ขอถามใครที่เชื่อพระเจ้า

ไม่เชื่อเรื่องพระเจ้าแบบนี้ แต่เชื่อเรื่องกฏของธรรมชาติที่อาศัยกันแล้วเกิดขึ้นมากกว่า

 

ก่อนอื่น เรามาพิจารณาคำถามทั้ง 4 ข้อ ที่ จขกท. ถามขึ้นมาก่อน ว่ามีทัศนะคติอย่างไร แต่จะให้วิเคราะห์คำถามแง่ลบ และหวังที่ลบล้างหรือทำลายความเชื่อคติเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม ผมจะตอบเท่าที่ผมรู้หรือสื่อสารได้แล้วกัน

1. พระเจ้าสร้างมนุษย์ ด้วยเริ่มจากชาย-หญิง1คู่ ชื่อ อดัมและเอวา(อีฟ) หลังจากนั้น2คนนี้มีลูก แล้วลูกของ2คนนี้จะไปผสมพันธ์กับคนอื่นที่ไหนได้ หรือพี่น้องมั่วกันเอง พ่อกับลูกสาว แม่กับลูกชาย ไม่ต่างอะไรจากสัตว์เดรฉาน อย่างนั้นหรือ ถ้าเป็นเช่นนั้นคนทั้งโลกก็ปัญญาอ่อนกันทั่วโลกแล้วนะสิ
2.สืบเนื่องจากข้อ1.ถ้าพระเจ้าสร้างคนมาจากคน1คู่ที่ว่า ทำไมคนมีหลายเผ่าพันธ์มีหลายสีผิว มีทั้งผิวขาว เหลือง ดำ และภาษาพูดอีก ทำไมมีหลายภาษาทั้งๆที่คนเกิดมาก้ต้องพูดภาษาเดียวกันกับพ่อแม่หรือบรรพบุรษอาจจะมีเพี้ยนไปบ้างตามกาลเวลาแต่ก็ไม่น่าจะถึงขั้นคนละภาษา จะมีใครที่เกิดมาแล้วไม่พูดภาษาตามพ่อแม่ แต่ไปคิดภาษาสื่อสารอื่นมาพูดแทน

ตอบข้อ 1 และข้อ 2 (ตอบแบบสังเขป)
มนุษย์คนแรกที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ เป็นเพศชาย ตอนนั้นสภาพแวดล้อมเอื้ออำนวยให้สิ่งมีชีวิตสามารถดำรงอยู่ได้ และผู้ที่ส่งมนุษย์คนแรกมายังโลกมนุษย์ก็คือ มนุษย์ต่างภพ (Alian) แต่ไม่สามารถแผ่เผ่าพันธุ์ได้ จึงได้ส่งมนุษย์เพศหญิงอีกหนึ่งคนในเวลาต่อมา แต่สุดท้ายก็ต้องตายทั้งคู่ เพราะไม่สามารถปรับตัวเพื่อความอยู่รอดได้ คราวนี้ก็ส่งใหม่ ส่งมาทีเยอะๆ เลย เป็นผ่าพันธุ์ เผ่าพันธุ์ละ 200 - 300 คน กระจายไปตามสถานที่ต่างๆ ที่อยู่ห่างไกลกันทั่วโลก อย่าลืมว่าเผ่าพันธุ์พวกนี้มาจากโลกอื่น (Planet) โลกใบอื่นที่อยู่นอกพิภพใบนี้ มีอยู่บ้างไม่มากนัก แต่ละดวงมีเผ่าพันธุ์เดียว มีลักษณะแตกต่างกันตามสภาพแวดล้อม เช่น มีภาษาเป็นของตนเอง มีรูปร่างเฉพาะตน มีความเชื่อต่อพระเจ้าของตนเช่นกัน มนุษย์จากนอกภิพกเหล่านี้ แต่ละที่มีความเฉลียวฉลาดต่างกัน จึงได้ถูกนำมาไว้ในโลกใบนี้ เพื่อคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดในอนาคตต่อไป

คำตอบอาจไม่ใช่แนวท่านก็ได้ ก็ขอให้พิจารณาด้วยปัญญาญาณ ส่วนข้ออื่นๆ ค่อยทะยอยตอบแล้วกันครับ

 

ผมมีเรื่องจะมาเล่าไห้ฟังครับผม มนุษย์บนโลกเรานี่แหละ หลายท่านมีเชื้อสายมาจากมนุษ์ต่างดาวอยู่แล้ว อันนี้เรื่ิงเรื่องจริงนะ คนไหนหน้าตี ผิวพันธ์ดี พวกนี้แหละ อาาจะมีเชื้อสาย มาจากมนุษ์ ต่างดาวนะ ผมเคยอ่านหนังสือเจอนะ

ขอเวลานิดนะครับ ไห้ผมไปหาไห้เจอก่อนนะหนัังสืิอเล่มนั้นอะครับ เดี๋ยวจะเอาข้อมูล มาเล่าไห้ฟังกัน


โอ้! ?My God..

