ร่วมทำบุญบูชา ชุดสืบทอดกลับเพชรสาปมาร(พระผู้มาโปรดยอดไม้เท้าโองการพ่อครู) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,321
    ค่าพลัง:
    +17,483
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่สุรวุฒิ ED 8363 0856 3 TH
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,321
    ค่าพลัง:
    +17,483
    มีเล่าประสบการณ์ด้านทำมาหากินเข้ามาเดี๋ยวจะยกมาเล่าพรุ่งนี้นะครับ ที่จริงผมชอบอ่านประสบการณ์ทำนองนี้มากกว่าไปรอดตายหรือทำอะไรขาดสติมาแล้วรอดหวุดหวิด เพราะอย่างน้อยก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำมาหากินที่มันแน่นอนและมั่นคงกว่าการลงทุนหรือการเสี่ยงโชค พรุ่งนี้ติดตามพูดคุยกันนะครับ
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,321
    ค่าพลัง:
    +17,483
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ก็มีประสบการณ์ขององค์พระสูญทุกข์เข้ามา พี่คนนี้ภายหลังผมมาทราบว่าปกติเขาเป็นคนชอบท่องคาถาพระปัจเจกโพธิ์โปรดสัตว์มาก คือท่องได้ทุกเวลา มีเวลาก็ท่อง ท่องไปจนเหมือนจะติดเป็นการภาวนาคาถาในทุกสถานที่พอเรานึกออกรู้ตัวก็ท่องแบบนี้

    หลังจากได้องค์พระสูญทุกข์ไป พี่เค้าว่าคืนแรกก็มาเลย องค์เหล็กไหลท่านออกมาให้เห็น เป็นผู้ชายผิวสีแดงบึกบึนมากสูงใหญ่ ปากหนาๆเหมือนใบหน้ารูปปั้นรูปสลักบนยอดปราสาทขอม ท่านมากับบริวารและแนะนำตัวว่าท่านเป็นผู้นำ เป็นเจ้าชีวิต พี่เค้าว่าอยู่ดีๆมาพูดแบบนี้ตอนนั้นก็ยังงงๆไม่ทันมีสติเลยถามท่านไปว่าผู้นำประเทศตอนนี้ไม่ใช่บิ๊กตู่หรอ เอ๊ทำไมบิ๊กตู่บึกบึนได้ขนาดนี้ ท่านก็ยิ้มๆไม่ตอบอะไร(พี่เค้าว่าตอนนั้นลืมคิดว่าท่านบอกว่าเป็นเจ้าชีวิต จิตมันไปคิดอยู่แต่เป็นผู้นำ) แล้วเวลาท่านจะนั่งจะนอนก็จะมีบริวารคอยจัดแจงที่นั่งที่นอนให้อยู่ในปราสาทของท่าน พอนอนได้ท่าสบายใจแล้วหน้าท่านก็ยิ้มอยู่ตลอดเวลาและหันหน้ามาคุยกับตัวพี่เค้า บอกพี่เค้าว่าท่านป่วย

    เรื่องของเรื่องคือพี่เค้าก็งงว่ามาบอกเราทำไม อยู่ดีๆมาบอกเราว่าตัวเองป่วย บอกเราแต่สีหน้าท่านไม่เหมือนคนป่วยดูเหมือนจะแกล้งพูดแหย่เราเพราะท่านพูดไปยิ้มไป แล้วก็มาถึงบางอ้อที่พระสูญทุกข์นี่เอง พี่เค้าว่าเห็นเป็นเหล็กไหลไงพอได้มาก็จับแช่น้ำผึ้งบ้าง แช่น้ำล้างน้ำผึ้งออกบ้าง เสร็จแล้วก็เอาองค์พระมาผึ่งแอร์ให้แห้งทำวนๆกันแบบนี้อยู่ทั้งวันคิดว่าอยากให้ท่านเสพย์น้ำผึ้ง ท่านเลยออกมาเย้าว่าท่านป่วย พี่เค้าว่าเพิ่งจะเคยเห็นเทพทำอะไรตลกๆก็หนนี้เหมือนท่านอยากจะบอกเราว่าไม่ต้องเอาไปแช่แต่ท่านไม่พูดตรงๆ คงอยากจะให้เราคิดว่าท่านไม่ต้องการแบบนี้

    แล้วทีนี้ท่านก็แนะนำพี่เค้าว่าก่อนจะท่องคาถาพระปัจเจกที่บริกรรมอยู่ประจำ ให้ขึ้นต้นด้วยนะมามีมาก่อน พี่เค้าก็จำได้แม่นในฝันว่านะมามีมา พอกราบเท้าท่านก็สะดุ้งตื่นแล้วก็โทรมาเล่าให้ผมฟัง

    อันนี้ต้องบอกก่อนว่าไม่รู้จะเป็นเรื่องบังเอิญรึเปล่าเพราะผมเองก็ภาวนาประจำบทพระปัจเจกโพธิ์นี่แหละ และก่อนขึ้นบทนี้พ่ออาจารย์ท่านเคยแนะนำว่าให้ท่องบทนะมามีมามหาลาภา อิติพุทธัสสะ สุวัณณังวา ระชะตังวา มณีวา ธนังวา พีชังวา อัตถังวา ปัตถังวา เอหิ เอหิ อาคัจเฉยยะ อิติมีมานะมามิหังแล้วก็ว่าสัมปะจิตฉามิพรหมมาจะมหาเทวา...ก็ว่าไป เลยบอกพี่เค้าว่าอาจจะเป็นบทนี้ก็ได้นะลองท่องดูสิ แต่..###เน้นแต่ตัวโตๆใหญ่ๆเลย ถ้าจะเอาให้ขลังก็ไม่ต้องท่องตามผม เพราะว่าถ้าจะเอาให้ขลังจริงๆเทพเขาให้มาแค่ไหน เรียกว่าเรารับมาอย่างไรก็ใช้ไปอย่างนั้น ท่านให้ว่าแค่นะมามีมาก่อนต่อปัจเจกโพธิ์ที่ท่องประจำก็ว่าไปแค่นั้น เพราะนั่นมันเป็นกรณีของพี่ไม่ใช่กรณีของผม เพียงแค่บอกเขาว่าเออเเปลกเพราะขึ้นด้วยนะมามีมาเหมือนกัน

    พี่เค้าว่าเริ่มนึกถึงหน้าองค์เทพที่ไม่รู้ว่าเป็นใครคนนั้น ซึ่งผมเดาว่าน่าจะเป็นองค์อวตารของครูพระสยมที่ลงมาเป็นกษัตริย์ขอมในยุคใดยุคหนึ่งจากที่ฟังพี่เค้าเล่าว่าหน้าตาเหมือนรูปสลักยอดประสาทขอมเราก็ว่าน่าจะใช่ล่ะนะ พี่เค้าว่านึกหน้าท่านก่อนแล้วสวดคาถาไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าคือมันดี ผลมันออกมาดี จากการค้าขายที่ฝืดเคืองไม่รุ่งไม่ปังยอดไม่เยอะเหมือนตอนฟอร์มดีๆแต่ก็ไม่เคยขาดทุน แค่กำไรมันน้อยลง อยู่ดีๆมันเปลี่ยนไปเหมือนสมัยก่อน พี่เค้าว่าบรรยากาศความรู้สึกสมัยเก่ามันกลับมาเลยตอนที่เราเคยหาเงินได้กำไรวันละสองสามหมื่น พี่เค้าเล่าว่านี่นะตั้งแต่เศรษฐกิจฝืดๆไม่เคยขายได้แบบนี้เลย น้อยสุดวันละสี่ห้าพันก็แทบจะเข้าเนื้อแล้วเพราะของทุกอย่างแพงขึ้นวัตถุดิบต้นทุนก็สูงขึ้น แต่นี่กลับขายได้เหมือนสมัยเปิดร้านแรกๆติดๆกันอย่างนี้ พี่เค้าจึงว่าองค์พระสูญทุกข์นี่ทำขลังใช้ได้เลย พี่เขาก็ขายของไปบริกรรมไปแบบนี้เขาว่าดีขึ้นมาก จะคอยดูผลในระยะยาวไปเรื่อยๆ เราก็บอกเขาไปว่าทำอะไรทำให้ดี ทำของกินก้ทำให้อร่อยอย่าไปใช้พวกชูรสเยอะ ถ้าฝีมือเราไม่ตก ผมเชื่อว่ายอดหนนี้จะไม่ตกแล้วแหละ

