คณะสหธรรมิกราช ความเป็นมา และความเป็นไปฯ ......

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย Attawat_Rx, 30 พฤศจิกายน 2009.

  1. Attawat_Rx

    Attawat_Rx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,183
    ค่าพลัง:
    +18,400
    คณะสหธรรมิกราช ความเป็นมา และความเป็นไปฯ (ตอนที่ 1)

    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต
    ขอพระองค์ได้อดโทษทั้งปวง แก่ข้าพระพุทธเจ้าด้วยเถิด

    อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง
    ข้าพระพุทธเจ้า ขอวโรกาส ที่ได้พลั้งพลาดด้วยกาย วาจา ใจ

    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต
    ขอพระองค์ได้อดโทษทั้งปวง แก่ข้าพระพุทธเจ้าด้วยเถิด

    อุกาสะ ขะมามิ ภันเต
    ข้าพระพุทธเจ้า ขอวโรกาส ขอขมาโทษทั้งปวง ต่อคุณพระพุทธเจ้าด้วยเถิด

    "หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธ เจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม และ พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยทางกาย หรือวาจาก็ดี และด้วยเจตนา หรือไม่เจตนาก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดอดโทษ ให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน ด้วยเทอญ ..."

    " นะโมพุทธายะ พระพุทธะไตรรัตนะญาณ มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะสุธรรมา พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา อัคคีทานังวะรังคันธัง สีวลีจะมหาเถรัง อะหังวันทามิทูระโต อะหังวันทามิธาตุโย อะหังวันทามิสัพพะโส พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ "

    ขอเดชะลูกขอกล่าวเล่าท้าวความเป็นมาแห่งกำเนิดที่มาของ "คณะสหธรรมิกราช" นี้ เพื่อเป็นเครื่องแห่งความเข้าใจตรงกัน แห่งสมาชิกทั้งหลาย ที่มีบุญเกี่ยวเนื่องร่วมกันมา ได้อธิษฐานมาร่วมสร้างประโยชน์เพื่อชาติบ้านเมือง เพื่อพระพุทธศาสนาร่วมกัน ...ฯลฯ...[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    อนึ่งด้วยกำลังของลูกน้อยนิด ขอพระองค์ทรงโปรดอดโทษในสิ่งอันใดอันข้าพระพุทธเจ้าได้ประมาทพลาดพลั้งทั้งด้วยเจตนาก็ดี มิเจตนาก็ดี รู้เท่าถึงการณ์ก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี นี้ด้วยเทอญ....[​IMG] [​IMG]

    โยโทโสโมหะจิตเต นะพุทธัสมิง ปาปะกะโต มะยา ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ
    การกระทำ อันหลงผิดอันใด ซึ่งกระทำล่วงเกินแล้วในคุณพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าขอกล่าวคำขอขมา เพื่อการบาปกรรมทั้งหลายทั้งปวงจงสูญสิ้นไป

    โยโทโสโมหะจิตเต นะธัมมัสมิง ปาปะกะโต มะยา ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ
    การกระทำอันหลงผิดอันใด ซึ่งกระทำล่วงเกินแล้วในคุณพระธรรมเจ้า ข้าพเจ้าขอกล่าวคำขอขมา เพื่อการบาปกรรมทั้งหลายทั้งปวงจงสูญสิ้นไป

    โยโทโสโมหะจิตเต นะสังฆัสมิง ปาปะกะโต มะยา ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ
    การกระทำอันหลงผิดอันใด ซึ่งกระทำล่วงเกินแล้วในคุณพระสงฆ์เจ้า ข้าพเจ้าขอกล่าวคำขอขมา เพื่อการบาปกรรมทั้งหลายทั้งปวงจงสูญสิ้นไป

    สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา
    พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลัง อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส

    พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ[​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤศจิกายน 2009
  2. Attawat_Rx

    Attawat_Rx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,183
    ค่าพลัง:
    +18,400
    คณะสหธรรมิกราช ความเป็นมา และความเป็นไปฯ (ตอนที่ 2)

