ขอคำตอบจากเพื่อนสมาชิกและผู้รู้ที่ต่างออกไป

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย แนน จันทบุรี, 25 มิถุนายน 2018.

  1. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,422
    ค่าพลัง:
    +3,195
    เรื่องกฎแห่งกรรมเป็นแรงดึงดูดที่ยากแก่การเข้าใจเหมือนกันนะ ดูกรณีที่พระภิกษุ ไม่แน่ใจว่ากี่องค์ แต่เท่าที่ทราบน่าจะ 2 ถึง 3 คน ที่จะเดินทางไปเฝ้าพระพุทธเจ้าที่ต้องติดถ้ำ 7 วัน พระพุทธองค์ตรัสว่าในอดีตเคยกักขังตัวตะปอมไว้ภายที่มืด 7 วัน พอนึกขึ้นมาได้จึงมาปล่อยออก นั่นก็ทำให้พระภิกษุกลุ่มนั้นได้รับผล

    ส่วนเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์กักขัง หรือ ผีบังตา ที่เป็นไปได้ดั่งนั้น บุคคลกลุ่มนั้นในอดีตชาติจะต้องร่วมกันทำกรรมให้ต้องได้รับผลนั้นมาร่วมกัน จึงดึงดูดให้ได้รับผลนั้น หากไม่มีกรรมที่ต้องรับผลอย่างนั้น ไม่ว่าเป็นใครไม่มีทางจะได้รับผลเด็ดขาด กรณีถ้าเกิดเป็นกรรมจากในอดีตชาติมาอย่างกลุ่มภิกษุนั้นค่ะ

    แต่ถ้ากรรมในอดีตชาติไม่มี แต่เป็นกรรมปัจจุบันที่ทำร่วมกัน การทำกรรมปัจจุบันก็คือ การเกิดกรรมทั้งกาย วาจา ใจ ในขณะที่ทำนั้นคือการเกิดกรรมแล้ว ผลก็ตามมา เหตุใดธรรมชาติจึงเกิดในช่วงนั้นพอดี เคยเห็นไหมค่ะ คนที่เจอเหตุการณ์แล้วรอดเฉียดฉิว หวุดหวิด ชั่วพริบตา ต่าง ๆ นานา ถ้าใครเคยเจอกรณีนี้จะรู้ว่าเป็นอย่างไร? สมมุติถ้าใครเจอเหตุการณ์นี้อย่างไรต้องโดนแน่นอน แต่รอดไปได้อย่างไร? เหมือนผีผลักเลย ที่จริงผีไม่ได้ผลักหรอกค่ะ แต่ธรรมชาติที่บันทึกไว้ไม่มีเหตุต้องรับ เลยไม่มีแรงดึงต้องให้เจอหรือโดนค่ะ

    อย่างกรณีผีบังตาถ้าเป็นกรณีเจ้าแม่นางนอน ถ้ามีจริง การที่จิตวิญญาณที่จองจำตนเองไว้กับความรัก ความอาฆาต หรือ กิเลสอย่างอื่น มีจริงค่ะมีเรื่องเล่ากล่าวขานมากมาย ที่ไม่สามารถไปผุดเกิดได้ การยึดในสิ่งใดก็ติดอยู่กับสิ่งนั้น ตามหลักธรรมอยู่แล้วค่ะ หากเป็นการแก้การยึดตรงนี้ ตนเองลงไว้ในกระทู้ห้องภัยพิบัตินั้น ก็ต้องแก้ที่เหตุเท่านั้น ส่วนผู้ที่มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องก็ต้องมีกรรมสัมพันธ์กัน หรือไม่ก็เป็นการได้รับกรรมตามเหตุที่ตนต้องสร้างมา เลยมีเหตุดึงดูด โดยไม่มีเหตุบังเอิญอย่างแน่นอนค่ะ ที่ให้ต้องมาเจอเรื่องราวที่เกิดขึ้นค่ะ
     
  2. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,422
    ค่าพลัง:
    +3,195


    ปาฏิหาริย์มีจริง เหตุเกิดเพราะเชือก ช่วยเหลือน้อง 13 ชีวิตถ้ำน้ำนางนอน
     
  3. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    ทีมดำน้ำจากUK ที่ทำหน้าที่
    วางเชือกนำทางนี้เคยได้ทำการสำรวจถ้ำมาก่อน
    หน้านี้แล้ว จึงได้ดำมาในร่องน้ำ
    นี้ได้อย่างพอเหมาะพอดี
    และสุดปลายเชือกที่ใช้วาง
    นำร่องพอดีจึงเงยหน้าขึ้นเหนือ
    น้ำตรงกับชายหาดหินที่ทีมหมูป่า
    นั่งรอการช่วยเหลือพอดิบพอดี
    เกมจึง OVER
    ถ้าหาก
    ทีมดำน้ำไม่ใช่ทีมสำรวจ
    มาก่อนความพอดีทั้งหลายก็อาจ
    ไม่ได้เกิดขึ้นเช่นนี้คับ
    " ทีมหมูป่าดวงยังแข็ง "
     
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    พูดให้คิดเชิงคำถาม....
    แต่ไม่ต้องตอบนะครับ

    ๑.เคยมีพบเจอประสบการณ์เรื่องการถูกบังตา
    ด้วยตนเองหรือยัง?

