พิษสวาทตัดไม่ขาดอนาถใจ

ต้องตัดให้ขาดพิษสวาทนี้

 

พิษสวาท ไม่ต่างจาก ลูกบอล..

เมื่อยังสนุกอยู่ ก็เอามาเตะเล่น..

พอหมดสนุก ก็ ปล่อย ทิ้ง วาง ไว้..

แค่มองเป็นของเล่น บางครั้ง บางคราว..

อย่าให้เป็นของผูกมัดจิตใจ..

อะจ๊ากกกก5555

 

[๔๙๗] ก. ดูกรท่านผู้มีอายุ ก็ปัจจัย
เพื่อความเกิดขึ้นแห่งสัมมาทิฏฐิ มีเท่าไร?

สา. ธรรม ๒ ประการ คือความได้
สดับแต่บุคคลอื่น ๑
ความทำในใจโดยแยบคาย ๑

เป็นปัจจัยเพื่อความเกิดขึ้นแห่งสัมมาทิฏฐิ
ธรรม ๒ ประการนี้แล เป็นปัจจัยเมื่อความ
เกิดขึ้นแห่งสัมมาทิฏฐิ.

ก. สัมมาทิฏฐิ มีเจโตวิมุติเป็นผล
และมีผลคือเจโตวิมุติเป็นอานิสงส์ด้วย
มีปัญญาวิมุติเป็นผล และมีผลคือปัญญา
วิมุติเป็นอานิสงส์ด้วย อันองค์ธรรมเท่าไร
อนุเคราะห์แล้ว?

สา. สัมมาทิฏฐิ มีเจโตวิมุติเป็นผล
และมีผลคือเจโตวิมุติเป็นอานิสงส์ด้วย
มีปัญญาวิมุติเป็นผล และมีผลคือปัญญา
วิมุติเป็นอานิสงส์ด้วย อันองค์ธรรม ๕
ประการ อนุเคราะห์แล้ว คือ

สัมมาทิฏฐิ
อันศีลอนุเคราะห์แล้ว ๑
อันสุตะอนุเคราะห์แล้ว ๑
อันสากัจฉาอนุเคราะห์แล้ว ๑
อันสมถะอนุเคราะห์แล้ว ๑
อันวิปัสสนาอนุเคราะห์แล้ว ๑


สัมมาทิฏฐิ มีเจโตวิมุติเป็นผล และมีผล
คือเจโตวิมุติเป็นอานิสงส์ด้วย มีปัญญา
วิมุติเป็นผล และมีผลคือปัญญาวิมุติ
เป็นอานิสงส์ด้วย อันองค์ธรรม ๕ ประการ
นี้แล อนุเคราะห์แล้ว.


ปล.ลิง: บิกตุต้องระวัง พวกธรรมแจร๋น
ที่ติทำมะโอ้วสีอิ๋งปุเรงจานให้ดีๆ

 

อีกจั๊ดบทนะกัฟ. ลุงบิฉูด....

เรื่องเวทนาสัญญาและวิญญาณ
[๔๙๕] ก. ดูกรท่านผู้มีอายุ พระผู้มี
พระภาคตรัสว่า เวทนาๆ ดังนี้ ด้วยเหตุเพียงไร
หนอ จึงตรัสว่า เวทนา?

สา. ดูกรท่านผู้มีอายุ ธรรมชาติที่รู้ๆ
เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคจึงตรัสว่า เวทนา
รู้อะไร รู้สุขบ้าง รู้ทุกข์บ้าง รู้สิ่งที่มิใช่ทุกข์มิใช่
สุขบ้าง ธรรมชาติย่อมรู้ๆ ฉะนั้น จึงตรัสว่า
เวทนา.

ก. ดูกรท่านผู้มีอายุ พระผู้มีพระภาค
ตรัสว่า สัญญาๆ ดังนี้ ด้วยเหตุเพียงไรหนอ
จึงตรัสว่า สัญญา?

