**ร้านศิวิไลพระเครื่อง** วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง เกจิคณาจารย์ภาคเหนือ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิวิไล, 25 พฤษภาคม 2013.

  1. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,935
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รับทราบขอบพระคุณครับ
     
  2. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,935
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6359

    เหรียญหลวงพ่อสักคงตัน วัดศรีนวรัฐ อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ รุ่นแรก ปี 2518 เนื้อทองแดงรมดำ


    พระพุทธรูปศักสิทธิ์ พระเจ้าสักคงตัน หรือพระเจ้าอกล้ง

    พระพุทธรูปปางมารวิชัย
    สร้างด้วยไม้สักขนาดหน้าตักกว้าง 32 นิ้ว สูง 56 นิ้ว

    นำมาจากเวียงท่ากาน
    สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยเวียงท่ากานยังรุ่งเรือง


    ปลุกเสกดดย สุดยอดเกจิเเห่งสันป่าตอง อาอิ ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี
    ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง อาจารย์เณรวิเศษสิงห์คำ วัดป่าสัก และได้นำเหรียญเข้าร่วมพิธีปลุกเสกเหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อดับภัย วัดดับภัยเชียงใหม่


    จัดเป็นเหรียญที่มีประสบการณ์ของสันป่าตอง

    สวยผิ้วรุ้งไม่ผ่านการใช้ ตอกโค๊ตชัดเจน


    ราคา 1200 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    เหรียญสักคงตัน a.jpg เหรียญสักคงตัน b.jpg เหรียญสักคงตัน c.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2020
  3. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,935
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6360

    ตะกรุดตาลหิ้น ครูบาสม โอภาโส วัดศาลาโป่งกว๋าว สะเมิง


    ตะกรุดยันต์ฟ้าฟีก หรือ ตะกรุดตาลหิ้น หรือ คาถาตาลหิ้นครูบาสม โอภาโส วัดศาลา (โป่งกว๋าว ) ท่านได้สร้างไว้ ตาลหิ้น .... ยันต์ฟ้าฟีก หรือคาถาตาลหิ้น เป็นการดึงเอาหัวใจของพระคาถาไจยะเบงชร ออกมา ๘ อักขระ ว่าดังนี้ "ระตะนัง ปุระ โต อาสิ" มาเขียนย่อเป็นยันต์ลงในแผ่นกระดาษหรือแผ่นผ้าขนาดสี่เหลี่ยมสำหรับติดที่ปลายเสาดั้งของบ้านเรือน โบสถ์ วิหาร เพื่อป้องกันฟ้าผ่า ไฟไหม้ เรียกว่า ?ยันต์หัวเสา? บ้าง ?ยันต์เสาดั้ง? บ้าง ?ยันต์ฟ้าฟีก? บ้าง การลงอักขระมีหลากหลายรูปแบบ บางครั้งก็ลงเป็นรูปตารางสี่เหลี่ยม ๙ ช่อง เวลาลงอักขระให้ลงเป็นตารางแบบม้าย่อง ตรงกลาง บางตำราก็ลง "ติ" บางตำราก็ลงเป็นตัวเลขล้านนา บางตำราก็ลงเป็นองค์พระ ( โอม , อุนาโลม ) อันนี้ก็แล้วแต่ว่าครูบาอาจารย์สืบสายตำรามากันอย่างไร อีกแบบหนึ่งเป็นรูปวงกลม ซ้อนกันหลายวง ตัดแบ่งเป็นช่องๆ ลงอักขระที่แตกต่างกัน นิยมทำเป็นยันต์หัวเสา ยันต์ฟ้าฟีก เป็นยันต์ที่เชื่อว่า มีฤทธิ์ ป้องกันบรรเทาภัยจาก ฟ้า ฝน ลมพายุได้ ตามความเชื่อโบราณ ว่ากันว่า เวลาเกิด "ฝนตกใหญ่ลมหลวง" ฝนฟ้าคะนองและมีพายุพัดแรงจัด ต่างคนก็ต่างมีวิธีป้องกันบ้านเรือน บ้างก็นำเอาจวัก ช้อน ชามไปแขวนบริเวณหน้าบ้าน บ้างก็เอามีดไปขัดประตู หน้าต่างแทนกลอน หรือไม่ก็เอามีดไปแทงทะลุเสียบคารอยฝาแตกให้ปลายมีชี้ไปทางทิศที่ลมมาถือว่าเป็นการ "แทงลม" บ้างก็เอามีดไปเสียบขัดไว้ที่ข้างฝา บ้างใช้มีดขัดกลอนประตูหน้าต่างนัยว่าเป็นการขัดหรือฝืนลม บางแห่งให้ลูกหลานไปซื้อเหล้าโรงมาประกอบพิธีไล่ลมที่เรียกว่า "ม้าเหล็กไล่ม้าลม" โดยนำเขียงไปวางที่ชานเรือน พ่อเจ้าเรือนจะถือมีดด้วยมือซ้าย กลั้นลมหายใจสับมีดอย่างแรงให้มีดสับคาเขียงและปลายมีดชี้ไปทางทิศที่ลมมา แล้วเสกเหล้าด้วยมนต์ "คาถาฟ้าฟีก" (ฟีก = หลีก) ว่า "ระตะนัง ปุระโต อาสิ" อมแล้วพ่นไปที่มีดพร้อมให้ลูกหลานตบมือส่งเสียงโห่ร้องว่า "เอ้าๆ ม้าเหล็กไล่ม้าลม..เอ้า ๆ ?เฮ้!ๆๆๆ" ... แล้วเหตุใด จึงมีชื่อว่าคาถาตาลหิ้น...???... มีเรื่องเล่าแบบมุขปาถะ เรื่องหนึ่งว่า... ในแคว้นล้านนาสมัยของเจ้าหนานติ๊บจ๊าง (ทิพย์ช้าง) ต้นตะกูล ทิพย์ช้างเชื้อเจ้าเจ็ดตน หลักฐานยังอยู่ที่วัดพระธาตุลำปางหลวง ท่านเป็นปู่ของ เจ้าชีวิตอ้าว เจ้าหลวงเชียงใหม่ ตามประวัติว่า ถ้าท่านอุทานว่า "อ้าว" เมื่อไหร่ต้องจับประหารเมื่อนั้น หนานติ๊บจ๊างมีอาจารย์อยู่ท่านหนึ่ง ซึ่งท่านนับถือมากเป็นคนประสิทธิประสาทคาถาทั้งหลายทั้งมวลให้ วันหนึ่งท่านเรียกหนาน เข้าไปหาและบอกว่าจะให้ของดี มันเป็นคาถา แต่ไม่มีชื่อเรียก มี ๘ คำ เมื่อเจ้าหนานท่องจนขึ้นใจแล้วก็จะทดสอบความขลัง จึงให้ทหารเอาปืนมาอยู่ใต้ต้นตาล ให้มากที่สุด จากนั้นเจ้าหนานก็ขึ้น ไปอยู่ยอดต้นตาล แล้วสั่งให้ทหารยิง ยิงเท่าไหร่ก็ไม่ถูกเจ้าหนานจนต้นตาลปลายด้วนหมด เจ้าหนานเลยตั้งชื่อ คาถาบทนี้ ว่า ยอดตาลหิ้น นั่นเอง .... อย่างที่ออกตัวไว้ตั้งแต่ต้น นี่เป็นเพียงเรื่องเล่าต่อๆ กันมา ไม่สามารถหาหลักฐานใดๆ ยืนยันได้ กล่าวโดยสรุปก็คือ ยันต์นี้ ถือเป็นยันต์ที่มีอานุภาพ มากเรื่องแคล้วคลาด ป้องกันภัย ภยันตรายต่างๆ และเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ครูบาอาจารย์ทางเหนือใช้กันมากครับ