โอ้พระเจ้าจร์อช!! มันยอดมากเลย

 

Apple เป็นระบบคอมพิวเตอร์ที่ทรงอำนาจทางด้านซอร์ฟแวร์และข่าวสาร
ซึ่งมีระบบเลขฐานต้องห้าม 666 อีก ซึ่งเป็นสัญลักษ์ของงูร้ายที่มอบ
แอปเปิลผลนั้นให้เอวาและอดัมกิน ...เคยอ่านเจอใน วิวรณ์ และบทแปลความไบเบิล ตื่นเต้นเหมือนอ่านนิยายแนวลึกลับ ไขปริศนา

 

กุศโลบายในการตอบ ต้องเข้าใจประเด็นของผู้ถามเสียก่อนครับ ว่าเขาคิดอะไร ต้องการทราบคำตอบแบบไหน บางคนอาจมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว บางคนยัง อันนี้ก็แล้วแต่ภูมิปัญญาของแต่ละคน ไม่ว่ากัน แต่สำหรับใครบางคนตั้งคำถามชี้นำเพื่อหวังผลในการทำลาย มากกว่าสร้างสรรค์ บางคนเชื่อและศรัทธาในเรื่องของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นพระผู้เป็นเจ้า พระพุทธเจ้า ก็ล้วนแต่เป็นสิ่งเดียวกัน เราบูชาพระองค์ด้วยเล็งเห็นคุณงามความดีงามของพระองค์มิใช่หรือ หรือท่านคิดว่าเลิกนับถือพระเจ้าเสีย แล้วหันมานับถือพระพุทธเจ้าอย่างเราซิ เพราะท่านสูงสุดแล้ว ประเสริฐสุดแล้ว เป็นศาสนาแห่งหลักและเหตุผล เป็นศาสนาแนววิทยาศาสตร์ สุดยอดแล้ว ยอดจริงๆ ศาสนาอื่นมันไม่ใช่ทาง ต้องทำลายมันเสีย อย่าไปนับถือมัน มันต้องอย่างนี้ ถึงจะสะใจท่านละซิ อันนี้สมมตินะสมมติ แต่หากผู้ใดมีความคิดอย่างนี้ ก็ช่างมีใจสกปรกเสียเหลือเกิน จนยากที่จะเยียวยา ปล่อยให้มันอยู่กับความคิดที่โสมมต่อไปแล้วกัน


คำถามและคำตอบของเรา ก็ไม่ใช่จะหวังว่าจะทำให้ตัวเราดูดี เราพยายามตอบในสิ่งที่เรารู้เราสัมผัสได้ ไม่ได้รู้สึกรู้สากับคำเยินยอ กับความหวังในศรัทธาหรือลาภสักการะ เสียเวลาเปล่าๆ ไปสร้างบารมีระดับกลางยังดีเสียกว่า ตัวท่านนะสร้างบ้างหรือเปล่า หรือจะอยู่หายใจทิ้งไปวันๆ


ส่วนประเด็นที่ท่านย้อนถามว่า "ว่ารู้ได้อย่างไร ว่าพื้นผิวดวงอาทิตย์มันร้อน ยังไม่มีใครเคยไปยืนสักหน่อย" อันนี้หากตอบแบบชาวบ้านนะ ก้มึงจะให้มันไม่ร้อนได้ยังไงไหววะ ขนาดกูอยู่บนโลกห่างไกลเสียขนาดนี้ มันยังร้อนตับแลบเลย นี้ขนาดปลายๆ นะมึง หากอยู่ใกล้กว่านี้ กูไม่ไหม้ดำเป็นตอตะโกหรือไง ถามมาได้ เอาส่วนใหญ่คิดวะ

หากตอบเป็นเชิงวิทยาศาสตร์ ก็ให้พิจารณาสมการสะท้านเอกภพของไอน์สไตน์ E=mc2 อันนี้ไม่ค่อยถนัดอธิบายนะ

ต่อพอจะบอกเป็นนัยว่า พลังงาน (E) กับมวลสาร (M) เป็นสิ่งเดียวกัน ส่วนมวลสารเป็นปฏิภาคกับความเร็ว (C) อาจแปลความได้ว่า ดวงอาทิตย์เป็นมวลสารที่มีพลังงาน สิ่งนี้เกิดจากความ (F) ถี่ภายใต้แห่งความว่าง พลังของความถี่นี้เมื่อมีการระดับความเร่ง ความถี่ก็จะสูงขึ้นจะเกิดพลังงานกลายเป็นมวลสารนั่งเอง


กระทบกระทั่งใจกันบ้าง ก็อย่าได้ถือสาหาความเลย
รักนะจุ๊บๆ

 

