พวกเราใส่พระเครื่องกันทำไม..หรือว่า สักแต่ว่าใส่

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย The Third Eyes, 19 เมษายน 2006.

  1. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    วันสงกรานต์ ที่ 13 เมษายน 2549
    ผมและครอบครัวก็ไปกราบไหว้ หลวงพ่อสดที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ
    เหมือนปีก่อนๆๆ ที่ผ่านมา
    มีผู้คนแวะเวียนเข้าไปมากมายตลอดวัน นับพันคน
    ที่พากันมาบูชาพระด้วยธูปเทียน ปิดทองพระ สรงน้ำพระ
    เพื่อความเป็นศิริมงคลสำหรับชีวิตในปีใหม่แบบไทยๆๆ
    ท่ามกลาง การเมืองที่ อึมครึมด้วยโทสะและโมหะ
    ของผลประโยชน์ของทุกฝ่าย ที่ไม่ลงตัว

    เสร็จบูชาพระแล้ว กิจที่สำคัญคือ
    ต้องขึ้นไปกราบศพ หลวงพ่อสด ที่ตั้งอยู่ชั้นบนของอาคารที่อยู่ติดกัน
    ทางขึ้นยังคงเป็นกระดานไม้แดงหนาและกว้าง
    ขัดมันวาว แสดงว่า หัวบันไดไม่แห้ง
    ผู้คนที่ศรัทรา ยังคงมากราบบูชาเหมือนเเช่นทุกปี

    ชั้นบนเป็นพื้นไม้แดงอบกว้าง จุผู้คนได้มากกว่า 200 คนได้อย่างสะบาย
    กวาดตามอง เห็นผู้คนในชุดขาว แบบพราหมณ์
    และชีพราหมณ์มากกว่า ครึ่งที่ขึ้นมาปฎิบัติธรรม
    ทุกอย่างมีความสงบเงียบ
    ท่ามกลางกระแสอากาศอันเยือกเย็นแห่งธรรมะ และบารมีแห่งพุทธะ

    เมื่อมองไปข้างหน้า
    ก็แลเห็น บรรดา ดอกไม้ช่อและพวง ประดับอย่างสวยงาม
    สมกับเป็นวันมหามงคลอันสำคัญ
    เหนือขึ้นไป คือ โลงทอง อันบรรจุสังขารของ หลวงพ่อสด ผู้ได้ละไปแล้ว

    อันแสดงธรรมให้เห็นว่า สังขารนั้นไม่เที่ยง
    น้อมจิตให้เราเข้าใจถึงธรรมะสากล ที่ว่า "ทุกอย่างเป็นอนิจจัง"
    เราอย่าได้ ติดและยึดอยู่กับตัวเราเลย
     
  2. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ด้านซ้ายมือ รูปภาพขนาดใหญ่ ของหลวงพ่อสด
    ยังคงตั้งอยู่ ณ ที่เดิม ที่เราเคยเห็นเมื่อปีที่แล้ว
    เราจึงน้อมจิตก้มลงกราบ พระเกจิผู้มีบูญญาธิการสูง
    และมากพ้นด้วยบารมี

    สวดตามด้วย บทสวด "อิติปิโสภะคะวา" อันต็มชุดยาว
    แล้วนิ่ง น้อมจิต ขอพร จากหลวงพ่อสด ผู้มีเมตตาสูงเช่นเดิม
    " วันนี้เป็นวันปีใหม่ไทย ลูกและครอบครัว ได้มาที่นี่
    ได้มากราบหลวงพ่อ ด้วยจิตบริสุทธิ ที่ ยึดมั่นในหลักธรรม
    มั่นในศีล และ มรรค ในการครองชีพ
    ขอหลวงพ่อ ได้โปรดเมตตาให้พรแก่ลูกด้วยเทอญ"

