คุณเคยท้อแท้ไหม และหมดกำลังใจไหมคะ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย saipote, 8 กุมภาพันธ์ 2010.

  1. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    คุณเคยท้อแท้กับชีวิตไหมคะ เคยคิดกันบ้างไหมคะ เคยเบื่อชีวิตกันบ้างไหมคะ ว่าเราต้องเกิดมาทำไม เพื่ออะไร มันรู้สึกเหนื่อยไปหมดท้อแท้ เหมือนจะหมดกำลังใจ ไม่อยากจะทำอะไร มองดูไม่เห็นอนาคต อนาคตเราจะเป็นยังไงนะ บางทีก็อยากไปที่ไหนไกล ๆ อยู่เงียบๆ คนเดียว บางทีก็นึกนี่เรากำลังโตเหรอ การจะโตเป็นผู้ใหญ่ซักคนนี่มันต้องเหนื่อยขนาดนี้เลยเหรอ แต่แล้วเราก็ทำไม่ได้ ด้วยหน้าที่การงาน และภาระต่าง ๆ ที่ทุกคนฝากไว้ชีวิตไว้กับเรา ที่ไม่อาจทิ้งไปได้ในขณะนี้ หันหน้าไปปรึกษาใครก็ไม่ได้ แล้วคุณล่ะแก้ไขกันยังไงเหรอ หากำลังใจกันยังไงอ่ะ ถึงได้กลับมาเป็นคนเก่ากันได้แบบนี้ ช่วยแนะนำหน่อยสิ ตอนนี้รู้สึกหมดกำลังใจมาก ๆ เลยอ่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2010
  2. BanGiiz

    BanGiiz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +56
    หากเรากำลังตกอยู่ในสถานที่มืดมิด มืดแปดด้าน

    หากรู้ตัว ก็ให้เดินข้ามออกมาจากที่ๆนั้นเสีย

    หากเราออกมาข้างนอกแล้ว หากมองกลับไปสถานที่นั้นได้

    มันก็แค่ พื้นที่เล็กๆเอง
     
  3. ราเมศ

    ราเมศ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +50
    นึกซะว่ามันก็เป็นอย่างนั้นเองแหละครับทุกๆสิ่งเป็นไปตามธรรมชาติของตัวมันเองมันก็ทำหน้าที่ของมันอย่างสมบรูณ์ แล้วเราล่ะคับจะวางตัวเราอยู่ตรงไหนดีถึงไม่เป็นทุกข์
     
  4. su37berkut

    su37berkut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    422
    ค่าพลัง:
    +1,121
    โอ้ลมหนาวดาวเดือนยังเคลื่อนคล้อย ปลิวล่องลอยลับฟ้าไม่ยังยืน
    ผ่านไปแล้ววันวานไม่หวลคืน โศกสะอื้นขื่นขมกันไปไย
    เมื่อทุกสิ่งย่อมแปรผันผ่านเวลา ล่วงเลยมาต้องลาลับดับแสงไข
    แม้ทุกคืนย่อมผ่านพ้นลาลับไกล ล่วงเลยไปใจตัวเราเท่านี้เอง...
     
  5. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ขอบคุณนะคะสำหรับหลายๆคำแนะนำ เคยนะ เคยตั้งความหวังไว้ ว่าปีนี้ ปีนั้น จะทำความหวังให้เป็นจริง ว่าจะทำมันให้ได้ แต่พอมาคิดอีกที แล้วถ้าเราทำไม่ได้อ่ะ เราจะเสียใจไหม คนอื่นจะผิดหวังกับเราไหม ที่เราไปคุยบอกคนนั้นคนนี้ไว้ ทุกวันนี้ก็เลยไม่กะเกณฑ์กับอะไร ความหวังเอาโยนทิ้งไปหมด ปล่อยชีวิตไปตามกรรม เพราะคิดว่าทุกคนเกิดมามากรรม ดูซิกรรมมันจะพาเราไปทางไหน แต่พอปล่อยมันไปจริงๆ อ้ายตัวความหวัง มันก็พาเราหมดกำลังใจ พาเราท้อแท้ แล้วก็เป็นอย่างที่เห็นนี่แหล่ะค่ะ 555
     
  6. BanGiiz

    BanGiiz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +56
    ถูกต้องนะค้าบ

