ช่วยไขปัญหาทีนะคะ เพราะยิ่งปล่อยไว้นานยิ่งบาปมาก

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย suikadream, 21 ตุลาคม 2009.

  1. suikadream

    suikadream สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +9
    สวัสดีค่ะ

    ดิฉันมีปัญหาหนักใจมากเลย
    ครอบครัวของดิฉัน มีด้วยกัน 5 คน
    ประกอบด้วย พ่อ แม่ และลูกชาย3 คน
    ซึ่งตัวดิฉันก็เป็นลูกชาย (แต่จิตใจเป็นหญิง จนตอนนี้ก็ดูเป็นหญิงมากเลย)
    พ่อ แม่ของดิฉันมีลูกห่างกันพอสมควร
    ดิฉันเป็นลูกคนโต ห่างจากน้องคนกลาง 7 ปี และห่างจากน้องคนเล็ก 10 ปี
    ปัญหามีอยู่ว่า ครอบครัวของดิฉันมักจะมีเรื่องถกเถียงกันอยู่ตลอดเวลาเลย
    โดยเฉพาะลูก3 คน มักจะพูดจากไม่ลงรอบกับแม่เลย
    จะถกเถียงกับแม่อยู่ตลอดเวลา จนแม่ต้องร้องไห้ รู้ทั้งรู้ว่าบาป แต่ก็ไม่ยอมที่จะลดละ

    ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไรค่ะ ช่วยไขปัญหาทีคะ
     
  2. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,275
    ค่าพลัง:
    +82,733
    อนุโมทนาในจิตอันเป็นกุศลของคุณค่ะ
    แต่จะช่วยอย่างไรดีล่ะคะ

    เอาเป็นว่าอะไรที่ไม่ควรพูด และเรารู้ว่าไม่ดี เราพูดในใจแทนได้มั้ยคะ..
    (ซึ่งก็ไม่ดีเหมือนกันค่ะ..แต่อย่างน้อยคุณแม่ก็ไม่เสียใจ..
    เราไปเขียนระบายในกระดาษแทนนะคะ..)
     
  3. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,275
    ค่าพลัง:
    +82,733
    ที่โรงเรียน มีเด็กผู้ชายที่มีจิตใจเป็นหญิงเยอะมากค่ะ
    ทุกคนล้วนแต่อ่อนหวาน น่ารัก กิริยามารยาทเรียบร้อย
    ดิฉันรักเด็กๆเหล่านั้น จนคิดว่า ถ้าเป็นลูกของเรา คงจะดีไม่น้อย
     
  4. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,275
    ค่าพลัง:
    +82,733
    การถกเถียงกัน ทำได้นะคะ แต่ต้องเลือกถ้อยคำที่ไพเราะ อ่อนหวาน และมีเหตุผลนะคะ
    ดิฉันชอบคนที่คิดต่างและกล้าที่จะแสดงความคิดนั้นออกมา
    เพราะทำให้เราเข้าใจกัน..
    และทราบว่า เราควรทำอย่างไร เค้าจึงจะมีความสุข
     
  5. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,275
    ค่าพลัง:
    +82,733
    คุณลองหาโอกาสเหมาะๆ
    โอกาสในการแสดงความรักที่มีต่อแม่อย่างแยบยล
    หอมแก้มท่าน
    โอบกอดท่าน
    หาอาหารที่ท่านโปรดมาให้ท่านทาน
    คุณแม่ทุกคนรักลูกนะคะ
    แต่วิธีแสดงความรักของแม่แต่ละคนไม่เหมือนกัน
     
  6. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,275
    ค่าพลัง:
    +82,733
    ดิฉันส่งกำลังใจมาช่วยนะคะ..
     
  7. jarung18

    jarung18 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +655
    มีสติจ้า

    คิดดีแล้วนี่นา
    เหลือแต่คิดให้ทันก่อนพูดล่ะ

    :)
     
  8. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,129
    อยากให้ทุกคนมีความสุข หันหน้าเข้าหาธรรมครับ

    ทำบุญทำทาน ตักบาตร คงจะทำกันอยู่เรื่อย ๆ

    ศีล ๕ ... อยากให้สมาทานศีล ๕ สวดมนต์ ให้บ่อย ๆ โดยเริ่มจากตัวคุณ ทำให้เป็นตัวอย่างของครอบครัว

    อ่านธรรมะบ่อย ๆ คุยกับท่านผู้รู้ทางธรรม บ่อย ๆ จะช่วยให้ดีขึ้นครับ

    มนุษย์เกิดมามีสุขและทุกข์คละกันไป ไม่มีใครไม่มีทุกข์

    ทำอย่างไร ให้ทุกข์นั้นไม่ทำให้ ใจเราเศร้าหมอง ... ศึกษาธรรมะนะครับ จะช่วยให้ดีขึ้นครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 ตุลาคม 2009
  9. pump - อภิเตโช

    pump - อภิเตโช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,202
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,803
    เอานี่ให้น้องๆ อ่านนะครับ