    ๒.พอรู้หรือยังว่า ทำไมหลังจากที่ตายไปแล้ว
    ถึงได้เกิดเป็นภูมินั้นๆ....

    ๓.พอรู้ไหม ว่าภูมิพยานาค(ถ้าเชื่อว่ามีจริง)
    ที่อยู่กันเป็นกลุ่ม
    ปกติเค้าทำอะไรกัน ทำถึงไม่ค่อยชอบให้ใคร
    ไปวุ่นวาย ทำไมถึงหาเรื่องไม่ให้ใครอยู่บริเวณนั้น
    และ..รู้ใช่ไหมว่าภูมินี้ไม่ทำร้ายมนุษย์
    มาตั้งแต่ยุคพุทธกาล

    ๔.พอรู้ไหม ว่าสมัยก่อนมีการเดินทัพ
    แล้วเค้าอาศัยอะไรในการอยู่อาศัย หรือ ซ่อนทัพ
    และรู้ไหมปัจจุบันเค้าต้องอะไรครับ....

    ๕.รู้ไหมว่า พวกเมืองบังบด เมืองลับแล เมืองซ้อนทับ
    หรือมิติซ้อนทับ เค้าทำอะไรถึงได้ไปอยู่ด้วยกัน
    และรู้อยู่ใช่ไหมว่า เค้ามีหลายกลุ่ม

    ๖.รู้ไหมว่า หนึ่งในกลุ่มเมืองข้อที่ ๕ มีกลุ่มหนึ่ง
    ที่เรียก คนธรรพ์(ส่วนตัวเรียกพวกเด็กแนว
    คือเอาแน่เอานอนทางอารมย์ไม่ได้)
    พอรู้ใช่ไหมว่า เค้ามีความสามารถที่จะทำอะไรได้
    เรื่องบังตานี่เด็กๆ พอรู้ไหม....และรู้ใช่ไหมว่า
    พวกนี้เค้าจะเกรงใจ ใครลักษณะอย่างไร...

    ๗.รู้ใช่ไหมทางโลกก็คือทางโลก ปฏิบัติทางโลก
    ก็ส่วนปฏิบัติหน้าที่ทางโลก.....

    ๘.พอมีความสามารถที่จะรู้ระดับบารมีของดวงจิตใคร
    หรือพอมีความสามารถที่จะรู้ความสามารถของดวงจิตใดๆ
    ว่าสะสมและมีบารมี มีความชำนาญมาทางด้านไหน
    ด้วยตนเองหรือไม่....

    ถ้าใน ๘ ข้อพื้นฐานท่านยังเข้าไม่ถึง
    ด้วยความสามารถและการปฏิบัติของท่านเอง...
    จะขอแนะนำว่า....


    จะชมทางโลกก็ชมไป ไม่มีใครว่า และไม่ควรถูกใครว่า
    จะชมทางด้านนามธรรมด้านบารมี ด้านที่มองไม่เห็น
    ก็ว่าไป ไม่มีใครว่าและไม่ควรถูกใครว่า

    แต่อย่าไปยึดไม่ว่าทางใดทางทางหนึ่ง
    เพราะท่านอาจจะเผลอไปพลาดพลั้งไปทางด้าน
    ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
    แต่ไม่ใช่ว่ามันไม่มีจริง

    และไม่สามารถรู้ได้หากกำลังจิตเราด้อยกว่า
    ฝ่ายนามธรรมเหล่านั้น
    เพราะยังไง
    ท่านก็จะไม่มีทางเห็นได้......
    แต่ถ้าท่านพลาดไปแล้ว

    ชาตินี้ความเข้าใจทางด้านนามธรรมท่านจะคลาดเคลื่อน
    ท่านจะไม่สามารถฝึกกรรมฐานกองใดๆก็ตาม
    สำเร็จได้ในชาตินี้ถึงระดับที่ใช้งานได้จริง....
    ท่านจะติดอยู่แค่ในกิริยาระหว่าง
    และอาจจะหลงสภาวะหลงตัวเองได้อย่างคาดไม่ถึง

    ยังไม่รวมการขวางมรรคผล การบรรลุคุณธรรมต่างๆ
    ของท่านอย่างที่คาดไม่ถึง...
    แม้ว่าท่านจะมีวาสนาทางด้านสมาธิมาก่อน
    แต่ว่าท่านจะเป็นในลักษณะที่ขาดเกินๆหาความ
    พอดีและใช้งานไม่ได้ซักที
    ท่านจะหาจุดเริ่มต้น และจุดจบไม่เจอ....

