ลูกศิษย์ของพระพุทธเจ้าที่แท้จริง ต้องเป็นมังสวิรัติ

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย dane, 11 พฤษภาคม 2008.

  1. praram7

    praram7 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +770
    ชัดเจน ชัดเจนจริงๆ เห็นด้วยอย่างยิ่ง เราไม่เป็นเครือญาติกับท่านพี่เทวทัต ถึงแม้ภายหลังท่านจะได้บรรลุธรรมหลังใช้กรรมแล้ว
    เราไม่อยากหลอกตัวเอง เอาเต้าหู้มาทำเนื่อสัตว์ ไม่กินเนื้อสัตว์เราว่าก็ดีแล้วแต่ชอบ แต่อย่าหลอกตัวเองผักก็คือผัก เต้าหู้ก็คือเต้าหู้ไปปรุงแต่งให้เป็นเนื้อสัตว์ต่าง มันก็ยังติดยังยึดกันอยู่ดี
     
  2. YUT_KOP

    YUT_KOP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,033
    หลวงปู่ เคยกล่าวไว้ว่า

    ควาย กิน หญ้า ไม่เห็นจะ เป็น อรหันต์เลย
     
  3. lamb of god

    lamb of god เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2009
    โพสต์:
    543
    ค่าพลัง:
    +436
    การกินตามโอกาส พิจรณาในการกิน กินเพื่อมีชีวิตรอด ไม่โลภในการกิน
    แต่ถ้าจะให้ดีพยายามกินพืชผักให้มากกว่าเนื้อก็จะดี เพราะเวลาสัตว์โดนเชือด
    มันจะเกิดความเครียด เนื้อที่ได้ก็จะเป็นพิษต่อระบบการย่อยและลำไส้ในระยะยาว
    คงเหมือนคนถ้ารู้ตัวว่าจะตาย คงจะเครียดและกังวลไม่ต่างกันระบบในร่างกายก็แปรปรวน
    ร่างกายสัตว์ใหญ่กับคนเรามันก็ไม่ต่างกันเท่าไรหรอก...ข้าพเจ้าก็กินเนื้อแต่กินน้อยเพราะตระหนักถึงอันตรายในภายภาคหน้ากินเท่าที่จำเป็น...ถ้าเลือกได้ก็ไม่กิน
     
  4. apichai53

    apichai53 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    630
    ค่าพลัง:
    +2,261
    ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่กินเนื้อสัตว์ ผมว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ต้องนำมาอวดอ้าง หรือยกตนว่าสูงกว่าผู้อื่น ถ้ากิเลสยังเต็มหัวใจ กินผักก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอกครับ สำคัญอยู่ที่การปฏิบัติครับ ทาน ศีล ภาวนา ทำได้เต็มที่สมควรแก่ธรรม แล้วหรือไม่ นี้คือเรื่องหลักที่เราควรยึดถือ และปฏิบัติกันอย่างจริงจรัง อย่าเอาเรื่องกินเนื้อสัตว์ หรือไม่กินเนื้อสัตว์ มาเป็นเหตุให้กระทบกระทั่งกันเลยครับ
    ...........เจริญในธรรมทุกๆท่านครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2010
  5. apichai53

    apichai53 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    630
    ค่าพลัง:
    +2,261

    เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ
     
  6. su37berkut

    su37berkut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    422
    ค่าพลัง:
    +1,121
    น่าจะเป็นศิษย์พระเทวทัตมากกว่าครับ
    งั้นช้าง ม้า วัว ควาย มันกินเจตั้งแต่เกิด คงบรรลุธรรมแล้วครับ
    คุณพึ่งมากินทีหลังมัน คงบรรลุช้ากว่ามันน่ะ
     
  7. GUYTHUM

    GUYTHUM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    1,356
    ค่าพลัง:
    +1,088
    สัตว์ที่เกิดอยู่ในอบายภูมิของ 4แบบ สัตว์เตรัจฉาน อสูรกาย เปรต สัตว์นรก นั้นไม่สามารถบรรลุธรรมได้ อย่าว่าแต่บรรลุอรหัตร์เลย แค่โสดาบันก็ยังเอื้อมไม่ถึงเลย แล้วลป.ท่านเอาควายไปเปรียบได้ยังไง หรือว่า ลป.ท่านเป็น....555555+
     
