว่างดังเดิม อย่างนี้นะค่ะ

    แล้วใครล่ะ เป็นผู้กำหนดเอง มนุษย์เป็นผู้เลือกเอง ตัดสินกระทำเอง ไม่มีใครมีอำนาจตัดสินใจแทนมนุษย์ มนุษย์มีสิทธิ์เลือก มนุษย์กำลังตัดสินใจความเป็นไปของโลกด้วยฝีมือมนุษย์เอง เมื่อพลังงานบวกของโลกลดลงธรรมชาติย่อมเกื้อกูลกัน โลกสูญเสียพลังงานไปเท่าใด ย่อมสร้างพลังงานทดแทนเพื่อให้ตนเองอยู่รอด การทดแทนการรับและสร้างพลังงานเมื่อมีความผิดปกติทดแทนในสิ่งที่ขาดอย่างรุนแรง ก็ต้องสร้างทดแทนอย่างรวดเร็วและต้องรุนแรงเช่นเดียวกัน

    เมื่อมนุษย์ตัดสินใจเลือกแล้ว ณ ขณะนี้พลังงานของโลกย่ำแย่จากพลังงานลบจากมนุษย์ และการไม่สมดุลของวัตถุที่โยกย้ายเปลี่ยนตำแหน่งจนโลกเสียศูนย์ หากโลกจะสร้างพลังงานมาทดแทนต้องใช้ระยะเวลาเท่าไหร่จึงจะคืนสภาพปกติ เมื่อโลกสร้างโลกพลังงานก็ได้ตามหน้าที่ไปตามปกติตามหน้าที่ของโลก แต่มนุษย์ก็สร้างพลังงานลบมาถ่วงดุล แทนที่จะร่วมมือกันสร้างพลังงานหนึ่งเดียวกับโลก และขณะนี้ยิ่งมีการทำลายพลังงานโลกอย่างหนักหน่วงก็คือ จิตใจที่ห้ำหั่นกันด้วยการฆ่าล้างทำลาย๑ และพิษร้ายจากอาวุธเคมีต่าง ๆ ที่กำลังจะนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่สาม๑ จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ดังนั้นสิ่งที่มอบให้กับโลก กับสิ่งที่โลกสร้างขึ้นมันจึงไม่สมดุลกันด้วยประการฉะนี้

    เมื่อใดก็ตามที่โลกกำลังเสียสมดุลอย่างหนัก เมื่อนั้นแหละค่ะ ภัยพิบัติธรรมชาติที่ทุกคนถามถึง จึงกำลังมาเยือนด้วยเหตุผลข้างต้นค่ะ แต่ถ้าใครอ่านพิจารณาคำของสิ่งศักดิ์มาตลอดพอจะทราบได้ ว่ามนุษย์ช่วยเหลือโลกและรักษ์โลก และรักษาโลกไว้ได้อย่างไร แต่ตนเองนำมาด้วยความรู้สึกของตนเองเพื่ออยากจะให้มองเห็นภาพที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้องการสื่อ ที่พอจะเปรียบเทียบให้มองเห็นภาพได้ ถ้าใครมองไม่ออกก็คิดว่าอ่านนิยายก็แล้วกันค่ะ

    ภัยพิบัติจึงขึ้นอยู่กับมนุษย์ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับใครหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนเลยค่ะ เพราะมนุษย์สร้างเหตุไว้เอง ทุกอย่างล้วนเกิดจากเหตุ วันนี้ติดตามสถานการณ์โลก มนุษย์กำลังตัดสินใจชะตาโลกอยู่ค่ะ เหตุเกิดในประเทศซีเรีย ไม่รู้ว่าจะบานปลายไปแค่ไหน!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 เมษายน 2018
  11. Unexpected

    Unexpected เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    683
    ค่าพลัง:
    +1,513
    น่าจะมีปมอะไรแหล่ะค่ะ เลยทำให้เปนคนลักษณะแบบนี้ สังเกตุว่าสิ่งที่เขียน เช่นจิตจักรวาล มาจากการอ่าน(ไม่ใช่ปฎิบัติ)แล้วเอาไปหลอนไปเอง เลยสะกดจิตตัวเองว่าต้องส่งต่อเพื่อประโยชน์มวลมนุษย์ชาติ (อารมณ์อ่านนิยายแล้วคลั่งหนักๆ เพราะพระเอกหล่อ) แต่คงลืมมองสภาพตัวเองว่าเปนนักบวชพุทธ ต้องมั่นคงต่อพระธรรมเปนที่สุด หลงทำบาปทำกรรม มีแต่จะสร้างนรกให้ตัวเอง เรื่องพวกนี้ให้ฆราวาสทำไปเหอะ ปกติมีแต่ฆราวาสที่ทำ และก้มีคนทำปกติประจำอยุ่แล้ว

