สอบถามผู้รู้ครับ

ผมอยากทราบถึงสาเหตุที่พี่น้องทะเลาะกัน ไม่สามัคคีกัน เป็นเพราะกรรมอันใดครับ โดยผมเป็นฝ่ายถูกรุมจากพี่ๆ ทั้งสี่คน ทั้งๆ ที่ผมไม่เคยคิดร้ายกับพี่ๆ เลย

 

สาเหตุที่ทุกคนทะเลาะกัน ไม่สามัคคีกัน

เพราะมีทิฐิ จากทิฐิก็กลายเป็นความพอใจและความไม่พอใจ

เมื่อไม่พอใจก็ขัดใจ เมื่อขัดใจก็แตกแยก เมื่อแตกแยกก็แตกต่าง สุดท้ายก็เกิดความไม่สามัคคีกันขึ้นมา

สาเหตุที่แท้จริงของความไม่สามัคคีเกิดจากกรรม(การกระทำ)ทางใจ ทั้งของคุณกับพี่

ที่ยังมีการกระทำทางใจ คือ ไม่นอกเหนือทุกอารมณ์ใจและทุกอณูความรู้สึกอยู่

เมื่อคุณกับพี่ไม่ตรงต่อสัจจะธรรม

ก็ต้องทุกข์ เพราะมานะทิฐิ ของตัวคุณเองและของพี่คุณ

เพราะคุณยังอยู่ภายใต้ ทิฐิ ที่ว่ามีถูกมีผิด มีดี-มีชั่ว มีกรรม

จึงกลายเป็นการหา

ผู้ถูก ผู้ผิด
ผู้ดี ผู้ชั่ว
หาผู้สร้างเหตุกรรม ผู้รับผลกรรม และผู้ชดใช้กรรม

สาเหตุที่แท้จริงของปัญหาของคุณ คือ คุณมีความยึดมั่นว่าเป็นตัวตนของคุณ

มีอุปาทานในรูปว่าตัวตน ว่าพี่ชายรุมว่าคุณ
มีอุปทานในเวทนาว่าเป็นคุณ เมื่อพี่ชายรุมด่า แล้วเกิดสุขเวทนา ทุกขเวทนา
มีอุปทานในความจำว่า คำพูดนี้มีความหมายแทงใจ
มีอุปทานในจิต ว่าเป็นตัวคุณ
มีอุปทานในการรับรู้ ทางกาย วาจา ใจ ว่าเป็นตัวคุณ

การแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดจริง ๆ คือ ตรงต่อสัจจะธรรม ที่ว่า สิ่งทั้งหลายเป็นอนัตตาอยู่แล้ว ไม่ใช่อะไรอยู่แล้ว

เมื่อตรงต่อสัจจะธรรม ก็จะนอกเหนือ ทิฐิ
นอกเหนือสมมุติ ถูก-ผิด ,ดี-ชั่ว
และนอกเหนือกรรม

และไม่ติดอยู่แค่ มีสามัคคี ไม่มีสามัคคี
ตรงต่อสัจจะธรรมแล้วมันนอกเหนือการเจริญ การเสื่อม การมี การไม่มีอะไรอีก

สุดท้ายผมแนะนำให้คุณลองฟังพระธรรมเทศนาโดย

หลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต
วัดร่มโพธิธรรม กิ่งอำเภอหนองหิน จังหวัดเลย

ชุด

ใจเย็นกับพฤติกรรมตนเอง
พุทธวิชา
ถาม ตอบ ตายแล้วไปไหน
ถาม ตอบ บาป บุญ
ช่างมันเสียบ้าง
นิติ ราชภัฎ
ยิ่งกว่าวิชชา พุทธวิชา

ที่มา http://web.nkc.kku.ac.th/manit/watromphothitham.htm

 

ไปทำบุญ ถวายกระเบื้อง มุงหลังคาโบสถ์ ที่ไหนก็ได้ ยกบุญให้พี่น้อง ท่านนะจะ

 

กรรมส่งผลให้ทุกข์ใจ เพราะญาติพี่น้อง

วิธีแก้กรรม
เกิดจากการกระทำดังต่อไปนี้


1.เคยลำเอียง ไร้คุณธรรมในด้านครอบครัวไว้ก่อน
2.เคยเอารัดเอาเปรียบคนในครอบครัวและคนใกล้ชิดไว้ในช าติอดีตและชาติปัจจุบัน
3.เคยทำให้ครอบครัวเขาแตกแยกในอดีตชาติ


1.ต้องบวชชีพราหมณ์ เพราะเมื่อเกิดอีกภพชีวิตจะได้ดีมีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะกุศลของการบวช ปฏิบัติธรรมทำให้เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรม และตนเองได้พบสิ่งที่มีกุศลมากขึ้น
2.ยึดพรหมวิหาร 4 มี เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา จะทำให้ชีวิตมีความเมตตา และไม่ลำเอียงเอารัดเอาเปรียบคนใกล้ชิด ทำให้วิถีชีวิตมีคนนับถือและพ้นจากความทุกข์ในเรื่อง ญาติพี่น้องยุ่งเกี่ยวได้
3.นำพระคู่บ้านคู่เมืองเข้าสักการะที่บ้าน และสวดมนต์ขอพรให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข

กรรมส่งผล ให้เจอแต่คนเอาเปรียบ

วิธีแก้วิบากกรรม

เกิดจากการกระทำดังต่อไปนี้
1.เคยเบียดเบียนเงินพ่อแม่ไว้ในอดีตชาติ
2.เคยโกงคนไว้ในอดีตชาติ
3.ขโมยเงินครอบครัวมาใช้

1.หมั่นยึดถือศีล 5 ให้มั่น
2.ไม่ดื่มเหล้า ทำให้ขาดสติ โดนโกงง่าย
3.หมั่นสวดมนต์ อธิษฐานบารมีด้านขอพรให้พบเจอคนดี ๆ เข้ามาในชีวิต


แต่ท้ายที่สุดแล้วอย่างที่คุณ kong solakrit บอกข้างต้น ว่า"กรรม" ก็คือการกระทำของเรา ไม่ว่าจะในอตีตชาติหรือปัจจุบันชาติ ส่งผลทำให้เราเกิดความไม่สบายใจ ทางแก้ไขที่ดีที่สุด ก็คืออย่าไปแบกกรรมนั้นไว้ ปล่อยวาง ช่างมัน ใจเราจะสบายขึ้น ไม่มีกรรมใดทำร้ายเราได้รุนแรงที่สุดเท่ากับกรรมที่เรานำทุกข์มาแบกไว้ในใจครับ อัตตาเราเกิดมาเพียงชั่วคราวเท่านั้น ถึงวันก็ดับสูญไป รวมถึงญาติพี่น้องเราด้วย วิถีของกรรมคือเราไปยึดติดว่าเขามากระทำต่อเราตัวเราย่อมหาสุขในใจไม่ได้เลย หลักการแก้กรรมเบื้องต้นเป็นเพียงสิ่งที่ทำให้เราเห็นกรรมได้ชัดขึ้น แต่แท้จริงแล้ววิธีการแก้กรรมที่ได้ผลที่สุด คือแก้ในใจคุณครับ แก้ด้วยการเปลี่ยนหลักการคิดหยุดนำจิตไปจดจ่อกับการกระทำของผู้อื่น ชีวิตคนเราอยู่ได้ไม่นานหรอกครับ วันหนึ่งก็ต้องตายจากกันแล้ว ปล่อยวางใจให้สบายกับเรื่องสุขในใจดีกว่าครับ ทำบุญ ทำทาน ปฏิบัติภาวนา ไม่มีทุกข์หรือสุขใดยั่งยืนจีรังถาวร หลักแห่งความเป็นจริงของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแสดงให้เห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันครับ

 

สวัสดีครับ คุณกรานต์

ขอบคุณมากครับสำหรับคำสอน และคำแนะนำ ทำให้ผมสบายใจขึ้นมากเลยครับ และจะนำไปปฏิบัติตามที่คุณกรานต์แนะนำทุกประการครับ

คิดไปคิดมาถึงสาเหตุของกรรมที่ผมประสพ ก็เป็นอย่างที่คุณกรานต์ชี้นั่นแหละครับ ตอนนี้วุ่นเรื่องจะแต่งงาน หลังแต่งงานว่าจะไปปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรีครับ

ขอขอบพระคุณอีกครับหนึ่งครับ
ศิรสิทธิ์ เวศย์วรุตม์

 

<TABLE><TBODY><TR><TD vAlign=top> ... </TD><TD vAlign=top>
คิดอย่างไรไม่ให้ทุกข์

ความคิด เป็นตัวการสำคัญ
ที่ทำให้คนเราเกิดความทุกข์
ยิ่งคิดมากก็ทุกข์มาก
หากรู้จักคิดให้เป็น
ก็จะช่วยให้ลดความทุกข์ไปได้มาก </TD></TR></TBODY></TABLE>


วิธีคิดที่เหมาะสม ได้แก่

<TABLE><TBODY><TR><TD vAlign=top> ... </TD><TD vAlign=top>1. คิดในแง่ยืดหยุ่นให้มาก
อย่าเอาแต่เข้มงวด จับผิด
หรือตัดสินผิดถูกตัวเองและผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา
จงละวาง ผ่อนหนัก ผ่อนเบา ลดทิฐิมานะ
รู้จักให้อภัยไม่ถือโทษโกรธเคือง
หัดลืมเสียบ้าง ชีวิตจะมีความสุขมากขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE>...

