เมื่อข้าพเจ้าฝึกอาชีพจับผี

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย The Third Eyes, 21 กุมภาพันธ์ 2006.

  1. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    โลกของเรา เป็นส่วนหนึ่งของระบบสุริยจักรวาล
    ที่มีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของการหมุน

    โลกหมุนรอบตัวเอง
    ทำให้เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาคิ
    ที่เรียกว่า กลางวัน เมื่อหันด้านนั้นเข้าหาดวงอาทิตย์
    และทำให้เกิดกลางคืน เมื่อหันด้านนั้นมาอยู่ตรงข้ามกับดวงอาทิตย์

    เมื่อเกิดกลางคืน
    ก็ทำให้เกิดความมืด
    คนเราโดยทั่วไปจะกลัวความมืด
    ที่กลัวเพราะไม่รู้ว่า
    ในความมืดนั้นมีอะไร

    และที่น่ากลัวที่สุดอย่างหนึ่ง
    คือการกลัว ผี
    ผู้คนไม่น้อยจึงต้องแขวนพระเครื่อง
    ของฃลัง วัตถุมงคล เพื่อกันผี

    คนไทยมากว่า 80 เปอร์เซ็นต์ แขวนพระเครื่อง
    ถ้าคำนวณเป็นจำนวนคน
    ก็ราวๆๆ เกือบ 50 ล้านคน
    น้อยเสียเมื่อไหร่

    แผงพระเครื่องจึงเกลื่อน
    ตามตลาดสด ข้าง ถนน ข้างป้ายรถเมล์
    แม้บนศูนย์การค้าใหญ่ๆๆ
    ตามมุมต่างๆของกรุงเทพฯ
    ราคาเช่ามีตั้งแต่ 10 บาท จนถึงหลักล้าน

    การกลัวผี
    ทำให้เกิดธุระกิจที่ใหญ่โต
    มีผู้คน
    ทั้งคนขาย คนให้เช่า ลูกเมียที่เกี่ยวข้อง
    รวมๆๆแล้ว เกือบ 50 ล้านคน

    นับว่าผี ทำคุณประโยชน์ให้สังคมเมือง สังคมชนบท
    ได้อย่างมหาศาล
    ผู้คนทั้งหลาย เมื่อได้ประโยชน์จากผี
    ก็อย่าลืม อนุโมทนา แผ่กุศล แผ่เมตตาให้ เขาไปด้วย

    เมืองนอกเขามีวันขอบคุณ ผี
    ที่เรียกว่า
    วันฮาโลวีน ที่เพิ่งผ่านไปแหมบๆๆ
    ของไทยเราก็มี
    วันผีตาโขน ของภาคเหนือตอนบน
     
  2. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ผีนั้นเป็นอย่างไรไม่รู้
    สารพัดที่คนเราจะเดา
    ผีฝรั่งมักจะเป็นพวก กระดูกซี่โครง เดินได้
    ฟันดาบได้ รบได้
    แต่ก็แพ้พระเอกทุกที เวลาถ่ายเป็นหนัง

    ที่ฝรั่งว่าน่ากลัวที่สุด คือ แฟรงเก้นสะไตน์
    หรือผีหน้าเหลี่ยม หัวแบะ ตาโต เขี้ยวใหญ่

    หรือไม่อีกตัวที่น่ากลัวคือ แดรกคูร่า
    ชายใส่กางเกงขายาว
    สรวมเสื้อคลุมดำ
    เวลากลางวันนอนในโลงศพ
    พอกลางคืนก็ออกมาล่าเหยื่อดูดเลือด

    เพราะแพ้เสงแดดนี่เอง
    ตอนจบไม่ว่า เรื่องใหนที่เกี่ยวกับแดรกคูร่า
    พระเอก กำลังจะแพ้ ก็จะต้องมีอันเป็น
    ให้ มือไปแหวกม่าน แสงเข้ามา
    ตัวแดรกคูร่า จึงต้องละลายกลายเป็นฝุ่น

