เคยเป็นกันมั้ย กับความรู้สึกเบื่องานทางโลก

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย gotodido, 1 มีนาคม 2010.

  1. gotodido

    gotodido เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +147
    [​IMG]
    <TABLE class=alt1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    พอดีผมรู้สึกเบื่องานทางโลก ที่ทำเพื่อแลกกับผลตอบแทน คือเงิน
    แต่เบื่อ แบบที่รู้ว่าเบื่อ ที่ยังต้องทำ ปลีกตัวไปไหนไม่ได้ ภาระไม่จบ

    นอกจากการเรียนรู้ที่ต้องอยู่กับมัน แบบปล่อยวาง ไม่ได้หลีกหนี

    ท่านอื่นใช้วิธีอะไรมั่งครับ
     
  2. Bull_psi

    Bull_psi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +1,445
    ไม่มีใครเป็นเจ้าของอะไรได้จริง เกิดมาแล้วก็ตายเอาอะไรไปไม่ได้
    แล้วจะขวนวายไปทำไม

    มองในมุมพลังงาน การที่เราทำงานให้สำเร็จ ลุล่วงด้วยดี
    สังเกตุดูเหมือนเราเข้มแข็งขึ้น เรามีพลังมากขึ้น อยากทำงานมากขึ้น ทั้งที่มองตัวกำไรอาจจะไม่ได้เยอะ มันมีพลังงานขั้วบวกที่มองไม่เห็นแต่รู้ได้ด้วยใจ ต้องทำใจนิ่งรับรู้ดู

    งานทำแล้วก็ทำอีก ไม่จบไม่สิ้น
    แต่ไม่ทำให้ดีก็ไม่ได้ การเดินสัมมาอาชีวะจะไม่สมบูรณ์
    เราทำให้สมบูรณ์เพื่อ มนุษยสมบัติ ถ้าไม่ทำงานก็อยู่อัตคัตขัดสน ลำบาก เป็นธรรมดา

    ชีวิตมนุษย์แสนสั้น เวลาในการทำงานเราเองก็มีกันไม่มาก
    ควรจะหางานที่ทำแล้วมีความสุข สนุกกับงานเพลินเหมือนเล่นสนุกไม่ได้จำทน

    แต่ถ้าชีวิตมันไม่ง่าย มีfix cost รายเดือนเยอะ
    เราก็ต้องหางานเสริมทำ จนเราหลุดจากวงจรไม่มีทางเลือกให้ได้ก่อน
    แปลว่า ทำงานแล้วต้องมีเงินออม
    แล้วจึงใช้เงินต่อเงิน เล่นหุ้นปันผลนั่นแหละ เบาตัวละ ต้องทำให้ได้ไวๆ
    แก่ตัวมา ไม่มีแรง พลาดตอนแก่ก็ตายลูกเดียว

    อาจจะลองวางแผนดูว่า ทำอะไรเก่งบ้าง แล้วจะมีเงินล้านด้วยวิธีไหนได้บ้าง
    แล้วมีอะไรแล้วทำแล้วมีความสุขบ้าง อะไรที่สอดคล้องกันใน3คำถาม
     
  3. สบู่เลือด

    สบู่เลือด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +391
    เป็นเหมือนกันค่ะ แต่ไม่ใช่เรื่องทำงานเป็นเรื่องเรียนหนังสือ
    คือเกิดความรู้สึกเหนื่อยหน่าย แต่มันจะมีบางจังหวะค่ะ เวลาที่ปิดทุกอย่างรอบตัว
    ปิดคอมพิวเตอร์ ให้ห้องเงียบสนิท แล้วนั่งอ่านหนังสือ ทำแบบฝึกหัด พอมีสมาธิ มันจะมีความรู้สึกสุขแบบปะแล่มๆ
    ตอนนั้นก็คิดว่าอืม ดีจัง แล้วก็ทำต่อไปเรื่อยๆได้โดยไม่อิดออดเลยค่ะ
    คิดว่าถ้าทำงานอย่างไม่เครียด ไม่กดดันตัวเอง ถือว่าเราทำหน้าที่ของเราครบถ้วนบริบูรณ์
    แล้วก็หาเวลาผ่อนคลายจากงานบ้าง เช่นไปเที่ยว ไปทำบุญ น่าจะช่วยได้นะคะ
    เที่ยวพอให้ใจผ่อนคลายแล้วก็กลับมาลุยงานต่อ เหมือนชาร์ตแบตน่ะค่ะ
    อีกอย่างค่ะ แนะนำให้ฝึกสติปัฎฐาน4ค่ะ ถ้าหมั่นปฏิบัติคิดว่ามุมมองจะเปลี่ยนไปเลยค่ะ
     
