รุมค้านเจ้าอาวาส วัดกัลยาณมิตร ทุบโบราณสถานทิ้ง..

รุมค้านเจ้าอาวาส วัดกัลยาณมิตร ทุบโบราณสถานทิ้ง

​

ที่วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานจากวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหารว่า ตระกูลกัลยาณมิตร นำโดย นายฉลอง ดร.เชียรช่วง กรรมการเศรษฐศาสตร์ สภาวิจัยแห่งชาติ และพล.ต.ต.เกริก กัลยาณมิตร ส.ว. สรรหา ได้เดินทางมาประกอบพิธีทำบุญประจำปีซึ่งจะจัดขึ้นในทุกปี ณ อาคารเจ้าพระยานิกรบดินทร วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วัดดังกล่าวได้มีปัญหาเรื่องพระธรรมเจดีย์ เจ้าอาวาสวัดได้มีคำสั่งการให้ทุบและทำลายโบราณสถานและวัตถุที่ต้นตระกูลของกัลยาณมิตรและต้นตระกูลประวิตร ณ อยุธยา ได้สร้างไว้ เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3

โดยพล.ต.ต.เกริก กล่าวว่า ปัญหาในเรื่องของการทำลายวัตถุโบราณภายในวัดกัลยาณมิตรนั้น ขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการศาสนาเข้ามาดูแลและตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว และสิ่งที่ต้องการคือไม่อยากให้ทำลายวัตถุโบราณ เพราะวัดดังกล่าวเป็นวัดหลวง และขึ้นบัญชีวัตถุโบราณไว้ภายในวัดตามราชกิจจานุเบกษา เมื่อปี พ.ศ. 2492 ได้ขึ้นทะเบียนเป็นวัตถุโบราณ และตามพ.ร.บ.วัตถุโบราณ มีคำสั่งห้ามทุบหรือทำลายวัตถุโบราณ ก่อสร้างหรือต่อเติม หากจะทำอะไรก็ตามต้องได้รับการอนุญาตจากกรมศิลปากร

ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องดังกล่าวมีการดำเนินการไปถึงขั้นตอนไหน พล.ต.ต. เกริก กล่าวว่า ขั้นตอนดังกล่าวอยู่ที่คณะกรรมการศาสนา แต่ตนไม่ได้รับผิดชอบโดยตรง และการประชุมเมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา จึงอยากให้มีการยับยั้งในเรื่องดังกล่าวไว้ก่อน เพราะตึกที่สร้างเมื่อปี พ.ศ.2460 ชาวบ้านได้มีการร้องเรียนมา จึงได้สั่งให้คณะกรรมาธิการร้องต่อศาลปกครอง เพื่อให้บรรเทาไปก่อนในเรื่องดังกล่าว เพราะเกรงว่าจะมีการทำลายเพิ่มขึ้นอีก

"เราไม่อยากให้ท่านทำลาย เพราะว่ามันเป็นประติมากรรมตั้งแต่โบร่ำโบราณ และอยากให้เยาวชนรุ่นหลังได้เห็น สำหรับชาวต่างประเทศ มันคือสิ่งที่เขาต้องการจะเข้ามาศึกษา รู้ถึงขนบธรรมเนียมประเพณีของชนชาติไทยเราว่า คนไทยเราคือมาจากคนจีนที่มีวัฒนธรรมผสมผสานกัน และเป็นแหล่งท่องเที่ยว สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งเจ้าพระยานิกรบดินทร หรือ (เจ้าสัวโต) กัลยาณมิตร เป็นผู้สร้างขึ้น ตามพระราชประสงค์ของรัชกาลที่ 3"

เมื่อถามว่า เจ้าอาวาสวัดได้มีการบอกถึงเหตุผลในการทำลายและสร้างใหม่หรือไม่ พล.ต.ต.เกริกกล่าวว่า ท่านต้องการที่จะบูรณะและสร้างใหม่ขึ้นมา แต่การสร้างใหม่นั้นไม่ได้ว่าอะไร แต่ของเก่าอย่าทำลาย เพราะเป็นของที่ล้ำค่า เมื่อจะย้อนกลับไปก็คงไม่ได้ และในความเห็นส่วนตัวนั้นไม่อยากให้มีการทำลาย เพราะวัดดังกล่าวเป็นของคนไทยทุกคน ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง

ด้าน ดร.เชียรช่วง กัลยาณมิตร กล่าวว่า สกุลกัลยาณมิตรจะมาทำบุญทุกปี เหมือนกับเป็นวันเช็งเม้ง แต่สิ่งที่มาเห็นแล้วก็ต้องแปลกใจคือ ตึก อาคาร ที่อยู่ภายในวัดที่ถูกขึ้นทะเบียนเป็นวัตถุโบราณ กว่า 200 ปี ทั้งหมดได้ถูกทำลาย และถือว่าเป็นหลักประวัติศาสตร์ของคนจีนในประเทศไทย และคนจีนทุกคนที่เดินทางมาประเทศไทยต้องมาขึ้นที่วัดดังกล่าว แต่กลับมาถูกทำลาย