    และก็เป็นดังเช่นปีก่อน เงาร่างแสงสีทอง ของ หลวงพ่อ
    ค่อยๆๆ ลอยออกมาจาก รูปภาพอันมีขนาดใหญ่นั้น
    ลอยตรงมายังพวกเราอย่างช้าๆๆ
    ไม่ได้ ลอยออกมาจาก โลง ทองที่ ตั้งลอยเด่นอยู่ตรงกลาง ตามที่น่าจะเป็น

    ลอยมายืนอยู่ตรงหน้า ก้มลงยิ้ม พร้อมเอามือ ลูบศีรษะข้าพเเจ้เป็นคนแรก
    ทำให้รูสึกเย็นวาบ ตลอดทั้งศีรษะ เหมือนถูกราดด้วยน้ำเย็น
    " สะบายดีนะ ลูก..ที่ทำมาน่ะดีแล้ว..ขอให้ทำต่อไป..แล้วจะได้ดีเอง.
    ทุกๆๆคนเป็นคนดี จะโชคดีตลอดไป เอานะ..ลูก."
    สมาชิกคนอื่นที่เหลือ ก็จะได้รับการลูบศีรษะ
    ที่เป็นสตรีก็จะได้รับการเป่า ศีรษะ แทน
    เป็นความเมตตากรุณาอันสูงสุด
    ลูกๆๆ ขอ ถวาย บุญบารมีที่ได้กระทำไป
    และความสุข ที่มีแก่หลวงพ่อ ด้วยเทอญ
     
  3. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    วันที่ 14 เมษายน 2549 ยังคงเป็นวันหยุดช่วงสงกรานต์
    จึงใช้เวลาไปไหว้พระต่อ อีก สองวัด
    ที่ตั้งใจไว้คือ วัดหน้าต่างนอก ของ หลวงพ่อ จง
    และวัด บางนมโค ของ หลวงพ่อปาน

    เราออกจาก บางใหญ่ วิ่งไปตาเเส้นทาง วงแหวนสายตะวันตก
    ไปเลี้ยวเข้าที่แยกเข้า อ.เสนา อยุธยา
    ตามเส้นทาง เราไปถึงวัด บางนมโคก่อน เพราะอยู่ใกล้กว่า
    ที่นั่น มีผู้คนมากราบไหว้พระปิดทองกันอย่างคับคั่ง
    สมกับที่ได้คาดการณ์ไว้ เพราะที่นี่เป็นวัดดังมากแห่งหนึ่งของ อยุธยา

    มีการสรงน้ำพระ รดน้ำมนต์ เสี่ยงเซียมซี เช่นปกติ

    ด้านหน้า เป็นกุฏิ โปร่งใส เป็นกุฏิแก้ว มองเห็นด้านในอย่างชัดเจน
    กลางกุฏิแก้ว มีหุ่นขี้ผึ้ง ปั้นเท่าขนาดจริง ของ หลวงพ่อปาน
    เป็นรูปปั้นที่เหมือนจริง รวมทั้งรอยสักยันต์ ที่หัวไหล่ก็เหมือนจริง

    หลังจาก รดน้ำ พระ ถวายดอกไม้ธูปเทียนที่ด้านหน้าแล้ว
    ก็เข้ามากราบลงตรงหน้า รูปปั้นขี้ผึ้งเหมือน ของ หลวงพ่อ อันศักดิ์สิทธิ์
    สวด นะโม สามจบ พร้อม บทสวด พระพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ

    เสร็จแล้วก็รีบถอยออกมา เพราะมีผู้คนมาคอยคิเข้ากราบอีกหลายคน
    ข้างในสุด มีหลวงพี่ หนึ่งองค์ มานั่ง พรมน้ำมนต์ และรับถวายสังฆทาน
    คิวยาวมาก และเราได้ ทำมาหลายวัดแล้ว จึงไม่ได้ ถวายสังฆทานที่นั่น
     