  4. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    เมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์ อย่างไรก็ต้องทำครับ.....

    เพื่อแลกกับปัจจัย ๔ ทั้งของเรา และผู้อื่น......

    ความจริงถ้าคุณเข้าใจตรงนี้ได้.....ก็แสดงว่าดีแล้วครับ.....แต่ต้องเข้าใจตรงนี้จริงๆนะ.....บางครั้งมันจะเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบที่ผ่านเข้ามา.....แล้วมันก็ผ่านไป.....

    ถ้าความเบื่อจากการเข้าใจตามความเป็นจริง(วิปัสสนา)...ว่าโลกนี้มันก็เป็นอย่างนี้....ทุกคนก็ต้องเป็นอย่างนี้..เกิดแก่เจ็บตาย...ทุกข์เพื่อยึด...ทุกข์เพื่อหาปัจจัย ๔ ..ทุกข์เพื่อสนองความอยาก....พิจารณาไปจนเข้าใจ......อย่างนี้ได้ก็จะดีมากครับ.....

    ไม่ว่าใครในโลกนี้...ถ้าเป็นมนุษย์....ก็ต้องเป็นไปได้แค่นี้หละครับ....ไม่มีอย่างอื่น....

    แต่ก็ต้องอยู่ต่อไป...ถ้ายังไม่ตาย....ถ้าถึงจุดหนึ่งอาจอยากที่จะฆ่าตัวตาย....เมื่อถึงจุดนั้นอย่าได้ตามกิเลสไปนะครับ...มันหลอก....ต้องอยู่ต่อไป....ถ้าตายเมื่อไรขาดกัน....

    หรือจะใช้วิธีนี้ก็ได้ครับ....ตาม จิตตานุปัสสนามหาสติปัฏฐาน.....จิตมีสภาวเช่นใดให้รู้อยู่นะปัจจุบันนั้นๆ.....เช่น เบื่อรู้ว่าเบื่อ เดียวความเบื่อมันก็จะขาดไปครับ....เมื่อขาดไป...ความเบื่อที่เป็นอารมณ์ก็ไม่เที่ยง ยึดไว้แช่ก็เป็นทุกข์(เช่น ตอนนี้ที่คุณไปทุกข์) แล้วมันก็สลายไป....อย่างนี้....ก็เป็นการฝึกกรรมฐานไปในตัว....เพราะทุกสถาวอารมณ์ก็เป็นอย่างนี้หละครับ....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2010
  5. Bull_psi

    Bull_psi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +1,445
    เงินเป็นของเราเมื่อตอนที่เราใช้ ตายไปเอาไปไม่ได้
    เงินสำคัญเฉพาะตอนจะใช้
    เงินเมื่อมีพอ ไม่ใช่ปัญหา แต่เมื่อไม่มีหล่ะลำบากแน่ ทั้งพระ ทั้งฆราวาส แหละครับ
    "ทำงานเพื่อเรียนรู้ ไม่ใช่ทำงานเพื่อเงิน " โรเบิร์ต คิยาซากิ พ่อรวยสอนลูก

    เมื่อมีเงินแล้วก็เปลี่ยนเป็นอริยทรัพย์ ทำภารกิจทางศาสนาต่อ
    เป็นปัจจัยบำเพ็ญจาคะ ความเสียสละ

