กระทู้ พระแก้วมรกต พระแก้ว 25 พุทธศตวรรษ เพื่ออนุรักษ์อย่างแท้จริงที่ไม่ฉกฉวยเป็นของตน

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย glassbuddha2009, 22 กุมภาพันธ์ 2019.

  1. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    46519861_1007411222776562_305558103879843840_n.jpg
    ท่านเห็นอะไรหรือไม่ ? ผมว่าน่าเกลียดตรงที่เหมือนกับมีศิวลึงค์กลางองค์พระแก้ว ท่านใดขุ่นเคืองผมขออภัย แต่ถ้าเราสร้างให้ไม่มีศิวลึงกลางองค์พระจะดีกว่าหรือไม่ ?
     
  2. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    001as.jpg
    ท่านลองเปรียบเทียบกับพระแก้วที่ผมสร้างจากปางที่วัดบวรฯมอบให้กรมบัญชีกลางสร้างรุ่นโลหะ แต่ผมแอบสร้างในรุ่นแก้วคริสตัลตันๆไม่กี่องค์ครับ ไม่ต้องมีลิ่มเดือยใจกลางองค์พระ ไม่ต้องมีศิวลึงกลางพระครับ
     
  3. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    46519861_1007411222776562_305558103879843840_n-jpg.jpg
    27971571_190143448243940_4877106161400664534_n.jpg
    ตั้งแต่สมัยที่ปรามาจารย์แก้วสอนผมเมื่อ พ.ศ. 2516 สอนไปสร้างไป ผมคุมการสร้างพระแก้ว 2 แท่นเครื่องคู่ไปกับท่านเลย ท่านบอกว่า ตรงซี่โครงขวาขององค์พระนั้น ช่างแกะแม่พิมพ์เหล็กใช้ลิ่มเดือยใหญ่ ทำให้แก้วตรงนั้นบาง เมื่อชิ้นงานหนามากกับบางมากมาอยู่ด้วยกัน ถือว่าไม่สมดุล และยากแก่การอบลดอุณหภูมิ อบนานก็ไม่ได้ ส่วนบางจะยุบตัว ทำให้องค์พระเอียง ( แต่ผมคิดค้านในใจเพราะเคยเห็นเอียงย้วยไปทางซี่โครงซ้ายก็เคยเห็น ) ช่างแกะแม่พิมพ์เหล็ก ไม่มีความรู้ทางด้านแก้วเลยแม้แต่น้อย รู้แต่ว่า เขาต้องการให้ใช้เนื้อแก้วน้อยที่สุดเท่านั้นเอง
     
  4. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    49645512_1039257819591902_6114936026705166336_n.jpg
    องค์พระพุทธชินราชที่ปรามาจารย์เคยสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2516 - 2517 นั้น ตัวซุ้มแสงแก้วแยกออกเป็นชิ้นหนึ่ง ชิ้นส่วนนี้สร้างค่อนข้างยากตรงที่ เมื่อช่างม้วนน้ำแก้วในเบ้าหลอมแก้ว น้ำแก้วอุณหภูมิในเบ้าคือ 1,400C เมื่อน้ำแก้วติดปลายไม้ซางเหล็กนั้น อุณหภูมิจะลดลง ตอนที่ช่างนำไม้ซางมาหยอดน้ำแก้วลงแม่พิมพ์เหล็กเพื่อปั๊ม น้ำแก้วที่อยู่ในรูปแบบเกือบจะเป็นของเหลว น้ำแก้วนั้นก็ลดอุณหภูมิลงเหลือประมาณ 800 - 900 C แต่ทันทีที่แม่พิมพ์เหล็กปั๊มเสร็จและยกขึ้น ตรงนี้เองที่น้ำแก้วกลายเป็นเนื้อแก้ว อุณหภูมิลดลงไปอีก เหลือประมาณ 700 - 750C ช่างแก้วจะยกพิมพ์เหล็กคว่ำลงบนแผ่นเหล็กหนาบนแท่น แต่ซุ้มแสงยังอ่อนตัวอยู่ จึงทำให้ขาซุ้มแสงสองข้างกระดกนิดนึง ช่างแก้วที่ชำนาญการนี้ ต้องใช้คีมเหล็กจับขาซุ้มให้เท่ากันสองด้าน อันนี้ถือว่าเป็นงานช้า เนื่องจากการปั๊มแต่ละชิ้นใช้เวลาไม่กี่วินาที แต่ต้องมาจับให้ขาเท่ากันนั้น ต้องใช้เวลาต่อชิ้นเพิ่มอีกหลายสิบวินาที ภาษาช่างแก้วเรียกว่า งานช้า ที่สำคัญคือซุ้มแสงนี้ถูกนำเข้าเตาอบเล็กแบบสายพาน ซึ่งใช้เวลาเพียง 4 ชั่วโมง

