คนที่ตายไปแล้ว จะจำอดีต และ ญาติ ๆ ได้ทั้งหมดหรือไม่ หรือลืมไปเลยเมื่อจิดไปเกิดใหม่

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ทาน ศีล ภาวนา, 19 พฤศจิกายน 2008.

  1. ทาน ศีล ภาวนา

    ทาน ศีล ภาวนา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +4
    ขอสอบถามผู้มีอภิญญาทั้งหลายดังนี้

    1. คนที่ตายไปแล้ว จะจำอดีตได้ทั้งหมดหรือไม่ ไม่ว่าจะไปโอปะปาติกะในภพภูมิใด ๆ นอกเหนือจากโลกมนุษย์ จะสามารถจำญาติ พี่น้อง เรื่องราวต่าง ๆ ในชาติที่ผ่านมา หรือหลายชาติก่อนหน้าในอดีตได้หรือไม่

    2. ถ้าหากเราทำบุญอุทิศกุศลให้ผู้ตาย นั่นคือผู้ตายจะยังสามารถรับรู้ถึงกระแสจิดที่มนุษย์ส่งไปให้ และสามารถรับรู้ และมองเห็นความเป็นไปบนโลกมนุษย์ได้หรือไม่

    3. หากผู้ที่ไปโอปะปาติกะบนสวรรค์ ได้พบญาติ หรือ เพื่อน ที่อยู่บนสวรรค์นั้น ๆ อยู่แล้ว ต่างจะสามารถจดจำกันได้หรือไม่ ว่าเคยมีอดีตชาติร่วมกัน ทั้ง ๆ ที่รูปกาย แตกต่างกันไปจากตอนที่เป็นมนุษย์ (ข้อนี้เกี่ยวเนื่องมาจากข้อ 1. และ 2.)

    ขอเชิญท่านผู้รู้ทั้งหลายโปรดร่วมแสดงความคิดเห็น ขอบพระคุณ
     
  2. อินโดจีน

    อินโดจีน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +24

    เห็นด้วยครับ พูดยากเรื่องเเบบนี้ ^^
     
  3. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,065
    ค่าพลัง:
    +2,682
    เราเป็นแค่ฆราวาท ชั้นเดียวกันกับคุณนั่นไม่มีหรอกอภิญญาไรนั่น

    อยากรู้จริงๆ งั้นเดี๋ยวรอผู้่้เชี่ยวชาญตรวจสอบภพภูมิหรือภพชาติก่อนแล้วกัน
    แต่เราว่ามันไม่จำเป็นจะต้องรู้นะ ..แต่ถ้าอยากรู้ไว้ปลงวัฏสงสารเพื่อให้เห็นภพชาติที่เกิดแล้วเกิดเล่าและเกิดความเบื่อหน่ายในวัฏสงสารก็ดี


    ในเมื่อการที่จิตดวงสุดท้ายดับลงและเกิดการปฏิสนธิใหม่โดยมีตัวกรรม (ดี/ชั่ว) เป็นเหตุให้เกิดในภพภูมิต่างๆ ในทัีนทีไม่มีไปรอเกิดรออะไรทั้งนั้นพอเกิดใหม่ก็จำอะไรไม่ได้แล้ว แบบนี้แล้วท่านคิดว่ายังไง ? ขอเอาคำตอบข้อ2ไปตอบข้อ1ด้วยนะครับ ทำไมจะต้องให้คนรักตายไปก่อนค่อยทำบุญไปหาล่ะครับ ทำไมไม่ทำตอนเค้ายังเป็นๆอยู่ ?



    เอ๊า...งงนะเนี่ย
    รู้หรือเปล่าตัวเรานั้นมันเป็นเพียงสิ่งสมมติ และในเมื่อมันเป็นเช่นนั้นเราจึงไม่มีตัวตน จะมีก็แต่จิตเท่านั้น
    และในเมือมีแต่จิตที่หลุดพ้นแล้วนั้นย่อมไม่ต้องการร่างอันสมมติอีก จะบอกว่าเป็นลักษณะเป็น ดวงๆ นี่ก็ไม่ถูกเพราะเราก็ยังไม่เคยเห็น จึงไม่มีร่างอันสมมติ (อ่านมานะไม่ได้เห็นด้วยตนเองหรอก)
    ฉนั้นของเอาคำตอบข้อ 3 นี้ไปตอบข้อ 2 และข้อ 1 ด้วยแล้วกัน


    ปล.ที่เราตอบมันไม่จริงเสมอไปนะเมื่อถึงเวลาบรรลุธรรมด้วยตนเองแล้ว อาจจะไม่ใ่ช่อย่างที่คิดตอนนี้ก็ได้ใครจะไปรู้
    แค่อยากตอบ และอยากบอก คุณปรุงแต่งไปเยอะเหลือเกิน
    ไหนๆก็ชอบปรุงแต่งแล้วเราจะให้คุณปรุงไปต่อแล้วกันนะ..
    เอาล่ะนะ...
    สมมติว่าคุณ ได้คำตอบจากคนที่ได้ชื่อว่ามีอภิญญาแสดงให้เห็นกับตาเนื้อได้แล้วนั้น สิ่งที่คนๆนั้นเค้าตอบให้คุณแล้ว ไม่ว่าเป็นไปตามที่คาดไว้หรือหักมุมมองของคุณแล้วนั้น...
    "คุณหมดทุกข์ เลยหรือเปล่า" หรือยังจะอยากหาคำถามอื่นๆมาถามอีก ??