    ก็นำมาเล่าสู่กันฟังรอบเช้าๆ เผื่อใครเป็นคนชอบภาวนาเหมือนกัน และเผอิญท่องบทนี้อยู่ อาจจะลองเพิ่มเข้าไปตามศรัทธาก็ได้ หรืออาจจะฟังผ่านหูคิดว่าไม่ใช่เรื่องของเราแล้วข้ามไปก็ได้ แต่ลองไว้ก็ไม่เสียหายอะไรนะสำหรับผม แล้วเดี๋ยวมาติดตามพูดคุยกันเรื่อยๆอีกที

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,321
    ค่าพลัง:
    +17,483
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ศิระ ED 8363 1924 3 TH

    พี่เมธาพันธ์ ED 8363 1925 7 TH
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,321
    ค่าพลัง:
    +17,483
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ช่วงนี้มีคนถาม ว่าเดือนนี้จะมีออกของราคาเบาๆแบบคุ้มๆมั๊ย ก็เดี๋ยวเอาไว้ติดตามพูดคุยกันอีกที ในส่วนตะกรุดมหาสะท้อนมีถามกันมาเยอะตอนนี้ก็ยังไม่มีนะครับ
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,321
    ค่าพลัง:
    +17,483
    3 ชุดตะกรุดศักดิ์สิทธิ์ประจำสำนักที่ออกให้บูชายากที่สุดทั้ง 3 รูปแบบ...ยังจำกันได้มั๊ยว่ามีอะไรกันบ้าง ### สิทธิลาภ , สิทธิโชค , สิทธิชัย

    วิชาทั้งสามหรือที่เรียกว่าไตรเวทย์ประจำตัวของพ่ออาจารย์ เป็นวิชาที่ลึกมากและโชกโชนด้วยประสบการณ์ที่สร้างชื่อให้พ่ออาจารย์มานาน หากแต่พ่ออาจารย์ได้หยุดสร้างไปนานแล้ว จะพลิกกลับตำนานขึ้นมาใหม่เป็นตะกรุดดอกเล็กที่ท่านว่าพกเพียงหนึ่งแต่ได้คุณถึงสามซึ่งท่านซุ่มทำไว้ยาวนาน ทั้งยังอุดด้วยผงเด็ดของสายวิชาที่มีแรงครูสูงถึงขั้นตอนที่ลบผงนั้น ศัตรูและผู้ที่คิดร้ายต่อพ่ออาจารย์ท่านได้ตายตกไปในตอนนั้นซึ่งเป็นเรื่องเมื่อนานมาแล้ว ผงชุดนี้ท่านจึงหวงและถือว่ามีอาถรรพ์มาก ใครชอบของเล็กแรงๆไม่จัดตัวนี้ก็ถือว่าพลาดแน่ๆแล้ว เอาไว้ติดตามกันพรุ่งนี้นะครับ
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,321
    ค่าพลัง:
    +17,483
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดมนต์พระกาฬอุดมลาภพรพรหมจักรพรรดิ์(มีลาภกอบโชคโกยชัย)

    3 ชุดตะกรุดศักดิ์สิทธิ์ประจำสำนักที่ออกให้บูชายากที่สุดทั้ง 3 รูปแบบ...ยังจำกันได้มั๊ยว่ามีอะไรกันบ้าง ### สิทธิลาภ , สิทธิโชค , สิทธิชัย วิชาทั้งสามหรือที่เรียกว่าไตรเวทย์ประจำตัวของพ่ออาจารย์ เป็นวิชาที่ลึกมากและโชกโชนด้วยประสบการณ์ที่สร้างชื่อให้พ่ออาจารย์มานาน หากแต่พ่ออาจารย์ได้หยุดสร้างไปนานแล้ว ครานี้จะพลิกกลับตำนานขึ้นมาใหม่เป็นตะกรุดดอกเล็กที่ท่านว่าพกเพียงหนึ่งแต่ได้คุณถึงสาม ด้วยรุ่นเก่านั้นหลายคนบอกว่าดอกใหญ่และน้ำหนักมาก ห้อยดอกเดียวก็เต็มตัวแล้ว พ่ออาจารย์ท่านจึงคิดมาตลอดที่จะประยุกต์ทำตะกรุดทั้งสามเป็นดอกเล็กๆเพื่อหวังประโยชน์ให้คนใช้สามารถห้อยได้และใช้ได้รอบด้าน

    ตะกรุดศักดิ์สิทธิ์ประจำสำนักที่ออกให้บูชายากที่สุดทั้ง 3 รูปแบบ

    - ตะกรุดสิทธิลาภ ตะกรุดสิทธิลาภนี้ท่านสร้างโดยวิธีการลงถมพร้อมกับเลือกพระยันต์ลงตะกรุดเอง ท่านว่าเพื่อให้ได้ลาภผลต่อเนื่องไม่ขาดสายท่านจึงตั้งใจทำมาก ชนิดที่ว่าคนพกตะกรุดต่อให้เธอหนีลงน้ำเขายังตามเอาไปให้เธอในน้ำขนาดนั้นทีเดียว ตะกรุดนี้มีชื่อเต็มว่าพระเจ้าให้ทรัพย์ คำว่าพระเจ้านี้ไม่ได้หมายถึงพระเป็นเจ้าที่ไหน แต่หมายถึงพระพุทธเจ้าเเละพระสงฆ์อรหันต์ทั้งหลายที่เรียกสั้นๆว่าพระเจ้าหรือเจ้ากู พ่ออาจารย์ท่านเลือกยันต์เกี่ยวกับพระสีวลีลงเต็มสูตรซะเป็นส่วนใหญ่ท่านเล่าว่าครูที่สอนท่านนั้นมีเมียร่วมร้อยอยู่ด้วยกันได้ไม่ทะเลาะกันซักคนเป็นเราๆนั่นทำไม่ได้เเน่ ครูท่านเองก็ไม่ได้ใช้วิชาอะไรมากท่านใช้เพียงมนต์พระสีวลี(งงมั้ย) ปกติจะเข้าใจว่าพระสีวลีเป็นเรื่องลาภผลเงินทอง เเต่พ่ออาจารย์กล่าวว่านั่นก็ถูกเเต่ยังมีอีกมากกว่านั้น ท่านว่ามันรวมไปหมดทั้งโชคที่ได้จากสัตว์สองเท้าด้วย ท่านว่าถ้ารู้ ถ้าทำเป็น ปลุกขึ้น มนต์พระสีวลีนี้จะให้ดีกว่าขุนแผนก็สามารถทำได้ ถือเป็นของสูงอาราธนาไว้ต่ำกว่าเอวไม่ได้ ท่านบอกว่าผู้บูชาจะเจริญด้วยมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติเเละนิพพานสมบัติทีเดียว ที่สำคัญไปไหนไม่มีใครกล้าเกลียด(ถ้าไม่ทำตัวเเย่จนเกินไป) เป็นมหานิยมเเก่คนหมู่มาก