    ความหมาย

    สหะ แปลว่า ร่วม แปลว่ากลุ่ม ธรรมมิกราช แปลว่าราชาหรือผู้ยิ่งใหญ่ที่ทรงคุณธรรม ดังนั้น

    คณะสหธรรมิกราช จึงหมายถึง กลุ่มคนที่มีกำลังและมากด้วยคุณธรรม ที่มารวมตัวกันเพื่อทำงานที่ยิ่งใหญ่ เป็นงานเพื่อชาติบ้านเมือง งานเพื่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และงานเพื่อพระพุทธศาสนา ให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรื่องครบ 5000 ปี ตามพุทธทำนาย

    นัยหนึ่งนั้น คณะสหธรรมิกราช คำนี้น่าจะหมายความชัดเจนไปที่ว่า "ราชาแห่งธรรมหลายๆองค์ มารวมกัน " (นี่แปลตามตัวแบบหยาบๆนะ)... พูดง่ายๆก็คือ พวกเราเป็นคนที่ถือว่าแต่ละคนก็มีกำลังใจพอตัว แยกเดี่ยวก็เอาตัวรอดไม่ตาย .. เพราะด้วยอาศัยความเมตตาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงสั่งสอนธรรม ให้เราได้ยึดถือปฏิบัติ

    แต่ถ้ามารวมกันเพื่อทำงานสาธารณเมื่อไหร่ มันก็ต้องได้งานที่ใหญ่ เพราะงานฟื้นฟูพระพุทธศาสนา งานฟื้นฟูชาติบ้านเมืองในยุคที่เรียกว่าเป็นยุคแห่งความเสื่อมศีลธรรมแบบสุดๆในยุคปัจจุบันนี้ ต้องอาศัยกำลังมาก ต้องอาศัยกำลังแบบพระเจ้าจักรพรรดิเลยทีเดียวถึงจะต้านกระแสไม่ดีทั้งหลายอยู่ นอกจากจะรอให้กระแสดำล้างกระแสดำ (ภัยพิบัติทางธรรมชาติ และภัยสงคราม) ก็ต้องอาศัยกระแสบริสุทธิ์ คือคุณความดีของพระรัตนตรัย ของพระโพธิสัตว์ มาช่วยฟื้นฟู และต้องไม่ใช่กำลังธรรมดา ต้องเป็นกำลังแบบราชา แบบพระเจ้าจักรพรรดิด้วย ต้องเป็นกำลังสูงขนาดบารมี 10- 30 ทัศเลยทีเดียว

    อ้างอิง:

    1. http://www.thaihosttalk.com/th1/inde...c=14708.0;wap2
    2. http://www.bbznet.com/scripts2/view....r=buddha_story
    3. http://www.watthummuangna.com/board/...0&postcount=63
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  3. Attawat_Rx

    Attawat_Rx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,183
    ค่าพลัง:
    +18,400
    คณะสหธรรมิกราช ความเป็นมา และความเป็นไปฯ (ตอนที่ 3)

    หลักการ เหตุผล และวัตถุประสงค์ของคณะสหธรรมิกราช โดยย่อ

    คณะสหธรรมมิกราช

    คณะสหธรรมมิกราช....ก่อตั้งขึ้นจากกลุ่มบุคคลที่ปราถนาโพธิญาณ มีความศรัทธาใน หลวงปู่ดู่-หลวงตาม้า หลวงพ่อปานวัดบางนมโค หลวงพ่อพระราชพรหมญาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) เป็นที่สุด เป็นผู้นำให้เราเหล่าลูกหลานลูกศิษย์ดำเนินรอยตาม

    เป้าหมายหลักของคณะเรา

    คือ นำพาผู้คนท่านทั้งหลาย ปฎิบัติธรรม ทำจิตใจให้ผ่องใส โดยมีการสร้างบุญบารมีเป็นตัวเสริม มีความเข้าถึงในไตรสรณคมน์ มีครูบาอาจารย์อันได้แก่ หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า หลวงพ่อปานวัดบางนมโค หลวงพ่อพระราชพรหมญาน(หลวงพ่อฤษีลิงดำ) เป็นที่สุด เป็นครูบาอาจารย์ผู้นำให้เราเหล่าลูกหลาน ลูกศิษย์ดำเนินรอยตาม เพื่อที่สุดแห่งมรรคผล ไม่ว่าท่านจะปราถนา สาวกภูมิ ปัจเจกภูมิ หรือ พุทธภูมิ