    ครูบาสมท่านจารมือเเจกก่อนสร้างเหรียญรุ่นแรกหายากมากครับ

    #ตัวจริงเสียงจริง ลายมือจารคมชัดลึกชัดเจนครับ

    บูชาแล้วครับ

    ตะกรุดครูบาสม b.jpg ตะกรุดครูบาสม e.jpg ตะกรุดครูบาสม f.jpg ตะกรุดครูบาสม c.jpg ตะกรุดครูบาสม d.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2020
  4. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,935
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6361

    แผ่นยันต์เทวดาหลงห้อง ครูบาเจ้าอินสม สุมโณ วัดทุ่งน้อย อ.พร้าว จ.เชียงใหม่

    ยันต์นี้เป็นสุดยอดยันต์เมตตามหานิยม (นึกดูขนาดเทวดาเข้าห้องยังหลงหาทางออกไม่ถูก) เป็นยันต์ที่มีอยู่สำนักเดียวในล้านนา ครูบาอินสม ท่านเก่าวิชาอาคม ทั้งเลขยันต์เเละพระเวทย์ประสบการวัตถุมงคลของท่าน สามารถช่วยชิวีตคนมาเเล้วนักต่อนักให้ลอดพ้นภัยอันตราย เเละเมตตามหานิยม ยันต์เทวดาหลงห้อง ติดร้านค้าบ้านเรือนดีนักแล อนุภาพ ด้วยให้มีโชคลาภ เมตตามหานิยมค้าขาย รำรวยเงินทอง คนเเละเทวดาหลง
    เหมาะสำหรับบูชาไว้ติดร้าน กิจการร้านค้า บ้านเริอนครับ
    กรอบเดิมจากวัดครับ


    บูชาแล้วครับ

    แผ่นยันต์เทวดาหลงห้อง ครูบาอินสม a.jpg แผ่นยันต์เทวดาหลงห้อง ครูบาอินสม b.jpg Clip_71.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2020
  5. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,935
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6362

    เหรียญรุ่นแรกครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง ปี 18 เนื้อทองแดง


    หลวงปู่ครูบาธรรมชัย ธมมชยโย วัดทุ่งหลวง เชียงใหม่ พระอริยสงฆ์ที่เป็นที่กราบไหว้ของชาวเหนือ ท่านเป็นศิษย์ท่านหนึ่งของครูบาเจ้าศรีวิชัย เป็นสหธรรมมิกกับหลวงปู่ครูบาชุ่ม โพธิโก ,หลวงปู่คำแสน วัดป่าดอนมูล , หลวงปู่คำแสน วัดสวนดอก , หลวงปู่ครูบาน้อย วัดบ้านปง ,ครูบาชัยวงศา วัดพระบาทห้วยต้ม ,และ หลวงพ่อท่านมหาวีระ ฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ,และท่านครูบาอาจารย์ทั้งหลายอีกมากรูปทั่วล้านนา
    ครูบาท่านนั้นสำเร็จวิชาชั้นสูง สำเร็จฌาณสมาบัติชั้นสูง มีสมาธิจิตแรงกล้า ขนาดท่านมหาวีระ วัดท่าซุงนั้นกล่าวยกย่อง วัตถุมงคลของท่านนั้นดีเด่นสารพัด
    #สรีระสังขารของท่านไม่เน่าเปื่อย พระดีน่าใช้
    1 ในอริยสงฆ์ของเมืองเหนือศิษย์สายครูบาเจ้าศรีวิชัย เหรียญรุ่นแรกของท่านมีประสบการณ์เป็นที่นิยมมากครับ


    ราคา 2100 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    เหรียญรุ่นแรกครูบาธรรมชัย a.jpg เหรียญรุ่นแรกครูบาธรรมชัย b.jpg เหรียญรุ่นแรกครูบาธรรมชัย c.jpg Clip_14.jpg Clip_15.jpg Clip_53.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2020
  6. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,935
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6363

    เหรียญเจ้าพ่อพะวอ ปี2523 อ.แม่สอด จ.ตาก สวยเดิม ๆ


    ปี พ.ศ.2523 กลุ่มประชาชนชาวแม่สอด ตำรวจ ศาลจังหวัดแม่สอด ตลอดจนพ่อค้าประชาชน ได้ขออนุญาตดำเนินการจัดสร้าง ประกอบด้วย
    - รูปหล่อบูชาเจ้าพ่อพะวอ ขนาดสูง 13 นิ้ว เนื้อทองเหลืองรมดำ
    - เหรียญเจ้าพ่อพะวอ แบ่งเป็น
    - เนื้อทองคำ
    - เนื้อเงิน
    - เนื้อทองแดง รมน้ำตาล

    เหรียญสอดยอดประสอบการณ์ของแม่สอด


    ราคา 650 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    เหรียญเจ้าพ่อพระวอ a.JPG เหรียญเจ้าพ่อพระวอ b.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2020
  7. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,935
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6364

    เหรียญหลวงพ่อโสธรหลังหลวงปู่แหวน ปี.2517 เนื้อทองแดงรมดำ

    ..เหรียญ รุ่นนี้จัดสร้างเมื่อครั้งสร้างพระ เจดีย์ ที่ วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ โดยมีคณะกรรมการจัดสร้างซึ่งประกอบไปด้วย พระอาจารย์ทองเจือ วัดปากน้ำภาษีเจริญ คุณลุงแก้ว นายแพทย์สุพจน์ คุณเดชา-คุณเชาว์ ศิริรัตน์ ได้ร่วมกันจัดสร้างพระเครื่องขึ้นถวายหลวงปู่แหวน เพื่อแจกเป็นที่ระลึกในโอกาสฉลองอายุหลวงปู่ด้วยจำนวนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งนำออกให้ประชาชนเช่าบูชาเพื่อหารายได้สร้างสะพานตรงทางเข้า วัดดอยแม่ปั๋งและสมทบทุนสร้างพระเจดีย์ถวายแด่หลวงปู่... เหรียญหลวงพ่อโสธร รุ่นนี้ ด้านหน้าถอดแบบมาจาก...เหรียญหลวงพ่อโสธร ในปี 2460 ส่วนด้านหลังเป็นรูปหลวงปู่นั่งในกลดมีบาตร,กาน้ำและตอกโค๊ดสุจินโณ กำกับไว้ทุกเหรียญ...สร้างด้วยเนื้อทองแดงมีทั้งแบบผิวไฟและรมดำมีจำนวน 9,000 เหรียญ... ส่วนพิธีพุทธาภิเษก ได้นิมนต์พระอาจารย์มาร่วมพิธีหลายรูป โดยมีหลวงปู่แหวนท่านเป็นประธานในพิธีร่วมด้วยหลวงปู่สิม พุทธาจาโรและพระอาจารย์ท่านอื่นๆอีกหลายรูป...เหรียญหลวงพ่อโสธรหลังหลวงปู่ แหวน ปีพศ.2517 พิมพ์นี้ในเหรียญของแท้พบเห็นได้น้อยในสนาม...เป็นอีกหนึ่งเหรียญที่น่าสะสม น่าบูชาเพราะจะมีอยู่ในทำเนียบพระเครื่องหลวงพ่อโสธรและหนังสือทำเนียบรุ่น ของหลวงปู่ทิมร่วมปลุกเสกเพิ่มอีกด้วยครับ

    บูชาแล้วครับ

    เหรียญโสธรลป.แหวน a.jpg เหรียญโสธรลป.แหวน b.jpg เหรียญโสธรลป.แหวน c.jpg Clip_54.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2020
  8. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,935
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6365

    อุปคุตปางฉันภัตตาหารครูบาน้อย เตชปัญโญ วัดศรีดอนมูล จ.เชียงใหม่ ขนาด 3 นิ้ว ฝังตะกรุดสามกษัตรย์

    สุดยอดทางด้าน มหาโชค มหาลาภ


    ราคา 1550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    พระอุปคุตวัดศรีดอนมูล 300 a.jpg พระอุปคุตวัดศรีดอนมูล 300 e.jpg พระอุปคุตวัดศรีดอนมูล 300 b.jpg พระอุปคุตวัดศรีดอนมูล 300 c.jpg พระอุปคุตวัดศรีดอนมูล 300 d.jpg Clip_73.jpg Clip_74.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2020
  9. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,935
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6366

    พระปิดตายุคแรกครูบาบุญปั๋น วัดร้องคุ้ม ปี 2515


    ครูบาเจ้าบุญปั๋น ธมมปัญโญ วัดร้องขุ้ม สันป่าตอง เชียงใหม่ เป็นพระอริยะสงฆ์รูปสำคัญของเชียงใหม่ ศีลาจริยวัตรงดงาม มีเมตตาสูงมาก

    ……………………………………………………………เจ้าตำราวิชาเทียนเศรษฐีล้มลุกอันโด่งดัง...

