ไปดูดาวบนดาดฟ้าตึกกีฬาของมหาลัยครับ....บรื๋อ !!~

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย Jesper, 4 เมษายน 2010.

  1. Jesper

    Jesper สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +18
    ผมจำไม่ได้หรอกครับว่าวันนั้นเป็นวันอะไร แต่จำได้ว่าเป็นคืนที่มีฝนดาวตก....

    ผมกับเพื่อน 6 คน ผู้ชาย 5 ผู้หญิง 1 และรุ่นน้องผู้ชายอีก 1 คน รวมเป็น 7 คน ปรึกษากันเรื่องจะหาที่ดูฝนดาวตกกัน โดยคิดกันว่าคืนนี้จะไม่นอนจนกว่าจะได้เห็นฝนดาวตก

    เพื่อนผมคนนึงซึ่งเป็นแฟนเก่าของเพื่อนผู้หญิงที่จะไปดูฝนดาวตกด้วยกัน แนะนำว่าให้ขึ้นไปดูบนดาดฟ้าตึกกีฬาของมหาลัย ซึ่งมันเคยพาเพื่อนผู้หญิงคนนี้ขึ้นไปนั่งเล่นกัน พวกผมก็ค้านกันว่ามันจะมีที่นั่งเหรอ เพราะมันเป็นหลังคา...เพื่อนผมมันก็บอกว่า มันจะมีที่โล่ง ๆ อยู่ นั่งเล่นกันได้เป็นสิบคนอ่ะ พวกผมก็ถามต่ออีกว่า "แล้วจะขึ้นยังไงล่ะ ตึกมันปิดไม่ใช่เหรอ" มันก็บอกอีกว่า "บันไดหนีไฟไง เดินขึ้นไปเรื่อย" ซึ่งตึกกีฬามีทั้งหมด 12 ชั้น !!!

    พวกผมจึงตัดสินใจกันว่าจะซื้อเหล้าและกับแกล้มไปด้วยโดยจะแวะนั่งกินกันระหว่างเดินขึ้น ซึ่งตอนแรกแวะกันที่ชั้น 5 ซึ่งก็สูงและวิวสวยพอที่จะนั่งรอดูฝนดาวตกได้ เลยตั้งใจจะนั่งตรงนี้กันจนกว่าจะเห็นฝนดาวตก แต่ปรากฏว่าผมแอลกอฮอล์เริ่มเข้าปาก พวกผมก็เริ่มแซวเพื่อนที่เพิ่งเลิกกัน แซวไปแซวมาเริ่มมีการด่ากันระหว่างเพื่อนผมกับเพื่อนผู้หญิงที่เพิ่งเลิกกัน จนเพื่อนผู้หญิงผมงอน เลยเดินขึ้นไปดาดฟ้าคนเดียว....พวกผมก็ปล่อยไปสักพักเพราะเชื่อว่าเดี๋ยวก็ลงมา ไม่กล้าอยู่คนเดียวหรอก แต่เวลาก็ผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง เพื่อนผู้หญิงคนนี้ก็ยังไม่ลงมา พวกผมเพิ่งเริ่มคิดได้ว่าน่าเป็นห่วงแล้วหล่ะ เพราะสภาพข้างบนเป็นยังไงก็ไม่รู้ไม่เคยขึ้นไปเหมือนกัน จึงตัดสินใจอพยพขึ้นไปบนดาดฟ้ากัน

