จะรู้ได้อย่างไรว่าหมดกรรมเก่า/ใช้กรรมกับคน(รัก)คนนี้หมดแล้ว

กรรมชนิดที่เป็นเวร เจอกันแล้วมีแต่เรื่องไม่ดี มีทางหมดได้ครับ

๑) ด้วยการอโหสิร่วมกัน ต่างฝ่ายต่างเอ่ยให้อีกฝ่ายรับรู้ด้วยใจ
ยิ่งหนักแน่น สะอาดบริสุทธิ์เท่าไหร่ก็ยิ่งขาดจากเวรได้เด็ดขาดเท่านั้น

และจิตคิดอโหสิอย่างบริสุทธิ์ได้มักไม่ใช่จู่ๆเดินเข้ามาออกปากอภัยกันดื้อๆ

ส่วนใหญ่ต้องร่วมสถานการณ์เลวร้ายกันมาระยะหนึ่ง
แล้วมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสำนึกได้ จึงชักชวนกันทำดีแก่กัน เช่นพูดจาญาติดีกัน

มีใจเห็นภัยของพยาบาทร่วมกัน แล้วจึงปลงใจคิดอโหสิแก่กัน
ต่อมาไม่มีเวรทางกาย วาจา ใจร่วมกันอีกตลอดชีวิต
(ซึ่งถ้าทำได้หมายความว่ากำลังของเวรจากอดีตชาติแพ้กำลังอโหสิในปัจจุบันชาติ)
อย่างนี้ถ้าเจอกันใหม่ ก็คงเจอด้วยความรู้สึกด้านดี

๒) ด้วยการอาศัยสัจจวาจาในการทำบุญร่วมกัน
คือเมื่อทำบุญใหญ่ร่วมกันแล้วอ้างบุญใหญ่ที่ทำร่วมกันนั้น
ว่าทำด้วยใจมีไมตรีต่อกัน ขอให้อานิสงส์จงช่วยล้างเวรภัยระหว่างกัน
หากกำลังบุญนั้นถึงพร้อม (เช่นถวายสังฆทานกับพระอริยสงฆ์)
ก็จะทำให้เกิดความอบอุ่น เบิกบานใจร่วมกัน
ถ้าชนะแรงอาฆาตเก่าๆได้ก็จะรู้สึกกันเดี๋ยวนั้นว่าหมดภัยหมดเวรต่อกันแล้ว

ถ้าเราเป็นฝ่ายยกโทษให้หมดอย่างไม่มีเงื่อนไข
หากเขายังมีจิตพยาบาท คิดอาฆาตต่อ
ก็จะเหมือนกับเขาจองเวรกับความว่างเปล่า
เพราะขั้วที่จะทำให้วงจรจองเวรขาดไป

ยกตัวอย่างจากชาดก มีชาติหนึ่งที่พระโพธิสัตว์ถูกพระเทวทัตในอดีตจับไปขึงพืด
พาพรรคพวกข่มขืนภรรยาต่อหน้า
แล้วตัดแขนตัดขาท่านทีละชิ้น
ท่านไม่มีใจคิดร้ายตอบเลย
แผ่เมตตาให้พวกคนร้ายกระทั่งขาดใจ
จิตมีกำลังเมตตาถึงฌาน ก็ไปเกิดเป็นพรหม
เรียกว่าใช้คู่เวรเป็นบันไดสวรรค์ของตนได้

แต่ต่อมาพระเทวทัตก็ยังจองเวรไม่เลิก
ตรงนี้เป็นเรื่องที่ไม่มีใครช่วยได้ครับ
แม้เริ่มจองเวรกัน พระเทวทัตก็เป็นฝ่ายเริ่มฝ่ายเดียวเท่านั้นด้วย
ท่านถึงว่าอยู่ในสังสารวัฏแล้วจะหลีกเลี่ยงสิ่งไม่น่าพึงใจนั้น ไม่มีทางเลย

ตามคัมภีร์ พระเทวทัตทำบุญไว้มากเหมือนกันนะครับ
เรารู้แต่เรื่องชั่วร้ายของท่าน เลยมองว่าท่านมีแต่เลว
ถ้าดูตามจริงเป็นกลางๆ ท่านก็เคยสละโลก เป็นฤาษีชีไพรมาก่อน
(อย่างเช่นชาติที่เป็นที่มาของฤาษีกินเหี้ย)
หรืออย่างชาติที่พระโพธิสัตว์เสวยชาติเป็นพญางู ดั้งเดิมท่านก็คิดดีด้วย
แต่อำนาจพยาบาทข้ามชาติดลใจให้คิดร้ายในภายหลัง



http://larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/010100.htm?3#3
​

 

กำลังอยากรู้เรื่องนี้พอดี ขอบคุณมากนะครับ อนุโมทนา;aa13

 

โมทนาครับ
​

 

อนุโมทนาค่ะ...แผ่เมตตาให้ทุกครั้ง

 

อนุโมทนา สาธุ ขอบคุณจขกท.ที่นำสิ่งดีๆ มาแบ่งปันกันอยู่เสมอ

 

