พลังจิตรักษาโรค..

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย แพร, 2 กันยายน 2005.

  1. แพร

    แพร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +79
    [​IMG]

    พลังจิต (Mind Power)



    <DD>หมายถึงคลื่นความถี่ของพลังงานความคิด (Pranic Energy) ซึ่งเป็นพลังงานไฟฟ้าบวก (Proton) ไฟฟ้าลบ (Electron) ที่เกิดจากต่อมไพเนียล (Pineal Body) ที่สมองตอนบน เมื่อบุคคลคิดต่อมนี้จะสร้างคลื่นความถี่ของความคิดขึ้น คลื่นนี้อาจจะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับขบวนการทางความคิด(Thinking Process) นั้น คลื่นนี้จะลอยอยู่รอบๆตัวผู้คิด เมื่อคิดถึงใคร คลื่นนั้นจะพุ่งตรงไปยังต่อมสร้างความคิดของผู้รับนั้น ถ้าผู้รับรับคลื่นความคิดนั้นได้ จะเกิดความคิดเช่นนั้นทันที เรียกว่าเกิดการรับรู้ความคิดของผู้อื่นได้ </DD>บุคคลที่มีพลังจิตสูง




    <DD>บุคคลที่มีพลังจิตสูงคือ บุคคลที่มีสมาธิดี เช่น มีสมาธิอยู่ในขั้นกลางที่เรียกว่าอุปจารสมาธิ และสมาธิขั้นสูงที่เรียกว่าอัปปนาสมาธิ

    การทำงานของพลังจิต


    <DD>จิตจะทำงานได้จิตต้องมีเครื่องมือคือร่างกายที่เป็นอยู่ของจิต จิตจึงแสดงผลออกมาให้เห็นได้ ส่วนของมันสมองมีหน้าที่รับคำสั่งของจิตคือ ต่อมใพเนียล (Pinial Body) ซึ่งเป็นต่อมเล็กๆสีแดงอมเทา รูปกรวย เป็นส่วนประกอบของปลายประสาท ต่อมนี้อยู่ในส่วนกลางตอนบนของมันสมอง เมื่อต่อมไพเนียลรับคำสั่งของจิตต่อมนี้จะสร้างเป็นคลื่นความถี่ออกมา คลื่นความถี่จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความคิดนั้น และจะลอยอยู่รอบๆตัวผู้คิด และคลื่นความถี่นี้จะวิ่งไปตามประสาทต่างๆทั่งร่างกายเพื่อควบคุมการทำงานของอวัยวะนั้นๆ พลังงานไฟฟ้าที่ควบคุมอวัยวะต่างๆจะมีกระแสความถี่ต่างกันตามหน้าที่ของอวัยวะและคนนั้นๆอีกด้วย เช่น Electron และ Protron ที่ควบคุมการทำงานของเซลล์เนื้อเยื่อของอวัยวะต่างๆทำให้มีการสร้างและการทำลายของเซลล์ได้ตามปกติ เช่น ทำลายไป 10 เซลล์ก็จะสร้างขึ้นมาทดแทนเช่นเดิม อวัยวะนั้นจะทำหน้าที่ได้ตามปกติ สร้างภูมิต้านทานของร่างกายให้สูงเป็นปกติ ร่างกายจะแข็งแรงสมบูรณ์


