ผมกำลังจะบวช จะหาที่จำวัด แนะนำหน่อยครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย depperkyo, 28 เมษายน 2010.

  1. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +4,062
    กะลาครอบมานาน โบราณว่า
    พอแลเห็นท้องฟ้าก็หุนหัน
    คิดว่าตนนั้นใหญ่ใครไม่ทัน
    ทำกำเริบเสิบสันทุกอย่างไป.......ฝากไปบวชด้วยครับ จขกท อนุโมทนา
     
  2. Lanna141

    Lanna141 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +62
  3. chura

    chura เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    688
    ค่าพลัง:
    +1,971
    การเลือกสถานที่ให้ถูกจริตนิสัย ผมว่าถ้าทำได้น่าจะดี ยิ่งมีเวลาศึกษาน้อยก็ควรเลือก
    เฟ้นสถานที่ และจะให้ดีต้องเลือกสายปฎิบัติ ครูอาจารย์ที่สอนตรงกับสายปฎิบัติที่
    ท่านสนใจ ผมว่าเสียเวลาค้นหาซักนิดให้ได้สถานที่สัปปายะที่เหมาะกับจริต ไม่ใช่สิ่ง
    ที่เสียหายใดๆผมถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะได้ใช้ปัญญาค้นหาให้ตรงกับจริตของตน
    ขอให้ จขกท ค้นพบสถานที่ สายปฎิบัติ และครูบาอาจารย์ที่ต้องการครับ...อนุโมทนาครับ
     
  4. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,076
    ค่าพลัง:
    +158
    คิดจะบวชก็ดีแล้วค่ะ คนเราหลงได้ เสียเวลาได้ เสียใจได้
    ตอนนี้อาจจะไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร เพราะยังใหม่ ต่อไปได้ศึกษาเล่าเรียน
    ก็ต้องดีขึ้น จากการอบรมจิตใจของเรา ถือว่า คุณเป็นคนอีกประเภทหนึ่ง
    ที่มุ่งอยากได้ดี และจงทำความเพียร ในสิ่งที่เห็นผิด เป็นสิ่งที่ถูกต้อง
    และ รักษาความถูกต้อง ไว้ ให้นานและดีที่สุดจนเกิดปัญญาให้ได้
    เรียนจากการรู้สิ่งที่ผิดและถูก คำพูดของใครๆ สอนเรา ไม่เท่าเราสอนเราเอง
    หรอกค่ะ หากเราเห็นสิ่งทีถูกต้องแล้ว ก็ควร เวรมณีในสิ่งที่ไม่ดี ไม่ควร
    ไม่งาม

    คนเรามักไม่ถูกใจหากคนอื่นมองไม่เห็นค่า คนสอนคนบอก หากไม่เมตตาจริง
    ก็มักจะมีโทษะ กับผู้ไม่รับฟังเป็นธรรมดา มีทางเดียว คือ มุ่งศึกษาพระธรรมและอบรมจิตจะดีกว่า สนใจอะไร ที่เป็นการถ่องเวลา
    ขอพร ให้คุณจงบรรลุนิพพานในปัจจุบันชาติ
     
  5. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    750
    ค่าพลัง:
    +3,637
    ส่วนมากคนที่เขาจะบวชตั้งใจเอาดีกัน ก็จะสนใจ ข้อวัตร ข้อปฏิบัติ


    พระธรรมคำสอน ว่าเมื่อบวชเข้าไปอยู่ในร่มกาสาวพักต์ หรืออยู่ในร่มโพธฺ์ขององค์สมเด็จ

    พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะต้องทำอย่างไรบ้าง จะต้องทำตัวแแบไหน เพราะเราบวชเอาบุญกัน

    ยิ่งถ้ามีเวลาบวชน้อย ก้ยิ่งต้องหาทางตักตวงเอาบุญ เอากุศลไห้ได้มากที่สุด เ่ท่าที่จะทำได้ จะได้เป็นกำลังบุญหนุนนำ ทำไห้เราเจอ พบ ประสบแต่สิ่งที่ดี ถ้าไม่เกินกฏของกรรมที่ถูกมันเล่นงานเอา

    การบวชสมัยนี้ก็มีหลายรูปแบบจริงๆ ไม่ว่าจะบวชหนีสังสาร บวชผลาญข้าวสุข บวชสนุกตามเพื่อน เช้าเอน เพลนอน บ่ายผักผ่อน ค่ำดูทีวี ยกเว้นบวชหนีสังสาร นอกนั้น

    เป็นการบวชหานรก หรือเพิ่มนรกไห้กับตัวเอง

    ชาวบ้าน ทำดี ร้อยครั้ง ยังไม่เท่าพระทำความดีเพียงหนึ่งครั้ง มุนกลับ ถ้าเผลอทำชั่วในสมัยที่ห่มผ้าเหลืองอยู่

    เพียงน้อยนิดโทษก็มหันต์เช่นกัน เพราะ บวชเข้าไป แล้วถึงจะเป็นสมมุติสงฆ์ ยังไม่ไช่พระสงฆ์ เต็มร้อย ก็ตาม

    แต่ก็ถือว่าเป็นปูชนียบุคคลแล้ว เป็นบุคคลที่ควรกราบไหว้ ไม่ว่าจะแก่คราวไหน รุ่นพ่อ รุ่นแม่ ปู่ย่า ตา ยาย กราบเรา บูชาเราทั้งสิ้น