จะรู้ได้อย่างไรว่าหมดกรรมเก่า/ใช้กรรมกับ......หมดแล้ว

กรรมเวรที่ทำนั้นเป็นกรรมเวรในชาตินี้ หรือไม่ ถ้าเป็น
เรื่องที่ท่านทำผิดในชาตินี้ ต้องดูว่าทำไว้กับกี่คน ปัจจุบัน
กลับใจเป็นคนดี แล้วหรือยัง บางคนนั้นสันดอนขุดง่าย
กว่าสันดาน คนที่ 1ยกโทษให้ ยังมีคนที่ 2 คนที่ 3....
จะต้องให้คนเหล่านั้นยกโทษให้ทั้งหมดหรือไม่ ในเมื่อท่าน
ไม่เลิกก่อเวรก่อกรรม คงมีแต่บุพการีของท่านเท่านั้นที่
ทำใจอโหสิกรรมให้ท่านได้ การทำกรรมชั่วกับคนที่ชั่ว
ทัดเทียมกันนั้น มันยังไม่บาปกรรมเท่ากับการทำร้ายคนดี
ท่านยกโทษให้ตนเอง ละอายแก่ใจไหม โลกนี้คงไม่ต้อง
มีตำรวจ ไม่ต้องมีคุก ไม่ต้องมีศาล ไม่ต้องมีนักโทษ เพราะ
ทุกคนไม่ผิด ทุกคนอโหสิกรรมกัน ทุกอย่างเป็นกรรมเก่า
ทนายคงตกงานแน่ และคนชั่วคงเต็มเมือง ไม่ต้องมีศาสนา
ไม่ต้องมีกรอบ ไม่ต้องมีกฏเกณฑ์ ทำอะไรก็ไม่ต้องคิดก่อน
ล่วงหน้า โลกนี้เป็นของข้า

;ปรบมือ คิดสักนิกก่อนทำ
หากผู้ที่ถูกกระทำเป็นลูกหลานท่าน
เป็นบุคคลที่ทุกคนให้ความเคารพ
ไม่ใช่โสเภณีที่ท่านจ่ายเงินซื้อความสุข
บุคคลใกล้ชิดท่านเห็นว่าท่านไม่ผิด
ท่านยังสามารถแบกหน้ามองสาธารณชน
ได้หรือ หิริโอตัปปะพึงจำไว้
ปัจจุบันหญิงชายสิทธิเท่าเทียมกัน
การให้เกียรติซึ่งกันและกันมีความสำคัญ
ศีลธรรมประเพณีที่ดีงามเสื่อมโทรม
คนเห็นกงจักรเป็นดอกบัวเพิ่มมากขึ้น
เพราะบทลงโทษของสังคมไม่เข้มแข็ง
พอที่จะทำให้คนเกรงกลัวที่จะทำความผิด
qsqu:z15(cry):z1

 

จะรู้ได้อย่างไรว่าหมดกรรมเก่า/ใช้กรรมกับ......หมดแล้ว

ถ้าท่านไม่เลิกก่อกรรมก่อเวรต่อสตรีเพศท่านก็คง
จะต้องให้หนี้กรรมต่อไป เพราะใช้กรรมกับคนนี้
หมด ก็ต้องใช้กรรมกับคนต่อไป
รักเดียวใจเดียวก็ปวดหัวจะแย่แล้ว ในภาวะเศรษฐกิจ
ถดถอยอย่างนี้ คิดสักนิดก่อนจะมีคนต่อๆไป
จะได้ไม่ต้องใช้เวรใช้กรรมต่อไป
;ปรบมือ;k02;aa43;aa51(eek):z2:z15

 

ไม่ใครรู้ได้หรอก ออกจากผู้ที่มีญาณ เท่านั้น

 

ขอบคุณจ๊ะ

 

ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน

 

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนามิ กราบขอบพระคุณที่นำบทความนี้มาให้เตือน สติ ได้ ฉุดคิด ค่ะ

 

อนุโมทนาครับ..
กระจ่างดีแท้,,สาธุ

 

ก็ไม่ทำเพิ่ม มันก็บรรเทาเบาบางลง การให้อภัยสำหรับบางคนก็ไม่ใช่ให้ได้ง่าย ๆ
โดยเฉพาะคนแบบนี้ (ตัวเอง) เพราะฉะนั้น จะทำอะไรก็ทำกันไปเถอะ
ขอแค่อย่ามาพูดแบบนี้ว่า "ขอร้องเลยนะ อย่าผูก" มันง่าย ๆ เกินไปจริง ๆนะ
ท่านผู้เจริญ

 

โมทนาบุญซึ่งกันและกัน และขออโหสิกรรมซึ่งกันและกันด้วยค่ะ... ตรงใจม๊ากมาก กำลังอยากรู้คำตอบ... เปิดมาก้อได้เจอคำตอบเลย... สบายใจโล่งใจขึ้นเยอะเลย... ขอบคุณอีกครั้งค่ะ