ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    เดือนกันยายนนี้ ใน "หนังสือต้องห้าม" ไม่ได้บอกไว้ว่าจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น แต่บอกว่าจะพบสิ่งดีๆมากกว่า (สำหรับคนที่อยากจะเจอ)
    ต้องเดือนตุลาคมโน่น จึงจะมีเหตุเกิดอีก
    หมายเหตุ : เดือนสิงหาคม 2548 ที่ผ่านมาหนังสือเล่มนี้ก็บอกไว้ตรงทีเดียว จนผมรู้สึกว่า คงไม่ใช่ใครมาแกล้งขู่เอาไว้เล่นๆให้คนกลัวบาป เสียแล้ว
     
  2. อยากรู้ไปโม๊ด

    อยากรู้ไปโม๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +183
    หนังสือต้องห้ามที่คุณ Chayutt พูดถึง หาซื้อได้ที่ไหนคะ อยากอ่านบ้างจัง
     
  3. Tanakorn

    Tanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +1,537
    ผมก็เคยได้ฟังจากพระหลายท่านว่า ในหลวงเป็นผู้ทรงอภิญญา (มีทฤธิ์)
     
  4. ป้อม

    ป้อม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2005
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +223
  5. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    หนังสือลึกลับ


    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->หนังสือ สัจบุรุษ ชาติ รู้ก่อนวันสิ้นโลก Written by N.Alien จัดจำหน่ายโดย สายส่งศักษิต บริษัทเคล็ดไทย 117-119 ถนนเฟื่องนคร ตรงข้ามวัดราชบพิธ กรุงเทพฯ 10200 โทร.225-9536-40 โทรสาร.222-5188

    ผมเคยเห็นอยู่ที่ร้าน ซีเอ็ด ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ถ้าคุณหลับตาอยากอ่านก็ลองไปถามหาดูนะครับ

    <O:pหมายเหตุ : เมื่อเร็วๆนี้ผมไปดูที่ร้านหนังสือบางร้านที่ Central พระราม 2 มาไม่ยักกะมีแฮะ ปกติจะเห็นมีขายอยู่บ้างเหมือนกัน
    คนเขียนเขาบอกว่าถ้าใครจะเป็นผู้ที่ถูกเลือก ก็จะมีเหตุให้หนังสือต้องไปถึงมือคนๆนั้นเองครับ</O:p
    <!-- / message -->
     
  6. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,003
    ค่าพลัง:
    +17,625
    :cool: .
     
  7. อิทธิ

    อิทธิ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +52
    ขอให้กำลังใจอย่าได้ท้อถอย

    เรียนคุณ ทลิททกะ ครับffice[​IMG]ffice" /><O:p></O:p>

    <O:p></O:p>

    คุณอย่าได้ท้อใจไปเลยครับมุ่งมั่นฝึกฝนจิตต่อไปเพื่อช่วยเหลือชาวโลกผมเป็นผู้หนึ่งที่ทราบว่ามีพระศรีอาริย์หลายองค์ในจักรวาลนี้เนื่องจากความปรารถนาที่จะสร้างบารมีเป็นแบบเดียวกับพระศรีอาริย์ที่มีมาแล้วในอดีตกาลที่ล่วงมาแล้วโน้นครับด้วยความปรารถนาอย่างนี้ จึงมีชื่อที่ซ้ำกันหลายท่านก่อนหน้าท่านที่จะบอกว่าเป็นพระศรีอาริย์ก็มีมาแล้วครับสามารถช่วยเหลือลูกศิษย์ที่เกิดมาพบเจอกันได้มาก ผู้ที่บารมีเต็มแล้วจะยังไม่ลงมา ณ.ขณะนี้แน่นอนผมเชื่อเช่นนั้น ไม่ใช่ไร้เหตุผล แต่ผมจะไม่ขอกล่าวไว้ในที่นี้พระศรีอาริย์องค์จริงนั้น ยังไม่ลงมาแน่นอนครับเนื่องจากยังไม่สามารถแยกจิตเพื่อลงมาเกิดช่วยใครได้ในขณะนี้ ตราบใดที่ยังไม่สำเร็จมรรคผล แม้บารมีจะเต็มแล้วก็ตามผมมีศรัทธาในข้อเขียนของท่านเกี่ยวกับเทคโนโลยีในยุคของพระศรีอาริย์หรือยุคหน้าครับ ที่ท่านเคยได้เขียนไว้ในเว็ปอื่นที่ใช้ชื่อว่า มังคละ ในตอนแรกผมเข้าใจว่ามนุษย์ในสมัยยุคพระศรีอาริย์ได้อภิญญากันมากสามารถเหาะเหินเดินอากาศกันได้มากมาย เอาเข้าจริงๆเป็นแค่ เทคโนโลยี่ที่ก้าวหน้ารวมทั้งมนุษย์ที่มีหน้าตาเหมือนกันในยุคพระศรีอาริย์ด้วยซึ่งก็จะเป็นเทคโนโลยีในการโคลนนิ่งมนุษย์เปลี่ยนจิตวิญญาณและอายุให้ยืนยาวขึ้นกว่าที่มีอยู่เดิมมาใช้เทคโนโลยีร่างใหม่ที่โคลนนิ่งขึ้นแทนแน่นอนครับในขณะเปลี่ยนยุคผู้คนไม่ใช่ตายจนหมดโลกจะยังมีผู้คนและเทคโนโลยีที่เหลืออยุ่อีกต่อไปผมต้องการ E-MAIL และโทรศัพท์ของท่านเพื่อติดต่อพูดคุยเกี่ยวกับธรรมที่ท่านได้ศึกษาเรียนรู้ทำมาเนิ่นนานแล้วครับผมขอให้กำลังใจครับ<O:p></O:p>

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กันยายน 2005
  8. อิทธิ

    อิทธิ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +52
    จะต้องมีเหตุการณ์เกิดขึ้นแน่นอนครับในโลกนี้ คงประมาณใกล้ๆสิ้นปี ( 2548 ) นี้กระมังครับ ดังที่หลายท่านว่าไว้นั้น โดยความเป็นจริงแล้วจะเกิด " สึนามิ "ซ้ำที่ตำแหน่งเดิมอีก ตามที่มีบางท่านบอกไว้ แต่ด้วยกรรมดีจึง มีผู้ช่วยเหลือไว้แล้วตั้งแต่ครั้งแรก ทดหรือเลื่อนสภาวะการเกิด สึนามิครั้งแรกไว้ ไม่ให้คนต้องตายมาก ครั้งนี้ที่จริงๆแล้ว เกาะบางเกาะต้องหายไปในทะเลในการเกิด สึนามิครั้งนี้ แต่เนื่องจากมีภัยธรรมชาติครั้งนี้เกิดในอเมริกาและประเทศอื่นๆด้วย ผุ้ที่ผ่อนปรนการเกิด สึนามิ ครั้งแรกจึงเฉลี่ยการเกิด สึนามิ ไปยังจุดอื่นๆของโลก แต่ท้ายที่สุดด้วยกรรมของสัตว์โลกจะต้องเกิดน้ำทวมโลกอย่างหนักในภายหลัง ซึ่งรุนแรงแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนบนโลกใบนี้ ซึ่งคงต่อจากนี้ไปประมาณ 70-75 ปีข้างหน้า ต้องดูความแน่นอีกครั้งครับ ตอนนี้ขอให้ผู้ที่ยังต้องเกิดอีกสร้างความดีไว้ครับ ความทุกข์เดือดร้อนที่จะต้องรับจะได้น้อยลง อย่างไรก็ตามขอให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ใกล้ชายทะเลได้เตรียมการเพื่อการเกิดของ สึนามิ ครั้งใหม่ไว้นะครับ
     
  9. อืม

    อืม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +91
    จำได้ไม๊ครับปลายปีที่แล้วจะมีพายุลูกนึงเข้าที่ภาคใต้ คนก็ตกใจเตรียมอพยพกันใหญ่
    สุดท้ายไม่เกิดก็ดีใจกันใหญ่ แต่หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดสึนามิแทน ซึ่งน่าจะรุนแรงกว่า
    ด้วยซ้ำไป ....ตอนนี้มีพายุเข้าไทยแล้วสลายไป ก็ระวังไว้ละกันครับว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อ
    จากนี้รึเปล่า...
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <CENTER>ระทึก..วันสิ้นโลก </CENTER>XXxx ยาวหน่อย แต่ต้องอ่านนะคะ สำคัญมากXxxxx เขียนที่บ้านเลขที่ ๑๐๑/๔๗๙ ม. ๗ ถ.บางขัน-คลองหลวง ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ๑๐๑๒๐ วันที่ ๖ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๘ เรื่อง ขอให้มีการศึกษาข้อเท็จจริงและผลกระทบต่อสภาวะแวดล้อมจากปรากฏการณ์ขั้วแม่เหล็กโลกพลิกตัว กราบเรียน ประธานคณะกรรมาธิการสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร (นายนพดล พลเสน) สิ่งที่ส่งมาด้วย ๑. เอกสารแปลจากสำนักข่าวอินเดียเดลี่ วันที่ 1 มีนาคม 2548 เรื่อง แบบจำลองทางคอมพิวเตอร์คาดการณ์ว่าการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กในโลกและดวงอาทิตย์ จะนำมาซึ่งการสิ้นสุดของอารยธรรมมนุษยชาติในปี ค.ศ. ๒๐๑๒ ๒. เอกสารแปลจากบทความต่างประเทศ เรื่อง การเคลื่อนตัวของขั้วแม่เหล็กโลก และการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กโลกในปี ค.ศ. ๒๐๑๒ ด้วยกระผมนายเอกอิสโร วรุณศรี ได้มีโอกาสรับทราบข้อมูลจากทางอินเทอร์เนต ซึ่งได้มีการนำเสนอเกี่ยวกับปรากฏการณ์ที่เรียกว่าขั้วแม่เหล็กโลกพลิก (Magnetic Pole Reversal) ซึ่งจากการที่ได้ศึกษาจากเว๊บไซต์ต่างๆ พบว่า เรื่องดังกล่าว มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นได้จริง ทั้งมีสถาบัน หรือองค์กรที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ เช่น องค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐ (นาซา) ออกมายืนยันถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดปรากฏการณ์ขั้วแม่เหล็กโลกพลิกตัวที่จะเกิดขึ้นใน ปี ค.ศ. ๒๐๑๒ หรือ ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ที่จะถึงอันใกล้นี้ ซึ่งหากท่านประธานคณะกรรมาธิการฯ จะได้พิจารณาจาก เอกสารที่กระผมส่งมาด้วยนี้ ซึ่งเป็นแต่เพียงข้อมูลเพียงส่วนน้อย ที่กระผมจะสามารถแปลจากภาษาต่างประเทศ ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก และไม่สามารถนำมาเสนอได้ทั้งหมด จะเห็นว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีความร้ายแรงต่อมวลมนุษยชาติทั้งโลก แต่เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดที่ในประเทศไทยเองกลับไม่มีการกล่าวถึงปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นในแวดวงนักวิชาการ ทั้งที่ผลกระทบข้างเคียงในระหว่างกระบวนการที่จะเกิดการพลิกตัวของขั้วโลก จะส่งผลต่อสภาวะแวดล้อม รวมทั้งวิถีการดำเนินชีวิต ซึ่งอาจจะต้องเผชิญกับอุบัติภัยต่างๆ มากมาย ดังที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นลมพายุรุนแรง ภาวะฝนตกหนัก น้ำท่วม ดินถล่ม หรือบางพื้นที่เกิดความแห้งแล้ง รวมทั้งแผ่นดินไหว ล้วนแล้วแต่เป็นผลเกิดจากกระบวนการที่ขั้วแม่เหล็กโลกเกิดการเคลื่อนตัว และจะนำไปสู่การพลิกตัวของขั้วแม่เหล็กในที่สุด กระผมจึงใคร่ขอเสนอต่อท่านประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมาธิการ เพื่อเชิญหน่วยงาน และผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ มาให้ข้อมูลในเรื่องนี้ เพื่อที่จะนำไปสู่การศึกษาข้อเท็จจริงและผลกระทบต่อสภาวะแวดล้อมจากปรากฏการณ์ขั้วแม่เหล็กโลกพลิกตัวดังกล่าว และแจ้งให้ประชาชนทั่วไปได้ทราบ หากจะนำมาซึ่งการเผชิญกับภัยพิบัติที่อาจมีขึ้นตามมา จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา ขอแสดงความนับถืออย่างยิ่ง (นายเอกอิสโร วรุณศรี) แบบจำลองทางคอมพิวเตอร์คาดการณ์ว่าการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กในโลกและดวงอาทิตย์ จะนำมาซึ่งการสิ้นสุดของอารยธรรมมนุษยชาติในปี คศ. 2012 1 มีนาคม 2548 จากการศึกษาร่วมกันของนักวิทยาศาสตร์ด้านคอมพิวเตอร์จำนวนหนึ่งกับกลุ่ม นักธรณีฟิสิกส์ และนักดาราศาสตร์ฟิสิกส์พบว่าทั้งโลกและดวงอาทิตย์จะสิ้นสุดระยะเวลาที่ใช้ในกระบวนการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็ก (Magnetic Pole Reversal) ในปี คศ. 2012 โดยครั้งล่าสุดกระบวนการนี้ได้เกิดขึ้นเมื่อหลายล้านปีที่ผ่านมาจนทำให้สัตว์จำพวกไดโนเสาร์สูญพันธุ์ จนหมดสิ้น จากการค้นคว้าวิจัยและการวิเคราะห์ร่วมกันใน Hyderabad ได้คาดการณ์ว่าการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงครั้งใหม่นี้จะเกิดขึ้นในปี คศ. 2012 การพลิกกลับของขั้วแม่เหล็ก คือ กระบวนการที่ขั้วแม่เหล็กเหนือ และขั้วแม่เหล็กใต้สลับตำแหน่งกัน เมื่อการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กนี้เกิดขึ้น ณ ขณะเวลาใดเวลาหนึ่ง มันหมายถึงว่าค่าการเหนี่ยวนำของสนามแม่เหล็กโลกจะลดลงจนมีค่าเป็นศูนย์หน่วยเกาซ และโลก ณ ขณะเวลานั้นจะสูญเสียอำนาจแห่งแรงดึงดูดอย่างสิ้นเชิง ซึ่งถ้าหากปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นควบคู่ไปพร้อมกับการสลับขั้วของดวงอาทิตย์ที่จะมีขึ้นในทุกๆ 11 ปี ในปี คศ. 2012 แล้ว ปัญหาอันใหญ่ยิ่งจะเกิดขึ้นตามมาอย่างแน่นอน ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติสมัยใหม่ เรื่องราวที่เกิดขึ้นเช่นนี้ยังไม่เคยได้มีการการบันทึกไว้ จะมีก็แต่เพียงแบบจำลองทางคอมพิวเตอร์เท่านั้นที่จะสามารถทำนายผลลัพธ์ที่เคยเกิดขึ้นนั้นได้ เมื่อเร็วๆ มานี้ องค์การ NASA ได้เคยทำให้สาธารณะชนเกิดความหวาดหวั่นด้วยการออกมาเปิดเผยว่าการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กโลกจะทำให้ความเข้มข้นสนามแม่เหล็กโลกอ่อนลง และไร้ความมั่นคง แต่ไม่ถึงกับลดลงถึงระดับศูนย์ แต่จากแบบจำลองทางคอมพิวเตอร์ของ Hyderabad กลับพบว่าการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กของโลกและดวงอาทิตย์นั้น สามารถที่จะก่อให้เกิดปัญหาตามมาอย่างรุนแรงที่มากไปกว่าแค่การทำงานผิดพลาดของอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์เท่านั้น พวกนกที่อพยพย้ายถิ่นอยู่ตามฤดูกาลจะสูญเสียประสาทสัมผัสในการกำหนดทิศทางและอื่นๆ ตามมาอีก เช่น - ระบบภูมิคุ้มกันโรคในบรรดาสัตว์ต่างๆ รวมถึงมนุษย์จะอ่อนแอลง - โลกจะประสบกับการเพิ่มความถี่ของการเกิดภูเขาไฟระเบิด, การเคลื่อนตัวของเปลือกโลก, แผ่นดินไหว และแผ่นดินถล่ม ที่จะมีมีสูงขึ้นกว่าปรกติ - สภาวะความเป็นแม่เหล็ก (Magnetosphere) ของโลกจะอ่อนตัวลง และการแผ่รังสีคอสมิคจากดวงอาทิตย์จะเพิ่มปริมาณขึ้น และก่อให้เกิดอันตรายจากการแผ่รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เช่น มะเร็งและอื่นๆ อีก ซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ -กลุ่มเทหวัตถุในอวกาศขนาดใหญ่จะถูกดึงดูดเข้ามายังโลกอย่างมากมาย -แรงดึงดูดของโลกจะประสบกับการเปลี่ยนแปลงซึ่งไม่มีใครรู้ว่ามันจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ถ้าคุณรวมเอาเหตุการณ์ความน่าจะเป็นที่จะเกิดการทำลายล้างเหล่านี้ทั้งหมดมาผนวกรวมกันแล้ว คุณก็จะสามารถอธิบายสิ่งที่คุณจะมองเห็นด้วยคำง่ายๆ ว่า โลกอาจจะไม่ใช่ที่เหมาะสมสำหรับอารยธรรมของมนุษยชาติในปี คศ. 2012 และผู้คนทั้งหลายผู้ซึ่งอาศัยอยู่บนพื้นผิวโลกหรือใกล้กับพื้นผิวโลก สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ใต้ผิวโลกที่ลึกลงไปเท่านั้นที่จะมีชีวิตอยู่รอด โดยปราศจากการแทรกแซงใดๆ ในกระบวนการที่จะเกิดขึ้นโดยธรรมชาตินี้ คงเป็นเวลาอีกหลายล้านปีถัดจากนี้ เราจึงจะได้เห็นรูปแบบของสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดใหญ่หรือมีความชาญฉลาด ที่จะกลับมาครอบครองบนพื้นผิวโลกอีกครั้ง เหตุการณ์เช่นนี้มันอาจจะเหมือนดังเช่นที่ได้เคยเกิดขึ้นในห้วงที่เกิดคลื่นสึนามิ ซึ่งมันทำให้เรารู้สึกงงงวย และเฝ้าจ้องมองดูสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอย่างคิดไม่ถึงว่ามันจะเกิดขึ้นได้ แล้วในที่สุดมันก็พัดพาเราออกไปสู่ท้องทะเล ถ้าแบบจำลองนี้ถูกต้องแม่นยำ นั่นหมายถึงว่าหนทางเดียวเท่านั้นสำหรับพวกเราที่จะอยู่รอดเพื่อที่จะรักษาอารยธรรมของเราเอาไว้ต่อไป นั่นก็คือการลงไปอาศัยอยู่ใต้พื้นผิวโลกหรือไม่ก็อพยพเคลื่อนย้ายไปอาศัยยังดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ เหตุการณ์เช่นนี้มันอาจจะเคยเกิดขึ้นมาแล้วกับดาวอังคารเมื่อย้อนหลังไปหลายล้านปีที่ผ่านมา ความเคลื่อนไหวที่ไม่ปรกติของผู้มาเยือนจากนอกโลกหมายถึง UFO ในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่าอาจมีใครบางคนจากนอกโลกรู้ว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงจะเกิดขึ้นกับโลกใบนี้ อาจบางทีพวกเขาอาจจะกำลังจะพยายามที่จะช่วยเหลือพวกเราอย่างเงียบๆ ด้วยการจำลองภาพเหตุการณ์เพื่อเป็นการบอกเตือน หรือแม้แต่ย้ายพวกเราไปยังจุดหมายปลายทางที่ไหนสักแห่งที่เราไม่อาจรู้ได้.

    <!--detail-->
    โดย : เรียว
    http://www.mthai.com/webboard/7/143580.html
     
  11. bridge

    bridge เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,252
    ค่าพลัง:
    +1,814
    ตายเป็นตาย ......... ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว ตายเป็นตาย
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ถ้าสนามแม่เหล็กเปลี่ยนแปลง อะไรจะเกิดขึ้นกับโลกของเรา</TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย News 1</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>28 เมษายน 2548 17:45 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=left border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=489>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ในเดือนตุลาคม ปี 2546 ระบบไฟฟ้าของดาวเทียมดวงหนึ่ง จู่ๆก็เกิดขัดข้องขึ้น ทำให้มันหลุดลอยออกสู่ห้วงอวกาศไปอย่างไร้การควบคุม 3 วันถัดมา ชาวกรุงปารีส ต้องประหลาดใจกับแสงตามธรรมชาติ ที่ปรากฏเหนือฟากฟ้ายามค่ำคืน

    ปกติแล้ว แสงเหนือ ซึ่งเกิดขึ้นจาก การปลดปล่อยพลังงานไฟฟ้าสู่ชั้นบรรยากาศ จะเห็นได้เฉพาะที่ขั้วโลก เท่านั้น คำถามที่ตามมาคือ
    กำลังเกิดอะไรขึ้น ปรากฏการณ์ ผิดปกตินี้ เป็นผลมาจากความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับสนามแม่เหล็ก ซึ่งเกิดจาก เหล็กหลอมละลายในแกนโลก


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=481>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ตามปกติ พลังงานแม่เหล็ก จะเป็นเสมือน โล่กำบังที่ช่วยปกป้องโลก ไว้อีกชั้นหนึ่งโดยเฉพาะ การช่วยกำบังโลก จากอนุภาครังสี จากดวงอาทิตย์ มาวันนี้ นักวิทยาศาสตร์ พบว่า สนามแม่เหล็กของโลก มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องแม้แต่ ขั้วเหนือ ขั้วใต้ ก็เคยสลับสับเปลี่ยนตำแหน่งกันมาแล้วหลายครั้งในอดีต และตอนนี้ ก็ดูเหมือนว่า สนามแม่เหล็กโลก กำลังอ่อนลง

    ถ้าเป็นเช่นนั้น นกอพยพ จะมีปฏิกิริยาเช่นใดต่อความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เพราะ นกอพยพ จะอาศัย สนามแม่เหล็ก ช่วยนำทางไปยัง
    จุดหมายปลายทางที่อยู่แสนไกล ดังนั้นจะเกิดอะไรขึ้น หากระบบนำร่องนี้ใช้การไม่ได้ หรือนำพวกมันไปยังที่หมายอื่น

    แต่ นักวิจัยประจำสถาบันสัตววิทยาที่มหาวิทยาลัย "แฟรงเฟิร์ท"สามารถไขปริศนานี้ได้ จากนก "โรบิน" ซึ่งมีพฤติกรรมคล้ายๆนกกระสาและนกกระเรียน นั่นคือ มันจะบินหนีหนาวจากตอนเหนือของยุโรป ไปยังถิ่นอาศัยที่อบอุ่นกว่าทางใต้ ทุกปี


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=556>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> การทดสอบเบื้องต้น แสดงให้เห็นว่า สนามพลังแม่เหล็กมีบทบาทสำคัญ ในการช่วยนำทางให้กับนก นกโรบิน จะมุ่งหน้าสู่ทิศใต้เสมอ จากผลทดลอง ยืนยันได้ว่า ระบบเข็มทิศตามธรรมชาติภายในตัวของมัน ช่วยนำทางให้มันมุ่งลงใต้ ไม่ใช่สังเกตจากภูเขา ดวงอาทิตย์ หรือดวงดาว แต่อย่างใด

    แต่เมื่อนักวิจัย ทดลอง ใช้สนามแม่เหล็กจำลอง ซึ่งมีความเข้มข้น เพียง 10 เปอร์เซ็นต์ ของสนามแม่เหล็กโลก ผลที่ได้กลับน่าทึ่งมาก
    ตอนแรก นก จะสับสน บินสะเปะสะปะ จับทิศทางไม่ได้ แต่หลังผ่านพ้นไป 3 วัน มันก็เริ่มปรับตัวได้ มาตอนนี้มันสามารถบินไปทางทิศใต้ได้อีกครั้งแม้สนามพลังแม่เหล็กจะอ่อนลงก็ตาม


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=545>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ปลาวาฬก็เช่นกัน มันใช้ สนามแม่เหล็กโลกช่วยนำทางข้ามมหาสมุทรไกลหลายพันไมล์ เช่นเดียวกับ ปลาแซลมอน ซึ่งหากมีความเปลี่ยนแปลงกับสนามแม่เหล็ก พวกมันจะได้รับผลกระทบไปด้วย

    สำหรับมนุษย์ เราไม่เพียงแต่ต้องพึ่งสนามแม่เหล็กสำหรับใช้กับเข็มทิศนำทางเท่านั้น แต่สนามแม่เหล็กโลกยังช่วยปกป้องเราจากอนุภาครังสีจากอวกาศ ซึ่งอาจมีผลต่อการกลายพันธุ์ของ ดีเอ้นเอ ของคนเราได้

    "ฮารัลด์ เลสช์" (Harald Lesch) ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัย "มิวนิค" ได้สร้างแบบจำลองสนามแม่เหล็กโลกขึ้นมาศึกษาในเรื่องนี้เป็นการเฉพาะ เพื่อหาคำตอบว่าโลกเราจะเป็นอย่างไร หากไม่มี สนามแม่เหล็ก


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=556>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> แบบจำลองที่ "ฮารัลด์ เลสช์" สร้างขึ้นสมมติว่า หากโลกเราไม่มีสนามแม่เหล็ก จะเป็นอย่างไร ถ้าถูกลมสุริยะกระหน่ำ ผลที่ได้สร้างความประหลาดใจอย่างยิ่ง จากภาพจำลองที่คอมพิวเตอร์สร้างขึ้น แสดงให้เห็นว่า เมื่อ มงลอนุภาครังสีจากลมสุริยะมาถึงโลก จำทำปฏิกิริยากับชั้นบรรยากาศ เกิดเป็นสนามแม่เหล็กชุดใหม่มาแทนที่ และทรงพลังพอ ที่จะทานแรงปะทะของลมสุริยะ ทำให้รังสีคอสมิค ที่เป็นอันตราย จากดวงอาทิตย์ เบนออกสู่อวกาศ ..


    สิ่งที่นักวิจัยต้องการรู้อีกอย่าง คือ การหาร่องรอยในอดีตของปรากฏการณ์ดังเช่นแบบจำลองในคอมพิวเตอร์ นั่นคือ การสำรวจทุ่งน้ำแข็งในทวีป แอนตาร์กติค เพื่อพิสูจน์ความเชื่อที่ว่า สนามแม่เหล็กโลก เคยอ่อนกำลังลงมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อหลายแสนปีก่อน