    แค่เพียงแต่เล่าให้ฟัง
    ไม่ต้องตอบ ไม่ต้องอ้างอิง....
    แค่เล่าเชิงคำถาม
    ในฐานะฉันท์มิตรคนหนึ่งเท่านั้นครับ
    บางเรื่อง ถ้าไม่มีองค์ประกอบพื้นฐาน
    ครบทั้ง ๘ ข้อถ้าเป็นส่วนตัว
    จะเงียบๆดีกว่าครับ

     
  5. ศิษย์โง่ V2

    ศิษย์โง่ V2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2017
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +243
    ถ้าอ่านกริยาอาการของผมมาตลอด เป็นปี
    ก็คงจะพอทราบมั้งครับ ว่านามธรรมผมมันอยู่ในลักษณะไหน
    นามธรรมผมคลาดเคลื่อนรึเปล่า?
    ผมฝึกกรรมฐานอะไรก็ไม่สำเร็จรึเปล่า?
    ผมก็เคยตั้งกระทู้เล่าประสบการณ์ให้ฟัง
    ทุกท่านก็เห็นไปแล้ว

    และไม่ใช่ว่าพึ่งมาคิดแบบนี้ คิดมาตั้งแต่เด็ก ๆแล้ว
    เดี๋ยวจะหาว่าไปรับอิทธิพลของสำนักพุทธวจนะมา
    โดนกล่าวหากันไป...


    เรื่องในทั้ง 8 ข้อจึงไม่เคยสน และมองว่างมงาย
    งมงายในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงว่ามันไม่มี
    เพราะในพระไตรก็เขียนถึงคนพวกนี้เอาไว้
    แต่ผมไม่ไปสนมัน ไม่ไปยุ่งกับมัน
    มันไม่ใช่ทางพ้นทุกข์
    จึงสอนให้คนอื่นอย่าไปยุ่งกับเรื่องพวกนี้

    เพราะมันคือ สีลพตปรามาสอย่างหนึ่ง

    ผมจะสอนให้คนเลิก สีลพตปรามาสอย่างเดียว

    ผมก็เตือนคนอื่น ในฐานะฉันมิตร เหมือนกันนะครับ
    อย่างคนที่เชื่อเรื่องพระเครื่อง ก็มีเต็มเว็บนี้ไปหมด
    รวมถึงที่อื่น ๆ
    ถ้าผมไม่หวังดี พยายามสอนให้ถูกทาง ก็คงไม่พูด.....
    เพราะพูดแล้วคนที่เชื่อ จะออกมาต่อต้าน เป็นปกติ...

    แม้แต่ในหมู่นักภาวนา ที่อยากจะพ้นทุกข์ พ้นไปจากสิ่งสมมุติ
    แต่ก็ยังมาออกโรงปกป้องวัตถุ ที่ว่ากันว่าขลัง ว่าศักดิสิทธิ

    เปลืองตัวผมเปล่า ๆ อยู่เงียบ ไม่ดีกว่าเหรอ
    ก็เพราะหวังดี ถึงต้องพูดบ้าง เป็นบางครั้ง
    แต่ก็คงไม่พูดถึงทุกวัน เดี๋ยวจะกลายเป็นคนบ้าไป
    และไม่เคยตั้งกระทู้ เพื่อตำหนิคนที่เชื่อเรื่องพวกนี้
    เพราะเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ผมเคารพ
    แต่ถ้ามีโอกาสสอน ผมก็สอน แต่ไม่ตำหนิใคร

    พระสูตรก็ยกมาให้อ่านแล้ว เรื่องลัทธิ ที่เชื่อว่า อิศรวร บรรดาล
    เอาแต่ไปสนใจอิศวร คำสอนพระพุทธ

    เลยถูกละเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กรกฎาคม 2018
  6. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    คุณ ศิษย์โง่ V2
    ส่วนตัวพูดกลางๆ
    ปกติแล้วถ้าจะว่าใคร
    มักจะระบุชื่อคนนั้นตรงๆ
    หรือไม่ก็แสดงให้รู้ตรงๆ
    ไม่มีอ้อมครับ