    ก้าวทุกก้าวระหว่างเดิน...
    ถ้าเรามองแต่ด้านหลัง... อาจจะสะดุดล้ม หรือชนเสาไฟฟ้าเมื่อไหร่ก็ได้
    ถ้าเรามองแต่ด้านหน้า... ก็จะไม่เห็นก้าวที่เราเดิน
    แต่ถ้าเรามองก้าวที่เราเดินอยู่... มันจะนำพาเราไปสู่จุดหมาย
     
  7. Jaturongktpm

    Jaturongktpm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +181
    อืม...ม
    ตอนนี้ชีวิต เราเหมือนอยู่ท่ามกลางคลื่นลม และมรสุม ในทะเลแห่งชีวิตอันกว้างใหญ่
    เรือลำเล็กๆ ลำหนึ่ง ต้องออกผจญคลื่นลมตามลำพัง เพื่อตามหาฝั่งฝัน ที่อยู่ไกลๆอีกฟากฟ้าหนึ่ง
    ตลอดเส้นทาง ของจุดหมาย รายล้อมไปด้วย น้ำและฟ้า อันเวิ้งว้าง ไร้ขอบเขต
    ทุกๆคืนวันที่พ้นผ่าน มีทั้งวันที่สดใส สุข สดชื่น สบายใจ และวันที่ต้องฟันฝ่าพายุร้าย
    ภยันตรายต่างๆ ที่ซัดถาโถมเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว ชวนให้ใจของเราอับปางลงง่ายๆ
    แต่สุดท้ายไม่ว่าจะยังไง เรา ก็รอดมาได้ และเรียนรู้ที่จะอยู่
    อยู่ เพราะชีวิตเกิดมาเพื่ออยู่รอด
    อยู่ เพื่อออกค้นหาจุดหมาย
    อยู่ ด้วยใจที่ไม่หยุดแสวงหา
    อยู่ ด้วยใจที่เด็ดเดี่ยวอย่างผู้กล้า
    อยู่ ด้วยใจของอัจฉริยะ
    อยู่ ด้วยใจที่กล้าล้มเหลว
    อยู่ ด้วยใจที่เชื่อมั่นด้วยความฝัน ความหวัง และความจริง
    อยู่ เพื่อค้นพบสิ่งสุดท้ายในหัวใจ
    [​IMG]
    สิ่ง...ศรัทธา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2010
  8. รพินทร์ไพรวัลย์

    รพินทร์ไพรวัลย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    669
    ค่าพลัง:
    +1,122
    ทางสายกลางครับ
     
  9. อ่อนหัดธรรม

    อ่อนหัดธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    488
    ค่าพลัง:
    +968
    ความท้อมีกันทุกคนครับ แต่จะเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันยังไงให้ดีที่สุด ขอเป็นกำลังใจนะครับ
     
  10. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,903
    ค่าพลัง:
    +7,316
    ท้อแท้ เพราะคิดมากไปหรือเปล่า ใจมันไม่ยอมอยู่ในปัจจุบันเพราะปัจจุบันมันเป็นทุกข์มั้ง