    การศึกษาพลังจิต


    <DD>ได้มีการค้นคว้าทางพลังจิตทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ประเทศไทยเรียกพลังนี้ว่าพลังอำนาจทิพย์ ในต่างประเทศ เช่น ชาวจีนโบราณเรียกว่าพลังแห่งชีวิต (Life Force Energy) ชาวยุโรป เช่น เยอรมันเรียกว่าพลังงานแม่เหล็กสัตว์ (Animal Magnetism) ชาวรัสเซียเรียกว่าพลังงานชีวภาพ (Bioplasmic Energy) นักวิทยาศาสตร์ในกลุ่มประเทศตะวันตกเรียกว่าพลังชีวภาพ (Bio Energy) หรือพลังแม่เหล็กไฟฟ้า (Electo Magnetic Force</DD><DD>บุคคลที่มีร่างกายแข็งแรงคือผู้ที่มีพลังจิตสมบูรณ์ควบคุมอยู่ทั่วทุกส่วนของร่างกายทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นแจ่มใสกระฉับกระเฉง พลังจิตจะเปล่งเป็นรัศมีออกโดยรอบร่างกาย ตรงกันข้ามคนป่วยจะมีพลังจิตควบคุมอยู่เพียงเล็กน้อย ภูมิต้านทานในร่างกายจะลดต่ำลง ร่างกายจะอ่อนแอ และจะมีร่างกายที่ปกติเหมือนเดิมได้เมื่อได้รับพลังจิตนั้นๆเพิ่มขึ้น </DD><DD>ดังนั้นพลังจิตจึงเป็นพลังงานที่ควบคุมการทำงานของร่างกาย เช่น การหมุนเวียนของโลหิต การเจริญเติบโตของเซลล์ หากร่างกายส่วนใดขาดพลังจิตร่างกายส่วนนั้นจะไม่สามารถทำหน้าที่ใดๆได้ตามปกติ หรือร่างกายไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ พลังจิตที่ใช้กันทั่วไปมี 3 ลักษณะคือ <DD>1.Telepathy คือพลังงานแห่งเมตตา พลังนี้ติดต่อกันได้โดยทางจิต เป็นพลังงานที่ใช้เพื่อการสร้างสรรค์ <DD>2. Telkynesys คือพลังงานที่ใช้บังคับวัตถุให้เคลื่อนที่ หรือใช้เพื่อทำลายวัตถุต่างๆ เป็นพลังงานที่ใช้เพื่อการบังคับหรือเพื่อการทำลาย <DD>3. Teleportation คือพลังงานที่ใช้เพื่อการล่องหนหายตัว เมื่อใช้พลังงานนี้แล้ว สามารถเดินบนน้ำบนอากาศ หรือเพื่อผ่านเครื่องกีดขวางได้ พลังจิตผิดปกติทำให้เจ็บป่วย