    หมายเหตุ
    ลิ่มเดือยของพระแก้วบางครั้งในองค์เดียวกันก็ใช้ลิ่มเดือยเล็ก บางครั้งใหญ่ปานกลาง และบางครั้งใหญ่ ก็ขึ้นกับว่า ลิ่มเดือยเหล็กเมื่อแทงเข้าไปในน้ำแก้วไประยะหนึ่ง ลิ่มเดือยเหล็กจะชำรุดได้ และช่างแกะแม่พิมพ์สร้างมาใหม่ไม่เท่ากัน ผิดกับช่างแก้วในต่างประเทศบางโรงงานที่เขามีแผนกสร้างแม่พิมพ์เหล็กเป็นของตนเอง เหมือนกับที่โรงงานผมมีแผนกสร้างแม่พิมพ์ปูนและแม่พิมพ์ไม้เป็นของตนเอง เราจะบังคับงานได้ดีกว่า
     
  5. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    2_img07.jpg 2_img05e.jpg
    การสร้างพระแก้วของต่างประเทศด้วยเทคนิคเป่าแก้วด้วยปอดหรือด้วยปั๊มลมก็ได้ เขาทำให้ผนังผิวชิ้นงานมีความหนาเสมอกันเกือบทั้งองค์ ทำให้การอบง่าย
     
  6. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    2_img08.jpg 2_img06s.jpg
    องค์นี้ก็เช่นเดียวกันครับ ผิวหนังชิ้นงานค่อนข้างเสมอกัน นี่สิครับ งานเมืองนอกที่แท้จริง
     
  7. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    2a01.jpg
    องค์นี้ก็เช่นกัน มีผิวชิ้นงานหนาเสมอกันเกือบทั้งองค์ รวมทั้งในพระเศียรด้วย ในเมืองนอกเขาสร้างชิ้นงาน เขาทำไมถึงมีผิวชิ้นงานเสมอกัน ในขณะที่ไทยสร้าง กลับมีผิวชิ้นงาน หรือจะเรียกว่า ผนังผิวชิ้นงานทำไมบางที่บางบางที่หนา จนทำให้เกิดปัญหา
     
  8. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    0a05.jpg
    องค์นี้จีนหรือไต้หวันสร้างพระแก้วเป่าแก้วด้วยปอด ผิวหรือผนังผิวชิ้นงานหนาเสมอกันทั้งองค์ รวมทั้งในพระเศียรด้วย
     
  9. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    brewpit10a.jpg
    ขวดน้ำหอมของลาลีคฝรั่งเศส เป็นขวดน้ำหอมขนาดไม่ใหญ่ องค์พระเป่าแก้วด้วยปอด ไม่แน่ใจว่าแม่พิมพ์องค์พระของเขาแกะพระเนตรซ้ายไม่สวย หรือว่ามีปัญหาทางเทคนิคนะครับ ฝีมือขนาดลาลีคแล้ว แม่พิมพ์ไม่น่ามีปัญหาครับ แต่ฝีมือการอบยิ่งไม่น่ามีปัญหา ก็งงครับ
     
  10. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    123012.jpg
    องค์นี้ผมเป็นเจ้าของโครงการฯ ได้ให้โรงงานแก้วเจษฏาสร้างพระแก้วหน้าตัก 9 นิ้วเทคนิคเป่าแก้วด้วยปอด ผิวชิ้นงานหรือผนังผิวชิ้นงานมีความหนาสม่ำเสมอกัน เท่ากันหมด ทำให้การอบยิ่งง่าย
     
  11. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    374016649_177.jpg
    หรือขนาดหน้าตัก 3 นิ้วเศษเกือบ 4 นิ้วแบบนี้ เป่าแก้วด้วยปอด น้ำหนักเบามาก มีหลอดไฟ LED มาพร้อมๆ ใช้แบตเตอรี่แบบเล็ก ราคาส่งออกต่างประเทศองค์ละไม่ถึง 40.- บาท แต่ดูเหมือนจะขอให้ซื้อขั้นต่ำกี่ร้อยหรือกี่พันองค์ ก็น่าจะบังคับเพราะราคาถูกเหลือเกินครับ
     