    > “หากพรุ่งนี้ไม่มี......แม่ ?”<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    ><o:p> </o:p>
    > วันนี้ลูกๆหลายคนอาจจะกำลังอยู่กับพ่อกับแม่ในครอบครัวที่แสนสุข<o:p></o:p>
    > ในอ้อมกอดที่อบอุ่นของแม่ ในการเลี้ยงดูเอาใจใส่เป็นอย่างดีจากแม่<o:p></o:p>
    > อยากได้อะไรมีแม่คอยจัดหาให้ อยากกินอะไรมีแม่คอยหามาให้กิน<o:p></o:p>
    > อยากเที่ยวที่ไหนแม่ก็พาไปเที่ยว อยากเรียนอะไรแม่ก็ส่งเสียให้เรียน<o:p></o:p>
    > อยากทำอะไรแม่ก็คอยส่งเสริมสนับสนุนให้ทำอยู่ตลอดมา <o:p></o:p>
    > ลูกๆหลายคนได้รับความสุข<o:p></o:p>
    > สะดวก สบาย สมบูรณ์พูนสุขในทุกๆด้าน<o:p></o:p>
    > ไม่ว่าจะเป็นด้านชีวิตความเป็นอยู่ที่สุขสบาย<o:p></o:p>
    > เงินทองที่ใช้จ่ายได้ตามใจปรารถนา<o:p></o:p>
    > พร้อมทั้งการศึกษาที่ดีในสถาบันที่มีชื่อเสียง ความสมบูรณ์<o:p></o:p>
    > ความสุขสบายที่ลูกได้รับอย่างสุขเกษมเปรมปรีดทุกวันนี้ได้มาจากใคร..................?<o:p></o:p>
    ><o:p> </o:p>
    > วันนี้ยังมีลูกๆหลายคนไม่ได้อยู่กับพ่อกับแม่ในครอบครัวที่อบอุ่น<o:p></o:p>
    > ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า เป็นเด็กเร่ร่อน เป็นเด็กจรจัด นอนตามป้ายรถเมล์<o:p></o:p>
    > เร่ขอทานเก็บเศษอาหารประทังชีวิตไปวันๆ ต้องทนทุกข์ทรมาน<o:p></o:p>
    > เดียวดายไร้ความอบอุ่นหว้าเหว่ห่อเหี่ยวในหัวใจขาดที่พึ่งพาอาศัยต้องตะเก<o:p></o:p>
    > ียกตะกายต่อสู้ในโลกที่โหดร้ายมีแต่แก่งแย่งแข่งขัน<o:p></o:p>
    > ชิงดีชิงเด่น เล่นพรรคเล่นพวก คิดเอาแต่ประโยชน์ส่วนตัว<o:p></o:p>
    > เพื่อให้มีชีวิตอยู่ไปวันๆ<o:p></o:p>
    ><o:p> </o:p>
    > หากพรุ่งนี้ไม่มี.......แม่? โบราณว่า ขาดพ่อเหมือนถ่อหัก<o:p></o:p>
    > ขาดแม่เหมือนแพแตก”<o:p></o:p>
    ><o:p> </o:p>
    > ชีวิตของลูกคงกระจัดกระจายไร้ทิศทาง ไร้อนาคต ไร้การศึกษา<o:p></o:p>
    > กลายเป็นเด็กมีปัญหา เป็นภาระของสังคม <o:p></o:p>
    > คงต้องทุกข์ทรมานอย่างหาประมาณมิได้<o:p></o:p>
    > หากเปรียบชีวิตเหมือนการข้ามฝั่งในแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวกราก<o:p></o:p>
    > เต็มไปด้วยอันตรายรอบด้าน ซึ่งต้องอาศัยแพและไม้ถ่อข้ามฝั่ง<o:p></o:p>
    > เพื่อไปสู่เป้าหมายอย่างปลอดภัย หากเปรียบไปก็เหมือนพ่อกับแม่<o:p></o:p>
    > ถ่อเปรียบเสมือนพ่อ แพเปรียบเสมือนแม่<o:p></o:p>
    > ถ้าถ่อหักก็ยังสามารถใช้มือหรือเท้าพายแทน แต่ก็ต้องทุลักทุเลพอควร<o:p></o:p>
    > มีโอกาสถึงฝั่ง 50-50 แต่หากแพต้องแตกหรืออับปางกลางแม่น้ำ<o:p></o:p>
    > โอกาสที่จะถึงฝั่งก็คงลางเลือนและริบหรี่เต็มประดา อาจต้องจมน้ำตาย<o:p></o:p>
    > หรือเป็นอาหารของสัตว์ร้ายได้<o:p></o:p>
    ><o:p> </o:p>
    > เปลวเทียนละลายแท่ง เพื่อเปล่งเสียงอันอำไพ ชีวิตมะลายไป <o:p></o:p>
    > เหลือสิ่งใดไว้ทดแทน<o:p></o:p>
    > หากเปรียบเทียนที่จุดขึ้นเหมือนกับชีวิตแม่ของเรา<o:p></o:p>
    > เทียนเล่มนี้มันส่องแสงให้มากเท่าใด ลำเทียนเองก็จะสั้นลง ๆ<o:p></o:p>
    > คล้ายดังชีวิตแม่ที่ให้ลูกมากแค่ไหน อายุของแม่ก็จะสั้นลง ๆ<o:p></o:p>
    > อายุที่ได้มาก็คือเวลาที่เสียไป <o:p></o:p>
    > ยิ่งลูกมีความเจริญรุ่งโรจน์มากขึ้นเท่าใด<o:p></o:p>
    > ชีวิตแม่ก็ยิ่งแก่ลงและหดหายลงไปเท่านั้น<o:p></o:p>
    > บางครั้งเทียนมันก็ลุกโชติช่วงชัชวาล บางครั้งก็ริบหรี่หือไม่ก็ดับ<o:p></o:p>
    > แล้วน้ำตาเทียนก็ไหลหยดย้อยเหมือนหยาดน้ำตาของผู้เป็นแม่ของเรา<o:p></o:p>
    > ในที่สุดเทียนที่จุดขึ้นก็จะเหลือเพียงไส้ดำ ๆ<o:p></o:p>
    > วาระสุดท้ายของแม่เราก็จะเป็นอย่างนี้ <o:p></o:p>
    > แม่จะเหลือเพียงกระดูกที่เป็นเถ้าถ่าน<o:p></o:p>
    > ให้ลูกน้อยไปรับที่เชิงตะกอน<o:p></o:p>
    ><o:p> </o:p>
    > หากพรุ่งนี้ไม่มี........แม่?<o:p></o:p>