    แต่ถ้าพูดถึง สมัยพุทธกาล หรือสมัยที่องค์สมเด็จพระจอมไตรยังทรงพระชนชีพอยู่นั้น

    การบวชสมัยนั้นมีเพียงอย่างเดียวก็คือ

    นิพพานังสัจฉิกริยา คเหตวา= การบวชของข้าพเจ้าในครั้งนี้ก็คือการทำไห้แจ้งซึ้งพระนิพพาน

    บวชเพื่อดับไม่มีเชื้อ

    จุดมุ่งหมายจริงๆ ของการบวชมีอยู่แค่นี้ ก็คือบวชเพื่อความดับไม่มีเชื้อ (ในการเกิดอีกต่อไป)

    อนุโมทนาครับ (ถ้าภาษาบาลี เพี้ยนไปบ้าง ต้องขออภัย เพราะ นานมาแล้วครับผม ผมก็จำไม่ค่อยได้เท่าไหร่ครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 พฤษภาคม 2010
  6. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    เรื่องวัดไม่แนะนำ แต่อยากจะแนะนำเรื่องการปฏิบัติธรรมภาคปฏิบัติ โดยให้นอนดึกๆ ใช้เวลาว่างก่อนนอนให้เป็นประโยชน์ ทำสมาธิทั้งสมถะกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน สักวันละ 1-2 ชั่วโมง เสร็จแล้วเดินจงกรมภาวนาสักคืนละ 1-2 ชั่วโมง จากนั้นสรงน้ำ แล้วค่อยสวดมนต์แล้วจำวัด จากพระอรหันต์วัยรุ่น.....
     
  7. saturday_rainy

    saturday_rainy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +957
    หลายความเห็นเขามาด้วยเมตตาครับ แม้จะมีทิฐฐิติดมาบ้าง เราสามารถรับฟังเฉยๆโดยไม่จำเป็นต้องทำตามหรือตอบโต้ได้ครับ ถ้ามีโทสะกับผู้ปรารถนาดีจะเกิดกรรมแก่เราเปล่าๆ ฝากไว้เตือนใจนะครับ
     
  8. depperkyo

    depperkyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +288
    ผมขอขอบพระคุณทุกท่านครับ
    ผมรู้สึกดีที่มีหลายท่านเข้าใจครับ

    ผมนั้นไม่ถือสาครับ แม้เค้าจะบอกว่าผมนั้นเหมือนกบกะลาครอบ
    ผมก็ไม่ว่าอะไรท่านหรอกครับ

    ท่านก็อย่าเอากะลาของท่านมาครอบให้ผมด้วยก็แล้วกันครับ
    อย่างน้อยกะลาของผมมันก็มีรูให้ทะลุออกไปเห็นข้างนอกได้ครับ
    นี้ผมไม่ได้ย้อนว่าท่านนะครับ แค่เตือนด้วยความหวังดี แต่สุดแล้วแต่ท่านจะคิด

    อนุโมทณากับท่านทั้งหลายครับ
    ผมจะตั้งใจเพียรปฏิบัติอยู่ในศีล
    ไม่ให้พวกมารที่มันมากล่าวหาติเตียนผม
    บอกว่าทำแล้วไม่ได้ ไม่สำเร็จ ก็ช่างเค้าไป
    ที่เค้าคิดแบบนั้น เพราะ เค้ามั่นใจในตนเองว่าเค้าทำได้ดีกว่าคนอื่น
    ซึ่งที่จริงแล้วนั้น ก็ สำคัญตนเองผิดนัก

    ศาสนาเป็นเรื่องเปราะบางมาก บางท่านนั้นหัวรุนแรง ยึดติดมากไป
    ก็ไม่แปลกหรอกครับ ที่จะเห็นการกระทำของผม เป็นเรื่องในทางเสื่อม

    หลายท่านนักที่ผมเห็น ยึดติดมากเหลือเกิน ผมยกตัวอย่างเล่าให้ฟังเป็นนิทาน
    จีวรครับ ในสมัยพุทธกาลครั้งพระพุทธเจ้าท่านยังเพียรหาทางตรัสรู้
    ผ้าจีวรในสมัยนั้น ที่พระองค์ทรงจะหานุ่งห่มได้มีเพียง ผ้าบังสกุล สีขาว
    ที่ใช้ห่อศพที่ชาวบ้านเค้านำมาแขวนไว้ที่ต้นไม้ มานุ่งห่ม
    แต่มีสีกาเห็นดูไม่งามผ้าสีขาวนั้น เหมือนพวกพรหมา แยกกันแทบไม่ออก
    ต่างกันเพียงโกนศรีษะเท่านั้น จึงนำจีวรไปย้อมสีกับพวกยางไม้
    จนออกเป็นสีน้ำตาลแก่ กลายมาเป็นจีวรอย่างทุกวันนี้
    เรื่องเล่านี้ มีอ้างอิงครับ ถามได้จาก สมาคมพรหมาครับ

    อาจารย์ปู่ของผมท่านเป็นพรหมาจากในพระราชวังนั้นแลครับ
    เพราะบัตรประชาชนท่าน ยังขึ้นต้นด้วยพรหมาเลย อันนี้ผมยืนยัน ไม่ได้มั่ว

    นี้แสดงให้เห็นครับ ในหลายๆคนเห็นผ้าห่อศพเป็นของไม่บริสุทธิ์
    เปื้อนน้ำเหลือง มีคราบบ้าง แล้วจะนำมาห่มร่างกายได้ยังไง
    ..."ซํกสิครับ" พระองค์ไม่ได้ยึดติดเลย ขอเพียงเจตนา และ ใจ
    ที่ตั้งมั่นอยู่ในศีล แล้ว ปฏิบัติดี ประพฤติชอบ สำรวมทั้งกาย วาจา ใจ
    สำคัญที่ข้างในครับ ไม่ใช่ข้างนอกนิครับ?

