เมื่องลับแล

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย สายชน, 19 มกราคม 2006.

  1. สายชน

    สายชน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +1,232
    อยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับชาวลับแลเคยไปแต่ในความฝันแผ่นดินสูงกว่าโลกมนุษย์เงียบสงบ[b-wai]
     
  2. panuwat

    panuwat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +104
    เมืองลับแล อยู่ จ.อุตรดิถ นั่งรถ ที่หมอชิตครับ
     
  3. panuwat

    panuwat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +104
    เมือง อ.ลับแล อยู่ จ.อุตรดิถ นั่งรถ ที่หมอชิตครับ
     
  4. bassate

    bassate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +601
    :cool: ฮ่า.ๆๆๆๆๆๆๆ
     
  5. Samy

    Samy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,295
    ค่าพลัง:
    +2,719
    รู้จักแต่เมืองในฝัน

    แต่ไม่แน่ใจว่ามีอยู่จริงหรือไม่:cool:
     
  6. Samy

    Samy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,295
    ค่าพลัง:
    +2,719
    ถูก

    นั่งรถ ที่หมอชิต ดู้ 555555:cool:
     
  7. PyDE

    PyDE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2005
    โพสต์:
    812
    ค่าพลัง:
    +1,318
  8. hexidecimal

    hexidecimal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,026
    ค่าพลัง:
    +1,637
    ไปแล้วฝากซื้อหมูยอด้วยนะ
     
  9. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,172
    ตำนานเมืองลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์

    เมืองลับแลเป็นอำเภอเล็กๆ แห่งหนึ่งในจังหวัดอุตรดิตถ์ แต่เดิมคงเป็นเมืองที่การเดินทางไปมาไม่สะดวก เส้นทางคดเคี้ยว ทำให้คนที่ไม่ชำนาญทางพลัดหลงได้ง่าย จนได้ชื่อว่าเมืองลับแล ซึ่งแปลว่า มองไม่เห็น มีเรื่องเล่ากันว่าคนมีบุญเท่านั้นจึงจะได้เข้าไปถึงเมืองลับแล
    <<<<มีตำนานเล่าว่า ครั้งหนึ่งมีชายคนหนึ่งเข้าไปในป่า ได้เห็นหญิงสาวสวยหลายคนเดินออกมา ครั้นมาถึงชายป่า นางเหล่านั้นก็เอาใบไม้ที่ถือมาไปซ่อนไว้ในที่ต่างๆ แล้วก็เข้าไปในเมือง ด้วยความสงสัยชายหนุ่มจึงแอบหยิบใบไม้มาเก็บไว้ใบหนึ่ง ตกบ่ายหญิงสาวเหล่านั้นกลับมา ต่างก็หาใบไม้ที่ตนซ่อนไว้ ครั้นได้แล้วก็ถือใบไม้นั้นเดินหายลับไป มีหญิงสาวคนหนึ่งหาใบไม้ไม่พบ เพราะชายหนุ่มแอบหยิบมา นางวิตกเดือดร้อนมาก ชายหนุ่มจึงปรากฏตัวให้เห็นและคืนใบไม้ให้ โดยมีข้อแลกเปลี่ยนคือขอติดตามนางไปด้วยเพราะปรารถนาจะได้เห็นเมืองลับแล หญิงสาวก็ยินยอม นางจึงพาชายหนุ่มเข้าไปยังเมืองซึ่งชายหนุ่มสังเกตเห็นว่าทั้งเมืองมีแต่ผู้หญิง นางอธิบายว่าคนในหมู่บ้านล้วนมีศีลธรรม ถือวาจาสัตย์ ใครประพฤติผิดก็ต้องออกจากหมู่บ้านไป ผู้ชายส่วนมากมักไม่รักษาวาจาสัตย์จึงต้องออกจากหมู่บ้านกันไปหมด แล้วนางก้พาชายหนุ่มไปพบมารดาของนาง ชายหนุ่มเกิดความรักใคร่ในตัวนางจึงขออาศัยอยู่ด้วย มารดาของหญิงสาวก็ยินยอม แต่ให้ชายหนุ่มสัญญาว่าจะต้องอยู่ในศีลธรรม ไม่พูดเท็จ ชายหนุ่มได้แต่งงานกับหญิงสาวชาวลับแลจนมีบุตรชายด้วยกัน 1 คน วันหนึ่งขณะที่ภรรยาไม่อยู่บ้าน ชายหนุ่มผู้พ่อเลี้ยงบุตรอยู่ บุตรน้อยเกิดร้องไห้หาแม่ไม่ยอมหยุด ผุ้เป็นพ่อจึงปลอบว่า "แม่มาแล้วๆ" มารดาของภรรยาได้ยินเข้าก็โกรธมากที่บุตรเขยพุดเท็จ เมื่อบุตรสาวกลับมาก็บอกให้รู้เรื่อง ฝ่ายภรรยาของชายหนุ่มเสียใจมากที่สามีไม่รักษาวาจาสัตย์ นางบอกให้เขาออกจากหมู่บ้านไปเสีย แล้วนางก็จัดหาย่ามใส่เสบียงอาหารและของใช้ที่จำเป็นให้สามี พร้อมทั้งขุดหัวขมิ้นใส่ลงไปด้วยเป็นจำนวนมาก จากนั้นก็พาสามีไปยังชายป่า ชี้ทางให้ แล้วนางก้กลับไปเมืองลับแล ชายหนุ่มไม่รู้จะทำอย่างไรก็จำต้องเดินทางกลับบ้านตามที่ภรรยาชี้ทางให้ ระหว่างทางที่เดินไปนั้น เขามีความรู้สึกว่าถุงย่ามที่ถือมาหนักขึ้นเรื่อยๆ และหนทางก้ไกลมาก จึงหยิบเอาขมิ้นที่ภรรยาใส่มาให้ทิ้งเสียจนเกือบหมด ครั้นเดินทางกลับไปถึงหมู่บ้านเดิม บรรดาญาติมิตรต่างก็ซักถามว่าหายไปอยู่ที่ไหนมาเป็นเวลานาน ชายหนุ่มจึงเล่าให้ฟังโดยละเอียดรวมทั้งเรื่องขมิ้นที่ภรรยาใส่ย่ามมาให้แต่เขาทิ้งไปเกือบหมด เหลืออยู่เพียงแง่งเดียว พร้อมทั้งหยิบขมิ้นที่เหลืออยู่ออกมา ปรากฏว่าขมิ้นนั้นกลับกลายเป็นทองคำทั้งแท่ง ชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจและเสียดาย จึงพยายามย้อนไปเพื่อหาขมิ้นที่ทิ้งไว้ ปรากฏว่าขมิ้นเหล่านั้นได้งอกเป็นต้นไปหมดแล้ว และเมื่อขุดดุก็พบแต่แง่งขมิ้นธรรมดาที่มีสีเหลืองทอง แต่ไม่ใช่ทองเหมือนแง่งที่เขาได้ไป เขาพยายามหาทางกลับไปเมืองลับแล แต่ก้หลงทางวกวนไปไม่ถูก จนในที่สุดก้ต้องละความพยายามกลับไปอยู่หมู่บ้านของตนตามเดิม