    <DD>จิตมีอำนาจเหนือร่างกาย ที่เรียกว่า จิตเป็นใหญ่ จิตเป็นประธาน สำเร็จแล้วด้วยจิต เมื่อจิตมีอำนาจของกรรมครอบงำอยู่ จิตนั้นจะสั่งกายซึ่งเป็นเครื่องมือของจิตตามอำนาจของกรรมนั้น เช่น จิตมีอำนาจของอกุศลกรรมมาก พลังงานไฟฟ้าที่ออกมาจะไม่มีความสมดุลย์ทางธรรมชาติ เช่น ทำให้พลังงานไฟฟ้าบวกสูงมาก พลังงานไฟฟ้าลบสูงมากบ้าง จะมีผลทำให้ระบบการสร้างการทำลายของร่างกายไม่คงที่ ดังนี้ <DD>พลังงานไฟฟ้าบวกสูงมาก จะทำให้การสร้างเซลล์มากกว่าการทำลายหรือเท่าเดิม แต่รูปร่างโตกว่าเดิม จะเป็นสาเหตุของโรคบวม เนื้องอก เช่น โรคหัวใจ โรคมดลูก เนื้องอกธรรมดา เนื้องอกมะเร็งเป็นต้น <DD>นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคมะเร็งได้กล่าวถึง ทฤษฏีเกี่ยวกับมะเร็งที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดว่า เซลล์มะเร็งเกิดขึ้นในตัวคนเราตลอดเวลา แต่ถูกทำลายโดยเซลล์เม็ดเลือดขาว ก่อนที่มันจะโตจนก่อพิษภัยแก่ร่างกาย โรคมะเร็งเกิดขึ้นต่อเมื่อระบบภูมิคุ้มกันถูกกดดันการทำงานไว้ ทำให้ไม่สามารถขจัดเซลล์มะเร็งที่ก่อตัวขึ้น ดังนั้นถ้ามีอะไรก็ตามส่งผลกระทบต่อการทำงานของสมองที่จะควบคุมระบบภูมิคุ้มกัน มะเร็งย่อมเกิดขึ้นได้ <DD>พลังงานไฟฟ้าลบสูงมาก จะทำให้การสร้างเซลล์น้อยกว่าการทำลายหรือเท่าเดิม แต่รูปร่างเล็กกว่าเดิม จะเป็นสาเหตุของโรคลีบตีบต่างๆ เช่น หลอดเลือดตีบ ลิ้นหัวใจตีบ กล้ามเนื้อตาย มันสมองฝ่อ ภูมิต้านทานบกพร่อง ตับวาย ไตวาย กล้ามเนื้อหัวใจไม่ทำงาน เรียกว่า โรคไหลตาย เด็กเกิดมามีร่างกายไม่สมบูรณ์เป็นต้น <DD>พลังงานไฟฟ้าภายในร่างกายของแต่ละบุคคลอาจไม่เท่ากันก็เป็นได้ ผมเคยพบว่าการเพิ่มเลือด เกล็ดเลือดให้คนไข้ สภาพร่างกายคนไข้ไม่ยอมรับเลือดหรือเกล็ดเลือดนั้น เพราะเลือดใหม่และเลือดเก่าไม่สามารถเข้ากันได้ แม้ทางการแพทย์จะวิเคราะห์แล้วว่าเป็นเลือดกรุ๊ปเดียวกัน เมื่อพิจารณาในสมาธิพบว่าพลังงานไฟฟ้าที่ควบคุมเม็ดเลือดนั้นไม่เท่ากัน แสดงว่าพลังงานควบคุมเม็ดเลือดของแต่ละคนจะเท่ากันหรือไม่เท่ากันก็ได้ และพบอยู่มากกับกลุ่มผู้หลงผิดที่ไปรับเอาพลังงานอื่นมากดทับพลังจิตของตนเอง ทำให้การทำงานของพลังจิตของตนผิดไป จิตนั้นจึงสั่งมาที่สมองของตนผิด การแสดงออกของร่างกายจิตผิดไปด้วย เช่น กลุ่มของคนทรงเจ้าเข้าผี กลุ่มของคนเหล่านี้จะไปรับเอาเวทย์มนต์คาถา ของอิทธิฤทธิ์ ของอาถรรพ์ดวงวิญญาณเข้ามาสิง เช่น ดวงวิญญาณกุมารทอง นางกวัก ปลัดขิก เจ้าพ่อ เจ้าแม่ น้ำมันพรายหรือองค์เทพต่างๆมาอยู่กับตนที่เรียกว่า เดรัจฉานวิชา ไม่เป็นจิตดั้งเดิมของตนเอง อาการป่วยของบุคคลเหล่านี้ทางการแพทย์จะตรวจหาสาเหตุไม่พบ</DD><DD>การเพิ่มและการรับพลังจิต </DD><DD>บุคคลที่มีสมาธิดีจะมีคลื่นความถี่ และความรุนแรงของพลังงานความคิดสูง สามารถที่จะส่งพลังงานนั้นไปยังบุคคลที่ตั้งเป้าหมายไว้ได้แน่ชัดทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ตัวผู้รับได้ตามความปราถนานั้น เรียกว่า การเพิ่มและการรับพลังจิต การเพิ่มแต่ละครั้งแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพิ่มพลังจิตแต่ละครั้งนานเท่าใด ผู้เพิ่มพลังจิตจะทราบได้ในสมาธิจิตนั้น หากผู้รับยังรับได้ก็เพิ่มให้ต่อไป หากเห็นว่าพลังจิตที่ส่งไปนั้นหยุดลง ก็หยุดเพิ่มพลังจิตในครั้งนั้น และต้องเพิ่มพลังจิตกี่ครั้งจึงจะได้ผล สิ่งนี้ไม่มีกำหนดแน่นอนขึ้นอยู่กับผู้รับ หากผู้รับสามารถรับพลังจิตได้มาก และเห็นว่าอวัยวะที่ผิดปกตินั้นเปลี่ยนเป็นปกติเร็วพลังจิตที่ส่งไปจะหยุดลง ควรหยุดเพิ่มพลังจิตให้ผู้ป่วยกลับไปทำสมาธิภาวนาด้วยตนเอง ผู้ป่วยจะสร้างพลังจิตที่ดีขึ้นมาได้ พลังจิตนั้นๆจะบำบัดทุกข์ให้กับผู้ป่วยได้ในที่สุด <DD>