    วิชา"เศรษฐีล้มลุก"นี้ ถือว่าเป็นวิชาคู่บุญบารมีครูบาเจ้าบุญปั๋น วัดร้องขุ้มก็ว่าได้ มีอานุภาพส่งเสริม"แก้ดวง หนุนดวง" และ"ส่งเสริมโชคลาภ"ให้บังเกิดขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ ผู้ใดมีบูชาไว้ ไม่มีจน เป็นเศรษฐี ไม่มีวันล้ม เพราะล้มแล้วก็ลุก

    ครูบาเจ้าบุญปั๋น ธัมมปัญโญ พระอริยเจ้าผู้ทรงคุณอันประเสริฐสุดแห่งวัดร้องขุ้ม เชียงใหม่นี้ จัดเป็นของดีที่หาได้ยากยิ่ง ส่วนมาก จะตกแก่ศิษยานุศิษย์และผู้ที่มีวาสนาในยุคต้นๆเสียโดยมาก ยากจะหลุดรอดมาถึง"คนนอก"ในภายหลังได้

    พระผงปิดตาครูบาเจ้าบุญปั๋น สร้างจากเนื้อผงวิเศษผสมเกศา หลวงปู่แกะพิมพ์เอง ผสมว่านและเกศาของท่านแล้วกดพิมพ์เอง สร้างในยุคแรก เมื่อปี พ.ศ2515 ที่ท่านหลวงปู่ครูบาบุญปั๋น เริ่มทำวัตถุมงคลแจกญาติโยม พระผงที่เป็นสูตรเฉพาะของหลวงปู่ สร้างแจกยุคแรกครับ(ปี๑๕-๓๐)ประมาณไม่เกิน ๑๐ พิมพ์โดยมากจะเป็นพิมพ์ที่ถอดพิมพ์จากพระกรุเก่าต่างๆ เท่าที่ผมพบ จะมีพิมพ์พระประธาน (สามปลื้ม) พิมพ์พระปิดตาใหญ่-เล็ก พิมพ์พระรอดจิ๋ว พิมพ์พระเปิม พิมพ์พระคง พิมพ์ที่หายากมากก็คือพิมพ์พระปิดตาครับ ส่วนเนื้อพระจะเป็นสูตรพิเศษของหลวงปูฯครับ กล่าวคือ ใช้ทรายจากแม่ทา อ.แม่ทา ,ผงพระกรุเก่า,เกสรดอกไม้บูชาพระ,ผงข้าวก้นบาตร โดยใช้น้ำมันละหุ่งเป็นตัวประสานครับ ตอนปลุกเสกหลวงปู่ฯ ท่านจะจุดเทียนเศรษฐีล้มลุกไว้ทั้งแปดทิศ เอาพระทั้งหมดไว้ตรงกลางครับ

    ครูบาท่านได้มอบให้ชาวบ้านที่เคารพนับถือ ท่านครูบาเจ้าบุญปั๋น ต่างกล่าวตรงกันว่า บูชาติดตัวแล้วเป็นเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

    #ของดีราคาเบาๆน่าใช้มากครับ

    ราคา 1550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    พระปิดตาครูบาบุญปั๋น a.jpg พระปิดตาครูบาบุญปั๋น c.jpg พระปิดตาครูบาบุญปั๋น b.jpg Clip_75.jpg Clip_76.jpg

    Clip_77.jpg Clip_78.jpg Clip_79.jpg Clip_80.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2020
  10. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,935
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6367

    สมเด็จมหาชินบัญชรปริตร หลวงปู่ครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง


    พระสมเด็จ มหาชินปัญชรปริต ชุดนี้ ได้รับการสถาปนาขึ้นมาเป็นกรณีพิเศษสุด ด้วยความมุ่งหมายที่จะผนวกเอาปรมัตถสัจจะ แห่งความเป็น “พระสมเด็จ” โดยเนื้อแท้ พร้อมด้วย “พระชินบัญชรคาถา” เต็มบท ความยาวมากกว่า ๕๐๐ อักขระ อย่างเป็นระเบียบ สมบูรณ์แบบอย่างยิ่ง อีกทั้งยังลงตัวอย่างถึงที่สุดด้วย “เนื้อหามวลสาร” และ “พิธีการ” ที่เกี่ยวข้อง รวมเข้าไว้เป็นหนึ่งเดียว อย่างเบ็ดเตล็ดบริบูรณ์สิ้นเชิง เพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชา สืบต่ออายุบวรพระพุทธศาสนาไปในภายภาคหน้า ตามคติโบราณนิยม และเพื่อเผยแพร่พระชินบัญชรคาถา ซึ่งเป็นพระพุทธปริตอันประเสริฐ ให้ไพศาลและอำนวยความเป็นสิริสวัสดิ์แก่สรรพชีวิตด้วยลักษณาการอันยิ่งตลอด ไป ตราบสิ้นกาลนานฯ

    มวลสารมงคลสำคัญ

    ๑. ผงชันเพชรโบราณจากองค์บุษบกทองคำ ที่ประทับพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพมหานคร (องค์ปฐมกำเนิดตำนานแห่งความศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของพระชินบัญชรคาถา)

    ๒. น้ำพระสุคนธสาคร ทรงสรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) ในพระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงประจำฤดู หลายวาระ อันได้นำขึ้นถวายท่านเจ้าคุณพระญาณสิทธาจารย์ (หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร) สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง จังหวัดเชียงใหม่ พระอริยสงฆ์ผู้มีบูรพวาสนากับสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) และพระชินบัญชรคาถา อธิษฐานจิตซ้ำเป็นกรณีพิเศษอีกครั้ง

    ๓. น้ำพระพุทธมนต์ พิธีมหาพุทธาภิเษก, มหาพิธีเจริญพระพุทธปริตสืบชะตาแผ่นดิน ครั้งสำคัญ เฉพาะพระพักตร์ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) หลายวาระ

    ๔. ผงอิฐ, ปูน, โมเสก, กระเบื้อง, กระจกเกรียบธูป, พระอุโบสถ และปูชนียสถาน ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพมหานคร

    ๕. ผงดินจากสังเวชนียสถาน ที่พระพุทธองค์ทรงประสูติ, ตรัสรู้, แสดงปฐมเทศนา และปรินิพพาน ๔ ตำบล จากประเทศอินเดีย (แผ่นดินต้นกำเนิด พระคาถาชินบัญชร)

    ๖. ผงข้าวเย็นพระเจ้า (ข้าวก้นบาตรพระพุทธเจ้า) น้ำพระพุทธมนต์วัดพระพุทธบาทสี่รอย จังหวัดเชียงใหม่ (แผ่นดินยุคต้นแห่งการแพร่หลายของพระชินบัญชรคาถา ในประเทศไทย)