    หรือไม่ก็เอากระเทียมกดไว้ เอากางเขนสะกดไว้
    แล้วตอกลิ่ม จึงจะตาย
     
  3. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ผีฝรั่ง คนไทยดูแล้ว หัวเราะก๊ากๆๆ
    ไม่น่ากลัวตรงไหน
    ของไทยเราฟหรือ ฮ่า... ฮ่า... ฮ่า
    อันดับหนึ่ง
    นางนาคพระโขนง
    ต่อมา
    ผีกองกอย
    ผีตายโหง
    ผีตายทั้งกลม
    ผีกระสือ ลากใส้ ลอยไปลอยมา
    ผีกระหัง มีปีกเป็นกระด้ง บินได้
    ผีปอบดูดเลือด
    ผีตาโบ๋
    ผีหัวขาด
    ผีตาโขน
    ผีดิบ
    ผีบ้าน
    ผีเรือน
    ฯลฯ

    อ้อ มีอีกตัวของจีนที่ ดังมาก
    ที่เต่งตัวแบบขุนนางจีน
    ที่ยื่นสองแขนชูไปข้างหน้า
    แล้วเดินกระโดด อื๊บๆ
    เหมือนเล่นกระโดดกบ หรือ เดินวิ่งใส่กระสอบ
    นี่ก็ไม่น่ากลัว
    เพราะกระโดด เคลื่อนที่ช้า
    เราวิ่งหนีทัน
    ผีจีน จะหัน ซ้าย-ขวาที ก็เหมือนกองทหารเดินแถว
    หักเป็มุมฉาก อุ๊ยอ้าย
    ว่าแล้ว ผีฝรั่ง ผีจีน
    ไม่นากลัวเท่าผีไทย

    อีกตัวของเขมร
    ผีงูเก็งกอง ที่บนหัวมีผมเป็นหัวงู นับร้อยตัว
    อันนี้ไม่น่ากลัว
    แต่สยอง เพราะงูตังมันลื่นๆๆ
    สยิวหัว และทำให้ขนเราลุก

    ที่แปลกไม่เคยได้ยินผีอินเดีย
    คงจะไม่มี
    เพราะเขาคิดว่า ผีเป็นสิ่งที่ไม่ดี
    ต้องถูกกวาดล้าง
    ผู้กวาดล้าง ก็คือ องค์พระศิวะ
    ซึ่งเป็นมหาเทพ ที่เป็นผู้สร้าง และผู้ทำลาย
    ถ้าทำไม่ได้ ยังมีอีกองค์ที่เป็น ตรีมูลติ คือ องค์ พระนารายณ์
    ที่จะทำลายผีได้
    (อ้อ ต้องไปทำงานแล้วครับ แล้วจะมาเล่าต่อ)
     
  4. ปีศาจร้าย

    ปีศาจร้าย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +1,240
    แล้วเคยเจอผีทะเลรึป่าวอ่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กุมภาพันธ์ 2006
  5. nititep

    nititep เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +268
    แล้วจับไปทำไมเนี่ย เด๋วโดนผีจับคืนนา
    จับผี คือ แตะต้องผี หรือ จับขังแล้วไปทำอย่างอื่นต่อ
     
  6. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    คนรุ่นเก่า มีความคิดว่าผี คือวิญญาณที่ล่องลอยไป รอการเกิด
    แต่วิชาสมัยใหม่ ที่เรียกว่า ควอนตัมฟิสิกส์
    จะให้คำตอบในเรื่องประหลาดๆๆที่เกี่ยวกับพลังจิต วิญญาณ และเวทมนต์ได้
    ผมเป็นวิศวกร เคยสร้างเขื่อนภูมิพล โรงไฟฟ้าพะนครใต้ โรงไฟฟ้าบางปะกง ฯลฯ เป็นนักวิทยาศาสตร์เต็มตัว
    เชื่อในสิ่งที่เป็นจริง เป็น ตรรก

    จากวิชาควอนตัม บอกเราว่า วิญญาณและผีมีจริง
    แต่เขาไม่เรียก ผี โดยเรียกว่า พลังงานที่เคลื่อนไหวด้วยตัวเองได้
    ถ้าเข้าไปอยู่ในคน ก็เรียกว่า พลังงานแฝง

    ทุกอย่างในจักรวาล
    เป็นมวลและพลังงาน มีอยู่ สองอย่าง
    มวล มีสารพัดรูปแบบ
    พลังงานก็มีสารพัดแบบ มองเห็นได้บ้าง มองไม่เห้นบ้าง
    บางสิ่งบางอย่างมีทั้งสองอย่างปะปนเป็นสัดส่วน

    คนเรามีมวลประมาณ 93 เปอร์เซ้น เป็นพลังงานเพียง 7 เปอร์เซ็นต์นั้นคือพลังในสมอง คนจึงโง่ในระดับหนึ่ง เมื่อเทียบกับชิวิตแบบอื่นในจักรวาลเฃ่นมนุษย์ต่างดาว