  4. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ออกมายังด้านนอก พบว่ามีศาลาเล็กๆๆ ทางขวามือ
    มีป้ายบอก ให้เช่าวัตถุมงคล และพระเครื่อง
    จึงเลี่ยงเขาไปดูใกล้ๆ มีผู้คนสนใจมุงๆๆกันอยู่ สี่-ห้าคน
    มองเห็นในตู้มีพระให้บูชามากมาย หลายขนาด
    มีทั้ง พระผงและพระเนื้อชิน

    มองเห็นพระพิมพ์นิยมของหลวงพ่อปานที่ฟังเขาเล่ามา

    พิมพ์ ไก่ ช่วยการหากินร่ำรวย เพราะไก่ จิกคุ้ยหากินทั้งวัน
    พิมพ์เม่น ไว้ปป้องกันอันตราย เหมือนเม่นพองขน
    พิมพ์ ปลา เย็นสะบายใจ เพราะปลาอยู่ในน้ำ
    พิมพ์ ครุฑ ไว้ป้องกันอันตราย เพราะครุฑมีฤทธิมาก
    พิมพ์หณุมาน สำหรับคนเข้ารับราชการจะดี

    มาที่นี่มีครบทุกพิมพ์ จึงขอเช่า อย่างละ สอง องค์
    รวมเป็นสิบองค์ องค์ละ 99.-บาท
    ตั้งใจจะเอาไปแจกต่อ คนที่ไม่ได้มา
    .
     
  5. chatyamn

    chatyamn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +4,056
    ใส่แล้วรู้สึกอบอุ่นสบายใจ...เสมือนได้อยู่ใกล้ ๆ กับพระองค์ท่าน...ถึงแม้ภาพท่านจะอยู่ภายในใจแล้วก็ตาม นึกเห็นเมื่อไรก็เห็นได้ทันทีสำหรับพระที่เคยเห็น เคยทำ เคยปิดทอง เคยบูรณะองค์ท่าน และทุกองค์ที่ปรารถจะเห็น.

    ใส่พระเครื่องแล้วให้รู้สึกว่าเราต้องไม่ทำความชั่ว กระทำความดี...เรามีพระองค์ท่านอยู่ใกล้ ๆ ตลอดเวลา...ได้คอยเตือนสติ...ในการคิด ในการกระทำ...ถึงแม้ว่าพระองค์ท่านจะปรินิพพานไปนานแล้วก็ตาม...

    จวบจนดวงจิตนี้จะนิพพานตามพระองค์ท่าน...
     
  6. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    เขาห่อมาให้เป็นถุงเล็กๆๆ
    ก็เอาถือมา พอเดินออกมาก็คิดได้ว่า
    เคยไปหลายวัดที่มีพระเครื่องดังๆๆ
    พบว่า จะมีกลุ่มคนบางกลุ่ม
    ทำพิมพ์พระเครื่องมาถวายวัด
    เป็นพันเป็นหมื่นองค์
    ใส่กล่องใส่ตลับมากมายสวยงาม
    วางกองอยู่ในโบสถ์หรือในกุฏิเจ้าอาวาส
    เขาเอามาถวาย ให้ท่านเสก
    พอเสกแล้วก็นำบางส่วนกลับไป

    วัดก็ได้ของฟรี ที่ผู้คนจะมาเช่า
    วัดได้เงินก็บำรุงวัด รักษาวัดไป
    คนเอากลับไปก็เอาไปให้เช่าที่ พาณิชย์กิจของตน
    เข้าทำนองที่รู้กัน"วัดครื่งหนึ่ง กรรมการครึ่งหนึ่ง"
     
  7. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    คิดได้ดังนี้ ก็หันกลับ เดินเข้าไปในกุฏิแก้วอีกครั้ง
    พอดีว่างคน จึง ทรุดลงนั่ง เอาตลับพระเครื่อง 10 ชุดที่เช่ามา
    วางเรียงตรงหน้า รูปปั้นสีผึ้งของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค

    ก้มลงกราบอธิษฐานในจิต
    " หลวงพ่อ ผม เช่าพระเครื่องชุดดังของหลวงพ่อมา 10 ชุด
    แต่ไม่ใจว่า มีพลังแท้ของหลวงพ่อ หรือหลวงพ่อเสกเองหรือเปล่า
    จึงอยากให้หลวงพ่อเมตตาเสกให้อีกทีให้แน่นอน"

    ยกศีรษะขึ้นจากการก้ม มองดูว่า หลวงพ่อจะว่า ยังไง
    อึดใจใหญ่ๆๆ แสงเงาสีทอง ของหลวงพ่อ
    ค่อยๆๆลอยออกมาจาก รูปปั้นขี้ผึ้ง
    มายืนอยู่ตรงหน้า มองมาอย่างขบขันและเอ็นดู

    ในใจคงจะคิดว่า " ไอ้ นี่ วอนเสียแล้วไหม .ล่ะ!
    แต่ในที่สุดก็ก้มลงเอามือ แตะพระเครื่อง จนครบทุกองค์
    แล้วก็มอง เหมือนจะบอกว่า "เสก ให้แล้วนะ"
    แล้วก็ค่อยลอยอย่างช้าๆๆกลับเข้าไปในรูปปั้น

    ข้าพเจ้าจึงต้องก้มลงกราบอีกครั้ง
    จิตระลึก ถึงความเมตตาของหลวงพ่อ
    ที่อุตส่าหฺเสกใส่พลังให้อีกครั้ง ตามที่เราตั้งจิตปราถนา

    เก้บพระใส่ถุงเหมือนเดิม
    ก้าวออกมาจากกุฏิด้วยใจที่อิ่มเอิบที่ได้รับจาก หลวงพ่อ
    มองหา ญาติที่ไปด้วย เพราะแยกกันไปอีกทาง
    เห็นเดินมาจาก ด้านริมน้ำ
    บอกว่า ไปเลี้ยงปลาหน้าวัด ปลาตัวใหญ่มาก

    จึงเดาเอาว่า น่าจะเป็นปลา สวาย
    เพราะพบว่า วัดส่วนใหญ่ที่มีปลาอยู่หน้าวัด
    เช่น วัด ลานบุญ เขตประเวศ วัด คงคา เขตตลิ่งชัน
    วัด เจดีย์หอย ลาดหลุมแก้ว ฯลฯ
    ล้วนแล้วแต่ เป็นปลาสวาย

    ยกเว้นที่เดียวที่ไม่เหมือนใคร
    คือ ที่วัด กษัตราธิราช อยุธยา
    เป็นปลาตัวเล็กๆๆ ขนาดนิ้วก้อย ว่องไว กระโด โผงผาง
    ไม่เชื่อง จนสามารถเอามือลูบตัวเล่นได้เหมือนวัดที่มีปลาสวายที่ว่า
    แถมยังมีป้ายเขียนไว้ว่าๆ" ห้ามอุ้มยกปลาขึ้นจากน้ำ"
    แสดงว่า ปลาเชื่องมาก จนอุ้มได้

    อ้ออีกที่หนึ่ง คือ ท่องเที่ยวทะเล ตรัง
    ไปที่เกาะกระดาน เกาะเชือก
    พอเราลงไปในน้ำ และมีขนมปังเลี้ยงปลาไปด้วย
    ปลาเสือทะเล จะเข้ามานัวเนียตัวเรา สามารถจับเขาเล่นได้
    มีเป็นร้อยเป็นพันตัว..น่าไปเที่ยวอีกสักที
    ก็เป็นอันจบรายการที่วัด บางนมโค ของหลวงพ่อ ปาน
    ได้พระเครื่องพลังแท้ ติดกลับออกมาด้วย 10 องค์
    จะเอาไปแจกต่อให้คนที่ศรัทรา และอยากได้
     
  8. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    เหลืออีกหนึ่งวัดที่ยังต้องไป
    คือวัดหน้าต่างนอกของหลวงพ่อจง
    เท่าที่ได้สัมผัสพลังของหลวงพ่อจง พบว่า มีกฤติยาแรงมาก
    เจอทีไร ผู้คนที่อยู่รอบข้างมีอาการตัวเกรงกันทั้งนั้น