    หลักฐานที่ว่าคือร่องรอย "ไอโซโทป ของ แร่ บีริลเลี่ยม10" (beryllium-10)ซึ่งจะเกิดขึ้น เมื่อ รังสีคอสมิค พุ่งกระทบชั้นบรรยากาศโลก หาก นักวิทยาศาสตร์ พบร่องรอยนี้ฝังจมอยู่กับน้ำแข็ง ก็แสดงว่า ครั้งหนึ่ง เคยมี รังสีคอสมิคจากดวงอาทิตย์ พุ่งกระทบโลก แต่หากหาไม่พบ ก็แสดงว่า โลกของเรา สามารถสร้างสนามแม่เหล็กขึ้นมาทดแทนของเดิมที่หายไปได้

    ที่มาhttp://www.11news1.com/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9480000056836</TD></TR></TBODY></TABLE>​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. หลับตา

    หลับตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    717
    ค่าพลัง:
    +3,151
    เตรียมนับเวลาถอยหลังแล้วสินะ พวกเราต้องเป็นพวกตั้งใจลงมาดูตอนสำคัญแบบนี้แน่ๆ ชีวิตลำบากกันเหลือเกิน ใครเป็นคนชวนลงมาดูฉากสำคัญของโลกโปรดแสดงตัวด้วย
     
  14. penkonthai

    penkonthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +129
    เหลือเวลาเพียงน้อยนิด หากถึงเวลานั้น หากทรงฌาณแล้วระลึกถึงสมเด็จพระบรมครูได้ คงจะไม่ดำดึ่งสู่ห้วงนรกกันนะครับ
     
  15. ZeiferAlmasy

    ZeiferAlmasy สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +12
    วันเสาร์นี้ ( 24 กย 48 ) รัฐเท๊กซัสอาจจะ จม อยู่ใต้น้ำ แผ่นดินตรงนี้ของสหรัฐอเมกา จะหายไปบางส่วน

    คอยดูครับ
     
  16. ประเสิรฐ

    ประเสิรฐ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2005
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +21
    สงสัยข้อความในหนังสืออินทร์ตณเทพทำนายน่ะครับ
    ว่าไม่น่าเชื่อว่าข้อความนี้คัดลอกมาจากจารึกโบราณในประเทศลาวจริง


    เพราะถ้าเป็นจารึกโบราณในหลักศิลาจริงมันก็น่าจะมีอายุไม่ต่ำกว่า 700 ปี แล้วทำไมถึงมีการพูดถึงชื่อของกรุงเทพด้วยล่ะครับ?เพราะกรุงเทพนั้นเป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ของไทยที่เพิ่งจะมีอายุเพียง 200 กว่าปีมานี่เอง


    แถมยังมีการพูดว่าพระแก้วมรกตจะกลับคืนสู่เวียงจันทร์อีก?? งงมาก เพราะพระแก้วมรกตถูกอันเชิญมาประดิษฐานที่วัดพระแก้วเมื่อประมาณ
    ร้อยกว่าปีมานี่เอง

    นั่นก็แสดงว่าจารึกอันนี้ถูกเขียนขึ้นหลังจาก ที่มีการตั้งเมืองกรุงเทพและหลังจากที่พระแก้วมรกตมาประดิษฐานที่กรุงเทพแล้วน่ะสิ ไม่งั้นจะรู้ได้ไงว่าเมืองหลวงของไทยชื่อกรุงเทพ แถมยังรู้ต่อไปอีกแน่ะว่าพระแก้วมรกตอยู่ที่นี่


    แล้วข้อสังเกตอีกอันนึง
    คือกรุงเทพนั้นชาวบ้านชาวช่องจริงๆแล้วไม่ได้เรียกชื่อนี้ เขาเรียกกรุงเทพว่าบางกอกกันทั้งนั้น ถามคนเฒ่าคนแก่ดูก็ได้ คนไทยสมัยก่อนเรียกกรุงเทพว่าบางกอกกันทั้งนั้นแหล่ะแม้กระทั่งคนลาวเอง เขาก็เรียกเมืองหลวงของไทยว่าบางกอกตามคนไทย คนไทยเพิ่งจะมาเรียกกรุงเทพว่า กรุงเทพกันจริงๆจังๆก็เมื่อสัก 40 ปีที่ผ่านมานี่เอง

    จากข้อสังเกต ผมว่าผู้ที่เขียนจารึกอันนี้ไม่ใช่คนโบราญอะไรที่ไหนหรอก คนไทยสมัยปัจจุบันนี้แหล่ะที่เป็นคนเขียนขึ้นแล้วกลัวไม่ขลังก็เลยยกเมฆมาอ้างว่าคัดลอกมาจากจารึกลาวโบราณ

    [b-wai]
     
  17. ^ ^

    ^ ^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +1,279
    พรุ่งนี้เอง จะรอดูครับ ^ ^
     
  18. ประเสิรฐ

    ประเสิรฐ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2005
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +21
    ทำไมไม่มีใครทำนายได้เลยว่าเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะยุติลงเมื่อไหร่? ....ทีทำนายภัยภิบัติโลกยังทำได้ แต่แค่ 3 จังหวัดทำไมไม่มีใครกล้าทำนาย...
     