    - ตะกรุดสิทธิโชค แค่ได้ครอบครองไว้ก็ถือว่าได้โชคใหญ่เเล้ว ผู้ที่ได้ตะกรุดชนิดนี้มีบุญวาสนาในตัวเองส่วนหนึ่ง กับทั้งต้องเป็นคนที่ศรัทธาเเละมีปฏิปทาที่ดีกับพระศาสนา มีวาสนาผูกพันธ์กับเทพเจ้าพระองค์นี้(ครูบรมพรหม)เพราะว่าเป็นตะกรุดที่พระพรหมให้สร้าง และปลุกเสกโดยการเชิญองค์ท่านลงมาเสกให้ท่านทำของท่านเองเราไม่ได้ยุ่ง เพียงเเค่เจริญพระพุทธคุณพระธรรมคุณ พระสังฆคุณเฉยๆ ที่เหลือเป็นหน้าที่ของท่านล้วนๆท่านว่าท้าวสหัมบดีพรหมท่านรักและเป็นห่วงมนุษย์มาก มากพอกับที่พ่อคนหนึ่งจะรักและเป็นห่วงลูกที่พรากไปจากอกได้ จะเลวชั่วหรือยากดีมีจนก็เป็นเพราะกรรมเเละการกระทำของเราปรุงเเต่ง เเต่ในบางเรื่องบางปัจจัยหากลูกๆนึกถึงพ่อก็จะสามารถช่วยให้ผ่านพ้นเเละเปลี่ยนเเปลงชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ อย่าลืมว่าท่าคือพรหมสูงสุดที่ทรงอภิสิทธิ์เด็ดขาดและรุนแรงที่สุด เป็นพรหมของชาวพุทธเราโดยแท้ ไม่ใช่พรหมที่จะลิขิตชะตามนุษย์แบบพราหมณ์ เช่นนั้นตะกรุดสิทธิโชคจึงเป้นดั่งขุมพลังของโชคซ้ำซ้อนที่จะคอยช่วยอนุเคราะห์ลูกที่มีจิตศรัทธาในองค์พรหม หรือลูกที่คิดถึงพ่อพระพรหมเช่นนั้น

    - ตะกรุดสิทธิชัย พ่ออาจารย์ท่านระลึกอยู่เสมอว่าตะกรุดคือเครื่องคาดของพระมหากษัตริย์ที่พระองค์ทรงใช้ในเวลาสำคัญเวลาพระองค์ต้องการกำลังใจเพื่อเผชิญเหตุการณ์วิกฤติเเละสำคัญของบ้านเมือง ดังนั้นพ่ออาจารย์จึงตัดสินใจทำตะกรุดมหาจักรพรรดิ์มาลาเเบบเต็มสูตร(สิทธิชัย)เพื่อระลึกถึงคุณพระนเรศวรมหาราชที่เคยใช้พระยันต์นี้ออกรบผจญศึกสงครามมานักต่อนัก ด้วยตะกรุดนี้ถือเป็นเครื่องสูงท่านว่าหากลงเต็มสูตรก็ต้องดูด้วยว่าคนใช้รับได้รึเปล่า ที่ดูคือดูว่ามีบุญมีบารมีพอที่จะรับตะกรุดระดับนี้ไปใช้ได้มั้ย เฉพาะตะกรุดสิทธิชัยนี้มีเงินมาวางท่านก็ไม่ทำให้ ท่านว่าถ้าเขารับไม่ไหว ชีวิตจะพังเอาง่ายๆ เพราะเป็นตะกรุดที่ผูกขึ้นเพื่อพระมหากษัตริย์ เป็นตะกรุดสำหรับผู้มีบุญญาธิการสูงไว้ใส่สำแดงพระราชอำนาจ เมื่อเราเอามาทำก็ควรเลือกคนที่จะรับด้วย พุทธคุณตะกรุดนี้ท่านว่าดุจผู้ครอบครองมีเเก้วสารพัดนึกอยู่ในมือ ปรารถนาจะใช้อะไรก็ง่ายปานนั้น ที่สำคัญ ตะกรุดดอกนี้กล้าพูดว่าไม่มีพุทธคุณด้านไหนเลยที่ไม่มี เเละไม่มีตะกรุดใดที่จะประเสริฐเท่านี้ ### ใครที่สอบถามกันมาเรื่อยๆจะทราบว่าเฉพาะตะกรุดสิทธิชัยนั้นท่านเลิกลงไปถาวรแล้วเพราะครบกำหนดที่ชีวิตท่านจะลงได้นานแล้ว แม้มีคนขอบูชาหรือจะหาเงินหาทองมากองให้เท่าไหร่ท่านก็ทำให้ไม่ได้

    ตะกรุดทั้งสามนี้มีที่มาสูงไม่ใช่เล่น สืบเนื่องจากพ่ออาจารย์ท่านได้รับนิมิตโดยตรงจากครูใหญ่ท่าน(องค์พรหมสหัมบดี) พ่ออาจารย์บอกว่าท่านให้สร้างตะกรุดขึ้นมา 3 ชนิด เพื่อเอาไว้ช่วยเหลือคนโดยเฉพาะ พร้อมประทานชื่อให้เสร็จสรรพ คือสิทธิลาภ สิทธิโชคและสิทธิชัย ด้วยท่านจัดว่าตะกรุดทั้งสามนี้ลงได้ยากเสียยิ่งกว่าอะไร จัดเป็นของที่ทำได้ยากและให้บูชายากกว่าจะได้ซักดอกนั้นท่านพิถีพิถันมาก นอกจากจะดีด้านโชคลาภเป็นมหาชัยอย่างถึงที่สุดแล้ว ท่านยังแปลงสูตรใส่ยันต์เฉพาะของท่านให้เป็นมหานิมมหาหลงแก่ชนทั้งโลก ท่านว่ายกตะกรุดทูนหัวเเตะหน้าผากเป็นเสน่ห์ไปหาผู้หญิงก็รัก โทษถึงตายเห็นหน้าเข้าทำไม่ลงรักยิ่งกว่าลูก ทั้งยังใช้ป้องกันสิ่งที่มองไม่เห็นที่คิดจะประทุษร้ายเราคล้ายๆเป็นพยนต์ชนิดหนึ่ง เวลาจะออกไปไหนหรือก่อนจะนอน หลังจากสวดมนต์ไหว้พระเสร็จให้อธิษฐานกับตะกรุดว่า ตัวกู(คนของกู)อย่าทำ ถ้าเป็นคนอื่นให้ทำเถิด หลับได้สบาย ภูติพรายที่ไหนก็ไม่ได้เข้าใกล้ สิ่งที่มาหลอกหลอนกระทำตัวเราและคนใครอบครัวเราเขาจะไม่แตะต้องเราทั้งสิ้น ท่านลงไว้ครบถึงขนาดถ้าจะเข้าหาผู้หญิงสะกดขึ้นเรือนเขาได้(เป็นสิ่งที่นอกเหนือจากเรื่องโชคลาภซึ่งไม่เเนะนำให้ทำ)เพราะพ่ออาจารย์ท่านลงเพิ่มเติมไปเยอะ

    ปกติตะกรุดทั้งสามนี้คนที่เคยได้รับมักจะถามกันมาว่าอยากจะคคาดทั้งสามเส้นพร้อมๆกันแต่ก็เกินกำลังเหลือเกิน เพราะสามดอกนี้รวมกันยิ่งหนักมาก พ่ออาจารย์ท่านจึงเมตตาทำตะกรุดแทนครูตัวพิเศษนี้ขึ้นมา ท่านว่าเสกพร้อมๆกันกับเวลาที่ท่านทำตะกรุดทั้งสามนั้นแหละ ใช้แทนกันได้เลยทั้งยังมีน้ำหนักเบาห้อยคอได้ดอกเดียวเอาอยู่ ตะกรุดครูทั้ง 3 ชนิดของพ่ออาจารย์นั้นถือเป็นของสูงของศักดิ์สิทธิ์ที่พ่ออาจารย์ได้รับสื่อให้สร้างจากองค์พรหมสหัมบดี ดังนั้น จึงหายห่วงได้เรื่องเเรงครู หากจะพูดถึงประสบการณ์ลูกศิษย์ที่ได้ไป ก็มีเเต่เจริญขึ้น ที่เท่าเดิมหรือต่ำกว่าเดิมไม่มี เห็นดอกเล็กๆเช่นนี้ก็ลงหัวใจของสูตรวิชาทั้งสามไว้ครบ ท่านว่าถ้าจะเอาเรื่องอานุภาพไม่ได้ดูที่ขนาดและความสวยงาม ดอกใหญ่ใช้ได้เพียงใด ดอกเล็กก็ทำได้เท่านั้นเลยเพราะลงหัวใจไว้ทั้งยังเสกพร้อมกัน ตอนทำตะกรุดทั้งสามนั้นเสกมาทีละดอก ดอกเล็กนี่ก็เสกเก็บมาพร้อมกันเรียกได้ว่าเยอะกว่าเขาเพื่อนเสียด้วย พ่ออาจารย์ว่าวิชาทั้งสามนั้นเป็นวิชาแต่โบราณ พ่อพระพรหมท่านให้พรกำกับไว้ให้คนอาราธนา " มีโชค พิชิตชัย รวยชั่วข้ามวันเป็นเศรษฐีชั่วข้ามคืน สามวันพลิกฟื้น นอนตื่นยิ้มรับเงินทุกวัน " พ่ออาจารย์ท่านว่าแรงครูพรหมนี้ท่านจะนำมาซึ่งสมบัติพัสถานแก้วแหวนเงินทองมากองให้เรา โกยทรัพย์สินศฤงคารเอาสมบัติเทพพรหมมาอุ้มสมชีวิตเราให้อุดมสุขอยู่ดีทวีทรัพย์ ท่านเน้นย้ำว่าตะกรุดดอกนี้ใครมีรวยทุกคนเพราะเป็นสูตรที่ทำได้ยากเย็นแสนเข็ญ