    ทำงานหาเงิน แต่ไม่โลภ ไม่ชั่ว ไม่ยึดติด ทำงานเพื่องานแล้วเงินจะมาเอง
    เจ้านายไม่เห็นเทวดาเห็น เทวดาไม่เห็นลูกค้าก็เห็น

    พระมหาชนก เมื่อกลับเข้าเสวยสมบัติราชบัลลังค์แล้ว ออกชมสวนเด็ดมะม่วงมาเสวยแล้วชมว่ารสเยี่ยมยอด เมื่อกล่าวดังนั้น ประชาชนก็มาเด็ด สอยกินเสียเกลี้ยง กิ่งอ่อนกิ่งแก่
    หักโค่น น่าเวทนา ท่านจึงคิดได้ สมบัติเหมือนผลมะม่วง น่าหมายปองก็ย่อมนำภัยมา
    จึงเกิดสังเวช สละราชสมบัติออกแสวงหาโมกธรรม คือ ความสงบนั่นเอง
     
  6. gotodido

    gotodido เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +147
    ถึงแม้ว่า การงานไม่คั่งค้าง งานที่ทำไม่ได้เบียดเบียนสิ่งใด งานนั้นๆเป็นสัมมา งานนั้นๆทำแล้วสบายใจ เป็นอิสระ แต่ที่เบื่อ คือ มันยังไม่ใช่

    ทุกอย่าง มันอาจจะดูเหมือนเราอิสระ ดูเหมือนเราสบายใจและพอใจที่อยู่ในสิ่งที่ครอบเราอยู่ แม้สิ่งที่ครอบเรานั้นมันจะใหญ่มากจนยากจะรู้สึกอึดอัด แต่เราก็รู้ว่ามันครอบเราไว้

    เบื่อของผมจึงคล้ายกับการรู้สึกถูกหน่วงเหนี่ยว ถูกผูกรัดให้อยู่ภายในสิ่งที่ครอบนั้น

    และถึงแม้ว่า การเจริญสติ ดูกาย เวทนา จิต ธรรม สามารถทำได้ในระหว่างนี้

    แต่ความเบื่อก็ไม่ได้น้อยลง ในเรื่องของงาน

    อาจจะเพราะผมติดใจ ในรสอารมณ์ของการครองไตรจีวร ถือธุดงค์ ปลีกวิเวก ติดใจการอยู่ป่า ทำให้อยากกลับไปอีกครั้ง

    นี่เป็นที่มาของกระทุ้ ครับ
     
  7. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ถ้าคุณไม่มีภาระใด....นอกเสียจากตัวคุณ....เมื่อคุณค้นดูแน่ชัดว่าไม่ใช่...แล้วทางนั้นเป็นทางที่ใช่.....คุณก็กลับไปสิครับ.....
     
  8. fullmoonsun

    fullmoonsun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    735
    ค่าพลัง:
    +2,321
    It happened to me as well. Some day is better than the other day. Sometimes feel like to be a nun and stay in the temple and meditate all day.
     
  9. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,310
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,002
    จขกท มาโหลดหนังสือชีวิตเป็นอย่างนี้ใต้ comment ผมไปอ่านได้เลยครับ ช่วยได้เยอะครับ อนุโมทนาครับ
     
  10. boontar

    boontar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,717
    ค่าพลัง:
    +5,514
    ..........................................................
    ถ้าเคยบวชแล้วอยากกลับไปบวชอีก
    อนุโมทนาอย่างแรงครับ
    ในพระไตรปิฎกใช้คำว่า"ใจเด็ดเดี่ยว"
    ขอให้การอนุโมทนาของผมครั้งนี้เพิ่มพลัง"ใจเด็ดเดี่ยว"ให้ผมมั่ง
     
  11. pinya

    pinya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    240
    ค่าพลัง:
    +842
    ทุกคนย่อมหนีไม่พ้นหรอกหากยังเกิดเป็นมนุษย์ที่ต้องมีความรู้สึก
    ยังงัยก็สู้ๆๆนะคะอาการเบื่อเป็นเหมือนกันทุกคนทุกชาติทุกศาสนา
     
  12. ฟิล์ม 34

    ฟิล์ม 34 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +62
    ไม่รุ้จะไปถามที่ไหน ที่วัดไหนมีบวชชีปลงผม เเละกินเจด้วย ท่านใดทราบบ้างคะ
     
  13. chai____

    chai____ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +103
    เคยสิครับ ทำไมจะไม่เคย
     
  14. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    กินเจนี่ไม่ทราบนะครับ แต่บวชชีนี่ทราบ....

