พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย HMMAmulet296, 4 กุมภาพันธ์ 2022.

  1. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,222
    ค่าพลัง:
    +458
    1162. รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ ที่ได้อัญเชิญ "ลายเซ็น" และ"ลายมือ" บันทึกธรรม ตลอดจน"อักขระยันต์หัวใจยูงทอง" แท้ๆ ที่หลวงปู่มั่น ได้เขียนไว้ด้วยองค์ท่านเอง เหรียญหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เนื้อทองแดง บล็อคที่3 ให้บูชาเหรียญละ 650 บาท (เหลือ 1 เหรียญ)


    upload_2022-12-3_20-53-21.png

    upload_2022-12-3_20-53-32.png

    รุ่นภูริทัตโตอนุสรณ์ หรือ "#เหรียญลายมือลายเซ็น" ขององค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่ "พุทธวงศ์" ได้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2546 ซึ่งนับเป็น รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ ที่ได้อัญเชิญ "ลายเซ็น" และ"ลายมือ" บันทึกธรรม ตลอดจน"อักขระยันต์หัวใจยูงทอง" แท้ๆ ที่หลวงปู่มั่น ได้เขียนไว้ด้วยองค์ท่านเอง มาบรรจุไว้ในเหรียญ"ภูริทัตโตอนุสรณ์" อย่างสมบูรณ์แบบและสวยงามที่สุด อย่างที่ไม่อาจจะหาเหรียญหลวงปู่มั่น รุ่นใดๆ มาเสมอเหมือนได้
    ด้านหน้า จะแกะเป็นรูปหลวงปู่มั่น ครึ่งองค์ แวดล้อมด้วยอักขระยันต์ "นะโมวิมุตตานัง นะโมวิมุติยา" พร้อมด้วยลายเซ็น "พระภูริทัตตเถร" ลายมือดั้งเดิมขององค์ท่านเองแท้ๆ
    ส่วนด้านหลัง ได้อัญเชิญลายมือ "บันทึกธรรม" ของหลวงปู่มั่น ที่ว่าด้วยเรื่อง "ขันธวิมุติสมังคีธรรม" มาประดิษฐานเป็นมหาธรรมมงคลอันสูงสุดไว้จนเต็มเนื้อที่ อย่างสวยงามและได้อารมณ์แห่งความหลุดพ้นอย่างเต็มที่ ชนิดที่ไม่ต้องไปหาอะไรที่จะยิ่งกว่าได้อีกแล้ว
    แม้เหรียญ "ลายมือลายเซ็น" รุ่นนี้ จะมีเนื้อทองคำ, เนื้อเงินเป็นพิเศษก็จริง แต่ก็มีเฉพาะเหรียญเนื้อนวโลหะและเนื้อทองผสม เท่านั้นที่ได้ผสมชนวนเหรียญ "ป.มาลากุล"
    หลวงตามหาบัวท่านจะได้อธิษฐานจิตทำน้ำมนต์ ในมหาพิธีนี้ให้อย่างเนิ่นนานเป็นพิเศษยิ่งกว่าพิธีใดๆ ทั้งสิ้น และท่านก็ยังได้เป่าลมปราณสลับกับการเจริญพุทธคาถาลงในขันน้ำมนต์ศิลา ที่ผูกสายสิญจน์โยงไปถึงพระวิหารปู่มั่น และเหรียญภูริทัตโตอนุสรณ์ นี้ถึง 3 ครั้ง 3 ครา สำทับให้อีกต่างหากด้วย
    จากนั้น เมื่อถึงคราวยกช่อฟ้าวิหารหลวงปู่มั่น เมื่อหลวงตามหาบัวผูกผ้าสีปิดทองที่ช่อฟ้าแล้ว ท่านก็เรียกหาน้ำมนต์ที่ท่านทำไว้เมื่อกี้ในทันที.........
    เรื่องตอนนี้ เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ในญานหยั่งรู้ขององค์หลวงตามหาบัวโดยแท้ โดยท่านพระครูปลัดสุวัฒนวรคุณ วัดป่าดาราภิรมย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ (ในขณะนั้น) ซึ่งเป็นศิษย์ใกล้ชิดในท่านเจ้าคุณพระพุทธพจนวราภรณ์ (จันทร์ กุสโล) (ซึ่งเป็นศิษย์หลวงปู่มั่นและเป็นสหธรรมิกใกล้ชิดกับหลวงตามหาบัวมาแต่เดิม) อดีตเจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวง ได้เล่าให้ผู้เขียนฟังว่า "ตอนแรกนั้น หลวงตาท่านถามหาน้ำมนต์เพื่อมาพรมช่อฟ้า เจ้ารุ่ง(ศิษย์วัด)ไปคว้าเอาขันน้ำมนต์ที่ไหนมาก็ไม่รู้มาให้ หลวงตามหาบัวพอมองดูแล้วก็บอกปัดทันทีเลยว่า นี่ไม่ใช่น้ำมนต์ที่ท่านทำเมื่อกี้ ให้ไปเอาน้ำมนต์ของจริงที่ท่านเพิ่งทำมาให้เสียโดยทันที เลยต้องวิ่งกลับไปเอาขันน้ำมนต์แท้ๆ มาแทนกันแทบไม่ทัน น่าอัศจรรย์ใจแท้ๆ ที่น้ำมนต์ธรรมดาๆ หลวงตามหาบัวก็ยังรู้ได้ว่า นี่ไม่ใช่น้ำมนต์ที่ท่านทำไว้ "ตาใน"อันแจ่มใสของท่านหลวงตามหาบัว ช่างน่าอัศจรรย์โดยแท้
    และตอนที่หลวงตามหาบัว ท่านกำลังยกช่อฟ้าพระวิหาร หลวงปู่มั่นอยู่นั้น ก็ได้ปรากฏเหตุอัศจรรย์ขึ้นอีกครา ภาพๆ หนึ่ง ที่ถ่ายในโอกาสนั้น ปรากฏแสงรัศมีเป็นสีรุ้งพุ่งวาบผ่านช่อฟ้าจากดวงอาทิตย์มา เห็นได้ถนัดตา น่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่ง หากจะว่า เป็นแสงแดดยามบ่ายย้อนมา ก็อาจจะว่าได้ แต่เหตุที่น่าสงสัยก็คือ ทำไม จึงมีประกายสีรุ้งเจิดจ้าแต่เพียงแถบเดียวเท่านั้น บริเวณขอบข้างอื่นๆ ไม่มี
    แต่การดังนี้ผู้รู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวได้ให้อรรถาธิบายในทันทีเลยว่า "นี่คือฉัพพรรณรังสีแห่งพระอรหันตเจ้า ซึ่งเป็นหนึ่งในพระรัตนตรัยแน่แท้"
    และเมื่อหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนยกช่อฟ้าวิหารพระอาจารย์มั่นเสร็จ หลวงตามหาบัวถึงกับเทศน์ออกไมค์ต่อหน้าผู้คนนับพันที่มาร่วมพิธีในครั้งนั้นเลยทีเดียว อันมีใจความว่า "ในพิธีอันเป็นมหามงคลในครั้งนี้ ได้มีเทวดามาร่วมอนุโมทนาสาธุการเต็มไปหมด ไม่ต่างอะไรกับตอนที่พระอาจารย์มั่นจะเดินทางจากเชียงใหม่กลับไปยังภาคอีสานบ้านเกิดสมัยนั้น ท่านพระอาจารย์มั่นก็เคยบอกไว้เช่นกันว่า มีเทวดาเมืองเชียงใหม่มาส่งท่านด้วยความอาลัยอาวรณ์มากมายจนเหลือที่จะคณานับ แม้ในวันนี้ เทวดาก็มาร่วมอนุโมทนาในการยกช่อฟ้าวิหารพระอาจารย์มั่นมากดุจเดียวกัน"
    อนึ่ง เหรียญหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต "เหรียญลายมือลายเซ็น" รุ่นแรก นี้มี 3 บล็อคหลังด้วยกัน แต่เข้าพิธีวัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ พร้อมกันทุกแบบ โดยประดิษฐานข้าง มณฑปบรรจุพระทันตธาตุ ขององค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ตลอดพิธียกช่อฟ้าวิหารหลวงปู่มั่น ณ วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ ซึ่งวิหารหลังนี้ได้สร้างทับตรงบริเวณที่พระอาจารย์มั่นเคยมาพำนักปฏิบัติธรรมสมัยที่ตามท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) มาที่วัดเจดีย์หลวง เมื่ออราวปี พ.ศ.2484
    #นอกจากหลวงตามหาบัว #ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี จะเป็นองค์ประธานประกอบพิธีแล้ว ยังมี พระสายกรรมฐานหลวงปู่มั่นกว่า 200 รูป ร่วมอธิษฐานจิตด้วย
    ได้แก่
    หลวงปู่จันทร์
    หลวงปู่วิริยังค์
    หลวงปู่ท่อน
    หลวงปู่ละมัย
    หลวงตาบุญหนา
    หลวงปู่เพียร
    หลวงปู่ลี
    หลวงพ่อประสิทธิ์ เป็นต้น
    ("พุทธวงศ์"ออกแบบ และดำเนินการจัดสร้างถวาย)
    จำนวนการจัดสร้าง
    บล็อคที่ 1 "พุทธวงศ์" หลังลายมือใหญ่ (ธรรมขันธวิมุติสมังคีธรรม)
    เนื้อทองคำ 2 เหรียญ *** (มีห่วง ไม่เจาะ ประจุสายสิญจน์หลวงปู่มั่นที่อธิษฐานโดยตรงยุคเก่า)***
    เนื้อเงิน 28 เหรียญ ***(มีห่วง ไม่เจาะ ประจุสายสิญจน์ที่หลวงปู่มั่นอธิษฐานโดยตรงยุคเก่า)***
    เนื้อนวโลหะ 80 เหรียญ ***(มีห่วง ไม่เจาะ)***
    เนื้อทองฝาบาตร 227 เหรียญ ***(มีห่วง เจาะ)
    บล็อคที่ 2 “สมโภชพระอารามหลวง วัดป่าดาราภิรมย์”
    เนื้อเงิน 50 เหรียญ ****(มีห่วง เจาะ)
    เนื้อนวโลหะ 100 เหรียญ ****(มีห่วง เจาะ)
    เนื้อทองเหลือง 10, 000 เหรียญ **** (มีห่วง เจาะ)
    บล็อคที่ 3 “ที่ระลึกพิธีเททอง วัดป่าศาลาปางสัก”
    เนื้อทองแดงรมดำ 3,000 เหรียญ *** (มีห่วง เจาะ)



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ธันวาคม 2022
  2. sunmk

    sunmk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    1,040
    ค่าพลัง:
    +805
    จอง1162
     
  3. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,222
    ค่าพลัง:
    +458

    รับทราบการจองครับพี่ ขอบคุณมากครับ
     
  4. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,222
    ค่าพลัง:
    +458
    .....สวัสดียามเช้าวันหยุดครับ.....
     
  5. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,222
    ค่าพลัง:
    +458
    1163. Full option ล็อกเก็ตพระอรหันต์ผู้ทรงฤทธิ์และอภิญญาจิต รุ่นปลอดภัยครอบจักรวาล อุดมวลสารผสมเกศา ไหมสี ตะกรุด พระครูภาวนากิจโกศล( หลวงปู่สอ พันธุโล) ให้บูชา 550 บาท พี่shaj จองครับ

    upload_2022-12-4_11-5-25.png

    upload_2022-12-4_11-5-42.png
    พระอริยเจ้าผู้มีพลังจิตแก่กล้าวัดป่าหนองแสง
    หลวงปู่สอองค์ท่านมีความเคร่งครัดในข้อวัตรปฎิบัติจนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้าน
    องค์ท่านได้ปฏิบัติธรรมรับการแนะนำสั่งสอนจากพ่อแม่ครูอาจารย์เพชรน้ำหนึ่งรายรูป อาทิ
    1.หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง
    2.หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์
    3.หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล
    4.หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครทาราม
    5.หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด
    6.หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญญบรรพต

    นอกจากนี้ยังมีครูบาอาจารย์ที่ท่านได้เคยเดินทางไปธุดงค์ด้วยกัน หลายรูป อาทิ
    1.หลวงปู่สาม อกิญจโน วัดป่าไตรวิเวก
    2.หลวงปู่บัวพา ปัญโญภาโส วัดป่าพระสถิตย์
    3.หลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ วัดป่านาคูณ
    4.หลวงปู่มหาบุญมี สิริธโร วัดป่า

    ท่านมีพระคู่บารมีที่ได้จากสมาธิ คือพระพุทธสิริสัตตราช หรือหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ พระพุทธรูปปางนาคปรกที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ จึงมีการสร้างองค์จำลองขนาดใหญ่ไว้ตามเขื่อนต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เชื่อกันว่า มีพุทธานุภาพสามารถบันดาลให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล ยังความชุ่มฉ่ำเย็นแก่พื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2022
  6. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,222
    ค่าพลัง:
    +458
    1164. พระผงวิเศษหนึ่งเดียวในโลก ที่มีอานุภาพป้องกันเชื้อโรคระบาดและดูดสารพิษหรือยาพิษยาเบื่อต่างๆ ไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย พระสมเด็จผงว่านกายสิทธิ์ดูดสารพิษและเชื้อโรค หลังรูปหลวงปู่เทพโลกอุดร อ.ปู่บุญหนา ทวีจิตร ให้บูชา 450 บาท


    upload_2022-12-4_12-8-14.png


    สร้างขึ้นจากต้นว่าน ๑๒ ราศรี (ว่านกายสิทธิ์เทพรักษาในป่าลึก มีคุณวิเศษด้านดูดสารพิษและเชื้อโรคต่างๆ)
    -ผสมกับผงพุทธคุณ ๑๐๘
    -และมวลสารว่านยาต่างๆ

    พุทธาภิเษกใหญ่
    ภายในถ้ำที่หลวงปู่ใหญ่เคยจำพรรษา
    โดยอาราธนาบารมีหลวงปู่ใหญ่มาเป็นประธาน*
    ประกอบพิธีโดย ท่านอาจารย์ปู่บุญหนา ทวีจิตร
    ผู้เคยอยู่ในป่ากับหลวงปู่ใหญ่ ตั้งแต่อายุ ๑๒ ปี
    *ปัจจุบันนี้..ท่านอาจารย์ปู่บุญหนามีอายุ ๗๒ ปี*

    พุทธคุณและอานุภาพ
    -ป้องกันโรคระบาดทุกชนิด
    -ใช้อาราธนาทำน้ำมนต์รักษาโรคต่างๆ
    -สามารถช่วยดูดสารพิษที่อยู่ในอาหารน้ำดื่ม
    -ป้องกันสารพิษและเชื้อโรคที่อยู่ในอากาศ
    - ดูดสารในร่างกายของเรา - เมตตามหานิยม
    - แคล้วคลาดปลอดภัย
    - มีลาภมาหาไม่ขาดสาย

    อาจารย์ปู่บุญหนา ได้เมตตาพูดให้ฟังว่า
    หลวงปู่ใหญ่ท่านบอกว่า หากต่างประเทศเขาเกิดรบกันด้วยอาวุธต่างๆ ซึ่งต้องยิงข้ามประเทศ หรือเกิดระเบิดบนฟ้า ก็จะมีสารพิษ แก๊สพิษต่างๆ หรือเชื้อโรคปะปนมากับอากาศ
    ถ้าเรามีพระว่านดูดสารพิษอยู่ที่ตัวหรือที่บ้าน ก็จะสามารถช่วยไม่ให้สารพิษเข้ามาถึงเราได้
    ในระยะ 10 เมตร สารพิษจะเข้ามาไม่ได้เลย* การเลี่ยมบูชาติดตัว เราควรเจาะรูเล็กๆ
    ไว้ที่กรอบองค์พระด้วยครับ เพื่อองค์พระจะสามารถดูดสารพิษได้ครับ*
    พระชุดนี้สร้างขึ้นตามคำสั่งของหลวงปู่ใหญ่ เพื่อสงเคราะห์ลูกหลานที่เคารพนับถือองค์ท่าน
    ถึงจะราคาไม่สูง แต่มีอานุภาพมากเกินประมาณ

     
  7. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,222
    ค่าพลัง:
    +458
    1165. ยอดเกจิอาจารย์ เรืองวิทยาคม แห่งราชบุรี พระยอดขุนพล ปี04 หลวงพ่อขันธ์ วัดพระศรีอารย์ ปิดรายการครับ

    upload_2022-12-4_14-31-10.png

    ยอดขุนพล พิมพ์ใหญ่

    upload_2022-12-4_14-29-21.png

    ยอดขุนพลพิมพ์กลาง

    upload_2022-12-4_14-29-51.png

    ยอดขุนพล พิมพ์เล็ก

    upload_2022-12-4_14-30-22.png

    พิมพ์ พุทธกวัก

    upload_2022-12-4_14-34-54.png

    พิมพ์ ห้าเหลี่ยม

    พระครูสิริพัฒนกิจ อดีตเจ้าอาวาสวัดพระศรีอารย์ นามเดิมว่า ขันธ์ นามสกุล พุ่มเกษม เกิดเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2468 ปีฉลู อุปสมบทเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2488 โดยมีพระครูโพธาภิรมย์ วัดบ้านเลือก อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์
    พ.ศ.2493 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดพระศรีอารย์
    พ.ศ.2521 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลบ้านเลือก-หนองโพ
    พ.ศ.2522 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์
    เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2514 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระฐานานุกรมที่พระครูสมุห์ขันธ์ของพระธรรมปิฏก วัดปทุมคงคารามวรวิหาร พระอารามหลวง
    หลวงพ่อขันธ์มรณภาพวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2534
    คำสอนของหลวงพ่อขันธ์
    " คิดดี พูดดี ทำดี สามัคคี มีน้ำใจ "
    " กินน้ำให้คิดถึงบุญคุณของคนขุดบ่อ"
    " อย่าขี้เหนียว อย่าตระหนี่ จงถี่ถ้วน"
    หลวงพ่อขันธ์เมื่ออุปสมบทแล้ว ก็ย้ายมาจำพรรษาที่วัดพระศรีอารย์ เพราะบริเวณวัดสงบเงียบเหมาะแก่การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ก่อนหน้านั้นวัดมีพระภิกษุจำพรรษาน้อยมากเพียง 2-3 รูป มีพระอาจารย์อินทร์ ธฺมมโชติ เป็นหัวหน้าสำนักสงฆ์ในขณะนั้น (ประมาณปี พ.ศ.2475-2490)ต่อมาโจรผู้ร้ายได้เข้ามาทำการปล้นกุฏิพระอาจารย์อินทร์ จนเป็นเหตุให้พระอาจารย์อินทร์ ย้ายไปจำพรรษาที่วัดหนองรี ภาระการปกครองสำนักสงฆ์จึงตกแก่หลวงพ่อขันธ์โดยปริยาย(รักษาการเจ้าอาวาส ขณะบวชอยู่พรรษาที่ 2) หลวงพ่อขันธ์ท่านก็เป็นพระภิกษุหนุ่มรูปหนึ่งที่บวชเพื่อจะสืบทอดพระศาสนา และเป็นการอุทิศส่วนบุญกุศลในการบวชให้แก่โยมบิดามารดา เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม ท่านก็ต้องลาสิกขาออกมาประกอบอาชีพหรือช่วยเหลือบุพการีประกอบอาชีพ


    ค่ำคื่นหนึ่งหลวงพ่อขันธ์ ท่านได้นิมิตเห็นหลวงปู่ดำ เทพารักษ์ผู้ปกปักรักษา วัดพระศรีอารย์ ในภาพของชีปะขาวขึ้นจากสระน้ำเก่าศักดิ์สิทธิ์ มาหาหลวงพ่อขันธ์ พร้อมกับกล่าวว่า ท่านขันธ์ ท่านอย่าลาสิกขา อยู่ช่วยสร้างวัดสร้างพระก่อน ก่อนอื่นผู้เขียนขอเท้าความย้อนหลัง ในสมัยนั้น ถ้าหลวงพ่อขันธ์ท่านจะลาสิกขา จะต้องไปลาสิกขาที่วัดอื่น เพราะวัดพระศรีอารย์ในขณะนั้นมีพระภิกษุไม่ถึง 5 รูป ที่จะประกอบพิธีกรรมทางสงฆ์

    หลังจากที่ท่านตัดสินใจว่าจะไม่ลาสิกขา ท่านก็เริ่มสนใจในวิปัสสนากรรมฐาน และคาถาอาคมอย่างจริงจัง อาจารย์ที่ท่านได้ไปศึกษาได้แก่ หลวงพ่อรอด เจ้าอาวาสวัดหลวง ตำบลวังเย็น อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี หลวงพ่อแหยม วัดบ้านเลือก และหลวงพ่ออินทร์ วัดโบสถ์ ระหว่างที่ท่านศึกษาวิปัสสนากรรมฐานและคันถธุระตลอดจนวิชาอาคม ท่านก็ได้สะสมว่านต่าง ๆ ตลอดจนมวลสารอันเป็นคุณวิเศษ ตลอดจนผงพุทธคุณของวัดต่างๆ ซึ่งรายละเอียดผู้เขียนจะกล่าวถึงในตอนท้ายในส่วนของการสร้างพระ
    หลวงพ่อขันธ์ ท่านเป็นพระที่มีจิตใจเด็ดเดี่ยวไม่เกรงกลัวใคร ดังนั้นการเจริญวิปัสสนากรรมฐานของท่านจึงเป็นไปอย่างรวดเร็ว ท่านเป็นพระที่มีจิตเมตตาต่อบุคคลทั่วไปอย่างเสมอภาค โดยไม่คำนึงถึงฐานะของบุคคลนั้น จะร่ำรวย หรือยากจน หรือมียศฐาบรรดาศักดิ์สูงส่งเพียงใด ท่านก็ให้การตอนรับอย่างเท่าเทียมกัน สมัยผู้เขียนเป็นเด็กวัยรุ่น อายุประมาณ 13 ปี (พ.ศ.2511) ผู้เขียนได้ไปขอพระยอดขุนพลจากท่าน ท่านก็เมตตาให้ เป็นพระยอดขุนพลพิมพ์กลาง ท่านกำชับว่า " ให้เก็บรักษาพระให้ดีพระของข้า ข้าปลุกเสกจนเป็นพระจริงๆ ตกอยู่ใต้ถุนบ้านใครบ้านนั้นอยู่ไม่เป็นสุขแน่ " และท่านยังกล่าวเสริมอีกว่า "แขวนพระของข้าไม่มีตายโหง"
    บทความนี้จะกล่าวถึง พระยอดขุนพล ของหลวงพ่อขันธ์ ก่อนอื่นขอกล่าวถึงมวลสารต่างๆที่ใช้ในการสร้างพระครั้งนี้ (จากการบอกเล่าของคุณวิเชียร ภู่ระหงษ์ อายุ 63 ปี โทร 081-7577320เมื่อปลายเดือนธันวาคม 2553)
    1. ว่าน 1000 กว่าชนิดจากประเทศมาเลเซีย ว่านและมวลสารและดินและผงของวัดช้างให้(มวลสารที่เหลือจากการสร้างพระหลวงพ่อทวดวัดช้างให้ รุ่นแรก ปี พ.ศ.2497)
    2. ผงและเศษพระวัดสามปลื้มและวัดระฆัง
    3. มวลสารพุทธคุณของพระเกจิอาจารย์ทางใต้ โดยคุณณรงค์ ชาวอำเภอรอนพิบูล จังหวัดนครศรีธรรมราช เจ้าของเหมืองแร่ทางภาคใต้เป็นผู้นำมาถวาย
    4. ผงพุทธคุณของหลวงพ่อบุญธรรม วัดพระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม ข้อเท็จจริงมีว่า หลวงพ่อขันธ์ได้ไปหาหลวงพ่อบุญธรรม ที่วัดพระปฐมเจดีย์ และได้แจ้งวัตถุประสงค์ในการสร้างพระ และได้ขอผงพุทธคุณจากท่านเพื่อไปสร้างพระ อันเป็นการสืบทอดพระศาสนาโดยจะไม่จำหน่ายพระเด็ดขาด แต่หลวงพ่อบุญธรรมก็นิ่งเฉยไม่พูดอะไร จนเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง หลวงพ่อขันธ์ก็ขอลากลับโดยเข้าใจว่าหลวงพ่อบุญธรรมไม่อนุญาติให้ผงตามที่ต้องการ เวลาผ่านมาหลายเดือนจนหลวงพ่อขันธ์ลืมเหตุการณ์นี้แล้ว ก็มีชาวพระปฐมเจดีย์มาหาหลวงพ่อขันธ์ที่วัดพระศรีอารย์พร้อมกับกล่าวว่า หลวงพ่อบุญธรรมวานให้เอาพระบูชาซึ่งเป็นพระพุทธรูป(ปางพระศรีอารย์)ให้มาถวายหลวงพ่อขันธ์ ท่านก็รับใว้และแปลกใจว่าเราขอผงพุทธคุณกลับได้พระพุทธรูปแทน หลวงพ่อขันธ์ท่านก็นั่งพิจารณาพระพุทธรูปเสียนานก็สังเกตเห็นใต้ฐานของพระพุทธรูปองค์นั้นมีรอยบรรจุผงพุทธคุณ ท่านจึงใช้ไขควงงัดออกดูก็ปรากฏเห็นผงพุทธคุณเต็มฐานพระบูชา(คุณคมน์ ภู่สุนทรศรี โทร.๐๘๕-๔๘๕-๘๗๘๘) นอกจากผงพุทธคุณที่กล่าวมาแล้ว ยังมีมวลสารพุทธคุณที่เจ้าอาวาสรูปก่อนหลายรูปได้สะสมไว้เพื่อจะสร้างพระ แต่ไม่ทันได้สร้างอันเนื่องมาจากท่านมรณภาพก่อนหรือไม่ก็ลาสึกขาไปก่อน มวรสารที่กล่าวถึงนี้นอกจากเป็นผงพุทธคุณขอเกจิอาจารย์ใอดีตแล้ว ยังมีมวลสารพุทธคุณเก่าแก่ของวัดเป็นจำนวนมากที่ตกทอดมาถึงมือท่าน
    เมื่อรวบรวมผงได้ตามที่ต้องการแล้วหลวงพ่อขันธ์ก็เริ่มลงมือสร้างพระยอดขุนพล โดยสร้างพระเป็นสองวาระ คือ
    วาระแรก เมื่อประมาณปี พ.ศ.2504 สร้างพระประมาณ สี่หมื่น องค์(โดยบรรจุพระลงในโองมังกรขนาดบรรจุ 200 ลิตร หลายใบ)แม้ท่านจะสร้างจำนวนมาก ท่านก็แจกใกล้จะหมดเหลือไม่กี่องค์
    วาระที่สอง สร้างพระประมาณปี พ.ศ.2523-2524 สาเหตุการสร้างพระครั้งที่สอง เนี่องจากพระสร้างครั้งแรกหมดเหลีอไม่กี่องค์ แต่ประชาชนมีความศรัทธาท่านจึงสร้างขึ้นอีกครั้งหนึ่งโดยนำมวลสารที่เหลือจากการสร้างพระในวาระแรกมาสร้างพระใหม่(มวลสารเหลือน้อยมากในขณะนั้นสร้างได้ประมาณไม่เกินสองหมื่นองศ์) หลวงพ่อขันธ์ท่านกล่าวกับศิษย์ใกล้ชิดทีเล่นทีจริงว่า"จะสร้างให้ได้ หนึ่งล้านองค์เพื่อนำเงินรายได้มาสร้า งพระอุโบสถทองคำร้อยล้าน" ระหว่างที่กดพิมพ์พระได้จำนวนหนึ่งประมาณหมื่นกว่าองศ์มวลสารก็ใกล้จะหมดก็หยุดกดพิมพ์สร้างพระระยะหนึ่ง จนกระทั่งหลวงพ่อขันธ์ท่านมรณภาพเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2534 ขณะนั้นมวลสารเหลือน้อยมาก ต่อมาหลวงพ่อสง่า เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันก็กดพิมพ์สร้างพระต่อจนมวลสารหมดได้จำนวนมากตามที่ต้องการในปีพ.ศ.2543จึงได้จัดพิธีพุทธาภิเษกในพระอุโบสถ์ที่วัดพระศรีอารย์ โดยนิมนต์พระเกจิอาจารย์หลายท่านร่วมปลุกเสก ได้แก่ พลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม หลวงพ่อพูน วัดไผ่ล้อม และหลวงพ่ออุทัย วัดมฤคทายวัน(วัดเกาะตาพุด) อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี
    พระยอดขุนพลที่หลวงพ่อขันธ์สร้างขึ้นมาในวาระสองนี้ หลวงพ่อได้ปลุกเสกพระในพระอุโบสถจนท่านมั่นใจในพระพูทธคุณ ท่านก็ได้แจกสมนาคุณประชาชนที่มาร่วมบริจาคทรัพย์สร้างพระอุโบสถทองคำ เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๕๒๕ ผู้เขียนก็ได้รับแจกพระยอดขุนพลพิมพ์จิ๋ว(คะแนน)จากท่านที่วัด ผู้เขียนอยากได้พระยอดขุนพลพิมพ์ใหญ่ หลวงพ่อท่านบอกว่าหมดแล้ว
    พระยอดขุนพลของหลวงพ่อขันธ์ เป็นรูปพระพุทธประทับนั่งบนฐานอาสนบัลลังก์บัวคว่ำบัวหงาย ปางมารวิชัยยกเว้นพิมพ์พุทธกวัก พระพักตร์เป็นศิลปะแบบอินเดียด้านหลังเรียบ เป็นพระเครื่องที่มีศิลปะสวยงามมากพิมพ์หนึ่งและเป็นพระที่มีพุทธคุณสูงมาก ดังนั้นจึงเป็นพระที่มีประสบการณ์สูง ไม่ว่าจะด้านอุบัติเหตุรถยนต์ หรือป้องกันอาวุธปืนหรือมีด นอกจากนี้ด้านเมตตามหานิยม โชคลาภและทางค้าขายก็ดีเป็นเลิศ จึงเป็นพระเครื่องที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในขณะนั้น(ประมาณปี พ.ศ.2508-2515) เป็นพระเครื่องที่ชาวจังหวัดนครปฐมกล่าวขานถึงมากที่สุดมากกว่าพระเครื่องของหลวงพ่่อน้อย วัดธรรมศาลาและหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอมในขณะนั้น ส่วนราคาพระยอดขุนพลในขณะนั้นราคาองค์ละ 200 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงมากในขณะนั้น(เหรียญหล่อรุ่นแรกของหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก ราคาประมาณ 600-700 บาท เหรียญหล่อคอน้ำเต้ารุ่นแรกหลวงพ่อน้อยราคาประมาณ 80-100 บาท)
    จากประสบการณ์ของผู้เขียนสมัยที่ยังเป็นเด็กวัยรุ่นอายุประมาณ15-16 ปี ได้เห็นช่างซ่อมรองเท้าชื่อเล่นว่า มัน ช่างมันเมื่อเลิกงานตอนเย็นมักจะดื่มสุราเป็นประจำ เมื่อเกิดความมึนเมาก็จะเอามือกำพระยอดขุนพลของหลวงพ่อขันธ์และใช้มีดกรีดยางเฉือนลงไปที่แขนข้างที่มือกำพระอย่างแรงหลายครั้ง แต่ก็เฉือนไม่เข้า(แผงร้านช่างมันตั้งอยู่หน้าร้านประชามิตร ตลาดล่าง จังหวัดนครปฐม)


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ธันวาคม 2022
  8. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,247
    ค่าพลัง:
    +6,459
    ขอจองครับ
     
  9. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,222
    ค่าพลัง:
    +458

    รับทราบการจองครับ ขอบคุณครับพี่
     
  10. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,222
    ค่าพลัง:
    +458

    upload_2022-12-1_21-35-52-png.png
     
  11. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,222
    ค่าพลัง:
    +458
    1163.1 ใน 28 พระอรหันต์เพชรน้ำหนึ่งสายวัดป่า พระรุ่นแรก ปี 2511 หลวงปู่บัว สิริปุณโณ วัดป่าหนองแซง ปิดรายการครับ

    upload_2022-12-5_10-28-43.png


    ท่านเป็นสหธรรมมิกกับ หลวงปู่ขาว,อาจารย์ฝั้น,หลวงปู่อ่อน ฯลฯ และยังเป็นอาจารย์ของหลวงปู่ศรี มหาวีโร (จ.ร้อยเอ็ด), อาจารย์ปรีดี(อ.ทุย จ.หนองคาย) ฯลฯ
    ท่านสามารถท่องบทสวด 7 ตำนาน 12 ตำนานได้ โดยที่ท่านไม่รู้หนังสือด้วยซ้ำ โดยอาศัยจากการทำกัมมัฏฐาน เห็นได้ในนิมิต

    พระผงรุ่นนี้สร้างแจกในปี 2511 พร้อมๆ กับเหรียญหลวงปู่ขาว รุ่น 2
    และรูปหล่อหลวงปู่ขาว รุ่นแรก ในคราวฉลองเจดีย์วัดถ้ำกลองเพล และพิธีหายอาพาธใหญ่ของหลวงปู่ขาว
    รายนามคณาจารย์ที่มาร่วมงานคร่าวๆ ดังนี้ครับ
    ๑. หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล
    ๒. หลวงปู่บัว สิริปุณโญ วัดป่าหนองแซง
    ๓. หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร
    ๔. หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโรโครธาราม
    ๕. หลวงปู่บุญมา ฐิปเปโม วัดสิริสาละวัน
    ๖. หลวงปู่เทสก์ เทศน์รังสี วัดหินหมากเป้ง
    ๗. หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด

    พิธีนี้พิธีใหญ่ คณาจารย์สายพระป่ามาร่วมงานกันเพียบครับ แต่ละองค์ล้วนแล้วสุดยอด หลวงปู่บัวท่านเป็นพระอาวุโสของสายกัมมัฏฐานองค์หนึ่งซึ่งเป็นที่เคารพและ ศรัทธาในองค์หลวงปู่ ท่านครับ ถือว่าเป็นวัตถุมงคลแบบเหรียญของหลวงปู่บัว สิริปุณโณ วัดป่าหนองแซง รุ่นแรก และเป็นรุ่นเดียวของท่าน ที่ทันท่าน

