พระเยซูเป็นพระโพธิสัตว์หรือเปล่า ?

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 26 สิงหาคม 2008.

  1. คนเก่า

    คนเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,355
    ค่าพลัง:
    +15,053

    ไบเบิ้ลเป็นการรวบรวม Old Testiment กับหลายๆ Gospels มาประกอบกัน แต่ก็ยังมีอีกหลาย Gospels ที่ไม่ได้ถูกรวมไว้

    อ่านหมดหรือยังละ

    อ่านนิดๆหน่อยๆแล้วก็ทึกทักมาถกเถียงซะแล้ว ไปศึกษาใหม่ ดีๆ
     
  2. mabilar

    mabilar Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2006
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +53
    เรียนคุณเทพธรรมสมาบัติฯ
    ผมขออธิบายเรื่องพระเยซูเป็นพระโพธิสัตว์หรือไม่ดังนี้นะครับ

    แต่ผมสงสัยว่าถ้าพระเยซูเป็นพระโพธิสัตว์ ทำไมในไบเบิลถึงมีคำกล่าวว่าเราเป็นพระเจ้าเราเป็นพระบุตรของพระเจ้าซึ่งฟังดูแล้วมันตรงข้ามกับพุทธมากเลย แถมไม่อยู่ในสัมมาทิฏฐิด้วย และที่สำคัญยังมาสร้างศาสนาซ้อนในสมัยของพระพุทธเจ้าโคดมนี้อีก ถ้าเป็นพระโพธิสัตว์จริงจะประกาศ ศาสนาได้ก็ต่อเมื่อต้องบรรลุพระโพธิญาณสำเร็จเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าก่อนมิใช่หรือ

    ส่วนตัวผม ค่อนข้างเชื่อว่า พระเยซูเป็นพระโพธิสัตว์แน่นอนครับ และขอตอบคำถามคุณเป็นข้อๆดังนี้

    1 ทำไมหลักคำสอนจึงต่างกับพระพุทธเจ้า

    ผมขอตอบโดยอิงกับหลักพุทธศาสนานะครับ พระโพธิสัตว์สามารถประกาศศาสนาได้ครับ และไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับหลักของพระพุทธศาสนาเสมอไป เพราะพระโพธิสัตว์ยังไม่ได้ปํญญาญาณขั้นสูงสุด คือสัพพัญญูญาณนั่นเอง คำสอนของศาสนาที่ประกาศโดยพระโพธิสัตว์จึงยังไม่อาจนำสัตว์โลกข้ามวัฎสงสารไปยังพระนิพานได้ แต่สามารถนำไปสู่สุขคติได้ เช่น ไปเกิดเป็นเทวดาหรือพรหมเป็นต้น แม้แต่พระพุทธเจ้าของเรา ในอดีตชาติก็เคยเกิดเป็นศาสดาในศาสนาอืนๆมาก่อน แต่สามารถมานำสัตว์โลกไปพระนิพพานได้จริงๆก็ตอนได้ตรัสรู้นี่แหละครับ สาวกของท่านก็คือลูกศิษย์ที่เคยบวชเรียนในสำนักของท่านมาก่อนในอดีตชาตินั่นเอง กรณีของศาสนาคริสต์ ชาวคริสเตียนก็ต้องรอให้พระเยซูมาบรรลุเป็นพระพุทธเจ้าเสียก่อน จึงมาเกิดเป็นสาวก และบรรลุธรรมได้ เพราะเป็นวาสนาต่อเนื่องกันมาครับ