    เสถียรธรรมสถาน กทม.

    วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร จอมทอง เชียงใหม่....

    โทรไปสอบถามก่อนจะดีมากครับ....
     
  15. nong_cm

    nong_cm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2009
    โพสต์:
    721
    ค่าพลัง:
    +4,975
    มีความเบื่อหน่ายกับชีวิตการงานทางโลกเช่นกันค่ะ แต่เหมือนเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องทำให้พร้อมปัจจัย 4 เพื่อตนเอง เพื่อคนที่เรารัก ทั้งๆที่มีความคิดอยากจะปลีกตัวเองจากโลกที่วุ่นวาย และอยู่ในโลกที่มีแต่ความสงบ
     
  16. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    เบื่อค่ะ เบื่อมานาน จนบางทีคิดว่า ไม่กินไม่ใช่ ไม่ต้องขวนขวาย

    ไม่ต้องอยากได้โน้นอยากได้นี่ ไม่ต้องแข่งกับใคร ไม่ต้องเจ็บป่วย


    จนในที่สุด ไม่ต้องเกิดอีกทีน่าจะดีที่สุด
     
  17. ต้นไม้..

    ต้นไม้.. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +911
    เคยมีความรู้สึกนี้เหมือนกันครับ.....เมื่อคราวใดที่จิต..สงบ..เห็นสิ่งรอบตัวว่าไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่มีตัวตน พิจารณาตามกฎไตรลักษณ์ ...เบื่อมาก ตั้งคำถามกับตัวเองว่าเราเกิดมาเพื่ออะไร
    จะรู้สึกเบื่อหน่ายกับสิ่งทางโลก ไม่เข้าใจว่าคนเรามัวหมกมุ่น จมปลักอยู่กับอะไรกันนี่...
    คนรอบข้าง...ไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกนี้...เลยนะ...เพราะเขามัวอยู่กับกระแสทางโลกเป็นส่วนใหญ่ จะมองว่าเราแปลกไปด้วยซ้ำ....จนเราต้องปล่อยวางอารมณ์เป็นอุเบกขา...แล้วหันกลับมาเดินตามปกติของทางโลก...และไม่ทิ้งอารมณ์ที่ว่าเสียทีเดียวแต่ว่าจะน้อยลง เบาบางลง ไม่งั้นอยู่ไม่ได้อะครับ.....
    แรก ๆ และจะรู้สึกถึงกิเลสต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น โลภะ โทสะ โมหะ มันมีอยู่รอบตัว มันมีอยู่กับทุกคนที่อยู่รอบตัวเรา แม้แต่เราก็ยังถูกอารมณ์ต่าง ๆ เหล่านี้เข้าเล่นงาน (แต่จะพยายามควบคุมไว้) เพราะการที่เราอยู่กับสังคมโลก ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย ...

    การอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยกิเลส การจะเข้าถึงกระแสธรรมได้ ต้องใช้ความวิริยะ และกำลังใจที่เข้มแข็งอย่างมาก.....เผลอเป็นไม่ได้ ...... คนที่ทำได้ย่อมเป็นผู้มีโชคอย่างมหาศาล เป็นผู้มีปัญญา บุญ และบารมีอย่างยิ่ง......

    เมื่อไรจะมีโชค วาสนา แบบนี้บ้างนะ.....เหอ.........
     
