บ่นเรื่องตัวเองให้ฟัง เพราะมีเพื่อนถามเรื่องแฟน

ผมไม่มีความเคลื่อนไหวเรื่องความรักมานาน ผมคงปลงอะไรบางอย่างได้ รึไงเนี่ย?

แต่ยังไม่รู้สึกเต็มที่ ว่าที่จริงปลงได้เต็มที่แล้ว

ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน เรื่องนี้ อาจปลงได้ แต่ยังไม่เข้าใจตัวเองว่าปลงได้?

เจอคนสวย คนน่ารัก หรือว่าปิ๊งสาวไหนเข้า ...

ก็มองเค้า แล้วก็คิดว่า เอ้อ " สวยดี น่ารักจัง ชอบนะเนี่ย " แล้วก็จบด้วย "แล้วไง"

มันเกิดอาการ "มอง" อย่างทะลุปรุโปร่ง ถึงสภาพของคนๆนั้น ทุกอิริยาบท

มองเห็นหน้าตาที่น่ารักของสาวคนนั้น ตั้งอยู่บนโครงกระดูก ตั้งอยู่บนโครงสร้างร่างกาย มองเห็นอวัยวะภายใน ตับไต ไส้พุง เดินมาทางนี้

มองเห็นสภาพอิริยาบท ของสาวคนนั้น ตอนเสพกาม ตอนนั่งขี้ในห้องน้ำ ตอนแก้ผ้าอาบน้ำ ตอนถูกรถทับ สมองไหล ตาถลน เลือดอาบ หรือโดนกระทืบตาปูด หรือมองเห็นเป็นยายแก่หนังเหี่ยว เห็นเป็นศพ หนอนเจาะ ชอนออกมา

สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในหัวโก้ อย่างรวดเร็ว หลังจากความคิด " สวยดี น่ารักจัง ชอบนะเนี่ย "

มอง แล้ว คิด แล้วจบลงตรงที่ "แล้วไง" พร้อมกับอมยิ้ม แล้วก็ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ

สงสัยเหมือนกัน ว่าโก้คิดอย่างนี้ แล้วจะไปจีบใครได้

นั่นเป็นส่วนนึงมั้ง ของคำตอบที่เพื่อนถามว่า " เมื่อไหร่โก้จะมี? "

ก็ในหัว มันเป็นอย่างนี้...

แล้วก็ยังเรื่อง ความไม่พร้อมของตัวเอง ไม่พร้อมที่จะมีใคร ทั้งฐานะ และเรื่องอื่นๆ

จริงอยู่ ที่ใครๆ ต่างก็มีแฟนกันได้ ไม่ต้องรอความพร้อม คบกันไปเลยก็ได้

แต่พอดีโก้ไม่ได้มองแบบนั้น

เคยลองคบใครๆ ดูบ้าง (ก็เคยมีหลายคนอยู่นะ) ผมก็ไม่ใช่ว่าตายด้าน ออกจะเจ้าชู้ด้วยซ้ำ

แต่เราเป็นอันต้องถอยจากเค้าเองซะงั้น อกหักบ่อยเพราะตัวเองถอยเอง (หักอกคนอื่นก็มี)

เคยคิดในใจว่า นี่ชั้นขี้เกียจแม้กระทั่งเรื่องจีบสาวเหรอวะ หรือว่าจีบสาวไม่เป็น

ก็คงจะอย่างนั้นมั้ง รวมๆกันน่ะ

เลยบอกคนที่ถามไปว่า " ก็ยังไม่เจอน่ะ อนาคตยังอีกยาวไกลนะ ยังมีเวลาอีกเยอะ "

ผมว่ากรณีอย่างผมนี่ ใครๆก็เป็น หรือเคยเป็น (ผมยังอ่อนต่อโลก ด้อยประสบการณ์นัก)

ความรักเป็นสิ่งสำคัญ แต่ไม่ใช่ทุกสิ่ง

ถ้าการมีรักมันยากนัก ก็ขออยู่คนเดียวไปก่อนละกัน

เพราะผมยังมีแม่และน้องที่เป็นที่รัก มีเพื่อน และเพื่อนร่วมงาน ที่สัมพันธ์แน่นแฟ้นกันดี

 

เอ่อ แบบว่าที่เคยเจอมาก็ ใช่เลย ทุกคนอ่ะครับ แฮ่ ๆ

 

ความรัก เหมือนไฟ เผาใจคนได้
ถ้า ตัดได้ ก็ตัดซะแต่เนิ่นๆดีกว่าคะ

 

ความรัก เหมือนไฟ เผาใจคนได้
ถ้า ตัดได้ ก็ตัดซะแต่เนิ่นๆดีกว่าคะ
...

