นั่งสมาธิแล้วจะมีอันตรายไหมคะ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย khaw, 11 ธันวาคม 2008.

  1. khaw

    khaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2007
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +153
    เรื่องมีอยู่ว่า หนูนั่งไปแล้วเกิดเห็นร่างตัวเองเสียอย่างนั้น คือยืนมองตัวเองอยู่ ทีนี้พอเล่าให้แม่ฟัง ท่านก้เกิดกลัวขึ้นมา ว่าหนูจะไม่กลับมาอีก หนูเองก็ไม่ได้กลัวการที่จะตายหรอกนะคะ แต่สงสารท่านเหมือนกัน หนูจึงขอเรียนถามแม่ชีว่า มีสิทธิ์เกิดอันตรายจากภาวะนี้ไหม หนูจะเอาไปตอบคำถามแม่ค่ะ ขอบคุณค่ะ
     
  2. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    เห็นแบบนี้กันเยอะ และยิ่งกว่านี้ก็มี แสดงว่าคุณทิ้งกรรมฐาน คือตามปัจจุบันอารมณ์คือกรรมฐานไม่ทัน

    ต่อไปให้กำหนดสิ่งที่เห็นก่อนว่า เห็นหนอๆๆๆ แล้วจึงกำหนดกรรมฐานคือลมหายใจเข้าออกต่อไป อยู่กับลมหายใจที่เข้าที่ออกอยู่

    http://fws.cc/whatisnippana/index.php?board=3.0
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2010
  3. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    เจริญธรรม...

    อาการที่เป็นนั้นเรียกว่า จิตส่งออกคืออยากไปรู้ไปเห็นสารพัด ซึ่งก็เป็น
    เรื่องปกติ ไม่อันตรายหรอกจ้า...
    คราวต่อไปถ้าจะทำสมาธิอีกให้หนูปล่อยวาง เมื่อวางได้ความว่างจะเกิด
    จากนั้นความสงบจะเข้ามาแทนที่
    ส่วนนิมิตรหรือภาพต่างๆที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพียงอาการปีติ ซึ่งมีมากมายเกินกว่าในตำราเขียนไว้เสียอีก
    ขอให้หนูมีสติรู้เท่าทันกับมัน คือรู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ สิ่งที่เกิดขึ้นมาให้เราเห็นนั้นเป็นเพียงมายาเกิดขึ้นแล้วก็หายไป ตั้งสติให้ทันอย่าถึงกับอินไปกับภาพเหล่านั้นก็แล้วกันนะ

    บุญรักษา/ธรรมสวัสดี
     
  4. khaw

    khaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2007
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +153
    เรื่องการนั่งสมาธิต่อ

    ยอมรับเลยค่ะ ว่าไม่ได้นั่งมาสักพักแล้ว แต่ก็มีแอบนั่งบ้าง ถ้าหากว่าเป็นเพราะจิตเราคิดไปแล้วจึงเห็นภาพ แสดงว่า ก่อนหน้านี้ที่หนูนั่งแบบต่อเนื่อง แล้วรู้สึกโล่งไม่เห็นอะไรเลย นอกจากความเงียบ แบบนั้นคือถูกต้องหรือยังคะ
    พักนี้สิ่งที่หนูเห็นมันเกิดขึ้นบ่อยและถี่จนเกินไป บางทีเราเห้นภาพตอนกลางคืน ตอนเช้ามามันก็เกิดเรื่องจริง ตอนนี้ยิ่งไม่ได้เล่าให้คนอื่นฟังเลยค่ะ เพราะเมื่อก่อนจะเล่าให้คุณแม่ฟังบ้าง แต่ตอนนี้ท่านกังวลมากไป หนูก็เลยไม่อยากบอกท่าน
    แม่ชีคะ การเจริญสมาธิ หากเราไม่ทำโดยต่อเนื่อง จะมีการถอยได้หรือเปล่าคะ และการที่เรารู้ว่าเราเกิดกิเลสขึ้นมาแล้ว เมื่อไม่ทำตามมันเป็นเรื่องที่ทรมานมากเลย หนูรู้ทั้งรู้แต่บางครั้งมันก็ห้ามไม่ค่อยได้ มีวิธีอย่างไร ที่จะทำให้มันเบาบางลงไปกว่าเดิมได้บ้างค่ะ
    ช่วยตอบหนูที
     
  5. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    เจริญธรรม...

    ปