เตรียมตัวให้พร้อม...มันกำลังมา!

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย >_<.ST.>_<, 6 พฤศจิกายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ไร้กรอบ

    ไร้กรอบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +6,628
    ช่วงนี้อากาศร้อนมากเป็นพิเศษเลยเนอะ
     
  2. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,195
    ขอโทษเรื่องอะไรค่ะ ลองย้อนกลับไปอ่านทุกโพสโดยไร้อคติมีแต่คุณปวีร์ดูถูกเหยียดหยาม คำไหนที่ดิฉันด่าคุณปวีร์ค่ะ

    แล้วก้นะ พี่เจ้าของเว็บเขาอัพเดท server ใหม่ให้เหมือนพันทิป ระบบมันจึงจำข้อมูลค้างไว้ได้แม้ถอดล๊อคอินออกไป คนเขามาบอกเสือกไปเถียงเขาว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำ แกกลับไปอ่านบทความแกที่ตอบปวีนะ นั่นละเข้าปากแกทุกคำ โง่บรรลัยโลก

    ตอนปลาบู่เล่นห้องนี้พร้อมสโลแกนเปนพระศรี แกก้มาอวยนางใหญ่ว่าเปนพระศรีมาจุติ เชื่อหัวปักหัวปำ จนปวีต้องใช้ยาแรง เลยพอมีสติ ไม่โดนมันพาไปเยก้บุญหัวแล้วนะแกร

    คำสีแดงถ้าพิมพ์ไม่ผิดจะหมายความว่าอย่างไร?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 เมษายน 2018
  3. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,195
    นี่แหละค่ะ ความอิจฉาความดีของคน ถ้าตนเองไม่ชอบใจก็ไม่ใส่ใจซะจะได้ไม่เป็นกรรมกับตนเอง ทุกการกระทำ ทุกคำพูด นั้นเป็นเครื่องบันทึกเทป เป็นสัญญา ถ้าเขาทำด้วยความชอบใจ ฉันทะพอใจ เขามีความยินดีก็จะเป็นนิสัยของเขา กรรมจะต้องสนองเขา แต่เราให้อภัย แต่อย่าทุกสิ่งล้วนมีการตอบแทน กฎแห่งกรรม ท่านเป็นพุทธยังไม่เข้าใจเลย
     
  4. มิติที่แปด

    มิติที่แปด สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2017
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +26
    เฮ้อ!คุณย้อนไปอ่านดีๆแล้วกัน ของคุณจิตยิ้มเองนั่นแหละ สงสัยโพสท์จนงง เปลี่ยนอารมณ์ไม่ทัน ยิ่งเขียนมายิ่งแสดงให้เห็นว่าก็เหมือนคนทั่วไป ดีมาก็ดีไป แว้นซ์มาก็แวนซ์กลับ
     
  5. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,195
    เราจะไม่ตอบข้อความของคนที่ไม่ปราถนาดีอีกแล้ว เขาอยากจะลงอะไรก็ลงไป ถ้าเขาคิดว่าดี สิ่งใดที่เราทำ ไม่ว่าอย่างไร มันก็เป็นของเรา สิ่งใดที่เราไม่ได้ทำให้ยัดเยียดอย่างไรก็ไม่ใช่ จะเอาเฉพาะส่วนที่เป็นสาระเท่านั้นค่ะ จะไม่โต้ตอบใด ๆ ค่ะ
     
  6. Unexpected

    Unexpected เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    683
    ค่าพลัง:
    +1,513
    วั้ย นี่ปวีอิจฉาแกรเปนรอบ 2 อีกแล้วหรอ 55 ..แกรลองแหกตาดูซิ ว่าลุงเขาเชื่อที่แกรเขียนมั้ย เขาขึ้นโพสต่อจากแกร อะไรที่เขาเขียน เขาก้เขียนออกมาเอง pm ของลุงก้คือคำว่าโพส ลุงใช้คำผิด จิงๆ ถ้าปวีไปขึ้นโพสก่อนลุงจะกล่าวหาว่าปวีเสี้ยมก้พอจะมองได้นะ อิง่าว..จะเขียนไรดูความเปนจิงด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 เมษายน 2018
  7. Unexpected

    Unexpected เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    683
    ค่าพลัง:
    +1,513
    คนแบบแกรนะ เปลี่ยนไม่ได้หรอก ในโลกความจิงมีคนแบบแกรเยอะ เปนประเภท ตัวเองถูกหมด คนอื่นผิดหมด ไม่ฟังใคร น้ำล้นแก้ว คนแบบนี้ไม่ค่อยมีคนคบ ถ้ามีก้จะไม่นาน จะอยุ่คนเดียว พอไม่มีสังคมเลยเอาตัวเองเปนศูนย์กลางจักรวาล และจะมีปัญหาในการสื่อสารมาก ใครมาบอกด้วยเจตนาดี แกจะมองเขาไปอีกทาง แม้ตัวเองผิดจะเถียงสู้จนกลายเปนว่าอีกฝ่ายผิดซะเอง แบบนั้นแหล่ะ
     
  8. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,195
    พลังแห่งมหาสติ

    มนุษย์ในยุคพลังงานเก่าจำนวนไม่น้อย เข้าใจผิดคิดว่า

    พลังอำนาจทางจิต ผลิตสร้างได้จากการปฏิบัติ "เทคนิคสมาธิ" เพียงวิธีเดียวเท่านั้น การปฏิบัติบำเพ็ญ "สมถะกรรมฐาน" เป็นเพียงหนทางเดียวเท่านั้น ที่จะนำพาตนเองเข้าถึงพลังอำนาจทางจิตขั้นสูงสุดที่เรียกว่า "ฌาน" ได้

    พลังอำนาจทางจิตที่เป็นสมถะนั้นไปใช้ประโยชน์ในชีวิตของตนรวม 3 ประการ คือ
    ๑.สร้างความฉลาดทางอารมณ์
    ๒.สร้างความฉลาดทางปัญญา
    ๓.สร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันกับผู้อื่น

    ความฉลาดทางอารมณ์ หมายถึง ความสามารถในการควบคุมอารมณ์รู้สึกนึกคิดของตนเองได้ โดยไม่ตกเป็นทาสอารมณ์รู้สึกนึกคิดที่ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม หรือไม่ดีงามของตนเอง และยังสามารถที่จะแสดงออกทางอารมณ์รู้สึกและการนึกคิดด้านบวก เพื่อเป็นเงื่อนไขด้านบวกต่อผู้อื่นได้เสมอ

    ความฉลาดทางปัญญา หมายถึง ความสามารถที่จะใช้สติปัญญาที่เรียกว่า "ปัญญาญาณ" ซึ่งขับเคลื่อนด้วยพลังจิตที่เป็นสมถะ อันเป็นสติปัญญาของแก่นแท้ แทนการใช้สติปัญญาจากสมองซีกซ้ายที่ขับเคลื่อนด้วยอารมณ์หยาบ ๆ รายวันได้ทุกเมื่อที่ต้องการ

    ความเป็นหนึ่งเดียวกับผู้อื่น หมายถึง การดำรงชีวิตและดำเนินชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคมเดียวกันด้วยพลังอำนาจด้านบวกที่เรียกว่า "ความรัก" เช่น ความมีเมตตากรุณาหรือปราถนาดีต่อกัน ความมีสำนึกแห่งการเป็นผู้ให้ อดทน อดกลั้น และการให้อภัย เป็นต้น

    ประโยชน์ใหญ่สามประการนี้ ล้วนมีผลมาจากพลังอำนาจจิตที่เป็นสมถะ และพลังอำนาจจิตที่เป็นสมถะก็ได้จากการหมั่นฝึกฝนตนเองให้เกิด "มหาสติ" ที่เรียกว่า ธรรมชาติสมาธิทั้งสิ้น
     
  9. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,195
    มนุษย์ต้องรู้ว่า นอกจากการมีมหาสติจะนำไปสู่คุณสมบัติสำคัญ 3 ประการแล้ว ยังมีคุณประโยชน์อื่น ๆ ต่อตนเองและผู้อื่นที่น่ารู้น่าใส่ใจอีกด้วย นั่นคือ

    การก่อกรรมที่ไม่เกิดผลกรรมใหม่ใด ๆ เพื่อที่จะไม่ต้องเกี่ยวกรรมไว้กับผู้อื่นให้เป็นพันธะกรรมที่ต่างจะต้องเรียนรู้ ต้องแก้ไข และต้องชดใช้กันข้ามภพข้ามชาติอีกต่อไป เพราะไม่ใช้กิเลสตัณหาขับเคลื่อนพฤติกรรมขยะของตน และไม่ก่อกรรมด้านลบให้เพื่อเป็นเงื่อนไขแห่งการเกิดกิเลสตัณหาที่จะนำพาไปสู่การกระทำพฤติกรรมขยะของผู้อื่น

    การสอบผ่านบททดสอบใด ๆ ที่เป็นเรื่องราวร้าย ๆ ในชีวิตของตนเองได้อย่างองอาจ ด้วยอำนาจแห่งมหาสติและอำนาจปัญญาญาณแห่งตน

    การสอบผ่านบทเรียนโลกที่หวือหวาท้าทายทั้งหลายในชีวิตประจำวัน ซึ่งผู้อื่นหยิบยื่นเงื่อนไขนั้น ๆ มาให้เราเรียนรู้ได้อย่างสง่างาม ด้วยอำนาจมหาสติแห่งตน
     
  10. Unexpected

    Unexpected เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    683
    ค่าพลัง:
    +1,513
    คำสีแดงพิมพ์ไม่ผิด จะแอ๊บนางเอกไม่มีใครว่า ถ้าเปนนางเอกจิง เหมือนที่แกรเขียนโพสกระจกนั่นแหล่ะ แกรส่องปวีก่อนปวีเลยเอาส่องแกรกลับ แกแรงแค่ไหนปวีอัพเวลสู้ได้หมด แต่สิ่งนึงที่จะไม่ทำคือ โพสธรรมให้ตัวเองดูดีแต่แฝงด้วยหอกดาบไปทิ่มแทงคนอื่นแบบแกร เพราะมันแบดดดเกินจะบรรยาย
     
  11. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,567
    ค่าพลัง:
    +9,957
    +++ "ฌาน" เปรียบเหมือน แบตตารี่ เฉย ๆ ถ้าใช้ไม่เป็น ก็ ไร้ประโยชน์ หากพลังงานเก่าในที่นี้ หมายถึง "ฌานฤษี" ก็พอผ่านได้
    +++ ความฉลาดทางอารมณ์ เป็นเรื่องของ "สติครองฌาน หรือ สัมโพฌงค์" เท่านั้น จึงจะ "รู้จักฌาน" ตามความเป็นจริงได้ และตรงนี้ "ไม่ใช่สมถะ"

    +++ ตรงนี้เป็น "ธรรมานุปัสสนา มหาสติปัฏฐาน" คือ สติเดินผ่านกองธรรมารมณ์ หรือ "สติเดินผ่าน กองฌาน" นั่นเอง
    +++ ปัญญา ที่สามารถ "เดินทางผ่าน" พลังงานทุกชนิด ไม่ว่า "ก่อนประวัติศาสตร์/โบราณ/เก่า/ใหม่/อนาคต" ต่าง ๆ คือ "สภาวะรู้" เท่านั้น นอกนั้น "เละ" ได้ง่าย ๆ
    +++ สภาวะรู้ (สติบริสุทธิ์) เป็นหนึ่งเดียวอยู่แล้ว ไม่ว่าจะ "มี/ไม่มี" ผู้อื่นหรือไม่
    +++ ตรงนี้ "ผ่าน"
    +++ ตรงนี้ "สอบตก"

    +++ ปัญญาญาณ คือ ญาณทัศนะวิสุทธิ์ เป็น "สภาวะรู้ ที่เป็น สติบริสุทธิ์" ไม่มีการขับเคลื่อนของ "ธรรมารมณ์ (ฌาน)" เข้ามาเกี่ยวข้อง

    +++ เป็นเรื่องของ "วิสุทธิขันธ์" ไม่เกี่ยวกับ ธรรมารมณ์ ซึ่งยังมีสภาพเป็น "ฌาน" อยู่
    +++ ตรงนี้ "สอบตก" ค่อนข้างหนักเอาการทีเดียว

    +++ ในยามที่ "ความรัก/เมตตากรุณา/ปราถนาดี VS อดทน/อดกลั้น/ให้อภัย" มาอยู่ด้วยกันเมื่อไร ย่อมเป็นอาการของ "สนามพลังธรรมารมณ์แปรปรวน" เมื่อนั้น

    +++ ในยามที่เกิด "ธรรมารมณ์แปรปรวน" ขึ้นมา ย่อมไม่สามารถใช้คำว่า "เป็นหนึ่งเดียวกัน" ได้เลย
    +++ ตรงนี้ "สอบตก" เพราะ กลับเอาหางมาเป็นหัว ความเป็นจริง เป็นดังนี้

    +++ 1. ทำ "ความรู้สึกทั้งตัว ทั่วถึง อย่างคร่าว ๆ" ให้ได้ก่อน แล้วจะ "ชัดเจน" ได้เองว่า "สติ" เกิดก่อน สมาธิ

    +++ 2. เมื่อ "ได้" ความรู้สึกตัวทั่วถึงแล้ว ให้ "ดำรงค์ (สติ) อยู่ อย่างนั้น" ตรงนี้ สมถะ จึงเกิดขึ้นมา "ภายหลัง"

    +++ 3. ให้ "อยู่กับรู้" ก็จะทราบได้เองว่า "ความรู้สึกทั้งตัว ทั่วถึง" นั้น แปรสภาพเป็น "ฌาน" ได้ด้วยตัวของมันเอง

    +++ 4. วิตก/วิจารณ์ คือ "การเคลื่อน อยู่/ย้าย" จากสภาวะฌานหนึ่ง ๆ สู่สภาวะฌานอื่น ๆ แม้กระทั่ง "อรูป" ก็เช่นเดียวกัน

    +++ 5. สัพฌาน ทั้งหลาย "ถูกรู้" ส่วนสภาวะ "สติรู้" กลับยังอยู่เหมือนเดิม "ไม่เปลี่ยนแปลง"


    +++ เรื่องของ "สมถะ + วิปัสสนาญาณทัศนะ" นั้น ไม่สามารถ "อ่าน/เข้าใจ ฟัง/เข้าใจ ดู/เข้าใจ" ได้เลย

    +++ เรื่องเหล่านี้ จะเข้าใจได้จริง ถ่องแท้ ก็ด้วยการ "ลงมือปฏิบัติ/เข้าใจ" เท่านั้น ไม่สามารถ "ยืมจมูกผู้อื่น/เข้าใจ" ได้เลย


    +++ เรื่องของ "สมถะฌานสมาบัติ" นั้น ยังมีขีดจำกัดอยู่มาก เพราะธรรมารมณ์ เป็นลักษณะเด่น "ครอบงำ" สติ ได้

    +++ ดังนั้น "เทวมาร/ศาสดาเทียมเท็จ/ไอ้เตี้ย" จึงสามารถมา "สื่อสาร channeling" ได้ โดยการ map ธรรมารมณ์ ให้เข้ากัน


    +++ หากผู้ปฏิบัติใช้การฝึกตามแนวทางของ พระมหาสมณะ แห่งโคตมะโคตร พุทธเจ้า และปรารถนา "สมถะฌานสมาบัติ" ก็ควรฝึก "สัมโพชฌงค์" ให้ได้ก่อน

    +++ เมื่อได้แล้ว พวก "เทวมาร/ศาสดาเทียมเท็จ/ไอ้เตี้ย" แม้จะ "สื่อสาร" มาได้ก็ตาม แต่จะไม่สามารถ "ครอบงำ" อะไรได้เลย เหตุเพราะ "สติครองฌาน" นั่นเอง


    +++ เรื่องของ "จิตจักรวาล" นั้น ผมเคยบอกระบุตรง ๆ ไปแล้ว ว่า มาจาก "ไอ้เตี้ย"

    +++ ส่วนคุณ ป นั้น ฝึกสมถะแบบ "ฌานฤษี" ยังไม่ถึงขั้น ออกไปนอกโลกได้ ก็โดนแทรกแซงเสียก่อน

    +++ และ "ไอ้เตี้ย" ก็ไม่ได้ สื่อแบบ Vertical Telepathy เลยด้วยซ้ำ มันเป็นความ "มโนเอาเอง เออเอาเอง" ของคุณ ป ฝ่ายเดียว

    +++ จริง ๆ แล้ว "ไอ้เตี้ย" มันสื่อแบบ Convey Telepathy ด้วยซ้ำ มันส่ง "แพร่กวาดมา" เฉย ๆ และมีคนในโลก รับการสื่อของมันได้หลายคน

    +++ แต่คุณ ป เป็นคนที่มันเห็นว่า "เชื่อง่ายที่สุด" โดยไม่มีความ เฉลียวใจ แม้แต่นิดเดียว ดังนั้นมันจึง "หลอกได้สนิทใจ" ทั้งแท่ง

    +++ "ไอ้เตี้ย" จะไม่มีการ สื่อ ใด ๆ มาอีก หากคุณ ป ยังอ้างว่า ยังได้รับการสื่ออีก ก็ให้ทำ remark ไว้เลยว่า "มโนเอาเอง" ทั้งนั้น


    +++ เรื่องของ "การฝึกสัมโพชฌงค์" นั้น สามารถทำได้ ด้วยการ "ทำความรู้สึกตัวทั่วถึง อย่างคร่าว ๆ" ซึ่งไม่ยากเกินไป ทุกคนทำได้เหมือนกัน

    +++ เรื่องของ "ภัยพิบัติ" ต่าง ๆ ก็เหมือนกัน สามารถรู้ได้ด้วย "สติ ที่เปิด กว้าง"

    +++ เรื่องของ "สงคราม" เมื่อยิงขีปนาวุธ 103 ลูก โดนสกัดทำลาย 71 ลูก กลางอากาศ ถือว่า ธุรกิจ "เจ๊ง" ไป 70%

    +++ ใครมัน "อยากลงทุน" อีก ก็ให้มันรู้ไป นะครับ
     
  12. ไร้กรอบ

    ไร้กรอบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +6,628
    ไอ้เตี้ย มันมาจากไหนนะ??? คุณ ธรรม-ชาติ
     
  13. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,195
    จิตจักรวาลที่สื่อมามาจาก "ไอ้..." นี่หมายถีงอะไรค่ะ มนุษย์ต่างดาวหรือเปล่า? ทำไมการสื่อสภาวะสุญญตาช่างล้ำลึกมากเลยค่ะ

    เห็นด้วยกับสภาวะปฏิบัติของท่าน อันนี้ยอมรับค่ะไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้เลยทุกสภาวะการปฏิบัติที่ท่านกล่าวไว้ และเข้าใจเรื่องการเป็นหนึ่งเดียวแบบสภาวะรู้ หรือสติบริสุทธิ์นั้น คือ ความเป็นหนึ่งในลักษณะปิติสุขละเอียดพร้อมด้วยปัญญารอบรู้ในสภาวะธรรมที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า (ใช่หรือเปล่าค่ะ) สิ่งนี้สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาสำหรับผู้ที่ยังไม่บรรลุธรรม หรือกำลังฝึกตนเองอยู่ได้ตลอดเลยหรือค่ะ แล้ว....