    ครูบรมพรหมท่านล่วงรู้กาลเป็นไปว่าภายหน้าคนทั้งหลายจะใช้ชีวิตกันยากขึ้น ท่านจึงให้พ่ออาจารย์เตรียมทำของวิเศษไว้แต่เริ่ม โดยกำกับเอาไว้ว่าตะกรุดดอกนี้ท่านจะทำเองไม่ได้ หากแต่ต้องไปเอาเงินคนที่ใช้ชีวิตสะดวกสบายมีกินมีใช้ไม่ติดขัด เป็นคนที่เกิดมาก็สบายตั้งแต่เกิดจนตายถึงไม่หาก็มีกิน นั่นคือเป็นมหาเศรษฐีท่านให้ไปบอกเขา ไปเอาทรัพย์ของเค้ามาลงขันทำตะกรุดดอกนี้เพื่อจะใช้แก้เคล็ดชีวิตคนทุกข์ยากโดยเฉพาะ พ่ออาจารย์ท่านจึงบอกกับลูกศิษย์ที่ท่านหมายตาไว้ซึ่งแต่ละคนก็ยินดีอย่างยิ่ง ท่านไม่ได้ขอมาก ท่านขอเพียงทรัพย์ที่เขาเต็มใจให้และควักมาจากกระเป๋าใส่เงินด้วยความยินดีเดี๋ยวนั้นฉับพลันทันที แม้บาทสองบาทท่านว่าก็ใช้ได้แต่วันนั้นด้วยแรงครูดลให้เป็นไป พอทราบว่าเป็นประสงค์ครูพรหมท่านแต่ละคนก็ควักให้กันมาเป็นหมื่นโดยบอกพ่ออาจารย์ท่านว่าขอแค่ทำเสร็จแบ่งมาให้ใช้คนละดอกเท่านั้น(เช่นนี้ตะกรุดนี้ท่านจึงว่าตั้งแต่ยุคเศรษฐกิจทรุดคนเหล่านั้นที่ใช้ตะกรุดนี้ไม่ได้สะเทือนอะไรเลย) พอเขาให้เงินมาเยอะพ่ออาจารย์ท่านว่าตามเคล็ดแล้วจะคืนเขาก็ไม่ได้ ท่านจึงเอาทรัพย์นั้นไปซื้อแผ่นตะกั่วมาเพื่อจะทำตะกรุด โดยครูพรหมท่านสั่งไว้ว่าให้เอาพับล่างสุดเท่านั้นถือเคล็ดที่ว่าพับล่างสุดนั้นรองรับน้ำหนักของตะกั่วทุกพับด้านบนแม้จะหนักเท่าไหร่ก็รับเอาไว้ได้ทั้งหมดด้วยตัวเองเป็นเคล็ดที่ว่าเพื่อคนใช้จะได้รับ(รวย)มากที่สุด แต่เจ้าของร้านตะกั่วเขาเห็นว่าพับล่างนั้นโดนทับจนบี้แบนไปหมดแล้วเขาจึงไม่คิดเงินซักบาทมอบให้ตามแต่ใจอาจารย์จะเอาไปใช้อะไร พ่ออาจารย์ท่านว่านึกแล้วยังขำตอนนั้นกลายเป็นว่าทรัพย์นั้นหมดไปกับการบวงสรวง ท่านว่ามีทรัพย์เท่าไหร่ที่คนเขาลงขันกันมาก็เอามาจัดเครื่องสังเวยเทวดาบวงสรวงเรื่อยๆตอนทำตะกรุด พ่ออาจารย์ท่านว่าเราเสกเก็บมานานหลายปีก็บวงสรวงไปเรื่อยจนทรัพย์หมดนั่นแหละครูพรหมถึงว่าใช้ได้แล้ว พ่ออาจารย์ยังแซวว่าเหมือนครูท่านตั้งใจไว้แต่แรกยังไงก็ไม่รู้ เช่นนี้ตะกรุดรุ่นนี้ท่านจึงถือว่าใช้ทุนสูงมากถึงจะทำให้สำเร็จได้และยังมีแรงครูสูงอย่างยิ่งด้วย

    หากจะใช้ทางโชคลาภ
    ให้นำตะกรุดขึ้นจบหัว ขอบารมีพระสีวลีเถระเจ้า อธิษฐานเอาว่า พระสีวลีเจ้ากู เมื่อครั้งยังทรงพระชนม์อยู่ พระองค์ทรงเป็นที่รักแก่คนทั้งหลายอย่างใด พระองค์มีกฤษดาภินิหาริย์ประกอบด้วยลาภสักการะ ทรัพย์สินศฤงคารมากเพียงไหน ขอบารมีเจ้ากูนี้จงมาช่วยให้เกล้ากระหม่อมเป็นที่รักแก่คนทั้งหลาย เป็นที่รักแก่คนที่เกล้ากระหม่อมปรารถนา ให้เกล้ากระหม่อมมีกฤษดาภินิหาริย์ประกอบด้วยลาภสักการะ ทรัพย์สินศฤงคารมาก เสมอด้วยพระสีวลีเจ้ากูเมื่อครั้งยังมีพระชนม์ชีพนั้นด้วยเทอญ.
    *** หากจะใช้ทางโชคหรือชัยก็เช่นกัน ถ้าใช้ทางโชคให้นำตะกรุดจบหัวอธิษฐานถึงครูพรหม หากจะใช้พิชิตชัยก็ให้จบหัวอธิษฐานถึงคุณพระพุทธเจ้า


