ต้องการมีทรัพย์สินเงินทอง 5ล้าน ภายใน5ปี ต้องทำอย่างไร (บทพิสูจน์ธรรมะ)

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย poprock, 12 กันยายน 2005.

  1. poprock

    poprock เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +812
    โดย นายศิริพงษ์ อัครศรียุกต์

    หนังสือ ความสำเร็จที่มาจากพระพุทธเจ้า


    เมื่อเรารู้แล้วว่าบุญต่างๆนั้นมีกำลังไม่เท่ากัน แต่หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจว่า จะทำบุญอย่างไรให้เห็นผลกันภายใน 5 ปี โดยที่ขอมีทรัพย์สินเงินทองสัก 5 ล้านบาท ซึ่งหลายคนก็คงอยากจะรู้ว่าจะมีสูตรสำเร็จในการทำบุญให้สัมฤทธิ์ผลดั่งใจหวังได้หรือไม่<O:p</O:p

    ารขอในสิ่งที่เป็นไปได้ยาก 4 ประการ<O:p</O:p

    ก็ต้องขออธิบายว่าเรื่องบุญกรรมนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนซึ่งยากที่คนทั่วไปจะเข้าใจ ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสไว้ว่า การขอในสิ่งที่เป็นไปได้ยาก หรือยากที่จะได้ดังใจหวังนั้นมีอยู่ 4 ประการ คือ<O:p</O:p

    1. ขอให้ได้ร่ำรวยเป็นเศรษฐี<O:p</O:p

    2. ขอให้ได้มียศฐาบรรดาศักดิ์<O:p</O:p

    3. ขอให้อายุยืนยาว<O:p</O:p

    4. ขอให้ตายแล้วไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์<O:p</O:p

    <O:p</O:p

    วิธีที่ทำให้ได้ตามคำขอ 4 ประการ<O:p</O:p

    แต่ก็โชคดีว่าพระพุทธเจ้าได้ทรงบอกวิธีที่จะทำให้ได้ตามคำขอทั้ง 4 ประการนี้ ว่า<O:p</O:p

    <O:p</O:p
    1. ผู้ที่ขอต้องเป็นผู้ที่มีศรัทธาแน่วแน่<O:p</O:p

    2. ผู้ที่ขอต้องเป็นผู้ที่ทำทานสม่ำเสมอ<O:p</O:p

    3. ผู้ที่ขอต้องเป็นผู้ที่มีศีล<O:p</O:p

    4. ผู้ที่ขอต้องเป็นผู้ที่มีภาวนามั่นคง<O:p</O:p

    5. ผู้ที่ขอต้องเป็นผู้ที่มีปัญญา ซึ่งปัญญาในที่นี้หมายถึง การละนิวรณ์ 5 มีดังนี้<O:p</O:p

    <O:p</O:p

    1) อภิชฌา คือความโลภอย่างมาก (ในที่นี้พระพุทธเจ้าไม่ใช้กามฉันทะ)<O:p</O:p

    2) พยาบาท คือการผูกใจเจ็บ หรือผูกอาฆาตผู้อื่น<O:p</O:p

    3) ถีนมิทะ คือความง่วงเหงาหาวนอน<O:p</O:p

    4) อุทธะจะ ถุกกุจจะ คือความฟุ้งซ่านรำคาญใจ<O:p</O:p

    5) วิจิกิจฉา คือความลังเลสงสัย<O:p</O:p

    6) ซึ่งถ้าทุกคนสามารถทำได้ ก็จะต้องได้ในสิ่งที่ตนเองขออย่างแน่นอน ซึ่งถ้าทุกคนได้อ่านประวัติของผมในช่วงต้นจะเห็นว่าผมได้ปฏิบัติตามที่พระพุทธเจ้าบอกไว้ว่าทุกอย่าง ซึ่งในวันนี้ ผมจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผมถึงได้ในสิ่งที่ผมขอ<O:p</O:p

    <O:p</O:p

    ขั้นตอนและวิธีการที่จะทำให้ได้ทรัพย์สินเงินทอง 5 ล้านภายใน 5 ปี<O:p</O:p

    <O:p</O:p

    และเพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างชัดเจนในการทำบุญแล้วให้ได้ผลตามที่ปรารถนา ขั้นตอนและวิธีการต่อจากนี้ไปจะเป็นการใช้ประสบการณ์ในการทำบุญที่ผ่านมา 10 กว่าปีของผม ซึ่งทุกขั้นตอน ทุกวิธีการผมได้ใช้ และปฏิบัติมาแล้วทั้งสิ้น ซึ่งก็เป็นไปตามที่พระพุทธเจ้าได้ทรงสั่งสอนไว้ทุกอย่าง<O:p</O:p