    เจตนาดี หรืออะไรใครก็ดูออกครับ
    เจตนาแอบแฝงซ่อนเร้นก็พอดูออกเช่นกัน


    ใครๆก็รู้ว่า ทางที่จะพ้นทุกข์เป็นอย่างไร
    ส่วนตัวมองว่า เป็นไปตามวาระแห่งบุคคล
    ไม่ได้จำเป็นต้องเดินไปตรงๆเสมอไป
    แต่ก็ควรรู้ไว้ จะได้ไม่ประมาท
    ตรงไป เกรงว่าจะตึงไป

    หากระหว่างทางยังให้ผลกับใครอยู่
    ก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไป
    ตามวาระแห่งตนเองเท่านั้นครับ

    ปัญหาที่เกิดคือ. การที่เข้าใจ
    ว่าตนเองเดินอยู่ในเส้นทางตรง
    แล้วไปพยายามเรียกคนที่เดินแวะ
    อยู่ข้างทาง โดยที่คนเรียกไม่เข้าใจ
    เจตนาผู้ที่แวะอยู่ ว่าเค้าแวะทำอะไร
    แวะชั่วคราว แวะพักทักทายคนรู้จัก
    แวะเพราะมีเหตุ แวะเพราะมีคนเรียก
    แวะค้างคืนแวะพักผ่อน แวะซื้อของ
    แวะแลกเปลี่ยน แวะพบปะสนทนาฯลฯ
    ซึ่งหลังจากแวะแล้ว
    เค้าอาจจะเดินเร็วกว่าเรา
    แซงหน้าเราไปไกลก็ได้ ใครจะรู้

    แม้จะเข้าใจว่าตนอยู่ในเส้นทางที่ใช่
    แต่ก็หามีผู้ใดที่เดินอยู่ในเส้นทาง
    ที่จะฟันธงได้ว่า เรามองเห็นปลายทางข้างหน้าแล้ว เพราะปลายทางจะเข้าถึงได้
    ก็ต่อเมื่อไม่มีกายนี้ หรือแม้จะพอคาดได้
    ว่าใครรออยู่ แต่นั้นก็ยังยืนยันไม่ได้
    เพราะเราก็ยังมีกายนี้อยู่

    ดังนั้นใครเดินอยู่ในเส้นทางก็เดินต่อไป
    ใครคิดว่าเดินใกล้ถึง ก็สำรวจตนเอง
    ไปด้วยว่าเผลอออกนอกเส้นทางไหม

    ในระหว่างทางเราก็ทักทาย
    ทุกคนระหว่างทางได้ ใครขาด
    ใครต้องการอะไร ก็ว่ากันไป

    ยกเว้นประเภทที่ออกนอกเส้นทางอยู่
    และพยายามเรียก พยายามดึง
    เป่าประกาศ โฆษณา ประชาสัมพันธ์
    ให้คนที่กำลังเดินอยู่ในเส้นทาง
    ให้แวะเข้ามา และบอกว่าตรงนี้แระ
    คือปลายทางที่แท้จริง

    ถ้าแบบนี้มีโอกาสก็จัดไปซักดอกสองดอก
    หรือจะปล่อยไปผ่านมันก็สิทธิ์ของเรา

    ประมานนี้แหละครับ
    ทั่วๆไปไม่มีอะไรหรอกครับ
    แค่เล่าสู่กันฟัง
     
  7. ศิษย์โง่ V2

    ศิษย์โง่ V2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2017
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +243
    คุณนพนี่ของแรงเหมือนกันนะ
    เล่นของใส่ผมป่าวเนี่ย..

    ตอนที่กำลังพิมพ์ตอบคุณนพด้านบน
    อยู่ๆคอมมันก็ปิด ดับไปเอง
    สงสัยไม่อยากให้ตอบคุณนพ

    เล่าให้ฟังขำ ๆ นะครับ ไม่มีอะไร...
     
  8. ขาจอน

    ขาจอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    1,009
    ค่าพลัง:
    +470
    สีลพตปรามาส
    คือความเห็นว่า มีทางอื่นที่จะทำให้พ้นทุกข์
    ท่านเหล่านั้นที่ละสีลพตปรามาส
    เคยมีคนถามพระท่านว่า ยังไหว้เทวดา ได้ไหม
    พระท่านว่า ได้
    แต่ไม่ใช่ไหว้เพื่อให้สำเร็จเร็วๆ อะไรทำนองนั้น