    เล่าให้ฟัง เรื่องที่เราเคยท้อแท้ นะ แต่ก็รอดมาได้เป็นคราวๆด้วยสติ (คราวหน้าก็คงมีอีก)
    บางที ใจเรามันอยากทำอะไรซักอย่าง แต่สภาพแวดล้อมไม่อำนวยให้ทำ
    มันก็พาลไม่อยากทำอย่างอื่นเลยก็มีนะ หรือบางทีสภาพแวดล้อมมันเหมือนบังคับ
    ให้เราต้องทำในสิ่งที่เราไม่อยากทำแต่ต้องทนอยู่กับมันไปเพราะหน้าที่การงานและภาระ
    ที่ต้องดูแลคนอื่น เราเป็นคนเห็นแก่ตัวมากๆเลยนะ(เคยคิดจะหนีไปบวชชีก็หลายหน)
    ไม่เคยยอมใคร จะทำอะไรก็ต้องทำให้ได้ ถ้ามีคนห้าม เราก็แอบทำเงียบๆไม่บอกใคร
    ดื้อเงียบ พอเรามีลูก เราก็เริ่มเปลี่ยนความคิด เพราะเรารักลูก ถ้าเราเอาตัวรอดไปคนเดียว
    ลูกเราจะพึ่งใครได้ จริงๆแล้วสามีก็ดูแลลูกได้ พี่ชายพี่สะใภ้ก็ยินดีเลี้ยงลูกเรานะ แต่ลูกเรา
    มันเกาะติดเราแบบผีชัตเตอร์เลย ก็เลยสงสารลูก ต้องอยู่ดูแลจนกว่าเขาจะมีเมียหรือพึ่งตัว
    เองได้โดยไม่ต้องพึ่งเรา สิ่งที่เราหวังไว้ก็เลยต้องเพลาๆลงอยากจะทุ่มเวลาให้กับตัวเอง
    มากๆ ก็ต้องยั้งๆ แบ่งเวลาไปให้สามีและลูกบ้าง ทำหน้าที่ในปัจจุบันให้ดีที่สุด มีสติ และดู
    สิ่งที่เราทำเพื่อคนอื่นกลับมาเป็นกำลังใจให้ตัวเอง ว่าเราทำเพื่อลดความเห็นแก่ตัวลง
    ในดีมีเสีย ในเสียมีดี การที่เราทำเพื่อคนอื่นไม่ว่าจะเป็น พ่อแม่ สามี ลูก ญาติพี่น้องเรา
    หน้าที่การงานเจ้านายลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน ล้วนเป็นการสร้างบุญบารมีให้ตัวเองทั้ง
    สิ้น ถ้าเราทำไปด้วยความมีสติ ก็เป็นการเสียสละตัวเราเองเพื่อคนอื่นได้ ด้วยการทำให้
    คนที่อยู่แวดล้อมเรามีความสุขโดยไม่หวังว่าเราจะต้องได้ความสุข และถ้าเราทำพลาด
    ไปทำให้คนแวดล้อมเราเป็นทุกข์เพราะเรา ก็ต้องมีสติรู้ว่าทำพลาดแล้วปรับปรุงตัวเอง
    ไม่ใช่ลงโทษตัวเองด้วยการย้ำคิดย้ำทำให้ตัวเราหมดกำลังใจลงไปอีก ก็คิดในแง่บวก
    แทนว่าโชคดีนะที่เรารู้ว่ามันพลาดต่อไปจะได้ระวังมากขึ้น

