สงสัยคำสอนของพระพุทธเจ้ามีลิขสิทธิ์หรือ ?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อธิมุตโต, 21 สิงหาคม 2006.

  1. อธิมุตโต

    อธิมุตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    4,741
    ค่าพลัง:
    +13,087
    [​IMG]

    อ่านหนังสือธรรมมะ มาก็หลายเล่ม หลายสำนักพิมพ์
    บางสำนัก ก็บอกพิมพ์เป็นธรรมทาน
    บางสำนัก ก็บอกพิมพ์เป็นพุทธบูชา

    แต่หลาย ๆ สำนักพิมพ์บอก หากนำข้อความส่วนหนึ่งส่วนใด ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษตามกฏหมาย เพราะ เป็นลิขสิทธิ์ ของเขา

    คำสอนของ พระพุทธเจ้า เป็นลิขสิทธิ์ของเขาซะเมื่อไหร่ แล้ว คนพิมพ์ไปขอลิขสิทธิ์ จากพระพุทธเจ้าด้วยตนเองหรือ

    ถึงบังอาจ มา กำหนดเป็นลิขสิทธิ์ของตนเอง

    ... ทำไม ถึงต้องมาตั้งลิขสิทธิ์กับหนังสือธรรมมะ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือ ครูบาอาจารย์ รูปหนึ่งรูปใด

    บางครั้งเห็นข้อความธรรมมะ ดี ๆ ในหนังสือ อยากเผยแผ่ ทาง อินเตอร์เนต พอเหลือบไปเห็นคำว่า

    "ห้ามละเมิด ลิขสิทธิ์" .. ถึงกับเซ็งเลย

    เลยอยากจะถามสมาชิกทุก ๆ ท่านว่า ธรรมมะ ของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีลิขสิทธิ์ด้วยหรือ ?

    ____________________________________
    ธรรมะคือธรรมะ
    แต่อย่าถามว่า อะไร คือธรรมะ
    แต่ควรศึกษาว่า ธรรมะ คืออะไร
     
  2. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,173

    ขออนุญาตตอบตามความรู้ความเข้าใจของผมนะครับ ผมมีความเห็นว่า


    ธรรมมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่มีลิขสิทธิ์ครับ


    แต่ที่ "แต่หลาย ๆ สำนักพิมพ์บอก หากนำข้อความส่วนหนึ่งส่วนใด ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษตามกฏหมาย เพราะ เป็นลิขสิทธิ์ ของเขา" นั้น


    ตามความเข้าใจของผมน่าจะเป็นลักษณะที่ว่า สำนักพิมพ์นั้นๆ ได้มีการนำธรรมมะของพระพุทธเจ้ามาเรียบเรียง จัดลักษณะตัวอักษร จัดทำวรรคตอน มีรูปภาพประกอบ บางครั้งมีการแปลเป็นภาษาอื่นๆ และมีการจัดทำรูปเล่ม ลักษณะดังกล่าวนี้ ผู้ที่เรียบเรียงฯ ย่อมได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายลิขสิทธิ์ มีสิทธิหวงกันไม่ให้ผู้อื่นคัดลอก ทำซ้ำ นำไปใช้ ฯลฯ ได้ แต่การได้รับความคุ้มครองนี้ก็เฉพาะแต่ลักษณะและรูปแบบดังกล่าวที่สำนักพิมพ์จัดทำขึ้นเท่านั้น


    อีกกรณีหนึ่งที่ได้รับความคุ้มครองคือ ผู้เขียน ผู้แต่ง หรือผู้เรียบเรียง ที่นำหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาจัดทำเป็นหนังสือ มาเขียนอธิบาย ในรูปแบบต่างๆ โดยใช้ถ้อยคำสำนวน และรูปแบบการเขียนของตนเอง อันนี้ก็ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย


    ส่วนธรรมมะ โดยเฉพาะที่นำมาจากพระไตรปิฎกก็ดี จากพระสูตรหรือจากที่อื่นๆ ที่เป็นที่รับรู้และยอมรับกันว่า เป็นคำสั่งและคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นั้น ไม่ว่าใครๆ ก็ไม่มีสิทธิหวงกันหรือห้ามมิให้ผู้อื่นนำไปใช้ครับ

    .
    .
     