    2ทำไมจึงประกาศศาสนาซ้อนพระพุทธศาสนา

    ทำได้ครับ เพราะพระโพธิสัตว์เกิดมาเพื่อ สั่งสมบารมีและหาสาวก ไม่ใช่เกิดมาเพื่อบรรลุธรรม จึงไม่จำเป็นต้องเกิดภายใต้พุทธศาสนาเสมอไป ดูอย่างพระอชิตภิกษุสิครับ ขนาดจะได้เกิดมาเป็นพระศรีอริยฯในอนาคต มีบารมีเป็นเอนกอนันต์ เป็นพระพุทธเจ้าระดับ วิริยาธิกะ เลยทีเดียว แต่กลับไม่มีบทบาทอะไรในยุคของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันเลย นอกจากถูกพยากรณ์ว่า จะบรรลุเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปเท่านั้น ถ้าพระเยซูเกิดในศาสนาพุทธก็คงทำได้เพียงบำเพ็ญเนกขัมมบารมี(บวช)เละปัญญาบารมีท่านั้น แต่ยากจะหาสาวกเพิ่มเติมได้หรือบำเพ็ญบารมีอื่นๆได้ การเกิดเพื่อเป็นศาสดาในศาสนาอื่นอาจจะเหมาะสมกว่า สำหรับการบำเพ็ญเพื่อพุทธภูมิครับ


    <!-- / message -->
     
  3. พระคุณที่สาม

    พระคุณที่สาม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2008
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +47
    นานาจิตตังนะคะ เรื่องที่เราพูดแล้วไม่จบมีอยู่ 3 เรื่องค่ะ

    คือ ความรัก ศาสนา และการเมือง ดังนั้นแล้วแต่ศรัทธานะคะ ไม่มีผิดหรือถูก ใช่หรือไม่ใช่

    โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนที่ศึกษาทุกศาสนา ไม่ใช่ว่าจะเปลี่ยนศาสนา แต่รู้ไว้ก็ไม่เสียหาย

    ใช่ไหมคะ และยังเชื่อว่าทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดีค่ะ ดังนั้นไม่สำคัญหรอกค่ะว่า

    พระเยซูจะเป็นพระโพธิสัตว์หรือไม่ เพียงแต่คุณศรัทธาในท่านก็เพียงพอแล้วค่ะ

    บางครั้งยังเคยนั่งคิดเลยว่า หรือทุกศาสนาไม่มีจริง..

    แต่เป็นเพียงกุศโลบายให้คนอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข

    แต่เมื่อคิดว่าจะไม่นับถือศาสนาอะไร จิตก็ยังไม่แข็งพอค่ะ เหอ ๆ
     
  4. จิตเอกภพ

    จิตเอกภพ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +48
    คุณ mabilar<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1590977", true); </SCRIPT>

    ไม่ทราบใช้ปัญญาคิดหรือเปล่าครับ พระศาสดาทุกศาสนาย่อมมีมหาอุบาย มหาปัญญา และมหากรุณาเป็นที่ตั้ง ทำไมตั้งไปย่ำยีศาสนาอื่นเขาด้วยละ เป็นชาวพุทธหรือเปล่า และทำไมจิตถึงได้ต่ำทรามเยี่ยงนี้ สาวกของศาสนาคริตส์มีมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก แล้วจะมาบอกได้อย่างไรว่า ยากที่จะหาเพิ่มเติมได้ ไอ้พวกขอบกระด้ง มีความคิดแค่นี้หรือ
     