    แต่ปัจจุบัน ในพุทธทำนายพระองค์ก็ทรงตรัสแล้ว
    ว่าอยู่ได้เพียง ห้าพันปีเท่านั้น ซึ่งท่านก็ตรัสเป็นนัยแล้ว
    ว่ามันจะเสื่อมไปตามกาลเวลาเมื่อถึงพร้อมของพระศาสนา

    ปัจจุบันคนมีทุกข์จึงหันหน้าบวชเข้าศาสนาเป็นที่พึ่ง
    ตกงาน แฟนทิ้ง ไม่มีตังค์ เครียดทางการเมือง สูญเสียคนรัก
    แต่นั้น ก็เป็นการหนีปัญหา แต่ผมนั้นถึงพร้อมด้วยจิตที่อยากจะบวช
    ปัญหานั้นไม่มี ผมก็อยากจะบวชด้วยความรู้สึกอยากบวช

    เหตุผลนั้น ไม่ได้ซํบซ้อนเลยครับ
    วัตถุสิ่งของ ล้วนเอาไปไม่ได้
    ภาพพจน์ ชื่อเสียง เงินทอง กัลยาณมิตร
    สิ่งเหล่านี้ ยอมรับว่าปัจจัยในความสำเร็จในชีวิต ณ ปัจจุบัน
    เป้นสิ่งที่ขาดเสียมิได้ แต่เมื่อเราตาย ปัจจัยเหล่านั้น ก็ไม่ได้ติดตามเราไป

    สิ่งที่ติดเราไปมีเพียงแต่ บุญ และกรรมเก่า ทั้งกรรมใหม่
    ผมนั้น ไม่คิดมีเมีย มีลูกครับ
    ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ในทางโลก
    หากไม่ติดที่ญาติผู้ป้าแกนั้นไม่มีบุตร
    ผมคงละทางโลกนี้ไปนานแล้ว

    เพราะไม่รู้อยู่ในโลกนี้ไปเพื่ออะไร
    เวียนว่ายตายเกิดนั้นไม่รู้จบ
    เกิดมาก็ทุกข์ยันจนหมดชีวิตก็ยังไม่พบความสุขที่มันนิรันดร์

    ความเบื่อเกิดขึ้นในใจ
    แต่ความรักต่อญาติผู้ป้า และ ครูบาอาจารย์ที่ประสิทธิวิชาแก่ข้าพเจ้ามา
    ก็ขอบวชให้แก่...

    บิดา ผู้มอบเชื้อไขกระดูก
    มารดา ผู้มอบเลือดเนื้ออุ้มครรถ์
    ครูบาอาจารย์ ผู้มอบวิชาประสิทธิ์ให้
    ญาติโกโหติกา ผู้เมตตาช่วยอุปถัมค้ำชู
    พี่น้อง ผู้ร่วมกรรมชะตาชีวิต
    เจ้านาย ผู้เมตตางานการให้ทำ
    กัลยาณมิตร ผู้เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน

    นี้คือ ใน หนึ่งปีของผม ที่ตั้งใจจะบวชให้ครับ
    แม่ของผมนั้น ท่านจากโลกนี้ไปสามปีที่แล้ว
    ครั้งนั้น ผมบวชไปแล้ว แต่ติดที่ป้าท่านโทรมาร้องไห้ทุกวัน
    อันนี้ไม่ได้โทรป้านะครับ เข้าใจ แต่เพราะใจเรามันรู้สึกไม่ดี
    ไหนจะเสียแม่ แล้วมีเรื่องทางบ้านเข้ามา
    ครั้งนั้น เลยเหมือนบวชได้ไม่เต็มที่ เพราะมีเรื่องให้คิดเยอะครับ

    คุณท่าน ภานุเดช และคุณสับสน ผมเรียนท่านตามตรง
    กระผมนั้น ไม่ได้คิดอยากจะมาต่อปากต่อคำกับท่าน
    แต่ผมขอความกรุณาขอให้ท่านฟังแล้วเข้าใจใหม่ว่า
    คนเรานั้น มีเหตุและผลนั้นต่างกัน
    เพราะเราถึงจะเป็นมนุษย์เหมือนกัน
    แต่เราก็อยู่คนละที่ และ ต่างวาระ แต่กรรมของใครก็ของมัน
    เค้าจะมีเหตุผลเพราะอะไรนั้น ก็เรื่องของเค้า
    เค้าถามท่านแค่นี้ ท่านก็ตอบเพียงแค่นี้

    และถ้ามีข้อสงสัย ผมก็จะเรียนถามท่านเอง
    ถ้าผมถามว่ามันผิดหรือไม่ ท่านก็ค่อยแย้งเอา มันก็เท่านั้นเอง

    ผมยังไม่ทันบวชเลย ท่านมาเบรกความคิดผมเสียแล้ว
    ผมถึงได้เรียกว่า พวกเอาปัญหาขวางหน้าก่อนลงมือกระทำ
    ประเภทแบบนี้ ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย มันจะสำเร็จหรือครับ?