รักแต่พอดี สร้างความอบอุ่น

 

น่าจะดีใจมากกว่านะเนี่ย ความรักเนี่ยขัดขวางการบรรลุธรรมเลย

 

ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ ทุกข์จากความรัก ความหลง ความหึงหวง และ....อะไรต่อมิอะไรก็จะตามมา ซึ่งล้วนแต่เป็นโลภ ในสันดานดิบของมนุษย์ที่ต้องการเป็นเจ้าของคนที่ตนเองรักและชอบทั้งสิ้น แย่งกันไปแล้วได้อะไรทั้งชายและหญิง หน้าตาดีแล้วไง สวยแล้วไง หากเค้ามีเจ้าของแล้ว ยังจะไปแย่งมาเป็นของเราให้ได้ เพียงเพราะหลงในรูปกาย และวาจาของเขาและเธอเหล่านั้น ภูมิใจแล้วหรอกับสิ่งที่เรียกว่า แฟนคนนี้กูแย่งมาจากคนอื่น แล้วเวรกรรมล่ะ เคยคิดกลัวกันบ้างไหม หากไม่กลัว งั้นก็ เชิญเสพสุขกับของเน่าเสียที่สวยและหล่อแต่รูป แต่สุดท้าย มันก็แค่กระดูกเดินได้ธรรมดาเหมือนกันทั้งนั้น..... เอ๊ะ นี่เรากดดันอะไรหรือเปล่า หุหุ อายจัง ไปดีกว่า ไม่ได้มาว่าใครนะ มาปล่อยความกดดันในนี้เฉยๆ ^_^ คนโสดขึ้นคานก็งี้แหละ อย่าถือสาหาความข้าพเจ้าเลย ก็แค่บ่นเรื่องตัวเองให้ฟังเหมือนกันแหละ อิอิ

 