     
  10. ไห่เฉากุหลาบไฟ

    ไห่เฉากุหลาบไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    896
    ค่าพลัง:
    +2,177
    เมืองลับแลอยู่ที่จังหวัดอุตรดิสถ์จริง ๆ555
    แต่ถ้าหากพูดถึงเมืองลับแลแล้วก้หมายถึงมิติหนึ่งที่มนุษย์สามัญที่ไม่มีฤทธิ์อภิญญาเห็นได้ เว้นเสียแต่ว่าทางเมืองเขาจะเปิดให้ดู
    เมืองลับแลหรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าแดนบังบด เป็นเดนที่เป็นมิติซ้อนมิติ อย่างที่พวกเรานั่งอยู่นี่ก้ใช่ แต่เพียงหาทางเข้าไม่เจอนั้นเอง เป็นเดนที่กำกับด้วยศีลธรรม ส่วนมากผู้คนในที่นั้นจะมีสภาพคล้ายเหล่าเทวดา แต่กายด้วยชุดโบราณเป็นจำนวนมาก แต่ก็มีบางส่วนที่แต่งกายผิดออกไปอีก ส่วนมากจะพบเห้นอยู่ในป่าหรือตามชนบทที่เงียบสงบ พระธุดงที่ปักกลดอยู่ในป่าส่วนมากจะมีชาวลับแลมาตักบาตรหรือไม่ก็อาจเป็นเทวดา
    ฉะนั้นสรุปแล้วก็คือดินแดนนี่เป็นดินแดนที่มิติซ้อนมิติที่ไม่สามารถเห็นได้วยตาปล่าวนั้นเอง
     