ส่วนประเด็นที่ท่านย้อนถามว่า "ว่ารู้ได้อย่างไร ว่าพื้นผิวดวงอาทิตย์มันร้อน ยังไม่มีใครเคยไปยืนสักหน่อย" อันนี้หากตอบแบบชาวบ้านนะ ก้มึงจะให้มันไม่ร้อนได้ยังไงไหววะ ขนาดกูอยู่บนโลกห่างไกลเสียขนาดนี้ มันยังร้อนตับแลบเลย นี้ขนาดปลายๆ นะมึง หากอยู่ใกล้กว่านี้ กูไม่ไหม้ดำเป็นตอตะโกหรือไง ถามมาได้ เอาส่วนใหญ่คิดวะ

เป็นคำตอบที่ถูกตั้องนะครับ5555 ถูกต้องนะคร้าบ
นี่เป็นคำตอบที่จะได้เปรียบเทียบกัยคำถามที่ จขกท ถาม งัยท่าน ก็รู้ทั้งรู้
ถามมาได้งัย เอาส่วนไหนคิดวะ ท่านน่าจะถาม จขกท มากว่านา

ปล.รอตั้งนานกว่าจะมีคนมาตอบ คำตอบที่อยากได้5555

 

ฮ่า เข้าใจเปรียบเทียบนะตัวเอง ต้องขอโทษทีที่สื่อคนผิด
นี้ก็มัวตอบกระทู้ชาวบ้านเขา ของตัวเองหายจ๊อม
งั้น เอาละ จขกท. รับทราบและนำกลับไปทบทวนความคิดตนด้วยนะครับ
อย่าบอกนะว่า เอา...มด มาคิด

 

ส่วนตัวแล้วเชื่อในพระเจ้านะคะ เพราะเป็นพยานของนิกายหนึ่ง
แต่ใครจะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่ ไม่น่ามาทะเลาะกัน
เพราะศาสนาทุกศาสนาก็สอนให้เป็นคนดีทั้งดีนั้น
ก็ทำบุญตามศาสนาว่ากันไปแล้วแต่ความชอบความเชื่อ

เรื่องเทวดานิยมก็มีในทุกศาสนาเรื่องเรือโนอา หรืออดัม+อีฟ
ก็เป็นหนึ่งในเรื่องเล่า โดยคนนี้แหละเขียนขึ้นมา
เล่าต่อๆกันจะไปเชื่อจริงจังก็คงแย่

แต่พระเจ้าไม่ได้สังกัดศาสนาใด
พระเจ้าไม่ได้ห้ามคนที่จะนับถือศาสนาใด
ตราบเท่าที่สอนให้คุณเป็นคนดี
พระเจ้าไม่มีเพศ ไม่มีรูปร่าง ไม่มีชื่อ
พระเจ้าไม่จำต้องทำตามที่คุณบอก
หรือเป็นอย่างที่คุณอยากให้เป็น
พระเจ้าไม่ใช่อลาดินในตะเกียง

แต่พระเจ้าเป็น สิ่งที่ท่านเป็น

จบไปละ อย่าเครียดๆแค่การเมืองวันนี้ก็เครียดแย่แล้ว

 

ผมก็บอกแล้วว่าขอถามคนที่เชื่อพระเจ้า ในเมื่อคุณบอกเองว่าไม่เชื่อพระเจ้าแต่ก็ไม่เป็นไร ต้องขอขอบคุณที่มาร่วมแสดงความคิดเห็น ที่ผมถามไปนั้นอยากฟังเหตุผลของคนที่เชื่อ เผื่อผมจะได้รู้อะไรมากขึ้น เพราะบางทีสิ่งที่ผมคิดมันอาจจะผิดก็ได้ ส่วนที่คุณถามว่า ว่ารู้ได้อย่างไร ว่าพื้นผิวดวงอาทิตย์มันร้อน ยังไม่มีใครเคยไปยืนสักหน่อย ไม่แน่พื้นผิวจริงๆมันอาจจะเย็นก็ได้ เพราะส่วนที่เป็นไฟนั้นอาจจะไม่ใช่พื้นผิวมัน แต่มันอาจจะมีของเหลวเป็นก๊าซรวมตัวกันอยู่เหมือนไฟแช็ค ที่นําก๊าซมันเย็นแต่พอจุดไฟมันออกมาร้อนข้างนอก
ปล.ผมยังเป็นคนโง่และรู้น้อยอยู่

 

ขอบคุณเช่นกันครับท่าน
คำตอบของท่านเรื่องดวงอาทิตย์ก็ถูกใจผมเป็นอย่างมาก
ละอายใจในคำตอบตัวซะละ แต่ขอท่านอย่าถือสา

ปล.ท่านสุขุมนุ่มลึกดีมากท่าน นับถือ นับถือ

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=-PtbT663dFM]YouTube - นับถอยหลังสู่วันสิ้นโลก ตอนที่5 The reason เหตุผลที่ตายเพื่อเธอ[/ame]

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=pjnNSDmCXwM]YouTube - ประวัติศาสตร์นบีมุฮัมมัด(ซ.ล.) 5[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=Mt0SXC710nE]YouTube - มุฮัมมัดศาสดาแห่งอิสลาม 1[/ame]

 

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=eusJkoL7bBs&feature=PlayList&p=2A092B54912028F2&playnext=1&playnext_from=PL&index=3"]YouTube - พระพุทธเจ้ามหาศาสดาโลกไม่ลืม-04[/ame]

ขอนำเสนอฝีมือคนไทย-แอนิเมชั่นเรื่องราวของพระศาสดาและพระพุทธศาสนา

http://buddha-thushaveiheard.com/page_02.html

 

จำนวนผู้นับถือศาสนาและลัทธิต่างๆ <SUP class=reference id=cite_ref-0>[1]</SUP>

1. ศาสนาคริสต์: 2.1 พันล้านคน
2. ศาสนาอิสลาม: 1.5 พันล้านคน
3. ไม่นับถือศาสนา/เชื่อในวิทยาศาสตร์แบบตายแล้วสูญ/อศาสนา: 1.1 พันล้านคน
4. ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู: 900 ล้านคน
5. ศาสนาพุทธนิกายมหายานของจีน/ลัทธิขงจื๊อ/ลัทธิเต๋า/นับถือบรรพบุรุษ/พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม: 394 ล้านคน
6. ศาสนาพุทธ: 376 ล้านคน
7. ศาสนาซิกข์: 23 ล้านคน
8. ลัทธิจูเช (นับถือคิมอิลซุง): 19 ล้านคน
9. นับถือผี: 15 ล้านคน
10. ศาสนายิว: 14 ล้านคน
11. ศาสนาบาไฮ: 7 ล้านคน
12. อนุตตรธรรม 5 ล้านคน
13. ศาสนาเชน: 4.2 ล้านคน
14. ศาสนาชินโต: 4 ล้านคน
15. ลัทธิโจได: 4 ล้านคน
16. ศาสนาโซโรอัสเตอร์: 2.6 ล้านคน
17. ลัทธิเทนริเกียว: 2 ล้านคน
18. ลัทธิเพแกนใหม่: 1 ล้านคน
19. ลัทธิเอกนิยม: 8 แสนคน
20. ขบวนการราสตาฟาเรียน: 6 แสนคน

ศาสนา - วิกิพีเดีย

 

1. พระเจ้าสร้างมนุษย์ ด้วยเริ่มจากชาย-หญิง1คู่ ชื่อ อดัมและเอวา(อีฟ) หลังจากนั้น2คนนี้มีลูก แล้วลูกของ2คนนี้จะไปผสมพันธ์กับคนอื่นที่ไหนได้ หรือพี่น้องมั่วกันเอง พ่อกับลูกสาว แม่กับลูกชาย ไม่ต่างอะไรจากสัตว์เดรฉาน อย่างนั้นหรือ ถ้าเป็นเช่นนั้นคนทั้งโลกก็ปัญญาอ่อนกันทั่วโลกแล้วนะสิ<o></o>
<o></o>
ตอบ<o></o>
<o></o>
คำว่า พระเจ้า...หมายถึง พระผู้สร้างสรรพสิ่ง....<o></o>
<o></o>
...ว่าที่จริง...มัน ก็ เป็นอย่างนั้น ยิ่งกว่าที่คุณว่า ยังมีให้เห็นแม้ในปัจจุบัน..เช่น ไส้เดือน ที่มีทั้งเพศผู้ และ เพศเมีย ในตัวเดียวกัน...<o></o>
<o></o>
..ในสมัยก่อน...การสืบพันธ์ มีไว้ เพียงเพื่อ การดำรงเผ่าพันธุ์ ให้ อยู่รอด ในสภาพ แวดล้อมที่ยากลำบาก และ ไม่เอื้ออำนวย หาไม่ ก็สูญสิ้น เผ่าพันธ์ ไม่มีการปรุงแต่งคิดลึก แบบปัจจุบัน หลักฐานนี้ ยังมี อยู่ ในปัจจุบัน เช่น หมู หมา ปลา ไก่.....<o></o>
<o></o>
มนุษย์ ในสมัยแรกๆ ก็ หยาบกระด้าง และ ไม่ต่างจาก สัตว์ โลกโดยทั่วไป การสืบสันติวงศ์ ของ ราชา ในโลก ยุคโบราญนั้น ก็ กระทำ ในหมู่ วงศาคณาญาติ หรือ ในกลุ่มชนชั้นเดียวกัน เพียงแต่ มนุษย์ มีความสามารถ ในการคิด และ เรียนรู้ ว่า อะไร ควร ไม่ควร อย่างไร จึง ไม่ปัญญาอ่อน และ สามารถ พัฒนาขึ้นมาอยู่ เหนือห่วงโซ่ อาหารของโลก ได้ อย่างปัจจุบัน <o></o>
<o></o>
การจุติ ของ ศาสดาต่างๆ ก็ เป็นไปเพื่อ การนี้ ทำให้ มนุษย์ มีพัฒนาการทางสังคม ที่ดีขึ้น...ก็ เพื่อจะได้ ไม่ต้อง ล้มไพ่ล้างกระดานใหม่ เพราะ พระเจ้าเอง ก็ ทรงเบื่ออยู่เหมือนกัน ( ตามบทสนทนาระหว่างพระเจ้าและ โนอาห์) <o></o>

2.สืบเนื่องจากข้อ1.ถ้าพระเจ้าสร้างคนมาจากคน1คู่ที่ว่า ทำไมคนมีหลายเผ่าพันธ์มีหลายสีผิว มีทั้งผิวขาว เหลือง ดำ และภาษาพูดอีก ทำไมมีหลายภาษาทั้งๆที่คนเกิดมาก้ต้องพูดภาษาเดียวกันกับพ่อแม่หรือบรรพบุ รษอาจจะมีเพี้ยนไปบ้างตามกาลเวลาแต่ก็ไม่น่าจะถึงขั้นคนละภาษา จะมีใครที่เกิดมาแล้วไม่พูดภาษาตามพ่อแม่ แต่ไปคิดภาษาสื่อสารอื่นมาพูดแทน<o></o>
<o></o>
ตอบ<o></o>
<o></o>
...ธรรมชาติ...นกที่โตแล้ว ...ย่อม หาเลี้ยงและ ดำรงอยู่ด้วยตนเอง...มีตัวใหนบ้างที่ไม่บินไกลไปจากรัง....ไม่ยอมบินรึ...เดียวพรานใหญ่ ก็ สอยร่วง เท่านั้น.....ปัจจุบัน นกหลายพันธ์ บินเป็นระยะทางพันๆไมล์ ก็ เพราะวิถีการดำรงชีพนี้แหล่ะ และ ผู้คน ก็ ไม่พ้น กฏเกณฑ์นี้.......อย่างนี้แล้ว หลายครอบครัว ไปแล้วไม่กลับ กระจายตั้งรกรากถาวร ยิ่งนาน ยิ่งห่างไกล ข้ามน้ำข้ามทะเล แล้ว นานๆเข้า ทุกอย่าง ก็ เพื้ยนไป...แต่ ภาษา ดั้งเดิม คือ คำว่า แม่ และ พ่อ ซึ่งมี พยางค์เดียว และ ภาษากาย ได้ แก่ การยิ้ม หัวเราะ และ แววตา สีหน้าท่าทาง จะ ยังคง คล้ายๆกัน ลองดูภาษาไทยปัจจุบัน และ ในอดีตเมื่อ ๒๐๐ ปี ที่แล้วมาซิ เหมือนกันใหม...ขนาดชาติเดียวกัน แต่ เวลาผ่านไป ยังเปลี่ยนได้ตั้งเยอะ...นับประสาอะไร กับ ต่างบ้านต่างเมือง....ที่ผ่านวันเวลามานานนับพันๆ หมื่นๆปี ทั้งนี้ เป็นไปตาม เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และ ดับไป...<o></o>
<o></o>
..ดังนั้น...ในโลกนี้ มนุษย์ทั้งหลาย ล้วนพี่น้องกัน แล้วยังจะมา เอาเปรียบ ทำลายล้างกันอีก...<o></o>

3.สมัยที่บอกว่าพระเจ้าทำให้นําท่วมโลกแล้วให้โนอาสร้างเรือขนคนและสัตว์ ชนิดละ1คู่ไปเพื่อไม่ให้มันสูญพันธ์ ที่สงสัยคือสัตว์ที่โนอาขนขึ้นเรือไป แน่นอนว่าต้องมีทั้งสัตว์กินเนื้อและกินพืช ที่นี้กว่านําจะลดก็หลายวัน สัตว์กินพืชก็ยังพอเอาพืชผักผลไม้มาไว้ให้มันกินได้ส่วนสัตว์กินเนื้อล่ะจะ เอาไรให้มันกิน และถ้าสัตว์พวกนั้นมันถูกขังรวมกันหมด คิดดูว่าเสือ สิงโตมันจะกินอะไรล่ะแต่ถ้าแยกขังกัน แล้วโนอาจะเอาเนื้อที่ไหนมาให้พวกมันกิน ตั้งหลายวัน สมัยนั้นตู้เย็นหรือนําแข็งแช่ของมีป่าวก็ไม่รู้หรือมันกินของบูดเน่าด้วย
4.สืบเนื่องจากข้อ3.จะเชื่อได้อย่างไรว่าโนอาขนสัตว์บกทุกชนิดขึ้นเรือไปได้ หมด ไหนจะพวกแมลงที่มีในสมัยนี้ เป็นแสนเป็นล้านชนิด โนอาขนเอาไปได้หมดอย่างนั้นหรือ และอาหารของพวกมันอีกจะหาอะไรมาให้มันกิน และถ้าโนอาไม่สามารถขนสัตว์บกที่มีอยู่ทุกชนิดในโลกตอนนี้ขนเรือไปได้ แล้วพวกที่เหลือนั้นมันมาจากไหน หรือจะบอกว่าพระเจ้า สรางขึ้นมาทีหลัง<o></o>
<o></o>
ตอบ<o></o>
<o></o>
...เมื่อพระเจ้า นำสัตว์ต่างๆขึ้นเรือได้ ไม่ได้หมายความว่า จะ ต้องนำขึ้นเรือ ทั้งหมดทุกชนิด ทรงเลือกที่จะ นำไป เฉพาะ ที่จำเป็น เท่าที่จะเอาไปได้ ซึ่งก็ มี ไม่มาก มีเท่าที่พอเห็นได้ ในสวนสัตว์นั่นแหล่ะครับ...ที่ สูญพันธ์ ไป ก็เยอะ ที่มีกล่าวในบันทึกว่า ขนไปหมดทุกชนิด ก็ เป็นเพราะ ละแวกที่โนอาห์ อยู่ มันมีอยู่ไม่กี่ชนิด อย่างน้อย พวก แมลง กุ้งหอยปลาปู ที่อย่างไร ก็ ยังคงเหลือรอดอยู่ได้ ก็ ไม่จำเป็นต้องนำไปด้วยแน่นอน ขนาด เรือใหญ่ๆ ที่ต้องการ เวลาเตรียมการสร้าง เป็นเดือนๆยังทำได้ ย่อม ต้องแน่นอนว่า เรื่องอาหารเป็นสิ่งที่ต้องเตรียมการได้ด้วยเช่นกัน โนอาห์ และ คนของเขา นั่นแหล่ะ ที่จะ ต้องทำ งานแบบนี้ ไม่ใช่ว่า จะ ทำได้ ตามลำพัง....<o></o>
<o></o>
..หากศึกษาประวัติของโนอาห์ ให้ดี จะ พบว่า...เขา และ ครอบครัว เป็นบุคคลที่พระเจ้าทรงเลือก ที่จะ ให้ทำภารกิจนี้..เริ่มจาก การดัดนิสัยของโนอาห์ ที่ดื้อ และ ไม่เชื่อใครง่ายๆ ทรงวางแผนให้ โนอาห์ อพยพ ย้ายถิ่นฐาน จาก เมืองไปสู่ ชนบท เพื่อทำเกษตรกรรมล่วงหน้าเป็นปีๆ ที่นั่น มีอาหารมากมาย เพราะ โนอาร์ เป็นเจ้าของกิจการ อาหารแห้ง และ เนื้อตากแห้ง ก็ เช่นกัน <o></o>
<o></o>
...คงไม่มีสัตว์ ที่กินเนื้อ ตัวไหน ที่ยอมอดตาย เพียงเพราะ เรียกร้องจะกินแต่ เนื้อสดไม่ยอมกิน เนื้อตากแห้ง...เอาเข้าจริงๆ กระดูกแห้งๆ ยังยอมแทะเลย จริงไหม...แน่นอนว่า อาหารที่เตรียมการไว้ มีให้กินกันตายและ ไม่ดุร้ายอาละวาด ไม่ใช่ กินให้อิ่มท้อง ได้ทุกมื้อ... <o></o>
<o></o>
..ส่วน โนอาห์ และ พรรคพวก...แกคง ตกกุ้ง ตกปลา สบายใจ แถวๆท้ายเรือกระมัง... <o></o>
<o></o>
....หวังว่า..คำตอบคงถูกใจ...<o></o>

 