    <O:p</O:p

    ส่วนผสมของบุญ<O:p</O:p

    <O:p</O:p

    ก่อนที่จะไปถึงวิธีปฏิบัติ ขอให้ทุกท่านพิจารณาตัวอย่างของส่วนผสมบุญ ที่ต้องนำไปใช้ในหัวข้อของ ทาน ศีล สมาธิ ส่วนผสมของบุญทั้ง 3 มีดังนี้<O:p</O:p

    <O:p</O:p

    ตัวอย่างส่วนผสมบุญที่ 1<O:p</O:p

    <O:p</O:p

    ถ้าท่านมีทรัพย์พอสมควรที่จะทำทานได้ ให้ปฏิบัติดังนี้<O:p</O:p

    <O:p</O:p

    1) ต้องทำทานโดยการเป็นเจ้าภาพสังฆทานเดือนละ 5,000 บาท<O:p</O:p

    2) วันธรรมดาต้องรักษาศีล 5 และในวันพระต้องรักษาศีลอุโบสถ<O:p</O:p

    3) ทำฌานภาวนาวันละ 1 ครั้งๆละ 2 ชั่วโมง ซึ่งในระหว่างนั่งฌานให้ทำการอธิษฐานตามที่กำหนดให้<O:p</O:p

    ตัวอย่างส่วนผสมบุญที่ 2 <O:p</O:p

    <O:p</O:p

    ถ้าท่านมีทรัพย์น้อย ก็จะทำทานได้ไม่มากนัก ให้ปฏิบัติดังนี้ <O:p</O:p

    <O:p</O:p

    1) ต้องทำทานโดยการเป็นเจ้าภาพร่วมสังฆทานเดือนละ 2,000 บาท<O:p</O:p

    2) วันธรรมดาต้องรักษาศีล 5 และในวันพระต้องรักษาศีลอุโบสถ<O:p</O:p

    3) ทำฌานภาวนาวันละ 2 ครั้ง เวลาเช้า 2 ชั่วโมง เวลาค่ำ 1 ชั่วโมง<O:p</O:p

    ซึ่งในระหว่างนั่งฌานให้ทำการอธิษฐานตามที่กำหนดให้<O:p</O:p

    <O:p</O:p

    ตัวอย่างส่วนผสมบุญที่ 3<O:p</O:p

    <O:p</O:p

    ถ้าท่านมีทรัพย์น้อย ท่านก็ทำน้อยตามกำลัง ดังนี้<O:p</O:p

    <O:p</O:p

    1) ต้องทำทานโดยการเป็นเจ้าภาพร่วมสังฆทานเดือนละ 1,000 บาท<O:p</O:p

    2) วันธรรมดาต้องรักษาศีล 5 และในวันพระต้องรักษาศีลอุโบสถ<O:p</O:p

    3) ทำฌานภาวนาวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 2 ชั่วโมง เช้า
     
  2. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,682
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,012
    เคยได้อ่านมาว่า หลวงปู่แหวนบอกว่า ถ้าตักบาตรทุกวันก็รวย
     
  3. marine24

    marine24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,224
    ค่าพลัง:
    +15,636
    ผมเคยถวายเงินสร้างกุฏิพระ สร้างศาลาการเปรียญ โบสถ์ในเขตทุรกันดารโดยส่งทางไปรษณีย์ และผมก็นั่งสมาธิทุกวัน ปรากฏว่ามีเงินใช้อยู่เรื่อยๆไม่ขาดมือ ไม่รวยแต่ไม่จน
     
  4. nok

    nok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +255
    เห็นด้วยค่ะ ตัวเราเองถ้าทำบุญ ทำทาน เมื่อไหร่จะได้โชคลาภเงินทองกลับมาเร็วมากทันที
    มีคนบอกว่าเราเป็นคนทำบุญขึ้น แต่สงสัยว่าเป็นเจ้าภาพสังฆทานเป็นยังงัยเหรอค่ะ และต้องทำอย่างไร เลือกทำวันไหนก็ได้ของเดือนเหรอค่ะ คุณpoprock
     