    การเพิ่มพลังจิตกระทำได้ 3 ทาง คือ
    <DD>1. เพิ่มที่อวัยวะนั้นโดยตรง <DD>2. เพิ่มที่จุดกำเนิดของพลังจิต คือที่ต่อมไพเนียล <DD>3. เพิ่มพลังจิตให้ครอบคลุมทั้งตัวผู้รับ


    จะเพิ่มให้ใครที่อวัยวะใดนั้นจะทราบและเห็นได้ในสมาธินั้นๆ

    ผู้เพิ่มพลังจิตที่ดี
    <DD>ผู้เพิ่มพลังจิตที่ดีควรมีคุณสมบัติดังนี้คือ เป็นผู้ที่ตั้งอยู่ในศีล สมาธิ ปัญญา และเมื่อเพิ่มพลังจิตให้กับใครก็ตามต้องรู้ทุกข์ รู้สาเหตุแห่งทุกข์ รู้หนทางดับทุกข์ และรู้วิธีการดับทุกข์นั้นๆโดยชัดแจ้งพร้อมตั้งตนอยู่ในพรหมวิหารธรรม และหิริโอตัปปธรรม


    ผู้รับพลังจิตที่ดี คือ เป็นผู้ที่มี
    <DD>1. ศรัทธา ผู้รับต้องมีศรัทธาที่จะรับพลังจิต <DD>2. สมาธิ ผู้รับต้องมีความตั้งมั่นแห่งจิตอยู่กับกายและจิตของตน <DD>3. สติ ผู้รับต้องมีความระลึกได้ว่าตนกำลังรับพลังจิตอยู่ <DD>4. ปัญญา ผู้รับต้องรู้จักการปล่อยวางความทุกข์ออกจากจิตใจในขณะนั้น <DD>5. ความขยันหมั่นเพียร การรับพลังจิตนั้นต้องรับสม่ำเสมอและให้ตั้งอยู่ในคำสอนของพุทธองค์เป็นหลัก ดังกล่าวแล้ว


    การเพิ่มพลังจิตผ่านบุคคลอื่นวัตถุอื่น

    <DD>บางกรณีที่จำเป็น คือ ผู้ป่วยไม่สามารถขอรับพลังจิตด้วยตนเองได้ เช่นอยู่ในห้องผู้ป่วยหนัก อยู่ในโรงพยาบาลจิตเวช อยู่ต่างประเทศ ผมได้ทดลองเพิ่มพลังจิตผ่านกระแสจิตของผู้ใกล้ชิด เช่น พ่อ แม่ บุตร สามี ภรรยา ผู้ดูแล หรือผ่านลงไปในน้ำดื่ม ก็สามารถช่วยผู้ป่วยได้บ้างเป็นบางส่วนเท่านั้น