    ความที่ไม่เคยไป จึง ต้องถามคนที่วัด บางนมโคนั้นเอง
    ก็ได้ความว่า ให้ออกมาทางเดิม แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนใหญ่
    ไปไกลประมาณ 2 กม. ก้จะพบสะพานใหญ่
    พอลงสะพานก็จะเห็นทางเข้าวัด อยู่ทางขวา

    เมื่อได้ความครบก็ขอบคุณเขา
    และออกเดินทางมาตามโพยที่เขาบอก
    ข้างนอกเป็นถนนลาดยางค่อนข้างดี
    มีสองเลน เพราะเป็นถนนระหว่างตำบล

    สองข้างทางเป็นภูมิทัศน์แบบอยุธยา
    คือ เป็นนาข้าว ที่ เห็นร่องรอยการเก็บเกี่ยวที่ ผ่านไป
    บางส่วนก็มีร่องรอยการเผาซางต้นข้าว
    เพื่อ รอการไถกลบในฤดูทำนาที่จะถึงนี้

    ระยะทาง 2กม. จึงใช้เวลาไม่นาน ก็มาถึงสะพานและทางแยก
    มีป้ายบอกชื่อวัด ก็เลี้ยวเข้าไป
    พอเข้ามาก็เห้นวัดอยู่สองข้าง ตรงข้ามกันพอดี
    ก็คิดว่า วัดนี้ อกแตกมีถนนผ่าครึ่ง

    พอมาถึงทางเข้าวัดสองวัดที่อยู่ตรงข้ามกัน จึงได้เห็นว่า
    วัดหน้าต่างนอก อยู่ ทาง ซ้าย เป็นวัดที่เราจะมา
    ส่วนทางขวาเป็นวัดหน้าต่างใน
    คือมีวัด สองวัด ที่เป็นหน้าต่าง นอก กับหน้าต่างใน

    มองดูโดยรอบ พบว่า เงียบผิดปกติ
    ไม่มีผู้คน ไม่มีงาน สงกรานต์ รดน้ำ หรือ อะไร ที่แสดงว่า มีงาน
    มองเห้นรถจอดอยู่ สองสามคัน ใต้ต้นไม้
    ก็เข้าไปจอดบ้าง
    มองเห็นโบสถ้สร้างใหม่ที่ยังไม่เสร็จ คงขาดอีกราว 20 %
    ก็เดินไปดูใกล้ๆๆ พบว่า ก่อสร้างได้สวยงาม
    คงจะได้ใช้ในปีหน้า

    มองดู ผู้คน แทบจะไม่เห็น จึงเดินๆๆไป รอบๆๆวัด
    พบว่า มีคนออกมาจาก ศาลาเล็กๆๆ จึงเข้าไปดู
    ปรากฤว่า เป็นโบสถ์เก่า
    มีพระประธานตั้งเป็นสง่า
    ด้านหน้า เป็นรูปปั้นหุ่นผึ้ง ของหลวงพ่อจง
    ในขนาดเท่า ขนาดจริง
    จึงก้มลงกราบ และสวด นะโม พร้อม บทอิติปิโสภะคะวา
     
  9. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ขณะที่ก้มลงกราบ บรรยากาศ มีความกดดัน
    อันแสดงถึงอำนาจกฤติยาของหลวงพ่อจง
    ลุกขึ้นเข้าไปดูหุ่นขี้ผึ้งอย่างใกล้ชิด
    เพราะไม่เคยเห็นรูปท่านอย่างชัดเจนมาก่อน

    หลวงพ่อ รูปร่างค่อนข้างผอมบางแบบนักเลงโบราณ
    ตัวมีรอยสักยันต์ แสดงถึงความคงกระพัน
    นี่คือ หุ่นขี้ผึ้งของ หลวงพ่อจง แห่งวัดหน้าต่างนอก
    มีคนเอารูปขนาด กระดาษสมุดใหญ่ หรือ ขนาด เอ สาม
    เก่าแก่เกิน 50 ปี ของท่านมาให้ข้าพเจ้า