    ส่วนใหญ่ อาการท้อแท้ หมดกำลังใจของเรา จะมาจากไม่ได้ทำอย่างที่ใจอยากจะทำ
    แล้วก็พาลโทษคนอื่นว่าเป็นต้นเหตุ ทำให้เราพลาดโอกาส คิดเอาเองว่าคนอื่นต้อง
    การจากเราแต่ไม่เคยเห็นใจเรา ไม่ให้ในสิ่งที่เราต้องการ กลายเป็นทุกข์ในปัจจุบัน
    แล้วคิดแต่จะหนีจากสภาพแวดล้อมในปัจจุบันไปให้พ้นๆ ปลอดภาระ ปลอดหน้าที่
    มีอิสระทำทุกอย่าง อย่างที่ใจเรียกร้องต้องการ พอยิ่งคิดก็จะยิ่งเป็นทุกข์หนักขึ้นๆ
    แต่พอมันทุกข์หนักๆ และหนีไปไหนไม่ได้ ก็ต้องหันมาสู้แบบจนตรอกกลับมาพิจารณา
    ความจริงของตัวเอง จะอยู่เพื่อสู้กับบททดสอบชีวิต หรือจะหนีไปเสวยสุขและทุกข์คน
    เดียว ถ้าเราไม่สามารถอยู่ในปัจจุบันอย่างมีความสุขได้ พอมีทุกข์เกิดขึ้นก็หาทางหนีทุกข์
    ไปเรื่อยๆจะไปอยู่ที่ไหนก็คงหาความสุขไม่ได้อยู่ดี เหมือนเราเป็นหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่ง
    ที่เป็นทุกข์เพราะขี้เรื้อนมันเป็นที่ตัวเราเองอยู่ตรงนี้มันคันมันทุกข์ ก็เปลี่ยนไปอยู่ที่
    ใหม่ขี้เรื้อนมันอยู่ที่เรามันก็คันก็ทุกข์อีก ไม่ว่าเราจะหนีไปที่ไหนๆ เราก็ยังเป็นทุกข์อยู่
    ดี พอเรามีสติคิดได้แบบนี้ เราก็เริ่มมองหาวิธีที่จะอยู่ได้อย่างเป็นสุขในชีวิตปัจจุบัน
    ด้วยสติทีละเล็กทีละน้อย มองให้เห็นความจริงของชีวิตเรา ยอมรับความเป็นจริงของสามี
    และลูก ว่าเป็นบททดสอบชีวิตของเรา พอเราทำได้ทีละนิดความสุขเริ่มโชยเข้าในชีวิต
    กำลังใจมาก็เพิ่มขึ้นเอง อยากทำบุญไม่มีเวลาไปไหน ทำบุญกับคนในครอบครัวเราก็
    ได้บุญมากเหมือนกัน ทำบุญให้กับพ่อแม่ สามีลูก ญาติพี่น้องและคนรอบข้างที่เรา
    เจอ ทำให้พวกเขามีความสุขก็คือได้บุญ พอคนรอบข้างเรามีความสุข เราก็ได้รับความ
    สุขไปด้วยเป็นบุญบารมีที่เราได้รับเต็มๆ ทุกๆเวลาทุกนาทีที่ผ่านไปของชีวิตเรา
    ความสุขที่เราทำให้คนอื่นต้องอยู่บนพื้นฐานของศีลธรรมอันดีงาม บุญกุศลนั้นก็จะ
    ไม่มีพิษภัยแห่งความหลงงมงายเป็นบุญที่บริสุทธิ์ สะอาด ไร้มลภาวะ ไม่มีทุกข์ปน
    เปื้อนตามมา ผลสุดท้าย เราและคนรอบข้างจะพบความสุขที่แท้จริงได้ในอนาคต
    บารมีและกำลังใจจากคนรอบข้างจะกลับมาช่วยหนุนส่งเรา วนเวียนกันไป เราหมด
    เขาต่อให้ เขาหมดเราต่อให้ เริ่มจากชิ้นเล็กๆ เมื่อทำได้สำเร็จ กำลังใจจะเพิ่มพูน
    บารมีก็เพิ่มตาม ถ้าไม่สำเร็จก็อย่าเพิ่งท้อแท้ เพราะจุดเริ่มต้นมันก็คงยาก นิดนึง
    แต่ถ้าเริ่มได้สำเร็จ ก็เหมือนวงล้อจักรยานที่มีแรงส่งออกแล้ว ก็หมุนไปได้เรื่อยๆ
    กำลังใจเริ่มแรก มาจากตัวเราเอง ต้องมีสติ มองปัญหาให้แตก แล้วทำงานให้สำเร็จ
    ขึ้นมาสักอย่างหนึ่งอะไรก็ได้ เช่นให้เงินขอทาน ขอทานเขาก็มีความสุข ความสุขนั้น
    ก็จะทำให้เรามีความสุขได้ในปัจจุบันแว๊บนึง หรือไปเลี้ยงเด็กกำพร้าให้น้องๆมีความสุข
    1วัน พอเราเห็นคนอื่นมีความสุขจากที่เราทำให้ ปิติจะเกิดมาหล่อเลี้ยงใจเราได้เหมือน
    กัน สติก็จะกลับมาหาเรา ถ้าทำกับคนใกล้ตัวได้เช่นพ่อแม่หรือคนที่เรารัก ก็จะดีมาก
    เหมือนกัน เพราะศีลและพรจากพ่อแม่ ก็เหมือนศีลและพร จากพระพรหม และพระอรหันต์
    ในบ้าน เหมือนกัน ยกเว้นบางคนที่อาภัพเพราะกรรมเก่า ทำบุญกับคนใกล้ตัวไม่ขึ้น
    ก็เลี่ยงไปก่อนได้ จะได้ไม่ทุกข์ใจ เพราะคนใกล้ตัว ไปหากำลังใจจากคนภายนอกก็ได้
    ไปทำบุญให้อาหารสัตว์เวลาเห็นสัตว์มันมีความสุข ความสุขจากพวกเขาจะย้อนกลับ
    มาหล่อเลี้ยงจิตใจที่แห้งผากท้อแท้ของเราให้มีความสุขตามได้ ไปทำให้คนอื่นมีความสุข
    เล็กๆน้อยๆ ด้วยงานจิตอาสาก็ได้งานพวกนี้จะทำให้เราลืมความทุกข์ใจของตัวเราเองใน
    ปัจจุบันได้ จะเกิดปิติสุขเล็กๆน้อยๆ มาหล่อเลี้ยงใจเราทำให้กำลังใจเราฟูขึ้นมาได้ สติก็จะ
    กลับมาอยู่กับตัวเรา ปัญญาก็จะตามมา เราก็จะมีแรงจัดการกับปัญหาชีวิตอย่างที่ถูกที่ควรได้