  12. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    0003-jpg.jpg
    จากการสอบถามผู้เฒ่าผู้แก่ที่เกี่ยวข้อง เรื่องการเข้ามาเปิดโรงงานแก้วจากจีนและประเทศต่างๆนั้น ผู้เฒ่าผู้แก่บอกว่า ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2498 คนจีนที่มีเงินมาก ต้องการหนีสงครามเข้าไทย จึงมีคนจีนที่เป็นเจ้าของโรงงานแก้วในจีนเข้ามาเปิดโรงงานแก้วในไทยพร้อมๆกันในปีใกล้เคียงกันหมด ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2498 - 2503 โดยประมาณว่า มีเจ้าของโรงงานที่เก่งวิชาเป่าแก้ว ปั๊มแก้ว แฮนด์เมด และอื่นๆรวมทั้งวิชาสร้างเตาหลอมเตาอบ รวมหมดมากกว่า 5 สาย แต่ละสายมีเงินเข้ามาลงทุนนับล้านบาทในสมัยนั้น สายไท้….. เป็นสายหนึ่ง สายปรามาจารย์ผมเป็นอีกสายหนึ่ง……. สาย อ. ……. เป็นอีกสายหนึ่ง และยังมีอีก 2 สายที่เป็นการรวมตัวของเพื่อนๆหรือหุ้นส่วน รวมเงินเข้าหุ้นต่อมาก็แยกหุ้น แยกโรงงานกันต่อไป นับรวมไม่น้อยกว่า 5 สายเท่าที่ผู้เฒ่าผู้แก่บอกมา นี่นับเฉพาะโรงงานที่เคยสร้างพระแก้วมรกตและพระแก้ว 25 พุทธศตวรรษ จากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ว่า สมัยนั้นความรู้ที่ถือว่าเก่งมาจากจีนและประเทศอื่นๆนั้น พอมาถึงไทยต้องปรับเปลี่ยนกันนานนับสิบๆปี เพราะเคมีที่ขายในไทยเป็นเคมีที่ไม่เหมือนกับของจีน จึงต้องทำการทดลองสูตรใหม่ๆนานมาก ทำให้แก้วมีเนื้อไม่ดีเท่าที่ควร และความรู้เรื่องการอบแก้ว ก็อบไม่ถึงไฟ ทั้งนี้เพราะความรู้สมัยนั้นไม่ถึง และยิ่งถูกกดราคาก็ยิ่งทำให้อบไม่ถึงไฟ จึงทำให้พระแก้วไทยส่วนมากมีปัญหาเสียหายตั้งแต่ออกจากเตาอบมาเลย และยังชำรุดเสียหายตั้งแต่ชำรุดเล็กน้อยไปถึงแตกร้าวมาถึงปัจจุบัน ดังนั้น สายอาจารย์ไหนเรียนรู้เร็วกว่า และมีเหตุให้เขาไม่ต้องแข่งขันมาก เขาก็จะอบได้ถึงไฟ ต้องใช้เวลานานถึงยี่สิบกว่าปี จึงพอจะอยู่ตัว เนื้อแก้วพออยู่ตัว ความรู้เรื่องการอบต้องรอมาถึงหลังปี พ.ศ. 2535 ถึงพออยู่ตัว เพราะงานแก้วในจีนที่เคยทำเป็นแก้วบางๆประเภทแก้วน้ำ แต่พอมาเจอพระแก้วที่เนื้อแก้วหนา มันคนละเรื่อง ตามคำภาษาจีนที่พูดว่า " Wan Shi Kai Shi Nan " ( อ้วนซื่อไคสื่อหนัน ) [ หมื่นกรณีทุกกรณีเริ่มต้นยากทั้งหมด ]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2019
  13. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    เมื่อประเทศไทยมีสำนักสร้างพระบูชาจากโลหะมากขึ้นเรื่อยๆ และมีความมุ่งมั่นจะสร้างพระแก้วจำนวนมากนับแสนนับล้านองค์ ดังนั้น โรงงานแก้วจากจีนจึงเปิดกิจการมากขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากโรงงานแก้วสมัยนั้นยังหลอมแก้วได้ไม่ดี เนื่องจากเคมีของไทยไม่เหมือนในจีน ยังต้องใช้เวลาปรับแต่งสูตรอีกนานนับปี แต่ละโรงงานจึงมีเตาหลอมแก้วเพียงโรงงานละ 1 เตาเท่านั้น ทำให้สำนักสร้างพระแก้วสร้างพระแก้วได้ช้ามาก ส่วนที่ชำรุดเสียหายเพราะอบไม่ถึงไฟและแตกร้าวตั้งแต่ออกจากเตาก็มี และที่ไปแตกร้าวในมือของสำนักสร้างพระหรือลูกค้าของสำนักก็มี ดังนั้นโรงงานแก้วอื่นๆจึงรีบเปิดโรงงานแก้วไล่กวดกันในปีใกล้เคียงกันจำนวนมาก เพราะแทบทุกโรงก็เชื่อในฝีมือของตน
     