  19. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,003
    ค่าพลัง:
    +17,625
    คิดว่าคงเร็วๆนี้ละครับ
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <CENTER>พุทธทำนาย ถอดความจากศิลาจารึก เขตมหาวิหาร สวนมฤคทายวัน ประเทศอินเดีย </CENTER>

    <!--detail--><!--images-->



    <CENTER>[​IMG]

    </CENTER>
    <!--images-->พุทธทำนาย: ถอดความจากศิลาจารึก เขตมหาวิหาร สวนมฤคทายวัน ประเทศอินเดีย

    สาธุอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นพระสัพพัญญูรู้แจ้งโลกทั้งในอดีตและอนาคต ทรงมีเมตตากรุณาแก่สัตว์โลกเป็นล้นพ้น เมื่อครั้งพระองค์ดำรงพระชนมายุอยู่ได้ตรัสแก่พระอานนท์ว่า

    ดูก่อนอานนท์ เมื่อศาสนาตถาคตล่วงเลยไปถึงกึ่งพุทธกาล สัตว์โลกทั้งหลายที่เกิดในยุคนั้นจะพบความลำบากทุกชาติทุกศาสนา ตามธรรมชาติอันหมุนเวียนของโลก ที่หมุนไปใกล้ความแตกทำลาย แผ่นดินแผ่นน้ำจะลุกเป็นไฟ มนุษย์และสัตว์จะได้รับภัยพิบัติสารพัดทั่วทิศ

    คนในสมัยนั้น ( คือปัจจุบัน ) จะมีวิสัยโหดดุจกำเนิดจากสัตว์ป่าอำมหิต จะรบราฆ่าฟันกันถึงเลือดนองแผ่นดินแผ่นน้ำ ส่วนเวไนยสัตว์ผู้ขวนขวายในกุศลตามวัจนะของตถาคต ก็จะระงับร้อนไม่รุนแรง บ้านเมืองใดมีความเคารพยำเกรงในพระรัตนตรัยและคุณบิดามารดา เหตุร้ายภัยพิบัติจักเบาบาง แต่ก็จะหนีกฏธรรมชาติไม่พ้น

    เริ่มแต่พระพุทธศาสนาล่วงเลย 2,500 ปีเป็นต้นไป ไฟจะลุกลามทางทิศตะวันออก(เอเชีย) ไหม้วัดวาอารามสมณะชีพราหมณ์จะอดอยากยากเข็ญ(ไหม้จริงที่ภาคใต้พระไปบิณทบาตรยังไม่ได้เลยแล้วจะกินอะไรละโยม) ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็นเพลิงผลาญ เหล็กกล้าจะทะยานจากน้ำ (เรือดำน้ำ)มหาสมุทรจะชอกช้ำ สงครามจะทั่วทิศ ศึกจะติดเมือง ทหารจะเป็นเจ้า ข้าวจะขาดแคลน ทั่วแคว้นจะอดอยาก ผีโขมดป่าจะเข้าเมือง พระเสื้อเมืองพระทรงเมืองจะหนีเข้าไพร ผู้เป็นใหญ่มีอำนาจจะเรียกแมลงผีเสื้อเหล็กนับแสนตัว(เครื่องบินงัย) มาปล่อยไข่เป็นไฟผลาญ(ลูกระเบิด) ยักษ์หินที่ถูกสาบ(ภูเขาไฟ)มาเป็นเวลานาน จะตื่นขึ้นมาอาละวาดโลก ดินฟ้าอากาศจะแปรปรวน ตลิ่งจะพัง แผ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล โลกมนุษย์จะดิ่งสู่ความหายนะ นักปราชญ์จะถูกทำร้ายให้สิ้นสูญ

    ในระยะนั้นศาสนาของตถาคตเสื่อมลงมาก เพราะพุทธบริษัทไม่ตั้งอยู่ในศีลธรรม เชื่อคำของคนโกง กล่าวคำเท็จไม่เคารพหลักธรรมนิยม คนประจบสอพลอได้รับการเชื่อถือในสังคม ผู้มีศีลธรรมประพฤติชอบกลับไม่มีใครเคารพยำเกรง

    พระธรรมจะเริ่มเปล่งแสงรัศมีฉายส่องโลกอีกวาระหนึ่งก็ต่อเมื่อมีธรรมิราชโพธิญาณบังเกิดขึ้นอยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์ ทั้งสองพระองค์สถิตย์ ณ เบื้องตะวันออกของมัชฌิมประเทศ(ชนบท) จะเสด็จมาเสริมสร้างศาสนาของตถาคตให้รุ่งเรืองสืบไปถึง 5.000 พระวรรษา

    ดูก่อนอานนท์ เวลานั้นพลโลกเหลือน้อย คำทำนายของตถาคตนี้ย่อมยังเวไนยสัตว์ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วไม่เชื่อ นับว่าเป็นกรรมของสัตว์โลกที่ต้องสิ้นสุดไปตามกรรมชั่วของตน

    ผู้ใดปรารถนารอดพ้นจากภัยพิบัติให้รักษาศีลห้าประการ เจริญเมตตากรุณา ประกอบสัมมาอาชีพ มีใจสันโดษ รู้จักพอ ไม่หลงมัวเมาอำนาจและลาภยศ ตั้งใจประพฤติตนตามคำสอนของตถาคตให้มั่นคงจึงจะพ้นอันตรายในยุคกึ่งพุทธกาล <!--detail-->

    โดย : กกก
    วันที่ : 2005-09-18 13:58:12

    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

    <TABLE class=comment_background cellSpacing=0 cellPadding=0 width=614 align=center border=0><TBODY><TR><TD class=middle_comment style="OVERFLOW: hidden; WIDTH: 614px" colSpan=2>ผมเคยอ่านมาครับว่าพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปหรือที่เรารู้จักกันในชื่อว่า พระศรีอารย์ จะจุติมาครับ มีหลายตำรากล่าว บ้างก็ว่าจะมาปี 2500 บ้างก็ว่าในปี 5000 แต่ผมเคยอ่านอยู่เล่มนึง เป็นเรื่องเกี่ยวกับพุทธทำนายครับ ได้กล่าวไว้ว่าจะปรากฏให้ชาวโลกเห็นในปี 2549 ซึ่งหนังสือเล่มนี้เขียนไว้ตั้งแต่ปี 2529 คือ 20 ปีที่แล้ว และจนวันนี้ครับ ก็จะครบ 20 ปีในปีหน้านี้แล้ว ก็อยากรอดูว่าอะไรจะเกิดขึ้นครับ