    พวกผมเดินขึ้นตรงบันไดหนีไฟซึ่งแคบมาก คนผอม ๆ เดินสวนกันไม่ได้อ่ะครับ แคบขนาดนั้นเลย พอเดินไปถึงชั้น 12 คือพ้นจากบันได ก็จะมีที่โล่ง ๆ ประมาณ 4x4 เมตร นอกนั้นจะเป็นหลังคาสูงประมาณเอว จะมีทางเดินรอบ ๆ หลังคาซึ่งต้องตะแคงตัวเดินไม่สามารถเดินหน้าตรงได้เพราะแคบมาก มองไปสุดตึกก็เจอเพื่อนผู้หญิงนั่งอยู่ ผมจึงอาสาเดินไปตามมาเพราะผมผอมที่สุดในกลุ่ม ผมก็ไปพามานั่งด้วยกันตรงพื้นที่โล่ง โดยจับไม่นั่งแยกคนละฝั่งกัน ระหว่างกินเพื่อนผมที่เพิ่งเลิกกับแฟนก็เมาหนัก โวยวาย ปาของมั่วหมด โดย ณ เวลานั้นพวกผมปวดฉี่ก็ฉี่กันตรงซอกหลังคา แต่ก็ไม่ลืมที่จะยกมือขอขมา พวกผมนั่งกินเหล้ากันจนถึงตี 5 ก็ไม่เห็นฝนดาวตก หรือมันอาจจะมาตอนพวกผมไม่ได้มองก็ได้ เลยตัดสินใจจะกลับกันล่ะ เพราะเมากันมาก เพื่อนผมที่เมาโวยวาย ก็หลับไปด้วย จึงต้องแบกมันเดินลง โดยเพื่อนผมกับรุ่นน้องแบกไหล่คนละข้างเดินลงทางหนีไฟซึ่งแคบมาก ๆ อย่างที่บอก ที่สำคัญราวกั้นสูงแค่เอวเท่านั้น !!

    ระหว่างเดินลง เพื่อนผมซึ่งเดินติดราวกั้นก็โวยวายรุ่นน้องว่า "อย่าดันมาดิว่ะเดี๋ยวกุก็ตกหรอก" รุ่นน้องผมก็บอกว่า "บ้าเหรอพี่ใครจะดันล่ะ พี่นั่นแหละดึงไป" เพื่อนผมก็บอกว่าความรู้สึกเหมือนมีคนมาดันเพื่อนผมที่หลับ เหมือนจะดันให้ตก !! ผมจึงตัดสินใจแวะที่ชั้น 10 ซึ่งประตูเปิดอยู่พอดี และเป็นชั้นเดียวที่เปิดไฟไว้ทั้งวัน ซึ่งมีเรื่องเล่ามานานแล้วว่า ชั้นไหนไม่ปิดไฟแสดงว่าแรง!! แต่สถานการณ์ตอนนั้น ไม่กล้าที่จะเดินลงแล้วเพราะกลัวตกกัน จึงตัดสินใจเดินเข้าไปในชั้น 10 ก่อน ลืมบอกไปว่าชั้น 10 มีห้องโปงลางอยู่ ซึ่งเป็นห้องที่เอาไว้ใช้ซ้อมโปงลางกัน เดินตามทางมาจนถึงห้องโปงลางก็วางเพื่อนไว้หน้าห้องโปงลางก่อน โดยผมกับเพื่อนอีก 2 คนอาสาหาทางลง เพราะมันมีทางลงที่เป็นที่จอดรถ เพราะ ชั้น 2-9 เป็นลานจอดรถและสามารถเดินลงได้สบาย ๆ แต่พอเดินไปตรงที่จอดรถปรากฏว่ามันมืด...มืดมาก แทบมองไม่เห็นและก็ดูน่ากลัวมาก ๆ ด้วย เลยจะเดินกลับมาบอกเพื่อน ๆ ที่เฝ้าเพื่อนที่หลับอยู่ พอเดินผ่านทางเดินที่จะออกไปทางหนีไฟ ผมก็ได้ยินเสียงดนตรีไทยบรรเลงนานประมาณ 5 วินาที ผมหันไปมองหน้าเพื่อนอีกสองคนทันที ผมและเพื่อนก็พยักหน้าด้วยความเข้าใจตรงกัน ตกลงกันว่าจะไม่บอกเพื่อน ๆ ที่รออยู่หน้าห้องโปงลางเพราะไม่อยากให้แตกตื่น พวกผมตัดสินใจว่าจะรอจนกว่ายามมาเปิดลิฟท์แล้วค่อยลงชั้นสอง เพื่อเดินลงทางที่จอดรถเพื่อไม่ให้ยามเห็น ซึ่งลิฟท์ก็อยู่หน้าห้องโปงลางโดยมีประตุกั้นอยู่บานหนึ่ง ผมกับเพื่อนสองคนอาสาเดินไปดูลิฟท์ว่าเปิดหรือยัง