    ความเป็นอุเบกขาของจิต มีความหมายสามนัย คือ

    ๑.ความเป็นอุเบกขาแห่งจิต หมายถึง การที่ตัวเราสามารถเข้าถึงการสั่นสะเทือนสูงสุดทางอารมณ์รู้สึกด้านบวกได้ด้วยตนเอง โดยไม่มีสิ่งเร้าใด ๆ เป็นเงื่อนไขช่วยเหลือ เพราะความมีปีติก็คือความสงบอย่างหนึ่ง

    ๒.ความเป็นอุเบกขาแห่งจิต หมายถึง การที่ตัวเราสามารถเผชิญหน้ากับเงื่อนไขด้านลบใด ๆ ก็ได้ โดยไม่หวั่นไหวไปตามเงื่อนไขด้านลบนั้น เพราะความไม่มีทุกข์ก็คือความสงบอย่างหนึ่ง

    ๓.ความเป็นอุเบกขาแห่งจิต หมายถึง การที่ตัวเราสามารถเผชิญหน้ากับเงื่อนไขด้านบวกใด ๆ ก็ได้ โดยไม่สั่นไหวจิตใจไปตามเงื่อนไขด้านบวกที่ตนกำลังสัมผัสรู้ดูเห็นมันอยู่เพราะ ความรักทั้งปวงที่มีอยู่แล้วในดวงจิตก็คือความสงบอย่างหนึ่ง

    คลื่นความถี่ในระดับอุเบกขา เป็นคลื่นความถี่สูงสุดด้านบวกทางอารมณ์ระดับกลาง เป็นคลื่นความถี่สั่นสะเทือนจนเกือบเป็นเส้นตรงเลยทีเดียว สั่นสะเทือนสูงมากจนดูแทบเหมือนไม่สั่นสะเทือนเลย นักวิทยาศาสตร์เรียกคลื่นนี้ว่า "คลื่นคอสมิค" หรือคลื่นพลังงานจักรวาล มนุษย์เข้าใจผิดคิดว่าคลื่นคอสมิคเป็นคลื่นสั่นสะเทือนสูงสุดในจักรวาล แท้ที่จริงแล้วมันยังมีมิติที่สูงไปกว่านั้นอีก มันคือ คลื่นสั่นสะเทือนของจิต ในระดับสุญญตา นั่นเอง

    ด่านสุดท้ายของจิตก่อนที่จะเข้าถึงสภาสะแห่งสุญญตาได้ ก็คือ ความเป็นอุเบกขาของจิตนี่เอง

    ถ้าในชีวิตประจำวัน จิตของเราครองอุเบกขาได้อย่างเป็นธรรมชาติแล้วแท้จริงตลอดไปแล้ว

    เราจะไม่สร้างเงื่อนไขด้านลบ ด้วยการทำผิดคิดชั่วต่อผู้อื่น

    เราก็จะไม่สร้างกรรมใหม่ ไม่ต้องเกี่ยวกรรมสัมพันธ์ไว้กับผู้อื่น

    เราสามารถใช้สติปัญญาและความรักเพื่อการให้ผ่านบททดสอบจิตสำนึกและบทเรียนกรรมของเราร่วมกับเพื่อนมนุษย์คนอื่นได้อย่างสง่างาม

    ระดับคลื่นความถี่ทางอารมณ์ของมนุษย์

    3×คอสมิค ระดับสุญญตา

    คลื่นบวก:-

    คอสมิค -ระดับอุเบกขา

    ความรัก -ระดับมุทิตา กรุณา เมตตา ปีติเบิกบาน

    คลื่นลบ:-

    กิเลส-ตัณหา -ระดับความลุ่มหลง(งมงาย)
    -ระดับความโลภ
    -ระดับความโกรธ

    เป็นคลื่นความถี่ระดับต่ำ คลื่นอารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับความอยาก ความไม่อยาก ความลังเลสับสนในตนเอง เปรียบดั่งเส้นลวดที่เคยขึงตึงถูกทำให้หย่อนแล้วยังไม่พอ มันยังถูกทำให้เกิดอาการสั่นสะเทือนเป็นคลื่นความถี่ต่ำ ๆ อีกต่างหากด้วย ลวดเส้นนั้นจึงแสดงอาการสั่นไหวขึ้นลงแรง ๆ จนเห็นได้ชัดนั่นเอง

