สอบถาม รักษาอาการป่วยด้วยสมาธิ

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย ลุงเท่ง, 15 สิงหาคม 2018.

  1. ลุงเท่ง

    ลุงเท่ง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2018
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +9
    กราบสวัสดีสมาชิกทุกๆท่านครับ
    ตั้งกระทู้สอบถามเกี่ยวกับประสบการณ์วที่ได้จากการปฎิบัติสมาธิ เพื่อใช้ต่อยอดในการปฏิบัติสืบต่อไป
    เมื่อหลายปีมาแล้ว กระผมได้ทำงานลูกจ้างอยู่ที่จังหวัดปัตตานี มีอยู่ครั้งนึง กระผมมีอาการไม่สบายหนักมาก คล้ายๆไข้หวัดใหญ่ ทำงานต่อไม่ไหวจึงได้ลางานกระทันหันเพื่อไปพักผ่อนที่บ้าน กระผมมาถึงบ้านก็มิได้ทานหยูกยาอะไร เพราะไม่มีเรี่ยวแรงจะไปชื้อหา แค่มีแรงเดินกลับมาถึงที่พักได้ก็เหนื่อยเต็มที กระผมจึงได้ล้มตัวลงนอนพักผ่อน อาการไม่สบายก็ยังทรงตัวไม่ลดไม่เพิ่ม ตอนนี้เกิดอาการทรมานทางกายมาก กระผมนึกขึ้นได้ว่า เคยได้เข้าฝึกสติปัฏฐานสี่มาบ้าง แบบยุบหนอพองหนอ และครูผู้ฝึกท่านก็เคยพูดว่าการเจริญสมาธิแนวทางนี้สามารถระงับอาการเจ็บป่วยทางกายได้ ผมจึงได้เริ่มภวานาโดยการจับอาการพองยุบของท้อง พอจิตเริ่มเป็นสมาธิก็ดูอาการเจ็บป่วยทางกาย ครูเคยแนะนำว่า อาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นกับเรา ไม่ใช่เรา ไม่เกี่ยวกับจิตเรา กายที่เจ็บป่วยก็ไม่ใช่ของเรา ผมก็เฝ้าดูในช่วงแรกก็ทำความเข้าใจว่ากายเราป่วย แต่จิตเราไม่ได้ป่วยตามนี่ ก็เลิกสนใจ ก็หันกลับมาดูพองยุบเหมือนเดิม ดูไปได้สักพักอาการหลายอย่างเริ่มช้าลง พองยุบละเอียดขึ้น สักพักเริ่มรู้สึกเห็นในขณะที่หลับตาภวานา ว่ามีกลุ่มควันสีขาวมีลักษณะคล้ายตัวเราหรือรูปร่างเหมือนเรา ลอยขึ้นมาจากตัวห่างจากตัวกระผมประมาณ 1ฝ่ามือ ณ ขณะนั้นอาการไม่สบายที่มีอยู่ จิตรับรู้ว่ามันได้ย้ายไปอยู่กับกลุ่มควันนั้นทั้งหมด ตัวกระผมก็นอนเฝ้าดูอยู่สักพัก ก็ไม่ได้รับรู้อะไรมากไปกว่านั้น ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองเริ่มปกติแล้วก็เลยถืออากาสหลับพักผ่อน เพราะคิดว่าอาการไม่สบายทั้งหมดได้ย้ายไปอยู่กับอีกร่างนึงแล้ว สภาวะที่เล่ามานี้ได้เกิดขึ้นกับกระผมเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น นอกเหนือจากนั้น เวลาเกิดอาการเจ็บป่วยทางกายขึ้นมาอีก ก็ทำได้แค่แยกจิตแยกกายแยกความเจ็บปวดอออกมาจากจิตเพียงแค่นั้นครับ
    เรื่องที่จะสอบถามก็คือกระผมสามารถนำมาต่อยอดในการปฏิบัติภวานาสมาธิได้ยังไงบ้างครับ ผมเป็นเพียงผู้ปฏิบัติใหม่นะครับ ขอคำแนะนำจากพี่ๆสมาชิกด้วยนะครับ
     
  2. กำลังเดินทาง

    กำลังเดินทาง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2018
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +103
    :):) ลุงเท่ง
    เป็นอีกหนึ่งแรงใจน่ะครับ สำหรับเพื่อนร่วมทาง
    ในเส้นทางสายแห่งการดับทุกข์
    ของพระพุทธเจ้า
    ..
    สำหรับคำถามนั้นยังไม่มีบารมีที่ชี้แนะได้
    ..
    แต่
    เดียวรอฟังคำข้อมูล
    แนะนำจากเพื่อนกัลยาณมิตรท่านอื่น
    ที่สามารถบอกเล่าประสบการณ์ในการเดินทางล่วงหน้าไปก่อนแล้ว
    มาบอกเล่าชี้แนะแนวทางปฏิบัติดีกว่า
    ..
    โมทนาด้วยครับ
    กับการฝึกฝนตน
     
  3. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,567
    ค่าพลัง:
    +9,957
    +++ กลุ่มควัน นั้น คือ "กายพลังงาน ของ กายเนื้อ" ไม่มีหน้าตาอะไร มีแต่ รูปร่างเฉย ๆ

    +++ ความ "รู้สึก" ที่มีอยู่ทั้งหมด จะเป็นเรื่องของ กายนี้ เท่านั้น กายเนื้อ "ไม่เกี่ยว"

    +++ กายแห่งความรู้สึกนี้ ผมเรียกมันว่า "กายเวทนา" กายนี้ สามารถ "ถอด" ออกจากกายเนื้อได้