  5. เทพธรรมสมาบัติ๙มรรคา

    เทพธรรมสมาบัติ๙มรรคา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +30
    ผมให้คุณแก้ประโยคนี้"แม้มนุษย์จะทำดีมากแค่ไหนแต่ถ้าไม่เชื่อพระเจ้าสุดท้ายก็ไม่รอดต้องตกนรกอยู่ดี"คุณก็มาพูดซะแบบนี้ผมอยากรู้ว่าประโยคนี้มันมีเหตุผลมั้ยแต่ในทางกลับกันคนเชื่อพระเจ้าแต่มีกิเลศตัณหามากมายทั้ง โลภ โกรธ หลง และสารพัดที่จะมี และแบบนี้ยังจะรอดจากอบายภูมิอีกหรือกับแค่คำว่าเชื่อพระเจ้าแล้วจะรอดผมยังมองหาเหตุผลไม่เจอสักข้อ แต่ทางพุทธเชื่อว่าอยู่ที่การกระทำของเขาที่จะนำส่งผลภายหน้าไม่ใช่อยู่ที่ว่าเชื่อหรือไม่เชื่อและที่สำคัญคุณบอกว่าไบเบิ้ลรวบรวมมาหลายที่และแน่นอนไบเบิ้ลที่รวบรวมมานั้นไม่ได้มาจากพระอรหันต์แล้วมันจะมีความถูกต้องและบริสุทธิ์จริงหรือเพราะจิตของปถุชนย่อมไหลไปสุ่ที่ตําเสมอ และอีกอย่างคุณเน้นยําที่จะให้ผมไปศึกษาใหม่อยู่นั้นและ ผมไม่ไปหรอกเพราะของดีจริงย่อมไม่มีตำหนิ ย่อมเป็นจริงเสมอ ย่อมบริสุทธิ์ ถึงจะศึกษาไปจนตายคุณก็ไม่พ้นทุกข์อยู่ดี เพราะมีที่พุทธที่เดียวเท่านั้นที่มีวิปัสนาญาณตัวสำคัญที่ทำให้ที่จะทำให้พ้นทุกข์ได้อย่างแท้จริงซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ใครๆก็รู้ หรือคุณจะบอกว่าที่คริสต์หรือที่พระเยซูก็มีสอน
     
  6. mabilar

    mabilar Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2006
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +53
    ถึง คุณ จิตเอกภาพ

    ไม่ทราบใช้ปัญญาคิดหรือเปล่าครับ พระศาสดาทุกศาสนาย่อมมีมหาอุบาย มหาปัญญา และมหากรุณาเป็นที่ตั้ง ทำไมตั้งไปย่ำยีศาสนาอื่นเขาด้วยละ เป็นชาวพุทธหรือเปล่า และทำไมจิตถึงได้ต่ำทรามเยี่ยงนี้ สาวกของศาสนาคริตส์มีมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก แล้วจะมาบอกได้อย่างไรว่า ยากที่จะหาเพิ่มเติมได้ ไอ้พวกขอบกระด้ง มีความคิดแค่นี้หรือ<!-- / message -->

    ผมไปย่ำยีศาสนาอื่นตรงไหนล่ะ ก่อนมาด่าว่าผมจิตใจต่ำทราม ผมว่า คุณไปอ่านข้อความของผมให้แตกฉานก่อนเถอะ ข้อความที่คุณด่าผม ความจริงมันก็เป็น เรื่องเดียวกับที่ผมเขียนนั่นแหละ ผมบอกว่า พระโพธิสัตว์เกิดมาเพื่อบำเพ็ญบารมีและหาสาวกใช่ใหม คุณบอกว่า สาวกของศาสนาคริสต์มีมากที่สุดใช่ใหม คุณลองคิดดู ถ้าสมมติ พระเยซูเกิดและบวชในศาสนาพุทธ และช่วยเผยแผ่ศาสนาพุทธ ชาวคริสเตียนที่มากที่สุดในโลกขณะนี้ ก็ต้องกลายเป็นชาวพุทธ อันเนื่องมาจากพระปรีชาขององค์เยซู แล้วชาวพุทธเหล่านี้จะกลายเป็นสาวกของใครล่ะครับ? แต่เพราะพระองค์ทรงประกาศศาสนาด้วยตัวเอง จึงมีชาวคริสเตียนมากมายในปัจจุบัน

    คำอธิบายของคุณ มันแตกต่างจากผมตรงไหนล่ะ

    สรุป ผมก็ไม่ได้บอกว่า พระเยซูหรือศาสนาคริสต์ไม่ดีนี่ ผมเพียงแตบอกว่า การเกิดและวิถีชีวิตของพระเยซู สอดคล้องกับหลักการเกิดและวิถีปฏิบัติของเหล่าพระโพธิสัตว์ในพระพุทธศาสนาเท่านั้นเอง ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่ก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล
     
  7. คนเก่า

    คนเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,355
    ค่าพลัง:
    +15,053
    ขออภัยครับ ผมไม่สนับสนุนผู้จ้องจับผิดตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อยมาแสดงภูมิ