    ทั้งสองสภาวะคือสติบริสุทธิ์ (สภาวะรู้) กับ อุเบกขาของจิต จึงมีความแตกต่างที่ระดับการใช้งาน ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรค่ะ พระพุทธเจ้าตรัสว่าพรหมวิหารสี่ และ เจโตวิมุตติคือทางหลุดพ้นนะค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 เมษายน 2018
  14. Unexpected

    Unexpected เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    683
    ค่าพลัง:
    +1,513
    ศรีธัญญาแบบนี้ป่ะคะ เจอตอน search อ่านจิตจักรวาล แสดงว่าที่เราด่าๆ กันไม่ได้คิดไปเอง ขนาดอ.มันด่าหนักกว่าเราอีก เหนว่าเกี่ยวกับจิตจักรวาลด้วย เลยตัดมาบางส่วนให้ชม 55

    Screenshot_2018-04-17-12-19-28.png Screenshot_2018-04-17-12-19-19.png Screenshot_2018-04-17-12-19-08.png Screenshot_2018-04-17-12-18-58.png Screenshot_2018-04-17-12-18-45.png Screenshot_2018-04-17-12-18-37.png Screenshot_2018-04-17-12-18-13.png Screenshot_2018-04-17-12-18-02.png Screenshot_2018-04-17-12-16-59.png Screenshot_2018-04-17-12-15-23.png Screenshot_2018-04-17-12-19-49.png
     
  15. ฺBaan Tham

    ฺBaan Tham Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +39
    ขอโทษทีที่จะถามว่า จิตจักรวาล คือ พวกมนุษย์ต่างดาว หรือเป่า
     
  16. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,868
    ตัวรู้ นี้ถึงไม่มี ขันติบารมี ก็ไม่มีอะไรไปทำอะไรได้อยู่แล้ว การจะได้รู้ถึง ดีและร้าย
    จึงไม่ต้องมีความอดทนอะไรๆ ก็สามารถอยู่ได้เป็นปรกติด้วยตัวของมันเอง

    ส่วน ขันติบารมี เป็นเรื่อง นิสัยที่บ่มมา เป็นการใช้นิสัย เพื่อขัดเกลา นิสัย
    และ เมตตาบารมี ก็เป็นเรื่องนิสัยเช่นเดียวกัน

    ตัวรู้ก็ส่วนตัวรู้ นิสัยก็ส่วนนิสัย

    การที่จะอาศัยแต่นิสัยว่านิสัยดี ด้วยมีทั้ง ขันติและเมตตา ว่าเป็นตัวรู้ ก็ยังเป็นแต่เพียง
    การแสดง วิชาความรู้ แต่เพียงเท่านั้น คลื่นความถี่และการสั่นสะเทีือน ไม่ได้ช้วยอะไร
    กับการขัดเกลาตัวรู้ แต่หากมองเป็นก็ช้วยขัดเกลานิสัยได้ ว่าอันไหนควรรับหรือไม่ควรรับ

    หากเป็นธรรมแนว คนช่างปรับผิด คิดผิดค่ะ เข้าใจผิดค่ะ ต้องมาใตร่ตรองเหมือนที่เขาจะแสดง
    ถึงจะได้ คิดถูก เข้าใจถูก เห็นถูก แล้วก็ไม่อาศัยการบอกตรงๆ แต่อาศัยเอาเรื่องเล่ามาบลาๆๆ
    แล้วก็ค่อยไปแฝงการ ปรับผิด ฟังแนวนี้ทีไรก็เกิดความระอาแก่ใจทุกที

    สาเหตุที่ คิดผิดไม่ได้ เข้าใจผิดไม่ได้ เห็นผิดไม่ได้ เพราะขาด หิริโอตัปปะ
    ผู้ไม่มีความระอายแก่ใจว่าตัวเราเองนั้นจะผิดได้ เรียกรวมๆย่อๆ ก็คือ คนจิตด้าน


    จิตด้าน นี้เลยคำว่า หน้าด้าน ไปพอประมาณ เพราะใบหน้าคนเรานั้นยังมีความรู้สึก
    แต่คนจิตด้านเสมือนทองไม่รู้ร้อนรู้หนาวเลย นี้ปกปิดความผิดไว้ ล้ำลึก ลึกซึ้ง ไปกว่านั้น
    วิชาความรู้มาก ก็ปกปิดไว้ ลึกซึ้งมาก วิชาความรู้น้อย ก็ปกปิดไว้ ลึกซึ้งน้อย

    มีวิชาความรู้ไว้ปกปิดตัวรู้ ฉะนั้นความไม่รู้นี้แทบจะไม่มี อะไรๆมาก็รู้ไปหมด เข้าใจหมด