    พบว่ามีกฤติยาอาคมแรงมาก
    จึงอัญเชิญแขวนไว้ที่บูธ 053 หน้า อตก
    แล้วย้ายไปแขวนอีกที่ ที่ ล๊อค 74 ตรินิตี้ 3

    ขณะที่อยู่ที่ บูธ 053 เมื่อแขวนไว้
    ได้อัญเชิญพลังกฤติยาของหลวงพ่อ
    เข้า เป็นกำแพงมนต์ โดยรอบ บูธทั้ง หก ทิศ
    คือกำแพงสี่ด้าน และบนกับล่างอีกสองทิศ
    ป้องกัน สิ่งชั่วร้าย พลังชั่วร้าย
    ไม่ให้เข้ามาในปริมณฑลของบูธ

    คนที่มีความไว และมีพลังจิต เมื่อเข้ามาในบริเวณ ก็จะรู้สึกได้
    คนที่มีองค์ในที่ไม่ดี และไม่แข็ง เมื่อผ่านเข้ามา จะหลุด ทันที
    บางคนถึงกับสลบ หรือ ดิ้นเหมือนถูกบีบ

    บัดนี้ข้าพเจ้าได้มาอยู่ต่อหน้า หลวงพ่อซึ่งข้าพเจ้านับถือแล้ว
    ด้วยความปิติที่ได้มากราบ.
    .นับว่าเป็นบุญอันสูงสุดอีกครั้งในชีวิต
    กลับออกมา อย่างช้าๆๆ ด้วยความคำนึงถึง
    เรื่องราวที่ได้ผ่านมาในวันสงกรานต์อันเป็นมหามงคล

    โดยเฉพาะ เรื่อง พระเครื่องที่เช่ามาจากวัด บางนมโค
    และรูปลงยันต์ ของหลวงพ่อจง
    จึงทำให้มาคิดว่า
    จริงๆๆ แล้ว
    "เราใส่พะเครื่องกันทำไม..หรือ สักแต่ว่า ใส่"

    อันเป็นกระทู้ที่จะได้เริ่มกัน ตั้งแต่นี้
    และคงจะเป็นหนังยาวอีกครั้ง
    ที่จะมีก่ารตอบการถามกันอย่างมากมาย
    และคงจะเป็นความรู้โดยทั่วไป
    เพราะ นอกจาก บ้าน รถยนต์ มือถือแล้ว
    พระเครื่องก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง
    ที่ เป็นปัจจัยในการดำรงอยู่ในปัจจุบัน
    (ตอนต่อไป...)
     
  10. Seabiscuite

    Seabiscuite เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2004
    โพสต์:
    92
    ค่าพลัง:
    +361
    ใส่เพื่อให้ท่านคุ้มครองค่ะ ยามที่เรารู้สึกจิตใจไม่นิ่งพอ รู้สึกหวาดกลัวในสิ่งที่ไม่น่าจะกลัว จะอธิษฐานจิตถึงท่าน เป็นที่พึ่งและยึดเหนี่ยวจิตใจค่ะ
     
  11. NiNe

    NiNe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,792
    ค่าพลัง:
    +7,482
    ###อ่อน### ใส่พระเครื่องเพียงองค์เดียวเท่านั้น ด้วยเหตุผลหลักที่ว่าคือ ไว้ป้องกันผี เพราะพ่อแก่แม่เฒ่าได้เคยบอกไว้ว่า หากแขวนพระเครื่องไว้ตลอดเวลาแล้ว ภูติผีปีศาจไม่กล้าเข้าใกล้ และนอนหลับฝันดี
     