    พอเดินไปดูปรากฏว่าลิฟท์ยังไม่เปิด ด้วยความที่ร้อนและกังวลเหงือผมเลยไหลเยอะมาก เลยเปิดหน้าต่างซึ่งเป็นหน้าต่างแบบเลื่อน พอเปิดเสร็จผมก็หันหน้ามาจะคุยกับเพื่อนก็เห็นไฟลิฟท์ติดแล้ว แต่ในขณะที่กำลังจะพูด หน้าต่างที่ผมเพิ่งเปิดมันก็ปิดเองแบบดังสนั่น !! ผมตกใจมากเพราะมันเป็นหน้าต่างแบบเลื่อนแถมฝืดอีกต่างหาก ผมกับเพื่อนมองหน้ากันแล้วยืนนิ่งสักพัก พอตั้งสติได้ก็บอกเพื่อน ๆ ที่อยู่หน้าห้องโปงลางว่ารีบไปเหอะ ไม่ไหวแล้วหว่ะ พอพวกผมเข้ามาในลิฟท์ ผมก็กดไล่ตั้งแต่ชั้น 4-3-2 เพราะกลัวประตูที่จะออกไปที่จอดรถมันจะปิดเลยลองเปิดตั้งแต่ชั้น 4 ปรากฏว่าชั้น 4 เปิดแต่พวกผมลองลงมาชั้น 3 ปรากฏว่าประตูปิด เลยลองลงมาชั้น 2 ผมอาสาเดินออกมาเปิดดูว่าล็อกหรือเปล่าพอผมเดินออกมาจากลิฟท์ปรากฏก็ว่าลิฟท์ฝั่งตรงข้ามที่มีอยู่ 2 ตัวเปิดออกพร้อม ๆ กับที่ผมก้าวออกจากลิฟท์ ผมก็งงว่าเวลานี้ใครจะมากดลิฟท์ ผมเลยรีบวิ่งไปที่ประตู ปรากฏว่าล็อกอีก จึงรีบวิ่งกลับไปที่ลิฟท์ แล้วกดขึ้นชั้น 4 พอถึงชั้น 3 ลิฟท์ดันเปิดอีก แต่ไม่มีใครอยู่ข้างนอก และพวกผมก็ไม่ได้กด พวกผมเริ่มลนลาน พอลิฟท์ปิดเพื่อนผมที่หลับอยู่ดันอ้วกอีก สถานการณ์เลยวุ่นวายไปใหญ่ พอถึงชั้น 4 พวกผมก็รีบพยุงเพื่อนและเดินลงจากตึกอย่างรวดเร็ว พอถึงชั้น 2 ซึ่งเป็นพื้นที่โล่งแล้ว และมีทางลาดยาวไปถึงหน้าตึก พวกผมตัดสินใจนั่งกันก่อนเพราะลมเย็นมาก ๆ โดยปล่อยให้เพื่อนที่หลับอยู่นอนกับพื้น แบกไม่ไหวแล้วมันสูง 185 หนัก 80 กว่า ๆ อ่ะครับ

    พวกผมก็นั่งคุยกันเรื่องที่เพิ่งผ่านมา ระหว่างที่ผมกำลังเล่าเรื่องที่ผมเจอ เพื่อนผู้หญิงของผมก็นิ่งเกร็งมือ แล้วก็ตัวสั่นด้วย ทำมือเหมือนจะรำอ่ะครับ รุ่นน้องผมซึ่งเป็นเด็กโปงลางและเคยเล่นของด้วย บอกว่า "เห้ยพี่ อาการอย่างนี้ผีจะเข้านะพี่ รีบพากลับหอเถอะ" เพื่อนผมจึงอาสาพาเพื่อนผู้หญิงกลับหอ ผมก็บอกว่าเดี๋ยวหายเหนื่อยแล้วจะตามไป