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2022
  12. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,222
    ค่าพลัง:
    +458
    1164. พระหูยาน หลัง จปร. รุ่นปืนแตก วัดราชบพิธ ปี ๒๕๑๓ พิธีพุทธาภิเษกใหญ่ ในหลวงเสด็จทรงเททอง ให้บูชา 1250 บาท

    upload_2022-12-5_10-52-31.png
    พระหูยาน จปร. ปืนแตก เป็นพระเครื่องที่ สร้างล้อพิมพ์จาก “พระหูยานศิลปะลพบุรี” ได้จัดสร้างเพื่อเป็นการ ฉลอง ๑๐๐ ปีวัดราชบพิธฯ โดยมีการสร้างเป็นเนื้อ นวโลหะ และเนื้อทองแดง ซึ่งทั้งสองเนื้อ นายช่างเกษม มงคลเจริญ ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการจัดสร้างวัตถุมงคลชุดนี้ เล่าว่า ได้ทำการเจือ โลหะ ที่ได้จาก พิธีเททอง ที่
    *พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จฯเททอง ผสมกับ ชนวนโลหะวัตถุมงคลรุ่นเก่า ๆ ของวัดราชบพิธฯ รวมกับ แผ่นยันต์ลงอักขระของพระเกจิ ผู้ทรงพุทธาคม จากทั่วประเทศ ๑๐๘รูป ในวัตถุมงคล ทั้งเนื้อนวโลหะ และเนื้อทองแดงโดยทั่วถึงกันอย่างพิถีพิถัน

    พิธีพุทธาภิเษก 3 วัน 3 คืน ณ.พระอุโบสถวัดราชบพิธ ระหว่างวันที่ 29-30-31 มกราคม พ.ศ. 2514 โดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงมีพระมหากรุณา ธิคุณโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธี “จุดเทียนชัย” ในวันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2514 โดยทางวัดได้อาราธนา พระเกจิ ผู้ทรงวิทยาคุณ ล้วนเเต่ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังด้านพุทธคมในยุคนั้น โดยผลัดเปลี่ยนกันมาร่วมพิธีในเเต่ละวัน ทั้ง 108 รูป อาทิ

    ลป.โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    ลพ.เงิน วัดดอนยายหอม
    ลป.เทศก์ เทศก์รังษี
    หลวงตา มหาบัว
    ลพ.เทียม วัดกษัตริยาธิราข
    พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา
    ลป.หิน วัดระฆัง
    ลพ.ทูรย์ วัดโพธิ์นิมิต
    ลพ.ทองอยู่
    ลพ.กี๋ วัดหูช้าง
    ลพ.ขอม วัดไผ่โรงวัว
    ลพ.โชติ ระลึกชาติ
    ลพ.นอ วัดท่าเรือ เป็นต้น

    หลังพิธีพุทธาภิเษก ได้มีบรรดานายทหารจาก กรมรักษาดินแดน และ กระทรวงกลาโหม ซึ่งอยู่ใกล้กับ วัดราชบพิธฯ ได้ มาบูชาไปเป็นจำนวนมาก โดยนายทหารที่บูชาไปในสมัยนั้น ได้มีการนำพระรุ่นนี้ไป เลี่ยมพลาสติกแล้วไปแขวนกับ ธงชาติ จากนั้นจึงได้ชักธงชาติระดับเหนือศีรษะ แล้วทำการ “ทดลองยิง”

    ปรากฏว่า ปืนยิงไม่ออกในนัดแรก บรรดาผู้ทดลอง จึงทำการตรวจสอบปืนใหม่แล้วยิงอีกนัด คราวนี้ปรากฏว่าเกิดเสียงระเบิด ดังขึ้น และพอสิ้นเสียงระเบิด ปรากฏ ปากกระบอกปืนที่ใช้ทดลองยิงแตกเป็นรอยร้าว จึงเรียก พระรุ่นนี้ว่ารุ่น “ปืนแตก” เหลือ บรรดาทหารที่อาสาสมัครไปร่วมรบ ในสมรภูมิเวียดนามรอดชีวิตกลับมาเป็นที่ร่ำลือว่า บรรดาเซียนพระหลายราย ก็มีการบอกเล่ากันต่อ ๆ มาว่า พระหูยาน จ.ป.ร. นี้ มีพุทธคุณเข้มขลัง มาก
     
  13. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,222
    ค่าพลัง:
    +458
    1165.สุดยอดพระดี (ดีนอกดีใน) พระผงธรรมจักร (สีแดง)พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ. วัดเจติยาคิรีวิหาร (ภูทอก) ต.นาแสง อ.ศรีวิไล จ.หนองคาย สร้างปี2520 ให้บูชา 1750 บาท

    upload_2022-12-5_21-34-56.png
    upload_2022-12-5_21-42-1.png
    upload_2022-12-5_21-42-18.png

    ประวัติการสร้าง
    งานกฐิน-ผ้าป่าสามัคคี วันที่ 11-14 พฤศจิกายน 2520
    กฐิน วัดเจติยาคิรีวรวิหาร (ภูทอก) อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย **อาจารย์จวน กุลเชฏโฐ