    ดังนั้นการบูชามีผล ยัญมีผล บุญคุณมี กรรมมี
    ไม่ใช่ปัดทิ้งปฏิเสธ ลูกเดียว
     
  9. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    นิวรณ์ดูเฉยๆบ้าง
     
  10. ศิษย์โง่ V2

    ศิษย์โง่ V2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2017
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +243
    ทำให้เป็นกุศลจิต มันก็ทำได้ ผมก็เห็นด้วย
    ดีกว่าไปคว้าแต่ อกุศลจิต
    ต้องเข้าใจความหมายที่จะสื่อด้วย
    ตอบแทนพระให้ ไหว้นะไหว้ได้
    แต่ไหว้ในฐานะที่เขามีบุญมากกว่าเรา
    เหมือนผู้น้อย กราบไหว้ผู้อาวุโส
    ไม่ใช่ไปขอหวัง อะไรจากเทวดา แบบที่พระพูดถูกแล้ว

    ไม่อย่างนั้น พระอริยะ คงไม่เลือกไหว้แต่ ไตรสรณคมน์
    เพราะท่านสูงกว่าพวกเทวดาแล้ว
    ท่านจึงไม่ไหว้อย่างอื่นนอกจาก ไตรสรณคมน์

    ก็เหมือนอุบายพระพุทธรูป เขามีเอาไว้ให้ระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า
    ผมไหว้ ก็ระลึกถึงบุญคุณท่าน ซึ้งที่ท่านสอนอะไรผมหลายอย่าง
    แต่ไอนี่ หลังๆ มันเพี้ยน มีเป็นล้าน ๆเหรียญ หนักไปทางศักดิสิทธิ
    บรรดาลให้แคล้วคลาดบ้าง ร่ำรวยเงินทองบ้าง
    เอากันเข้าไป
    เปลี่ยนเป็นเข้าสู่ลัทธิ ที่เชื่อว่าอิศวร บรรดาล

    ดังนั้นถ้าผมปฏิเสธท่าเดียว แปลว่าผมต้องไม่ไหว้พระพุทธรูป
    ซึ่งมันไม่ใช่...

    ธรรมเป็นเรื่องลึกซึ้ง ลุ่มลึก ต้องใช้ปัญญามาก

    ศาสนาพุทธ จึงเป็นเรื่องของปัญญา ต้องอ่าน ต้องฟัง ต้องปฏิบัติ
    ไม่ใช่ศาสนาแห่งการไหว้ และบนบานศาลกล่าว



    ใครที่เชื่อก็เชื่อไป แต่ถ้าใครรู้อะไร
    ก็สอนที่คนเชื่อพวกนั้นบ้าง ถ้ามีโอกาส
    ก็แค่นั้น.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กรกฎาคม 2018
  11. ศิษย์โง่ V2

    ศิษย์โง่ V2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2017
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +243
    สัมมาทิฐิ ที่เป็นมโนสุจริตหมายถึง ความเห็นถูกต้อง มี10 ปราการ คือ

    1.เห็นว่าการให้ทานมีผลจริง (หมายถึงการให้ในระดับแบ่งปันกัน)
    2.การบวงสรวงมีผลจริง(หมายถึงการให้ในระดับสงเคราะห์กันมีผล)
    3.การเคารพบูชามีผลจริง (หมายถึงการยกย่องบูชาบุคคลที่ควรบูชามีผลดีจริง)

    4.ผลวิบากของกรรมดีกรรมชั่วมีจริง
    5.คุณของมารดามีจริง (หมายถึงมารดามีพระคุณต่อบุตรอย่างยิ่ง บุตรควรตั้งใจตอบแทนพระคุณท่านอย่างเต็มที่)
    6.คุณของบิดามีจริง (หมายถึง บิดามีพระคุณต่อบุตรอย่างยิ่ง บุตรควรตั้งใจตอบแทนพระคุณท่านอย่างเต็มที่)
    7.โลกนี้มี (หมายถึง โลกนี้มีคุณเป็นอย่างยิ่ง เหมาะสำหรับใช้สร้างบุญบารมี)
    8.โลกหน้ามี (หมายถึง โลกหน้ามีจริง ตายแล้วไม่สูญ ความเป็นไปของโลกหน้า เป็นผลมาจากโลกนี้)
    9.พวกโอปปาติกะ (ผุดขึ้นเกิด) มี (หมายถึง สัตว์ที่ผุดขึ้นเกิดแล้วโตทันทีมีจริง อาทิเช่น ในภูมิทุคติ ได้แก่ สัตว์นรก เปรต อสุรกาย ในภูมิสุคติ ได้แก่ เทวดา พรหม อรูปพรหม)
    10.สมณพราหมณ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจนบรรลุมรรคผลนิพพาน รู้แจ้งเห็นจริงด้วยตนเองแล้วสอนให้ผู้รู้ตามด้วยมีจริง

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++

    พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์
    พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
    พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)