    มีเรื่องเล่าของพระอรหันต์ท่านหนึ่งเป็นสีกาในสมัยพุทธกาล
    เดินแบกคนโทน้ำเดินผ่านน้ำตก มองน้ำตกอยู่นานแล้วคิดได้ว่า

    "ชีวิตมนุษย์นี้หนอ อนิจจา อยู่สูงก็สู่ที่ต่ำ เหมือนดั่งน้ำตก เมื่อเกิดก็ดับ
    เมื่อเจริญก็เสื่อม เป็นไปตามวัฏจักรของโลกนี้ มันคือสัจธรรม"

    เพียงแค่นี้ก็บรรลุเป็นพระอรหันต์แล้วครับ
    แต่นี้ก็แค่เรื่องเล่าครับ จริงเท็จประการใดไม่ทราบ
    แต่ผมอ่านเรื่องนี้ จากเว๊บพลังจิตนี้แหละครับ

    ไม่ต้องไปหยิบความคิดประสบการณ์ของท่านแล้วเอากะลาของท่าน
    มาครอบหัวผมให้เข้าใจไปตามความคิดนั้นๆ
    กระผมมีกะลาของผมเองอยู่แล้วครับ
    เก็บกะลาใบใหญ่ๆไว้บังแดดศรีษะของท่านเถิดครับ
    ถ้าเป็นท่าน ท่านเข้าใจผมซํกเท่าใดกันเชียว

    ถ้าผมทำผิด ท่านผิดด้วยหรือครับ?
    ถ้าผมเป็นคนทำให้ศาสนาเสื่อม
    แล้วคนที่เค้ามีสติปกติเค้าต้องมาเสื่อมตามผมด้วยหรือไม่ครับ?

    ผมว่าคนส่วนใหญ่โตๆกันแล้ว เค้าแยกแยะกันได้แล้วนะครับ
    พวกท่านทำเรื่องเล็กประเด็นราวกับเรื่องนี้ใหญ่โตมโหฬาร
    บอกตามตรงครับ ผมตกใจมากๆที่เรื่องมันบานปลายมาถึงตรงนี้ครับ

    ส่วนท่านใดที่ไม่เห็นด้วย ก็ใช้วิจารณญานของท่านตัดสินเอาเถอะครับ
    คนเราเกิดมา ความรู้และการศึกษาในชีวิตแต่ละวันไม่เหมือนกันแม้แต่คนเดียว

    คนที่จบปริญญาเอกความรู้น้อยกว่าคนจบป.4 ในโลกนี้ก็ยังมี
    เพราะรู้แต่ในตำรา แต่ไม่เคยเดินดูเอง ไม่เคยทำเอง
    จบ วิศวมา อยากรู้ครับ ว่าปลูกข้าวเป็นไหม?
    ส่วนใหญ่เป็นได้มากแค่ก็ยืนชี้นิ้วสั่งครับ

    อนุโมทณา พล่ามยาวเท่านี้แล ขอบคุณที่อ่านข้อความไร้สาระของผมครับ
     
  9. depperkyo

    depperkyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +288
    อนุโมทณาตามนั้น เห็นชอบด้วยทุกประการ ขอบคุณครับ

    ขอต่ออีกนิด ให้เป็นเรื่องขำๆ...

    สมมุติผมจะตั้งกระทู้ถามว่า...

    ถาม :ถ้าผมขอวัดในประเทศไทยที่มีหิมะตก ท่านหาให้ผมได้ไหมครับ?
    ผมจะฝึก "จริตหิมะ" ครับ

    ตอบ:แบบนี้คุณคงต้องเดินทางไปเนปาลไปบวชเป็นพระทิเบตอยู่บนเขา
    คงได้ตาม Spac ที่คุณต้องการ(มั้ง)ครับ?

    ถ้าเป็นเรื่องที่มันไร้สาระแบบนี้ จะมาด่าผม น้องทรายจะไม่ว่าอะไร
    และน้องทรายจะไม่ตอบโต้ซํกคำ แม้คุณแม่จะขอร้องก็เถอะครับ :cool:
     
  10. depperkyo

    depperkyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +288
    อนุโมทณาครับ ที่ให้ความช่วยเหลือและช่วยเลือกให้ด้วยนะครับ
    ตอนนี้ผมเองก็กำลังศึกษาแต่ละวัดอยู่นะครับ
    โดยให้คนที่บ้านเค้าช่วยดูให้เหมือนกันครับผม

    ก็ถ้ามีอีก ขอเรื่อยๆนะครับ
    ถือว่า ช่วยกันรวบรวมรายชื่อวัดที่มีน้ำตกในประเทศไทยกัน

    ต้องยอมรับครับ หายากจริงๆ ส่วนใหญ่ที่ใดมีน้ำตก ที่นั้นก็มีนักท่องเที่ยว
    มีหนุ่มสาวอี้อ้อเลยเถิดไปจั๊กกะเดี๋ยมกันเสียส่วนใหญ่
    ให้ไปบวชคงไม่โอเค ฮ่าฮ่า

    วัดที่มีคลอง ติดชายทะเล อยู่บนเขา วัดเหล่านี้ หาได้ง่าย
    แต่ส่วนใหญ่ไม่ทันคิดกันว่าวัดที่มีน้ำตกมันมีที่ไหนบ้าง
    ถามทีหนึ่ง ต้องนั่งนึกกันยาวเลยทีเดียวครับ

    แต่ก็ขอบคุณอีกครั้งครับ ที่เมตตาบอกกันครับผม!
     