    ผมประสงค์สอนให้ผู้ยังด้อยความรู้ และแสดงให้สาธารณะให้รู้ว่า

    ปกติแล้วพุทธศาสนิกชนชาวไทยก็รู้จักให้ความเคารพให้ศรัทธาของผู้อื่น มีความใจกว้างและสนใจศึกษาอย่างลึกซึ้งและให้เกียรติ

    หัวข้อสนทนาใด หรือผู้ใดไม่รู้จักให้เกียรติผู้อื่นตามสมควร ผมก็ไม่ยินดีสนทนาหรือเสวนาด้วย ต่อให้เป็นเว็บมาสเตอร์ หรือผู้ดูแลเว็บ หากแสดงความไร้มรรยาท ทำวางอำนาจไม่รู้จักเคารพ มีมรรยาทต่อผู้ใหญ่ ก็หมดศรัทธาที่จะเมตตาคบหา หรือให้ความสนับสนุนใดๆต่อไป
     
  8. เทพธรรมสมาบัติ๙มรรคา

    เทพธรรมสมาบัติ๙มรรคา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +30
    ผมไม่ได้อยากจะทะเลอะหรือหาเรื่องกับผู้ใดหรืออยากเอาชนะผู้ใด เพียงแต่ผมเป็นคนหยึดหลักเหตุผล ผมสังเกตุดูจากการแสดงความคิดเห็นของคุณจึงคิดว่าคุณคงเรียนรู้มาเยอะ จึงอยากให้คุณช่วยอธิบายด้วยเหตุผลให้ผมเข้าใจในส่วนที่ข้องใจและถ้าพุดกันด้วยเหตุผลผมก็น้อมรับฟังโดยดี แต่ถ้าเป็นการรบกวนคุณมากเกินไปผมต้องขออภัยด้วยขอให้อโหสิกรรมกันไป บุญกุศลใดๆที่ผมเคยทำรวมถึงการเคยบวชศึกษาธรรมมา1พรรษา ขอให้คุณมีส่วนได้ในกุศลนั้นด้วยขอให้อนุโมทนาเอาเถิด
     
  9. มารวิกะ

    มารวิกะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    196
    ค่าพลัง:
    +526
    แวะเข้ามาอ่านแล้ว เลยทำให้คิดนึกถึง คำว่า อวิชชา ขึ้นมาโดยทันที ทำให้ก่อเกิดความสงสัยไปต่างๆนานา
    เอาเป็นว่า ใครที่ยังสงสัยอยู่และยังหาหนทางไปถาม พระเยซูโดยตรงเลยไม่ได้ ก็คงต้องรอให้ หมดอายุขัยกันก่อน
    ไว้ถึงตอนนั้นๆความจริงทุกอย่างคงจะประจักษ์แก่ท่านทั้งหลายที่ยัง สงสัยกันอยู่ครับ โดยส่วนตัวเองนั้นในกาลก่อน
    หน้านี้ในช่วง10ปีมาแล้ว เคยได้ปรามาสพระเยซู โดนตลอด นั่นถือว่าเป็น อวิชชา อย่างนึงของผมเหมือนกัน เพราะแต่ก่อน
    เคยสงสัยเกี่ยวกับคำสอน การสารภาพบาป และเรื่องอื่นๆของพระเยซู ว่าจะล้างบาปได้จริงหรือ เพราะเห็นตามป้าย
    ที่ติดตามทาง แถบต่างจังหวัด ได้เขียนไว้ว่า พระเยซูชำระบาปท่านได้ มั่ง (คงจะมีหลายๆท่านเคยเห็นมาบ้าง)
    ในตอนนั้นๆเวลาพูดถึงท่านจะเรียกพระนามของท่านเลย คือเรียกแค่ เยซู แต่พอหลังจากที่ได้รับรู้ ความเป็นจริง
    บางอย่าง เกี่ยวกับพระเยซู ผมเลยต้องเปลี่ยนความมี อคติ ต่อท่านเสียใหม่หมด ความจริงอันนั้นคืออะไรบางท่านคง
    จะทราบแล้ว ตรงนี้ใครจะคิดยังไงก็ถือว่าเป็นความคิดส่วนตัวก็แล้วกันครับ อย่าเอาไปเปรียบเทียบกันไปเลย
    บาปกรรม มันมองไม่เห็นเสียด้วย แต่จะติดตัวเราไปตลอด ครับผม
    (ไม่ได้มาอวดภูมินะครับ ไม่มีภูมิอะไรจะอวดหรอกครับผม มารวิกะ ความรู้น้อย การศึกษาน้อย ด้อยปัญญา อีกตังหาก )
     
