ความสมดุลย์ตามธรรมชาติของจิต

ร่างกายตายกิเลสตายต่างหาก
เราไม่ได้ตายตามกิเลส
เราไม่ได้ตายตามร่างกาย

 

เราตายตามสิ่งใด หรือ เราไม่ได้ตายอีกแล้ว

 

ถ้ายึดได้จริง
พระพุทธเจ้าจะสอนให้ไปนิพพานทำไม
คุณกำลังจะบอกว่า...
กิเลสสามารถยึดพระพุทธเจ้าไว้ได้
ใช่หรือไม่

 

เรามีร่างกาย
ร่างกายก็พาเราเกิดพาเราตาย
เรามีจิตมีวิณญาณ
จิตวิณญาณพาเราเกิดพาเราดับ
เราไม่มีร่างกายเราไม่มีจิตวิณญาณ
เราก็ไม่ต้องกลับมาเกิดกลับมาตาย
ไม่เกิดอีกแล้วก็ไม่มีอะไรให้ดับอีกต่อไป

 

ความอยากไม่มีในสิ่งที่มีอยู่แล้ว (วิภวตัณหา)

 

ก็เรานี่งัยที่ทำความอยากให้เกิดขึ้น
ก็เรานี่งัยที่ทำความไม่อยากให้เกิดขึ้น
ตัณหา.ภวตัณหา.วิภวตัณหา
ก็เรานี่แหละสร้างขึ้นมา
โดยมีธาตุสี่ขันธ์ห้าเป็นปัจจัย

 

ต้นไม้ ก้อนหิน ก้อนเมฆ มันมีความเป็นเรามั้ยคะ?

แท้จิงไม่ที่อะไรเป็นของเราสักอย่าง มีแต่เป็นของโลก เราเกิดมาได้เพราะมีการรวมกันของธาตุที่เป็นของโลกล้วนๆ พอคนเกิดมาแล้วมาตู่เอาสิ่งนั้นสิงนี้เป็นของตัวเอง เพราะตีค่าว่าตัวเองสำคัญ คิดว่าตนแปลกแยกแตกต่างจากธรรมชาติ แท้จริงไม่มีอะไรเป็นของตัวเองสักอย่าง ยืมโลกมาใช้ชั่วคราวทั้งนั้น สุดท้ายไม่ว่าอะไรเราก็ต้องคืนโลกไปทั้งหมด แม้แต่จิตถึงที่สุดก็ต้องเอากลับคืนโลกให้เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ

 

ต้นไม้ ก้อนหิน ก้อนเมฆ
มันมิมีความเป็นเราดอก
เพราะต้นไม้ ก้อนหิน ก้อนเมฆ
มันยังไม่มีเวทนามันยังไม่มีสัญญา
มันมีอยู่แต่มันไม่รู้เรื่องอะไร
มันยังไม่มีความรู้สึกมันยังไม่มีความจำ
มันยังไม่มีเวทนายังไม่มีสัญญา
ความเป็นเรามันก็ยังเกิดมีขึ้นไม่ได้

เราหลงเข้ามายึดจิตวิณญาณ
เราหลงยึดจิตวิณญาณ
แล้วเราก็หลงยึดธาตุทั้งสี่
แท้จิงแล้วเราคือสิ่งที่ยึดจิตวิณญาณ
ยึดธาตุทั้งสี่เข้าหากันด้วยกิเลส
ด้วยอวิชชาแล้วหลงยึดติดไว้
ไม่ยอมปล่อยไม่ยอมวางเพราะไม่รู้
เมื่อเราเห็นแจ้งรู้ความจิง
ว่าเราหลงเข้ามายึดติดจิตวิณญาณ
เราหลงเข้ามายึดติดรูปร่างกาย
เมื่อเราหมดกิเลส
เราปล่อยวางจิตวิณญาณ
เราปล่อยวางร่างกายที่มีธาตุสี่ประชุมกัน
พอเราตายจิตวิณญาณธาตุทั้งสี่
ก็สลายกระจัดกระจายคืนสู่ที่เดิมครับ

 

ถูกค่ะ เพราะการสำคัญตนว่าเพราะชั้นรู้สึก ฉันมีความคิด เพราะฉันเจ็บปวด เพราะฉันมีเวทนาเนี่ยล่ะค่ะ ทำให้คนสำคัญตน สร้างตัวตนหนาเตอะ จนมองไม่ออกว่าที่แท้เราก็แค่ธาตุหนึ่งที่เป็นของธรรมชาติ แม่แต่จิตใจก็เป็นพลังงานหนึ่งของธรรมชาติ ที่หมุนเวียนในวัฏจักรของโลกไม่ต่างอะไรกับวัฏจักรของเม็ดฝนโยกย้ายแปลเปลี่ยนสภาพหมุนเวียนมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ธาตุของเม็ดฝนนั้นก็ไม่เคยหายไปไหน เพราะมันคือสมบัติของโลก

 

พระธรรมที่พระพุทธเจ้า
ทรงแสดง
ทรงตรัสบอกทาง
ทรงชี้ให้ดู
ผู้เข้าถึงจิงย่อมเห็นสิ่งเดียวกันครับ

 

ธรรมะ ไม่ใช่ของพิสดารอะไร เพราะมันเป็นเรื่องธรรมชาติล้วนๆ และพระพุทธเจ้าเป็นผู้ค้นพบความลับสูงสุดนั้น เพื่อมาชี้ทางให้เราเข้าไปพิสูจน์ให้เห็นด้วยตนเอง

 

ด้วยเหตุนี้..
ผู้ประเสริฐกว่าพระพุทธเจ้า
ในอนันตจักรวาลทั้งปวงเป็นไม่มีครับ

 

ยึดมั่นถือมั่นก่อนจึงมีเรา หรือ มีเราก่อนจึงยึดมั่นถือมั่น

 

ยึดก่อนจึงมีเรา
แต่เรามีอยู่ก่อนยึดครับ

 

เรามีอยู่ก่อนขันธ์ห้า หรือ ขันธ์ห้ามีอยู่ก่อนเรา

 

หนึ่งขันธ์กับเรา
ไม่มีอยู่ก่อนไม่มีอยู่หลัง

อีกสี่ขันธ์มีหลังจาก
เราปฏิสนทิกับขันธ์ที่หนึ่งครับ

 

สัตว์ขันธ์เดียว ก็เป็นซะแบบนี้ หากดีจริง จะมาอาศัยอีกสี่ขันธ์ทำไม(ให้ครบห้า) 55

 

ถ้าไม่อาศัยอีกสี่ขันธ์
จะมาสนทนาถามตอบกัน
แบบที่ทำอยู่ตอนนี้ได้ไหมล่ะ
แล้วใครบอกว่าสัตว์ขันธ์เดียวดี๊ดี
googๆคิดเอาเดาเองใช่ไหม

 

หนึ่งขันธ์กับเรา สมสู่กัน 55