สา. ธรรมชาติที่จำๆ ฉะนั้น พระผู้มี
พระภาค จึงตรัสว่า สัญญา จำอะไร จำสีเขียว
บ้าง จำสีเหลืองบ้าง จำสีแดงบ้าง จำสีขาวบ้าง
ธรรมชาติย่อมจำๆ ฉะนั้น จึงตรัสว่า สัญญา

ก. เวทนา สัญญา และวิญญาณ
ธรรม ๓ ประการนี้ ปะปนกัน หรือแยกจากกัน
ท่านผู้มีอายุ อาจแยกออกแล้ว บัญญัติหน้าที่
อันต่างกันได้หรือไม่?

สา. เวทนา สัญญา และวิญญาณ ธรรม ๓
ประการนี้ ปะปนกัน ไม่แยกจากกัน

ผมไม่อาจแยกออกแล้ว บัญญัติหน้าที่อัน
ต่างกันได้ เพราะเวทนารู้สิ่งใด สัญญาก็จำ
สิ่งนั้น สัญญาจำสิ่งใด วิญญาณก็รู้แจ้งสิ่งนั้น

ฉะนั้น ธรรม ๓ ประการนี้ จึงปะปนกัน ไม่แยก
จากกัน ผมไม่อาจแยกออกแล้ว บัญญัติหน้าที่
อันต่างกันได้.


ปล.ลิง: ตัดพิศวาส ไปไล่ตัด นั่นตัดนี้
แล้วสำคัญว่า. ตัดได้ แจร๋นทำมะโอ้ว
มันหลอกเอาตายเปล่า. ลุงบิกตู่
ต้อง. "ตัดที่ราก". ซึ่งตัดอะไร
ยังไง. รบกวนย้อนอ่านข้างบนกัฟ

 

เอ้า!! ลุงบิ๊กฉูด. ป่านนี้ไม่ตื่น

ตัดอะไรแบบไหน ฮัฟ

ยังไง. หาซื้อมาสักสองสามใบ

เอาไว้ ทดสอบ. ตอนตื่นนอนเช้าๆ ไหมฮับ


ปล. เว้นแต่จะคืนตราตั้งมาก่อน. ไม่ว่ากัน

 

นั่นคือ
ความเป็นไปของขันธ์ 5
อย่าไปยึดมั่นถือมั่น อย่าไปหมกไปมุ่นครุ่นคิด
ให้พิจารณาความเป็นไปเป็นมา
อย่างตรงไปตรงมา
ของขันธ์ 5 โดยตัดความพอใจ และความไม่พอใจออกไป
แล้วยอมรับความเป็นจริง
ที่เกิดดับกับขันธ์ 5
กล่าวได้แค่เนี๊ยะ เพราะทำได้แค่เนี๊ยะ
เองฮับ

 

Bigtoo ลั่นวาจาว่าจะเลิก เสียวตลอดชีวิตไว้. ก็ต้องทำได้จิฮับ. เพราะคิดการใหญ่ใจต้องเด็ด. อีกแค่70วันก็ครบ4ปีแล้ว. ไม่พุ่งปิ๊ดนะ. 555 เพราะbigtooมีหลักว่า. ไม่เที่ยงเกิดดับ. คาถานี้ชะงักนักแล

 

ไปตั้งทำไมแบบนั้น อะฮับ

ถ้า ตั้งจิตไว้ว่า อะระๆ ก้มะเที่ยง

ปรกติ จิต ก้จะเกิด ปิติ เกิดโอภาส
แสงสว่าง เกิดนิกันติ ความพอใจ
ในธรรม เกิดฉันทธรรมขึ้นมา

พอฉันทธรรมเกิดขึ้นมา ที่ปรารภ
ว่า มะเที่ยงตะกี้ ก้ อันตรธานหาย
ไปแว้ว

กลายเปนว่า ธรรมเที่ยง ซึ่งเปน
อุปกิเลส ความฝุ่งซ่าน(ฝุ้งธรรม)

มะเชื่อ

ลุงบิกฉุ ลองสังเกต การนับวัน

มันลืมไปว่า มะเที่ยง แท้ทรู
วินาทีนี้ เดกซะมอเร่ ยังได้

แล้วที่ นับวันไว้ก้ผลิกเปน ความอยาก

หาก ตายไปตองนี้ ก้ กลายเปน
เปรต เดินนับสันรอ 5ปี

แทนที่ ทุกขณะจิต จะ กำหนดรู้

 