เมื่อถามว่า ความรู้สึกส่วนตัวเป็นอย่างไร ดร.เชียรช่วงกล่าวว่า ตนรู้สึกว่าสิ่งที่เห็นตั้งแต่เกิดได้ถูกทำลาย และกลายเป็นเรื่องของวัตถุเข้ามาเป็นเครื่องชี้วัด ต่อข้อถาม ได้มีการหารือกับคนในตระกูลอย่างไรบ้าง ดร.เชียรช่วง กล่าวว่า ต้องแยกออกเป็นสองส่วน กฎหมายคือกรมศิลปากรควรจะทำ ส่วนเรื่องการไต่สวนฉุกเฉินชาวบ้านต้องเป็นผู้กระทำ และพยานอีกสองตระกูลคือประวิตร ณ อยุธยา และ กัลยาณมิตร ที่จะให้ข้อมูลได้ทราบว่าวัดนี้มีประวัติอย่างไร

ดร.เชียรช่วงกล่าวต่อว่า แต่สิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นคือ ความบาดหมางของเจ้าอาวาสกับชุมชน และสิ่งที่เกิดขึ้นมาสามารถยุติได้ ก็เหมือนกับสีเหลืองและสีแดง และจะเป็นแบบนี้ทุกวัด พระก็บิณฑบาตไม่ได้เพราะไม่มีใครอยากใส่ ที่สำคัญมากกว่านั้นคือสิ่งก่อสร้าง ไม่ใช่การจรรโลงประวัติศาสตร์ แต่เป็นเพียงการทุบของเก่าทิ้งและสร้างใหม่ ถึงจะคล้ายคลึงกัน แต่ก็ไม่ใช่ เพราะแก้ประวัติศาสตร์ไม่ได้ เพราะประวัติศาสตร์มันจบลงตั้งแต่ตอนทุบไปแล้ว

ขณะที่นายวรชัย พิลารมย์ ประธานชุมชนวัดกัลยาณ์ กล่าวว่า ทางกลุ่มได้มีการร้องเรียนไปทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 จนถึงปัจจุบันต่อกรมศิลปากร แต่กลับพบว่าไม่มีความคืบหน้า รวมทั้งมีการทำลายโบราณสถานและวัตถุมากกว่าเดิม ดังนั้นจึงได้มีการร้องเรียนไปที่กรรมาธิการศาสนาและวัฒนธรรมของสมาชิก วุฒิสภา แต่หลังจากที่ได้ร้องเรียนไปในระยะหลัง ประมาณ 6-7 เดือน ที่ผ่านมา เรื่องดังกล่าวก็ยังคงเหมือนเดิม ทั้งนี้กรมศิลปากรได้รับเรื่องดังกล่าวไปเป็นที่เรียบร้อยแต่ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด และก่อนหน้านี้ทางกรมศิลปากรได้แจ้งความกับ สน.บุปผาราม เพียงข้อหาเดียวเท่านั้นกับเจ้าอาวาสในการทำลายโบราณสถาน ทั้งที่ความจริงมีมากกว่าทางกรมศิลปากรแจ้งความไป

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ประกอบพีธีทำบุญตระกูลกัลยาณมิตรอยู่นั้น ดร.เชียรช่วงและนายวรชัย ประธานชุมชนวัดกัลยาณ์ ได้เดินทางมาที่บริเวณด้านหน้าอาคารเจ้าพระยานิกรบดินทร เพื่อที่จะอธิบายเรื่องดังกล่าว พร้อมทั้งได้มีการนำภาพเมื่อสมัยอดีตและภาพที่ถูกทำลายในปัจจุบันติดป้ายผ้า นำมาอธิบาย เอกสารประวัติวัดกัลยาณมิตร และวีซีดี ที่บันทึกไว้สมัยครบรอบ 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช เพื่อมอบให้ตระกูลกัลยาณมิตรเปรียบสมัยก่อนกับปัจจุบันว่ามีความแตกต่างอย่างไร


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก


<!-- ปิดหัวขอบโค้ง -->




<!-- End ปิดหัวขอบโค้ง --><!-- End เริ่ม กล่องซ้าย --><!-- เริ่ม กล่องขวา --><!-- กล่องเปลี่ยนสี --><!-- เปิดหัวขอบโค้ง --><!-- End เปิดหัวขอบโค้ง --><SCRIPT language=javascript1.1 src="http://hits.truehits.in.th/data/a0000034.js"> </SCRIPT><SCRIPT src="http://lvs.truehits.in.th/func/th_donate_1.8.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://lvs.truehits.in.th/func/th_common_1.4.js"></SCRIPT>
<!-- Ads --><!-- Ads -->
<SCRIPT src="http://203.151.232.229/banner/adshow.php?zid=99" type=text/javascript></SCRIPT><!-- Ads --><!-- End เริ่ม กล่องขวา -->
<!-- related and clip --><!-- end related and clip -->

 

ไม่น่าไปทุบทําลายเลย

 

จะทุบทำไมเนี๊ย???
คุยกันก่อนดีกว่าเนอะ
ว่ามีเหตุจำเป็นอะไรหรือเปล่า
เดี๋ยวนี้ของเก่าๆสถานที่เก่าๆหาดูยากนะครับ