  8. vorapoap

    vorapoap เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +250
    ขอสอบถามแบบผู้ไม่รู้ครับ

    ในลักษณะตามที่ท่านกล่าวมา

    การไปกินอาหารทะเลสดๆ คือยังไม่ตาย แต่ไปชี้นิ้วสั่งให้ไปฆ่า น่าจะเป็นการไม่สมควร แต่สมมุติว่า เราเข้าไปในร้านอาหารทะเล แต่ก็พอเห็นว่า มีสัตว์ว่ายอยู่ในกาละมัง อยู่ในตู้กระจก เราพอระลึกได้ว่า ส่วนหนึ่งของสัตว์ในนี้ อาจจะต้องตกมาเป็นอาหารของเรา แล้วการที่เราเข้าไปสั่งอาหารทะเลแบบนี้ จะเหมาะควรหรือไม่ครับ



    ปล.กระทู้นี้ทำให้ผมนึกถึงหนังเรื่อง Avatar ที่หลังจากชาวนาวีล่าสัตว์ได้สำเร็จ จะมีการขอบคุณและทำความเคารพสัตว์ที่ให้มาเป็นอาหารของตนทุกครั้ง
     
  9. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,193
    ค่าพลัง:
    +7,815


    ไม่สมควรจะ ก็ด้วยไม่ควรทานสัตว์ที่เราเห็น เราได้ยิน เราสงสัยว่าเขาฆ่าเพื่อปรุงอาหารให้เราจ๊ะ หุ หุ หุ
     
  10. teeratoy2002

    teeratoy2002 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +417
    ระวังนิดนึงนะครับ กับคำพูดที่จะพาให้เราลงนรกเพราะความคะนองปาก มันไม่คุ้ม


    ผมจำไม่ได้ว่าหลวงปู่ท่านใดเคยว่าไว้ แต่เคยผ่านตา คิดว่าน่าจะเป็นหลวงปู่ทวด การที่คุณไปลบหลู่ท่านในข้อความที่ท่านจุดๆๆๆ.......เอาไว้ผมเข้าใจว่าท่านอาจจะพิมพ์ด้วยความคึกคะนอง ถ้าบังเอิญหลวงปู่ท่านได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ท่านทราบใช่ไหมครับว่าท่านจะได้รับผลลัพธ์อย่างไรบ้างกับการลบหลู่พระอรหันต์...แนะนำท่านให้รีบขอขมาท่านเป็นการด่วนครับ ด้วยความเคารพครับ
     
  11. thaiboy74

    thaiboy74 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +207
    ความเข้าใจเรื่องที่มาของลังกาวตารสูตร

    เห็นกล่าวอ้างเรื่องการกินเจกันจริง ว่าพุทธที่แท้ควรกินหรือไม่กิน

    ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ในสมัยที่พระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์ชีพอยู่ พระองค์ก้ไม่ได้ทรงห้าม หรือสนับสนุน ดังที่เห็นในพระสูตรหลัก ๆ อยู่แค่สองหรือสามพระสูตรเท่านั้น ส่วนสุกระมัทวะที่พระพุทธองค์ทรงฉันท์ในมื้อสุดท้ายถวายโดยนายจุนทะก่อนประชวรและปรินิพพานนั้น ก็แล้วแต่จะตีความว่ามันคือเนื้อหมูหรือมันคือเห็ดพิษที่หมุชอบกิน อันนี้แล้วแต่จะเชื่อ

    ทีนี้ ที่มาที่ไปของ Lankavatara Sutra
    ค่อนข้างมีความเป็นไปได้ว่าพระสูตรตัวนี้จะประพันธ์ขึ้นในช่วงศ.ที่ 4 ในกลุ่ม Yogacara ซึ่งถือว่าเป็นพระสูตรมหายานยุคแรก ๆ แต่ไม่ใช่เล่มแรก ที่เกิดขึ้นในโลก

    ข้อสังเกตุของพระสูตรว่าน่าจะเป็นยุคหลังพระพุทธเจ้าคือ แนวคิดเรื่องพระโพธิสัตว์ยังไม่ซับซ้อน ตัวพระโพธิสัตว์อื่น ๆ ที่ซับซ้อนจะได้รับการกล่าวถึงในพระสูตรยุคหลัง ๆ มากกว่า ซึ่งหมายถึงว่า ค่อนข้างมีความเป็นไปได้ว่า พระสูตรนี้อาจไม่ใช่พุทธพจน์

    ในส่วนของตรีกายที่มีการกล่าวถึงในตัวพระสูตรเองก็ยังไม่ซับซ้อนเหมือนพระสูตรอื่น ๆ ในยุคหลัง แต่ก็ได้เริ่มพัฒนาขึ้นแล้วจากสมัยพระพุทธองค์

    ในส่วนของการตั้งชื่อพระสูตรมีการทำให้เชื่อว่า พระสูตรนี้พระพุทธองค์ได้ทรงกล่าวหรือสั่งสอน ณ ลังกา ซึ่งเป็นถิ่นที่เถรวาทไปถึงและเจริญก้าวหน้า
    หรือก็ตามที่ท่าน ๆ ได้เรียนประวัติศาสตร์พุทธศาสนาไปจะทราบกันว่า เป็นเรื่องทางการเมือง จึงต้องทำให้คนเรวาทเชื่อว่าพระพุทธองค์ได้ทรงเทศนาพระสูตรมหายานนี้ ณ เกาะลังกา ซึ่งเป็นแหล่งเจริญของเถรวาทเอง

    แต่ก็เป็นที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าพระสูตรนี้เองเป็นพระสูตรที่สนับสนุนแนวคิดเรื่องพระโพธิสัตว์ และเป็นพระสูตรหนึ่งที่มีความสำคัญอันดับต้น ๆ ของมหายานเลยทีเดียว

    ทั้งนี้ การเขียนขึ้นนี้ไม่ได้ต้องการโจมตีพระสูตรนี้แต่อย่างใด แต่อยากให้ท่าน ๆ เรา ๆ ที่ส่วนใหญ่มักใช้ในการกล่าวอ้าง เข้าใจถึงที่มาที่ไป และแนวทางการศึกษา อ้างอิงพระสูตรไว้ด้วย โดยเฉพาะเรา ๆ ซึ่งอยู่ในTradition แบบเถรวาท ซึ่งพระสูตรที่เราใช้จะมีที่มาที่ไปที่ชัดเจนกว่า ดังนั้นในการกล่าวอ้างพระสูตรอื่น ๆ นอกเหนือสายนี้ ควรศึกษาให้ลึกซึ้งถึงที่มาที่ไปขึ้นด้วย

    (ขออภัยหากข้อมูลผิดพลาด และในที่นี้ไม่สามารถเขียนขนายความทุกอย่างในรายละเอียดได้ เนื่องจากต้องใช้เวลาในการศึกษารวบรวม)
     
  12. YUT_KOP

    YUT_KOP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,033
    เวรกรรมจริงๆ
    ที่คะนองแบบนี้
    โปรด อโหสิกรรมให้ผมด้วยครับ

    ที่ทำให้คุณ ต้องไป อเวจี มหานรก

    เพราะ กรรมที่คุณสร้าง มันสำเร็จ ด้วยการกระทำของคุณเอง

    ขอโทษจริงๆ
     
  13. baankvee

    baankvee Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +33
    ใครบอกตลกแล้ววววว
     
  14. kunmeng

    kunmeng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    2,383
    ค่าพลัง:
    +395
    ทุกอย่างย่อมสมบูรณ์แบบไปตามที่มันควรจะเป็น ธรรมชาติสร้างสรรสิ่งที่สวยงามและลงตัวที่สุดให้มนุษย์แล้ว แต่มนุษย์ต่างหากที่อวดศักดาว่า .กูนี้แน่ต้องการสร้งโลกใหม่ด้วยตัวกูเองผลลัพธ์ที่ได้ก็ฉิบหายกันทั้งโลกไง.
     