ตั้งใจคือรู้ว่ากิจในสมุทัย ควรทำอย่างไรหรอ. เมื่อรู้ว่ามันไม่เที่ยง เสี่ยวก็ไม่เที่ยงเกิดแล้วก็ดับเองได้หนอ. สาวกพระองค์ไม่เสพเสียว พอเข้าใจ. ไม่ใช่เสียวหนอ เสียวหนอ. เสียวหนอ. 55

 

นิวรณ์. เสียวหนอต่อไปนะ. เสียวหนอ. เสียวหนอ. 555
เสียวแบบไม่เที่ยง55

 

หนังตรงปลาย ถอก เท่ากับ เกิด..

หนังตรงปลาย หุบ เท่ากับ ดับ..

แท้ที่จริง ความเสียว ผู้หลงในกามราคะ ก็หลงเกิดดับ เท่านั้นเอง..

ยิ่งเกิดดับถี่ ยิ่ง ยึด มา เป็น ความสุข..

 

อาการของน้ำอสุจิเคลื่อน ก็ไม่ต่างจาก อาการปวดปัสสาวะ..

แท้จริงแล้ว ก็ยึดเอาทุกข์ มาปรุงแต่งเป็นสุข หลอกตัวเองไปวันๆ..

กามราคะ ควรยินดีตรงไหน ทำให้เห็นตามจริงด้วยตนเอง จิตก็คลายกำหนัดเอง..

 

คุณของกามราคะ มีเพียง ทำให้โพธิสัตว์ ได้มาเกิดเป็นมนุษย์ สร้างบารมีเท่านั้น..

บัณฑิต สัตบุรุษ จึง เห็นทั้งคุณ และโทษ แล้ววางทั้งคุณและโทษ นั้น..

 

เกิดมามีหน้าที่ แม้ยุ่งอยู่ ก็ไม่ทิ้งหน้าที่ รีบเข้ามาทำให้เสร็จ ให้เรียบร้อย..

 

อย่าปากดี อย่าแสดง ให้มากนัก ให้รู้บ้างว่าใครเป็นใคร..

ปัญญาท่าน บารมีท่าน มันแค่จิ๊บๆ..

คุณสมบัติ "บัณฑิต" ไม่แสดงธรรมกระทบใคร..

 

ลุง ภาวนา อิท่าไหน ฮับ

ยังเหน .... ไปเนื่องอยู่กับ กายเนื้อ

จีๆ เรื่อง ....... มันเปน ทิฏฐิกธรรม
บางประการ ล้วนๆ

ถ้า มี ทิฏฐิบางอย่างอยู่ ก้มี แน่นวล
แม้น ....เคลื่อน

ตรวจทานในธรรมวินัย ก้ล่าย
เวลา พระศาสดา จะปรับอาบัติ
พระองคจะทรง ถาม "......." เปน
อย่างไร มีอย่างไร

 

" แยกรูป แยกนาม ไม่ได้

อย่าไปพูดถึง เรื่อง เจริญปัญญา "


ที่มา พระท่านนึงใน รายการเจาะใจ

 

หรือ ย้อนไปดูต้น กระมูว์
รายการ เถระถาม อัครเถระตอบ


" สัมมาทิฏฐิ มีเจโตวิมุติเป็นผล
และมีผลคือเจโตวิมุติเป็น
อานิสงส์ด้วย มีปัญญาวิมุติเป็น
ผล และมีผลคือปัญญาวิมุติ
เป็นอานิสงส์ด้วย อันองค์ธรรม
๕ ประการนี้แล อนุเคราะห์แล้ว. "

 

อสุจิเราไม่คลื่นมาหลายปีแล้ว นี่คือผลของการปฏิบัติเข้าถึงธรรม อย่าพูดแยกรูปแยกนามอยู่เลย.

 

ระหว่างถอกมีการเกิดดับเป็นล้านๆครั้ง. อนุภาคปรมณูเกิดดับเป็นล้านๆครั้งในชั่วพริบตา