  12. koymoo

    koymoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    2,067
    ค่าพลัง:
    +7,066
    ตอนเด็กๆมากๆใส่เพราะแม่บังคับให้ใส่ แต่ตอนนี้ใส่เพราะต้องการความปลอดภัย เป็นสิริมงคลในทุกๆเรื่อง ป้องกันภูติผีปีศาจ และก็ทำให้เรามีกำลังใจ หรืออุ่นใจที่เราจะทำการอะไรค่ะ
     
  13. ronny

    ronny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +271
    พระเครื่องเหมือนแบตตารี่ต้องเชื่อมโยงด้วยจิตเพื่อให้แผ่พลังฌานเป็นพลังงานจลย์ค้มครองเรา เป็นรัศมีไกล้ไกลแล้วแต่ความบรืสุทธ์ของผู้อธิษฐาณจิต
     
  14. Zantha

    Zantha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +234
    ใส่เพื่อความอุ่นใจของพ่อและแม่ ว่ามีพระคุ้มครอง (อุ่นใจตัวเองด้วย)
     
  15. xyuno

    xyuno Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +54
    ผมไม่รุหรอกครับว่าใส่เพื่ออะไรแต่ใส่มาตั้งแต่เด็กๆแล้ว ก็เลยใส่เรื่อยๆมาจนปัจจุบัน
     
  16. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    สาธุขออนุโมทนาด้วยครับ ผมคิดว่าเราห้อยพระเครื่องไปก็ไม่เสียหายอะไรเป็นสิ่งที่ดีและเกิดความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเราครับ(แต่สิ่งสำคัญก็คือเราต้องพยายามประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่ดีๆด้วยครับ) _/\_
     
  17. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ตอนที่ 1 ทำไมต้องใส่หรือแขวนพระเครื่อง

    ที่ใช้คำว่าใส่ เพราะจะเป็นคำรวม
    บางคนห้อยไว้ที่คอ บางคน เหน็บไว้ที่ขอบกระเป๋าเสื้อ
    สุภาพสตรีบางคนเหน็บไว้ที่ขอบ เสื้อใน หรือบราเซียร์
    และมิใช่น้อยใส่ในกระเป๋าสตางค์
    บางคนห้อยไว้ที่พวงกุญแจ

    เหตุผลที่ใส่ มีสารพัด
    แม่ให้ใส่ตั้งแต่เด็ก เพราะ กลังลูกจะตาย
    และมักจะเป้นพระดังๆๆ พื้นๆๆเช่น หลวงปู่โต
    หลวงพ่อทวด หลวงพ่อโสธร และทันสมัยหน่อยก็ หลวงพ่อคูณ
    มีไม่ใช่น้อยที่ได้มาพร้อมซองกระฐิน
    ก็ใส่กันไป ตามศรัทรา

    ใส่เพราะ คิดว่า พระคุ้ม โดยเพาะพวก กลุ่มที่ ขวัญอ่อน กลัวผี
    กลุ่มนี้ จะหาพระเครื่องที่ มั่นใจว่า มีพลังและขลังจริงๆๆ

    ใส่เพราะคิดว่า ป้องกันภัยจาก อาวุธ ปืนและของมีคม
    ใส่ทั้งคนดี (ตำรวจ) ทั้ง คนไม่ดี ( เสือปล้น) ฯลน
    กลุ่มนี้ จะแสวงหา พระเครื่อง เก่า ขุดจากกรุ
    ที่คงกระพัน เช่น พระผงสุพรรณ นางพญา ขุนแผน หลวงพ่อโตวัดระฆัง วัดเกศไชโย บางขุนพรหม พระร่วง วัดถ้ำเสือ บ้านกร่าง รวมทั้ง ชุดเบญจภาคี
    ฯลฯ

    ใส่เพราะเชื่อในพลัง
    เพราะ คนบางกลุ่ม สามารถ สัมผัส พลังได้
    เลือกได้ และมักจะใส่ให้ครบ ทั้ง แคล้วคลาด เมตตามหานิยม โชคลาภ
    ป้องกันคุณไสย พุทธบารมี
    และจะใส่อย่างละองค์ ให้มีพลังกฤติยาครบ
    ไม่ใส่มากมาย เกินความจำเป็น
    รู้ว่า พระเครื่องจะไม่แย่งกันออกมาทำงาน
    มัประเภทละองค์ก้พอ