  15. พรานยึ้ม

    พรานยึ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    591
    ค่าพลัง:
    +682
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 มีนาคม 2010
  16. กรุงเก่า

    กรุงเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    151
    ค่าพลัง:
    +335
    ศีลตามแบบเถรวาท ศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ ศีล ๒๒๗ และ ศีล ๓๑๑ ไม่มีข้อใด
    ที่ห้ามทานเนื้อสัตว์ การทานเนื้อสัตว์ปกติ (ไม่ได้สั่งให้ฆ่ามาเป็นอาหารเรา,
    ไม่เห็นว่าเขาฆ่ามาทำอาหารให้เรา,ไม่ได้ยินว่าเขาฆ่ามาทำอาหารให้เรา)

    ไม่เป็นการละเมิดศีลข้อ ปานา ไม่ว่าทางตรง ไม่ว่าทางอ้อมใดๆ มีเพียงเนื้อ
    ๑๐ ชนิดที่ห้ามภิกษุรับประเคน อย่าบิดเบือนคำสอนของพระพุทธเจ้าเลยครับ
    หากคนเราจะเลิกทาน ด้วยความพึงพอใจของตัวเองก็ทำไปเถอะครับ แต่อย่า
    ทึกทักเอาความเชื่อของตัวเองและหมู่คณะมาเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า

    พระพุทธเจ้าท่านยังทานเนื้อสัตว์เลยครับ คุณรณรงค์ให้คนถือศีล ๕ ดีกว่าครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2010
  17. GROLY

    GROLY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    2,019
    ค่าพลัง:
    +8,001
    อนุโมทนาครับ เห็นชอบด้วยครับ
     
  18. somsannannom

    somsannannom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +1,626
    เหรอ ไปเห็นมาแล้วเหรอ นรกน่ะ ถ้าจะจำเค้ามาพูดแล้วแน่ใจว่าถูก ว่าจริง
    ถามหน่อย ใครเป็นคนกำหนดว่าทำปาบอย่างนี้ต้องได้รับกรรมอย่างนี้
    คิดกันไปเองทั้งนั้น สวรรค์ในอก นรกในใจ ท่านพูดเหมือนจริงใจ นะ
    แต่ก็เห็นชัดเจนว่าเป็นการประชด แล้วคิดว่าจะหนีนรกพ้นรึแบบนี้
     
  19. Sarikanon

    Sarikanon สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +22
    เหอๆๆๆ



    ตลกละ คับ
     
  20. ดอนdon

    ดอนdon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,580
    ค่าพลัง:
    +3,291
    การกินเนื้อสัตว์ที่ละสังขารแล้วไม่บาป
    การฆ่าสัตว์หรือเบียดเบียนชีวิตเขาบาป
    ผู้ทรงศีลบวชเพราะสำคัญด้วยการกิน อาบัติ
    ผู้ทรงศีลข้องแวะการเบียดเบียนชีวิต อาบัติ
    ผู้ไม่กินเนื้อสัตว์ เพราะเห็นสัจธรรมของชีวิตคือ เลือด เนื้อ กระดูก ไขข้อฯลฯมองเห็นอสุภะ มีความเสมอกัน ย่อมกินไม่ลง เพราะภูมิธรรม
    ผู้กินเนื้อสัตว์ เพราะเห็นสัจจธรรมชีวิตของธาตุสี่ ปลงแล้ว ไม่ติดยึดในอัตตา ไม่มีจิตปราถนา แค่ผ่านมาและผ่านไป เพราะภูมิธรรม
    จะกินหรือไม่กิน ไม่เกี่ยวกับบุญ แต่เกี่ยวกับกุศล เป็นการอภัยทาน เหมาะแก่ฆารวาสเป็นที่สุด
    จะกินหรือไม่กิน ไม่เกี่ยวกับกับการหลุดพ้น พระย่อมไม่เลือกในสิ่งที่รับมา
     

แชร์หน้านี้

Loading...