    </TD></TR><TR><TD class=bottom_comment colSpan=2>[​IMG] โดย : เคยอ่าน วันที่ :2005-09-18 19:03:05


    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
    <TABLE class=comment_background cellSpacing=0 cellPadding=0 width=614 align=center border=0><TBODY><TR><TD class=middle_comment style="OVERFLOW: hidden; WIDTH: 614px" colSpan=2>

    อยากให้ชาวพุทธทุกคนช่วยกันสวดมนต์ภาวนาเพื่อสร้างกระแสที่ดีๆให้กับโลกใบนี้ เป็นการรวมพลังกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทพาหุงมหากาฯ(ชัยชนะของพระพุทธเจ้า) กับบทพระพุทธคุณ(อิติปิโสฯ....) ถ้ารวมพลังกันสวดมนต์มากๆเดี๋ยวเทวดาจะจัดการเรื่องต่างๆให้เองครับ
    ปล.ถ้าพิจารณาให้แยบคายและมีความรู้เรื่องกระแสจิตอยู่บ้างก็จะเข้าใจว่าการจะช่วยเหลือศาสนานั้นทำไมต้องสวดมนต์ครับ


    </TD></TR><TR><TD class=bottom_comment colSpan=2>[​IMG] โดย : wit วันที่ :2005-09-18 21:10:48


    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

    <TABLE class=comment_background cellSpacing=0 cellPadding=0 width=614 align=center border=0><TBODY><TR><TD class=middle_comment style="OVERFLOW: hidden; WIDTH: 614px" colSpan=2>ถ้าที่หมอลักษณ์ทายลูกแหม่ม ว่าปีหน้าจะดีมีแต่เทวดามาเกิด คงจะไม่ตรงครบ 100 % เพราะว่าปีหน้าจะมีตามความเห็นนี้ "ผมเคยอ่านมาครับว่าพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปหรือที่เรารู้จักกันในชื่อว่า พระศรีอารย์ จะจุติมาครับ มีหลายตำรากล่าว บ้างก็ว่าจะมาปี 2500 บ้างก็ว่าในปี 5000 แต่ผมเคยอ่านอยู่เล่มนึง เป็นเรื่องเกี่ยวกับพุทธทำนายครับ ได้กล่าวไว้ว่าจะปรากฏให้ชาวโลกเห็นในปี 2549 ซึ่งหนังสือเล่มนี้เขียนไว้ตั้งแต่ปี 2529 คือ 20 ปีที่แล้ว และจนวันนี้ครับ ก็จะครบ 20 ปีในปีหน้านี้แล้ว ก็อยากรอดูว่าอะไรจะเกิดขึ้นครับ"

    และนี่ก็เป็นอีกความคิดหนึ่งว่าคือใคร "ความเห็นที่ 12 คุณเข้าใจถูกแล้วหล่ะครับพระศรีอาริยเมตไตรย หรือพระพุทธเจ้าพระองค์ที่ 5 นั่นเอง แต่เรื่อง 5000 ปีถึงจะมาปรากฎนะไม่ใช่อย่างแน่นอนไม่มีมูลความจริงครับ ผมเองก็ศึกษาเรื่องนี้เหมือนกัน คงรออีกไม่นานหรอกครับ พระธรรมมิกราชโพธิสัตว์นั่นก็คือพระเมตไตรยนี่เอง ส่วนพระเถระโพธิสัตว์นั่นผมคิดว่าคุณน่าจะเดาได้นะ ถ้าเกิดในยุคนี้หรือปีหน้าจะเป็นผู้ใด ทั้งสองพระองค์จะช่วยกันทำนุบำรุงศาสนาพุทธให้เจริญรุ่งเรือง พระพุทธเจ้าโคตมท่านได้ตรัสไว้อย่างถูกต้องแล้วหล่ะ ท่านรู้อดีต ปัจจุบัน และอนาคตกาล ท่านรู้ได้ด้วยญาณของท่าน
    ตามตำราหรือตำนานหลายศาสนาได้กล่าวถึงผู้นำผู้หนึ่ง ซึ่งระบุถึงว่าจะมีบุคคลหนึ่งเกิดขึ้นเป็นบุคคลที่มีความสำคัญ ท่านผู้นี้น่าจะเป็นบุคคลคนเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นศาสนาคริสต์ใช้ชื่อว่าcomforter ศานาฮินดูใช้ชื่อว่า kalki (เชื่อว่าเป็นปางสุดท้ายของพระนารายณ์อวตารลงมาจุติเพื่อมาปราบมาร) ศาสนาอิสลามใช้ชื่อว่า maldi หรือแม้แต่ศาสนายิวซึ่งเป็นแม่แบบของศาสนาคริสต์ใช้ชื่อว่า messiah หรือศาสนาพุทธเรารู้จักกันในชื่อว่า maitreya นั่นเอง"

    </TD></TR><TR><TD class=bottom_comment colSpan=2>[​IMG] โดย : ยู้ วันที่ :2005-09-19 04:05:13





    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    คัดลอกมาจากhttp://64.233.167.104/search?q=cache:tGeT6GuO9wsJ:www.mthai.com/webboard/7/144769.html+%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B9%8C&hl=th
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2005

แชร์หน้านี้

Loading...