    กูฏทันตสูตร สูตรหนึ่งในคัมภีร์ทีฆนิกายสีลขันธวรรค สุตตันตปิฎก

    พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่กูฏทันตพราหมณ์ ผู้กำลังเตรียมพิธีบูชายัญ ว่าด้วยวิธีบูชายัญตามความหมายในแบบของพระพุทธศาสนา ซึ่งไม่ต้องมีการฆ่าฟันเบียดเบียนสัตว์ มีแต่การเสียสละทำทาน และการทำความดีอื่นๆ
    เริ่มด้วยการตระเตรียมพิธีโดยจัดการบ้านเมืองให้สงบเรียบร้อยก่อนตามธรรมวิธี มีการส่งเสริมกสิกรรม พาณิชยกรรม สัมมาชีพ และบำรุงส่งเสริมข้าราชการที่ดี ซึ่งจะทำให้ประชาชนขวนขวาย ขะมักเขม้นในหน้าที่การงานของตนๆ จนบ้านเมืองมีความเกษมปลอดภัย พลเมืองมีความสุข ราชทรัพย์บริบูรณ์ดีแล้ว จึงกระทำพิธีบูชายัญ ด้วยการบริจาคทรัพย์ทำทานเป็นต้น
    ผลของพระธรรมเทศนานี้ คือ กูฏทันตพราหมณ์ล้มเลิกพิธีบูชายัญของตน ปล่อยสัตว์ทั้งหลาย และประกาศตนเป็นอุบาสก
     
  12. ศิษย์โง่ V2

    ศิษย์โง่ V2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2017
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +243
    ๑. อัศวเมธ ได้แก่
    การฆ่าม้าบูชายัญ
    แต่ชื่อนี้หมายความกว้างกว่านั้น คือ หมายถึงยัญที่บูชาด้วยสมบัติ
    ทุกอย่าง เว้นที่ดินแลคน
    ซึ่งเขาตั้งเสายัญ ๒๑ เสา
    สำหรับผูกปศุสัตว์ที่จะต้องฆ่าประมาณ ๕๙๗ ชนิด
    เพื่อบูชายัญ แล้วทำการบูชาอยู่หลายวันกว่าจะเสร็จพิธี

    สัสสเมธ
    เป็นยัญในพระพุทธศาสนา
    ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่พระเจ้ามหาวิชิตราชใน
    กูฏทันตสูตร (๙/๒๒๔) หมายความว่า
    การเก็บค่านาตามธัญญาหาร
    ที่สำเร็จผลสิบส่วน เก็บไว้เป็นส่วนหลวงส่วนหนึ่ง
    นี่เป็นสังคหวัตถุประการหนึ่ง
    ของพระเจ้าจักรพรรดิ

    ๒. ปุริสเมธ ได้แก่
    การฆ่าคนบูชายัญ แต่ความจริงหมายเฉพาะยัญที่บูชาด้วย
    สมบัติต่างๆ แต่รวมที่ดินเข้าด้วย

    ในพระพุทธศาสนา หมายถึง
    การพระราชทานทรัพย์เป็นเบี้ยเลี้ยงและบำเหน็จบำนาญแก่
    ทวยหาญทุก ๖ เดือน
    เป็นสังคหวัตถุของ
    พระเจ้าจักรพรรดิประการหนึ่ง ฯ

    ๓. สัมมาปาสะ ได้แก่
    การผูกสัตว์บูชายัญ
    โดยเขาทำพิธีเหวี่ยงท่อนไม้
    สำหรับต้อนสัตว์เข้าไปที่หลัก
    บูชาเพลิงทั้งคู่ แล้วร่ายเวทตรงที่
    ท่อนไม้นั้นตก ทำการบูชาตามพิธี

    แต่ในพระพุทธศาสนา
    จัดเป็นสังคหวัตถุของ
    พระเจ้าจักรพรรดิ หมายถึง
    การเรียกหนังสือสารกรรมธรรม์กู้
    แต่ชาวเมืองที่ขัดสนแล้ว
    พระราชทานทรัพย์ใหกู้
    โดยไม่เรียกดอกเบี้ยเป็น
    เวลา ๓ ปี ฯ

    ๔. วาชเปยยะ ได้แก่
    ยัญอีกชนิดหนึ่งซึ่งเขาผูกปศุสัตว์
    ๑๗ ชนิดบูชา

    แต่ที่เป็นสังคหวัตถุของ
    พระเจ้าจักรพรรดิ หมายถึง
    การตรัสพระวาจาอันอ่อนหวาน
    เป็นที่ดูดดื่มน้ำใจของประชาชน ฯ

    ๕. นิรัคคฬะ ได้แก่ ยัญที่ไม่ต้องมีหลักยัญสำหรับบูชา หมายถึง
    พิธีชนิดเดียวกับ อัศวเมธ
    แต่บูชาด้วยสมบัติทุกอย่าง
    ไม่มียกเว้นอะไร ฉะนั้นจึงมีชื่อ
    เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สรรพเมธ