1. พระเจ้าสร้างมนุษย์ ด้วยเริ่มจากชาย-หญิง1คู่ ชื่อ อดัมและเอวา(อีฟ) หลังจากนั้น2คนนี้มีลูก แล้วลูกของ2คนนี้จะไปผสมพันธ์กับคนอื่นที่ไหนได้ หรือพี่น้องมั่วกันเอง พ่อกับลูกสาว แม่กับลูกชาย ไม่ต่างอะไรจากสัตว์เดรฉาน อย่างนั้นหรือ ถ้าเป็นเช่นนั้นคนทั้งโลกก็ปัญญาอ่อนกันทั่วโลกแล้วนะสิ
(อดัมคือผู้เผยพระวัจนะคนแรก) ในยุคนั้นมีเมืองต่างๆมากมาย ยุคที่สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าเป็นขั้วโลกเหนือ นครแอตแลนทิสยังพอมีพื้นดินเหลืออยู่ ความยิ่งใหญ่ของชาวสุเมเรี่ยน เกิดการแตกแยกทางการปกครองและสงคราม(สงครามพลัง) ผู้ที่พ่ายแพ้ได้เดินทางมาพร้อมกับศาสนาถึงเปอร์เซีย กำเนิดบุคคลที่ยิ่งใหญ่โดยพระเป็นเจ้า พระองค์ทรงสร้างอดัมเป็นผู้เผยพระวัจจนะและสร้างอีฟ เอวาไว้ข้างกาย และมีลูกหลานผู้เคารพศรัทธาในพระเจ้าต่อมา ลูกหลานท่านแต่งงานกับผู้ที่ศรัทธาและเคารพต่อพระองค์ และเดินทางเรื่อยมาจนถึงนครแห่งสวรรค์ นครนั้นมีสวนไร่ที่มีเจ้าของคือกษัตริย์ ผู้ใดล่วงละเมิดย่อมถึงแก่ชีวิต การเดินทางเร่ร่อนนั้นยังไม่หยุดจนไปถึงมหานครอียิปและอิสราเอล หลังจากนั้นศาสนานี้ก็แตกออกเป็นสองจนถึงทุกวันนี้
2.สืบเนื่องจากข้อ1.ถ้าพระเจ้าสร้างคนมาจากคน1คู่ที่ว่า ทำไมคนมีหลายเผ่าพันธ์มีหลายสีผิว มีทั้งผิวขาว เหลือง ดำ และภาษาพูดอีก ทำไมมีหลายภาษาทั้งๆที่คนเกิดมาก้ต้องพูดภาษาเดียวกันกับพ่อแม่หรือบรรพบุรษอาจจะมีเพี้ยนไปบ้างตามกาลเวลาแต่ก็ไม่น่าจะถึงขั้นคนละภาษา จะมีใครที่เกิดมาแล้วไม่พูดภาษาตามพ่อแม่ แต่ไปคิดภาษาสื่อสารอื่นมาพูดแทน
ยุคของโลกมีอยู่ห้าผิว ๑.แดง ๒.ดำ๓.ขาว๔.เหลือง ๕.?ยุคผิวแดงคือความรุ่งเรืองของแอตแลนทิส ยุคผิวดำรุ่งเรืองคือยุคที่มีดินน้อย(เปลี่ยนขั้วโลก)ยุคผิวขาวรุ่งเรืองคือยุคทางศาสตร์ต่างๆ ยุคผิวเหลืองรุ่งเรืองคือยุคนี้ ต่างกันอย่างละ๒แสนปีโดยประมาณ ภาษา มีความใกล้เคียงกัน เช่น จีน ลาว ไทย พม่า อินเดีย เขมร อินโดฯ อียิป กรีก ส่วนใหญ่เป็นบาลีและสันสกฤติ ภาษายุโรป ก็เกิดจากสันสกฤติ ทวีปอเมริกาก็มีฐานภาษาแบบนี้เช่นกัน โดยเริ่มต้นจาก อุอิอะ แล้วค่อยเพิ่ม เอะ โอะ ฯเพี้ยนไปตามสมัย ดูตัวอย่างได้จากภาษาไทยสมัยนี้ วัยรุ่นพูดได้แต่คนแก่ไม่เข้าใจ คำโบราณในพจนานุกรมถ้าเอามาพูดคนสมัยใหม่ก็ไม่เข้าใจ เช่น พธู สมัยนี้เรียกที่รักหรือเมียเปลี่ยนเป็นแฟน และเพิ่มมาใหม่ใช้ร่วมด้วยคือ กิ๊ก สมัยโบราณมีการชอบพอแต่ไม่ร่วมหลับนอน ถ้านอนแล้วต้องเป็นเมีย สมัยนี้มั่วหมดทุกอย่าง ภาษาเขียนของมนุษย์คือการวาดรูป แล้วค่อยเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
3.สมัยที่บอกว่าพระเจ้าทำให้นําท่วมโลกแล้วให้โนอาสร้างเรือขนคนและสัตว์ชนิดละ1คู่ไปเพื่อไม่ให้มันสูญพันธ์ ที่สงสัยคือสัตว์ที่โนอาขนขึ้นเรือไป แน่นอนว่าต้องมีทั้งสัตว์กินเนื้อและกินพืช ที่นี้กว่านําจะลดก็หลายวัน สัตว์กินพืชก็ยังพอเอาพืชผักผลไม้มาไว้ให้มันกินได้ส่วนสัตว์กินเนื้อล่ะจะเอาไรให้มันกิน และถ้าสัตว์พวกนั้นมันถูกขังรวมกันหมด คิดดูว่าเสือ สิงโตมันจะกินอะไรล่ะแต่ถ้าแยกขังกัน แล้วโนอาจะเอาเนื้อที่ไหนมาให้พวกมันกิน ตั้งหลายวัน สมัยนั้นตู้เย็นหรือนําแข็งแช่ของมีป่าวก็ไม่รู้หรือมันกินของบูดเน่าด้วย
สัตว์ที่ได้ขึ้นเรือนั้นได้รับการแบ่งสรรค์อาหารที่ขอพรจากพระเจ้าแล้วจากโนอาห์ พอประทังไม่ให้ตาย สัตว์ร้ายรู้ในพระประสงค์จึงขึ้นเรือโดยยินยอมพร้อมใจ ไม่ได้ไล่จับขึ้นเรือ สัตว์นั้นจึงไม่ธรรมดาเพราะศรัทธา
4.สืบเนื่องจากข้อ3.จะเชื่อได้อย่างไรว่าโนอาขนสัตว์บกทุกชนิดขึ้นเรือไปได้หมด ไหนจะพวกแมลงที่มีในสมัยนี้ เป็นแสนเป็นล้านชนิด โนอาขนเอาไปได้หมดอย่างนั้นหรือ และอาหารของพวกมันอีกจะหาอะไรมาให้มันกิน และถ้าโนอาไม่สามารถขนสัตว์บกที่มีอยู่ทุกชนิดในโลกตอนนี้ขนเรือไปได้ แล้วพวกที่เหลือนั้นมันมาจากไหน หรือจะบอกว่าพระเจ้า สรางขึ้นมาทีหลัง
ไม่ได้เอาสัตว์ทั้งโลกแต่เอาแค่ในเขตที่เกิดเหตุน้ำท่วม สัตว์ที่รู้ว่าตนคือผู้ที่ถูกเลือกก็จะเดินมาขึ้นเรือเองเมื่อขึ้นแล้ว จะไม่มีสัตว์ชนิดนั้นขึ้นมาซ้ำอีกเลย
ปล.ขอคำตอบแบบมีเหตุผล เพราะผมเป็นคนยึดถือเหตุผล คุณธรรม ความซื่อสัตย์และสัจจะ
และประเภทคำตอบที่ว่า เหตุผลของพระเจ้า ความคิดของพระเจ้า หรือพระเจ้าทรงวางแผนไว้แล้ว มนุษย์ไม่สามารถจะรู้ได้ ประเภทนี้อย่าตอบเพราะมันเป็นข้ออ้างหาคำตอบที่มีเหตุผลไม่ได้ผมไม่ได้ลบหลู่พระเจ้าเพียงแต่ไม่เชื่อแต่ก็ไม่ปฏิเสธ
ปล. ผมมั่วครับ แฮะ แฮะ จะอึ๋ย