    เราจึงรวมกลุ่มกันเพื่อนำพาญาติธรรม ปฏิบัติธรรม สร้างบุญบารมี และเหนือสิ่งอื่นใดคือสร้างประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา ให้คงอยู่คู่ประเทศไทยสืบไป

    วัตถุประสงค์

    -เพื่อแหล่งรวมกลุ่มผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลาย(ทุกสายปฏิบัติ...ไม่มีแบ่งแยก)
    -เพื่อทำนุบำรุงชาติบ้านเมือง และบวรพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองครบ 5000 ปีตามพุทธทำนาย
    -เพื่อนำพาญาติธรรมสร้างบุญบารมี ให้เต็มในชาตินี้

    อ้างอิง :



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤศจิกายน 2009
  4. Attawat_Rx

    Attawat_Rx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,183
    ค่าพลัง:
    +18,400
    คณะสหธรรมิกราช ความเป็นมา และความเป็นไปฯ (ตอนที่ 4)

    กรอบความเข้าใจและหลักการทำงานของคณะสหธรรมิกราช


    สำหรับกรอบของกลุ่มฯเบื้องต้นที่ควรทำความเข้าใจสำหรับสมาชิกนะครับ เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันและเกิดความเข้าใจร่วมกันคือ [​IMG]

    1. เราไม่ใช่อาชีพ...ไม่มีเงินให้ มีแต่บุญกุศลที่ที่จะบังเกิดให้มากมาย ติดตามตัวไปนับชาติภพไม่ถ้วน

    2. เราไม่ถึงกับเป็นชมรม ... ไม่มีตำแหน่งหน้าที่ ที่มีการบังคับตายตัว อาศัยความสมัครใจเป็นหลัก อาจจะมีกฏเกณฑ์เงื่อนไขบ้าง เพื่อให้การทำงานต่างๆ สะดวกลุล่วง

    3. เราไม่ใช่วิชาเรียน...ไม่มีเกรดให้...ไม่มีแบ่งเกรด ไม่มีแบ่งชั้น ไม่มีการแบ่งแยกใดๆ

    4. เราทำด้วยความสมัครใจ เมื่อไม่สมัครใจ เราจะพัก หรือออก หรือเข้ามาเมื่อไรก็ได้ เพราะกลุ่มนี้ไม่ได้มีแต่เรื่องการสร้างพระเท่านั้น มีอีกหลากหลายงาน ตามทีมงานที่จะเสนอทำงานต่างๆเอาเอง ตั้งโครงการเอาเอง.... เพราะเราต้องการให้เกิดการเรียนรู้และการทำบารมี 10 ให้เต็ม ผ่านงานกุศลอะไรก็ได้....

    5. เราทำในเวลาว่าง เป็นแบบงานอดิเรก เพราะทุกท่านล้วนมีวิถีชีวิต มีสิ่งที่จะเรียนรู้แตกต่างกันไป มีภาระหน้าที่หนักบ้าง เบาบ้างต่างกันไป มีสังคมแตกต่างกันไป และในบางช่วงเวลาก็หนักบ้างเบาบ้างแตกต่างกันออกไปเช่นกัน

    การมีจิตเป็นสาธารณะที่มิได้คิดแต่เรื่องส่วนตัวอย่างเดียว มีการสนใจส่วนรวม และพระพุทธศาสนาได้ขนาดนี้ นับว่าแต่ละท่านก็เป็นยอดคนที่สังคมต้องการแล้ว แม้จะทำงานทางธรรมหรือวาระอะไรไม่ได้มากมาย เราก็ไม่ว่ากัน เราถือว่าท่านคือคนสำคัญมากๆแล้ว....[​IMG]

    5. ไม่มีหัวหน้า มีเพียงกลุ่มผู้ริเริ่ม มีเพียงกลุ่มผู้ทำงาน สานต่องานแบบต่างๆเป็นกลุ่ม ทุกท่านล้วนเป็นอัศวินโต๊ะกลมที่ทำงานทุกอย่างที่เป็นการรับใช้พระพุทธศาสนา ถวายบุญ-คุณความดี ทุกอย่างเป็นเครื่องบูชาพระรัตนตรัย ที่ทำงานเป็นกลุ่ม ทั้งงานในส่วนรูปธรรมและนามธรรม แล้วแต่จริตของแต่ละท่าน....