    แต่ที่ในพระพุทธศาสนา
    จัดเป็นสังคหวัตถุของ
    พระเจ้าจักรพรรดิ หมายถึง
    ผลที่พระมหากษัตริย์ สงเคราะห์ด้วยสังคหวัตถุ ๔ ข้างต้นนั้น
    ที่เป็นเหตุให้รัฐมั่งคั่งสมบูรณ์
    ไม่มีโจรผู้ร้ายและประชาราษฎร์
    บันเทิงใจเป็นอยู่ อย่างที่กล่าวว่า
    ประตูเรือนไม่ต้องลงลิ่ม
    กลอนระวังก็ได้ฉะนั้น ฯ




    unknown-avatar-38x38.png
    สมาชิกหมายเลข 4405314
     
  13. ขาจอน

    ขาจอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    1,009
    ค่าพลัง:
    +470
    ธรรมะเป็นเรื่องของสามัคคีธรรม กตัญญูกตเวที

    การบวงสรวง กราบไหว้ สร้างนั่นนี่ ผีสางเทพเทวา ฮาเฮว นั่นมีขึ้น
    ก็เพื่อความสมัครสมานสามัคคีของคนในชุมชน

    ดังนั้นการสักการะ จึงเพื่อแสดงถึงความกตัญญูรู้คุณ ด้วย
    ธรรมะมีนัยะลึกซึ้ง และไม่ขัดกับโลก ไม่ทำให้แตกสามัคคี ...

    ปล.อนึ่งพระพุทธเจ้าท่านยังเป็นผู้บริหารที่ชาญฉลาดอีกด้วย ธรรมะของพุทธองค์บัญญัติไม่ขัดแย้ง เป็นไปเพื่อความสามัคคี ... พ้นทุกข์เป็นที่สุด
     
  14. ศิษย์โง่ V2

    ศิษย์โง่ V2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2017
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +243
    ก็เหมือนกับที่รู้มา
    พระโสดาบัน ถูกบังคับให้ไปเข้าร่วมพิธีไหว้ บวงสรวง
    ท่านก็ไป ยกมือไหว้เหมือนคนอื่น ทำตามคนอื่นไป
    ไม่ให้มันขัดกับโลก แต่ใจท่านไม่ได้ไหว้ไปด้วย

    แต่ถ้ามีคนไปถามท่าน ท่านก็จะสอนในสิ่งที่ถูกต้องทันที
    หรือจะไม่สอน เงียบ ๆ ท่านก็ดูหน้าคนถามก่อน

    เพราะท่านรู้ว่า การไหว้ ผีสาง ฮาเหว มันไม่มีประโยชน์
    ไม่ได้ให้บุญคุณอะไรกับท่าน เหมือน ไตรสรณคมน์
     
  15. ขาจอน

    ขาจอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    1,009
    ค่าพลัง:
    +470
    ถ้าจะให้ดี ก็ใช้ปรมัตถธรรม
    คือความ กตัญญู กับสามัคคี ระลึกบ่อยๆ
    จะเป็นลูกน้องที่น่ารักและผู้บริหารที่น่าเคารพ
    นะ

    ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ ยังไงๆศาสนาพุทธก็จะต้องเลือนหายไปอยู่แล้ว
    น้ำขึ้นให้รีบตัก
    เอาตัวเองให้รอดก่อน นอกนั้นก็ขึ้นกับว่าจะกตเวทีทางไหน

    นอกเสียจาก
    จะไม่ขอจบจนกว่าสัตว์สุดท้ายจะเข้านิทาน บาทอ่อนว่ากันไป

    ปล.ถ้าเข้าใจปรมัตธรรมทั้งสองที่ว่า จะเห็นเลย
    พระท่านไหว้อะไร และไม่ใช่ไหว้เป็นพิธี
    ใจท่านเหล่านั้นไม่ได้แข็งกระด้างแบบเราๆท่านๆ นาครับ
     
  16. ศิษย์โง่ V2

    ศิษย์โง่ V2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2017
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +243
    อ่านแล้วนึกถึงกระทู้นี้


    หากท่านพุทธทาสปลุกเสกเหรียญรุ่นฝนตกลงมาเป็นกบ เทศน์ว่าไปพบพระอินทร์คุยกับพระพุทธเจ้า คงได้รับการยอมรับมากกว่านี้


    กระผมมองว่า image ท่านพุทธทาสดูเป็นพระธรรมดา เป้นพระสายวิชาการเลยดูไม่ขลังเหมือนไม่มีวิชาอาคมเหมือนหลวงปู่หลวงพ่อที่หลายๆท่านในห้องนี้ศรัทธา