    คนเรามีทั้งมวลและพลังงาน
    เมื่อตายไป ธาตูทั้งสี่จะสลายตัว
    จะมีพลังงานบางส่วนคงสภาพอยู่
    เป็นพลังงานที่เคลื่อนไหว และมีจิตจำนงค์และมุ่งหมาย
    ถ้ามุ่งไปที่สิ่งของที่ชอบเช่น บ้าน ข้าวของ ต่างส่วนตัว
    พลังงานก็จะอยู่ที่นั่น ที่เรียกว่า มีผีสิ
    คนที่ทำดี มั่นใจว่ามีบุญ คิดว่าจะได้ขึ้นสวรรค์ ก็จะได้ไปตามนั้น
    แต่ก็ไม่ใช่การหลุดพ้น

    พระท่านจึงสอนว่า ให้มีอุเบกขา
    อย่าได้ ชอบ หรือ ไม่ชอบสิ่งใด
    นั่นคือการลบเวทนา
    จะได้ไม่มีการเกิด
    เมื่อไม่มีการเกิด
    ตัวเราก็จะเป้นแสงอยู่นิ่งๆๆ ในจักรวาล
    ที่เราพูดกันว่า
    นิพพาน
    นั่นแหละครับ
     
  7. NiNe

    NiNe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,792
    ค่าพลัง:
    +7,482
    นักฟิสิกส์เอง ก็ได้ค้นพบสัจธรรมที่เกี่ยวกับเรื่องของคว๊าก (quark) ซึ่งเป็นสารก่อนอนุภาคนั้นว่า ที่มีภาวะสลับไปมาระหว่างมวลสารที่หาตัวตนได้ กับมวลสารที่หาตัวตนไม่ได้ นั่นคือการเปลี่ยนแปลงระหว่าง "ความมีกับความไม่มี" จนทำให้เกิดทฤษฎีการไร้ระเบียบ (Chaos Theory) หรือพูดกันง่ายๆ ว่า ความไม่แน่นอนของสรรพสิ่งในจักรวาล

    ทฤษฎีการไร้ระเบียบ ก็ได้ยอมรับปรากฎการณ์ที่เรียกว่า "ผีเสื้อกระพือปีก" (Butterfly Effect) ที่บอกว่าในปรากฎการณ์ของสิ่งที่ดูเล็กๆ และไร้ความหมาย สามารถที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ได้ ซึ่งดูเผินๆ แล้วเหมือนจะไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย อืมม์ .... อาจจะเรียกได้ว่า "เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว" ก็ได้
     
  8. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    เมื่อ วิชา ควอนตัมฟิสิก อธิบายถึงสภาพ มวลกับพลังงาน
    แล้วสามารถสลับกันได้
    มวลถ้าเปลี่ยนเป้นพลังงานอย่างเร้วในเวลา เศษ หนึ่งส่วนล้านของวินาที
    พลังงานจะอัดและแรงมากมหาศาล เป็นแรงอัดและความร้อน
    เป้นปรากฏการณ์ที่เรียกว่า ปฏิกริยาลูกโซ่ หรือลูกระเบิด ปรมาณุ หรือ ระเบิดนิวเคลียร์ นั่นเอง

    ต่อมาเมื่อนักวิทยาศาสตร์ค้นพบวิธีให้มวลแปลพลังงานอย่างช้าๆๆ พลังงานก้จะค่อยๆๆทะยอยออกมา ใช้ประโยชน์ได้ ที่เรียกว่า "เตาปฏิกรณ์ ปรมาณู"
    ใช้ในโรงไฟฟพลังปรมาณุ หรือใช้เป็นเครื่องยนตืต้นกำลังเช่นในเรือดำน้ำปรมาณุ ที่มีกันมากมายมากกว่า 100 ลำ โดยเฉพาะอเมรกา
     