  3. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    ธรรมะ เป็นสากล จดลิขสิทธิ์ไม่ได้

    แต่มีบางคน บางกลุ่มค่ะ ที่เอาหลักการของพุทธมาแต่งขึ้นใหม่ เป็นเชิงหลักการที่เขาคิดค้นขึ้นมาได้ แล้วเอามาเผยแผ่ อย่างพลังจักรวานงัยคะ พระพุทธเจ้าท่านรู้และบอกไว้แล้ว ไม่ใช่ของฝรั่งค้นพบ เรื่องต่างๆ พุทธคริอบไว้หมดแล้ว แม้กระทั่งเรื่องเล็กสุดๆ จนใหญ่สุด
     
  4. อธิมุตโต

    อธิมุตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    4,741
    ค่าพลัง:
    +13,087
    ตอบ ยาย

    ด้วยความเคารพ ครับ ... แล้วที่แต่งใหม่ เป็นของใหม่หรือครับ ถึงมีการจดลิกขสิทธิ์กันได้

    เรียบเรียงใหม่ ไม่ใช่แต่งใหม่ แต่ก็ยังเป็นของพระพุทธเจ้า ...

    ผู้เผยแพร่ธรรมด้วยหนังสือ เนื้อหา ย่อมได้บุญ ...
     
  5. 108man

    108man เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +1,794
    ใครทำ ใครได้
    ใครไม่ทำ ก็ไม่ได้

    สำหรับผม จะไม่นำคำสอน ของพระพุทธเจ้ามาจดลิขสิทธิ์ แน่นอน แม้ว่าจะได้ เงิน แต่ ก็ได้กรรมที่จะเป็นตัวขัดขวางการ ปฏิบัติให้ถึงซึ่งการบรรลุธรรมและยังจะขวางการที่จะเกิดในพุทธศาสนาในอนาคต เท่าที่ได้สังเกตุดู ก็มีจริงดังที่ว่า แม้กระทั่ง มีการจดลิขสิทธิ์ พระพุทธรูปบางปางแล้ว แต่การกระทำก็ทำให้เรารู้ได้ว่าคนนั้นแท้หรือเทียม แต่ เมื่อผมไม่ทำ ก็ไม่กลัวว่าจะตกนรกผมไม่กังวล เดี๋ยวนี้มีให้เห็นเยอะ ครับ คนที่ทำอยู่เค้าไม่รู้ถึงผลกรรม แต่รู้ว่าได้เงิน หรือหลงผิดว่าทำได้ เมื่อวันใดผลมาถึงแล้วก็จะได้ยินคำว่าไม่น่าเลย ไม่น่าทำเลย ไม่น่าสร้างหนังแบบนี้เลย ในภพภูมิที่ไม่อาจแก้ตัวได้

    ผมเห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ได้ตั้งมา เราได้บุญเมื่อเราเผยแพร่ไปในวงกว้างแล้วจะจดลิขสิทธิ์ทำไม แต่ในโลกปัจจุบันจะมีสักกี่คนที่เข้าใจอย่างนี้ แต่อย่ากังวลเลยถ้าเราไม่ทำอย่างเค้าก็ไม่มีอะไรห่วง ถ้าเรามีโอกาศก็เรียบเรียงและพิมพ์ธรรมะสักเล่มจะขายราคาทุนหรือจะแจกก็ตามและไม่จดลิขสิทธิ์ถ้าใครจะพิมพ์ซ้ำก็ทำการตามสบาย ตายตาหลับ สักวันผมคงทำ ...
     
  6. bkgolf_th

    bkgolf_th Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +78
    ก่อนหน้าโน้น... คนเราไม่รู้จักทวีปอเมริกา... สมมติผมไปค้นพบทวีปอเมริกา ... ผมเป็นเจ้าของทวีปนั้นด้วยรึเปล่า???
     
  7. อธิมุตโต

    อธิมุตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    4,741
    ค่าพลัง:
    +13,087
    ตอบ

    อยากให้หลาย ๆ คนคิดอย่างคุณ 108man จัง ธรรมเป็น ธรรมชาติ ไม่เจาะจงว่าเป็นของใคร คนใดคนหนึ่ง