  5. anuwat_ball

    anuwat_ball สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +9
    จุดประสงค์ของการทำบุญที่แท้จริงก็เพื่อ ละความยึดติด ละความตระหนี่ ละความเป็นตัวกูของกู แล้วความทุกข์จะลดลง เพราะถ้าเรายึดติดในเรื่องใด เราก็จะเดือดร้อนในเรื่องนั้น แม้กระทั่งเรายึดติดในธรรมข้อใด เราก็จะเดือดร้อนในธรรมข้อนั้น ถ้าเราทำบุญด้วยใจที่คิดเช่นนี้ใจเราก็จะสบาย ส่วนเรื่องอานิสงค์นั้น เป็นผลพลอยได้นะ ซึ่งถ้าหากเราทำบุญแล้วใจสบาย อานิสงค์ก็จะมากตาม แต่เดี๋ยวนี้คนเรามักจะมองการทำบุญเหมือนการลงทุนเลย ว่าทำอย่างนี้ ทำแบบนี้ ทำเท่านี้ แล้วจะได้ผลตอบแทนเท่าไร ซึ่งคิดแบบนี้อานิสงค์ก็ได้นะ แต่ได้ไม่เต็มกำลัง และถ้าทุกคนคิดแบบนี้ โลกคงวุ่นวายแย่ เพราะจะมีแต่คนแห่กันไปทำบุญสังฆทาน ทำบุญกฐิน แต่คนที่เขาไม่มีกิน เดือดร้อน ไม่มีใครสนใจที่จะช่วยเหลือเขากันเรย ซึ่งสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านก็เคยกล่าวไว้ว่า เราควรให้ทาน แก่คนยากไร้บ้าง เพราะสังคมจะอยู่ได้ก็ต่อเมื่อ คนเราได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ดั่งน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า(อันนี้แต่เอง)

    แต่เราก็มีข้อแนะนำนะ สำหรับคนที่ต้องการให้อานิสงค์ของการทำบุญ สังฆทาน กฐิน หรือ ทำบุญด้านอื่นๆ ให้ได้ผลมาก อาจารย์ของเราซึ่งท่านได้ตาทิพย์ หูทิพย์แล้ว ท่านบอกว่า ถ้าเราทำบุญให้แก่ผู้รับที่กำลังต้องการปัจจัยนั้นอย่างเร่งด่วน ตรงนี้จะทำให้เราได้อานิสงค์มาก และเวลาไปทำบุญ ต้องทำตอนที่ใจเราสบาย อย่าทำตอนเรามีปัญหาอยู่
    (คนส่วนใหญ่จะทำแบบหลัง) เพราะถ้าก่อนทำเราใจสบายอยู่ หลังทำใจเราก็จะสบายเช่นกัน เมื่อใจสบายแล้ว อานิสงค์จึงมากตาม และที่สำคัญ หากคนที่ทำบุญได้ถือศีล หรือปฎิบัติธรรมอยู่เป็นประจำแล้ว ผลของอานิสงค์ก็จะสูงยิ่งขึ้นไปอีกนะ แล้วก็อีกอย่าง ในการทำบุญ ไม่จำเป็นต้องทำด้วยเงินจำนวนมาก แต่เน้นให้ทำบ่อยๆ เพื่อให้จิตใจเราได้ยกระดับขึ้น เมื่อจิตดี คิดดี เดี๋ยวสิ่งดีๆจะตามมาเอง ถ้าหากสิ่งที่เราบอก ทำให้ใครไม่พอใจ เราก็ขอโทษด้วยนะ เราแค่อยากบอกจากประสบการณ์ที่ได้รับรู้ของเราเองเท่านั้น ก็มีแค่นี้แหละนะ ที่ขอแนะนำ สวัสดีครับ

     
  6. boonta

    boonta Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +64
    ไม่ขอรวยคับ อยากนิพานอย่างเดียว
     
  7. หนูมาลี

    หนูมาลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2005
    โพสต์:
    607
    ค่าพลัง:
    +1,148
    กระทู้เยื่ยมคะ
     
  8. poramase

    poramase เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +592
    ได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วครับข้อความนี้ถือว่าถ้าปฏิบัติได้ย่อมได้แก่ตัว เห็นพูดถึงการฝึกฌาน ด้วยนะครับ ไม่ใช่สักแต่นั่งสมาธิอย่างเดียวต้องนั่งให้ได้ถึงฌานด้วย
     

แชร์หน้านี้

Loading...