  10. CharnK

    CharnK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    444
    ค่าพลัง:
    +1,453
    การกล่าวว่าพระเยซูเป็นพระโพธิสัตว์เป็นการยกย่องพระองค์ท่าน เพราะแสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงเสียสละเพื่อชนหมู่ใหญ่ ไม่ว่าในเวลานี้หรือในอนาคตที่พระองค์จักได้ตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณเพื่อขนสัตว์ให้พ้นทุกข์ต่อไป
     
  11. จิตเอกภพ

    จิตเอกภพ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +48
    อ่านแล้ว ก็ยังมีจิตอคติอยู่นั้นแหละ จิตหนอจิต คิดแต่เอาดีเข้าตัว ประเสริฐแต่ผู้เดียว ดีกว่า
    เป็นเลิศแล้ว มองดูศาสนามอื่นเป็นเบี้ยล่างและไร้ค่าไปหมด เพราะคติภพภูมิพุทธ (ไตรภูมิ) แท้ๆ ที่ทำให้ชาวพุทธยังหลงติดอยู่กับอวิชชา น่าเศร้าหมองๆ จริง

    กลับไปพิจารณาไตรลักษ์และโยนิโสนมสิการ และอย่าลืมนำหลักกาลามาสูตรมาประยุกต์ด้วยละ จิตใจจะได้เป็นกลาง และมีคุณธรรมสูงมากขึ้น
     
  12. ปรมิตร

    ปรมิตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +528
    ดีแล้วๆ
    กัลญาณมิตรต้อง ตักเตือนกันด้วยจิตเป็นกลาง

    หมู่บัณฑิต ผู้ทรงปัญญาและคุณธรรมไม่แตกคอกันง่ายฉันใด
    ขอเหล่าผู้เลื่อมใสในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ย่อมไม่แตกคอกันง่ายฉันนั้น

    จำเดิมแต่ไรมาผู้มีปัญญาและมานะย่อมชอบใจที่จะคิดเอง รู้เอง
    ไม่ชอบให้มีผู้ทับถมหรือแสดงความว่ามีปัญญามากกว่ารู้มากกว่า
    ดังนั้นเราพึงวางใจให้เป็นกลาง แสดงทัศนคติตามคติของตน หากมีผุ้ชี้แนะรับฟังเพื่อพิจารณา
    แสดงวาจาอ่อนน้อม ใช้คำที่สุภาพ ให้เกียรติผู้อื่น ไม่ก่อเวร ย่อมเป็นที่พอใจของผู้ใหญ่โดยธรรม

    ผู้มีโทสะอยู่ย่อมไม่เห็นทั้งประโยชน์ของตนและผู้อื่น

    ไม่ได้สั่งสอนใครนะครับ แต่เข้ามา กล่าววาจาสุภาษิตลอยๆ ในฐานะกัลญาณมิตรเท่านั้นเอง
    ไม่ได้มีปัญญาเหนือใคร ไม่ได้เก่งกว่าใคร ข้อความคำสอนและแนวคิดแบบนี้ท่านทั้งหลายก็คงรู้ๆกันอยู่แล้ว ท่านที่มีคุณธรรมและปัญญาพึงพิจารณาเพื่อก่อประโยชน์ต่อไปเถิด

    หากสักวันผมติดอยู่ในอารมณ์ที่ขุ่นมัว หวังว่าจะมีคนมากล่าววาจาสุภาษิตแบบนี้เพื่อให้ผมรู้ตัวบ้าง
    อนุโมทนาในความดีที่จะเกิดขึ้นครับสาธุๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2008
  13. นักรบโบราณ

    นักรบโบราณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    310
    ค่าพลัง:
    +973
    โลกทิพย์ส่งศาสดาลงมายังโลกมนุษย์ ถูกต้องตามกาลเวลาเสมอ

    เพราะถือว่า โลกมนุษย์คือสื่อกลางแห่งการชดใช้กรรม และบำเพ็ญเพียรที่ดีที่สุด

    ก่อนที่ดวงจิตนั้นจะกลับสู่โลกวิญญาณ หรือ สู่แดนอรหันต์ แดนนิพพาน

    กาลเวลาผ่านไปนานเข้า คำสอนของศาสดาต่างๆย่อมถูกบิดเบือนบ้างโดยสาวก

    ได้ยิน ได้ฟังสิ่งใด ก็พิจารณาก่อนครับ กรรมจะได้ไม่เกิด (วจีกรรม)
     
  14. ศรนารายณ์ธนูทอง

    ศรนารายณ์ธนูทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +1,865
    ระวังจะเป็นการก้าวก่ายศาสดาศาสนาอื่นหรืเปล่า เดี๋ยวทะเลาะกันอีกเฮ้อๆๆๆๆๆๆๆ

    กระทู้เเจกพระบรมสารีริกธาตุฟรี
    http://palungjit.org/showthread.php?t=146444


    เเละกระทู้เทวสถานตางลิงค์นี้

    http://palungjit.org/showthread.php?t=151608
     
  15. สาวกสังโฆ

    สาวกสังโฆ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +12
    มีหลักฐานชัดว่าพระโพธิสัตว์จะอยู่ในพุทธศาสนาหรือไม่ก็ได้(เช่น สุเมธดาบสโพธิสัตว์ก็ไม่ได้บวชในพุทธศาสนา, โชติปาลโพธิสัตว์เบื้องแรกก็ไม่นับถือพระพุทธเจ้า ฯลฯ)

    ส่วนว่าพระเยซูจะเป็น(พระโพธิสัตว์)หรือเปล่าเราไม่อาจรู้เป็นแน่ คงมีแต่พระองค์ท่านเองครับที่รู้ว่าท่านทำคุณงามความดี(สร้างบารมี)ทั้งหลายทั้งปวงนั้น เพื่ออะไร


    แต่ที่แน่ๆ คือ เป็นไปไม่ได้เลย ที่คนอยู่นอกพุทธศาสนา แล้วไม่ได้ปฏิบัติตามแนวของพุทธศาสนานี้ ซึ่งมีพระบรมศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นผู้ตรัสรู้ธรรมนี้
    จะสามารถบรรลุธรรมเป็นพระอริยบุคคลคนได้ โดยไม่มีความรู้เรื่องมรรคมีองค์ ๘ มาก่อน (เว้นพระปัจเจกพุทธเจ้า แต่ท่านจะไม่มาเกิดในยุคที่ยังมีคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าดำรงอยู่)

    ตามที่จะได้นำพุทธพจน์มาอ้างอิง ดังต่อไปนี้




    พระอริยเจ้ามีอยู่แต่ในธรรมวินัยนี้เท่านั้น


    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

    "สุภัททะ ในธรรมวินัย(คือคำสอนของศาสดาใดก็ตาม)ที่ไม่มีอริยมรรคมีองค์ ๘


    ย่อมไม่มีสมณะที่ ๑

    ย่อมไม่มีสมณะที่ ๒

    ย่อมไม่มีสมณะที่ ๓

    ย่อมไม่มีสมณะที่ ๔*


    * สมณที่ ๑ สมณะที่ ๒ สมณะที่ ๓ สมณะที่ ๔ ในที่นี้ได้แก่
    พระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์ ตามลำดับ
    (ที.ม.อ. ๒๑๔/๑๙๖) และดูเทียบ อภิ.ก. ๓๗/๘๗๕/๔๙๗-๔๙๘.