  9. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ก็เช่นกัน
    เมื่อคนเราตาย จะมีพลังงานอีกรูปแบบหนึ่ง คงสภาพอยู่
    เป้นพลังงานที่พิเศษ คือมีความคิดและเจตต์จำนง
    สามารถคงสถาพและเคลื่อนที่ได้
    เป็นพลังงานที่มีความถี่สูง มีกระจุสูง
    เวลาเคลื่อนที่ไปใหน
    บรรดาสุนัข จะหูไวเป็นพิเศา พอพลังงานแบบนี้ ที่เราเรียกว่า ผีมา
    หมามันจะสัมผัสได้ ถึงแรงประจุ
    ที่ทำให้มันขนลุก เหมือนถูกไฟดูด มันจะรู้สึกหนาว ยะเยือก
    มันจึงแสดงอาการออกมา โดยการหอน
    โดยปกติ หมาจะเห่า ไม่ค่อยหอน
    มันจะหอนเย็นยะเยือกเข้าในหัวใจของคนที่ได้ยิน
    และก็รู้กันว่า

    ผีมาแล้ว


    บรื๊ออออออ !!!!!!
     
  10. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ผีหรือพลังงานอีกรูปแบบหนึ่ง เป็นพลังที่มีประจุ ในทำนองคล้ายๆๆกับ ประจุไฟฟ้าที่มี ขั้วบวก กับขั้วลบ

    สิ่งต่างๆที่อยู่บนโลก จะเป้นขั้ว ลบ
    บนฟ้าจะเป็นขั้วบวก และจะอยู่ในละอองเมฆ

    ถ้าขั้วบวกมีศักยภาพของความต่างศักย์มาก
    ก็จะวิ่งเข้าขั้วลบ
    คือผ่าลงดิน ที่เรียกว่า ฟ้าผ่า
    ถ้าผ่าระหว่างกันเองเพื่อถ่ายเท ศักยะภาพ ก็เกิด ปรากฏการณ์ที่เรียกว่า ฟ้าแลบ

    คยบางคนโดยเฉพาะพวกโยคี จะนั้งบริกรรมจน ตัวมีประจุไฟฟ้าลบสูงมาก
    ขั้วที่เหมือนกัน จะผลักกัน
    ดังนั้นเมื่อโยคีนั่งบริกรรมไปนานๆๆ จะมีประจุลบมาก จะผลักตัวกับพื้นโลกให้ลอยขึ้นได้ ก็เป็นไปตามกฏของวิทาศาสตร์
    ไม่ใช่เรื่อง เหลวไหล โกหกพกลมแต่ประการใด
     
  11. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ผีเป็นพลังงานที่มีประจุ แน่นอน
    เพราะแทบทุกครั้งที่พบ ผีพรือพลังงานนั้นจะไม่ลอยอยู่ในอากาศลอยๆๆ
    บางทีเห็นอยู่ในตัวคน (ผีเข้า)
    พอเราเข้าไปใกล้ สิ่งนั้นก็จะลอยตัวออกไปอยู่ตามผนังห้อง ตามขอบประตูหน้าต่าง
    และที่มากที่สุด คือ เพดานห้อง

    ผมเห็นพลังงานที่ว่า ส่วนใหญ่จะลอยออกจากตัวคนแล้วไป แหมะ อยู่บนเพดาน เมื่อ ลองเดินตามดู เขาก็จะเคลื่อนหนีเราไปรอบๆๆห้อง เหมือนเล่นไล่จับ

    หรือบางที เพื่อนฝูงขอให้ไป ดูบ้านเขาที่เชื่อว่ามีผีสิง
    ผมก็ไป พวกนี้ มันไว มันรู้สัมผัสเร็ว
    พอไปถึง มันก็มารอ ที่วงกบประตูเข้าบ้าน เราก็เห็น เป็นกลุ่มพลังงานมีแสง
    กลุ่มพลังงานที่เห็นจะเป็นกลุ่มแสง ขนาดโต ระหว่าง นิ้วแม่มือ จนถึงเท่าขนาดจานข้าว
    ถ้าแสงมีสีเขียว น้ำเงิน หรือเหลือง มักจะเป้นพลังงานที่ดี
    ถ้ามีแดง อันตรายที่สุด เคยผลักผมเซมาหลายครั้ง

    พอเราเดินเข้าในบ้านที่มีนับสิบห้อง ก็เห้นเขาเคลื่อนที่ตาม โดยไต่ไปตามผนังอย่างรวดเร้วเหมือนจิ้งจกวิ่ง ตนามผนังอย่างเร้ว
    พอเราไปถึงประตูข้างใน เขาก็จะมารออยู่ที่วงกบประตู
    เหมือนเด็กคอยวิ่งตามดูขบวนแห่ที่น่าสนใจ