  14. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    ตี 5 เช้านี้มาเขียนต่อครับ บันทึกที่ผมเขียนเพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเพื่อทำอดีตให้แจ่มแจ้ง อนาคตจะได้ก้าวต่อไปอย่างถูกต้อง ไม่ทำผิดอย่างในอดีตไม่ว่าจะโดยเจตนาหรือไม่ตั้งใจ
     
  15. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    โดยปกติผมมักพูดหรือเขียนตรงๆ แต่การเขียนที่มีบุคคลที่สามเข้าเกี่ยวข้องจำนวนมาก มันเขียนยากที่จะไม่ให้เขาเหล่านั้นเสียหาย และเขาเหล่านั้นหรือลูกหลานเหลน อาจจะชั่วคนที่ 2 หรือ 3 หรือ 4 แล้ว ยังดำเนินกิจการอยู่อย่างต่อเนื่อง ผมจึงต้องเขียนตรงไม่ได้ คงต้องหลีกเลี่ยงไม่มากก็น้อย อย่างเช่นว่า ต้องใช้คำว่า ส่วนมาก หรือบางส่วน เพื่อหลีกเลี่ยงครับ
     
  16. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2498 คนจีนที่ขึ้นสำเภาจากจีนมาอยู่ในไทยก่อนหน้านั้น ส่วนมากเป็นพวกเสื่อผืนหมอนใบ แต่ก็มีบางส่วนที่เป็นคนมีเงิน ( ประเภทถ้ามั่นใจไทยแล้ว สามารถเปิดโรงงานแก้วด้วยเงินลงทุนนับล้านบาทได้ทันที นี่พวกหนึ่ง ) อีกพวกหนึ่งเป็นพวกเสื่อผืนหมอนใบก็จริง แต่เป็นคนมีเพื่อนมาก มีความสามารถรวบรวมเงินทองจากกลุ่มเพื่อนๆในการเปิดโรงงานแก้วด้วยเงินลงทุนนับล้านบาทเช่นกันได้ทันที ทั้งสองกลุ่มนี้ จึงเปิดโรงงานแก้วขึ้นนับตั้งแต่ได้ข่าวเรื่องสำนักฯสร้างพระโลหะต้องการสร้างพระแก้วจำนวนนับแสนนับล้านองค์ในอนาคต และสำนักเหล่านี้ทวีตัวมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ราวกับดอกเห็ด ทำเหมือนกับว่า โรงงานแก้วในไทยทุกโรงสร้างพระแก้วได้คุณภาพดีจนไม่มีที่ติแล้วเช่นนั้น หารู้ไม่ว่า คุณภาพพระแก้วที่สร้างในไทยในปีนั้นๆ ส่วนมากเนื้อแก้วยังหลอมได้ไม่ดี เพราะสูตรเคมีจากจีนนั้น เมื่อมาใช้เคมีที่ไทยมีขายอยู่นั้น สูตรยังไม่อยู่ตัว
     