บ่นด้วยคน . . . เมื่อก่อนตอนเด็กๆ ครอบครัวผมลำบากมากพ่อแม่แยกทางกันต้องแต่ผมยังอยู่ ป.4 เมื่อตอนออกโรงเรียนอายุ17 มีความตั้งใจ อยากทำอยู่ 2อย่างในชีวิตนี้ 1. ทำงานสร้างตัวไห้แม่สบาย
2. อยากบวชเมื่อแม่สบายเพราะเราไม่มีห่วงแล้ว
ปัจจุบัน อย่างที่ 1 .ทำได้แล้ว แต่อย่างที่2 .ยังทำไม่ได้
ไม่รู฿จะโทดว่าที่ทำไม่ได้เพราะแฟนหรือไม่ แต่ก่อนนั้นมีแฟนคนหนึ่งก็รักชอบกันดีแต่ก็ต้องมีเหตุไห้เลิกรากันไป เพราะผมต้องย้ายมาอยู่กรุงเทพ
ก็ตั้งใจแล้วว่า ทำงานไห้แม่ แล้วก็จะบวช
พออายุ21 ทำงานก้าวหน้าดี มีร้านค้าไห้แม่แล้ว เราก็ไม่มีแฟน แต่ก็ปล่อยชีวิตไปตามดวงตลอด
จนอยู่ๆ วันหนึ่ง ก็มีเพื่อนชวนไปงานวันเกิดผู้หญิงคนหนึ่ง ที่แรกผมก็ตกใจนิดหน่อย ที่ผู้หญิงคนนี้เกิดวันเดียวกัน เดือนเดียวกัน ปีเดียวกัน กับแฟนคนแรกของผมเลย อะไรมันช่างบังเอิญจริงๆ
ก็คิดว่าสงสัยใช่ ทั้งๆที่ไม่เคยหวังจะมีแฟนไหม่มานานหลังจากเลิกแฟนคนแรก
ผู้หญิงคนนี้ผม สมมุติ ชื่อนก นกเป็นคนสวยมากๆ เวลาไปตามห้าง ตามโรงหนัง หรือที่มีคนแยะๆ ก็มีแต่คนมอง ไม่ได้โม้นะ เรื่องจริง
ตัวผมก็ก็ได้ได้จีบคิดแค่เป็นเพื่อนมาตลอด เพราะเธอสวยจริงๆ ไม่คิดว่าจะมาเป็นแฟนกับเราได้ เพราะตอนที่ผมไปรู้จักนก นกก็มีหนุ่มวิศวะมาจีบด้วยอีกคน
ผมเทียบไม่ได้หรอก เพราะผมขับปิกอัพ หนุ่มคนนั้นขับซีวีค
เรื่องเป็นไงต่อไปขอรวบรัด ปัจจุบันผมแต่งงานกับนก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งๆที่ผมปล่อยทุกอย่างไปตามดวง ไม่ได้เป็นคนเอ่ยปากขอหมั้น
ไม่ได้เป็นคนเอ่ยปากขอแต่งงาน เลยจริงๆ
ถึงวันนี้ผมเลยมีความสงสัยว่า ผมคงทำเรื่องที่ผมตั้งใจจะทำเรื่องที่2 ในชีวิตไม่ได้เสียแล้ว ก็คือเรื่องการบวชตลอดชีวิต
ผมได้อ่านเรื่องการปราถนาพุทธภูม ของเพื่อนๆบางท่าน ก็มาคิดถึงตัวเราเองว่า ที่จริงเราก็เป็นคนที่ปราถนาพุทธภูม ไม่แพ้คนอื่นเลย แต่เพราะเราดันปล่อยไห้มันเป็นไปตามดวง มากไปจนตอนนี้เรามีภรรยาเสียแล้ว เรื่องจะบวชตลอดชีวิตคงไม่มีทางทำได้ เรื่องนี้
ผมอยากไห้เป็นตัวอย่างสำหรับท่านที่ ปราถนาพุทธภูมท่านอื่นๆ คือ อย่าปล่อยไปตามดวง ตัดสินใจได้แล้ว ขอไห้ทำเลย เพราะเหตุที่จะมาขัดขวางมันมีมาง่าย อย่างไม่น่าเชื่อ
อย่างเรื่องของผมที่ว่า แฟนคนแรก กับแฟนคนปัจจุบันเกิด ว/ด/ป เดียวกันเลยทำไมมันบังเอิญได้มากขนาดนี้ และผมไม่หล่อเลย ทำไมผู้หญิงสวยอย่างนี้ถึงมารักผม - -
ระวังไว้นะครับ ถ้าปล่อยตามดวงอาจเป็นแบบผม ทางมันอาจไกลไปอีกชาติก็ได้(b-oneeye) [bw-cry] [bw-cry]

 

เฮ้ยยยยยย โลกมานุด นี่แหละที่เค้าเรียกว่า มานุด คนเรานี่ไม่รู้จริงๆว่าความพอดีมันอยู่ตรงไหน ไอ้ที่น้องพูดมาเนี่ยพี่ว่า น้องโชคดีแล้วนะคะที่น้องได้ในสิ่งที่ต้องการ ถึงแม้ว่าน้องอาจจะยังทำบางอย่างที่ตั้งใจไม่ได้ ลองหันไปมองคนอื่นๆดูสิคะ บางคนก็ปล่อยตัวเองไปตามดวง แต่คนอื่นๆเค้าเจอแต่เรื่องเลวร้าย ชีวิตไม่ประสบความสำเร็จเลยสักอย่าง หรือบางคน ความสุขหน้าตาเป็นยังไงก็ยังไม่รู้เลย เพราะมัวแต่เดินหลงทางอยู่ แต่สำหรับน้อง น้องบอกว่าน้องเดินไปตามที่ชีวิตลิขิต หรือ แล้วแต่เวรแต่กรรมจะพาไป พี่ถือว่าน้องประสบความสำเร็จไปได้ระดับนึงทีเดียวกับชีวิต แต่กลับยังไม่พอใจที่ยังทำบางอย่างได้ไม่สำเร็จ อยากบอกว่า จงภูมิใจเถิดค่ะ ที่ชีวิตได้เดินทางมาถูกต้องแล้ว บางคนไม่จำเป็นต้องบวช แต่ก็ได้ตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ในด้านอื่นก็ถือว่ามีบุญแล้ว เป็นพ่อของลูกที่ดี เป็นสามีที่ดีของภรรยา ไม่ไปมีชู้ แค่นี้ก็ดีมากแล้วค่ะ

 

เคยมีความรัก...

แต่ตอนนี้ไร้รักมานมนาน...