    #วัตถุมงคลที่นำมาสร้างพระ
    1.ดิน ใช้ดินจากสังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่ง คือ ประสูติ, ตรัสรู้, ปฐมเทศนา และปรินิพพาน ดินจากที่ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์, ดินเชตวันมหาวิหาร, ดินรอบสถูปพระสารีบุตร, ดินสถูปพระโมคคัลลาน์, ดินสถูปพระอานนท์, ดินสถูปพระมหากัสสาปะ, ดินสถูปพระอนุรุทธ, ดินสถูปพระราหุล, ดินสถูปพระกัจจายนะ, ดินสถูปพระองคุลีมาล, ดินในถ้ำสุกรขาตา, ดินจากเขาคิชฌกูฏ และดินในพระคันธกุฏีที่ประทับของพระพุทธองค์เมื่อครั้งยังทรงพระชนม์อยู่
    2.ใบโพธิ์ ณ ที่ประสูติ ลุมพินีวัน,ใบโพธิ์ ณ ที่ตรัสรู้พุทธคยา,ใบสาละ ที่ปรินิพพาน กุสินารา,ใบโพธิ์ ที่หลังคันธกุฎี และใบโพธิ์พระอานนท์ ณ เชตวันมหาวิหาร
    3.เส้นเกศา
    หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
    หลวงปู่ขาว อนาลโย
    หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
    หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
    หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ
    หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
    หลวงปู่หลุย จันทสาโร
    ท่านพระอาจารย์วัน อุตตโม
    ท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ
    ท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร
    (มีเรื่องแปลกอีกเกี่ยวกับเส้นเกศา กล่าวคือ เมื่อคณะกรรมการกำลังรวบรวมเส้นเกศาอยู่นั้น จู่ๆก็มีพระรูปหนึ่งมาหานำเส้นเกศากับชานหมากจำนวนหนึ่งมาให้ พร้อมแจ้งว่า “หลวงปู่คำดี ปภาโส วัดถ้ำผาปู่ สั่งให้เอามาให้เพราะทราบว่าคุณสุรีพันธุ์จะสร้างพระ” คุณสุรีพันธุ์บอกว่าน่าประหลาดนัก การสร้างพระธรรมจักรดูจะเป็นงานใหญ่ก็จริง แต่ก็ทำกันเงียบๆ รู้กันเฉพาะคนในเท่านั้น หลวงปู่คำดีทราบได้อย่างไรในเวลานั้น)
    4.ดอกไม้ ผงธูป ทองคำเปลว จากพระบรมธาตุ จ.นครศรีธรรมราช, พระธาตุไชยา จ.สุราษฎร์ธานี, พระธาตุพนม จ.นครพนม, พระธาตุเชิงชุม จ.สกลนคร, พระร่วงโรจนฤทธิ์ จ.นครปฐม, หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง จ.พระนครศรีอยุธยา, พระมงคลบพิตร จ.พระนครศรีอยุธยา, วัดบวรนิเวศ, วัดราชบพิธ, จากที่บูชาพระรูปสมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน) วัดราชสิทธาราม, จากที่บูชาพระรูปสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังโฆสิตาราม
    5.ดอกไม้ ผงธูป จากที่บูชาพระ-สวดมนต์ ของสมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวัฒฑโน), หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ, หลวงปู่ขาว อนาลโย, พระนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาจารย์ (เทสก์ เทสรังสี), หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ, หลวงปู่หลุย จันทสาโร, พระครูญาณทัสสี (คำดี ปภาโส), พระอุดมสังวรวิสุทธิเถร (วัน อุตตโม), ท่านอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ, ท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร, พระครูปลัดสัมพิพัฒเมธาจารย์ (ไพบูลย์ สุมังคโล)
    6.ชานหมาก ข้าวก้นบาตร ก้นบุหรี่ ของหลวงปู่ แหวน สุจิณฺโณ, หลวงปู่ขาว อนาลโย, หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ, หลวงปู่หลุย จันทสาโร, ท่านพระวัน อุตตโม, ท่านอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ, ท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร
    7.พระชำรุดนำมาบด ได้แก่ พระพุทธรูปอายุ 1,000 กว่าปี ที่ท่านพระอาจารย์จวนธุดงค์ไปพบในถ้ำแถบภูสิงห์ ภูวัว, พระสมเด็จวัดระฆัง และบางขุนพรหม, พระดินเผาสมัยสุโขทัย, พระผงกรุวัดสามปลื้ม, พระผงงิ้วดำ, พระพิมพ์วังหน้า
    8.มวลสารมงคลอื่นๆ ได้แก่ โคตรเหล็กไหล และขี้เหล็กไหลจากถ้ำบูชา, ผงงาช้าง, เขากวางคุด, แก่นจันทน์หอม นำมาจากถ้ำจันทน์ดินแดนอาถรรพณ์, ไม้มะขามจากถ้ำขาม ของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร, กระเบื้องไม้หลังคากุฏิของหลวงปู่ขาว อนาลโย, หินแดงบนภูทอก, ไม้กลายเป็นหิน ซึ่งหลวงปู่ฝั้นเมตตาสะกัดให้ด้วยองค์ท่านเอง, ข้าวตอกพระร่วง จ.สุโขทัย, โคตรเหล็กไหล และขี้เหล็กไหล ที่ท่านพระอาจารย์จวนมอบให้นั้น คุณสุรีพันธุ์ได้ให้กองกษาปณ์ป่นเหล็กไหลทั้งหมดให้เป็นผงด้วยเครื่องบด พิเศษ เป็นเหล็กเหนียว ชื่อว่า “ไททาเนี่ยม” ว่ากันว่าเป็นเหล็กที่แข็งที่สุด ดีที่สุดในโลก ปรากฏว่า กว่าจะหมด 1 กะละมัง เครื่องสึกไปจนใช้อีกแทบไม่ได้ เลยไม่รู้ว่าใคร “เหล็ก” กว่าใคร
    เมื่อบดมวลสารทุกชนิดพร้อมสรรพ ก็ทำการกดพิมพ์เป็นองค์พระ โดยใช้ระบบอัดแรงสูง นั่นคือความประสงค์ของคณะกรรมการ เพราะไม่ต้องการผสมเนื้อปูน หรือกาวอะไรๆ ลงในพระ ดังนั้นพระทั้งหมดจึงมีแต่มวลสารล้วนๆ
    ในครั้งนี้คณะกรรมการจึงจัดสร้างชุดพิเศษขึ้น ให้แสดงถึงวาระอันสำญยิ่ง ให้ครบ 4 โอกาส โดยจัดทำเป็นแบบพิเศษขึ้นมา 4 สี (จตุรงค์ 4 สี) ดังนี้
    •ประสูติ - สีเขียว หมายถึง ความรื่นเริงของโลกที่ทราบถึงการประสูติ
    •ตรัสรู้ - สีขาว หมายถึง ความสว่างเจิดจ้าแห่งการตรัสรู้
    •ปฐมเทศนา - สีชมพู หมายถึง สีแห่งอาทิตย์อุทัยที่แสดงถึงการอุบัติขึ้นของพุทธศาสนา
    •นิพพาน - สีดำ หมายถึง ความโศกสลดของชาวโลกที่มีต่อวาระปรินิพพาน
    ซึ่งแต่ละสีนอกจากจะใช้วัตถุมงคลทั้งมวลที่มีอยู่แล้วเป็นสีพื้น จะเพิ่มมวลสารบางชนิดเป็นหลักคือ
    •สีเขียว - เน้นด้วยกระเบื้องเขียวหลังคาวัดบวรนิเวศ วัดราชบพิธ เตยหอมและจันท์หอมจากภูทอก(พระจะรานเป็นส่วนใหญ่)
    •สีขาว - เน้นด้วยเกสรดอกไม้ เขี้ยวช้าง และกระเบื้องวัดบวร วัดราชบพิธ
    •สีชมพู - เน้นด้วย ชานหมาก หินสีชมพูจากภูทอก และมูลเหล็กไหล
    •สีดำ - เน้นด้วย พระผงงิ้วดำ และเบ้าหล่อพระพุทธรูป ภปร. ข้าวสารดำสามพันปี
    •สีแดง – มีมวลสารหลักทุกอย่างเหมือนกับทุกสี เพียงแต่สีจตุรงค์เน้นมวลบางอย่าง
    จำนวนสร้าง
    •คณะกรรมการได้จัดสร้างพระธรรมจักรทั้งหมดรวม 93,409 องค์
    •เนื้อพิเศษสุดขึ้น 9 องค์ เพื่อทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ รวมไปถึงพระบรมวงศานุวงศ์ ครบทุกพระองค์
    •เนื้อพิเศษ1,000 องค์ เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงพระราชทานแก่ข้าราชบริพารที่ใกล้ชิด
    •สีพิเศษ (จตุรงค์ 4 สี) นี้สร้างเพียงสีละ 2,100 องค์ เท่านั้น โดยจัดเป็นชุดเรียกว่า"ชุดจาตุรงค์ 4 สี" (8,400 องค์)
    •สีแดงรวมมวลสารทุกอย่างสร้าง 84,000 องค์โดยแบ่งสำหรับแจกผู้มีจิคร่วมทำบุญประมาณ 44,000 องค์
    •บรรจุเข้าในพระเจดีย์พิพิธภัณฑ์ของท่านอาจารย์ ณ วัดเจติยาคิรีวิหาร(ภูทอก) อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย จำนวน 40,000 องค์

     
  14. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,222
    ค่าพลัง:
    +458
    .....สวัสดียามเช้าครับ.....
     