    ><o:p> </o:p>
    > แม่ผู้ให้ทุกสิ่งทุกอย่างแก่ลูก แม่ผู้ยอมอด เพื่อให้ลูกอิ่ม<o:p></o:p>
    > แม่ผู้ที่ยอมทุกข์เพื่อให้ลูกสุข แม่ผู้ที่ยอมลำบากเพื่อให้ลูกสบาย<o:p></o:p>
    > แม่ผู้ที่ยอมตายเพื่อให้ลูกมีชีวิตอยู่<o:p></o:p>
    > แม่ผู้ที่รักเป็นห่วงเป็นใยและเฝ้าถามลูกอยู่เสมอ เหนื่อยไหมลูก? หิวไหมลูก?<o:p></o:p>
    > ลูกอยากทานอะไร? ลูกอยากได้อะไรบอกแม่มา...แม่จัดให้? แล้วลูกละ<o:p></o:p>
    > เคยถามแม่บ้างหรือเปล่า?<o:p></o:p>
    ><o:p> </o:p>
    > ลูกบางคน ยามแม่มีชีวิตอยู่ ไม่เคยเลยที่จะรักษาน้ำใจท่าน<o:p></o:p>
    > ไม่เคยเลยที่จะเลี้ยงดูใจท่าน ทำให้ท่านสบายอกสบายใจ<o:p></o:p>
    > ท่านได้เรามาเป็นลูกรู้ไหมท่านดีใจมากขนาดไหน?<o:p></o:p>
    ><o:p> </o:p>
    > ลูกวัวลูกควายซึ่งเป็นสัตว์เดรัจฉาน มีคุณธรรมน้อย <o:p></o:p>
    > เมื่อโตขึ้นเลิกกินนมแม่<o:p></o:p>
    > วิ่งเล่นไปมาเอาลำตัวถูไถคลอเคลียแม่มันเล่น แล้วก็เดินจากไป <o:p></o:p>
    > เราอาจสรุปว่า<o:p></o:p>
    > ลูกวัวตัวนั้นไม่ดี ไม่มีความกตัญญู สู้ลูกคนไม่ได้<o:p></o:p>
    ><o:p> </o:p>
    > แต่ร้อยทั้งร้อยของเจ้าสัตว์เดรัจฉานตัวนี้เมื่อมันโตขึ้นและทิ้งแม่ไป<o:p></o:p>
    > มันจะไม่เถียงแม่ ไม่ตวาดแม่ ไม่ตีแม่ ไม่กระทืบเท้าใส่แม่<o:p></o:p>
    > และที่สำคัญมันจะไม่ขยี้หัวใจแม่ของมัน.....<o:p></o:p>
    ><o:p> </o:p>
    > แต่ลูกคนบางคนกลับมีแต่คอยสร้างความทุกข์ใจให้แก่ท่าน<o:p></o:p>
    > มีแม่หลายคนที่ระทมขมขื่นเสียใจเพราะลูก ต้องแอบร้องให้ประจำ<o:p></o:p>
    > ถึงแม้แม่จะได้รับความทุกข์ทรมานจากลูกเพียงใด แม่ก็ยังรัก<o:p></o:p>
    > แม้บางครั้งมีใครบอกว่า ลูกของแม่ชั่ว ลูกของแม่เลว แม่ก็จะไม่เชื่อ<o:p></o:p>
    > ลูกของฉันไม่เป็นอย่างนั้น ลูกของฉันเป็นคนดี ดีชั่วก็ลูก ผิดถูกก็เลือด<o:p></o:p>
    > จะเฉือนจะเชือดได้อย่างไรกัน<o:p></o:p>
    ><o:p> </o:p>
    > บางคนเอาแต่สนุก เชื่อเพื่อนมากกว่าเชื่อแม่ รักแฟนมากกว่ารักแม่<o:p></o:p>
    > เคารพเมียมากกว่าเคารพแม่ เลี้ยงเพื่อนฝูงมากกว่าเลี้ยงแม่<o:p></o:p>
    > โทรหาแฟนมากกว่าโทรหาแม่ คุยกับแฟนทั้งวันทั้งคืน<o:p></o:p>
    > แต่คุยกับแม่แป๊บเดียวตอนขอตังค์<o:p></o:p>
    > แม่หลายคนช่างโชคร้ายนักเลี้ยงลูกมาตั้งหลายคน<o:p></o:p>
    > แต่ลูกเหล่านั้นไม่สารถที่จะเลี้ยงพ่อแม่ได้เลย<o:p></o:p>
    > ปล่อยให้แม่ไปอยู่ตามบ้านพักคนชรา สถานสงเคราะห์ผู้สูงอายุ <o:p></o:p>
    > ทิ้งไว้ตามวัดบ้าง<o:p></o:p>
    > ปล่อยแม่ไว้กับหมากับแมว ไม่เคยดูแลไม่เคยสนใจ ขนมซักชิ้นหนึ่ง<o:p></o:p>
    > น้ำสักแก้วหนึ่ง เงินสักบาทไม่เคยเลย ที่จะให้แม่ มีแต่จะเอา ทรัพย์สิน <o:p></o:p>
    > มรดก<o:p></o:p>
    > เงินประกัน บางคนถึงขนาดแช่งให้แม่ตายเร็วๆเพื่อตัวเองจะได้มรดก<o:p></o:p>
    ><o:p> </o:p>
    > หากพรุ่งนี้ไม่มี.....แม่?<o:p></o:p>
    ><o:p> </o:p>
    > ถ้าเย็นนี้คุณแม่ตายไปคุณแม่จะได้อะไรจะได้เพียงแต่ข้าวต้มถ้วยเดียวและน้<o:p></o:p>
    > ำเปล่าครึ่งแก้ว<o:p></o:p>
    > ใส่ถาดเอาไปวางไว้ข้างโลงศพเท่านั้นหรือ<o:p></o:p>
    > แล้วลูกชายลูกหญิงผู้โง่เขลาก็จะไปเคาะข้างโลง<o:p></o:p>
    > พร้อมกับพูดว่า แม่จ๋าลุกขึ้นมากินข้าวเถอะ<o:p></o:p>
    > แม่จ๋าลุกขึ้นมากินน้ำเถอะ<o:p></o:p>
    > แม่จ๋าพระมาแล้วฟังสวดนะแม่นะ”<o:p></o:p>
    ><o:p> </o:p>
    > แต่ในขณะที่แม่มีชีวิตอยู่ เราจะได้ยินแต่คำว่า<o:p></o:p>
    > “ลูกจ๋าลูกหิวหรือเปล่า ?<o:p></o:p>
    > ลูกต้องการอะไรหรือเปล่า?<o:p></o:p>
    > ลูกจ๋าลูกไม่สบายหรือเปล่า?”<o:p></o:p>
    ><o:p> </o:p>
    > จะมีลูกซักกี่คนที่จะถามแม่เช่นนั้น<o:p></o:p>
    > หรือจะรอให้แม่ตายไปซะก่อนแล้วค่อยถามอย่างนั้นหรือ เรารักสิ่งใด<o:p></o:p>
    > เราจะถนอมสิ่งนั้น รักษาสิ่งนั้น แล้วมันจะอยู่กับเรานาน ถ้าเรารักแม่<o:p></o:p>