    ตัณหา ก็เป็น อวิชชา การที่คนเราจะมองว่า ตัณหา นั้นเป็นของที่ต่ำมากๆได้

    ก็คือ เรานี้รู้สูงไปกว่านั้น หากรู้มาจากการปฏิบัติจริงๆ นี้น่านับถือ น่ายกย่อง
    หากอวิชชา เปรียบเสมือนน้ำ ก็แสดงว่า หากไม่ไกล้พ้นน้ำแล้ว ก็พ้นไปแล้ว

    หากแต่ว่าได้มาจากวิชาความรู้เฉยๆนี้ นำไปรับประกาศนียบัตรได้

     
  17. karokwat

    karokwat นารายณ์ ❤️ ลักษมี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2016
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +317
    ขออนุญาต Update หลังสงกรานต์ เรื่องใหม่บ้างนะครับ

    พระนารายณ์ ปาง 10 "กัลกยาวตาร"

    ในปัจจุบัน พระนารายณ์ ตรีมูรติ ได้อวตารลงมาจุติแล้ว เป็นคนไทย ปัจจุบันอาศัยอยู่ในประเทศไทย
    "อัศวินขี่ม้าขาว" จะมาปรากฎตัว ในอนาคต ปี พ.ศ. 2563 ในอายุวัยหนุ่มเต็มวัย (35ปี)

    พระนารายณ์ อวตารภาคนี้ มีนามว่า "กัลรก...."
    พระลักษมี อวตารภาคนี้ มีนามว่า "พิมพ์วิไล"

    ในปี พ.ศ. 2563 หลังจากเข้าสู่ยุคใหม่แล้ว จะมี พิธีราชาภิเษก(พระเจ้าจักรพรรดิ)
    และ พิธี อภิเษกสมรส (พระนารายณ์-พระลักษมี)
    พร้อมการปรากฎจักรแก้ว (ยานบินเทคโนโลยีสูงสุดของโลก)

    ในยุคของพระเจ้าจักรพรรดินั้น ร่างกายมนุษย์จะวิวัฒนาการเป็นร่างคริสตัล(ร่างแสง)
    จึงมีอายุที่ยืนยาวขึ้น จนอมตะไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีก
    (ร่างคริสตัลมีให้เห็นเป็นตัวอย่างดัง ครูบาอาจารย์ ที่ละสังขารแต่ร่างกายเป็นผนึกคริสตัลทำให้ร่างกายไม่เสื่อมสภาพ)


    ปล.ตัวผมไม่มีญาณ หรือพลังวิเศษอะไรนะครับ เป็นแค่เพียง "เหยี่ยว" ที่มาแชร์ข่าวสารเท่านั้น
    ขอบคุณทุกท่านครับ :)
     
  18. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,567
    ค่าพลัง:
    +9,957
    +++ "ไอ้เตี้ย" เป็นคำศัพท์ที่ ผมและกลุ่มฝึก ใช้เรียกพวก Grey aliens

    +++ คำถามว่า "มันมาจากไหน" คำตอบคือ "มันมาจากการสร้าง สังเคราะห์ระบบชีวภาค" จาก "ไอ้โย่ง" ที่ผมและกลุมฝึก ใช้เรียกพวก Tall Grey

    +++ รายละเอียดตามที่ทาง ฝรั่ง รู้และติดต่อได้ สามารถหาอ่านได้จากลิ้งค์ข้างล่างนี้ นะครับ

    https://en.wikipedia.org/wiki/Grey_alien
     
  19. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,567
    ค่าพลัง:
    +9,957
    +++ จิตจักรวาล สื่อมาจาก "ไอ้เตี้ย" จะเรียกพวกมันว่า "มนุษย์" ก็ได้ เพราะพวกมัน "เดิน 2 ขา และ หัวกับตัวไปพร้อมกัน"

    +++ "ไอ้เตี้ย" เป็นสิ่งมีชีวิตที่ "ไม่มีจิตครอง" ระบบความ "จำ+คิด" เป็นแบบ "ระบบประสาท" Artificial neural networks (ANNs)

    +++ หากเป็น "ผัสสะ ถือเป็น นาม" ส่วนการ "มองเห็น ถือเป็น รูป" ก็ได้ หากจะอธิบายในรูปแบบของ ศาสนาพุทธ

    +++ คำตอบคือ "ใช่" เป็นพวก "กายละเอียด ระดับ 4 (forth density)"
    +++ แบบเดียวกับ "สุญญตา รวมทั้ง นิพพาน" สามารถหาได้ในแหล่งข้อมูลรวม กูเกิ้ล นั่นแหละ แบบเดียวกัน

    +++ จะให้มันลึกล้ำแค่ไหนก็ได้ ตราบใดที่แหล่งข้อมูลต่าง ๆ ยังมีอยู่ และนี่แหละที่ผมเรียกมันว่า "Bio-Bot" ในโพสท์ก่อนหน้านี้