  11. ทศมาร

    ทศมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +237
    อ่านแล้วตลกดีแต่ยังอ่านไม่จบ มีวัดป่าแห่งหนึ่งที่บุรีรัมย์ อยู่แถวบ้านกรวด น่าจะชื่อวัดเกี่ยวกับลานหิน อะไรอย่างนี้ มีน้ำไหลผ่านเล็กๆนะถ้าจำไม่ผิด เคยตะลอนๆไปแล้วไปเจอ เจอครั้งแรกนี่ติดใจมากเลย โมทนากับการบวชนะครับ
     
  12. นายวีระศักดิ์ ท

    นายวีระศักดิ์ ท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2006
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +1,003
    อนุโมทนาสาธุที่จะบวชครับ เมื่อท่านโพส์ถาม และมีคนมาตอบ หลายๆความเห็นดีมาก คนเรามองต่างมุมกันได้ อย่าไปตำหนิคนที่เขาแนะนำเลย เพียงแค่ความคิดท่านยังรับไม่ได้ หากว่าท่านไปบวชจริงแล้วเจอเรื่องจริง อาจารย์แนะนำให้ทำอย่างนั้น อย่างนี้ ท่านทำไม่ได้ ตอนนั้นเป็นเรื่องจริง ที่มีอะไรมากระทบอัตตาอย่างแรง ท่านต้องทำอย่างไร ย้ายวัด หรือสึก เพราะการบวชต้องเชื่อฟังครูบาอาจารย์ ซักจีวร เทกระโทน ถูห้องให้ท่านอาจารย์ผมอ่านกระทู้เวบนี้มาพอสมควรทุกคนที่นี่ เป็นคนดี มีน้ำใจ ครับ และผมดีใจที่ได้พบกับเวบนี้
     
  13. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    อยากจะแนะนำหนังสือธรรมะที่แต่งได้ดีมากๆที่ผมเคยอ่านแล้วให้ทุกๆท่านได้อ่านด้วยนะครับ ชื่อหนังสือ "พุทธศาสนาเถรวาท" แต่งโดยอาจารย์ธรรมศาสตร์ ราคาเล่มละประมาณ 400 บาท ผมเคยอ่านในร้านนายอินทร์ เป็นหนังสือเล่มหนาพอสมควร แต่งในลักษณะวิชาการขั้นสูง น่าสนใจและน่าอ่านมากๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นฐานทางธรรมทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติมาก่อนแล้ว ผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นศึกษาหรือยังไม่มีพื้นฐานไม่แนะนำ เพราะยังไงๆก็อ่านไม่รู้เรื่อง เพราะเป็นวิชาการขั้นสูง ลองไปหามาอ่านดูกันนะครับ แนะนำโดยฟางว่าน
     
  14. faithum

    faithum Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +34
    วัดถ้ำพระโพธิสัตว์
    อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
    แนวสอนสาย สวนโมกขพลาราม สัปปายะทุกด้าน มีถ้ำ มีน้ำตก

    วัด ถ้ำรัตนบุปผา
    อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
    แนวปฏิบัติธรรมะเปิดโลก มีถ้ำสวย อากาศดี อยู่ในหุบเขา


    วัด ไตรธรรมมัชฌิมารัตนบุตร
    ต.เจ็ดสาวน้อย อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
    แนวปฏิบัติหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มีน้ำตกไหลผ่านวัด ห่างจากเจ็ดสาวน้อย


    ศูนย์เมืองอริยะ
    ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
    กำลังก่อสร้างอยู่ แต่สถานที่ถือว่าเยี่ยมยอด อยู่ในหุบเขา มีรอยพระพุทธบาท มีน้ำตก


    เราเห็นด้วยและก็อนุโมทนากับการที่คิดที่จะบวช อย่างน้อยก็กระเถิบเข้าไปใกล้ธรรมะแล้ว เหลือแต่ว่าจะมีครูบาอาจารย์แนะนำ ให้เดินไปในทางที่ถูก แต่ให้ระวังในเรื่องของการหลอกลวงต้มตุ๋น ล่อลวงให้เราไปในทางที่ผิดจากที่พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้ ก่อนไปวัดที่อยู่ข้างต้นก็ควรจะหาข้อมูลให้ดีเสียก่อน ถามผู้รู้ว่าวัดไหนมีอะไรแอบแฝงในนั้นบ้างหรือเปล่า เจอวัดดีก็ดีไป แต่ถ้าไปเจอวัดที่มีอะไรซ่อนอยู่จะลำบาก จะกลายเป็นว่าพากันลง มากกว่าขึ้นนะจ๊ะ
     