    ตะกรุดทุกดอกอุดด้วยผงดำมนต์พระกาฬ
    พ่ออาจารย์ท่านได้นั่งลบถมผงด้วยวิชามนต์พระกาฬ หลังจากนั้นจึงนำผงที่ได้มาปลุกเสกเเละประกอบอิทธิวิธีเข้าว่านยาต่างๆ ท่านว่าผงนี้มีอานุภาพล้นเหลือเพราะว่าหากพระกาฬมาเเปลว่าคนผู้นั้นย่อมไม่รอดเเล้ว ไม่มีใครล่วงพ้นอำนาจของพระกาฬไปได้ คนเเต่โบราณจึงนิยมพูดกันติดปากว่า "เธอรู้จักพระกาฬหรือหาไม่" พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าผงที่สร้างนี้ก็เช่นกัน เป็นการรวมอิทธิคุณ 2 ส่วนเข้าสู่จุดเดียวกัน นั่นคือศาสตร์วิชามนต์พระกาฬ ที่สะท้อนย้อนกลับสิ่งไม่ดี ดำรงค์ไว้ซึ่งคุณธรรมสุจริต หากใครคิดไม่ดีหรือกระทำไม่ดีกับเรา เขาผู้นั้นจะมีอันเป็นไป ให้พินาศฉิบหายย่อยยับเป็นร้อยเท่าพันทวี หลงจากนั้นท่านได้นำผงวิชาพระกาฬนี้มาผสมสูตรตามอิทธิวิธีเเละนำมาบูชาไฟอัญเชิญดวงจิตเชิญญาณพระกาฬแห่งยมโลกขึ้นมา ให้สถิตย์อยู่ที่ทุกอณูผงนี้ด้วยการนิรมาณกายของพระองค์ท่าน พ่ออาจารย์กล่าวว่าจุดนี้เลยจึงจะสำคัญ เพราะวิชามนต์พระกาฬทั้งหลายนั้นเป็นวิชาใช้ฆ่าคน เเต่ปราศจากญาณเเละบารมีเเห่งพระกาฬโดยเเท้จริงสิงสถิตย์อยู่เป็นการตั้งชื่อไปเองเสียเท่านั้น ทำครั้งนี้เราจึงทำผงให้สำเร็จ ทั้งในคติมายาศาสตร์เเละเทวะวิทยา (ผงนี้เฮี้ยนมาก เพราะตอนพ่ออาจารย์ลบถมผงนั้น ได้มีคนที่คิดไม่ดีกับท่านถึงแก่ความตายโดยปัจจุบันทันด่วนจริงๆ)ท่านจึงว่าผงนี้สำเร็จเเล้วมีอาถรพ์เเรงกล้าตามสายวิชา ท่านลงไว้ให้ครบทั้งกันไฟกันฟ้ากันเคราะห์กันกระทำย่ำยีและเสนียดจัญไรทั้งหลาย ปกติวิชามนต์พระกาฬนั้นพ่ออาจารย์ท่านจะไม่ค่อยทำหรือใช้กับเครื่องมงคลนัก เรียกว่ารุ่นไหนที่ลงมนต์พระกาฬนับเป็นที่สุดแล้วจริงๆ มีน้อยมากพอที่จะนับได้ด้วยมือข้างเดียว
    ผงมนต์พระกาฬที่เอามาอุดนี้ท่านเอามาผสมด้วยทรายทองของท่านล้วนๆเพียวๆ(ตามสูตรทำตะกรุดสิทธิลาภ)ก่อนปิดหัวท้าย ท่านว่าเป็นทรายทองที่ได้บริเวณที่ดินของท่านวางกองอยู่แบบนั้นทุกปีตักเท่าไหร่ก็ไม่พร่อง ถึงตักมาใช้ทำเครื่องมงคลหมด ไปหาอีกก็มีวางไว้ที่เดิม เต็มเหมือนเดิมเทวดาเขาทำให้ทุกทีให้เต็มไม่มีพร่องอยู่แบบนั้นถึงถือเป็นเคล็ดแก้อาถรรพ์คนที่ชีวิตยังไม่พอ ยังไม่เต็มทั้งหลาย อาศัยเหตุที่เป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่พร่องเเละเต็มตลอดถือเคล็ดตรงนี้อุดไว้ให้เพื่อผู้บูชาจะได้ไม่พร่องในทรัพย์สินเงินทองเเละมีเต็มไม่รู้จักหมด
    * แต่มีข้อห้ามหนักหนาที่จะต้องจำไว้นั่นคือมีผงคุณวิชานี้แล้วอย่าได้พูดว่าร้ายหรือสาปแช่งใครเด็ดขาดเพราะมันจะเป็นไปตามปากของเรา ควรถือและหมั่นทำบุญอุทิศส่วนกุศลแต่อย่างเดียวเพียงเท่านี้ก็มีพลานุภาพเป็นมหาสวัสดิ์มงคลแก่เราแล้ว ท่านว่าคิดดีพูดดีชีวิตมันก็ได้ดี หัดให้ชินให้มีแต่เรื่องดีๆออกจากปาก ให้พรเขาไปให้ทั่วนั่นแหละตัวเองจะยิ่งเจริญ เห็นมั๊ยว่าครูแต่โบราณท่านฉลาดท่านผูกวิชาขึ้นมาก็อยากให้คนถือทำดีคิดดีพูดดีเอาธรรมเอาข้อปฏิบัติดีๆมาใส่ตัวเอง แม้จะโกรธจะเกลียดใครก็ให้พรเขาไปทำได้แบบนี้ท่านว่าดีจริงๆ


    คาถาบูชา
    โอมนะมะอะอุ นะอะนะอุนะมะ มะอะมะอุมะนะ อะนะอะมะอุอะ อุนะอุมะอะอุ

    *** ตะกรุดมีลาภกอบโชคโกยชัยนั้น พ่ออาจารย์ท่านทำไว้เพื่อให้ใช้แทนตะกรุดทั้งสาม ท่านว่าเป็นของสูงใช้ได้เฉพาะห้อยคอเท่านั้นห้ามลงต่ำ ท่านทำเอาไว้ได้น้อยและที่ออกให้บูชานี้ท่านว่าครูบรมพรหมท่านให้เอาออกมาเพราะอนาคตข้างหน้าเมื่อเกิดวิกฤติขึ้น(ทั้งทางโลก,ทางเศรษฐกิจต่างๆ..)ลูกๆของท่านต้องรอด ตะกรุดนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนค่าอาหารกลางวันเด็กด้อยโอกาสในโรงเรียนที่ขาดแคลนสืบไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดมนต์พระกาฬอุดมลาภพรพรหมจักรพรรดิ์(มีลาภกอบโชคโกยชัย) บูชา 2,500 บาท

    67662879-410085922948011-1063019867642265600-n.jpg
    67406967-633873467022319-3896631876982407168-n.jpg
    67620008-911142539254251-4153371582984617984-n.jpg
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,321
    ค่าพลัง:
    +17,483
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่พิสิษฐ์ ED 8363 3097 2 TH

    พี่เมธี ED 8363 3098 6 TH

    พี่นฐมน ED 8363 3099 0 TH
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,321
    ค่าพลัง:
    +17,483
    ตะกรุดรุ่นนี้ผมขอจำกัดยอดไว้นะครับ พอดีเห็นบางท่านมาสี่ดอกหกดอกของจะไม่ทั่วถึงกัน รุ่นนี้ให้บูชาเต็มที่ไม่เกินยูสเซอร์ละสองดอกนะครับ แบ่งๆกันไปใช้ขอจำกัดยอดต่อท่านแค่นี้นะครับ
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,321
    ค่าพลัง:
    +17,483
    เดี๋ยวพรุ่งนี้ติดตามพูดคุยกันนะครับ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้พูดคุยรอบเช้ากันบ่อย ส่วนใหญ่จะหาบทความมาให้อ่าน บางคนก็เลยมาแหย่ๆว่าอยากเห็นบรรยากาศแบบเก่าๆ ก็จะพยายามหาเรื่องมาพูดคุยกันให้บ่อยมากขึ้นนะครับ
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,321
    ค่าพลัง:
    +17,483
    พูดคุยรอบเช้า

    อรุณสวัสดิ์ครับ วันนี้ก็มาพูดคุยกันสบายๆรอบวันหยุดกันนะครับ เริ่มจากตะกรุดรุ่นล่าสุดก่อนเลยผมขอเรียกตามพี่ท่านนึงว่าตะกรุดสามสิทธิ์ก็แล้วกัน เพราะท่านรวมหัวใจไว้ทั้งสิทธิลาภ,สิทธิโชค,สิทธิชัย ที่บอกเมื่อวานนี้ว่าจะยกมาพูดคุยนี่ก็ต้องย้อนอดีตไปหลายปีเพราะตะกรุดสามตัวนี้อย่างจักรพรรดิ์มาลาเต็มสูตร(สิทธิชัย)นี่ต่อให้มีเงินมากองท่านก็ไม่ทำแล้วเพราะครบกำหนดตามที่ท่านขออนุญาติครูใหญ่ไว้ว่าชีวิตนี้ท่านลงได้เพียงกี่ดอก เท่านี้ เกินกว่านี้ทำไม่ได้...