 

อย่าก้าวข้ามความเป็นศาสนาแต่ละศาสนาเลยดีกว่านะคะ

คนเราก็มีความเชื่อไม่เหมือนกัน มีหลายอย่างในโลกที่หาเหตุผลไม่ได้

เรานับถือพระพุทธศาสนา เป็นศาสนาที่รักสงบ และไม่ก้าวก่ายใคร

เราฟังความคิดเห็นได้ทุกอย่าง คิดว่าไม่ควรไปก้าวก่ายความเชื่อของศาสนาอื่นค่ะ

*ปล. เคยมีพี่อิสลามถามมาเหมือนกันในสิ่งที่เราตอบไม่ได้เป็นความเชื่อของศาสนาเรา
เพราะฉะนั้นอยู่กันอย่างสงบดีกว่าค่ะ ไม่ว่าศาสนาใดก็สอนให้เราเป็นคนดีทั้งนั้นล่ะ่ค่ะ

 

ตอบได้แต่ ไม่อยากล่อเป้า
ตาม จขกท. ครับ

ลองหาอ่านดูในไบเบิลให้ละเอียดเลยนะครับ
ปล.อย่าสมัครไอดีใหม่มาโพสเลยไม่เท่อ่ะ

 

นั่นจิครับ ผมมีญาติท่านนึ่ง เปลี่ยนศาสนา ไปเป็นคริต เพราะเค้าบอกว่า พุทธไม่ได้ช่วยอะไรเลย

จขกท ถามก็น่าคิดแฮะ เหมือนผมคิดเลย

ถ้าพระเจ้าสร้างโลกจริง ทำไม่ไม่สร้างให้มันดีๆ ไปเลยอะครับ
สร้างทะเลทรายไว้ทำไมครับ หรือไว้ทำฐานปิรมิด 55

 

เห็นด้วยกับคุณ.พรานพิเศษ.ทุกประการค่ะ