    กลุ่มเศรษฐ๊ จะใส่พระเครื่องที่มีราคาแพง
    เป็นการแข่งขัน เพื่ออวดบารมี ว่า ฉันมีครบ และสวยด้วย
    ผ่านงานประกวดมามากมาย ได้รางวัลตลอด
    มีการผ่องถ่ายกันที ราคาขยับขึ้น เป็นหลัก ล้าน หลักสิบล้าน
    ใสซ้ำๆๆกฤติยา โดยเฉพาะ ชุดเบญจภาคี ที่ ทั้งหมด เกือบจะเป็น คงกระพัน ป้องกันอาวุธ และของมีคม
    เป็นพระทีมีพบังร้อน ถ้าแขวนเพียงองค์เดียวก็ น่าจะพอ
    แขวนทั้งชุด จะเหมือนมีเตาเผาหัวใจ รนปิ้งหัวใจทุกวัน ทุกเดือน ทั้งปี
    หัวใจจะไหม้ วายไปเสียก็มากแล้ว

    วิธีดูว่า ใส่ถูกใหม ให้ลองถอดออกแล้วดูว่า ตัวสะบายขึ้นใหม
    คนที่ใส่พระเคื่อง แล้ว ตัวแดง หน้าแดง เหมือนร้อนใน ตากแดดมา
    นั่นแปลว่า ใส่พระผิด จะอายุสั้น
     
  18. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ตอนที่ 2 สร้างพระเครื่องกันอย่างไร

    ในยุคต้นๆๆของ ประเทศชนกลุ่มไทยน้อย โดยเฉพาะยุค กรุงสุโขทัย
    อิทธิพลของ เขมรหรือ ขอม ยังมากอยู่ พระเครื่องที่สร้างกันจึง เป็นไปทางไศวะนิยม หรือ คุณไสย ป้องกันคุณไสย การเล่นของ

    ต่อมาในยุค กลางของกรุงศรีอยุธยา
    มีการรบกับพม่ารามัญเป็นประจำ
    จนกรุงศรีอยุธยาแตก สองครั้ง
    พระเครื่องที่สร้างขึ้นมา จึง เน้นไปทาง ป้องกัน อาวุธและของมีคม
    เพื่อการศึกโดยเฉพาะ

    ต่อมายุคกลางของ กรุงรัตนโกสินทร์
    เริ่มมีการใช้เรือยนต์ ยานยนต์ เครื่องบินเริ่มมีอุบัติเหตุ
    พระเครื่องจึงสร้างเน้นไปทางแคล้วคลาด ปลอดภัย

    และในยุคปัจุบัน ต้องต่อสู้กับเศรษฐกิจ
    พระเครื่องจึงเน้นไปทางเศรษฐกิจ ขอให้รวย ๆๆ
    เช่น พระเครื่อง ของ หลวงพ่อคูณ ฯลฯ

    และในอนาตคอันใกล้ มนุษย์จะเดินทางท่อง อวกาศ
    เดินทางระหว่างดวงดาว
    ตอนนั้น พระเครื่อง จะเน้น ทางด้านใดดี ????
    ใครรู้บ้าง....
     
  19. YoKee

    YoKee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2005
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +225
    ^
    ^
    ถ้าไปท่องอวกาศจริงตามที่ว่า ก็คงต้องใส่ พระมนุษย์ต่างดาวล่ะครับ เนื้อพระทำมาจากดินดาว m78 มีพลังด้านการยิงลำแสงอุลตร้าบีม
     
  20. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    อืม.....รุนแรงขนาดนั้นเลยรึครับ!!ขอบคุณมากนะครับได้ความรู้ใหม่อีกแล้ว _/\_<!-- / message -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...