    ๗. ผงพระสมเด็จวัดระฆัง, บางขุนพรหม ของท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ที่สุดแห่งพระอริยเจ้าผู้เผยแผ่พระชินบัญชรคาถาให้เลื่องลือไกลที่สุด แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

    ๘. น้ำพระพุทธมนต์สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดอินทรวิหาร กรุงเทพมหานคร

    ๙. หัวน้ำมันจันทน์ชินบัญชร พ.ศ. ๒๕๑๓ ท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต (ธมฺมวิตกฺโกภิกขุ) วัดเทพศิรินทร์ฯ กรุงเทพมหานคร

    ๑๐. น้ำมันเสกออกศึก ๓ แผ่นดิน (อยุธยา, ธนบุรี, รัตนโกสินทร์) หมายเหตุ: น้ำมันเสกชุดนี้ เป็นของโบราณเก่าแก่กว่า ๒๕๐ ปี ตั้งแต่สมัยที่กรุงศรีอยุธยายังเป็นราชธานี สำหรับให้ยอดขุนพลนักรบกล้าสมัยก่อน ใช้ชโลมร่างกายให้อยู่ยงกระพันชาตรีต่อสรรพศาสตราวุธทุกชนิด ยามออกสมรภูมิสู้รบ ด้วยประการทั้งปวง ซึ่งต่อมาได้ตกทอดมาถึงสมัยกรุงธนบุรี และกรุงรัตนโกสินทร์ในที่สุด โดยได้ผ่านพิธีกรรมในเชิงมหิทธิฤทธิ์ และบุญฤทธิ์ จากพระอัจฉริยวราจารย์สำคัญแห่งยุคสมัย นับแต่แรกสร้างกรุงมานับครั้ง นับองค์ไม่ถ้วน {เจ้าหน้าที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามท่านหนึ่ง (ขอสงวนนาม) กรุณามอบให้} ซึ่งนับได้ว่าน้ำมันเสกชุดนี้ ถือเป็นหนึ่งใน “ที่สุด” แห่งสุดยอดมวลสารที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ที่น้อยคนนักในแผ่นดินนี้ จักมีโอกาสวาสนามีไว้ในครอบครองอย่างแท้จริงได้

    ๑๑. ผงปูนกระเทาะจากองค์พระมหาธาตุเจดีย์สำคัญ อันประกอบด้วย พระปฐมเจดีย์, พระธาตุพนม, พระธาตุหริภุญชัย, พระธาตุจอมกิตติ, พระบรมธาตุไชยา, พระธาตุนครศรีธรรมราช เป็นต้น

    ๑๒. ผงพระจิตรลดา กรุงเทพมหานคร

    ๑๓. ผงพุทธคุณสำคัญ ๘ ประการ อันประกอบด้วย ผงปถมัง, ผงมหาราช, ผงอิทธิเจ, ผงตรีนิสิงเห, ผงนะปัดตลอด, ผงสุกิตติมา, ผง ๑๒ นักษัตร และผงมหาจักรพรรดิ ซึ่งได้จากพระอนุตราจารย์ที่สำคัญหลายองค์ อาทิเช่น หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช, หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่, หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ, หลวงปู่ดู่ วัดสะแก, หลวงปู่เริ่ม วัดจุกกะเชอ, หลวงปู่จ่าง วัดเขื่อนเพชร เป็นต้น ฯลฯ

    ๑๔. ผงยาจินดามณี หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว, หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว, หลวงพ่อทองอยู่ วัดท่าเสา, หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม

    ๑๕. ผงอธิษฐานพระคณาจารย์ ๑๐๘

    ๑๖. ผงว่านมงคล ๑๐๘

    ๑๗. ผงกาฝากไม้มงคลหลายชนิด

    ๑๘. ผงเก้าธนบัตร ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท

    ๑๙. ผงวัตถุกายสิทธิ์, ทนสิทธิ์ จำนวนมาก อาทิ ผงขี้เหล็กไหล กาญจนบุรี, ผงแร่บางไผ่ นนทบุรี, ผงแร่เกาะบ้าน ชลบุรี, ผงแร่เขาเชียว ราชบุรี, ผงแร่เหล็กน้ำพี้ อุตรดิตถ์, ผงแร่เจ้าน้ำเงิน กาญจนบุรี, ผงพลอยทับทิม จันทบุรี, ผงแก้วจุยเจีย เชียงใหม่, ผงแก้วโป่งข่าม ลำปาง, ผงศีลาธิคุณ (ฤาษีผสม) ลพบุรี, ผงข้าวสารดำ มหาสารคาม, ผงข้าวสุกหิน แพร่, ผงข้าวพันก้อน มุกดาหาร, ผงพระธาตุข้าว ลำพูน, ผงขมิ้นหิน แพร่, ผงไม้ไผ่ตัน แม่ฮ่องสอน, ผงกะลาไม่มีตา สงขลา, ผงพระธาตุสิวลี อุทัยธานี ฯลฯ

    พิธีประจุพุทธานุภาพ พระสมเด็จ มหาชินปัญชรปริตร เนื้อพิเศษ ชุดนี้ ได้อัญเชิญเข้ามหาพิธีพุทธชัยมังคลาภิเษก, พิธีอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวด้วยพระมหาชินบัญชรคาถา ครบถ้วนทั้ง ๓ ตำรับหลัก และพระพุทธปริตรสำคัญโดยพระอนุตราจารย์เจ้า ผู้ทรงอัจฉริยคุณอันประเสริฐย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ดังนี้คือ

    ๑. พระชินบัญชรคาถา ตำรับลังกา (รัตนโกสินทร์, วัดระฆัง) โดย หลวงปู่ครูบาอิน อินฺโท วัดฟ้าหลั่ง จังหวัดเชียงใหม่ (วันที่ ๒๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ และ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ ด้วยระยะเวลาอันยาวนานเป็นประวัติการณ์ยิ่งกว่าที่เคยพบมาไม่ว่าจะเป็นครั้ง ใด อย่างน่าอนุโมทนาสาธุเป็นย่างยิ่ง)

    ๒. พระชินบัญชรคาถา ตำรับพม่า (ล้านนาไทย) ในมหาพิธีพุทธาภิเษก, บวชพระเจ้า พระยอดฉัตรทองคำประดับเพชร พร้อมฉัตรนวหรคุณบรมพุทธวงศ์ วัดพระพุทธบาทสี่รอย จังหวัดเชียงใหม่ (หลวงปู่ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง จังหวัดเชียงใหม่ และหลวงปู่ครูบาเจ้าชัยวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จังหวัดลำพูน เมตตารับอาราธนา “ถอดจิต เดินญาณ” ร่วมพิธีโดยตรง ในตอนกลางคืนของวันที่ ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ เป็นกรณีพิเศษด้วย) หมายเหตุ: จากการตรวจสอบโดยผู้ทรงสมาธิจิต พบว่า ใน “มิติละเอียด” นั้น ปรากฏมี “พระ” เบื้องบนองค์สำคัญแผ่ญาณมาร่วมมหาพิธีในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก อาทิ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี), หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด, หลวงพ่อพระครูเทพโลกอุดร, ครูบาเจ้าศรีวิไชย นักบุญแห่งล้านนาไทย (หลวงพ่ออุตตมะเคยได้ยินท่านครูบาเจ้าสวดชินบัญชรคาถาเมื่อเมื่อครั้งยัง ดำรงขันธ์อยู่ด้วยองค์เอง), หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ฯลฯ และที่พิเศษอย่างยิ่งก็คือ แม้หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร พระอริยเจ้า ผู้เผยแพร่พระพุทธบาทสี่รอย ให้ลือชาปรากฏอย่างกว้างไกลที่สุด ก็ได้เดินญาณมาร่วมด้วยเช่นกัน โดยมาเคียงคู่กับกระแสจิตของหลวงปู่ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง สหธรรมิกรุ่นพี่ที่เคารพสักการะอย่างน่าปีติ และประทับใจ เป็นที่สุดอีกด้วยฯ