    บุญและบาปเป็นพลังงาน
    <DD>หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 4 ธันวาคม 2536 และ 30 มกราคม 2537 ลงบทความเรื่องสัจธรรม โดย พญ.บุษกร กล่าวว่า ร่างกายของสัตว์เป็นสสารควบคู่กับจิตใจซึ่งเป็นพลังงานทั้งร่างกายและจิตถูกพลังงานแห่งกิเลสปรุงแต่งให้จิตมืดบอด หรือ ราคะ โทสะ และโมหะ ส่งผลให้เกิดมโนกรรม วจีกรรม และ กายกรรมและกระทำความชั่วต่างๆได้ตามอำนาจของกรรมนั้นๆ <DD>บุคคลที่มีจิตมีสัมมาสมาธิ สัมมาทิฏฐิ มีจิตเมตตาปราณี ทางการแพทย์พบว่าต่อมใต้สมองจะผลิตสารบุญเรียกว่า เอนดอร์ฟีน (Endorphine) ออกมามากส่งผลให้ร่างกายเบาสบาย ที่เรียกว่าเกิดปิติ กินได้นอนหลับ ไม่ฝันร้าย หรือไม่ฝันเลย ผิวพรรณผ่องใสใบหน้าสดชื่น โคเรสเตอรอลละลายสลายตัว เม็ดเลือดขาวแข็งแรง มีภูมิคุ้มกันโรคสูง ระบบต่างๆของร่างกายทำงานได้ดี เจ็บป่วยทางกายน้อยลง บาดแผลหายเร็วกว่าผู้มีจิตใจเป็นบาปถึงเท่าตัว หากเป็นโรคมะเร็ง เซลล์มะเร็งจะหยุดหรือลุกลามช้าลง</DD><DD>ในทางตรงกันข้าม บุคคลที่จิตมีมิจฉาสมาธิ มิจฉาทิฏฐิ จิตที่คิดเกลียด โกรธ อิจฉาริษยา อาฆาต พยาบาท เคียดแค้น เครียด วิตกกังวล ต่อมหมวกไตจะสร้างสารบาปออกมามาก สารนี้จะซึมเข้าสู่กระแสโลหิตแล้วไปออกฤทธิ์ที่อวัยวะเป้าหมาย ดังนี้ </DD><DD>1. สารแอดรินาลิน (Adrenalin) ทำให้หัวใจเต้นเร็งแรง เส้นโลหิตแดงหดเกร็ง เป็นเหตุให้ความดันโลหิตสูงขึ้น ถ้าเส้นเลือดแดงที่ไปหล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อผนังหัวใจหดจนตีบตัน หัวใจจะวายถึงตายได้ โคเรสเตอรอลจะถูกสร้างขึ้นทั้งๆที่มิได้รับประทานไขมันสัตว์ กะทิ ไข่แดง หอยนางลม หรือเครื่องในสัตว์มากกว่าปกติ <DD>2. สารสเตียร์รอยด์ (Sterroid) ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมการหลั่งน้ำย่อยอาหาร อาจมีผลทำให้หลั่งมากหรือน้อยก็ได้ ถ้าหลั่งมากน้ำกรดในน้ำย่อยย่อมกัดผนังด้านในของกระเพาะอาหารทำให้ปวดท้องบริเวณลิ้นปี่ เกิดแผลในกระเพาะอาหาร ถ้ากัดกร่อนเส้นเลือดใหญ่ทะลุ จะอาเจียนเป็นเลือด หากช่วยไม่ทันจะเสียเลือดจนตาย ถ้าหลั่งน้อย ท้องจะอืดเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ไม่อยากรับประทานอาหาร <DD>3. สารแลคติค แอซิด หรือ เกลือแลคติค (Lactic Acid) ที่เกิดขึ้นแล้วมีผลต่อร่างกาย คือ <DD>1. ทำลายภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำลายความแข็งแรงของเม็ดเลือดขาว เหมือนฤทธิ์ของ HIV เชื้อโรค AIDS ร่างกายจึงอ่อนแอ เจ็บป่วยบ่อย หายนาน <DD>2. เกล็ดเลือดในกระแสโลหิตจับตัวกันเป็นลิ่มเล็กๆ ไปอุดตันตามหลอดเลือดฝอยต่างๆ ถ้าเกิดขึ้นกับอวัยวะสำคัญ เช่น มันสมองจะทำให้เกิดอัมพาตขึ้นได้ <DD>พลังงานแห่งวิบากกรรมเหล่านี้ เมื่อถูกก่อขึ้นแล้วมิอาจสูญหายไปในทางใดได้ พลังงานดังกล่าวจะตามสนองเรื่อยไปตามโอกาสตราบจนผู้นั้นสิ้นกิเลส สิ้นกรรม ไม่ก่อพลังงานของกรรมใหม่อีกต่อไป ที่เรียกว่า กรรมเป็นผู้ติดตาม <DD><DD>เมื่อท่านทราบผลกรรมที่เป็นปัจจุบันกรรมเช่นนี้แล้ว ขอได้หยุดสร้างกรรมต่อกัน ทั้งมโนกรรม วจีกรรม และกายกรรม พลังงานของวิบากกรรมจะเกิดขึ้นน้อยหรือไม่เกิดขึ้น การทำงานทุกระบบของร่างกายจะเป็นปกติ ท่านจะมีสุขภาพสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ </DD><DD></DD><DD>จากหนังสือ ธรรมะในจิต โดย อาจารย์ พิศ เงาเกาะ