    เป็นแนวทางหนึ่งอะนะ แต่ทางอื่นๆก็มี เทคนิค คือ ทำให้เราตัวเรามีสุขให้ได้แบบมีศีลธรรม
    ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน แล้วกำลังใจจะมีขึ้นมาเอง หลีกเลี่ยงเรื่องทุกข์ใจไปซักพัก เพราะ
    ช่วงจิตตกแล้วหมกมุ่นอยู่ความคิด จะพาให้ตกหนักขึ้น บางทีการไปท่องเที่ยวพักจิตใจ
    ไปดูโลก ดูชีวิตคนอื่น อาจได้พบความจริงว่า คนอื่นที่ทุกข์ยากแสนสาหัสกว่าเรา ก็ยังมี
    อีกเยอะ แล้วจะรู้สึกว่า เราเองก็โชคดีกว่าคนอื่นอีกหลายคนในโลกนี้ ในตอนนี้
     
  11. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,572
    ค่าพลัง:
    +4,560
    พระพุทธองค์สอนว่า การเกิดมาเป็นมนุษย์และทำมาหากินนี่ เป็นสิ่งที่ยากลำบาก
    แสดงว่า มันเป็นปรมัทถ์ ไอ้ชีวิตเรานี่ เพราะมันต้องลำบาก
    เช่น ต้องตักข้าวเข้าปาก
    กว่าจะได้ข้าวมาต้องปลูก
    กว่าจะปลูกข้าวได้ต้องไปหาเมล็ดพันธ์ฯ,ฯ
    ร่ายกายสกปรกต้องไปหาน้ำอาบ ต้องลำบากถูตัวฯลฯ
    การใช้พลังงานทำโน่นทำนี่ต่างๆคือความยากลำบากทั้งนั้น ทำทั้งวันก็ต้องพัก ด้วยการนอน
    ที่ต้องนอนเพราะเหนื่อยจากการทำงาน
    พวกที่ไม่เหนื่อยก็ยังไม่นอน ออกไปเต้นระบำ
    พอคืนที่สองมันก็ไม่ไหว ก็ต้องนอน เพราะการเต้นระบำคือความทุกข์ของร่างกายด้วย จึงต้องพักการใช้งานมัน
    พอเข้าใจความจริงอย่างนี้ ก็ต้องเรียนรู้เรื่องสมมุติบัญญัติว่ามันคืออะไร แล้วตัดมันออก ก็จะมีความสุขได้
     
  12. speed1234

    speed1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2010
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +403
    สำหรับคนที่ท้อแท้นะครับ

    <TABLE class=ecxMsoNormalTable style="BORDER-RIGHT: #f3f8d8 1pt solid; BORDER-TOP: #f3f8d8 1pt solid; BACKGROUND: white; BORDER-LEFT: #f3f8d8 1pt solid; WIDTH: 95%; BORDER-BOTTOM: #f3f8d8 1pt solid" cellSpacing=1 cellPadding=0 width="95%" bgColor=white border=1><TBODY><TR><TD style="BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-RIGHT: 2.25pt; BORDER-TOP: medium none; PADDING-LEFT: 2.25pt; BACKGROUND: #ffffec; PADDING-BOTTOM: 2.25pt; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-TOP: 2.25pt; BORDER-BOTTOM: medium none" vAlign=top bgColor=#ffffec>หัวข้อ: ชีวิตยังมีทิศตะวันออก...
    โพสต์ : 05 Sep 2008 เวลา 2:03am

    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 112.5pt" height=150><TD style="BORDER-RIGHT: #d1d7dc 1pt solid; PADDING-RIGHT: 2.25pt; BORDER-TOP: #d1d7dc 1pt solid; PADDING-LEFT: 2.25pt; BACKGROUND: #ffffec; PADDING-BOTTOM: 2.25pt; BORDER-LEFT: #d1d7dc 1pt solid; PADDING-TOP: 2.25pt; BORDER-BOTTOM: #d1d7dc 1pt solid; HEIGHT: 112.5pt" vAlign=top bgColor=#ffffec height=150>[​IMG]
    บ่อยครั้งที่ชีวิตผิดพลาด..ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่
    เรามักจะเอาสมาธิไปจดจ่ออยู่กับความผิดพลาดนั้น
    ซ้ำเติมตัวเองให้ทุกข์...ให้เสียใจ...
    และพยายามจะสร้างคำถามเพื่อค้นหาคำตอบให้ตัวเองอยู่เสมอ

    ทั้งๆ ที่เราก็รู้ว่าคำตอบที่สร้างขึ้นมานั้น มัน "ไม่ใช่ความจริง"...
    ที่จะทำให้เราหลุดพ้นจากความเสียใจนั้นได้เลย...
    เราจึงยอมติดกับดักความเสียใจอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
    และกลายเป็นทาสของมันอย่างรู้ตัว...