    ในธรรมวินัยที่มีอริยมรรคมีองค์ ๘


    ย่อมมีสมณะที่ ๑

    ย่อมมีสมณะที่ ๒

    ย่อมมีสมณะที่ ๓

    ย่อมมีสมณะที่ ๔
    ------------------------------------------------

    ในธรรมวินัยนี้(คือศาสนาพุทธ)มีอริยมรรคมีองค์ ๘


    สมณะที่ ๑ มีอยู่ในธรรมวินัยนี้เท่านั้น

    สมณะที่ ๒ มีอยู่ในธรรมวินัยนี้เท่านั้น

    สมณะที่ ๓ มีอยู่ในธรรมวินัยนี้เท่านั้น

    สมณะที่ ๔ ก็มีอยู่ในธรรมวินัยนี้เท่านั้น


    ลัทธิอื่นว่างจากสมณะทั้งหลายผู้รู้ทั่วถึง

    สุภัททะ ถ้าภิกษุเหล่านี้เป็นอยู่โดยชอบ

    โลกจะไม่พึงว่างจากพระอรหันต์ทั้งหลาย


    สุภัททะ เราบวชขณะอายุ ๒๙ ปี แสวงหาว่าอะไรคือ กุศล

    เราบวชมาได้ ๕๐ ปีกว่า

    ยังไม่มีแม้สมณะที่ ๑ ภายนอกธรรมวินัยนี้

    ผู้อาจแสดงธรรมเป็นเครื่องนำออกจากทุกข์ได้

    ไม่มีสมณะที่ ๒ ไม่มีสมณะที่ ๓ ไม่มีสมณะที่ ๔

    ลัทธิอื่นว่างจากสมณะทั้งหลายผู้รู้ทั่วถึง


    สุภัททะ ถ้าภิกษุเหล่านี้เป็นอยู่โดยชอบ

    โลกจะไม่พึงว่างจากพระอรหันต์ทั้งหลาย"
    -----------------------------------------------------

    “ไม่มีรอยเท้าในอากาศ ไม่มีสมณะภายนอก*

    หมู่สัตว์เป็นผู้ยินดีในปปัญจธรรม (กิเลสธรรมที่ทำให้เนิ่นช้า)


    ไม่มีรอยเท้าในอากาศ ไม่มีสมณะภายนอก

    ไม่มีสังขารที่เที่ยงแท้

    พระพุทธเจ้าทั้งหลายไม่มีความหวั่นไหว


    [* ไม่มีสมณะภายนอก หมายถึงไม่มีสมณะผู้ดำรงอยู่ในอริยมรรค และอริยผล
    ภายนอกพระพุทธศาสนา (ขุ.ธ.อ. ๗/๓๗)]


    ขุ.ธ. 25/28/46-49.
    มจร. (แปล) 25/235-255/105-111.
    ---------------------
     
  16. linake119

    linake119 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +578
    ที่จริงเรื่องพระเยซูเนี่ย ไม่ต้องไปสนใจหรอกครับ
    สนใจใจของตัวเองว่าวันนี้ดีแล้วหรือยัง ละแล้วหรือยัง สว่างแล้วหรือยัง
    กระจ่างแล้วหรือยัง จะดีกว่าการมานั่งเถียงกันว่าใครเป็นหรือไม่เป็นพระโพธิสัตว์
    นิพพานัง ปรมัง สุขัง
     
  17. ปรมิตร

    ปรมิตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +528
    ศาสนาพุทธมิได้มีจุดมุ่งหมาย เพื่อให้เกิดความสุขหรอกนะครับ แต่ เพื่อให้พ้นทุกข์ เพราะมองว่า ในโลกนี้ ไม่มีสุขจริง จึงกล่าวถึงความทุกข์ และเน้นให้ศึกษาทุกข์ แต่แปลกอยู่อย่างหนึ่งว่า คนที่ศึกษาทุกข์นั้นจะไม่ทุกข์หรือทุกข์ก็ไม่นาน
    การแสดงความคิดเห็นนั้นก็ตามแต่ทิฐิ ตามแต่ประสบการณ์ การที่คุณกล่าวก็ใช่ว่าจะเข้าใจถูก ก็ไม่มีใครรู้จริงใช่ไหมครับ ก็เชื่อตามหลักฐาน ตามอะไรนะ ที่พวกคุณชอบอ้าง ประจักษ์พยาน หรือประทับทิพยญาณเท่านั้น ก็หาใช่จะจริงแท้ทั้งหมดไม่ ก็เป็นความเชื่อเช่นกัน