  15. Bad_measure

    Bad_measure เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,602
    ค่าพลัง:
    +10,421
    ไม่มีใคร ผิด หรอก ^^

    บุรุษท่านหนึ่ง ถามหาสถานที่ที่ตรงจริตกับการบวช (อาจเป็นเพราะอดีตชาติอยู่กับน้ำใกล้น้ำ)
    คำตอบที่ได้คือ ไม่ควรติดสถานที่เนื่องจากผิดจุดประสงค์ที่แท้จริงในการบวช(ทุกท่านตอบด้วยความหวังดีและเตือนสติ)

    บุรษ เกิดไม่ชอบคำพูดที่ผู้ตอบมีเจตนาแทรวเล่นๆ และมองคำพูดที่เตือนสติเป็นคำสบประมาท (ด้วยความเข้าใจผิด)

    ผู้ตอบนั้นไม่รู้หรอกว่าคำพูดที่ตนพูดไปนั้น จะทำให้ผู้ฟังตีความไม่ตรงกับเจตนาที่ตนพูดออกไป (ถ้าเขารู้คงไม่พูด)
     
  16. depperkyo

    depperkyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +288
    ขอบคุณพี่ rinchang ที่ช่วยเหลือผมไว้อย่างมากมายครับ
    ขอบคุณ ท่านนักพรต 99
    ท่านฟางว่าน หนังสือที่ท่านจะจัดส่งให้ ถึงประมาณวันไหนครับ?
    ท่าน Faithum ขอบคุณที่เมตตาหาให้อีกท่าน
    ท่าน Bad_measure คำกล่าวของท่านเป็นจริงทุกประการ
    ในศีลข้อสี่นั้นจึงได้มีการห้ามเรื่องกรรมทางวาจาทุกประเภท
    ห้ามพูดล้อเล่น ห้ามติเตียน ห้ามตำหนิ ห้ามว่าร้าย ห้ามพูดคำหยาบ ห้ามพูดโกหก
    ผมเลยตั้งกระทู้ถาม-ตอบที่นี้น้อยมากๆ เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าถ้าถามไปจะเกิดเรื่อง
    ด้วยส่วนตัวไม่ชอบอธิบายโดยละเอียด แต่ถ้าโพสซํกครั้งจะยาวมากๆ
    แต่ผมตรงเกินไปครับ รู้นิสัยตัวเองเลยใช้ "สติ" พยายาม ดู มากกว่าจะไปรู้มากนะครับ
    สิ่งใดเราพิจารณาแล้วว่าดี มีประโยชน์แก่เราเสริมเราในทางที่ควร
    เราก็เก็บมันมาไว้ในใจแล้วเอาไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์
    สิ่งไหนเราก็รู้ว่ามันไม่ดี ก็เขี่ยมันออกไปได้ ผมว่ามันก็เรื่องง่ายๆนะครับ
    แค่ถามคำ ตอบคำ เค้าถามแค่นี้ ก็ตอบแค่นี้ เตือนส่วนเตือน
    แต่มีแถมหลอกด่า ผมก็ไม่ใช่คนระงับอารมณ์ได้ดีนัก
    ยอมรับ ว่ามีเคืองครับ อนุโมทณา
     
  17. pipehiso

    pipehiso เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +156
    ผมว่ามีอีกเยอะนาคับ
    วัดที่ มีน้ำตก ธรรมชาติ ทางภาคเหนือก็ดีนะครับ เยอะด้วยคับ

    วัดในอำเภอดอกคำใต้ พะเยา จำชื่อวัดไม่ได้ =_=

    ไม่ก็วัดใน เชียงราย วัดบุญนาค ครับ ไม่เชิงน้ำตกนะ แต่เป็นลำธาร เสียงน้ำสบายอารมณ์

    ส่วนมากมีพระน้อยครับ วัดละ 2-3 รูป แต่เณรเยอะน่อย 555+

    มาคุยกระทู้นี้ เพลง ปีศาจสุรา คาราบาว แว่บมาในหัว อยากร้องเพลงจิง

    จะบวชในกทม แล้วย้ายไปจำวัดที่ ตจว หลอคับ

    โมทนาด้วยคับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กรกฎาคม 2010
  18. Benz007