    รู้ว่าเสียใจแต่ก็ไม่ทำให้อะไรมันดีขึ้นมา
    และเราก็ไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตได้
    แต่ทำไมเรายังเป็นทุกข์กับการเลือกที่จะเสียใจ
    และทำชีวิตให้มันแย่ลงกว่าเดิมทุกวันๆ...

    ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่ารสชาติของมันสุดแสนจะขมขื่นมากมายเพียงใด
    เพราะ " เราเริ่มต้นใหม่ไม่เป็น"...
    เราเลยยังทุกข์ระทมไปกับความผิดพลาดของชีวิต

    สิ้นสุดแล้วแต่ก็เริ่มต้นใหม่ไม่ได้...
    ไปไม่เป็น...เหมือนจะมองเห็นทาง...

    แต่ก็เลือกที่จะปิดหู ปิดตา และไม่พยายามจะเปิดใจ
    เราจึงต้องอยู่กับความเศร้าเสียใจอยู่ทุกคืนทุกวัน
    ตอกย้ำความผิดพลาดให้ตัวเองอยู่อย่างนั้น...

    ลองมองดูวิถีดอกทานตะวันบ้างสิ..ชีวิตมีแต่ความเบิกบาน
    เพราะรู้จักที่จะใช้ชีวิตไปพร้อมๆ กับแสงตะวัน
    แสงสว่างที่ส่องนำทางให้ชีวิตทุกชีวิต..."ยังคงมีชีวิต"...

    แม้ยามที่ดอกทานตะวันร่วงโรย...
    ก็ยังคงทิ้งเมล็ดพันธุ์ให้เจริญเติบโต...
    งอกงามและรับแสงตะวันได้ใหม่อีกครั้ง

    เพราะฉะนั้นเราต้องไม่ปิดตัวเอง...
    แล้วจมอยู่กับความคิดที่ว่าชีวิตต้องเริ่มต้นใหม่ไม่ได้

    อย่าทำร้ายตัวเองด้วยการเศร้าเสียใจ...
    แล้วปล่อยให้ชีวิตมันไหลไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีคุณค่าและไร้จุดมุ่งหมาย...

    จงใช้ชีวิตให้เป็นดั่งเช่นดอกทานตะวัน...
    แม้ยามผิดพลาด เสียใจ ก็จะมีทางออกของชีวิตเสมอ

    อับจนหนทางอย่างไร แสงสว่างจากดวงตะวัน
    ก็จะคอยส่องทางให้เราได้พบเจอทางออก

    "ชีวิตเราจึงมีทางออก ตราบใดที่บนโลกใบนี้ยังมีทิศตะวันออก"...
    แม้ว่าชีวิตจะยังมืดมน จะยังคงจมอยู่กับความผิดพลาด เศร้าใจ
    ก็จงเศร้าให้ถึงที่ สุด เสียใจ ก็จงเสียใจเสียให้พอ

    หากยังร้องไห้ ขอให้ระบายน้ำตาออกมา อย่ากักเก็บมันไว้ ...
    เมื่อเราเสียใจอย่างถึงที่สุดแล้ว เราต้องกล้าลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเอง
    และพร้อมที่จะเป็นคนใหม่ ที่ใช้บทเรียนจากอดีต...
    เป็นเหมือนเข็มทิศคอยช่วยบอกทางแก่ชีวิต เพราะ...

    " ความเศร้านั้นมีข้อดีข้อเสียในตัวมันเอง
    ข้อเสียคือทำให้เราโศกาอาดูร
    แต่ข้อดีของมันคือ...
    สอนให้เรารู้ว่าเราจะไม่ผิดพลาดตรงนี้อีก
    เราจะต้องไม่ร้องไห้ให้กับมันอีก..."

    ใครบางคนเคยบอกเอาไว้ตอนที่เสียใจกับความผิดพลาดของชีวิต...
    เพราะฉะนั้นแล้วเกิดเป็นคน มีความรู้สึกรู้สาเหมือนกันหมด
    สามารถเศร้าเสียใจกับอดีตที่ผิดพลาดได้เหมือนกันหมด
    และก็เริ่มต้นใหม่เหมือนกันหมดเช่นเดียวกัน...

    ขอเพียงกล้าที่จะเป็นนกปีกหักที่พร้อมจะรักษาตัวเอง
    และออกเดินทางได้โดยไม่กลัวว่าหนทางข้างหน้า...
    จะผิด พลาดซ้ำสอง อย่าลืมนะว่า ...