    เจริญในธรรมมากๆครับ

    เปลี่ยนเป็น "ขอเชิญท่านผู้รู้ทั้งหลายโปรดงดการปรุงแต่งต่างๆนาๆมาดูจิตดูใจตัวเองเถิด " อนุโมทนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2008
  4. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    ไม่ได้เป็นผู้มีอภิญญา แต่ขอตอบตามหลักฐานข้อมูลต่างๆแทนได้มั๊ยครับ

    ในบางภพภูมิก็สามารถระลึกชาติได้ครับ เช่น ถ้าไปเกิดเป็นเทวดา เนื่องจากมีกายที่เป็นทิพย์ เป็นธรรมชาติที่มีฤทธิ์อภิญญาในระดับหนึ่งอยู่แล้วตามแต่บุญบารมีที่ได้สั่งสมมา ก็จะสามารถระลึกได้ว่าก่อนที่จะมาเกิดเป็นเทวดานี้ได้มาจากผลบุญกุศลเรื่องใดน่ะครับ แต่บางภพภูมิก็ไม่สามารถระลึกได้ เนื่องจากข้อจำกัดของวิบากกรรมที่เป็นตัวกำหนดให้มาเกิดในอัตภาพต่างๆ(นอกจากบางกรณีพิเศษ) ต้องรอจนกว่าจะละจากอัตภาพนั้นไปจึงอาจจะทราบได้ครับ

    บางภพภูมิก็ได้ บางภพภูมิก็ไม่ได้ครับ แต่แม้ภพภูมิที่สามารถระลึกหรือรับรู้รวมทั้งสามารถสอดส่องดูความเป็นไปบนโลกมนุษย์ได้นั้น ก็ยังมีความแตกต่างกัน รับรู้ได้มากน้อยแตกต่างกันไปตามแต่บุญบารมีครับ

    ถ้าเป็นเทวดาเนื่องจากมีกายที่เป็นทิพย์ เพียงแค่ระลึกอยากรู้ก็จะทราบได้ทันทีครับ แต่ถ้าต้องการระลึกย้อนกลับไปหลายชาติมากๆอาจจะเกิดความแตกต่างที่บางองค์ก็สามารถระลึกรู้ได้ บางองค์ก็ระลึกรู้ได้จำกัดครับ
     
  5. ทาน ศีล ภาวนา

    ทาน ศีล ภาวนา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +4
    ขอบคุณที่เข้ามาเสนอความคิดเห็น และเตือนสติ ซึ่งเป็นประโยชน์แก่ผู้ตั้งกระทู้และทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชม

    ที่สอบถามดังนั้น เป็นเพียงความอยากรู้เท่านั้น อีกทั้งเป็นประโยชน์และแนวทางในการอุทิศกุศลผลบุญแก่ผู้ล่วงลับไปแล้วทั้งหลาย

    จริงอยู่ว่าการทำดีนั้น ควรทำตั้งแต่ตอนยังมีชีวิตอยู่ หากจะดียิ่งขึ้น ผู้ที่ยังมีโอกาสทำดีอยู่ ก็ควรสงเคราะห์ผู้อื่น ทั้งผู้ที่ยังอยู่บนโลกใบนี้ และผู้ล่วงลับไปแล้วทั้งหลาย

    อย่างไรก็ดี เรื่องเหล่านี้ก็คงยังเป็นปริศนาต่อไป แต่ก็ไม่เป็นเหตุให้ละเลยการทำกุศลของข้าพเจ้าและทุก ๆ ท่าน
     