    > ต้องถนอมน้ำใจท่าน รักษาใจท่าน ถามท่านต้องการอะไร? ท่านอยากไปไหน?<o:p></o:p>
    > ท่านอยากทานอะไร? ท่านเจ็บตรงไหนปวดที่ใด?<o:p></o:p>
    ><o:p> </o:p>
    > ตอนที่แม่มีชีวิตอยู่ไม่เคยสนใจท่านเลย<o:p></o:p>
    > แต่พอคุณแม่ตายลงนำร่างที่ไร้วิญญาณของแม่ไปใส่โลงทองอย่างดี<o:p></o:p>
    > เอาไปไว้วัดแล้วนิมนต์พระมาสวด 7 วัน 7 คืน<o:p></o:p>
    > หวังว่าดวงวิญญาณของแม่จะไปสู่สุขคติโลกสวรรค์ <o:p></o:p>
    > นี่หรือคือสิ่งที่เรามอบให้แม่<o:p></o:p>
    ><o:p> </o:p>
    > จัดห้องนอนให้แม่ ตอนที่แม่มีชีวิตอยู่แม้ครั้งเดียว<o:p></o:p>
    > ยังดีกว่าจัดงานศพใหญ่โตเมื่อแม่สิ้นชีวิต<o:p></o:p>
    ><o:p> </o:p>
    > มอบดอกไม้สักดอกให้แม่ ตอนมีชีวิตอยู่<o:p></o:p>
    > มีค่ากว่าพวงหรีดหลายร้อยพวงที่ประดับข้างโลงศพแม่<o:p></o:p>
    ><o:p> </o:p>
    > หาน้ำเย็นๆให้แม่ดื่ม ทำอาหารดีๆให้แม่กิน<o:p></o:p>
    > มีค่ากว่าจัดอาหารอันประณีตไปวางข้างโลงศพท่าน<o:p></o:p>
    ><o:p> </o:p>
    > โทรศัพท์หรือจดหมาย ไปถามไถ่ท่านบ้าง ดีกว่าจัดงานบุญใหญ่โตอุทิศให้ท่าน<o:p></o:p>
    > ทำความดีมีความกตัญญูต่อแม่ ขณะมีชีวิตอยู่<o:p></o:p>
    > ประเสริฐกว่าการสำนึกบุญคุณได้เมื่อท่านตายจากแล้ว<o:p></o:p>
    ><o:p> </o:p>
    > หากพรุ่งนี้ไม่มี......แม่<o:p></o:p>
    ><o:p> </o:p>
    > ใครจะมาดูแลเรา มาสนใจรักเรา มาเป็นห่วงเป็นใยเราเท่ากับคุณพ่อคุณแม่<o:p></o:p>
    > ไม่มีอีกแล้วในโลกนี้ รักใดไหนเล่าเท่าแม่รัก เป็นรักที่บริสุทธิ์ใจ<o:p></o:p>
    > เป็นรักที่ยิ่งใหญ่ เป็นรักที่แท้จริง<o:p></o:p>
    ><o:p> </o:p>
    > อันรักใดไหนเล่าเท่ารักลูก จิตพันผูกสายเลือดสืบเชื่อสาย<o:p></o:p>
    > เป็นความรักบริสุทธิ์ดุจใจกาย เป็นเครื่องหมายประจักษ์รักซื่อตรง<o:p></o:p>
    ><o:p> </o:p>
    > อ่านบทความนี้จบแล้วเย็นนี้ไปกราบตักท่าน<o:p></o:p>
    > ไปดูดวงตาท่านสิว่าท่านมีความสุขหรือมีความทุกข์ ไม่ <o:p></o:p>
    > ต้องอายในการทำความดี<o:p></o:p>
    > มีอะไรช่วยท่านได้ช่วยเลยอย่านิ่งดูดาย <o:p></o:p>
    > ถ้าวันนี้ไม่แสดงความกตัญญูต่อท่าน<o:p></o:p>
    > อาจจะไม่มีโอกาส ตอนที่แม่มีชีวิตอยู่<o:p></o:p>
    > แล้วจะไปอ้อนวอนตอนที่แม่มีแต่ร่างซึ่งไร้วิญญาณแล้วคงไม่มีความหมาย<o:p></o:p>
    > น้ำเย็นๆสักแก้วเอาไปให้ท่านดื่ม เสื้อผ้าดีๆสักชุด เป็นลูกที่ดีสักคน<o:p></o:p>
    > สามารถต่อชีวิตแม่ได้เป็นปี ๆ <o:p></o:p>
    > อย่าเอาไปให้ท่านดื่มตอนที่ท่านไม่มีชีวิตแล้ว<o:p></o:p>
    > มันไม่มีประโยชน์อะไร<o:p></o:p>
    ><o:p> </o:p>
    > ให้ของขวัญแก่แม่นับแต่นี้ ด้วยทำดีต่อพ่อแม่ตอนแก่เฒ่า<o:p></o:p>
    > ให้ท่านได้ประจักษ์รักของเรา ดีกว่าเฝ้าทำบุญให้เมื่อวายชนม์<o:p></o:p>
    ><o:p> </o:p>
    > อย่าให้ความสำคัญกับแม่ผู้มีพระคุณเฉพาะในวันแม่ 12 สิงหาคม เท่านั้น<o:p></o:p>
    > แต่จงทำทุกวันให้เป็นวันแม่<o:p></o:p>
    > เหมือนกับความรักที่แม่มีให้ลูกทุกๆวันตั้งเกิดจนตาย<o:p></o:p>
    > หมั่นดูแลรักษาจิตใจของท่านให้ดี<o:p></o:p>
    > เพราะเราสามารถมีแม่ได้เพียงคนเดียวเท่านั้นในโลกนี้<o:p></o:p>
    ><o:p> </o:p>
    > อย่าปล่อยให้หญิงแก่ๆ คนหนึ่งที่รักเรามากที่สุดในโลก<o:p></o:p>
    > ต้องอยู่ในความโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงาที่โหดร้าย<o:p></o:p>
    > ต้องตรมใจตายเพราะลูกๆที่เธอรักแต่ไม่รัก<o:p></o:p>
    ><o:p> </o:p>
    > เธอ..................หากพรุ่งนี้ไม่มี...........แม่?<o:p></o:p>
    ><o:p> </o:p>
    > ขอบูชาและเทิดทูนพระคุณแม่ของแผ่นดิน<o:p></o:p>
    > ขออุทิศความดีจากบทความนี้ให้แด่คุณแม่ทุกๆคน<o:p></o:p>
    ><o:p> </o:p>
    > By: พระมหาประดิษฐ์ จิตฺตสํวโร<o:p></o:p>
     