    ถ้าเทพเมตตระตรอน(จิตจักรวาล)ตอบสภาวะธรรมที่บอกเข้าถึงโลกุตระ ตัดภาพมาที่นาง เวลาโพสโต้ตอบ จะตัดแปะแนวๆธรรมะ ที่มีนัยยะแผงถึงการสาบแช่ง เมตตาที่พุ่งหอกดาบมาใส่ตลอด เนี่ยะแหล่ะคนบวชปฎิบัติธรรม ระดับโลกุตระไม่ต้องพูดถึง ยังห่างไกล...
     
  12. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    ปวีร์เธอชอบแสดงบทนี้หรือ! เธอเป็นคนเลือกของเธอเองนะ เปรียบเสมือนตัวประกอบแสดงบทบาทเพื่อให้เราฝึกการอดทน
     
  13. Unexpected

    Unexpected เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    683
    ค่าพลัง:
    +1,513
    ตัวประกอบสวยๆ ด้วยนะ ต้องเขียนให้ครบด้วย เบ้าหน้าปวีไปวัดได้ตั้งกะเช้ายันเย็นเลยนะ สิ บอกให้

    ถามหน่อยดิ บวชไปทำไร
     
  14. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,868
    หากเราสังเกต น้ำทะเลที่เข้ามากระทบฝั่ง น้ำทะเลนี้ มีเจตนา หรือ ไม่มีเจตนา
    โลก และ ดวงดาว และ ดวงอาทิตย์ นี้ มีเจตนา หรือ ไม่มีเจตนา

    หรือว่าธรรมชาติของเขานั้นเป็นอย่างนั้น

    หากรถจอดอยู่เฉยๆ รถนี้มีเจตนาใหม ? หากไม่มีก็ต้องมีเจตนาที่จะเข้าไปอาศัยก่อน
    แล้วก็อาศัยเจตนาที่จะเข้าไปกระทำถึงจะมีการขับเคลื่อน
    หากไปนั่งอยู่ในรถแล้วไปใช้ระบบปั่นจักรยานจะได้ใหม ไปโชว์หมุนเท้าอยู่หน้าพวงมาลัยรถ
    หากรถนั้นไม่ได้ถูกขับเคลื่อนด้วยวิธีนั้น รถมันจะวิ่งให้ใหม ก็คงจะไม่ได้
    หากเราอาศัยว่าเรานี้มี เจตนาดี หรือ เจตนาร้าย แต่ไปใช้ระบบปั่นจักรยาน
    ในการขับรถก็ไม่ได้แปลว่า เจตนาดี หรือ เจตนาร้าย จะช้วยเราไปถึงจุดหมายถูกใหม
    เป็นแต่เพียงแค่ทางเริ่มต้นแค่นั้นเอง ยังไม่ได้ขับเคลื่อนไปไหน

    เจตนาก็เป็น ความอยาก / ความไม่อยาก
    หากรถนี้มีมาอยู่ก่อน เจตนานี้เข้ามาทีหลัง การจะทำให้รถนั้นว่าง ก็ต้องชำระผู้ที่จะเข้าไปอาศัย

    ความบริสุทธิ์จึงไม่ใช่ความบริสุทธิ์เพราะ เจตนาจะให้บริสุทธิ์

    หากเอาน้ำเน่ามาใส่แก้ว ถึงจะใส่เจตนาดีแสนดี น้ำในแก้วนั้นก็เป็นตามสภาพของมัน
    หากเป็นทางโลกก็ต้องอาศัยวิธีการที่จะเข้าไปกระทำในการขัดตัวน้ำแต่ละสภาวะจนสะอาด