    ผีเป็นพลังงานที่มีประจุแน่นอน
    เพราะบางครั้งผู้คนมาหาผม บอกอยากถ่ายรูปผี

    ส่วนใหญ่จะเป็นกล้องดิจิตัล ที่ถ่ายแล้วเห็นผลได้ทันที
    ผมก็จะให้เขาเตรียมกล้องไว้ บอกเขาว่า ถ้าบอกให้ถ่าย ก็กด ชัตเตอร์เลยนะ

    ผมก็ตั้งจิตเชิญพลังงาน หรือ ผีมา
    เมื่อเขามา ตรงหน้า คนที่มีจิตและประสาทไวก็จะรู้ได้ เพราะเหมือนเข้าอยู่ในสนามแม่เหล็กชนิดหนึ่ง

    ผมจะบอกเขาให้เร่ง ประจุ เมื่อเขาเร่งประจุ ประจุที่มีความต่างศักย์ จะดูดละอองไอน้ำ ที่ละเอียด อยู่ในอากาศทั่วไป เข้ามารวมกัน มวลของเขาจะมากขึ้น เหมือนกลุ่มหมอกจางๆๆ
    พอถ่ายรูป ก็จะติดรูปผีอย่างชัดเจน
    พอมาดูในกล้องดิจิตัล พอเห็นพลังงานหรือผีที่ว่า วงคนดูแตกทุกที
    แสดงว่าในส่วนลึกของหัวใจคนทั่วไป
    คือกลัวผี
    (ไปทำงานก่อนครับ แล้วจะมาต่อ)
     
  12. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    เมื่อกลุ่มก้อนพลังนั้นมี ประจุ มีศักยภาพ ในระดับหนึ่ง
    และถ้ามีใครฝึกนั่งสมาธิจนจิตเป็นหนึ่ง
    ตัวเขาก้จะมี ศักยะภาพที่สูงกว่า มากหลายเท่า
    เมื่อมาพบกัน ดันกัน
    ของที่มีศักย์แรงกว่าก็จะดันของที่น้อยกว่าออกไป
    เหมือน มีถังน้ำสูง 3เมตรมีน้ำอยู่เต็ม
    ข้างหน้ามีตุ่มน้ำ เตี้ยน สูง 1 เมตร ในตุ่มมีน้ำเต็ม
    ถ้าเปิดก๊อกน้ำของถังสูง
    น้ำในถังสูงก็จะดันน้ำออกมาใส่ตุ่มได้
    ถึงแม้ว่า ตุ่มนั้น จะมีน้ำเต็มอยู่ก็ตาม
    นี่คือ การดันพลังที่มีศักย์ต่ำกว่าออกไป ตามหลักวิทยาศาสตร์
    และ ชาวบ้านเรียก ปรากฏการณ์นี้ว่า "ไล่ผี"
    ผมมีประสบการณ์ไล่ผี จับผี มากมาย
    มีคนมาจ้างให้ไปไล่ ก็ไปเพราะต้องช่วยเขา
    แล้วจะทะยอยเล่ามาให้ฟังสัก 2-3 เรื่อง
    เอาเฉพาะเรื่องที่เพิ่งเกิด เมื่อเร็วๆๆนี้
     
  13. seberton

    seberton เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2006
    โพสต์:
    262
    ค่าพลัง:
    +655
    เหอะๆ อยากนิพพานจัง เหอะๆ ผีเสื้อผมไม่กลัวนะคุณตา อืมใช่คับผีที่อยู่บ้านร้าง ไม่รู้สึกเหงา หว่าเหว่เลยหร่อ มืดก็มืด ไม่มีใครอยู่ด้วยเลย รกรุงรังอีกต่างหาก

    แล้วถ้าเราสื่อกับผีได้หรือผีมาปรากฏให้เราเห็นนั้นเป็นเพราะอะไร ช่วยอธิบายหน่อย แล้วความทำตัวอย่างไร ถึงไม่ให้เกิดอาการกลัว

    แบบว่าตายไปแล้วไม่อยากเกิด ไม่อยากมีความรู้สึก ไม่อยากรับรู้ คือแบบว่าหายสาบสูญ ไม่มีตัวตน ไม่มีจิต จะเป็นไปได้มัย
     