    Benz007 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +1
    อนุโมทนาบุญ คับ ผมเองก็ตั้งใจจะบวชคับแต่ก้ต้องดุด้วยว่าผมพร้อมตอนไหนเพราะผมยังมีหน้าที่ใหญ่อีกอย่างนึงต้องทำก่อนถ้าผ่านไปได้ด้วยดีก็ตั้งใจจะบวชแต่ถ้าต้องทำหน้าที่นั้นก้ไปทำหน้าที่ใหญ่นั้นก่อนอ่ะคับแต่ถ้าผ่านไปได้ด้วยดีก็จะบวชจึงมีความตั้งใจดังนี้ ก็มีความคิดแบบเจ้าของกระทู้เหมื่อนกัน แต่ตั้งใจจะบวชวัดที่ญาติมาได้แล้วใกล้ บ้าน(ใช้ไว้จัดพิธีบวชน่ะคับ) พอบวชเสร็จ ผมว่าจะไปจำวัดอยู่ที่วัด ที่เพื่อนของกระผมซึ่งกำลังจะบวชเหมื่อนกัน เค้าจะไปจำวัดอยุ่ เพราะผมเป็นคนที่ติดบ้านน่ะคับ ไปอยุ่ที่แปลกจากบ้านจะรุ้สึกเหงาอยากกลับบ้าน ผมเลยจะมาจำวัดอยุ่วัดเดียวกับที่เพื่อนผมจะบวชอยุ่ เพื่อที่ช่วงแรกผมจะได้ไม่เหงา ปรับตัวได้ ไม่รุ้ว่าได้ไหม แล้วที่ผมทำจะผิดวินัยไหม แต่ความตั้งใจจิงของผมบวชครั้งนี้เพื่อผมอยากจะศึกษาพระธรรม อย่างจิงจังน่ะคับ พอดีผมเกิดกลัวการ เวียนว่ายตายเกิดขึ้นมาจึงอยากจะ รู้พระธรรม เพื่อที่จะเอาไว้ ปฏิบัติ เพื่อให้ถูกต้องตามพระพุทธเจ้า เพื่อพบพระนิพพานอ่ะคับ และการที่ผมอยากจะมา จำวัดอยุ่วัดเดียวกับที่เพื่อนผมตั้งใจจะบวชอยุ่เหมื่อนกัน ผมไม่ได้มีใจคิดที่จะมาเพื่อมั่วสุมหรืออย่างอื่นเลยจิงๆ แต่เพราะที่ผมบอกไป ช่วงแรกเป้นช่วงที่ยากเพราะผมไม่ค่อยได้ออกจากบ้านไปไหนเท่าไรอีกอย่างเพื่อนคนนี้สนิทมาก คบกันมาตั้งแต่ ป.1 อย่างน้อย ผมมาจำวัด เห้นมีเขา อยุ่ด้วย จะได้ไม่เหงา ทำผิดก้เตือนกัน เพราะ ยังไง เพื่อนผมต้องสึกก่อนอยุ่แล้ว เพราะเค้าตั้งใจบวช 1พรรษา ซึ่งตัวผมเองก็ตั้งใจเช่นนั้นเหมื่อนกัน แม้จะ1พรรษา แต่ก็จะตั้งใจ เต็มที่ไม่ให้ผิดวินัย เลย เพราะ รู้มาว่า คนเป็นพระแล้วทำบาป จะหนัก เป็นหลายเท่าของคนธรรมดา โดยใจก้กลัว นรกอยุ่แล้ว จึงอยากจะรุ้พระธรรม เพื่อนำใจไปสู่ พระนิพพานไงคับ แต่ด้วย นิสัยอยุ่คนเดียวแล้วเหงา กลัว จะละความตั้งใจ หนีสึก เสียก่อน เลยมาอยู่วัดที่อย่างน้อยมีเพื่อนที่สนิทกันอยุ่ด้วย จะได้ ไม่เหงามีเพื่อนคุยเมื่อเสร็จกิจสงฆ์ และอีกอย่างผมตั้งใจบวช 1พรรษา ก็จิงแต่นั้นคือ "ความตั้งใจแค่เบื่องต้นอ่ะคับ เพื่อจะ พิจารณาตัวเองว่า สามารถ ตัดทางโลก ได้หมดไหม ถ้าผมยังตัดได้ ผมก็จะบวชไปเรื่อยๆ และอยากจะหาวัดที่มีพระอาจารย์ที่ท่านมีคำสอนของพระพุทธองค์นำใจอย่างถุกต้องเพื่อผมอยากจะได้รับคำสั้งสอนที่ถูกที่ควรจากท่านน่ะคับ แต่ถ้ายังตัดทางโลกไม่หมดซึ่งในใจผมคือยังห่วงพ่อ แม่ แล้วครอบครัวอ่ะคับ ซึ่งอาจจะบวชแค่ พรรษาเดียว หรืออาจจะหลายพรรษา คือผมตั้งใจไว้ใน2 ถึง 3พรรษา แรกอ่ะคับ ถ้าใน3พรรษาแรก พรรษาใดพรรษานึง ผมมีจิตห่วงครอบครัวพ่อแม่ขึ้นมาผมตั้งใจว่าอาจจะสึกมาดุแลครอบครัวก่อนแต่ระหว่างสึกออกมาก็จะรักษาศีลเป้นคนดีศึกษาพระธรรมต่อในแบบที่มนุษย์ธรรมดาจะทำได้ถึงที่สุด และเมื่อหมดห่วงครอบครัวแล้ว ตัดทางโลกหมดแล้ว ก็จะกลับไปบวชต่อคับ ที่ผมคิดอย่างงี้เพราะ ผมกลัวว่าถ้าเกิดห่วงครอบครัวมาตอนไหนตัดทางโลกไม่ได้ กลัวจะทำให้ตัวเองบาปในผ้าเหลืองน่ะคับมันบาปมหัน เลยดูใจตัวเองก่อน โดยใช้ช่วง 3พรรษาแรกเป็นเครื่องดูก่อนน่ะคับแต่ถ้าอยุ่ได้เกิน3พรรษาผมว่าคงตัดได้หมดแล้วอ่ะคับเพราะผมว่าช่วง2-3พรรษาแรกยากสุด" ท่านไหนคิดว่าความคิดของผมมันเป็นบาป หรือ ผิดอย่างไรแนะนำได้นะคับเพราะผมไม่ค่อยรุ้เรื่องน่ะคับปัญญาผมยังไม่มีมาก มีแค่นี้อ่ะคับท่านใด รู้ว่าผิด หรือ ถูกก็แนะนำด้วยนะคับ ผมจะได้ ปฏิบัติได้ถูก