    +++ Technology ของ ไอ้โย่ง สามารถสื่อ "คลื่นความถี่ ในระดับสมอง" ได้ ตรงนี้จึงทำให้ "การสื่อจิต" เกิดขึ้น

    +++ ไอ้เตี้ย ส่วนหนึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของ ไอ้โย่ง แต่ ไอ้เตี้ย เป็นของโหลที่ หลายเผ่าพันธุ์ สามารถทำ home made เอาเองได้

    +++ ดังนั้น ไอ้เตี้ย จึงมีหลายแบบ หลายรุ่น แล้วแต่ "รสนิยม" ของเผ่าพันธ์ที่ผลิตพวกมันขึ้นมา


    +++ ผมไม่สนใจว่าคุณ ป จะฝึกสมาธิมาอย่างไร แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาแบบ "โดนหลอกสุด ๆ โดย Bot" แบบนี้ ไม่ใช่เรื่อง "สติปัญญา" สักนิดเดียว

    +++ จากประสพการณ์ส่วนตัว ผมตั้งกฏให้กลุ่มฝึก เมื่อเจออะไรก็ตาม ที่ผิดปกติวิสัย ในเนื้ออวกาศ ให้ทุกคนในกลุ่มฝึก เดินจิตตามนี้ คือ

    +++ 1. สิ่งที่ปรากฏนั้น เป็น "ธรรมชาติ หรือ เทคโนโลยี่"

    +++ 2. สิ่งที่ปรากฏนั้น มี "จิตครอง" หรือไม่

    +++ 3. สิ่งที่ปรากฏนั้น หากมีจิตครอง ให้ map สภาวะของ "ธรรมะ/อธรรม" ก่อน

    +++ 4. สิ่งที่ปรากฏนั้น หากเป็น ธรรมะ 60% ขึ้นไป ก็คุยกันได้ หากต่ำกว่านั้นให้ "ปิดจิต" ทิ้ง


    +++ กฏเกณท์คร่าว ๆ 3-4 ข้อนี้ ใครจะเอาไปประยุกต์ใช้ก็ได้ ผมไม่หวงห้ามอะไร ดีกว่าที่มนุษย์จะโดนแบบที่คุณ ป โดนกลับมาก็แล้วกัน

    +++ เนื้ออวกาศ ที่เรียกว่า จักรวาล นั้น "ไม่มีความเป็นจิต" แต่ จิตที่ฝึกถึงขั้น "ประกบเข้ากัน (สัมปะยุตตะปัจจัยโย)" กับเนื้ออวกาศนั้น มีอยู่

    +++ จิตที่ฝึกจนมาถึงจุดนี้นั้น หากไม่รอบคอบเพียงพอ จะ "หลง" เข้าใจว่า ตนเอง คือ อวกาศ หรือ "จิตจักรวาล" นั่นเอง

    +++ ปัจจุบัน ยาห์เวห์ เลิกหลงว่าตนเองเป็น จิตจักรวาลแล้ว และ หันกลับมา "เร่งความเพียร" ใหม่อีกรอบ หลังจาก "เสียเวลา" ไปนานโข


    +++ ห้องนี้เป็น "ห้องภัยภิบัติ" การโพสท์เกี่ยวกับ จิตจักรวาล อาจดูนอกเรื่อง นอกหัวข้อไปบ้าง ก็ให้ถือว่าเป็น "กับแกล้ม" นิดหน่อยก็พอ นะครับ
     
  20. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,195
    ไม่ใช่มนุษย์ต่างดาวค่ะ

    จิตจักรวาล ตามชื่อสมมุติบัญญัตินี้ เป็นรูปธรรมทางพลังงาน ที่อยู่เนื้อนอกอวกาศ หรือ นอกวัฏฏะค่ะ เป็นอนุภาคคลื่นพลังงาน ที่เคลื่อนที่เร็วกว่าแสง

    รูปธรรมพลังงานนี้ มีลักษณะเป็นกล่องพลังงาน คือตรงศูนย์กลางนิวเคลียส มีสภาวะเดียวกับแก่นแท้อนัตตา ถ้าเอากรอบออก ก็จะเป็นแก่นแท้อนัตตา หรือ สภาวะสุญญตา นั่นเองค่ะ

    สมมุติบัญญัติให้เรียกว่า "จิตจักรวาล"

    "จิตจักรวาลดวงใหญ่" คืออยู่ในสนามพลังงานสุญญตา เป็นการอุบัติครั้งแรกจากความว่าง

    "จิตจักรวาลดวงเล็ก" คือรูปธรรมพลังงาน หรือ กล่องพลังงาน เป็นอนุภาคคลื่นพลังงานค่ะ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...