    ของเก่านั้นคนที่มีวาสนาได้ครอบครองครบทั้งสามดอกเลยก็มี ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะมีของแต่ก็ยากที่จะใช้ เพราะดอกนึงนั้นค่อนข้างมีน้ำหนักมาก บางคนบ่นกับผมว่าทำยังไงถึงจะใช้ได้ครบทั้งสามดอกพร้อมกัน ลงต่ำก็ไม่ได้ หนักก็หนัก ดอกเดียวยังพอทำเนาแต่ถ้าเอาสามดอกมาสะพายมาคาดเอวสลับกันงี้ทำงานไม่ได้เลย หนักมากเป็นกิโลๆ ผมจึงบอกว่านี่เป็นข้อดีของตะกรุดสามสิทธิ เพราะคงจะไม่ได้ยินใครมาโอดครวญแล้วว่ามีครบแต่ห้อยไม่ได้ครบซักที

    แต่ก็อย่าลืมว่าท่านให้ใช้ห้อยคอเทานั้นนะครับอันนี้สำคัญเลย อย่าเอาไปทำพวงกุญแจรถรึเอาไปแกว่งเล่นเพราะเป็นของสูง นี่เมื่อวานมีคนบอกว่าพ่ออาจารย์ท่านออกตะกรุดสามสิทธินี้มาได้เฮกันหลายคนเลย เพราะพี่ๆเค้าวนเวียนอยู่กับตะกรุดสิทธิชัยอยากจะได้กันจริงๆจังๆ เขาว่าอย่างน้อยก็พอมีอะไรใช้แทนกันได้ และถ้าเลยไปพูดถึงมูลค่า แน่นอนว่าถ้าเป็นปกติกว่าจะได้ครบทั้งสามดอกนั้นย่อมเสียเงินเช่ากันเกินหมื่น ผมจึงได้บอกว่าคุ้มเพราะแค่ค่าพิธีบวงสรวงตะกรุดสามสิทธินี้เปิดให้ฟังกันคร่าวๆก็เหยียบๆแสนอยู่แล้ว เอาว่าดอกละสองพันห้านี่ปกติเช่าไม่ได้แน่นอนเพราะกว่าจะทำเสร็จเป็นรุ่นที่ใช้ทุนสูงมาก หากแต่งบบวงสรวงเหล่านี้มีคนมอบให้ พ่ออาจารย์ท่านจึงเกรงใจคนที่ลงขันงบมาจะตั้งไว้ถูกเกินไปแค่หลักร้อยก็ไม่ได้

    อย่างที่บอกไปว่าตะกุดตัวนี้มีประสบการณ์กันมากในหมู่เศรษฐี หรือก็คือกลุ่มคนที่ให้งบมาเพราะตอนทำเสร็จพี่ๆเขาขอตะกรุดกันคนละดอกเอาไปใช้ พวกเขาเอามาเล่ากันว่าช่วงที่เศรษฐกิจตกทุกครั้ง มีม๊อปบ้าง ตลาดมีปัญหา สารพัดเรื่อง พวกเค้าไม่เคยได้รับผลกระทบเลย แต่คนอื่นนี่กลายเป็นยิ่งสูงยิ่งหนาวยิ่งสูงมากก็ยิ่งล้มดัง ล้มมากเจ็บมาก ล้มหายไปตามพิษภัยเศรษฐกิจห็มาก แต่กลุ่มพี่เหล่านี้ไม่มีใครได้รับผลกระทบใดๆรอดมาได้ทุกรายทุกสถานการณ์ชนิดที่ว่าสมบัติไม่มีพร่องมีแต่จะเพิ่มอย่างน่าอัศจรรย์

    นี่เองจึงเป็นประสบการณ์ของตะกรุดสามสิทธิดอกเล็กนี้ที่ตั้งใจจะบอกว่าไม่เก็บกันไว้วันนี้ชีวิตนี้ก็ไม่มีอีกแล้ว ใครที่รอทั้งสิทธิโชค,สิทธิลาภ,สิทธิชัย แล้วจะคิดว่ารอก่อนเมื่อไหร่ก็ได้อีกซักพัก รอครูตาม รอนิมิต เกรงว่าอีกซักสิบปีหรือร้อยปีท่านก็จะทำให้ไม่ได้แล้วคงจะซักพักกันไปยาวๆแบบพักชาตินี้ไปเลย กล่าวง่ายๆว่าแค่สิทธิชัยตัวเดียวก็ลงไม่ได้แล้ว รุ่นนี้ยังดีเพราะท่านทำไว้นานทำไว้แต่เนิ่นๆใครมีก็นำมาห้อยบูชา ภูมิใจกันได้เลยว่าเป็นที่สุดแล้วของหัวใจวิชาทั้งสาม
    เอาไปใช้กันดู ใช้เองเห็นเองว่าดียังไง

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,321
    ค่าพลัง:
    +17,483
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้ก็มีคนถามเข้ามาเรื่องพระนางพญา ก็จะตอบให้เท่าที่ตอบได้นะครับ เขาว่าจริงมั๊ยที่ก้อนกรวดในพระนางพญาจะเป็นทรายธรรมดา เป็นพระหยาบๆเพราะความเร่งรีบในการสร้าง อันนี้ก็ต้องบอกไว้ก่อนว่าเป็นความคิดส่วนตัวนะ ผมว่าปากคนมันพูดไปเรื่อยๆ เค้าเกิดทันรึเปล่าเราจึงต้องไปเชื่อเค้า แล้วก็อีกแหละผมก็เกิดไม่ทันคุณไม่ต้องมาเชื่อผมก็ได้ แต่ในมุมมองของผมมองไม่เหมือนของเค้าเท่านั้น

    อย่าลืมว่าพระนางพญาเป็นพระสกุลช่างหลวง คนเขียนก็เล่าไปมั่วว่าสร้างโดยพระนางวิสุทธิกษัตริย์และพอมารุ่นพระนเรศวรก็สร้างอีก เห็นมั๊ยว่าสร้างติดๆกันเลย แต่เราอย่าลืมว่าคนที่สร้างไม่ใช่ตาสีตาสายายมียายมา หากแต่เป็นกษัตริย์หรือเชื้อพระวงส์ระดับสูงเพราะฉนั้นย่อมต้องควบคุมการสร้างโดยช่างหลวง ถ้าจะเอาเหตุผลว่าเป็นพระเนื้อหยาบเพราะรีบสร้างจึงไม่ได้ปราณีตนัก ด้วยเหตุผลจะนำไปใช้ในสงคราม มีสงครามติดพันจึงรีบเพราะไฟสงครามทำให้สร้างกับแบบรีบๆไม่ได้กรองเนื้อพระองค์พระก็เลยมีแต่ทรายแต่กรวด เป็นงานหยาบๆแบบนั้น

    ทีนี้ผมขอชำแหละนิดนึง ไอ้กรวดที่ว่าเนี่ยมันเป็นกรวดจริงๆหรอครับ ใช่หรอ คนสมัยก่อนนี่นะต่อให้รีบยังไงถ้าเป็นรูปพระศาสดาเป็นเรื่องเกี่ยวกับศาสนาโดยเฉพาะชนชั้นสูงระดับพระวิสุทธิกษัตริย์ด้วยแล้วจะรีบจนแค่ดินก็ไม่มีเวลากรองเป็นไปได้รึเปล่า ถ้ารีบขนาดนั้นพระไม่สู้ไม่ต้องสร้างเสียแต่แรกเลยดีกว่า จริงมั๊ยครับ

