ผลที่ได้รับ... จากเรื่องโกหก

เจตนาที่ไม่ดี ซึ่งก่อให้เกิดความพยายามทางกาย และทางวาจาของคนคดโกง โดยมุ่งจะหลอกลวงคนอื่น ศัพท์ทางพระท่านเรียกว่า คำเท็จ หรือเรื่องโกหก

การพูดโกหกนั้น หากทำให้คนอื่นเสียผลประโยชน์จัดเป็นทางที่นำไปสู่ทุคติ ทางไม่ดี

การพูดโกหก จะต้องประกอบด้วยหลัก 4 ประการ คือ
1. เรื่องไม่จริง
2. มีความคิดที่จะพูดโกหก
3. พยายามจะพูดออกไป
4. คนอื่นเข้าใจผิดในเรื่องนั้น

การพูดเรื่องโกหก ท่านว่ามีโทษมากมายมหันต์ เพราะเหตุ 3 ประการ คือ
1. ผลประโยชน์ที่ถูกทำลายมีมาก
2. ผู้เสียผลประโยชน์เป็นผู้มีคุณมาก
3. กิเลสของผู้พูดโกหก มีกำลังแรงกล้าอย่างมาก
การพูดเรื่องโกหกที่ตรงกันข้ามจากเหตุ 3 ประการนี้ ท่านว่ามีโทษน้อย

โทษของการพูดโกหกนี้ มีเรื่องเล่าเป็นอุทาหรณ์ว่า
มีจักษุแพทย์คนหนึ่ง ได้เที่ยวรักษาคนตามหมู่บ้านต่างๆ ต่อมาได้พบผู้หญิงคนหนึ่ง กำลังทุกข์ทรมานด้วยโรคตา จนเกือบจะมองไม่เห็น

หมอตรวจดูอาการแล้ว บอกว่า "ผมพอจะรักษาให้หายเป็นปกติได้" นางจึงตอบว่า " ถ้าคุณหมอรักษาตาดิฉันให้หายเป็นปกติได้ ดิฉันกับลูกชาย ลูกสาว จะยอมเป็นทาสรับใช้ไปตลอดชีวิต" หมอจึงตกลงรักษาให้ ต่อมาไม่นาน ดวงตาของนางก็หายเป็นปกติ

เธอกลัวว่าจะต้องเป็นทาสของหมอตามที่ให้สัญญาไว้ เมื่อหมอมาถามอาการ จึงแกล้งพูดโกหกว่า "ก่อนนี้ ดวงตาของดิฉันเจ็บปวดเพียงเล็กน้อย แต่พอหยอดตาของท่านแล้ว กลับเจ็บปวดมากกว่าเดิม" หมอรู้ทันว่า "ผู้หญิงคนนี้หลอกลวงเรา เพราะต้องการจะไม่ให้ค่ารักษา" จึงโกรธมาก จึงปรุึงยาขนานใหม่ให้

เมื่อนางใช้ยาหยอดตาแล้ว ตาทั้ง 2 ข้างได้บอดสนิททันที ผู้หญิงคนนั้น จึงตาบอดเพราะการพูดโกหก

เรื่องนี้จึงเป็นตัวอย่างได้อย่างดีว่า การพูดจาโกหกหลอกลวงคนอื่น เป็นสาเหตุให้เกิดทุกข์โทษแก่คนอย่างมากมาย

พระราชสุธี (โสภณ โสภณจิตโต ป.ธ.9)
เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร

ที่มา: ธรรมะวันหยุด

 

ขอกราบโมทนาสาธุครับ สาธุ...