    ๓. พระชินบัญชรคาถา ตำรับรามัญ (มอญ) โดยพระเดชพระคุณหลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม จังหวัดกาญจนบุรี พระมหาวัชชิระหน่อพุทธางกูร จากลุ่มแม่น้ำอิระวดี (วันที่ ๒๓–๒๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๒)

    ๔. อธิษฐานจิตเดี่ยวด้วย “เตโชกสิน” โดยหลวงพ่อครูบาดาบส สุมโน พระบริสุทธิสงฆ์ผู้งามหมดจนสิ้นเชิง แห่งอาศรมไผ่มรกต จังหวัดเชียงราย (วันที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๒)

    ๕. อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวโดย หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง จังหวัดอุตรดิตถ์, อายุ ๑๐๒ ปี ผู้สร้างพระสมเด็จรุ่น “แผ่นดินไหว” อันลือลั่น ผู้ได้รับการยกย่องว่ามีอำนาจจิตอันกล้าแกร่ง และทรงอานุภาพอย่างสูงยิ่งใกล้เคียงกับพระสมเด็จวัดระฆังเลยทีเดียว ที่แม้แต่หลวงปู่ครูบาเจ้าเกษม เขมโก และหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ยังได้ถวายความศรัทธาเลื่อมใสตลอดมา (วันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๒) จำนวนสร้าง ๙๙๙ องค์

    #แตกลายงาสวยๆ หายากมากครับ


    บูชาแล้วครับ

    Clip_59.jpg Clip_60.jpg Clip_72.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2020
  11. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,935
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6368

    พระผงเกศาครูบากองคำ กตปุญโญ วัดดอนเปา อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่


    ท่านเป็นพระสุปฏิปันโนสงฆ์ ผู้ดำเนินตามรอยปฏิบัติแห่งองค ์ครูบาเจ้าศรีวิชัย สิริวิชโย นักบุญแห่งล้านนาไทย
    ครูบากองคำ ท่านเป็นพระเถระที่มีจริยาวัตรงดงาม ทั้งในศีล สมาธิ ปัญญาญาณ ปฏิบัติธรรมจนหมดสิ้นอาสวะกิเลสต่างๆ ได้ทุกประการ และเป็นที่เคารพสักการะอย่างยิ่งของ องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวๆ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาๆ โดยทรงได้เสด็จพระราชดำเนินมาบำเพ็ญพระราชกุศล เป็นการส่วนพระองค์อยู่เนืองๆ และทรงรับไว้เป็น "คนไข้ ในพระบรมราชานุเคราะห์" ในกรณีที่อาพาธ อีกด้วย
    ท่านเป็นพระสงฆ์ที่เปี่ยมด้วยความมีเมตตาธรรมอย่างสูงยิ่งอีกด้วย สิ่งที่ท่านเมตตาต่อชาวโลกอย่างเป็นปกติก็คือ "การอาบน้ำมนต ์ขันบาตรเดียว" ท่านได้เมตตาเพื่อให้ความเป็นสิริมงคล แก่ผู้ที่ไปกราบนมัสการทำบุญกับท่าน โดยที่ท่านไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

    ต๋นบุญ อ.แม่วาง ตำนานสีผึ้ง ยันต์หนูกิ๋นนมแมวอันโด่งดัง

    คุณ pkchalerm บูชาแล้วครับ

    พระผงครูบากองคำ 100 a.JPG พระผงครูบากองคำ 100 b.JPG Clip_81.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2020
  12. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,935
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6369

    เหรียญรุ่นแรกครูบาพรหมา วัดพระพุทธบาทตากผ้า ปี 2500 เนื้อฝาบาตร ผิวหิ้ง สวยเดิมๆ


    พระสุพรหมยานเถร (พรหมา พฺรหฺมจกฺโก)

    พระสุพรหมยานเถร (พรหมา พฺรหฺมจกฺโก) หรือที่รู้จักกันดีในนาม “ครูบาพรหมา” หรือบ้างก็เรียก “ครูบาพรหมจักร” ท่านเปรียบดั่ง “เจ้าคุณนรแห่งล้านนา” ด้วยความมั่นคงในพระวินัย จริยาวัตรอันเรียบร้อยสงบเสงี่ยม เมตตาอันล้ำเลิศ ไม่ผิดพลาดไปจากพระธรรมแม้สักนิด อีกทั้งยังมีจิตที่ทรงฤทธิ์ ถึงขนาดเหยียบหินให้เป็นรอยเท้าได้ ถึงขนาดที่ครูบาเจ้าศรีวิชัยนักบุญแห่งล้านนาไท ยังต้องนัดขอดูตัวด้วยความชื่นชม และท่านยังเป็นอาจารย์ของครูบาชัยวงศาพัฒนาผู้มีฤทธิ์ยอดยิ่งอีกต่างหากด้วย

    ประวัติ
    วัยเด็ก
    ท่านมีนามเดิมว่า พรหมา พิมสาร กำเนิดวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2441 ที่บ้านป่าแพ่ง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน เป็นบุตรของ นายเป็งกับนางบัวถา พิมสาร มีพี่น้องร่วมกัน 13 คนท่านครูบาพรหมมาได้เรียนหนังสืออักษรลานนาและไทยกลางที่บ้านจากพี่ชายที่ได้บวชเรียน

    บรรพชาและอุปสมบท
    ครูบาเจ้าบรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 15 ปี เมื่อวันจันทร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2455 เวลา 15.00 น. ณ วัดป่าเหียง ตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง มีเจ้าอธิการแก้ว ขัตติโย เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านได้หมั่นศึกษาเล่าเรียน ปฎบัติธรรม และประพฤติในศีลาจารวัตรอย่างเคร่งครัด

    ท่านอุปสมบทเมื่ออายุได้ 20 ปี ที่วัดเดิมเมื่อวันที่ 16 ม.ค. พ.ศ. 2461 เจ้าอธิการแก้ว ขัตติโย (ครูบาขัตติยะ) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ฮอน โพธิโก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์สม สุวินโท เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “พรหมจักโก” กระทั่งพรรษาที่ 4 ท่านได้เริ่มต้น เข้าสู่วิถีแห่งการปฏิบัติธรรมอย่างเอาจริงเอาจัง ท่านได้ออกธุดงค์ไปตามป่าเขาต่างๆ ทั้งเขตประเทศไทย พม่า และลาว กระทั่งในปีพ.ศ.2491 ท่านจึงได้มาจำพรรษา ณ วัดพระพุทธบาทตากผ้า และได้พัฒนาวัดจนมีชื่อเสียงเป็นศาสนสถานที่มีความสำคัญทางศาสนาแห่งหนึ่งของจังหวัดลำพูน และด้วยการสั่งสมบุญบารมี คุณงามความดีของท่านนี้เองทำให้ ท่านได้รับความเคารพศรัทธาจากพุทธบริษัทโดยทั่วไป

    ละสังขาร
    ครูบาเจ้าพรหมาได้ดับขันธ์ (มรณภาพ) ในท่านั่งสมาธิภาวนา เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2527 เวลา 06.00 น.อายุ 87 ปี 67 พรรษา คณะศิษยานุศิษย์ได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 3 ปี ได้รับพระราชทานเพลิงศพ วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2531 ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จมาพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงครูบาเจ้าพรหมาด้วยพระองค์เอง หลังจากพระราชทานเพลิงเสร็จสิ้นแล้วได้เก็บอัฐิ ปรากฏว่าอัฐิของครูบาเจ้าพรหมาได้กลายเป็นพระธาตุ มีวรรณะสีต่างๆ หลายสี