    </DD>
     
  2. ชัย

    ชัย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +32
    เเล้วที่ผมส่ง...ไป...ได้รับยังครับ...ทั้งไฟ...ทั้งเสือ
     
  3. jiaranai

    jiaranai Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +57
    เรียนพลังจิตรักษาโรค

    ดีมากครับคุณแพร ที่ให้ข้อมูลในด้านพลังจิตเอาไว้ศึกษา
    ผม อ.เจียระไน โชคมงคลชัยชนะ เป็นคนหนึ่งที่ศึกษาพลังจิตมาดังนี้
    เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า สมัยวัยเด็กอายุประมาณ 6 ขวบ ต้องกลายมาเป็นเด็กวัด<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    และถูกบังคับให้ท่องจำ และเรียนรู้วิชาโหราศาสตร์และวิชาฮวงจุ้ย ตลอดรวมไปถึงวิชาการใช้พลังจิตในการรักษาโรค จากหลวงปู่ที่มีความเมตตาองค์หนึ่ง<o:p></o:p>
    หลวงปู่องค์นี้ชื่อว่า หลวงปู่สงฆ์ แห่งวัดเจ้าฟ้าศาลาลอย จ.ชุมพร เมื่อได้เรียนวิชาในด้านต่าง ๆ ผมเป็นคนที่ชอบทดสอบทดลอง จึงลองรักษาคนที่ปวดตามร่างก่ายในส่วนต่าง ๆ ดูก่อน โดยใช้พลังจิตในการรักษาโดยไม่ต้องใช้ยา ปรากฎว่า ในแต่ละคนหายกันเป็นที่มหัศจรรย์ หากว่าท่านใดสนใจในการฝึกสมาธิและต้องการศึกษาเคล็ดลับในด้านพลังจิต ติดต่อมาที่ผมได้ ยินดีให้คำแนะนำกับทุกท่านที่โทรมา ไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ โดยติดต่อมาที่ อ.เจียระไน โชคมงคลชัยชนะ โทร.086-8964385 หรือ 085-0676219 www.jiaranai.com<o:p></o:p>

    รูปที่ใช้แทนตัวนั้นเป็นรูปที่ได้ถูกเชิญไปเป็นเจ้าพิธีพุทธาพิเษกวัดถุมงคลหลวงปู่ทวดรุ่น ๑ ดวงเฮง ที่วัดตาก้อง จ.นครปฐม ผู้ชายที่นั่งหลับตานั่งสมาธิที่แต่งชุดขาวมีผ้าสพายคล้ายสังฆติพระนั้นคือ ตัวของ อาจารย์
    ในพิธีได้ทำการทดลองนำพระหลวงปู่ทวดรุ่น ๑ ดวงเฮง เอามากำเอาไว้แล้วใช้มีดาบฟัน ปรากฎว่า หนังเหนียวฟันไม่เข้า พิธีวันที่ 11 พ.ย.2550 วันนั้นมีการถ่ายทอดทีวีช่อง TITV และ พระที่นำไปฟันไม่เข้านั้นมีชื่อว่า "พระผงดูดทรัพย์หลวงปู่ทวดรุ่น ๑ ดวงเฮง ฝังตะกรุดเงินใหลมา" แต่ที่น่าสนใจมากว่านั้นคือราคาพระเช่าบูชากันที่วัดเพียงแค่องค์ละ 99 บาทเท่านั้นเองครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2007
  4. นายโสดาบัน

    นายโสดาบัน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2010
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +22
    ขอบคุณมากมายเหล่านี้เป็นทานเช่นกันและเป็นความดีที่ทุกคนควรทำจะได้สั่งสอนผู้คนต่อไปเรื่อยไม่ให้หมดเทอญ...สาธุ.
     