    6. เราไม่มีหัวหน้า แต่มีศูนย์รวมจิตใจคือพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ทั้งหลาย เป็นเครื่องยึดเหนี่ยว เรารับใช้อุปฐาก ดูแลปรนนิบัติ ทำงานถวาย ไม่ว่าจะเป็นงานไกล้ชิด หรืองานส่งเสริมอยู่ห่างๆ ทั้งแบบงานแบบรูปธรรม และงานแบบนามธรรม...

    7. รูปแบบการทำงานจะเติบโตและเปลี่ยนไปตามกำลังของทีมงาน แต่ก็มีหลักการใหญ่อยู่ หลักการนั้นเรียบง่าย คือ "งานทุกอย่างที่ช่วยทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ให้เจริญรุ่งเรืองครบ 5000 ปีตามพุทธทำนาย" ใครถนัดเช่นไร พร้อมเช่นไรก็ทำเช่นนั้นก่อน ใครเหนื่อยก็พัก ใครถอยใครล้า เหล่าเพื่อนผองก็จะมาช่วยกันจับมือพยุง ช่วยเหลือให้ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

    8. ไม่ต้องคำนึงเวลาว่าช้าหรือเร็ว ก้าวหน้าหรือไม่ก้าวหน้า งานมากหรืองานน้อย ทำงานที่ปัจจุบันด้วยใจสบายเป็นหลัก...ให้ฟอกและเรียนรู้บารมี 10 ซึ่งบางทีบารมี 10 เต็ม แต่ผลงานออกมาน้อยในทางโลก ด้วยอาจจะเพราะมีเครื่องขัดมาก แต่ก็ถือว่าถึงเป้าหมายแล้ว....เราทำงานได้สมบูรณ์แล้ว ใครไม่รู้ตัวเราเองย่อมรู้ดี....

    อย่าลืมนะว่า "โลกมิให้ช้ำ ธรรมมิให้พร่อง" งานทางโลกในสัมมาชีพ ในฆราวาสวิศัย ในการเรียนก็ต้องดีเยี่ยม เรื่องของธรรมทั้งหลายทั้งปริยัติ และปฏิบัติก็ต้องยอด ต้องสมดุลกัน หากขาดสมดุลแล้ว พึงทราบได้ว่า บารมีบางอย่างเราพร่องเสียแล้ว โดยเฉพาะตัว "ปัญญา" ..... ต้องเข้าใจคำว่าวาระ และหลักสัปปปุริสธรรมให้จงหนัก คือหลักแห่ง เหตุ ผล ตน ประมาณ กาล ชุมชน บุคคล....

    9. เน้นที่ความสบายของจิต.... รถเขาวิ่งด้วยสมดุลดีแล้ว ไม่ต้องลงจากรถแล้ววิ่งตามรถ มันจะเหนื่อยและไปถึงที่หมายช้าลงได้.... ให้หมั่นทำงานอย่างมีบารมี 10 เต็ม อยู่ในสมดุล ไม่มากไป ไม่น้อยไป ([​IMG] ส่วนใหญ่เห็นที่มากไปนั่นเยอะนะ...น้อยไปแก้ง่ายแต่ที่เยอะไปนี่แก้ยาก...นี่โจษตัวเองด้วยนะครับ...[​IMG] )

    มีอิทธิบาท 4 พละ 5 บารมี 10 ด้วยใจที่ผ่องใสสบายๆ....ตึงไปก็คลายตัว หย่อนไปก็ขันให้ตึงขึ้นมาหน่อย เว้นส่วนสุดโต่งทั้ง 2 ข้าง...