  6. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ความเห็นคำตอบผมนะ
    ข้อ1..2และข้อ3..หากศึกษาพระไตรปิฎกจะเข้าใจดีมากมีคำตอบหมดเลย...และขอเพิ่มเติมคำตอบข้อ2..ครูบาอาจารย์ท่านเล่าให้ฟังว่า..หลังจากมนุษย์ที่ตายเร็วตายช้า อยู่ที่กรรมดีกรรมชั่ว..บางคนกรรมชั่วมาส่งผลเร็วเลยตายเร็ว..อายุมนุษย์นั้นบางคนมีอายุบุญถึง100ปี แต่ตายก่อนคือตายตอน30ปี ก็จะยังไม่ไปไหนยังคงวนเวียนเป็นสัมพะเวสีอยู่อีก70ปีบนโลกมนุษย์(ซึ่งหากเคยสร้างบุญกุศลไว้ก็จะมีเสบียงไว้อยู่ แต่หากทำแต่กรรมชั่วก็จะไม่มีเสบียงกลายเป็นสัมพะเวสีอดอยากปากแห้ง)เมื่อครบอายุแล้วก็ลงไปนรกตัดสินคดีกรรม..ส่วนการกรวดน้ำหากกรวดแบบมีพยานเช่นมีการเทน้ำลงแก้วหรือภาชนะที่เตรียมไว้เวลาพระท่านอนุโมธนา..หลังจากที่เราเอาไปเทรดน้ำถึงพื้นดิน...แม่พระธรณีท่านจะเก็บบุญกุศลนี้ไว้ให้คนที่เราทำบุญให้เมื่อถึงวันพระท่านยมหรือเจ้าหน้าที่ทางนรกจะนำสัตว์นรกขึ้นมารับบุญจากแม่พระธรณีซึ่งใครมีญาติที่เคยกรวดน้ำลงพื้นดินก็จะได้รับจากแม่พระธรณีไปแต่ใครไม่มีญาติทำบุญไว้ให้ก็น่าสงสาร
     
  7. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    เรื่องราวที่ถามทั้งหมดมีอยู่ในพระไตรปิฏกนะครับเคยอ่านเจอและจากครูบาอาจารย์ท่านต่างๆ....แต่จำไม่ได้แน่ชัดว่าอยู่หมวดใหน...ถ้าท่านผู้รู้ที่มีความแน่ชัด...ช่วยตอบกระทู้นี้ด้วยนะครับ...เห็นว่าเป็นกระทู้ที่ดี...
    สำหรับผมมีความเห็นเดียวกับคุณ Wit ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤศจิกายน 2008
  8. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,193
    ค่าพลัง:
    +7,815
    1. คนที่ตายไปแล้ว จะจำอดีตได้ทั้งหมดหรือไม่ ไม่ว่าจะไปโอปะปาติกะในภพภูมิใด ๆ นอกเหนือจากโลกมนุษย์ จะสามารถจำญาติ พี่น้อง เรื่องราวต่าง ๆ ในชาติที่ผ่านมา หรือหลายชาติก่อนหน้าในอดีตได้หรือไม่

    ตอบ
    หากไปเกิดที่ภพภูมิสูงกว่าเราก็สามารถระลึกได้ ทั้งยังสามารถมาหาเราได้อีกเป็นครั้งคราวจ๊ะ

    2. ถ้าหากเราทำบุญอุทิศกุศลให้ผู้ตาย นั่นคือผู้ตายจะยังสามารถรับรู้ถึงกระแสจิดที่มนุษย์ส่งไปให้ และสามารถรับรู้ และมองเห็นความเป็นไปบนโลกมนุษย์ได้หรือไม่

    ตอบ
    รับรู้ได้ตลอดจ๊ะ(หมายถึงภพที่อยู่สูงกว่าเรา) ทั้งยังสามารถมาบอกด้วยว่า อุทิศส่วนกุศลอย่างไร เขาสามารถรับได้มากที่สุด และยังปฎิเสธความเชื่อบางอย่างที่เชื่อต่อกันมาด้วย
    แม้แต่สัมภเวสีที่ได้รับส่วนกุศลที่อุทิศ แผ่ ไปให้ ยังรับได้และมาขอบคุณเมื่อถึงเวลาที่จะไปเกิดใหม่ในภพภูมิอื่นเลยจ๊ะ

    3. หากผู้ที่ไปโอปะปาติกะบนสวรรค์ ได้พบญาติ หรือ เพื่อน ที่อยู่บนสวรรค์นั้น ๆ อยู่แล้ว ต่างจะสามารถจดจำกันได้หรือไม่ ว่าเคยมีอดีตชาติร่วมกัน ทั้ง ๆ ที่รูปกาย แตกต่างกันไปจากตอนที่เป็นมนุษย์ (ข้อนี้เกี่ยวเนื่องมาจากข้อ 1. และ 2.)

    ตอบ
    ข้อนี้ไม่แน่ใจก็ยังอยู่บนโลกมนุษย์เลยอ่ะจ๊ะ แต่ผู้ที่ผูกผันกันมาตั้งแต่ชาติก่อนๆโน้นเขายังจำเราได้เลยจ๊ะ


    ทั้งนี้เราไม่ได้เป็นผู้มีอภิญญาหรอกจ๊ะ แต่ทั้งหมดที่รู้นี้เกิดจากประสบการณ์ส่วนตัวผ่านการทำความเพียรจ๊ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...