  18. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +2,983
    พิจารณาหลักสามัญลักษณะให้เต็มที่ สรุปให้ได้ แล้วตั้งให้เป็นสัมมาทิฏฐิ

    กำหนดปัจจุบันอารมณ์แล้ว พึงพิจารณาให้สำนึกในหน้าที่ว่าจะรักษากายนี้เพื่อใช้บำเพ็ญเพียร สร้างกุศลให้เสร็จสิ้น การอยู่บนโลกนี้ต้องอาศัยกายเป็นตัวหลัก รู้สึก สุข-ทุกข์ก็เพราะกายนี้ ถ้าไม่มีกาย ก็ไม่รับรู้ในเรื่องสุข-ทุกข์ จะกำหนดอารมณ์ไม่ได้เลย...

    หวานเป็นอย่างไร ขมเป็นอย่างไร ร้อน-หนาว-เจ็บ-ปวด เป็นอย่างไร ? ก็อาศัยกายนี้เป็นตัวสื่อให้รู้จัก............ถ้ากายไม่มี ก็ไม่ต้องสนใจที่จะละวางอะไรแล้ว เสพสุขอย่างเดียว ทุกข์เป็นอย่างไร ....ได้แต่มองหน้ากันไปมา .....อะไรหว่า ไม่เคยรู้จัก เหมือนนิทานปลากับเต่านั่นแหละ..........ศาสนาเกิดมาก็เพื่อกายนี้

    เมื่อเข้าใจแล้ว ก็จงทำหน้าที่ในโลกต่อไปอย่างไม่รู้จักเบื่อ เซ็ง....เพราะ เข้าใจ รู้แจ้ง ในเรื่องที่ต้องเกิดมา แล้วดำเนินชีวิตไปตามครรลองของโลก เมื่อหมดหน้าที่ก็ไปอย่างสงบ........................ไม่มีอะไรเลยที่จะต้องห่วงหาอาลัยกับมัน เช่นนั้นเอง.
     
  19. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +2,983
    สร้างวัดในใจ บวชที่ใจ ทำที่ใจ ......สงบก็ที่ใจ ถ้าอยู่ที่วัด ใจไม่สงบ ก็เท่านั้น เป็นเพียงสร้างสภาพแวดล้อมให้เกิดขึ้นในใจ อะไรที่อยู่รอบ ๆ ไม่มีความหมายหรอก ต้นไม้ ก้อนหิน ดิน น้ำ ทุกที่ทุกแห่งหน ในโลก .......เหมือนกันหมดแหละ จะแบกถังใส่ขี้ไปที่ใด ๆ ถ้าทำให้ใจสงบไม่ได้ ก็เท่านั้น.....หนีใจไม่พ้น

    ใจจึงสำคัญที่สุด จงทำให้ได้ ไม่ต้องไปที่ใด ๆ นิพพานก็อยู่ที่นี่เอง.
     
  20. Bull_psi

    Bull_psi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +1,445
    ว่าไปก็สุดยอดเลยนะครับ สะพายบาตรฉันท์อาหารตามยถากรรมแล้วแต่มีคนจะใส่ให้
    ไม่มีก็น้ำเปล่า หักด่านกับกิเลสให้จบเกมส์

    ที่จริงโลกที่ผ่านมา โลกนี้ โลกหน้าก็สมมติหมด
    ถ้าจะเข้าพระนิพพาน เป็นธรรมธาตุ
    ไม่ต้องอาศัยสิ่งใดเพิ่มให้สมดุล

    ถ้าทั้งโลกสมมติแล้วเพศฆราวาส กับเพศสมณะ ก็สมมติด้วย
    งั้นปัญหาก็อยู่ที่เราเอง
    ความพร้อมก็อยู่ที่เราเอง
    อยากเข้าฌานก็เข้าเลย ไม่ต้องรอ วิปัสสนาก็ทำเลยตลอดเวลา

    หรือยังติดยินดียินร้ายในความสงบ
    ในผ้าเหลืองอีกนะ ในข้าวบิณบาตร ในวัตรปฎิบัติ ในฌาน
     

แชร์หน้านี้

Loading...