    " เรามีโอกาสผิดพลาดได้บ่อยครั้งเท่าไหร่ เราก็เดินถูกทางมากขึ้นเท่านั้น..."

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. ลูกท่าน

    ลูกท่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    393
    ค่าพลัง:
    +1,649
    ยอมรับว่าช่วงเวลานี้ ผมก็กำลังท้อแท้มากที่สุดเช่นกัน...
    ทั้งที่เดือนที่ผ่านมา ผมได้หายใจอย่างเต็มปอดกับชีวิตที่ดีขึ้น

    เป็นเหมือน จขกท ครับ
    วันแรกๆ ผมทรมานมาก ความเป็นตัวเองที่เคยครบสติไปไหนเสีย
    คนที่เคยทุกข์หนักคงทราบอาการเหล่านี้ ทั้งที่ตัวเองเป็นคนประฟฤติในธรรม
    ครองศีลรักษาตนอยู่เป็นประจำ

    แต่พอเจอมรสุม
    เรือแม้ลำใหญ่ ก็แกว่งเป๋ได้เช่นกัน
    และแถมแกว่งแรงด้วย

    **************

    ปัญหาแก้ไม่ออกซะที เหนื่อยมากครับ
    ปวดจิตใจเป็นที่สุด.............

    ทางแก้เร็วสุด ผมพยายามวางปัญหาหนักไว้ก่อน
    แล้วรีบหาทางลัดแก้ไขสภาพจิตใจและร่างกาย
    ที่ถูกปล่อยโซมอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วัน
    ให้ฟื้นสภาพเร็วสุด ได้บ้าง ไมได้บ้าง บางเวลา
    ก็ต้องรีบคืนๆๆๆๆๆ ให้ได้ครับ

    ทางลัดของผมคือธรรมะ ง่ายๆ เลย
    หาบทความที่เคยเข้าใจแจ่มแจ้งมาอ่านทวนตัวเอง
    หาบทพูด หรือคำกล่าวที่ฟังแล้วสอนใจเรา
    มาทวนซ้ำไปมาๆๆๆๆๆๆ

    ให้ใจเราจำให้ได้ว่า เราเคยมีความสุขใจแบบไหนนะ
    เราเคยจรรโลงใจแบบไหนที่อยู่โดยมีสติ
    เราต้องคืนสภาพนั้นก่อน แล้วค่อยหยิบปัญหามาแก้

    ถ้าร่างกายจิตใจย่ำแย่ แก้ปัญหาอะไรก็ไม่มีทางออก
    สติมา ปัญญาเกิดครับ

    ลองนะครับ........ทางลัดช่วยได้
    ถามตัวเอง เคยสุขใจแบบไหนที่สงบที่สุด
    มีติที่สุด อัดเข้าไปเลย ให้เข้าที่ก่อน
    เราจะได้รู้สึกปลอดภัยและมั่นใจ
    คิดในแง่บวก ว่า..............

    ปัญหาเราเองเคยเจอมาเป็นพันหมื่นเลย จำได้ใช่ไหม

    แล้วร้ายแค่ไหน เราผ่านได้หมด

    นี่มันก็อีกแค่ 1 ปัญหาครับ คิดแค่นั้น

    !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
     
  14. lamb of god

    lamb of god เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2009
    โพสต์:
    543
    ค่าพลัง:
    +436
    เคย...หลายครั้ง ในทุกเรื่อง และทุกสิ่ง เราเหมือนเป็นคนไม่ปกติ แต่ก็ช่างมัน
    เราหมุนตามโลกมานาน...ขอเพียงเราหยุดดูโลกมันหมุนบ้างก็ดี..- -
     
  15. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778

    ขอบคุณค่ะ อ่านแล้วมีกำลังใจขึ้นอีกกอง
     
  16. beautiful soul^^

    beautiful soul^^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2009
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +316
    เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆๆๆค่า^^
     
  17. สมรปราง

    สมรปราง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2008
    โพสต์:
    377
    ค่าพลัง:
    +263
    ถ้าพูดถึงทางโลกท้อแท้กับชีวิตนะเป็นบ่อยเลยเพราะสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน การโกหกหลอกลวงนั้นมีอยู่ทุกที่เพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ คุณจะย้ายบริษัทหรือหนีไปไหนก็ไม่พ้นนอกจากทำใจและพิจารณาด้วยปัญญาถึงโทษที่พวกเขาเป็นอย่างโน้นหรือเป็นอย่างนี้เราจะได้ไม่หลงไปกับเขาด้วย..คือทำมาแล้ว..