เฉยๆอ่ะกะเรื่องนี้ มองเห็นสาวๆสวยๆก็เหลียวจนหัวจะหมุนได้ครบ 360 ก็มี เจอหนุ่มๆละกรี๊ดกร๊าด กระดี๊กระด๊า ก็มี

แต่ก็แค่นั้นอ่ะ...ไม่เอาจิตไปผูก

หุหุ มีคนทักเยอะว่าอายุขนาดนี้ทำไมไม่มีแฟน ... เอ๋า ก็คนไม่มีก็คือไม่มี

แต่ก้อยคงไม่ได้มองเห็นขนาดเท่าที่เจ้าของกระทู้มองเห็นหรอกค่ะ เพียงแค่มองว่ามัน "ธรรมดา" แค่นั้นอ่ะ อิอิ
อยู่ได้นิไม่เห็นมีปัญหา อิอิ

 

พอมองก็ ธรรมดา . . .แต่พอได้กลิ่น อะ นี่ไม่ธรรมดานี่หว่า!!!!
พอสำผัส อะจ๊าก พระเจ้าช่วย กล้วยทอด มันดึ๋งมาก!!!
โอ . . . มันไม่ธรรมดานี่หว่า !!!
แล้วก็เลย=30=-9087163 %!!!!
ฮ่า . . .นรก หรือสวรรค์ก็เดาเอาเอง ฮิฮิฮิ
ล้อเล่นนะครับ อิอิอิ

 

.........

 

ถ้าพิจารณาได้ว่ามันธรรมดาแล้ว สำหรับก้อย อย่างอื่นก็ไม่รู้สึกอะไรแล้ว

สัมผัสก็เฉยๆ เห็นก็เฉยๆ...

 

อุ้ยยยย...เสียดายพึ่งเข้ามาในกระทู้นี้ หุหุหุหุ น้องเจ้าโก้จ้ะ แค่มองๆเค้าแล้วก็บอกตัวเองว่า"แล้วไง" พี่ว่า(หลอกตัวเองจ้า) ครั้งหน้าลองสัมผัสเนื้อแนบเนื้อดูกับคนที่เรา"ชอบ"สิ ถ้ายัง"แล้วไง"อีก ก็ต้องดูว่าเรามีอะไรผิดปกติทาง"homo"ไหม? ถ้ายังรู้สึกว่าปกติดีก็หน้ายินดีด้วยเพราะใกล้"พระนิพาน"เต็มที(แหมมมมสร้างบรมีมาดีจังวัยรุ่นสมัยนี้ สมัยผวกพี่หลวงพ่อฤาษีเทศแล้วเทศอีกจั่มจี้จั่มใชสอนพวกเราปากเปียกปากแฉะ ในที่สุด"ปัญญาเกิด ""บุญกุศลรวมตัว"มีผัวมีเมียมีลูกกันเป็นโขยงๆ) สาธุๆๆ

 

ที่สำคัญ ที่สุดคือ"จงอย่าเมามันในการเป็นพระอริยเจ้า" การที่เราสำรวม "อินทรียสังวร" เป็นเรื่องดี แต่ต้องให้อยู่ใน"สายกลาง" เพราะตึงไปก็ขาด หย่อนไปก็ไม่ดีอีก สายกลางจ้าๆๆๆๆ

 

ก็แบบว่าหน้าตาคุณหน้ากัวงะ เปลี่ยนรูปได้ปะ(อิ ล้อเล่น)

 

จะว่าไปแล้วก็มีโอกาสจะแนบเนื้อสาวอยู่เหมือนกันฮะ พี่ toe
แบบว่าอยู่กันสองคนในห้องนอน + ชุดแพลมๆพร้อมถอดอีก
แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นฮะ แค่ลูบผมเธอกับเอามือหยิบสายชั้นในเค้าดีดหลังเล่น ดังแป๊ะ ๆ ๆ

แล้วก็ปล่อยให้เธอเล่นคอมผมต่อไป (เล่นเกมส์,ดูรูปโป๊) ผมก็รอเวลาเธอกลับ แล้วก็ทำงานบ้านต่อ

ผมไม่ได้เบี่ยงเบนนะครับ แต่มันหลายทีแล้วอ่ะ จนกระทั่งตอนนี้ ก็เป็นอย่างที่บอก

 

คิดเหมือนกันเลยพี่โก้ ไม่ว่าถูกรถทับ สมองไหล เวลาเลาะเนื้อหนังออก ก็เป็นกระดูกเหมือนกัน