    +++ แบบเดียวกับที่ เกิดขึ้นกับคุณ นั่นแหละ
    +++ ความรู้สึก "สบาย/ไม่สบาย" หนาว/ร้อน แข็งแรง/อ่อนแอ ต่าง ๆ เป็น อาการของกายนี้ ทั้งหมด
    +++ การ "ต่อยอด" ณ ขณะนี้ของคุณ ก็ให้ "ทำความรู้สึกตัว ทั้งตัว" แล้วอยู่กับ ความรู้สึกทั้งตัวนี้

    +++ เมื่อทำได้ สภาวะแห่ง "สัมปชัญญะ" ก็จะทรงตัวจนเป็น "โภชฌงค์ 7" ได้เอง

    +++ ในมรรค 8 ตัวที่ 7 ขึ้นต้นที่ "สัมมาสติ คือ มหาสติปัฏฐาน 4"

    +++ ในมรรค 8 ตัวที่ 8 อันเป็น "ตัวสุดท้าย" นั้น คือ "สัมมาสมาธิ ที่เป็น โภชฌงค์ 7"

    +++ และ โภชฌงค์ 7 ก็คือ "รู้สึกตัว ทั้งตัว" นั่นเอง นะครับ
     
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    การจะต่อยอดก็คือ ใช้รักษาตัวเองก่อน
    ถ้ามีกำลังจิตพอ ก็ไปรักษาคนอื่นๆได้
    และพวกนี้ เป็นอารมย์พื้นฐานของอรูปฌาน
    ที่ในอนาคตมันจะสามารถพัฒนาไปอรูปฌาน ๔
    หรือเข้าไปสภาวะดับหรือนิโรธฯได้ของมันเองครับ
    ต่อก็ต้องมีองค์ประกอบหลายๆร่วมด้วยนะครับ
    ถึงจะเกิดได้ เช่น สมาธิใช้งาน การเดินปัญญา สติ
    สติสัมโภษชงค์ ฯลฯ ส่วนนี้เล่าให้ฟังเฉยๆ


    และจะบอกว่า ปกติเวลาที่ร่างกายมันสามารถปรับธาตุร่างกาย
    ตัวเองได้นั้น จิตตอนนั้นจะเข้าสู่สภาวะความเป็นทิพย์
    และเข้าสู่โหมดอรูปฌานได้ชั่วคราว....
    คือ มันจะปรับร่างกาย เข้าสู่โหมดที่เป็นธาตุ
    หรือทางวิทย์เรียกว่า เข้าสู่โหมดองค์ประกอบสะสาร
    ซึ่งตัวจิตเราเอง ที่ได้จากผลของกรรมฐานนี่หละครับ
    ที่จะทำหน้าที่เป็นสื่อนำแรง ในการปรับองค์ประกอบสะสารเหล่านั้น
    ที่เรามองเห็นเป็นสีขาวขุ่นๆ ก็เป็นการปรับองค์ประกอบสะสารอยู่
    แต่บ้านเราเรียกง่ายๆ ว่าการปรับธาตุครับ

    ถ้าร่างกายปกติ ถ้าเราเข้าโหมดนี้ได้ และร่างกายไม่มีปัญหาอะไร
    เราจะเห็นเป็นสีใสๆ
    ถ้ามีปัญหาเจ๊บป่วยบ้าง จะเห็นคล้ายควันสีขาวๆ
    ถ้ามีปัญหาสะสมพลังงานภายนอกไว้มาก
    เช่น พลังงานต่ำที่ต้องการกำลังบุญ หรือการไม่รู้จักคลาย
    พลังงานตกค้างต่างๆ เราอาจจะเห็นเป็นสีดำ.....

    ลักษณะที่เห็น ได้เวลาพ้นกายไปแล้ว อย่าไปให้ความสำคัญ
    เพราะมันมีฐานจากกรรมฐานทีเราได้ฝึกมานั่นเองครับ
    และพวกนี้ ควรที่จะมองเห็นด้วยตาเปล่าๆแม้ในขณะลืมตาครับ


    วิธีการ
    ให้คุณ ลองพนมมือไว้พระปกตินะครับ
    ให้ใช้สายตา มองผ่านเหนือนิ้วกลางสูงประมาณ ๑ นิ้ว
    ตานิ่งๆ ห้ามขยับซ้ายและขวาเป็นอันขาด
    ส่วนในใจ ให้สวดมนต์ นะโมฯ และ พุทธังฯ ธรรมมังฯ สังฆังฯ
    วนไปเรื่อยๆแบบในใจนะครับ และที่สำคัญคือ ลิ้นห้ามขยับ....

    จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของอากาศ
    รอบๆตัวได้เอง ด้วยตาเปล่าๆนี่หละครับ
    ตรงนี้เป็นพื้นฐานครับ ^_^


     
  5. ลุงเท่ง

    ลุงเท่ง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2018
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +9
    ขอกราบขอบคุณครับ จะลองปฏิบัติตามที่ท่านแนะนำนะครับ
     
  6. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,115
    ค่าพลัง:
    +3,085
    ลองหาตำรา
    วิธีฝึกกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ของวัดพลับมาอ่านครับ มีเรื่องเดินธาตุ รักษาโรค

    ท่านลุงเท่ง มีสมาธิที่ดีมาก พยายามพิจารณา ไตรลักษณ์มากๆครับ โดยเฉพาะ ทุกขัง
    แล้วก็ กายคตาสติ ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...