    ผมมีบางอย่างอยากจะถามท่านผุ้รุ้คับ
    1.ผมทำพิธีบวชอีกวัดนึง แต่ขึ้นไปจำวัดอีกวัดนึงได้ใช่ไหมคับ อย่างที่กล่าวข้างต้น(คือไม่ได้ลบหลู่หรือไม่เชื่อในพระธรรมของวัดที่บวชแต่อย่างที่กล่าวในข้างต้น ว่า อย่างน้อยผมเป้นคนติดบ้าน เลยอยากมาจำวัดที่เพื่อนผมจะ บวชเพื่อจะได้ไม่เหงาในช่วงพรรษาแรกๆ)
    2.พอบวชอยุ่วัดนี้แต่มีความเลื่อมใส อยากจะไปศึกษาพระธรรมกับพระอาจารย์ในวัดต่างจังหวัดที่ห่างไกลที่ผมเกิดได้รุ้ได้เห็นมาว่าท่านทรงเป็นผุ้มีพระธรรมที่ถูกต้องตามหลักพระพุทธเจ้าผมสามารถเดินทางไปศึกษาพระธรรมและจำวัด ในที่นั้นๆได้ไหมคับ(ไม่ได้ไม่นับถือหรือลบหลู่พระอาจารย์ในวัดที่จำอยุ่ก่อนว่าไม่ตรงตามหลักพระพุทธแต่เพียงมีจิตอยากศึกษากับพระอาจารย์ที่เห็นว่าท่านทรงมีความรุ้แจ้งและสามารถแนะนำให้ตัวผมได้เร็วหรือเข้าใจไวกว่า)
    3.แล้วจะสามารถเดินทางโดยวิธีใดบ้าง เพราะพระสงฆ์ มิควรพกหรือมีปัจจัย(เงินทอง)

    แนะนำผมด้วยนะคับถ้าผมมีความคิดที่ผิดอย่างไร ผมจะได้ปฏิบัติตัวถูก
     
  19. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    อนุโทนากับคุณน้องด้วยนะครับที่คิดจะบวช..
    พี่ขออนุญาติแนะนำล่วงหน้าหน่อยพอเป็นแนวทาง..เพราะว่าเรื่องสถานที่คงมีหลายท่านแนะนำไปแล้ว.
    1.น้องลองศึกษาเพิ่มเติมดูนะครับว่า วัดที่เราเลือกนี้ มีอาจารย์เก่งๆในแนวทางปฎิบัติที่น้องชอบ อยู่หรือเปล่า
    2.ถ้าวิบากกรรมทางสมมุติน้องคล้ายถึงเวลาน้องก็จะได้บวชเองครับ
    3.ช่วงยังไม่บวชน้องก็ซ้อมๆตัดนิวรณ์ ไปก่อนครับ เพื่อน้องไปบวชสายวัดป่า วัดปฏิบัต จะได้ไม่มีปัญหา เรื่องมดกัด ยุ่งกัด ปวดแขน ปวดขา หรือ ขี้เกียจนั่ง ในขณะที่น้องนั่งสมาธิครับ..
    4.พอหาวัดได้แล้ว ก็เจริญพรหมวิหาร 4 มากๆ เพิ่มความเสียสละทั้งต่อตัวเองต่อผู้อื่นให้มาก ละความเป็นตัวตนในส่วนที่ไม่ดีทั้งหมด(เราน่าจะคิดเองได้)ให้น้อยลง ความรู้ทางโลกต่างๆที่ได้เรียนมาวางให้หมด อย่าพึงนำ
    มาโต้แย้งเวลาปฎิบัติ ให้รับฟังให้มาก
    5.ถ้าทำได้ตามนี้ น้องจะพบว่าเวลาไม่ใช่ตัวแปรในการบวช จนกว่าน้องจะแยกรูปแยกนามได้เมื่อไรน้องก็อยู่ถามแนวทางต่อซักอาทิตย์ก็ได้ เมื่อนั้นจิตของน้องจะเริ่มตกกระแสธรรมคือทำชั่วได้ยากมาก(บางคน อาทิตย์เดียว บางคนเดือนเดียว บางคนเป็นปี บางคนจนตายยังไม่มี)ขึ้นอยู่กับความจริงใจที่มีอยู่ในใจตนเอง และตอนนั้นน้องจะมี สัมมาทิฐิ ข้อแรกในอริยมรรคแปดแล้ววิปัสสนาจะเริ่มเปิดทางให้ ตอนนั้นขึ้นอยู่ว่าน้องจะอยู่เดินปัญญาต่อในรูปของสงฆ์หรือ
    ฆราวาสก็ขึ้นอยู่กับตัวน้องเองครับ...
    อนุโมทนาด้วยครับ พี่ขอให้น้องประสบความสำเร็จอย่างตั้งใจในเวลาไม่นานนะครับ...
     
  20. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +2,983

แชร์หน้านี้

Loading...