    ถ้าพูดถึงทางธรรมจากการการนั่งกรรมฐานถึงจุดๆๆหนึ่ง (แต่ละคนจะมีวาระไม่เหมือนกัน)
    หรือถึงช่วงเวลาดวงตกพวกนี้ก็จะแย่หนักกว่าคนปกติ..เพราะนอกจากจะโดนที่โลกมนุษย์แล้วเมืองผีก็จะรุมสกรัมคุณด้วยเพราะมีเจ้ากรรมนายเวรเข้าคิวรอคุณอยู่

    ...รู้สึกเหนื่อยเหมือนกัน...บางครั้งตื่นขึ้นมาไม่อยากหายใจแต่ก็แพ้ไม่ได้เพราะถ้าเราแพ้ หรือยอมรับชะตากรรม..ท้อแท้หมดอาลัยตายอยากก็หมายถึงชีวิตนี้ก็ต้องหลุดลอยไป
    ...จะเฉียดตายกี่ครั้งเราก็จะกลับมาเพราะการเกิดเป็นมนุษย์เพื่อสร้างบารมีต่อและชดใช้กรรมไปในตัวนั้นยากแสนเข็ญ...นอกจากจะต้องคอยระวังรักษาสติเพื่อไม่ยินยอมให้กรรมนั้นตัดรอนเราก่อน
    ...ในทางกลับกันก็ต้องตั้งใจตัดรอนกรรมให้เหลือน้อยที่สุดจากบารมีเดิม+บารมีที่เราต้องสร้างต่อไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่..ตายไปจะได้ไม่เสียชาติเกิดเน้อ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2010
  18. bigboom007

    bigboom007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    319
    ค่าพลัง:
    +570
    ผมท้อกับการเรียนมากเลย แต่ผมก็ถ้อยไม่ได้แล้ว
     
  19. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,672
    ค่าพลัง:
    +51,946
    เริ่มต้นชีวิตใหม่...ด้วยสัจจะที่ให้ไว้กับตนเอง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  20. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ชอบตรงนี้ของ k.kwan มาก ๆ อ่ะค่ะ เริ่มจากชิ้นเล็กๆ เมื่อทำได้สำเร็จ กำลังใจจะเพิ่มพูนบารมีก็เพิ่มตาม ถ้าไม่สำเร็จก็อย่าเพิ่งท้อแท้ เพราะจุดเริ่มต้นมันก็คงยาก นิดนึง
    แต่ถ้าเริ่มได้สำเร็จ ก็เหมือนวงล้อจักรยานที่มีแรงส่งออกแล้ว ก็หมุนไปได้เรื่อยๆ
    กำลังใจเริ่มแรก มาจากตัวเราเอง ต้องมีสติ มองปัญหาให้แตก แล้วทำงานให้สำเร็จ
    ขึ้นมาสักอย่างหนึ่งอะไรก็ได้ เช่นให้เงินขอทาน ขอทานเขาก็มีความสุข ความสุขนั้น
    ก็จะทำให้เรามีความสุขได้ในปัจจุบันแว๊บนึง หรือไปเลี้ยงเด็กกำพร้าให้น้องๆมีความสุข
    1วัน พอเราเห็นคนอื่นมีความสุขจากที่เราทำให้ ปิติจะเกิดมาหล่อเลี้ยงใจเราได้เหมือน
    กัน สติก็จะกลับมาหาเรา ถ้าทำกับคนใกล้ตัวได้เช่นพ่อแม่หรือคนที่เรารัก ก็จะดีมาก

    ขอบคุณนะคะที่หลายๆท่านแนะนำ วันนี้รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมานิดนึงแล้วค่ะ เมื่อตอนกลางวันอ่านบทความในเวปบอกว่า ให้เราเก็บความทุกข์ใส่ลิ้นชักไว้ มันก็จริงค่ะ ความทุกข์บางอย่างก็เก็บใส่ลิ้นชักได้ บางอย่างก็ไม่สามารถเอาใส่ลิ้นชักได้ แต่สุดท้ายเราก็ต้องแก้ไขมันอยู่ดี เพราะมันไม่อาจหลีกหนี มันก็เลยเหมือนต้องแบกความทุกข์ไว้ สุดท้ายก็อยู่ที่เรา กับวันเวลา ว่าไหมคะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...