    ผมคิดอย่างนี้นะครับ
     
  8. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,828
    ค่าพลัง:
    +5,414
    ธรรมะเป็นของสากล ทุกคนเป็นเจ้าของ แต่การจัดพิมพ์หนังสือต้องอยู่ภายใต้กฏเกณฑ์ของสังคม ซึ่งให้สิทธิ์ความเป็นเจ้าของแก่ผู้พิมพ์ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้พิมพ์หนังสือธรรมะจะให้เป็นธรรมทานอยู่แล้ว แต่วิสัยของคนดีอาจถูกคนชั่วรังแกเอาได้ ข้าพเจ้าก็เคยพิมพ์หนังสือมาแล้วมากมายทั้งทางโลกและทางธรรม ทราบดีว่าจำเป็นต้องอ้างสิทธิ์ให้ถุกต้องตามกฏหมายทุกครั้ง เพราะบางครั้งคุณอาจเจตนาดีแต่คนอื่นอาจไม่คิดเช่นนั้น บางครั้งคุณสร้างวรรณกรรมหรือรูปภาพประกอบขึ้นมาแต่ไม่อ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ แต่ภายหลังมีคนอื่นมาแอบอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของผู้ต้นคิด คนคิดที่แท้จริงกลายเป็นผู้ผิดไปทันที เหมือนตำรับตำราโบราณของไทยเช่นความรู้ด้านสมุนไพรไทย ถูกญี่ปุ่นนำความรู้ไปต่อยอดจดลิขสิทธิ์ กลายเป็นว่าคนไทยไม่มีสิทธิ์ใช้ความรู้ของบรรพบุรุษเพราะผิดกฎหมายไปเสียแล้ว กรณีล่าสุดคือฤาษีดัดตนที่ถูกลอกไปจดลิขสิทธิ์ในต่างประเทศซึ่งกำลังโต้แย้งอยู่ หากไม่ระวังแม้แต่พระไตรปิฎกก็อาจถูกคนต่างชาตินำไปจดลิขสิทธิ์อ้างความเป็นเจ้าของได้เช่นกัน
     
  9. ziplord

    ziplord เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +272
    ขอร่วมตอบด้วยคน ตามความเข้าใจของผมนะอาจจะไม่ถูกต้องนัก
    เรื่องการจดลิขสิทธิ์นั้น ในสมัยก่อน บางสำนักพิพมพ์ ไม่อยากเห็นการเอาข้อความหรือบางช่วงบางตอนไปเป็นข้ออ้างของสิ่งไม่เหมาะไม่สม หรือไม่อยากให้เอาข้อความในหนังสือไปยำผสมโรงหรือบิดเบือนออกไป อยากให้คงสถานะความถูกต้องของสิ่งที่พิมพ์ยังคงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นบทสวด คำสอน ฯลฯ มักจะระบุชื่อของพระอาจารย์ท่านไว้เลยว่าเป็นของผู้ใด ผู้ใดคิดขึ้นมาแต่งขึ้นมา เพื่อให้รู้ที่มาที่ไปได้ถูกต้อง

    แต่เดี๋ยวนี้มันกลายเป็นเรื่องของธุระกิจไปสะส่วนมาก เพราะเอาลิขสิทธิ์มาอ้างเพื่อมิให้ผู้อื่น ได้ลอกเลียนหรือเขียนซ้ำหรือฯลฯ เพื่อที่จะยกมาอ้างตัดคู่แข่งทางธุระกิจ แต่ก็ไม่ถึงกลับผูกขาดเลยสะทีเดียว เพราะไม่งั้นคงมีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้นมากมายจากการที่หยิบยก บทสวดและคำสอนของพระอาจารย์ต่างๆมาลงซ้ำๆกัน ส่วนมาจะอนุโลมกันไปยกเว้น ไปหยิบยกข้อความของหนังสือเล่มใดเล่มหนึ่งที่มีเนื้อหาใจความใหม่ๆไปโดยไม่มีการขออณุญาติและแอบอ้างว่าเป็นของเขา ก็จะมีการร้องเรียนกันบ้างและส่วนมากจะตัดสินว่าของใครตีพิมพ์ออกมาก่อนหลัง ถ้าตกลงกันไม่ได้ส่วนมากหนังสือที่ตีพิมพ์มาทีหลังจะถูกเก็บออกจากแผงหนังสือไป และมันเคยเกิดขึ้นมาแล้วเพียงแต่น้อยคนนักที่จะรู้ครับ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือที่ออกโดยทางวัดจ้างสำนักพิมพ์พิมพ์ออกมา หรือเป็นของสำนักพิมพ์เองหรือหน่วยงานต่างๆมูลนิธิต่างๆก็จัดพิมพ์ออกมากันมากมาย บางเล่มก็มีมักง่ายเอาแต่ผลประโยชน์เข้าตัวโดยลอกๆของคนอื่นมาแล้วจัดมาอยู่ในรูปเล่มของตัวเองสะใหม่แล้วก็ทำปกพิมพ์ออกขายก็มีครับ