  10. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,129
    วิธีใช้หนี้พ่อแม่ ฉบับหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน

    ใครกลับบ้านไปหาพ่อแม่จะได้มีของไปเยี่ยมท่านที่ถูกที่สุด
    แต่ดีที่สุดในโลกของการเป็นลูกของพ่อแม่ เป็นคำสอนของ...
    หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี


    วิธีใช้หนี้พ่อแม่

    1. จงสร้างความดีให้กับตัวเอง และนี่ก็เป็นการใช้หนี้ตัวเอง ตัวเราพ่อให้หัวใจ แม่ให้น้ำเลือดน้ำเหลืองอยู่ในตัวแล้ว จะไปแสวงหาพ่อที่ไหน จะไปแสวงหาแม่ที่ไหน บางคนรังเกียจแม่ ว่าแก่เฒ่าไม่สวยไม่งาม พอตัวเองแก่ก็เลยถูกลูกหลานรังเกียจ จึงเป็นกงกรรมกงเกวียนยืดเยื้อกันต่อไปอีก

    2. ใครที่คุณแม่ล่วงลับไปแล้ว ก็ให้หมั่นทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ท่าน และถ้าจะทำบุญด้วยการเจริญกรรมฐาน แล้วอุทิศส่วนกุศลไป การทำเช่นนี้ถือว่าได้บุญมากที่สุด ทั้งฝ่ายผู้ให้และผู้รับ

    3. ผู้ใดก็ตาม ที่คุณแม่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ให้กลับไปหาแม่ ไปกราบเท้าขอพรจากท่าน จะได้มั่งมีศรีสุข ส่วนคนที่เคยทำไม่ดีไว้กับท่าน ก็นำเทียนแพไปกราบขออโหสิกรรม ล้างเท้าให้ท่านด้วย เป็นการขอขมาลาโทษฯ

    4. ขอฝากท่านไว้ไปสอนลูกหลาน อย่าคิดไม่ดีกับพ่อแม่เลย ไม่ต้องถึงกับฆ่าหรอก แค่คิดว่าพ่อแม่เราไม่ดี จะทำมาหากินไม่ขึ้น เจ๊ง ท่านต้องแก้ปัญหาก่อนคือ ถอนคำพูด ไปขอสมาลาโทษเสีย แล้วมาเจริญกรรมฐาน รับรองสำเร็จแน่ มรรคผลเกิดแน่ฯ

    5. บางคนลืมพ่อลืมแม่ อย่าลืมนะการเถียงพ่อเถียงแม่ไม่ดี ขอบิณฑบาต สอนลูกหลานอย่าเถียงพ่อเถียงแม่ อย่าคิดไม่ดีกับพ่อกับแม่ ไม่อย่างนั้นจะก้าวหน้าได้อย่างไร ก้าวถอยหลังดำน้ำไม่โผล่ฯ

    ท่านยกตัวอย่าง (เรื่องจริงนะจ๊ะ)

    ตัวอย่างที่ 1 บ้านหนึ่งพ่อมีเมีย ๔ คน เมียหลวงบอกลูกว่าพ่อเจ้าไม่ดี ลูกก็ไปด่า
    พ่อว่าพ่อ แล้วมาบวชวัดนี้ บวชแล้วเดี๋ยวเป็นโน่นเป็นนี่ จนจะกลายเป็นโรคประสาท นี่แหละบวชก็ไม่ได้ผล หลวงพ่อก็ให้ไปถอนคำพูด และขอสมาลาโทษกับพ่อเขาก่อน แล้วกลับมานั่งกรรมฐานจึงได้ผล (กรณีนี้ หลวงพ่อจะเตือนผู้เป็นลูกบ่อยๆไม่ให้ว่าพ่อ แต่ให้เป็นเรื่องของแม่ที่จะแก้ปัญหานี้ ซึ่งหลวงพ่อสอนไว้แล้ว : ผู้รวบรวม)

    ตัวอย่างที่ 2 เมื่อเร็วๆนี้ฆ่าพ่อตาย แม่สงสารพามาเจริญกรรมฐาน พอเข้าวัดมันร้อนไปหมด ปวดหัวเข้าไม่ได้นี่เวรกรรมตามสนอง ปิตุฆาต มาตุฆาต ห้ามสวรรค์ ห้ามนิพพาน ทำกรรมฐานไม่ได้แน่นอน ต้องหันรถกลับ นี่เรื่องจริงในวัดนี้ ฯ

    6. คนที่มีบุญวาสนา จะกตัญญูกับพ่อแม่ คนเถียงพ่อเถียงแม่เอาดีไม่ได้…….. คนไม่พูดกับพ่อแม่ นั่งกรรมฐานร้อยปี ก็ไม่ได้อะไร? ถ้าไม่ขออโหสิกรรม ฯขออโหสิกรรม ที่คิดไม่ดีกับพ่อแม่ คิดไม่ดีกับครูบาอาจารย์ คิดไม่ดีกับพี่ๆน้องๆ จะไม่เอาอีกแล้ว เอาน้ำไปขันหนึ่ง เอาดอกมะลิโรย กายกัมมัง วจีกัมมัง มโนกัมมัง โยโทโส อันว่าโทษทัณฑ์ใด ความผิดอันใด ที่ข้าพเจ้าพลั้งเผลอสติไป ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ขอให้คุณพ่อคุณแม่ คุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย คุณพี่คุณน้อง อโหสิกรรมให้ด้วย แล้วเอาน้ำรดมือรดเท้า ฯ

    นี่แหละท่านทั้งหลายเอ๋ย เป็นหนี้บุญคุณพ่อแม่มากมาย ยังจะไปทวงนาทวงไร่ ทวงตึก มาเป็นของเราอีกหรือ ตัวเองก็พึ่งตัวเองไม่ได้ สอนตัวเองไม่ได้ เป็นคนอัปรีย์จัญไรในโลกมนุษย์ไปทวงหนี้พ่อแม่ พ่อแม่ให้แล้ว (ให้ชีวิต ให้…ให้… ให้….ฯลฯ ) เรียนสำเร็จแล้ว ยังช่วยตัวเองไม่ได้ มีหนี้ติดค้าง รับรองทำมาหากินไม่ขึ้น ฯ