    พอพวกผมหายเหนื่อยก็แบกเพื่อนที่หลับอยู่กลับหอ ซึ่งต้องเดินผ่านหน้าตึกกีฬา อยู่ดี ๆ เพื่อนผมที่หลับก็ตื่นแล้วสะบัดมือออกจากพวกผม แล้วบอกว่าไม่ต้องพยุงกู กูจะนั่งตรงนี้ แล้วมันก็นั่งเลยครับ หน้าตึกกีฬา พวกผมก็พยายามดึงมันขึ้นเพื่อจะกลับหอ แต่ตัวมันหนักผิดปกติ พวกผม 4 คน ดึงมันยืนไม่ได้อ่ะครับ แต่อยู่ดี ๆ มันก็ลุกขึ้นมาแล้วเดินกลับหอเฉยเลยครับ ไม่พูดอะไรสักคำ พวกผมก็ได้แต่เดินตามแบบงง "เอ๊ะ ! มันเมาไม่ใช่เหรอว่ะ"

    พอเดินไปถึงหน้าหอ อยู่ดี ๆ มันก็ล้มลงนอนอีก นอนตรงหน้าหอเลย ตรงสนามหญ้า เหลือบไปทางซ้างก็เจอเพื่อนผมกะเพื่อนผู้หญิงนั่งกันอยู่อีกทางนึงของหน้าหอ ผมก็เลยเดินไปทามว่าทำไมไม่ขึ้นหอไปอ่ะ พักผ่อนดีกว่า เจออะไรไม่ดีมาเยอะ เพื่อนผู้หญิงก็บอกว่าไม่อยากอยู่คนเดียวรู้สึกเหมือนมีคนเดินตามและเหมือนมีคนยืนมุงอยู่ตลอดเวลา พวกผมก็เลยต้องนั่งอยู่หน้าหอยัน 8 โมงเช้า...ก็แยะย้ายกันกลับห้อง

    เพื่อนผมที่อาสาเดินไปส่งเพื่อนผู้หญิงมันเป็นรูมเมทผม มันก็เล่าให้ผมฟังว่า ระหว่างเดินเข้าหอ เพื่อนผู้หญิงผมพูดจาแปลก ๆ ผมก็ถามว่า พูดไรว่ะ มันก็บอกว่า อยู่ดี ๆ มันก็หัวเราะ แล้วพูดว่า "กุจะเอามืงไป ถ้ากุเอามืงไปไม่ได้กุก็จะเอาเพื่อนมืงไป" แล้วอยู่ดี ๆ ก็เงียบไปแล้วก็แล้วกอดอกตัวสั่นแล้วก็พูดเสียงปกติว่าหนาวหว่ะ เหมือนเมื่อกี๋ไม่ได้พูดอะไร เล่นซะผมกับเพื่อนนอนไม่หลับเลย มีเรียนบ่ายซะด้วย ผมเลยนอนรอเรียนบ่ายเลย พอจะออกไปเรียน กำลังจะล็อคประตู เหลือบไปมองขอบประตู มีรอยเลือดเลอะอยู่เต็มขอบประตูเลยครับ เหมือนจะเป็นตัวหนังสือด้วย ผมเลยเรียกเพื่อนผมมาดู แกะใจความกันได้สามตัวอักษรครับ ต.....า.....ย ขนลุกเลยครับ แต่ลอยเลือดตรงอื่นดูไม่ออกจริง ๆ ตัดสินใจเดี๋ยวนั้นเลยครับ....ไม่ไปเรียนแล้ว !!

    นั่งคุยกับเพื่อน วิเคราะห์ว่าเมื่อคืนทำอะไรกันไปบ้าง มานั่งนึกโครงสร้างตึก.....เห้ย !!!! ตรงพื้นที่ว่างที่พวกผมนั่งกินเหล้ากันเยี่ยวกันตรงนั้นมันตรงกับห้องโปงลางพอดีเลยนี่หว่า!!!~ ผมกับเพื่อนเลยรีบไปที่ดาดฟ้าตึกกีฬาเลยครับ โดยซื้อน้ำเปล่าไป 2 ขวดใหญ่ เก็บของทั้งที่พวกผมทำเลอะเทอะและของที่พวกผมไม่ได้ทำ แล้วเอาน้ำล้างบริเวณที่พวกผมฉี่กัน พร้อมกับยกมือไหว้ขอขมา

    จากวันนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับผมครับจะมีก็แต่เพื่อนผมที่เมาแล้วโวยวายและหลับไปในคืนนั้นซึ่งตื่นมาไม่รู้เรื่องอะไรเลย พอผมเล่าให้ฟังก็ยังบอกอีกนะว่า "จริงเหรอว่ะ" พอเล่าให้มันฟัง คืนเดียวกันนั้นมันก็โทรมาตอนตี 4 ตี 5 มันบอกว่าเดี๋ยวมันมานอนที่ห้องผมนะ พอมันมาผมก็ถามมันว่ามีอะไร มันบอกว่า มันหลับอยู่ดี ๆ รู้สึกเหมือนมีใครเดินเตะปลายเตียง พอมันลืมตาดูก็เห็นผู้หญิงผมยาวปิดหน้า แต่ยังพอมองเห็นปากนิดๆว่าปากกว้างมากกำลังยิ้ม แล้วค่อย ๆ เดินมาหามัน มันตกใจมาก ๆ เพราะมันขยับตัวไม่ได้ด้วย แต่พอมันขยับตัวได้ผู้หญิงคนนั้นก็หายตัวไป เช้ามาผมเลยพามันไปขอขมาที่ตึกกีฬา

    หลังจากวันนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับพวกผม รอยเลือดที่ประตูก็จางลงไป แต่ก็ยังมีสิ่งที่ติดใจพวกผมอยู่คือ รุ่นน้องผมที่ไปด้วยกันวันนั้น ลาออกจากมหาลัยไปแล้ว โดยก่อนที่มันจะลาออกมันเล่าว่ารู้สึกเหมือนมีคนเดินตามและมีคนมุงมันตลอดเวลา ซึ่งมันลาออกไปแบบพวกผมไม่รู้ด้วยซ้ำ รู้จากอาจารย์ในชมรมโปงลางว่ามันลาออกไปแล้ว ซึ่งตอนนี้ก็ติดต่อมันไม่ได้...

    เข็ดเลยครับ ไม่มีทางขึ้นไปบนดาดฟ้าตึกกีฬาอีกแล้ว......ขอโทษจริง ๆ ครับ
     
  2. พระลอ

    พระลอ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +56
    อาคารสถานที่ ทำอะไร ต้องระวัง
     
  3. แสวงหาความจริง

    แสวงหาความจริง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    509
    ค่าพลัง:
    +5,163
    เท่าที่อ่านท่าทางจะแรงจริงๆ
     
  4. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    ต่อไปจะทำอะไรให้มีสติ หน่อยน่ะ
     
  5. นักเดินธรรม

    นักเดินธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +2,393
    น่ากลัวมากเลย......สำหรับอาคารสถานที่เก่าๆแบบนี้.....มีรอยเลือดด้วย!!!...น่ากลัวมากๆ
     
  6. ศรีทอง

    ศรีทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +316
    เค้าคงโกรธมากๆครับ
     
  7. Jesper

    Jesper สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +18
    รอยเลือดที่ว่าอาจจะไม่ใช่ ต...า...ย ก็ได้ครับ แค่มันดูคล้าย ๆ แล้วมันอาจจะเป็นคนในหอที่บังเอิญมีแผลแล้วมาเช็ดประตูผม แล้วก็ที่มันจางไปอาจจะเป็นแม่บ้านมาเช็ดก็ได้ครับ พวกผมพยายามคิดแบบนี้เพื่อลดความกลัว ^^
     
  8. ปัทจัดตังค์

    ปัทจัดตังค์ Pattama Nitsaro

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    329
    ค่าพลัง:
    +942
    หลอนดีจัง....
    ทำให้นึกขึ้นได้ว่า ตอนอยู่มหาลัย ก็เคยได้ปีนไปบนดาดฟ้าตึกเรียนกับเพื่อนอีกหลายคน เพื่อ ดูฝนดาวตกด้วยเหมือนกัน
     
  9. กระเพาหมูกรอบ

    กระเพาหมูกรอบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +32
    สนุกๆ ดี คับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...