  14. aonwit01

    aonwit01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    681
    ค่าพลัง:
    +1,025
    ผมว่าเป็นผีก็ไม่มีอะไรเสียหายนะ ถ้าจิตเราประกอบด้วยแสงสว่าง ความมืดและวิญญาณ เมื่อตายไปก็หายไปแต่ดิน น้ำ ลม กะไฟ แต่จิตยังอยู่นิ เราก็คือเราคนเดิม ปรกติคนเราก็เป็นผีอยู่แล้วแต่คนมักคิดว่าเป็นคนเพราะเค้าเหงแต่ธาตุ ( รวมถึงผมด้วย แหะๆ ) ส่วนจิตซ่อนอยู่ในธาตุ หากดึงความมืดหรือแสงสว่างออกไปอันเดียวจะเป็นคนวิกลจริต แต่ถ้าดึงวิญญาณออกไปจะเกิดอาการตายทั้งเป็น ( มีชีวิต แต่สมองไม่สั่งงาน ) เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากเกิดใหม่ต้องดึงแสงกะความมืดออกมาทั้งสองอัน เท่านั้น
     
  15. jdean

    jdean เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    144
    ค่าพลัง:
    +147
    อยากเป็นเพื่อนกับผีบ้างจังคับ
     
  16. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    น่าสนใจค่ะ..แต่หนูกลัว..ผี..
     
  17. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    คุณอาสามตา ลองดูรูปนี้ คิดว่าเป็นอะไรคะ ในวงกลมนะ
    รูปนี้ถ่ายด้วยกล้อง ดิจิตอลค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1475.jpg
      IMG_1475.jpg
      ขนาดไฟล์:
      179.1 KB
      เปิดดู:
      178
  18. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    ถ้าสังเกตดีๆ จะมีจุดขาวกลมหลายอันในภาพนี้ แต่มี 3 ดวง ที่วงไว้
    มีลักษณะเคลื่อนที่ ไปในทิศทางเดียวกัน ไม่อยากคิดไปเอง
    ลองๆ วิเคราะห์กันดู
     
  19. น้องไข่แมงสาบ

    น้องไข่แมงสาบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +501
    น้องไข่เคยเห็นเป็นดวงๆแบบที่ลุงตาที่สามบอกน่ะค่ะ

    ครั้งแรก ตอนไปนอนค้างที่โรงเรียน ตอนนั้นตื่นมากลางดึก ก็เห็นดวงกลมๆใหญ่มาก วงกลมนั้นใหญ่ประมาณเกือบ 2 ฟุตอ่ะค่ะ สีจะเหมือนแสงเหลืองไฟฉาย แต่ผิวเรียบเหมือนแสงสปอร์ตไลท์ แสงนี้เคลื่อนไปตามฝาผนังแบบที่ลุงบอกเปี๊ยบเลยค่ะ ตอนแรกวงกลมนั้นจะนิ่งๆ พอนู๋เพ่งมองแสงกลมๆนั้นวงกลมก็เคลื่อนไปตามฝาผนัง ประมาณ 3 วินาที แสงนั้นก็หายไป (คล้ายกับมีคนฉายไฟฉายไปกับผนังน่ะค่ะ แต่ ตอนนั้นมันไม่มีใครจริงๆ น้องไข่ก็งงไปเลย

    ครั้งที่สอง เห็นที่บ้านน่ะค่ะ ตอนนั้นน้องไข่ไม่สบายมากๆ เป็นไข้หนักเลย ตอนนอนจะรู้สึกตัวสั่นๆ บรรยายกาสในห้องจากที่ร้อนๆปกติเพราะไม่ได้ติดแอร์ มันก็จะเย็นยะเยือกขึ้นมาซะงั้น พอลืมตาขึ้นมา เห็นดวงสีดำๆ ซึ่งตอนนั้นนอนปิดไฟนะคะ แต่ลูกกลมดำๆนี้เข้มกว่าความมืด อารมณ์ตอนนั้นด้วยความง่วง+เป็นไข้ ก็พูดปากเปล่ากับเค้าไปว่าตอนนี้นู๋ไม่สบายนะอย่าเพิ่งมาแกล้งนะ(นู๋ก็ไม่รู้หรอกว่า สิ่งนั้นคืออะไร ตอนั้นเค้ามาลอยเหนือหน้าน้องไข่ตอนนอนเลยนะ พอพูดเสร็จเค้าก็ลอยทะลุมุ้งลวดเหนือหัวนอนออกไป ลูกกลมขนาดจานใส่คุ๊กกี้ใบเล็กประมาณ 15 เซนติเมตรนะค่ะ