    หากไม่ได้มีอำนาจในการสั่งการแบบใหญ่ๆ นั้นทำไม่ได้หรอก
    ต้องมีการทำเรื่องสร้างระบบและวิธีการที่ใช้งานได้จริง
    แล้วนำไปให้ผู้ที่มีทุนใหญ่ๆที่พอจะดำเนินงาน ไม่ใช่ไปให้ชาวบ้านทั่วๆไปให้ได้รับรู้ไว้แค่นั้น
    ชาวบ้านที่ เช้ามาใส่บาตร ทำงานตัวเป็นเกลียว ตกมืดมาหากไม่ไปนอนกะคู่ครอง
    ก็สวดมนต์ก่อนนอน ไม่ก็ภาวนา คุณจะให้ชาวบ้านเหล่านี้ไปทำอะไรเพิ่มเติมอีกหรือ

    จิตที่ยังมีความอยากหากจะขับเคลื่อนโลก ก็จิตโลก
    จิตที่ยังมีความอยากหากจะขับเคลื่อนดวงดาว ก็จิตดวงดาว
    จิตที่ยังมีความอยากหากจะขับเคลื่อนพระอาทิตย์ ก็พระอาทิตย์
    จิตที่ยังมีความอยากหากจะขับเคลื่อนจักรวาล ก็จิตจักรวาล
    เป็นการเจตนาอยู่ในสิ่งที่ไม่มีเจตนา เป็นทางโคจรที่ดำเนินไปตามโลก

    แต่การขับเคลื่อนก็ยังไม่พ้นในเรื่อง กฏแห่งกรรม ไปได้หรอก

    หากจะให้ทุกคนหลุดบ่วงกันหมดก็มีแต่ให้พ้น ตัณหา เท่านั้นหละ
    ซึ่งนักปฏิบัติจริงๆ ก็จะกล่าวไปในทำนองเดียวกัน คือ ลด ละ เลิก กิเลส ตัณหา
    เป็นโคจรที่สวนกระแสโลก

    สมดุลนี้ใช่ว่าจะต้องเท่าเทียมกันหมดก็เสมือนเพศบรรพชิต กับ ฆราวาส
    หากทำตัวเท่าเทียมกันได้หมด บรรชิตก็ไม่มีความแตกต่างอะไรๆกับฆราวาสเลย

    ในทิศทั้ง 6 บรรชิต นั้นเป็น ทิศเบื้องสูง เมื่อทิศเบื้องสูงไม่มีความแตกต่างกับทิศอื่นๆ
    หรือมีการเบี่ยงเบนเริ่มเอียงมาทาง ทิศทั้ง 5 จากหนือเริ่มเอียงมาทางตะวันตก
    เข็มทิศนั้นย่อมเป็นเข็มทิศที่ใช้การไม่ได้ มันก็จะเอียงๆเป็นโคจรที่ไม่สมดุล
    การทำหน้าที่ตามทิศทั้ง 6 ในแบบที่ควรจะเป็น แบบนี้ถึงเรียกได้ว่า สมดุล

    ทำไมศีลพระสงฆ์จึงกล่าวว่า การเทศธรรมให้แก่ผู้ขับขี่ยานพาหนะ จึงเป็นกล่าวธรรม
    แก่บุคคล ผู้ไม่เป็นไข้ อันนี้ก็แล้วแต่จะไตร่ตรองอันเองครับ

    การชับเคลื่อนจริงๆจึงไม่ใช้การพร้อมใจแบบเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
    แต่เป็นการทำหน้าที่ในตาม ทิศทั้ง 6 ที่ตนอยู่นั้นให้ดี

    พื้นที่ไหน สัปปายะ เป็นทิศเบื้องสูง หากเป็นศีลพระสงฆ์ไม่ควรไปพักอาศัย ในเขตสู้รบ
    หรือที่ๆเขาจะเตรียมที่จะทำสงครามกัน นานเกิน 7 วัน เพราะอาจจะทำให้
    จิตแส่ส่าย และหลุดจากความเป็น สัปปายะ ได้

    สมัยพุทธกาลไม่ได้เป็นแบบนี้ วิทยาศาสตร์ก็ใช่ว่าจะมีอะไร แต่ทิศเบื้องสูงนั้นมีมากบุคคล
    สาเหตุที่ไม่สมดุล เพราะคนขาดสติปัญญาทาง วิทยาศาสตร์ รึเปล่า ?
     