    หนี้บุญคุณอันยิ่งใหญ่ เหลือจะนับประมาณ
    นั่นคือหนี้บุญคุณของบิดา มารดา


    ตัวอย่างที่ 3 "หนามแหลมใครเสี้ยม มะนาวกลมเกลี้ยงใครไปกลึง" เด็กประถม ๔ พ่อเมาเหล้า เมากัญชาเล่นการพนัน แม่เล่นหวย ปัจจุบันเป็นดอกเตอร์อยู่อเมริกา หลวงพ่อสอนครั้งเดียวจำได้ บอกวันเกิด หนูซื้อขนม ๒ ห่อ เรียกพ่อแม่มานั่งคู่กัน แล้วกราบนะลูกนะ แล้วก็บอกพ่อแม่ว่า ความผิดอันใดที่ลูกพลั้งเผลอ ด้วยกาย วาจา ใจ ที่คิดไม่ดีต่อคุณพ่อคุณแม่ ขอให้คุณพ่อคุณแม่อโหสิกรรมให้ แล้วล้างเท้าให้พ่อแม่

    ลูกไม่มีสตางค์ ลูกซื้อขนมมา ๒ ห่อ ให้แม่ก่อน ๑ ห่อ เพราะอุ้มท้องมา แล้วจึงให้พ่ออีก ๑ ห่อ ลูกขอปฏิญาณตนว่า ลูกขอเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ แล้วจะเป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ ลูกจะไม่ทำให้พ่อแม่ผิดหวัง... พ่อฟังแล้วน้ำตาร่วงสร่างเมา ส่วนแม่ก็ร้องไห้เลย พ่อแม่ก็ให้สัญญากับลูกเลิกอบายมุขทั้งหมด

    7. ลูกหลานโปรดจำไว้ เมื่อแยกครอบครัวไปมีสามีภรรยาแล้ว อย่าลืมไปหาพ่อแม่ ถึงวันว่างเมื่อไรต้องไปหาพ่อแม่ ถึงวันเกิดของลูกหลาน อย่าลืมเอาของไปให้พ่อแม่รับประทาน อย่ากินเหล้า เข้าโฮเต็ล

    8. ชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้เป็นมงคลนาม ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน เพราะชื่อเป็นเพียงนามสมมุติแทนตัวเรา อย่างหลวงพ่อชื่อจรัญ ปู่ตั้งให้ หมอดูบอกเป็นกาลกิณี แต่ทำไมเจริญรุ่งเรือง ขอให้เชื่อพระพุทธเจ้าทำดีได้ดี

    9. ของดี ของ ปู่ ย่า ตา ยาย อย่าไปทำลายเลย ของพ่อแม่อย่าไปทำลายนะ หนีได้แน่นอน โยมมีกรรมฐาน มีทรัพย์ มีชื่อเสียง ความรัก บูชาทรัพย์ บูชาชื่อเสียง ความรักของพ่อแม่ได้ เงินจะไหลนองทองจะไหลมา......... พ่อแม่ให้อะไรเอาไว้ก่อน อย่าไปทำลายเสีย ถึงจะเป็นถ้วยพ่อแม่ให้มา ก็ไว้เป็นที่ระลึกก็ยังดีอย่าเอาไปทิ้งขว้างฯ

    10. ถ้าต้องการเจริญก้าวหน้าขอฝากไว้ด้วย คนเรามี ๒ ก้าว จะก้าวขึ้นหรือก้าวลงดำน้ำไม่โผล่ ก้าวลงมันง่ายดี ก้าวขึ้นมันต้องยาก ของชั่วมันง่าย หลั่งไหลไปตามที่ต่ำ นี่บอกสอนลูกหลาน ต้องการจะบรรจุงานไม่ต้องไปวิ่งเต้น ดูลูกเสียก่อน กุศลเพียงพอหรือเปล่า ต้องเพิ่มกุศล ตัวอย่างเรียนจบครู สวดมนตร์เข้าเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นครู ทำงานธนาคารก็ได้ บริษัทก็ได้เดี๋ยวมีคนรับ บางรายทั้งสอบทั้งสมัครหลายแห่งไม่เคยเรียกเลย อาตมาให้นั่งกรรมฐาน พอ ๗ วันผ่านไปพวกมาตามให้เข้าไปทำงานแล้ว

    วิธีใช้หนี้พ่อแม่ ฉบับหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน | สรรพสรร#
     
  11. hazepokemon

    hazepokemon Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2007
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +63
    คือ...ได้อ่านหนังสือ เรื่อง คนเปิดกรรม ของ คุณ หม่อม
    คิดว่า กรณีของคุณ น่าจะเป็นเพราะผลกรรมจากอดีตชาตินะคะ

    วิธีแก้ที่ตรงจุดไม่ทราบนะคะ
    แต่แนะนำว่า หมั่นสวดมนต์ นั่งวิปัสสนากรรมฐาน อุทิศส่วนกุศลผลบุญให้เจ้ากรรมนายเวร ...

    ขอโทษนะคะที่แนะนำได้แค่นี้เอง
     
  12. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,275
    ค่าพลัง:
    +82,733
    อนุโมทนาสาธุค่ะเฮียปอ
    อนุโมทนาสาธุค่ะคุณจิรเดช
    ขอบคุณค่ะ
     
  13. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,612
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ถ้าผมด่าคุณ คุณก็คงเสียใจ

    แล้วถ้าคุณเถียงแม่ แม่จะรู้สึกอย่างไร

    ลองไปคิดเอาเองครับ

    โมทนา
     
  14. วรกันต์

    วรกันต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +257
    ก็เพราะคุณไม่ได้รู้สึกผิดจริงๆ น่ีะสิ

    คุณไม่ได้รู้สึกเลยว่า การที่เถียงพ่อแม่ การทำให้แม่ร้องไห้มันไม่ควร ด้วยเหตุผล ที่ว่าท่านมีบุญคุณกับเรา เลี้ยงเรามาทั้งชีวิต ท่านมีพระคุณกับเรา เราเป็นหนี้ท่านใช้อย่างไรก็ไม่หมด

    คุณไม่ได้คิดอย่างนั้นหรอก เพราะถ้าคิดอย่างนั้นจริงๆ คุณก็คงไม่ทำแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าหรอก

    แต่คุณรู้สึกผิดรู้สึกบาป เพราะว่า กลัวตัวเองจะตกนรก ต่างหาก
    มันต่างกันนะ


    ลองคิดดูว่าจริงไหม

    ที่บอกว่ากลัวบาป ก็เพราะว่ากลัวตัวเองจะตกนรก กลัวว่าตัวเองจะได้รับทุกเวทนาจากการตกนรก ต่างหาก ก็คือ ห่วงตัวเองจะลำบาก ไม่ได้กลัวว่าแม่จะเสียใจ ไม่ได้กลัวว่าแม่จะต้องร้องไห้หรอก เพราะถ้ากลัวจริง มันไม่มีทางจะทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าหรอก