    10. เข้าใจกันว่า "อันปุถุชน(พวกเรา)หาใช่ปราชญ์ไม่(พระสัพพัญญู) ที่ไม่ผิดพลาดนั้น..ไม่มี" เรารวมกลุ่มกันย่อมมีความกระทบกระทั่ง มีความไม่เข้าใจกันบ้าง มีความเข้าใจแตกต่างกันบ้าง ก็ต้องมีจิตในพรหมวิหารทั้ง 4 ประการต่อกัน หนุนเนื่องกันและกันตามกำลัง ยิ่งทำงานกลุ่มที่ไม่ได้เจอหน้ากันโดยตรงด้วยแล้ว ไม่ใช่ญาติกันโดยตรงด้วยแล้ว ยิ่งต้องใช้กำลังใจเป็นพิเศษ อย่างตัวอักษรเขียนนี่ก็เหมือนกัน มันสื่ออะไรได้ไม่ครบ ขอโปรดอย่าตีความอักษรเขียนกันในแง่ลบไว้ก่อน ให้คิดกันแต่ในแง่บวกนะครับ...
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  5. Attawat_Rx

    Attawat_Rx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,183
    ค่าพลัง:
    +18,400
    คณะสหธรรมิกราช ความเป็นมา และความเป็นไปฯ (ตอนที่ 5)

    การทำงานเป็นกลุ่มย่อมมีผลมากกว่าทำงานคนเดียว


    จะเห็นได้ว่า หลักการทำงานของคณะฯนั้น จะเน้นที่ความถนัด ความชอบของแต่ละท่าน และเน้นที่การทำงานช่วยเหลือเกื้อกูล หนุนเนื่องกันเป็นกลุ่มก้อน ด้วยความคิดที่ว่า ไม่มีใครในโลกนี้ไม่ว่าจะเก่งกล้าปานใด ที่จะสามารถทำงานใหญ่มากๆ ได้เพียงลำพังตัวเองเพียงคนเดียวได้ เช่นเดียวกับ ไม่มีใครสามารถสร้างกำแพงเมืองจีน ได้ด้วยอิฐเพียงก้อนเดียว ฉันใดก็ฉันนั้น การทำงานเป็นกลุ่มนั้นได้เปรียบกว่าการทำงานคนเดียวหลายประการด้วยกันคือ

    1. คล่องตัวกว่ามาก จะมีผู้ศรัทธามาร่วมกำลังด้วยมากกว่า เนื่องเพราะในนามกลุ่มนั้นสร้างความมั่นใจแก่ผู้ผ่านมาพบเห็นโครงการต่างๆมากกว่าทำในนามเดี่ยว การร่วมบุญจึงเกิดขึ้นมากกว่า งานต่างๆจึงคล่องตัวกว่า ลุล่วงได้รวดเร็วกว่านั่นเอง

    2. จิตในการอนุโมทนาร่วมสูงกว่า เพราะเป็นในนามกลุ่ม ความรู้สึกร่วมจึงสูงมากกว่า เหมือนการทำงานใดๆ หากเราเพียงแค่เห็นเขาทำ กับการได้ร่วมลงมือทำกับเขา จิตใจอันผ่องใสปราบปลื้มในงานที่เราได้ลงมือร่วมทำ แม้เพียงส่วนเสี้ยว ก็จะเกิดขึ้นมากกว่านั่นเอง

    3. การถูกคราหาว่าทำตัวเด่นดัง หรือคำครหาเรื่องความโปร่งใส หรือเรื่องการโดนเพ่งเล็งจากบุคคลที่ไม่เข้าใจ ไม่เข้าถึง ย่อมน้อยกว่าทำคนเดียว

    4. เป็นตัวอย่างแห่งความสามัคคีให้สังคมภายนอกได้ทำตาม การทำงานเป็นกลุ่มด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันนั้น เป็นพื้นฐานของสังคมไทยที่สำคัญยิ่ง และสมควรเป็นอย่างยิ่งที่จะกระทำการรื้อฟื้นวัฒนธรรรมดังกล่าวให้กลับมาอีกครั้ง ให้แก่สังคมภายนอกได้รับรู้เป็นตัวอย่าง อันจะเป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยทำนุบำรุงทั้งพระพุทธศาสนาและชาติบ้านเมืองให้ฟื้นตัวและเจริญรุ่งเรืองสืบไป .....