    พอได้อ่านกะทู้ลุงตาที่สามนู๋อะก็เริ่มชอคเลยอะ ขอบคุณค่า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • muse.jpg
      muse.jpg
      ขนาดไฟล์:
      282.9 KB
      เปิดดู:
      63
  20. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    เรื่องผีและวิญญาณที่น่ากลัวและเกิดขึ้นอย่างสดๆๆร้อนๆๆกับญาติของผมเอง
    น่ากลัวมากและน่าจะเป็นการเตือนคนอีกหลายคนที่อาจจะต้องเจอ โดยเฉพาะคนที่เป็นแม่ไปคลอดที่ โรงพยาบาล

    ญาติผมไปคลอดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แถวๆๆหัวหมาก เป็นโรงพยาบาลใหญ่
    การคลอดก็คลอดตามปกติ เด็กที่ออกมาเป็น ทารก หญิง
    ปกติหลังคลอด สอง-สาม ชั่วโมง ตัวแม่จะเหนื่อยมาก
    พยาบาลจะให้พัก แบบเกือยสลบเหมือด เพราะการคลอดเป็นประสบการณ์ที่ ทารุณอย่างหนึ่งของ คนที่เป็นแม่

    เธอเล่าว่า ตอนนั้นรู้สะลึมสะลือ พอมองเห็นอะไรได้ดีพอสมควร
    ครั้งสุดท้ายจำได้ว่า มีพยาบาลเดินเข้ามาในห้องพิเศษที่นอนคนเดียว
    มาปรับสายน้ำยาที่ผ่านเข้าร่าง ก็มองตาม ก็เห็นว่า พยาบาลเดินออกไป
    ทางประตู

    ต่อมาอีก 2-3 นาที ก็เห็นพยาบาลอีกคนเดินเข้ามา ก้คิดว่า คงจะมาจับกินยาอีกตามเวลาชั่วโมง ก็เตรียมตัวนอนตะแคงเพื่อรอการกรอกยา

    ปรากฏว่า นางพยาบาลคนนั้นเดินตรงเข้ามาที่ตัว แล้วเห็นชัดๆๆว่า พอมาใกล้ก็ค่อยๆๆ ละลายหายเข้ามาในตัวเธอ

    เธอรู้สึกตกใจที่เห็นเช่นนั้น และรูสึกว่า เหมือนถูกทับ มีใครเข้ามาซ้อนในตัว
    หายใจไม่ออก อึดอัด จะร้องก็ไม่มีเสียง มีสติ เพียงเอามือกวาด ไปที่ โต๊ะเล็กข้างตัวที่มีชุดยาและแก้วน้ำ จนตกแตกกระจาย เพื่อเรียกพยาบาลให้เข้ามาช่วย

    หายใจไม่ออกอีกหลายวินาที ก็ไม่เห็นมีนางพยาบาลเข้ามา
    แต่สะติยังดีอยู่ จึงตั้งจิต สวดนะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อีกหลายรอบ

    จนได้ยินเสียงพูด.." สวด นะโม อยู่ได้..รำคาญจริง..ไปก็ได้ว่ะ!!
    แล้วก็มองเห็นนางพยาบาลในตัวค่อยๆลุกออกไปจากตัว แล้วเดินลอยทะลุ ประตูออกไป โดยไม่ต้องเปิดประตู
    ไม่เหมือนตอนที่เข้ามา

    สักพัก ก็มีพยาบาลเข้ามา และเห็นแก้วและข้าวของตกกระจาย
    ก็ต่อว่า ทำไม ดิ้นปัดจนของตกเสียหาย
    เธอก็เล่าเรื่องให้พยาบาลฟัง...บรื๊อ ๆๆๆๆ

    เรื่องนี้เป็นอุธาหรณ์ว่า หลังการคลอด ผู้เป็นแม่ จะมีพลังจิตอ่อนที่สุด
    จะถูกโจมตีโดยวิญญาณที่ไม่หวังดีได้ง่ายที่สุด

    การอยู่ห้องพิเศษคนเดียว เสี่ยงมาก ต้องมีญาติมานอนเฝ้าด้วย เพื่อจะช่วยได้
    ที่สำคัญ ต้องมี สติ และสวดนะโม เป็น
    พระพุทธบารมี ย่อมกันผีได้เสมอ
    คนที่จะเป้น พ่อ แม่ คนใหม่..ระวังเตรียมตัวนะครับ
    อย่าทำเป็นเล่นไป...ถึงตายได้ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...