    ไอ้ก้อนกรวดที่เค้าว่าเนี่ย ดูยังไงก็เป็นเหล็กไหลตาน้ำชัดๆ ซึ่งของแบบนี้เป็นของดีที่มีอานุภาพมีคุณในตัวเอง มีอิทธิคุณแฝด ไปดูองค์ที่เขาขายหลายสิบล้านหรือองค์ครูบางองค์ที่บอกว่าเนื้อหยาบมีกรวดทราย ไอ้กรวดเค้านี่แหละมองยังไงผมก็เห็นเป็นเหล็กไหลตาน้ำ ไม่เช่นนั้นคนโบราณเค้าไม่หามาใส่หรอกครับโดยเฉพาะพระที่จะทำไว้ใช้ในการสงครามเนี่ยวัตถุดิบที่นำมาสร้างย่อมต้องเป็นของดีมีคุณในตัวเองอยู่แล้ว ส่วนที่เป็นทรายผมก็เชื่อว่าไม่ใช่ทรายธรรมดา หากกรวดในความคิดเซียนพระยังเป็นเหล็กไหลตาน้ำ ทรายก็ย่อมเป็นทรายในบ่อหรือในสถานที่ซึ่งพิเศษจริงๆนำมาผสม

    อันนี้พูดไว้ในความคิดผมคนเดียวนะครับ คนอื่นไม่ต้องเชื่อก็ได้ ก็เห็นมีคนถามผมก็เลยเอามาตอบให้อาจจะไม่ถูกใจใครหลายๆคน แต่อยากให้เชื่อเถอะว่าไม่รู้จะพูดยังไงนะ ไอ้กรวดเนี่ยมันไม่ใช่กรวดจริงๆสำหรับผมนะ ก็ตอบให้แล้วจะพิจารณายังไงที่เหลือก็แล้วแต่ความคิดแต่ละท่านกันเลย เราต้องตอบเป็นกลางๆไว้ก่อน เพราะเราก็มีใช้อยู่แล้วก็เห็นก็ส่องเจอมาแบบนี้ ไปดูองค์ที่แพงแสนแพงที่เขาขายมันก็เป็นแบบนี้ สุดท้ายจึงสรุปว่าแล้วแต่จะเชื่อแล้วกัน แต่ผมไม่เชื่อว่าถ้าติดไฟสงครามจนมีเวลาว่างมานั่งสร้างพระกันได้ขนาดนี้ คนโบราณโดยเฉพาะช่างหลวงจะสะเพร่าจนทำพระเนื้อหยาบเช่นนี้ออกมาได้ แน่นอนว่าที่หยาบมันต้องมีอะไรมากกว่าความเข้าใจของพวกเราแน่ๆ
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,321
    ค่าพลัง:
    +17,483
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้จัดส่งของให้แล้วมาติดตามพูดคุยกันต่อนะ
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,321
    ค่าพลัง:
    +17,483
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่พิสิษฐ์ ED 8363 6247 6 TH

    พี่ธีรนนท์ ED 8363 6248 0 TH

    พี่วิศณุกร ED 8363 6249 3 TH

    พี่กีรติศักดิ์ ED 8363 6250 2 TH

    พี่ณธพรหม ED 8363 6251 6 TH

    พี่ธนากร ED 8363 6252 0 TH

    พี่เมธาพันธ์ ED 8363 6253 3 TH
     
  15. naiburit

    naiburit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    740
    ค่าพลัง:
    +578
    โอนเงินแล้วนะครับคุณกรณ์ รายละเอียดในกล่องข้อความครับ
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,321
    ค่าพลัง:
    +17,483
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ก็มีเล่าประสบการณ์พระสูญทุกข์เข้ามา พี่เค้าว่าองค์พระท่านทำให้ค้นพบและเห็นสาเหตุแห่งกรรมหรือเหตุแห่งปัญหาที่ต้องเจอในชาตินี้ ทำไมเพื่อนคนหนึ่งอยู่ดีๆถึงเป็นศัตรูเราทำลายเรา พี่เขาว่าเห็นหมดเลยชาติก่อนเกิดเป็นอะไรทำกรรมอะไรกันมา ทั้งที่เมื่อก่อนอยากทราบอย่างไรก็ไม่ทราบจนเลิกคิดไปแล้ว ก็เอามาเล่าให้ฟังกันคร่าวๆนะครับฟังหูไว้หูเรื่องแบบนี้ต้องเจอด้วยตนเอง
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,321
    ค่าพลัง:
    +17,483
    เปลี่ยนเส้นลายมือ

    อรุณสวัสดิ์นะครับ ก็พอดีมีคนถามเรื่องการเปลี่ยนเส้นลายมือนี่แก้ไขชะตาชีวิตได้หรือเปล่า เลยจะยกบทความนี้ขึ้นมาให้อ่านกัน

    “เส้น ลายมือไม่ได้ปรากฏบนฝ่ามือของมนุษย์อย่างไม่มีสาเหตุ มันเกิดขึ้นมาจากอิทธิพลของสวรรค์และจากลักษณะเฉพาะตัวของมนุษย์แต่ละคน”จากหนังสือของท่าน อริสโตเติลที่เขียนบันทึกไว้เกี่ยวกับลายมือมนุษย์อริสโตเติล (Aristotle)นักวิทยาศาสตร์ และนักปรัชญาผู้ยิ่งใหญ่ของกรีกโบราณ ท่านเป็นลูกศิษย์ของเพลโต (Plato) อริสโตเติลท่านยังเป็นอาจารย์ของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช

    อริสโตเติล (Aristotle) สนใจศึกษาศาสตร์หลากหลายสาขารวมถึงหัตถศาสตร์ ท่านได้บันทึกไว้ในหนังสือเกี่ยวกับมือมนุษย์ว่า “มือเป็นอวัยวะของอวัยวะ เป็นเครื่องมือของเครื่องมือ” การรับรู้ทางสัมผัสจากมือสามารถทดแทนประสาทการรับรู้ที่สำคัญทั้ง 5 ที่รับรู้ได้จาก หู ตา จมูก ปาก ใครก็ตามที่ตาบอด หูหนวก เป็นใบ้ รวมทั้งไม่สามารถดมกลิ่นได้ หากมือของเขายังสมบูรณ์อยู่ เขาจะรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงจากภายนอกได้ด้วยการใช้มือสัมผัส มือคืออวัยวะที่ทำหน้าที่แทนอวัยวะเหล่านั้น

    หากยอมรับกันว่า"ดวงตาคือหน้าต่างของดวงใจ"ก็คงไม่แปลกถ้าจะบอกว่า "มือคือหน้าต่างของสมอง" ก็คงมีคำถามว่าจะเป็นไปได้อย่างนั้นหรือ ..? ถ้า หากสังเกตเพิ่มเติมจะเห็นว่าสมองกับมือทำงานสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งจนแทบจะ เป็นอัตโนมัติ มนุษย์เราควบคุมหรือสั่งการใดๆ ผ่านมือได้อย่างมหัศจรรย์ การชี้นำ การแสดง การทำงาน จากสิ่งที่เป็นพื้นฐานไปสู่ความละเอียดซับซ้อนมาก ๆ หรือจากเรื่องที่อ่อนโยนสู่ความเข้มแข็ง .หรือโหดร้าย..

    ถาม? เส้นลายมือเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ ? เส้นลายมือเกิดเพิ่มขึ้นใหม่ได้หรือไม่ ? เส้นลายมือเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มขึ้นได้อย่างไร? คนเราสามารถเปลี่ยนแปลงเส้นลายมือตัวเองได้หรือไม่

    ตอบ เส้นลายมือในมือเราเปลี่ยนแปลงได้แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการเกิดเพิ่มขึ้นใหม่ หรือเส้นที่มีอยู่แล้วเปลี่ยนแปลงทิศทางของเส้น หรือแม้แต่บางเส้นที่เคยมีอยู่แล้วหายไป

    การเปลี่ยนแปลงลายมือเส้นเพิ่มขึ้น เส้นลานมือเปลี่ยนแปลงทิศทาง หรือการลดเลือนลง.. หายไป เกิดได้จากหลายเหตุปัจจัย บางเส้นเพิ่มหรือลดลงเลือนหายไปด้วยตัวเราเอง บางเส้นเปลี่ยนแปลงด้วยพลังจากภายนอกหรือเหตุปัจจัยตามสิ่งแวดล้อมหรือธรรมชาติ (ควบคุมไม่ได้) บางเส้นเปลี่ยนได้เพราะการกระทำหรือการเปลี่ยนแปลงของตัวเราเอง (ควบคุมให้เป็นไปตามเป้าหมาย กำหนดทิศทางได้) หรือแม้แต่การศัลยกรรมเลเซอร์เพิ่มเส้นลายมือ