    ที่นี่เป็นวงสนทนาของเราชาวพุทธ ใครจะแสดงวาทะ ทิฐิ ความคิดก็ย่อมได้
    ถ้าท่านไม่เชื่อไม่พอใจก็ค้านก็ได้หามีคนต่อว่าไม่ (ถ้ามีคนต่อว่า ด่าทอแสดงว่ายังไม่เข้าใจ วิธีการสนทนาแบบปัญญาชนดีพอ)
    แต่วิธีการค้านนั้นก็แสดงให้เห็นถึง สติส่วนหนึ่ง ปัญญาส่วนหนึ่ง การศึกษาส่วนหนึ่ง หรือแม้แต่อุปนิสัยด้วยนะครับ อย่าลืม

    ความจริงคุณทำผมก็เห็นด้วยนะครับ เพราะคุณไม่เห้นด้วยก็คัดค้านเจ้าของกระทู้ แต่คงไม่ถึงกับต้องต่อว่า กันขนาดนั้นมั้ง
    การเปิดใจกว้างๆ ศึกษาและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นเป็นวิสัยของบัณฑิตทั้งหลาย
    อนุโมทนาในความดีที่จะเกิดขึ้นนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤศจิกายน 2009
  18. timetime

    timetime เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2005
    โพสต์:
    485
    ค่าพลัง:
    +3,373
    ปัญญาของเรา อย่างเอาไปเทียบกับ พระอริยเจ้า ตั้งแต่พระโสดาบัน ขึ้นไป ท่านมีความมั่นคง ในพระพุทธเจ้า

    อย่างพวกเราเอง ศีล 5 ขาดเป็น ปกติ แล้ว ปัญญา ยิ่งขาดเป็นปกติ


    ท่านบอกว่า เพียงแค่มโนมยิทธิที่คนปัจจุบันไม่ได้ให้ความสำคัญและหลีกหนีห่างไกลไปเรื่อยๆ


    วิชามโนมยิทธิ เป็น วิชาของ พระพุทธเจ้า
    ท่านจิตเอกภพ จะว่าอย่างไร

    จงอย่าเอาปัญญา ของเราไปเทียบกับ ปัญญา พระพุทธเจ้า
     
  19. พิมพ์ฉัตร

    พิมพ์ฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +472
    ทำไมต้องเป็นชั้นดุสิตด้วยค่ะ แล้วทำไมถึงไม่ใช่ชั้นที่สูงกว่า อย่างสวรรค์อีกสองชั้น หรือไม่ก็ชั้นพรหม
     
  20. Armarmy

    Armarmy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +1,659
    อืมๆ อ่านแล้วก็...ทำให้ถึงหัวใจของศาสนาเถอะจ้ะ มานั่งเถียงกันเพื่ออะไรจ้ะ ของพวกเราชาวพุทธ พระองค์ สอน เรื่อง ศีล กรรมบท 10 จรณะ 15 ไปหาทำให้ถึงก่อนเถอะ จะได้ไม่ต้องมานั่งเถียงกัน เอาแค่ กรรมบท 10 ก้ ไม่รอดละ จะมานั่งเถียงกันเรื่องศาสนามันไม่ใหญ่เกินไปหน่อยรึ เห็นช้างขี้อย่าขี้ตามช้าง เดี๋ยว ตูดมานจะฉีก จะเจ็บตัวเสียปล่าว
    ขอทุกท่านโปรดอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าตราบเท่าเข้าพระนิพพานด้วยเทอญ
     

แชร์หน้านี้

Loading...