<TABLE><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD><TD vAlign=top>2. คิดอย่างมีเหตุผล
อย่าด่วนเชื่ออะไรง่ายๆ
แล้วเก็บเอามาคิดวิตกกังวล
ให้พยายามใช้เหตุผล
ตรวจสอบหาข้อเท็จจริง
ไตร่ตรองให้รอบคอบเสียก่อน
นอกจากจะไม่ต้องตกเป็นเหยื่อ
ให้ใครหลอกได้ง่ายๆ
แล้วยังตัดความกังวลได้ด้วย</TD></TR></TBODY></TABLE>...

<TABLE><TBODY><TR><TD vAlign=top>... </TD><TD vAlign=top>3. คิดหลายๆ แง่มุม
ลองคิดหลายๆ ด้าน ทั้งด้านดี และด้านไม่ดี
เพราะไม่ว่าคนหรือไม่ว่าเหตุการณ์อะไรก็ตาม
ย่อมมีทั้งส่วนดี และไม่ดีประกอบกันทั้งนั้น
อย่ามองเพียงด้านเดียวให้ใจเป็นทุกข์
นอกจากนี้ควรหัดคิดในมุมของคนอื่นบ้าง
เช่น สามีหรือภรรยาจะคิดอย่างไร
ลูกจะรู้สึกอย่างไร
เจ้านายจะแก้ปัญหานี้อย่างไรเป็นต้น
จะช่วยให้มองอะไร
ได้กว้างไกลกว่าเดิม</TD></TR></TBODY></TABLE>
...
<TABLE><TBODY><TR><TD vAlign=top>... </TD><TD vAlign=top>4. คิดแต่เรื่องดีๆ
ถ้าคอยคิดถึงแต่เรื่องร้ายๆ
เรื่องความล้มเหลว ผิดหวัง
หรือเรื่องไม่เป็นสุขทั้งหลาย ก็ยิ่งทุกข์ไปใหญ่
ควรคิดถึงเรื่องดีๆ ให้มากขึ้น
เช่นคิดถึงประสบการณ์ที่เป็นสุขในอดีต
ความสำเร็จในชีวิตที่ผ่านมา
คำชมเชยที่ได้รับ
ความดีของคู่สมรส ความมีน้ำใจของเพื่อน ฯลฯ
จะช่วยให้สบายใจมากขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE>...

<TABLE><TBODY><TR><TD vAlign=top>... </TD><TD vAlign=top>5. คิดถึงคนอื่นบ้าง
อย่าคิดหมกมุ่นอยู่กับตัวเองเท่านั้น
เปิดใจให้กว้าง
รับรู้ความเป็นไปของคนใกล้ชิด
และใส่ใจที่จะช่วยเหลือ
สนใจปัญหาของผู้คนในสังคมบ้าง
บางทีคุณอาจจะพบว่า
ปัญหาที่คุณกำลังเป็นทุกข์อยู่นี้
ช่างเล็กน้อยเหลือเกิน
เมื่อเทียบกับปัญหาของคนอื่นๆ
คุณจะรู้สึกดีขึ้น
และยิ่งถ้าคุณช่วยเหลือคนอื่นได้
คุณจะสุขใจขึ้นเป็นทวีคูณด้วย</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ครับ ขอให้เป็นดั่งใจมุ่งมั่นนะครับ ภาวนาให้จิตใจเราผ่องใส กรรมเกิดเพราะเรา ทุกข์เกิดเพราะใจ แก้ไขด้วยสติปัญญา เมื่อเวลาผ่านไปทุกข์ในใจเราจะกลายเป็นเพียงส่วนหนึ่งของชีวิต ก็ขออนุโมทนาสาธุต่อบุญที่กำลังจะเกิดครับ

ลิงค์ด้านล่าง เป็นบทความเกี่ยวกับการปรับทัศนคติในการคิดเมื่อมีทุกข์ ลองอ่านดูนะครับ คงเป็นประโยชน์ต่อคุณบ้าง


http://palungjit.org/showthread.php?p=1998441#post1998441

 

ขอขอบคุณคุณกรานต์ และคุณวายร้ายยายตัวยุ่ง มากครับ สำหรับคำแนะนำดีๆ ที่นำมาฝากครับ

 

พี่คุณอยากได้อะไร
ให้เขาไปให้หมด
แล้วถามเขาว่าต้องการอะไรอีก

 

คุณเป็นน้องคนสุดท้องสิใช้ไหมถ้ายังงั้นตั้งใจใหม่นะให้ใช้พรหมวิหารสี่ เมตตา กรุณา มุตทิตา อุเบกขา หมั่นทำบุญนะแล้วเจาะจงเลยนะว่าบุญนี้งะเราจะอุทิศให้พี่ชายทั้งสามคนของเราเจาะจงชื่อ และ นามสกุลเลย ทำบุญ ทุกครั้งกรวดน้ำทุกครั้งก็อุทิศให้เขาทั้งสามคนเลยนะไม่ต้องไปเผื่อแผ่ใครเลยให้มันตรงตัวเลย มั่นทำไปเดียวดีเอง เอวังโหตุ

 

ขอขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็น ผมจะลองนำไปปฏิบัตินะครับ