  11. vichian

    vichian เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    8,164
    ค่าพลัง:
    +41,920
    เมืองลับแล ก็อยู่ที่เมืองลับแล เป็นเมืองที่แลลับ เพราะถ้าไม่แลลับ ก็ไม่ใช่เมืองลับแล และก็ไม่ใช่ ลับลับแลแล

    คุณจะไปแลเมืองลับแลทำไม? ไปแลดูพ่อแม่ดีกว่า พยายามทำให้ท่านมีความสุขมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรืออย่างน้อยที่สุด ก็แลดูครอบครัวของตนเองให้ดีที่สุดตามสถานภาพที่ตนเป็นอยู่ ไม่ดีกว่าหรือ?

    แม้คุณจะรู้จักเมืองลับแล แล้วช่วยอะไรคุณได้
    ช่วยให้เกิดปัญญามากขึ้นไหม? ช่วยให้หายแก่ไหม? ช่วยให้หายป่วยได้ไหม? ช่วยให้ไม่ตายได้ไหม? เสียเวลาเปล่า

    สวัสดีมากครับ
    จากคนที่ยังไม่เต็มบาท
     
  12. Nile

    Nile Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +92
    ที่อยากไปเมืองลับแล ก็ไม่มีอะไรหรอก ก็อยากหาความรู้ อย่างที่มนุษยชาติพยายามออกท่องจักรวาล
     
  13. bridge

    bridge เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,252
    ค่าพลัง:
    +1,814
    [​IMG]

    แบบนี้ แสดงว่ากะลังจะได้ไปเมืองลับแลเหมียนกัน
     
  14. bridge

    bridge เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,252
    ค่าพลัง:
    +1,814
    เมืองลับแลเหรอ

    สำหรับคนไม่สามารถ ถือศีล 8 ได้

    ต้องมีเหล็กไหล แบบที่สนับสนุนในด้านอำนาจจิต หรือ เหล็กไหล ที่มีผีเฝ้า
    พวกเหล็กไหล ที่ตายแล้ว นั่นเอง และเหล็กไหลที่ระดับสูงๆ ขึ้น
    ( เอ่อไม่คิดว่าคุณจะหามาได้ เอาแค่เหล็กไหล ที่ตายแล้วก็ถือว่าบุญ )

    เริ่ม ถือศีล 5 ทำบุญ ความดี เพื่อให้จิตใจลดความเห็นที่ผิด

    นั่งสมาธิ ให้ถึง ขั้น ฉาน แล้วก็เป็น วิปัสนา นะไม่ใช่สมาธิ ธรรมดา

    ตั้งจิต ให้มั่น นึกถึงถิ่นที่สงสัย และต้องการไขคำตอบ ( ไม่ใช่เพราะอยากไป เพราะความอยากเป็นกิเลศ )

    แล้วก้ไปได้

    ไม่เชื่อ ลองทำดู คิดว่าวิธีนี้แหละชัวร์ ๆ
     
  15. GenerationXXX

    GenerationXXX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +2,161
    ยายแฟนผมเคยไปมา ต้องถือศีลบริสุทธิ์ยิ่งๆ จริงๆ ทั้งกาย วาจา ใจ และมีเมตตาเยอะๆ ถ้าทำได้แล้วอธิษฐานจะมีคนมาพาไปเลย เรื่องจริง ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว จริงๆ เมืองลับแลถ้าจะไปนี่ไม่จำเป็นต้องไปตามสถานที่ใด เพียงแค่ทำตัวทำใจให้สามารถเข้าถึงที่นั่นได้ก็ไปได้แล้ว เหมือนกับคนที่ตายแล้วไปสวรรค์ไม่ต้องนั่งรถนั่งเครื่องอะไรไปมันไปถึงของมันเอง
     
  16. ศักดิ์

    ศักดิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,187
    ค่าพลัง:
    +2,022
    นโมพระโพธิสัตว์กวนอิม.....รู้ไม่รู้แล้วจะพ้นทุกข์?....
     
  17. ดอนdon

    ดอนdon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,580
    ค่าพลัง:
    +3,291
    เมืองลับแลในสมัยก่อนที่ภูพานมีจริง แต่ปัจจุบันนี้มีคนเข้าไปอยู่ร่วมอาศัยมากแล้ว เป็นหมู่บ้านในหุบเขา เขตกาฬสินธิ์
     

แชร์หน้านี้

Loading...