สะสมช้อนงานศพ ความเชื่อโบราณ

สะสมช้อนงานศพ ความเชื่อโบราณ

คอลัมน์ เป็นไปได้



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>ถือเป็นความเชื่อที่ค่อนข้างแปลกชาวจังหวัดตรัง บางคนในปัจจุบัน เกี่ยวกับการไปร่วมงานศพของผู้ตายที่มีอายุ 100 ปีขึ้นไป ด้วยการหยิบฉวยของใช้ภายในงานเลี้ยงนำกลับไปด้วย

อันเป็นความเชื่อที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนานแล้วตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ

แรกเริ่มลูกหลานของผู้ตายที่มีอายุยืน มักจะขอข้าวของเครื่องใช้ เช่น เสื้อผ้า ที่ตำหมาก หรือของใช้ในชีวิตประจำวันอื่นๆ เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกถึงผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว และบางคนเชื่อว่าเป็นเครื่องรางของขลัง ที่ทำให้อายุยืนยาว หรือค้าขายเจริญรุ่งเรือง

แม้กระทั่งคนที่ไม่ใช่ญาติ แต่ได้ไปร่วมงานศพ ก็มักจะหยิบฉวยของใช้ในงานเลี้ยงติดมือกลับไปด้วย โดยสิ่งของที่นิยมกันมากที่สุดก็คือ "ช้อนกินข้าว"

พระครูธรรมธรสำราญ รักษาการเจ้าอาวาสวัดจอมไตร (วัดเจาะ) ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง บอกว่า แม้กระทั่งที่วัดจอมไตร ก็เพิ่งจะมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ในงานศพของนายอ่ำ ไกรแสง อายุ 102 ปี งานนี้ช้อนกินข้าวในงานเลี้ยงหายไปมากถึง 1,012 คัน

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทางญาติๆ ต่างรับทราบถึงความเชื่อในเรื่องดังกล่าวนี้ดี และมีการเตรียมการไว้แล้วว่า หากมีช้อนกินข้าวหาย ก็จะซื้อคืนให้กับทางวัด หรือบางงานศพถึงกับเตรียมช้อนกินข้าวไว้แจกเป็นของชำร่วยกันเลยก็มี

ส่วนเหตุผลที่แขกที่มาในงานศพของคนตายที่มีอายุ 100 ปีขึ้นไป แล้วถือโอกาสหยิบช้อนกินข้าวกลับไปด้วย รักษาการเจ้าอาวาสวัดจอมไตร อธิบายว่า เพราะช้อนกินข้าวเป็นสัญลักษณ์ของความคงทนถาวร และใช้กับอาหารคาวหวานได้ทุกชนิด อีกทั้งยังคงสภาพของความเป็นช้อนกินข้าวได้ โดยไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลง

ฉะนั้น ใครมีติดตัวไว้จะทำมาหากินคล่อง หรือเดินทางปลอดภัย เช่นเดียวกับคนที่มีอายุ 100 ปีขึ้นไป ที่ถือกันว่าเป็นผู้ที่มีอายุยืนยาว หรือผ่านปัญหาอุปสรรค และผ่านร้อนผ่านหนาวมายาวนาน

สิ่งของเครื่องใช้ที่ได้ไปจึงถือเป็นมงคลกับชีวิต และถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่กระทำสืบต่อกันมานานแล้ว


http://www.matichon.co.th/khaosod/v...ionid=TURNeE13PT0=&day=TWpBd09TMHdNUzB5TlE9PQ==

 

ถ้าเป็นช้อนของวัดแล้วหยิบเอาไปไม่เท่ากับว่าลักของสงฆ์หรอกหรือ!?

 

ไม่หรอก ก็เพราะว่าเป็นความเชื่อนะครับ ใครๆก็เห็น ไม่ได้ไปทำลับๆล่อๆสักกะหน่อย แล้วอีกอย่างคนตายอายุเกิน 100 ปีมีน้อยมากนะครับ

 