  5. วิหกขาว

    วิหกขาว สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +12
    พลังจิตรักษา

    ผมมีวิธีปฏิบัติธรรมเพื่อรักษาโรคจากพุทธองค์เรียกว่าพลังความดีเป็นการนำเอาการทำบุญมาใช้รักษาโรคต่างๆเช่นหวัด ไมเกรน และโรคที่เกี่ยวกับกรรมและอีกมากมายผมคือ พุทธบุตร ไม่ได้หลอกลวง ใครอยากใด้ให้ฟรี มาพบผมใด้ phoobokthang
     
  6. วิหกขาว

    วิหกขาว สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +12
    ขออธิบายเพิ่มหากมีผู้ต้องการมนต์ทั้ง๓ส่วนที่ผมกล่าวใว้ต้องรักษาศีล๕และใช้เพื่อช่วยผู้อื่น ผมตอบว่าได้มาตอนออกธุดงค์ในป่่าเพื่อรักษาตัวเอง อาจจะเคยใด้ยินมาบ้างแต่ตอนนี้ไม่ใช่พระแล้วเป็นคราวาส จึงรักษาศีล๕พระวินัยแห่งสงฆ์นั้นมีขอบเขตกว้างครอบคลุมทั้งหมดพระพุทธองค์ห้ามใว้ แต่เพราะต้องการช่วยจึงนำมนต์เหล่านั้นมาแผยแพร่ มีประโยชน์และไม่มีส่วนใดเป็นโทษเพราะเป็นการเปลี่ยนพลังความดีมารักษาไม่ว่าจะ ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ใช้ใด้ทั้งหมดแต่คนชั่วไร้ศีลธรรมใช้ไม่ใด้และให้ฟรีเพื่อเป็นธรรมทานไม่ปิดบังอะไรเพราะบริสุทธ์ใจ และผมใด้สละเงินส่วนหนึ่งซึ่งตัวผมเองก็ไม่มีทรัพย์มากเรียกว่าลูกชาวนานี่เองหาเงินมาจากความยากลำบาก ผมมีเพียงปัญญานี้เท่านั้นที่ให้ใด้และการเรียนผมก็จบม ปลายเท่านั้นและอาจารย์ผมคือพระไตรปิกฏผมศึกษาและปฏิบัติเองท่านทั้งหลายโชคดีกว่าผมมากอาจารย์แต่ละท่านล้วนทรงภูมิความรู้ผมเป็นผู้น้อยขอกราบอาจารย์ของท่านทั้งหลายด้วยใจจริง หากมีผู้ใดเห็นค่าในมนต์นี้ผมเปิดเสรีให้ทุกๆท่านมาที่นี่นะครับ www.phoobokthang.blogspot.com หรือต้องการสอบถามปัญหาการปฏิบัติธรรมต่างๆ ส่งคำถามกันมาที่ phoobokthang@hotmail.com นะครับ ขอสงวนสิทธิ์ตอบตามรายละเอียด ดังนี้
    ๑. ตอบนัยเดียว คือ อยากรู้ทั่วๆไปในส่วนต่างๆ
    ๒. ตอบแบบแยกตอบ คือ ปํญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติสมาธิ
    ๓. ตอบแบบย้อนถาม คือ ไม่เข้าใจว่าต้องการอะไร
    ๔. งดตอบเกี่ยวกับ ผู้เขียน บุคคล สถานที่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤศจิกายน 2011
  7. กางเกงลิง

    กางเกงลิง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +13
    โอ้ว.... ชอบครับ:cool::cool::cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...