    คำสอน
    ครูบาพรหมาท่านได้แสดงธรรมโอวาทไว้มากมาย

    “การทำบาปหรือการทำบุญ จะทำในที่ลับหรือในที่แจ้ง หรือใครไม่รู้ไม่เห็น ก็ตัวของเรา ใจของเรารู้เห็นเอง เมื่อเป็นเช่นนี้ก็กล่าวได้ว่าที่ลับไม่มีในโลกนี้ แม้ว่าจะลับตาลับหูคนอื่น แต่เราก็รู้ เราก็เห็นคนเดียว”


    “ทุกๆคน จึงควรรีบขวนขวาย ซึ่งความงามความดี ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เป็นเด็กก็อย่าได้เกียจคร้านในการเรียนหนังสือ จงตั้งจิตตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ให้มีความรู้ความเฉลียวฉลาดความสามารถ เป็นผู้ใหญ่แล้วก็จงตั้งตัวตั้งตนให้ดี ให้มีความขยัน มีความประหยัด ให้คบแต่คนดี ให้รู้จักประมาณในการใช้จ่าย ถ้าเป็นผู้เฒ่าผู้แก่แล้ว ก็เตรียมตัวเพื่อคุณงามวามดีให้ยิ่งๆกว่าเด็กและคนหนุ่มทั้งหลาย”

    “คนเราทุกคนมีความปรารถนาดี ปรารถนาหาความสุข ความปรารถนาหาที่ผึ่งในวัฏฏะสงสาร ท่านเปรียบเหมือนเราที่ตกอยู่ในกลางทะเลอันเวิ้งว้างกว้างไกลทุกคนก็มีความใฝ่ฝันหาที่ผึ่ง เพื่อที่จะได้อาศัยพักพิงไปยังฝั่งเบื้องหน้า”

    คำไหว้บูชาพระธาตุของครูบาพรหมา พรหมจักโก
    อะหัง วันทามิ พรหมจักกะธาตุโย อะหัง วันทามิ สัพพะโส ฯ

    พระอาจารย์ใหญสายวิปัสสนาแห่งแดนล้านนา
    รับประกันความแท้ครับ


    บูชาแล้วครับ

    เหรียญครูบาพรหมา1 2.5 a.jpg เหรียญครูบาพรหมา1 2.5 b.jpg เหรียญครูบาพรหมา1 2.5 c.jpg Clip_32.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 สิงหาคม 2020
  13. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,935
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6370

    เหรียญรุ่นแรกครูบาพรหมา วัดพระพุทธบาทตากผ้า ปี 2500 เนื้อฝาบาตร สวยเดิมๆ


    พระสุพรหมยานเถร (พรหมา พฺรหฺมจกฺโก)

    พระสุพรหมยานเถร (พรหมา พฺรหฺมจกฺโก) หรือที่รู้จักกันดีในนาม “ครูบาพรหมา” หรือบ้างก็เรียก “ครูบาพรหมจักร” ท่านเปรียบดั่ง “เจ้าคุณนรแห่งล้านนา” ด้วยความมั่นคงในพระวินัย จริยาวัตรอันเรียบร้อยสงบเสงี่ยม เมตตาอันล้ำเลิศ ไม่ผิดพลาดไปจากพระธรรมแม้สักนิด อีกทั้งยังมีจิตที่ทรงฤทธิ์ ถึงขนาดเหยียบหินให้เป็นรอยเท้าได้ ถึงขนาดที่ครูบาเจ้าศรีวิชัยนักบุญแห่งล้านนาไท ยังต้องนัดขอดูตัวด้วยความชื่นชม และท่านยังเป็นอาจารย์ของครูบาชัยวงศาพัฒนาผู้มีฤทธิ์ยอดยิ่งอีกต่างหากด้วย

    ประวัติ
    วัยเด็ก
    ท่านมีนามเดิมว่า พรหมา พิมสาร กำเนิดวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2441 ที่บ้านป่าแพ่ง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน เป็นบุตรของ นายเป็งกับนางบัวถา พิมสาร มีพี่น้องร่วมกัน 13 คนท่านครูบาพรหมมาได้เรียนหนังสืออักษรลานนาและไทยกลางที่บ้านจากพี่ชายที่ได้บวชเรียน

    บรรพชาและอุปสมบท
    ครูบาเจ้าบรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 15 ปี เมื่อวันจันทร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2455 เวลา 15.00 น. ณ วัดป่าเหียง ตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง มีเจ้าอธิการแก้ว ขัตติโย เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านได้หมั่นศึกษาเล่าเรียน ปฎบัติธรรม และประพฤติในศีลาจารวัตรอย่างเคร่งครัด

    ท่านอุปสมบทเมื่ออายุได้ 20 ปี ที่วัดเดิมเมื่อวันที่ 16 ม.ค. พ.ศ. 2461 เจ้าอธิการแก้ว ขัตติโย (ครูบาขัตติยะ) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ฮอน โพธิโก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์สม สุวินโท เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “พรหมจักโก” กระทั่งพรรษาที่ 4 ท่านได้เริ่มต้น เข้าสู่วิถีแห่งการปฏิบัติธรรมอย่างเอาจริงเอาจัง ท่านได้ออกธุดงค์ไปตามป่าเขาต่างๆ ทั้งเขตประเทศไทย พม่า และลาว กระทั่งในปีพ.ศ.2491 ท่านจึงได้มาจำพรรษา ณ วัดพระพุทธบาทตากผ้า และได้พัฒนาวัดจนมีชื่อเสียงเป็นศาสนสถานที่มีความสำคัญทางศาสนาแห่งหนึ่งของจังหวัดลำพูน และด้วยการสั่งสมบุญบารมี คุณงามความดีของท่านนี้เองทำให้ ท่านได้รับความเคารพศรัทธาจากพุทธบริษัทโดยทั่วไป

    ละสังขาร
    ครูบาเจ้าพรหมาได้ดับขันธ์ (มรณภาพ) ในท่านั่งสมาธิภาวนา เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2527 เวลา 06.00 น.อายุ 87 ปี 67 พรรษา คณะศิษยานุศิษย์ได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 3 ปี ได้รับพระราชทานเพลิงศพ วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2531 ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จมาพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงครูบาเจ้าพรหมาด้วยพระองค์เอง หลังจากพระราชทานเพลิงเสร็จสิ้นแล้วได้เก็บอัฐิ ปรากฏว่าอัฐิของครูบาเจ้าพรหมาได้กลายเป็นพระธาตุ มีวรรณะสีต่างๆ หลายสี

    คำสอน
    ครูบาพรหมาท่านได้แสดงธรรมโอวาทไว้มากมาย

    “การทำบาปหรือการทำบุญ จะทำในที่ลับหรือในที่แจ้ง หรือใครไม่รู้ไม่เห็น ก็ตัวของเรา ใจของเรารู้เห็นเอง เมื่อเป็นเช่นนี้ก็กล่าวได้ว่าที่ลับไม่มีในโลกนี้ แม้ว่าจะลับตาลับหูคนอื่น แต่เราก็รู้ เราก็เห็นคนเดียว”