  17. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    เรื่องสูตรเคมีการหลอมแก้วนั้น ผมเองอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย อย่าว่าแต่ปี พ.ศ. 2498 หรือ พ.ศ. 250X สองพันห้าร้อยต้นๆเลย แม้แต่ปรมาจารย์ผมที่สอนผมหลอมแก้วในปี พ.ศ. 2516 - 2520 นั้น สูตรเคมีก็แกว่งอยู่ ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ เนื่องจากหลายสาเหตุ การเปลี่ยนที่มาของเคมีแต่ละครั้ง ต้องปรับแต่งสูตรกันใหม่ ถ้าโชคดีก็ปรับแต่งแค่ไม่กี่สิบวัน แต่ถ้าโชคไม่ดีต้องปรับแต่งสูตรเช่น เพิ่มหรือลดเคมีตัวอื่น หรืออาจเพิ่มหรือลดอุณหภูมิ และอาจต้องเพิ่มหรือลดช่วงเวลาการหลอมเข้าร่วม สมัยนั้นผมยังจำได้ว่า เราเคยมีการแก้ไขปรับแต่งสูตรอยู่นานนับปี ( สมัยปี พ.ศ. 2516 ซึ่งปรามาจารย์ที่สอนวิชาแก้วผมท่านหลอมมานับสิบกว่าปีแล้ว สูตรยังแกว่งอยู่ นั่นย่อมแสดงว่า ก่อนหน้านั้นก็คงไม่นิ่งหรือไม่ ? ) ต่อมาคุณพ่อผมได้เชิญอาจารย์วิชาผสมเคมีแก้วเพิ่มเติมจากบางโรงงานอื่นที่เขาเก่งในสีแก้วต่างๆ มาช่วยแต่งสูตรเคมี นั่นแสดงว่า สูตรเคมีมีการปรับแต่งอยู่ตลอดเวลา แม้ในปัจจุบันผมก็ยังเชื่อว่า หากมีการเปลี่ยนที่มาของเคมี ก็ยังคงต้องปรับแต่งเกือบทุกครั้ง
     
  18. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    จากการที่คุณพ่อผมท่านเป็นคนที่มีอัธยาศัยดีมาก และกล้าซื้อตัว กล้าเชิญผู้ที่มีประสบการณ์เข้าร่วมงานกับท่าน ที่โรงงานหลอมแก้วที่ผมเป็นผู้จัดการฝ่ายผลิตนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516 นั้น เหมือนแหล่งชุมนุมของเหล่าอาจารย์และเหล่าช่างจากหลายโรงงานมาก จึงเป็นแหล่งที่มาของข่าวต่างๆจากโรงงานอื่นๆด้วย เพราะปรามาจารย์ผมก็นับว่าเป็นต้นของโรงงานแก้วสายหนึ่งซึ่งมีลูกศิษย์ไม่มากนัก เนื่องจากท่านไม่สอนใครง่ายๆ ลูกศิษย์สายไต้หวันท่านหนึ่งซึ่งผมรู้จัก ปัจจุบันโรงงานแก้วของศิษย์ท่านนี้ยังทำโรงงานแก้วอยู่ เมื่อมาผนวกกับอาจารย์สอนผสมสีในแก้วจากอีกสายหนึ่ง ผมจึงเหมือนจุดเชื่อมของอาจารย์วิชาแก้วในสมัยนั้นของอาจารย์ 2 สาย และยังมีช่างแก้วที่คุณพ่อผมซื้อตัวมาอีกจากอีก 2 สาย ดังนั้นที่โรงงานแก้วที่ผมเป็นผู้จัดการอยู่สมัยนั้น จึงเหมือนเป็นที่รวมของ 4 สายงาน

    ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2548 ผมได้ขอให้โรงงานแก้วเจษฏาสร้างพระแก้วหน้าตัก 9 นิ้วให้ผมจำนวน 500 องค์ ในครั้งนั้นท่านใช้เวลาอยู่ประมาณเกือบ 1 ปีในการสร้างองค์กลวงเป่าด้วยปอด โรงงานแก้วเจษฏาก็มาจากอีกสายหนึ่งคือสายไท้…. รวมแล้วชีวิตผมได้คลุกคลีกับ 5 สายอาจารย์วิชาแก้วในไทย ซึ่งถือว่าทุกสายที่ผมเข้าคลุกคลีล้วนมีส่วนเป็นสายที่เคยสร้างพระแก้วมรกตพระแก้ว 25 พุทธศตวรรษมาแล้วทั้งสิ้น เพราะทุกโรงงานต้นสายทั้งหมด เคยสร้างมาตั้งแต่เปิดโรงงานเมื่อ พ.ศ. 2498 - 250X ทุกโรงงาน
     