    จุดประสงค์ต่างๆในการจัดพิมพ์นั้นถ้าเจตนาเพื่อเผยแพร่บทธรรมที่ถูกต้องก็เป็นเจตนาดีครับเงินส่วนที่ได้รับจากหนังสือกลับมา แล้วเงินมาตกอยู่ที่ใครนั้นก็แล้วแต่ครับว่าใครเป็นผู้ที่ทำให้หนังสือออกมา เพราะทางวัดออกเองก็ได้เงินกลับมาทางวัดเอง แต่ถ้าสำนักพิมพ์ทำขึ้นเองเงินกลับมายังสำนักพิพม์เองละครับ ส่วนเรื่องบุญนั้นจะได้หรือไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับเจตนาครับ ถ้าทำเป็นธุระกิจเอาเงินเข้ากระเป๋าอย่างเดียวก็ไม่ได้บุญ แต่ถ้าทางวัดจัดทำขึ้นเพื่อนำเงินมาทำนุบำรุงศาสนาและเพื่อกิจของสงค์ก็จะได้บุญกุศลต่อทางวัดเองและผุ้ที่เกี่ยวข้อง

    เอาเป็น ที่ผมพร่ามมาทั้งหมดไม่รุ้ว่าจะถูกจะผิดประการใด ก็เพื่อที่จะบอกครับ ว่าทั้งหมด มันอยู่ที่ เจตนา ครับ ว่าจะหยิบยกไปใช้ในทางใด เพื่ออะไรและเมื่อไรครับ ถ้าอะไรที่ผมบอกอะไรที่ผิดไปต้องขออภัยด้วยนะครับ เพราะตอบไปตามที่ผมรู้ครับ
     
  10. 108man

    108man เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +1,794
    ผมว่า จริง ๆ แล้ว ถ้าจะมีการจดลิขสิทธิ์สิ่งที่เกี่ยวกับธรรมะของพระพุทธเจ้านั้น ถ้าจำเป็นก็ควรจดแบบ คล้าย Open Source คือ มีลิขสิทธิ์ แบบ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ แบบไม่หวังผลกำไร หรือการเผยแพร่เพื่อเป็นประโยชน์ ปัญหาที่จะเกิด มันจะมาจากการที่ ผู้ดูแลเรื่องลิขสิทธิ์ของรัฐบาล ซึ่งถ้าขาดความโปร่งใสหรือเผลอไปให้จดลิขสิทธ์ โดยไม่ได้พิจารณาให้ถี่ถ้วน ทำให้มีบางคนได้ไป เช่น ยอมให้จดลิขสิทธิ์ ปางพระพุทธรูป ก็หมายความว่า ถ้าใครสร้างปางนี้ ถื่อว่าละเมิดและอาจต้องเสียเงิน (และเสียความรู้สึก) ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่น่าให้จดได้
    หรือถ้าใครเขียนรูปแบบผังของจิตซึ่งมาจากพระไตรปิฏก แล้วไปจดลิขสิทธิ์ ไว้ได้ แล้วต่อมาก็มีคนเขียนผังของจิตมาจากพระไตรปิฏกอีก ก็จะกลายเป็นละเมิดว่าเหมือนหรือไม่เหมือนอาจทำให้หนังสือทั้งเล่มขายไม่ได้เพราะมีรูปเหมือนเพียงหน้าเดียว สรุปว่า หน่วยงานที่ดูแลทางด้านลิขสิทธิ์น่าจะเป็นปัญหาแต่ที่แสบกว่าก็เป็นต่างชาติบางครั้งการจดของต่างชาติก็มีวัตถุประสงค์ในการทำลาย ในอนาคตได้เจอกับปัญหาลิขสิทธิ์ที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาแน่ ๆ แต่ ผมถือว่า ใครทำใครได้ใครไม่ทำก็ไม่ได้รับผลนั้น แต่ผมไม่ทำ ไม่คิดจะทำ .....