    อย่างเช่น คนที่กลัวความสูง ตัวเองจะชอบไปยืนที่สูงๆไหม ก็ไม่
    คนที่กลัว ก็มักจะเลี่ยงไปที่สูงๆ เป็นธรรมชาติโดยปริยาย เช่นเดียวกัน

    สุดท้าย ก็คิดถึงแต่ตัวเอง
    (ที่กลัวตัวเองจะตกนรกไปลำบาก) แต่มาพูดให้ตัวเองรู้สึกดี และไม่รู้สึกผิดที่ทำให้แม่้ร้องไห้ต่างหาก


    อ้างว่า กลัวบาป แม่>>ง ก็กลัวตัวเองจะตกนรกล่ะสิ

    ใครที่อนุโมทนา ลองทบทวนดีดีใหม่นะ

    สังคม สมัยนี้ตกต่ำทุกวัน เห็นของผิดเป็นเรื่องปกติ

    จะด่าก็ได้ แต่ผมว่า ผมพูดความจริง และตรงๆ

    เกิดเป็นคนผิดเพศ ก็ด้วยคุณประพฤติกรรมที่หนักมากอยู่แล้ว(ผิดศีลข้อ 3)
    (ที่พูดนี่ไม่ได้รังเกียจนะครับ)
    คุณยังทำกรรมปัจจุบันให้หนักยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยการทำกรรมที่ใกล้เคียงกับ
    อนันตริยกรรม อีก

    คนที่อนุโมทนา คุณกำลังอนุโมทนา คนที่ทำบาป คุณก็จะได้รับผล ของการอนุโมทนา เช่นเดียวกับอนุโมทนาบุญ นะครับ

    รู้ว่า พวกคุณอนุโมทนา เพราะ เขารู้สึกผิด แต่อย่างที่ผมได้อธิบายไป จขกท.ไม่ได้รู้สึกผิดเลยแม้
    แต่นิดเีดียว การอนุโมทนาของพวกคุณจึงเป็นอนุโมทนา การทำบาปนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ตุลาคม 2009
  15. @^น้ำใส^@

    @^น้ำใส^@ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    2,330
    ค่าพลัง:
    +4,673
    ท่านจะเป็นยังไงก็เรื่องของท่าน เราทำหน้าที่ตัวเองให้ดี คุยกันด้วยเหตุผล อะไรยอมได้ก็ยอมกันไปนะคะ พ่อแม่มีแค่สองคน ทำดีกับท่าน รักท่านมากๆๆนะคะ

    ขอให้ความดีคุ้มครองค่ะ ^^
     
  16. ท้องฟ้าและแผ่นดิน

    ท้องฟ้าและแผ่นดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +127
    คุณ suikadream คงรับภาระหนักมาก ใช่หรือไม่ครับ
    ทั้งเรื่องส่วนตัว เรื่องการยอมรับจากสังคมรอบข้าง
    เรื่องภายในครอบครัว
    ในฐานะลูกคนโต พี่คนโต

    พยายามฝ่าฟันโดยตัวคนเดียว คิดคนเดียว
    แก้ไขปัญหาคนเดียว
    ขาดคนเข้าใจ

    ในบ้านของคุณล้วนแล้วแต่พยายามเป็นตัวของตัวเอง
    คุณเองก็โตแล้ว พี่น้องคุณก็ความเป็นโลกส่วนตัวสูง
    บางครั้งด้วยความเป็นแม่ที่มักจะเห็นลูกตัวเองเป็นเด็กเสมอ
    อาจพูดจาที่ไม่ถูกใจ ไม่ถูกเวลาบ้าง
    พี่น้องก็มีความคิดเห็นไม่เหมือนกัน
    เลยดูเหมือนขัดแย้งกันเสมอ

    วางเรื่องบาปบุญไว้ก่อนนะ
    ตอนนี้คุณกำลังป่วยเป็นโรคทางใจอยู่
    โรคที่ทำให้ทุกข์อย่างยิ่ง

    คุณอยากรักษาตัวเองใหม
    หมอที่รักษาโรคนี้ที่ผมรู้จัก
    ท่านมีนามว่า พระพุทธเจ้า
    ยาที่ใช้รักษาชื่อว่า พระธรรม

    พระองค์เป็นหมอและเป็นกัลยาณมิตรอย่างยิ่ง

    อาบน้ำเพื่อชำระกาย
    อาบพระธรรมเพื่อชำระใจ

    ธรรมของพระองค์เป็นไปเพื่อศานติสุข เพื่อล่วงทุกข์
    เพื่อความไม่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งทั้งปวง

    คนหนึ่งคนทุกข์ ย่อมทำให้คนรอบข้างอีกหลายคนเป็นทุกข์เหมือนตน
    คนทุกข์ใจ ย่อมสรรหาคำพูด การกระทำ ที่ทำให้คนรอบข้างรู้สึกทุกข์เช่นกัน
    ยามใครคนหนึ่งโกรธ ขาดสติ
    คำพูดของคนนั้นก็เปรียบเหมือนมีดที่กรีดลงไปบนใจคนของฟัง
    การกระทำที่ขาดสติ ดุจดั่งพายุที่พร้อมพัดทำลายทุกสิ่งที่อยู่รอบข้าง
    ทำลายความรัก ความศรัทธา ความดีงาม ลงไปพร้อมกัน

    เมื่อพูดออกไปแล้ว กระทำออกไปแล้ว
    พายุเลิกพัด จะลงเหลือเพียงความสำนึกผิดเสมอ
    กับแก้วที่ร้าวในใจของแต่ละคน
    ยิ่งปล่อยไว้นาน ยิ่งยากจะเข้าใจ ยากจะใกล้ชิดดังเดิม

    หาวันเวลาว่าง ค้นหาความหมายของชีวิตที่แท้จริงที่คุณอยากจะเป็น
    อยากให้ชีวิตดำเนินต่อไปอย่างไร

    หากพบว่าทุกสิ่งเกิดจากความขาดสติ
    ลองเริ่มสังเกตลมหายใจตัวเองบ้างไหม
    ปล่อยวางเรื่องที่หนักใจหนักสมองลงบ้าง
    ช่วงเวลาที่มีแค่การเฝ้าดูลมหายใจเข้า และออก เท่านั้น
    คุณอาจจะเสียเวลาแค่ 3 นาทีเท่ากับคุณฟังเพลงเพลงนึง