    “ทุกๆคน จึงควรรีบขวนขวาย ซึ่งความงามความดี ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เป็นเด็กก็อย่าได้เกียจคร้านในการเรียนหนังสือ จงตั้งจิตตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ให้มีความรู้ความเฉลียวฉลาดความสามารถ เป็นผู้ใหญ่แล้วก็จงตั้งตัวตั้งตนให้ดี ให้มีความขยัน มีความประหยัด ให้คบแต่คนดี ให้รู้จักประมาณในการใช้จ่าย ถ้าเป็นผู้เฒ่าผู้แก่แล้ว ก็เตรียมตัวเพื่อคุณงามวามดีให้ยิ่งๆกว่าเด็กและคนหนุ่มทั้งหลาย”

    “คนเราทุกคนมีความปรารถนาดี ปรารถนาหาความสุข ความปรารถนาหาที่ผึ่งในวัฏฏะสงสาร ท่านเปรียบเหมือนเราที่ตกอยู่ในกลางทะเลอันเวิ้งว้างกว้างไกลทุกคนก็มีความใฝ่ฝันหาที่ผึ่ง เพื่อที่จะได้อาศัยพักพิงไปยังฝั่งเบื้องหน้า”

    คำไหว้บูชาพระธาตุของครูบาพรหมา พรหมจักโก
    อะหัง วันทามิ พรหมจักกะธาตุโย อะหัง วันทามิ สัพพะโส ฯ

    พระอาจารย์ใหญสายวิปัสสนาแห่งแดนล้านนา
    รับประกันความแท้ครับ


    บูชาแล้วครับ

    เหรียญครูบาพรหมา2 2.5 a.jpg เหรียญครูบาพรหมา2 2.5 b.jpg เหรียญครูบาพรหมา2 2.5 c.jpg Clip_32.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2020
  14. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,935
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6371

    พระเกศาครูบาเจ้าศรีวิชัย พิมพ์พระเลี่ยง ครูบาขาวปี จัดสร้าง


    องค์นี้เป็นเนื้อสมุกคลุกรักมีห่วงลวดแต่หักไป พระยุคแรกของท่านครูบาขาวปีได้จัดสร้าง

    ของดีราคาเบาๆน่าใช้ครับ


    ราคา 1950 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    พระเกศาครูบาศรีวิชัย a.jpg พระเกศาครูบาศรีวิชัย b.jpg พระเกศาครูบาศรีวิชัย c.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2020
  15. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,935
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6372

    พระร่วง วัดพระสิงห์ ปี 12


    พระร่วงรุ่นนี้ สร้างขึ้นเป็นอนุสรณ์การสร้างอนุสาวรีย์และพระสถูปเจดีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเมืองงาย เมื่อปี ๒๕๑๒
    อนูสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ถูกสร้างขึ้น ตามคำปรารภที่ว่า(จากหนังสือประวัติการสร้าง พระกริ่งสมเด็จพระนเรศวร มหาราช เมื่องงาย ปี ๒๕๑๒-ผู้เขียนขอคัดย่อมา) ดังนี้
    "ชาติไทยได้ดำรงความเป็นอิสระเสรีจนกระทั่งปัจจุบัน โดยมีวีรชนผู้กล้าเสียสละเลือดเนื้อเป็นชาติพลี เพื่อลูกหลานและชนรุ่นหลังโดยตลอดมา
    บรรดาวีรชนที่นับว่าได้เสียสละ ไม่มีใครจะประกอบวีรกรรมอันสูงส่งเทียบเท่าสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และผุ้ร่วมพระหฤทัย เช่น สมเด็จพระเอกาทศรถ บรรดาแม่ทัพนายกอง และนักรบผู้กล้าหาญของชาวไทย
    ชาวเชียงใหม่ได้ระลึกอยุ่เสมอว่า ที่การพวกเราได้อยู่อย่างเป็นสุขสบายจนกระทั่งทุกวันนี้ ก็ด้วยพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ได้ทรงมีพระเมตตาต่อชาติไทย จึงได้เห็นพ้องต้องกันว่า ควรจะได้ร่วมกันจัดสร้างสิ่งอันเป็นอนุสรณ์แด่พระองค์ขึ้น
    หลังจากพิจารณาหารือกันแล้วก็เห็นว่า บริเวณบ้านเมืองงาย ดำบลเมืองงาย อำเภอเชียงดาว เป็นสถานที่ที่พระองค์ได้ทรงตั้งทัพตั้งค่าย ขึ้น...จึงสมควรจะได้สร้างพระสถูปเจดีย์ที่ได้สูญเสียหักพังลงไป
    คณะผู้สร้างขณะนั้น อันมีพันตำรวจเอก นิรันดร ชัยนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ขณะนั้นได้นำความขึ้นกราบบังคมทูล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาติ ดำเนินการก่อสร้างพระสถูปเจดีย์ และพระอนุสาวรีย์ ซึ่งพระองค์ได้มีพระมหากรุณาธิคุณฯโปรดเกล้าฯตามที่ขอพระราชทานไป และคณะรัฐมนตรีก็ได้เห็นชอบในหลักการแล้ว....
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินไปบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๐๘ ณ.ที่แห่งนี้ และเมื่อวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๑๑ ได้ทรงเจิมและทรงสุหร่ายศิลาฤกษ์และแผ่นอิฐซึ่งได้มาจากพระเจดีย์องค์เดิม และ
    นอกจากนั้นพระองค์ในวันที่ ๑๕ มกราคม พ.ศ.๒๕๑๒ ได้เสด็จฯ มาเป็นประธานในพระราชพิธีพุทธาภิเษก ณ.วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เพื่อทรงเททองเป็นปฐมฤกษ์ ด้วยพระบารมีของล้นเกล้าล้นกระหม่อมทั้งสองพระองค์ ประชาชนได้มาร่วมพิธีและเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทอย่างล้นหลาม และประชาชนทั่วประเทศได้สั่งจองบูชา พระเครื่อง และสิ่งที่สร้างขึ้นในคราวนี้จนหมด สามารถมีทุนเพียงพอในการที่จะนำไปก่อสร้างพระสถูปเจดีย์และพระอนุสาวรีย์ได้
    วัตถุมงคลที่ได้จัดสร้างในคราวนี้
    ๑.พระกริ่งนเรศวรเมืองงาย บูชา ขณะนั้น ๓๐๐ บาท
    ๒.เหรียญสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
    ๓.พระพุทธสิหิงส์ ขนาดหน้าตัก ๑๒,๙,๗ และ ๕ นิ้ว
    ๔.พระเชียงแสน
    ๕.ขันน้ำพุทธมนต์พระกริ่ง
    ๖.พระร่วงรางปืน
    ในโอกาสนี้จะขอบันทึกเฉพาะพระร่วงรางปืนเท่านั้น คือ มีการสร้างด้วยเนื้อทองแดงรมดำจำนวน ๑๐,๐๐๐ องค์ (ภายหลังได้สร้างเพิ่มเป็นจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ องค์)
    พิมพ์ที่ได้นำมาเป็นหัวข้อนี้เป็นพิมพ์หลังแบบ สร้างต่างหาก ๒,๐๐๐ องค์
    พระดีพิธีใหญ่มากครับปลุกเสกโดยเกจิดังทั่วประเทศ..หลังเสร็จพิธีมีคนนำไปทดลองยิงปรากฎว่ายิงไม่ออกจึงทำให้ผู้คนหลั่งไหลกันมาเช่าบูชา.หมดเพียงไม่กี่วัน...เป็นพระชุดวัพระสิงห์ยอดนิยมครับ


    ราคา 850 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    พระร่วง 400 a.JPG พระร่วง 400 b.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2020
  16. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,935
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6373

    หรียญรุ่น3ครูบาดวงดีวัดบ้านฟ่อน ปี 2549 เนื้อทองแดง ผิวไฟ สวย ๆ


    หลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก พระมหาเถระผู้ทรงคุณอันประเสริฐและมีอายุพรรษากาลสูงสุดในล้านนาไทยยุค

    ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมีจริยาวัตรอันงดงาม และเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังรูปหนึ่ง ที่มีศรัทธาญาติโยมมาเคารพสักการบูชา อยู่มิขาดได้ทุกวันโดยมีศรัทธาญาติโยมจากต่างตำบล ต่างอำเภอ ต่างจังหวัดเดินทางมาขอพรและประพรมน้ำพระพุทธมนต์มิได้ขาด หลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก นับเป็นพระผู้มีอริยะคุณอันยอดเยี่ยมยิ่งที่หาได้ยากยิ่งแล้วในปัจจุบัน สำหรับผู้ที่ได้ปฏิบัติธรรมคงจะเข้าใจอย่างแจ้งชัด แบบไม่ต้องลังเลสงสัย ว่า หลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก เป็นพระอริยเจ้าเฉกเช่นใด ยากที่คนที่ไม่ได้ปฏิบัติจะย่อมรุ้ได้ว่า วัดบ้านฟ่อน นั้นมีพระอริยเจ้าอันมีจิตที่เยือกเย็นเบาสว่างใสมากขนาดใด ซึ่งล้วนแล้วแต่ผู้ที่ปฏิบัติเข้าถึงจะย่อมรู้ชัดได้ แต่ผู้ที่ไม่ได้ปฏิบัติธรรมย่อมไม่รู้ เลยพากันไปกราบไปหลงตามกระแสคำโฆษณาในที่ต่าง โดยไม่อาจทราบด้วยภูมิธรรมใดๆเลยว่า ที่วัดบ้านฟ่อนนั้น มีพระอริยเจ้าที่สามารถกราบได้แบบสนิทใจ มีพลังจิตดวงจิตที่ชุ่มเย็นหลุดพ้นแล้ว เข้าสู่ภูมิวิสุทธิจิต และวิมุตติโดยชัดแจ้ง นั่นคือ หลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก พระมหาเถระผู้ทรงคุณอันประเสริฐและมีอายุพรรษากาลสูงสุดในล้านนาไทยยุค ปัจจุบันนี้ และวัถุตมงคลของท่านมีประสบการณ์ของผู้ที่ได้ครอบครอง วัตถุมงคลของท่าน ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์ที่มากมายครับ หน้าเก็บไว้บูชาครับ
    เหรียญยอดนิยมอีกรุ่นของท่านครูบาดวงดี ตอกโค๊ตหมายเลขชัดเจนครับ


    ราคา 3550 บาท พร้อมจัดส่ง EMS ครับ

    เหรียญครูบาดวงดี รุ่น 3 1.0 a.jpg เหรียญครูบาดวงดี รุ่น 3 1.0 c.jpg เหรียญครูบาดวงดี รุ่น 3 1.0 d.jpg เหรียญครูบาดวงดี รุ่น 3 1.0 b.jpg Clip_73.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2020
  17. pkchalerm

    pkchalerm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,029
    ค่าพลัง:
    +3,167
    จอง
     
  18. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,935
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รับทราบการจองครับ ขอบพระคุณครับพี่

    Clip_2.jpg
     
  19. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,935
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6374

    เสือสาลิกาครูบาหน้อย วัดบ้านปง จ.เชียงใหม่


    เกจิผู้ทรงวิทยาคมแห่งเมืองเชียงใหม่

    เสือตัวนี้ เป็นสาริกาขนาดเล็ก แกะขึ้นจากเขี้ยวเสือไฟซึ่งกลุ่ม ต.ช.ด กลุ่มหนึ่งที่มีความศรัทธาในตัวครูบาท่านได้สร้างขึ้น

    เสือแห่งเมืองเหนือที่มีศิลป์การแกะ เนื้อหาเขี้ยว มีรอยจารที่ตัว เป็นคาถา อักขระ ล้านนาชัดเจน เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร


    ตัวนี้เป็นเสือตัวเล็กอ้าปาก ใช้ทางเมตตามหานิยมดีนักแล

    สุดยอดเครื่องรางแห่งเมืองเหนืออีกชิ้นที่น่าใช้มาก ๆ ครับ


    ราคา 3500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    เสือแกะ a.jpg เสือแกะ d.jpg เสือแกะ e.jpg เสือแกะ b.jpg เสือแกะ c.jpg เสือแกะ g.jpg เสือแกะ f.jpg Clip_74.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2020
  20. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,935
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6375

    พระเจ้าพรหมมหาราช ทรงช้าง หลวงพ่อบุญเย็น


    พระเจ้าพรหมมหาราช(พระพรหมกุมาร) เป็นโอรสของพระเจ้าพังคราช พระองค์เสด็จขึ้นเถลิง

    ถวัลยราชสมบัติ ณ ราชธานีชัยปราการ แห่งราชอาณาจักรลานนาไทย ในขณะที่ทรงเจริญพระชนมายุ

    ได้ 31 พรรษา ในปีพุทธศักราช 1665

    พระราชกรณียกิจ

    พระพรหมอุปราชแห่งอาณาจักรโยนกนคร เชียงแสน ทรงทำการกอบกู้เอกราชขยายอาณาเขต

    เยี่ยงวีระขัตยะชาตินักรบอยู่เป็นเวลาประมาณ 3 ปีเศษ จึงทรงสร้างราชธานีขึ้นอีกแห่งหนึ่ง ทรงขนาน

    นามนครใหม่นี้ว่า “ชัยปราการ” ราชธานี และทรงสถาปนาพระองค์ขึ้นเป็นกษัตริย์ ขนานนามอาณาจักร

    ของพระองค์ว่า ไทยลานนาหรือลานนาไทย มีเมืองเชลียง(สวรรคโลก) เป็นเมืองหน้าด่านทางใต้

    ประชิดอาณาเขตขอม และทรงสถาปนาเมืองหริภุญไชย ซึ่งเคยเป็นของละว้าและขอมมาก่อน

    เป็นหัวเมืองเอก

    พระององค์เป็นมหาราชผู้ระเสริฐ พระองค์ได้ทำนุบำรุงบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองขึ้น กว่าแต่ก่อน

    ทุกๆ ด้านเป็นอันมากในการปกปักษ์รักษาบ้านเมืองให้อยู่รอด มีความมั่นคงแข็งแรงพอที่จะต่อสู้กับ

    อริราชศัตรู พระองค์ทรงเสริมสร้างป้อมคูประตูหอรบ ขยายอาณาเขตให้กว้างขวางยิ่งขึ้น

    คุณธรรมความดีอันเป็นพื้นฐานแห่งมหาบารมีบุญญาธิการของพระองค์ จ้าบรรเจิดซาบซึ้งสิง

    อยู่ในจิตใจชาวไทยลานนา และไทยในทุกแว่นแคว้นแห่งดินแดนสุวรรณภูมิ พระองค์จึงทรงได้รับ

    สมัญญานามจากดวงใจอันเบิกบานผ่องใส เต็มไปด้วยความจงรักภักดีของชาวไทยในยุคนั้น และยุค

    ต่อมาว่า“องค์ปฐมมหาราชไทย”

    พระเจ้าพรหมมหาราช ปฐมมหาราชชาติไทยในมหาอาณาจักรลานนา เสด็จสวรรคาลัยในปี

    พุทธศักราช 1720 สิริรวมพระชนม์มายุได้ 80 พรรษา


    ราคา 8500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    รูปหล่อพระเจ้าพรหม2 h.jpg รูปหล่อพระเจ้าพรหม2 i.jpg รูปหล่อพระเจ้าพรหม2 j.jpg รูปหล่อพระเจ้าพรหม2 k.jpg รูปหล่อพระเจ้าพรหม2 n.jpg รูปหล่อพระเจ้าพรหม2 l.jpg รูปหล่อพระเจ้าพรหม2 m.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2020

แชร์หน้านี้

Loading...