    จริงถ้ากลัวเรื่องนี้ น่าจะคิดกันว่าควรจะทำอย่างไรมีมาตรการอย่างไร ที่จะทำให้ธรรมะหรือพระพุทธศาสนาไม่ตกเป็นของคนใดคนหนึ่งได้

    อีกเรื่องหนึ่งที่ผมสนใจจะทำก็คืออยากให้มีกฏหมายห้ามซื้อขายเศษชิ้นส่วนของพระพุทธรูปโบราณหรือของจากวัด ถ้ามีก็ให้ตกเป็นของรัฐที่ดูแลโดยกรมศาสนา ทุกว้นนี้ไปเดิน จตุจักรก็เหนื่อยใจ พระองค์ใหญ่ ๆ เศียรองค์ใหญ่ ๆ ซื้อขายได้อย่างไร ต้นทางขโมยกับแอบนำของวัดมาแน่นอน ช่อฟ้า ใบระกา ใบเสมา ประตูวัด หน้าต่างวัด เอามาขายได้อย่างไร ตรงนี้รัฐบาลน่าจะจัดการได้แล้วไม่เห็นใจคนส่วนใหญ่ที่นับถือศาสนาพุทธเลย ไม่เห้นมีใครออกมาช่วยกันเลย .....
     
  11. อธิมุตโต

    อธิมุตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    4,741
    ค่าพลัง:
    +13,087
    ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี แต่อย่าที่คุณ 108man<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_303525", true); </SCRIPT> ว่า ขนาดพระพุทธรูปเค้ายังขายกันได้
     
  12. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,672
    ค่าพลัง:
    +51,946
    *******
    คำเตือน
    *******

    " การซื้อขายพระ...เป็นการทำลายศาสนา "

    ทุกวันนี้....ประชาชนไม่รู้ ไม่เข้าใจ
    ทั้งที่พระพุทธเจ้า...ได้กล่าวเตือนไว้แล้ว
    มีในพระไตรปิฎก
    เป็นบาปอย่างยิ่ง
    ชีวิต...จะวิบัติ
    เพราะทำลายศาสนา
    บางคนรู้ตัว บางคนไม่รู้ตัว
    ก็ต้องรับกรรมไป

    ผู้ใดเคยกระทำ
    ขอให้รีบกลับตัวกลับใจ
    กล่าวขอขมา...ต่อเบื้องพักต์องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ขอถวาย "สัจจะ...ไม่ซื้อ ไม่ขาย ไม่สนับสนุนการซื้อขายพระตลอดชีวิต "
    กรรมที่กำลังจะมา...จะเบี่ยงเบนไป
    จากหนักจะได้เป็นเบา

    "สัจจะมีผลตอบแทน"

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  13. อธิมุตโต

    อธิมุตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    4,741
    ค่าพลัง:
    +13,087
    บอกต่อ ๆ กัน จะได้บุญนะครับ

    สาธุ ... ใครทำ ใครได้ (i)
     
  14. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,515
    ค่าพลัง:
    +9,765
    ธรรมะดี ของพระอาจารย์ หลายองค์ ไม่มีลิขสิทธิ์
    บางท่านเพียงสงวนไม่ให้เอาไปพิมพ์เพื่อขาย เช่นประวัติหลวงปู่มั่น โดยหลวงตามหาบัว ท่านให้พิมพ์เผยแพร่ได้โดยไม่ต้องขออนุญาตหากทำเพื่อเป็นธรรมทาน
     
  15. กิเลศเยอะ

    กิเลศเยอะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    192
    ค่าพลัง:
    +676
    พวกที่ชั่วมากๆ
    ขายได้กระทั้งพระคนที่เอามาขายหรือพวกที่เป้นต้นตอของการขายไม่ต้องใครหรอก คนไทยนี้แหละ ทำไปได้ ตัดเศียร พระพุทธรูป
    พวกฝรั่งก็โคตรเลวหวังทำลายเรา
    พวกคนไทยก็ไปเห้นดีเห็นชอบจากมัน
    เลียนแบบไอ้ส่วนที่ไม่ดีของพวกฝรั่งมาก
    ลืมเรื่อง นรก สวรรค์
    ไม่เชื่อเรื่องกรรม
    อยากให้ถึง คราวภัยพิบัติ เร็วๆจัง
    โลกจะได้สงบสะที
    โลกที่มีแต่คนชั่วๆอย่างนี้หายไปสะได้ก็ดี
    เริ่มกันใหม่
     

แชร์หน้านี้

Loading...