    หากเป็นเพราะคุณมีบางสิ่งในใจมากเกินไป
    ลองมองออกไปบนท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ในวันที่สดใส
    ฝากความไม่สบายใจของคุณไปกับสายลม
    ปล่อยใจให้ธรรมชาติหลั่งใหลเข้าไปในใจคุณ
    ใช้ธรรมชาติอันสงบสุขรักษาจิตใจ
    ในธรรมชาติอันกว้างใหญ่ คนเราตัวนิดเดียวเท่านั้น
    จะแบกโลกไปทำไมหนอ จะแบกทุกข์ไปทำไมกัน
    ปล่อยวางทุกสรรพสิ่งลงเสียบ้าง

    ลองใส่บาตรในยามเช้า แผ่เมตตาให้ตนเองและคนรอบข้างให้มีแต่ความสุข
    ลองสวดมนต์บทบิดามารดา
    ลองยิ้มให้ตัวเองเสมอ
    ลองบอกตัวเองว่า ทุกอย่างจะผ่านพ้นไปด้วยดี
    ลองยิ้มให้คนอื่นแบบไม่มีเหตุผล
    ลองให้อภัยตัวเอง
    ลองให้อภัยคนอื่น
    ลองบอกรักตัวเอง
    ลองบอกรักคนอื่น
    ลองบอกรักพ่อแม่ พี่น้อง
    ความรักมีไว้เพื่อแบ่งปันกับคนอื่นเสมอ

    บุญอันใดที่ผมได้ทำลงไป เป็นความดี เป็นกุศล
    ขอจงบังเกิดเป็นความสุขแด่คุณ suikadream และครอบครัว
    เป็นกำลังใจให้เสมอครับ
     
  17. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,312
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,002
    รบกวน จขกท มาโหลดหนังสือเล่มนี้ไปอ่านครับ เเล้วจะมีทางออกที่ดีให้เเก่ตนเองเเละครอบครัวเเน่นอน ขอเเค่ปฏิบัติตามในหนังสือครับ รับรองว่าจะเป็นไปในทางที่ดีเเน่นอน เจริญในธรรมครับ

    แจก E-Book ลูกไม่ดีแก้ที่พ่อแม่ พ่อแม่ไม่ดีแก้ที่ลูก ของหลวงพ่อจรัญ<!-- google_ad_section_end -->


    http://palungjit.org/threads/แจก-e-...่-พ่อแม่ไม่ดีแก้ที่ลูก-ของหลวงพ่อจรัญ.193191/
     
  18. aekcompany

    aekcompany เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +105
    ผมขอแนะนำนะครับ
    เมื่อก่อนผมก็เป็นนะครับ ชอบเถียงแม่ประจำ แต่ตอนนี้ไม่แล้วครับ เพราะว่าผมได้ไปบวชมาและก็ได้อ่านหนังสือหลายเล่มและจากอินเตอร์เน็ทด้วย ถึงเรื่องการที่ลูกชอบเถียงพ่อแม่ คิดไม่ดีกับพ่อแม่นั้นจะได้รับกรรมอะไรบ้าง ทำให้ผมรู้สึกกลัวขึ้นมาทันที และรู้สึกผิดมากๆนะครับที่ได้กระทำผ่านมา จึงคิดว่าผมจะกลับตัวใหม่ รักพ่อแม่ให้มากๆ ทำทุกอย่างเพื่อแม่ (พ่อเสียไปนานแล้ว) ให้แม่สบายใจ ขอขมาท่านที่ได้ทำไม่ดีมา ท่านก็ให้อภัยทุกอย่าง ผมไม่เคยทำแบบนั้นอีกเลย อาจจะมาจากที่เราได้ปฏิบัติกรรมถาณด้วยนะครับ ทำให้เรามีความรู้สึกว่าไม่ดีนะเราต้องไม่ทำให้แม่ทุกข์ใจ เพราะพ่อแม่เปรียบเสมือนพระอรหันต์นะครับ ขอแนะนำให้ไปทำบุญกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่พี่น้องกันบ่อยๆนะครับ จะสร้างความสบายใจในครอบครัวมากขึ้น หาหนังสือเรื่องการกตัญญูต่อพ่อแม่แล้วมีผลอย่างไรกับเราบ้างเอามาไว้ในบ้านนะครับ ช่วยได้เยอะนะครับจากที่ผมได้ทำมาครับ
     
  19. siranyapat

    siranyapat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2009
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +382
    ขอเอาใจช่วยนะคะ ลองคิดสิคนอื่นที่ไม่รู้เป็นใครเรายังไหว้ยังกอดได้แต่แม่ตัวเองทำไมเรายอมท่านไม่ได้ พูดให้น้อยลงคิดก่อนพูดเยอะๆ ที่กล้าบอกเพราะตัวเองก็เคยเป็นเดี่ยวนี้เปลี่ยนใหม่แล้วกล้วกอดกล้าหอมท่านค่ะ สู้ๆนะคะ
     
  20. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,515
    คนที่ผูกพันเป็นแม่ลูกกันได้ต้องมีบุญกรรมสัมพันธ์กัน
    อาจเป็นได้ว่าบางคนเช่นคุณลูกนั้นเคยจองกรรมกับคุณแม่มา
    พอถือกำเนิดเกิดฃึ้นมาแล้วจำที่เคยกล่าวจองเวรเอาไว้ไม่ได้แล้ว

    แต่สัญญากรรมยังอยู่ แม้รู้ว่าการเถียงขึ้นเสียงกับแม่ไม่ดี
    แต่ด้วยแรงกรรมบังคับขาดสติทำให้ล่วงเกินบุพการีไปได้

    ขอแนะนำให้คุณลูก อธิษฐานจิตว่ามาตรแม้นลูกนี้เคยหลงผิดจองเวรมารดามาแต่ปางก่อนปางไหนด้วยความโลภ โกรธ หลง(ธรรมดามนุษย์) ลูกขออโหสิกรรมให้แก่แม่ด้วยทั้งหมด

    เมื่อเรียบร้อยแล้วคุณลูกก็ไปขอขมากรรมให้แม่จงอดโทษอโหสิกรรมแก่ลูกด้วย
    ไม่ต้องอายนะ
    (พิธีกรรมปลีกย่อยก็ตามสะดวกจ้า)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2009

แชร์หน้านี้

Loading...