  19. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    ในปี พ.ศ. 2516 ที่ผมเริ่มเข้ามาเป็นผู้จัดการฝ่ายผลิตนั้น คนงานมีเพียง 2 กะ คือกะกลางวันทำงานตั้งแต่ 08.00 น. - 17.00 น. และกะกลางคืนซึ่งทั้งหมดเป็นช่างหลอมแก้วและช่างเฝ้าเตาอบลดอุณหภูมิ ช่างทั้ง 2 กลุ่มนี้จะมารับงานตั้งแต่ 17.00 น. - 08.00 น. ต่อมาผมเห็นว่า บุคคลเหล่านี้ถูกเอารัดเอาเปรียบด้านเวลาการทำงานมากเกินไป ผมจึงจัดการให้มี 3 กะ กะที่ 2 ผมให้เป็นเวลา 17.00 น. - 24.00 น. กะที่ 3 เป็น 24.00 น. - 08.00 น. ทำให้คนงานกะกลางคืนเขาได้รับการพักผ่อนเพียงพอต่อสุขภาพของเขา แทนที่จะต้องผ่านช่วงเวลาทำงานถึง 15 ชั่วโมงต่อคืน ก็ลดเหลือเพียงครึ่งหนึ่งให้เหมือนคนงานกะกลางวัน

    และผมก็ไม่ได้ห่วงว่า จะเกิดความผิดพลาดในกะกลางคืน เพราะภายในโรงงานแก้วที่ผมเป็นผู้จัดการอยู่นั้น เรามีบ้านพักของปรามาจารย์ซึ่งท่านอยู่ทั้งครอบครัว มีบ้านพักผมและน้าชายซึ่งน้าชายก็พาครอบครัวมาอยู่ด้วยทั้งครอบครัว และยังมีบ้านพักหัวหน้าซึ่งท่านก็อยู่กันทั้งครอบครัวเหมือนกัน หากจะเกิดความผิดพลาดใดๆ ช่างเฝ้าเตาและช่างหลอมแก้วจะกดกระดิ่งเรียกหัวหน้าก่อน และปรามาจารย์และผมกับน้าชายได้ตลอดเวลา นี่คือสิ่งที่โรงงานแก้วที่ผมเป็นผู้จัดการอยู่สมัยนั้นเราเป็นแบบนี้กัน
     
  20. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    ย้อนกลับไปที่ปี พ.ศ. 2498 ที่โรงงานแก้วไท้…... สมัยนั้นเขาใช้เตาหลอมแก้วขนาด 6 เบ้าและเป็นเบ้า 150 kg. เนื่องจากสูตรเคมีแก้วยังแกว่งอยู่ จึงไม่ใช้เบ้าใหญ่ขนาด 350 kg. ใน 6 เบ้านี้ แต่ละเบ้าคือแต่ละสีของน้ำแก้ว ใส1 เขียว1 น้ำเงิน1 ม่วง1 นม1 ชาขวดเบียร์1 ทำการสร้างพระแก้วมรกตและพระแก้ว 25 พุทธศตวรรษตั้งแต่เปิดโรงงาน ในขณะเดียวกันโรงงานแก้วไท้..….. ก็มีการสร้างชิ้นงานแก้วอื่นๆด้วย มีที่เขี่ยบุหรี่ ตาไฟรถสิบล้อ โป๊ะแก้วโคมไฟ งานที่ค่อนข้างทำให้งานอื่นถูกเบียดไปคืองานโป๊ะ เพราะงานโป๊ะแก้วโคมไฟใช้น้ำแก้วสีใสกับสีนมมากที่สุด ดังนั้นเบ้าหลอม 6 เบ้าก็จะกลายมาเป็น สีใส 3 เบ้า สีนม 2 เบ้า และสีอื่นๆ 1 เบ้า ( เปลี่ยนสีไปวันละเบ้า ) งานสร้างพระแก้วจากโรงงานไท้…. จึงถูกเบียดทั้งจำนวนปริมารน้ำแก้วและเวลาไป เหลือเพียงวันละ 1 เบ้าเท่านั้น น้ำแก้วเพียงวันละ 150 kg. นำมาสร้างพระแก้วได้เพียงไม่กี่สิบองค์ เนื่องจากน้ำแก้วครึ่งเบ้าล่างในสมัยนั้นก็ใช้การไม่ได้ เพราะแก้วมีฟองและเส้นมาก ทั้งนี้เพราะคุณภาพแก้วสมัยนั้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...