    5. ผลงานที่ออกมามีความอลังการกว่าทำคนเดียว และผลบุญกุศลก็ย่อมอาจสูงกว่า(บุญบารมีจะมากจะน้อย มิได้ขึ้นอยู่กับผลงานแต่เพียงอย่างเดียว ย่อมขึ้นอยู่กับกำลังใจ และการทำใจได้ตรงของบุคคลนั้นๆด้วย) ทั้งนี้ด้วยจิตที่ทรงตัวในพรหมวิหารธรรม มีความเต็มบริบูรณ์ใน อิทธิบาท 4 พละ 5 และบารมี 10

    6. อื่นๆ
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  6. Attawat_Rx

    Attawat_Rx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,183
    ค่าพลัง:
    +18,400
    คณะสหธรรมิกราช ความเป็นมา และความเป็นไปฯ (ตอนที่ 6)

    ขอเรียนเข้ามาพบปะพูดคุยหรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนของเราได้ที่

    เว็บสหธรรมิกราช.คอม
    http://www.sahadhammikaratch.com/board/index.php

    ขอเรียนเชิญครับ

    สหธรรมิกราช.คอม
     
  7. กสิณี

    กสิณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2009
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +333
    ขออนุโมทนาบุญกับคณะสหธรรมิกราชทุกท่าน ที่มาร่วมกันเสริมสร้างพระพุทธศาสนาให้รุ่งเรืองสืบไปจนครบ 5,000 ปี สาธุ สาธุ สาธุ
     
  8. Natthakorn

    Natthakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,003
    ค่าพลัง:
    +7,078
    สาธุ สาธุ สาธุ
    อนุโมทนาบุญด้วยทุกประการครับ
     
  9. กัลย์

    กัลย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +543
    ขออนุโมทนาบุญกับคณะสหธรรมิกราชทุกประการค่ะ
    อยากจะเป็นอีกหนึ่งในคณะสหธรรมิกราช ได้อย่างไรหนอ
    แวะเข้าไปเยี่ยมชมในเวปแล้วค่ะ ล้วนลูกหลานหลวงปู่หลวงตาที่คุ้นเคย
     
  10. Attawat_Rx

    Attawat_Rx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,183
    ค่าพลัง:
    +18,400
    เปิดรับทุกท่านครับ เพียงมีใจต้องการก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของเราแล้ว
     
  11. ณ มาตุธรรม

    ณ มาตุธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +43
    แล้วพบกันเมื่อถึงกันถึงเวลานะจ๊ะสหธรรมมิกราชาทุกท่าน
     
  12. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    สาธุ สาธุ สาธุ
    ปณิธานอันประเสริญยิ่งนัก ขอทุกท่านร่วมอนุโมทนาครับ
     
  13. wicha30

    wicha30 เพียรภาวนา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +114
    ขออนุโมทนาสาธุกับทุกท่านทุกบุญ

    ขออนุโมทนาสาธุกับทุกท่านทุกบุญ และความคิดดีๆของท่าน
    ท่านพี่ผู้ยิ่งใหญ่ เขาแนะนำให้เข้ามาดู


    พี่เขาไม่นิยมกล่าวคำขอโทษไม่ค่อยเป็นเพราะกลัวพิกุลจะออกจากปาก แต่เขาชำนาญใช้อธิฐานจิตให้อภัยแทน


    1.การใช้ชื่อภาษาอังกฤษก็จะไม่สะดวก(เช่นการเขียนภาษาไทยต้องนำ ภาษาอังกฤษตาม จึงจะถูกต้อง)
    2.มีพระโพธิสัตว์หรือผู้ญานหรือได้มรรคผลเป็นผู้นำจะได้ชนะมาร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2010
  14. มหิธา

    มหิธา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    249
    ค่าพลัง:
    +66
    อนุโมทนาสาธุทุกประการ ในกุศลที่เกิดขึ้นจากการนี้ตั้งแต่อดีตปัจจุบันและอนาคต:cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...