    ในที่นี้จะให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนลายมือด้วยตัวเราเอง เพราะตัวเราเองสามารถกำหนดหรือมีส่วนร่วมเพื่อการเปลี่ยนแปลงลายมือได้อย่างแน่นอน ต่อไปนี้คือขั้นตอนของการเปลี่ยนแปลงลายมือที่จะเกิดขึ้นจากการกำหนด เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่เราต้องการ ดังนั้นจึงต้องจำเป็นที่จะต้องศึกษาหรือทำความเข้าใจว่าเส้นลายมือแต่ละเส้นมีความเชื่อมโยงกับร่างกาย(สรีระ – Body, Physical) , สมองความคิด (จิต- Brain, Think) , ใจ(หัวใจ ความรู้สึก อารมณ์ –Heart, Mind) ของคนเราอย่างไร เมื่อได้ทำความเข้าใจกับโครงสร้างทั้งหมดแล้ว การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ โดยเราเป็นผู้กำหนดหรือควบคุม เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดเป็นไปตามวัตถุประสงค์และเห็นผลในการเปลี่ยนแปลงไปสู่ความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว

    b475bf7c9427a179e31fda933bba992b.jpg
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,321
    ค่าพลัง:
    +17,483
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่เกษมธิดา ED 8363 4454 3 TH

    พี่สายเมธี ED 8363 4455 7 TH

    พี่เมธี ED 8363 4456 5 TH

    พี่ศิระ ED 8363 4457 4 TH
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,321
    ค่าพลัง:
    +17,483
    พรุ่งนี้ใครที่กังวลเรื่องลายมือเดี๋ยวมาติดตามพูดคุยกันอีกทีนะครับ
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,321
    ค่าพลัง:
    +17,483
    การอ่านเส้นลายมือ

    การอ่านลายมือ (palm reading) หรือรู้จักกันในอีกชื่อคือ หัตถศาสตร์ (palmistry/chiromancy) เป็นศาสตร์ที่มีการนำมาปฏิบัติกันทั่วโลก มีต้นกำเนิดมาจากโหราศาสตร์อินเดียและการทำนายโชคชะตาแบบยิปซีโดยมีจุดประสงค์เพื่อประเมินบุคลิกลักษณะหรืออนาคตของบุคคลหนึ่งๆ ด้วยการศึกษาลายมือของบุคคลนั้นๆ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักอ่านลายมือด้วยใจรักในศาสตร์นี้ หรือเป็นคนที่แค่ต้องการหาอะไรสนุกๆ ทำเพื่อฆ่าเวลาและทำให้เพื่อนๆ ของคุณประทับใจ แม้แต่คุณเองก็สามารถเรียนรู้ที่จะมองเห็นและหยั่งรู้ได้ เพียงแค่จับมือใครสักคนหนึ่งขึ้นมาดู


    ถอดรหัสเส้นลายมือ

    [​IMG]
    1เลือกมือมาข้างหนึ่ง. ในทางหัตถศาสตร์ เป็นที่เชื่อกันว่า...
    • สำหรับผู้หญิง มือขวาคือสิ่งที่เกิดมาด้วยกันกับคุณ และมือซ้ายคือสิ่งที่คุณได้สั่งสมมาตลอดทั้งชีวิต
    • ในทางกลับกัน สำหรับผู้ชายนั้น มือซ้ายคือสิ่งที่เกิดมาด้วยกันกับคุณ และมือขวาคือสิ่งที่คุณได้สั่งสมมาตลอดทั้งชีวิต
    • แล้วยังกล่าวกันว่า คุณสามารถเลือกมือข้างใดก็ได้ให้เป็นมือที่มีอิทธิพลต่อชีวิตในปัจจุบัน/อดีตของคุณ (ส่วนมือข้างที่ไม่ได้เลือกให้มีอิทธิพลก็จะเป็นมือที่บอกเกี่ยวกับชีวิตในอนาคตของคุณ)
      • ความคิดความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวมีอยู่หลายสำนัก บ้างก็กล่าวว่ามือซ้ายแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและสิ่งที่สามารถจะเป็นได้ แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่จะเป็นเสมอไป และถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิต ความแตกต่างของมือทั้งสองข้างก็อาจหมายถึง บุคคลหนึ่งเป็นสิ่งหนึ่งอยู่ หรือเขากำลังจะลงมือทำสิ่งหนึ่ง ซึ่งจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
    [​IMG]
    2 แยกแยะเส้นลายมือทั้ง 4 เส้นหลัก. เส้นลายมือเหล่านี้อาจมีรอยขาดจากกันในเส้นหรืออาจมีขนาดสั้น แต่อย่างน้อยจะมีสามในสี่เส้นที่อยู่บนฝ่ามือ
    • (1) เส้นหัวใจ
    • (2) เส้นสมอง
    • (3) เส้นชีวิต
    • (4) เส้นวาสนา (บางคนเท่านั้นที่มีเส้นนี้)
    3 ตีความจากเส้นหัวใจ. เส้นลายมือนี้สามารถอ่านได้จากทั้งสองทิศทาง (คือ เริ่มอ่านจากนิ้วก้อยไปสุดที่นิ้วชี้หรือเริ่มอ่านจากทางตรงข้าม) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนบการอ่านตามที่จะกล่าวต่อไปด้านล่าง เป็นที่เชื่อกันว่าเส้นหัวใจบ่งชี้ถึงความมั่นคงทางอารมณ์ มุมมองในเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ความซึมเศร้า และสุขภาพหัวใจ การตีความแบบพื้นฐานมีดังต่อไปนี้
    • เส้นเริ่มที่ใต้นิ้วชี้ – พอใจในชีวิตรัก
      [​IMG]
    • เริ่มที่ใต้นิ้วกลาง – เมื่อเป็นเรื่องของความรัก จะเห็นแก่ตัว[​IMG]
    • เส้นเริ่มที่กึ่งกลางใต้นิ้วทั้งสี่ – ตกหลุมรักได้อย่างง่ายดาย[​IMG]
    • เส้นตรงและสั้น – ไม่สนใจในเรื่องความรักมากนัก[​IMG]
    • สัมผัสถูกเส้นชีวิต – อกหักได้ง่าย[​IMG]
    • เส้นยาวและโค้ง – แสดงอารมณ์และความรู้สึกออกมาอย่างอิสระ[​IMG]
    • เส้นตรงและขนานกับเส้นสมอง – รับมือกับอารมณ์ได้ดี[​IMG]
    • ลักษณะเส้นแบบคลื่น – มีหลายความสัมพันธ์และคนรักหลายคน ไม่มีความสัมพันธ์แบบจริงจัง
      [​IMG]
    • มีวงกลมบนเส้นหัวใจ – มีความเศร้าโศกหรือความหดหู่อยู่ในใจ[​IMG]
    • ลักษณะเส้นแบบขาดจากกัน – มีบาดแผลทางอารมณ์[​IMG]
    • เส้นโค้งลาดลง – มีความคิดสร้างสรรค์
      [​IMG]
    • แยกออกจากเส้นชีวิต – ชอบชีวิตผจญภัย มีความกระตือรือร้น
      [​IMG]
    • ลักษณะเส้นแบบคลื่น – สนใจในสิ่งหนึ่งได้ไม่นาน
      [​IMG]
    • ลักษณะเส้นแบบลึกและยาว – คิดอย่างชัดเจนและมีความจดจ่อ
      [​IMG]
    • เส้นตรง – คิดบนพื้นฐานความเป็นจริง
      [​IMG]
    • มีวงกลมหรือกากบาททับเส้นสมอง – อารมณ์อยู่ในขั้นวิกฤติ
      [​IMG]
    • ลักษณะเส้นแบบขาดจากกัน – มีความคิดที่ขัดแย้งกันเอง
      [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...