ทางเจ้าภาพเขาก็คงต้องจ่ายค่าช้อนให้กับทางวัดไม่ใช่เหรอคะ แบบนี้งานศพที่เจ้าภาพเขาทุกข์อยู่แล้ว ก็ต้องทุกข์เพิ่มถ้าเจ้าภาพรายไหนยากจนอยู่แล้วก็ต้องทุกข์เพราะหาเงินมาจ่ายค่าช้อนไม่ใช่เหรอคะ เราคิดว่าไปงานศพไม่ควรทำให้เจ้าภาพเขาทุกข์เพิ่มขึ้นจะดีกว่าค่ะ อย่างเรื่องดื่มเหล้าในงานศพบางงานยังเรียกเหล้าเพิ่มจากเจ้าภาพ เจ้าภาพเขาก็ทำอะไรได้ไม่มากถ้าไม่อ้อนวอนขอให้กลับก็ต้องซื้อเพิ่ม เป็นการเพิ่มทุกข์แก่เจ้าภาพเข้าไปอีก อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะคะ อย่าคิดมาก อนุโมทนาค่ะ

 

เป็นที่รู้กันครับ ทั้งเจ้าภาพและผู้มาร่วมงาน ถือว่าเป็นของมงคลที่ระลึกแก่ผู้มาร่วมงาน เพราะคนอายุยืนร้อยกว่าปีนี้ถือว่ามีบุญ เป็นธรรมเนียมความเชื่ออย่างหนึ่งในแถบภาคใต้ครับ

 

+1 สาธุครับ

 

ที่บอกว่าใครๆก็เห็นนี่มันก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เป็นการลักนะครับ เพราะคนที่เห็นเขาไม่ได้เป็นเจ้าของแล้วเขาก็ไม่ได้อนุญาตแล้วก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะอนุญาตด้วยนะครับ มิหนำซ้ำถ้าโมทนาด้วยก็มีหวังละครับจองตั๋วไปกันเป็นทีมเลย ดีครับ เพลิดเพลินดีเพราะมันเป็นของวัดแม้แต่เจ้าอาวาสก็ไม่มีสิทธิ์อนุญาตด้วยต้องให้พระสงฆ์ทั้งวัดลงมติอนุญาตถึงจะไม่เป็นโทษแล้วนี่อย่าว่าแต่ของวัดเลยครับ ถึงเป็นของชาวบ้านทั่วไปก็ถือว่าเป็นการลักขโมยอยู่ดี ผมว่าแบบนี้ไม่ไหวนะครับ และที่บอกว่าคนตายที่มีอายุเกิน 100 ปีมีน้อยนี่ก็จริงครับ แต่ลักของสงฆ์นี่แปะเดียวก็เพียงพอที่จะได้ไปทัวร์เผ็ดร้อนกันอย่างยาวนานแล้วละครับ และอีกอย่างการที่อยากอยู่บนโลกห่วยๆใบนี้นานๆ เป็น 100 ปีนี่ผมว่าเป็นจุดหมายที่ไร้สติมากเลยนะครับ เอาเป็นว่าอยู่ให้สมควรแก่กาลเวลาก็น่าจะพอนะครับ คนที่รู้ทุกข์คงไม่มีใครอยากอยู่ถึง 100 ปีหรอกครับ ถ้าจะได้มีโอกาสไปถามพระอรหันต์ท่านท่านก็คงไม่อยากจะอยู่นานๆหรอกครับ กับการต้องอยู่กับไอร่างกายทรยศแบบนี้หน่ะ

 

ความรู้ใหม่

 

ถือเป็นการผิดศิลข้อที่ 2

และถ้าเป็นของวัดอีก ก็เป็นการนำของสงฆ์มาใช้

เบิ้ลสองกันไป เป็นหนี้ของสงฆ์

ความเชื่อต่างๆ ควรคิดด้วยว่าเหมาะสม หรือ สมควรหรือไม่

ไปทำให้ใครเค้าเดือดร้อนรึเปล่า ด้วย


อนุโมทนา

การให้ธรรมทาน เป็นกุศลอย่างยิ่ง

 

อืมถ้าคิดว่าเป็นความเชื่อของกลุ่มบุคคลเราว่าน่าจะให้ญาติเขานำสิ่งของ ของคนตายอาจจะจานชามหรือของใช้ส่วนตัวมาว่างในงานศพเลยก็ดีนะคะใครใคร่หยิบอะไรก็หยิบไปได้แต่ไม่ควรหยิบของทางวัด ถ้าของหมดไม่พอกับคนที่มางานก็อธิบายให้แก่ผู้ร่วมงานใช้เหตุผลอธิบายไป เพราะคนตายหนึ่งศพของย่อมไม่พอกับคนมางานศพร้อยกว่าคนแน่นอนเรื่องนี้ย่อมเป็นที่เข้าใจได้ไม่ยาก อนุโมทนาสาธุค่ะ