  15. sunmk

    sunmk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    1,040
    ค่าพลัง:
    +805
    จองพระลพ.ขันธ์พิมพ์ใหญ่ พิมพ์พุทธกวัก
     
  16. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,222
    ค่าพลัง:
    +458
    รับทราบการจองครับ ขอบคุณมากครับพี่
     
  17. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,222
    ค่าพลัง:
    +458
    1166. เหรียญดี พิธีใหญ่ เหรียญสร้างชาติ พ.ศ.2482 รวมพระเกจิคณาจารย์เรืองวิทยาคมมากมาย (หลวงปู่จาด/จง/คง/อี๋) ปิดรายการ

    upload_2022-12-6_12-34-1.png

    ตำนานเหรียญสร้างชาติ พ.ศ. 2482 เหรียญสร้างชาติปลุกเสกที่วัดพระแก้วใน ปี2482 แล้วนำมาแจกในงานฉลองอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ปี 2483 สมัยจอมพลแปลก พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี ได้สร้างอนุสาวรีย์นี้ขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในการที่คณะราษฎรได้ปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง จากระบอบ สมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2475เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้ชนรุ่นหลัง ได้เห็นความสามัคคีกลมเกลียวของประชาชนทั้งเตือนใจให้ระลึกถึงและช่วยกันพิทักษ์รักษาเทิดทูนรัฐธรรมนูญให้สถิตสถาพรเป็นหลักของการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย มีพิธีเปิดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2483 โดยเหรียญสร้างชาติได้นำไปลุกเสกที่วัดพระแก้วโดยได้นิมนต์คณาจารย์รายนามดังนี้
    1.หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์
    2.หลวงพ่อสาย วัดพยัคฆาราม
    3.หลวงพ่อพุก วัดพระยาทำ
    4.หลวงพ่อจาด วัดบางกะเบา
    5.หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ
    6.หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
    7.หลวงพ่อช้าง วัดเขียนเขตต์
    8.หลวงพ่อคง วัดบางกะพร้อม
    9.พระอาจารย์ปลื้ม วัดปากคลองมะขามเฒ่า
    10.หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง
    11.หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก
    12.หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ
    13.หลวงพ่อโสก วัดปาดคลอง เพชรบุรี
    14.หลวงพ่อกลิ่น วัดสะพานสูง
    15.หลวงพ่อฉาย วัดพนัญเชิง
    16.หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง
    17.หลวงพ่อจันทร์ วัดนางหนู
    18.หลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่นอก
    19.หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว
    20.หลวงพ่ออ้น วัดบางจาก
    21.พระอาจารย์พา วัดระฆัง
    22.หลวงพ่อใจ วัดเสด็จ
    23.หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้
    24.หลวงพ่อพริ้ง วัดบางประกอก
    25.หลวงปู่เหมือน วัดโรงหีบ ฯลฯ
    ซึงมีบางส่วนท่านได้นำมาปลุกเสกซ้ำ และจารลงบนเหรียญ โดยหลวงพ่อผิน วัดโพธ์กรุ เกจิดังยุคเก่าของจ.เพชรบุรี

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ธันวาคม 2022
  18. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,222
    ค่าพลัง:
    +458

    upload_2022-12-6_15-3-14.png
     
  19. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,222
    ค่าพลัง:
    +458

    upload_2022-12-6_15-4-14.png
     
  20. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,222
    ค่าพลัง:
    +458
    1167. เล็กแต่แจ๋ว พระผงอุดมสุข หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม เสกนาน 2 ปี(2529 - 2531) ให้บูชา 550 บาท จองแล้วครับ

    upload_2022-12-6_17-0-31.png

    พระชุดเล็ก ที่น่าใช้ครับ

    "พระผงของขวัญ อุดมสุข" เป็นพระของขวัญรุ่นแรกของหลวงพ่ออุตตมะ นับเป็นพระดีที่น่าบูชาติดตัวไว้เป็นอย่างยิ่ง เพราะกรรมวิธีการสร้างพระ รวมทั้งวัตถุดิบที่นำมาสร้างนั้นสุดพิเศษมาก ๆ โดยพระรุ่นนี้นอกจากได้ผสมผงพระยอดขุนพลบุเรงนองรุ่น เก่าที่แตกหักเป็นจำนวนมากแล้ว หลวงพ่ออุตตมะยังได้เมตตาประทานผงว่าน 108 และผงอิทธิเจ (มหาจักรพรรดิ) ที่ท่านลบเอง เขียนเอง เมื่อครั้งสมัยที่ท่านยังเรียนบาลีอยู่ที่ประเทศพม่า มาผสมเป็นกรณีพิเศษด้วย นอกจากนี้ยังมีผงกระเบื้องจากองค์พระปฐมเจดีย์ พระเจดีย์ที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในสุวรรณภูมิ และพระเครื่องเนื้อผงรุ่นเก่าของหลวงพ่ออุตตมะที่ชำรุด นำมาป่นผสมอย่างครบครันอีกด้วย โดยมีคุณบุญส่ง ไหลธนานนท์ เป็นผู้อุปถัมภ์การจัดสร้างด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์ยิ่ง

    สำหรับพระพุทธลักษณะของพระผงของขวัญอุดมสุขนั้น ปรากฎเป็นรูปพระพุทธปฏิมาปางมารวิชัย ประทับนั่งขัดสมาธิเพชรตามศิลปะอย่างมอญ โดยมีประภามณฑล ประดับพระเศียรอยู่เบื้องหลังอย่างงดงามตามสมควรแก่พ ระผงขนาดเล็ก ที่มีส่วนใกล้เคียงกับพระของขวัญวัดปากน้ำรุ่นแรก ส่วนด้านหลังเป็นอักษรนาม "อุตตมะ" อย่างชัดเจน

    และสิ่งที่นับได้ว่าเป็นคุณสมบัติอันวิเศษของพระชุดนี้อีกประการหนึ่งนอกจากการที่พระทุกองค์ได้รับการกดพิมพ์สร้างสำเร็จเป็นองค์พระ โดยพระภิกษุสามเณรในปริมณฑล วัดพระปฐมเจดีย์แล้ว หลวงพ่ออุตตมะยังได้เมตตาทำการอธิษฐานจิตปลุกเสกพระทั้งหมดด้วยระยะเวลาอันยาวนานเป็นพิเศษ ถึงราว 2 ปีเต็มอีกด้วย (พ.ศ. 2529 - พ.ศ. 2531)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ธันวาคม 2022

แชร์หน้านี้

Loading...