  15. Nagamanee

    Nagamanee Manassa

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    526
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,578
    T-T

    สงคราม ... เริ่มแล้ว.. จะปิดสื่อไปถึงไหน ...

    สงสารสรรพสัตว์โลกที่สุดเลย ...
     
  16. ฺBaan Tham

    ฺBaan Tham Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +39
    รออ่านต่อ
     
  17. ทอนเงิน

    ทอนเงิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +708
    เริ่มแล้วหรอครับหนูมลไม่เห็นมีข่าวเลยครับ
     
  18. Nagamanee

    Nagamanee Manassa

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    526
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,578
    ถล่มซีเรีย...

    สมัย คลินตัน ถล่มตาลีบัน เงินคงคลังประเทศอเมริกาหมดไปกับเรื่องทหาร จนเกิดพิษเศรษฐกิจลุกลามมายังตอนนี้
    เพราะยิง ทอมาฮอก หนึ่งลูก ลูกละ ยี่สิบล้านบาท เอ้งง

    ในอเมริกา นี้ เขาไม่ได้เกณฑ์แบบประเทศอื่นๆ เป็นการสมัคร แบบสมัครใจ และ ผู้ชายผู้หญิง อายุ 15 ขึ้นไป สมัครทหารได้อายุยัน 45 ปี ก็สมัครได้แต่ต้องเป็นพลเมืองหรืออาณานิคมสหรัฐเท่านั้น การรับสมัครทหาร เขาเหมือนบริษัทเลย คือ จะไปรับสมัครตาม โรงเรียน
    มอปลาย และชุมชนต่างๆ เรียกว่าเหมือนขายตรงแอมเวย์
    สวัสดิการดี เพราะ รัฐบาลอเมริกา ทุ่มเทเรื่องทหารเพื่อความเป๋นมหาอำนาจของโลก อวดแสนยานุภาพ เป็นที่รู้กัน

    สงครามไม่เคยให้สันติสุขกับใครหรอก ...

    คนส่วนใหญ่คิดว่า เป็นเรื่องล้อเล่น ช่างมัน จริงๆมันใกล้ตัวมากๆ เวลาเขาประกาศสภาวะฉุกเฉินขึ้นมา ประชาชนโดนปิดสื่อ น่าสงสารมากๆ

    นี้ก็เริ่มนโยบาย เคร่งครัดเรื่องเงินภาษีแล้ว
    อ้างเรื่องความปลอดภัยมั่นคง แต่มันคือการดึงเงินประชาชน
    เข้าสู่ระบบอีเลกทรอนิกส์ ให้ทุกอย่างออนไลน์ เพื่อรัฐบาลจะเก็บข้อมูล การใช้จ่ายจริง รายได้จริง เงินสะสม รวมถึงข้อมูลการโยกย้ายเงิน ของส่วนบุคคลที่จะไม่ใช่ส่วนบุคคลอีกต่อไป

    เงินสด ก็ไม่มีมูลค่า เท่าที่ดินทำกิน
    อาหาร น้ำ น้ำมัน ยารักษาโรค นี้คือ ยุคสมัยที่เราต้องไม่ประมาท จะมาคิดฝากเงินเข้าแบงค์เยอะๆ มันไม่ใช่เหมือนก่อน. ต้องพิจารณา เหตุการณ์รอบตัวด้วย ..

    หัดดูข่าวบ้านเมืองบ้าง มัวแต่มีสุขประมาท เวลามีภัยจะได้หลบหลีกได้ทันการ

    หนูมล ไม่มีฌานจะเห็นภัยพิบัติ หรือ ปาฏิหาริย์ใดใดหรอกค่ะ แต่ จะหาวิธี survival ตะหาก

     
  19. Nagamanee

    Nagamanee Manassa

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    526
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,578
    ใช่ค่ะ

    เป็นคน เสพข่าวจากแหล่งตรง คือไม่แปลสำนักข่าวไทย เสพที่ทำเนียบขาว

    ตรงๆ เลยว่า เหตุการณ์ไม่สงบหรอก ในประเทศมหาอำนาจนี้น่ะค่ะ แต่เขาไม่ได้บอกเล่า ประเทศอื่นๆให้เป็นจุดอ่อนหรอก
     
  20. ทอนเงิน

    ทอนเงิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +708
    ขอบคุณที่มาอัพเดทข่าวไห้ครับสาธุ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...