    แถมเรื่องราวประวัติของท่านก็ดันไม่มีชาวบ้านหรือนักการตลาดไปแต่งเติมเสริมแต่งให้ดูโลดโผนให้ถูกจริตชาวพุทธจำนวนหนึ่งที่มักมีความเข้าใจว่าพระอรหันต์นั้นต้องเข้าไปฝึกวิชากับพระเขมรในป่าลึก ต้องเสี่ยงตายกับพญาเสือและโขลงช้างอันเกรี้ยวกราด ออกป่ามาจำวัดก็ต้องมีวิชาต่างๆเช่น เปลี่ยนคนให้กลายเป็นจระเข้ เสกใบไม้ให้เป็นปลา ลูบผักแล้วกลายเป็นกระต่าย บ้วนหมากลงพื้นแล้วดินแยกออกจากกัน ต้องแบบนี้ถึงจะโดนใจชาวพุทธแบบท่านเฉลิมศักดิ์ & Co.

    ท่านพุทธทาสเทศน์ไม่เข้าหูกลุ่มชาวพุทธจำนวนหนึ่งในห้องนี้เพราะท่านไม่พูดถึงวิมานและเทวดาในสวรรค์ ไม่เล่าให้ฟังว่าบนสวรรค์มันเป็นยังไงนรกมันเป็นแบบไหน ชาวพุทธกลุ่มหนึ่งอยากรู้ว่าพระอินทร์พูดอะไรพระพุทธเจ้าตรัสอะไรบ้างมากกว่ามานั่งฟังเรื่องของการวิปัสสนา

    หากท่านพุทธทาสปลุกเสกเหรียญรุ่นฝนตกลงมาเป็นกบ เทศน์ว่าไปพบพระอินทร์คุยกับพระพุทธเจ้า คงได้รับการยอมรับมากกว่านี้

    ไข่แมว

    https://pantip.com/topic/33686767
     
  17. ขาจอน

    ขาจอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    1,009
    ค่าพลัง:
    +470
    อนึ่ง
    ถ้าดูจากอานาปานสติ16ขั้นของสำนักนี้
    พอถึงขึ้นสี่ท่านจะสอนไขว้ไป ทำกสิณ
    เรื่องฤทธิ์จึงเป็นของปอกกล้วย
    ท่านเคยเล่าเองว่าทำไรได้บ้าง ไปหาดูเอาเอง

    นะ
    พอมาพักหลัง ท่านใช้ปฏิภาณ
    เอาพวกสายวิทย์ในตอนนั้น มาหาศาสนา
    แต่ละท่านก็มีกุศโลบายต่างกันตาม
    เมตตา ไมตรี กรุณา มุทิตา กรุณา อธิษฐานะปามีสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ว่ากันไป
     
  18. ศิษย์โง่ V2

    ศิษย์โง่ V2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2017
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +243
    ผมไม่ใช่แฟนพันธ์แท้ ท่านพุทธทาส
    เคยบอกไปแล้ว ว่าอ่านแค่หนังสือ ตัวกูของกู
    แล้วมันโดน


    คงไม่ไปหาอ่านหรอกครับ ขี้เกียจ
    แค่พระไตร ก็อ่านไม่หวาดไม่ไหวแระ
    อ่านพระไตร ก้เข้าใจแระ

    ส่วนเรื่องอุบาย ก็ต้องพิจารณาตามด้วย
    ว่าอุบายที่ว่า จะพาเข้ารกเข้าพง หรือพาเข้าทางมากกว่า
    ก็ดูเป็นราย ๆ ไปครับ
    หากอุบายที่ว่า จะดูแล้วเข้ารกเข้าพงมากกว่า
    ก็ไม่น่าจะใช่อย่างที่คิดนะ

    เป็นเรื่องของวิจารณญาณ ส่วนบุคคลมากกว่า

    ปล. หากเป็นวิจารณญาณส่วนตัว
    ส่วนตัวมองเห็นว่า บุคคลชื่อดังหลายท่านเลย
    ที่ไม่เข้าตา มากกว่าที่ดูเข้าตาเสียอีก

    แต่จบแระ พักไว้ตรงนี้ ขี้เกียจต่อแระ
    ขี้เกียจพูดไรแระ สองหน้าเข้าไปแระ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กรกฎาคม 2018
  19. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    36585232_10212660942464031_4896934398785486848_n.jpg

    ลุงตู่ ลุงตู่ ฮับ มางมี กำกระถาง ชื่อ อสุกะทาลัก ในโลกนี้ด้วยหรือฮับ

    นับวัน สะสมไมล์

    ฮิวววววววววววววววววววววววววววส์
     
  20. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    คุยภาษาธรรมดาเป็นป่าว ปวดหัว
     

แชร์หน้านี้

Loading...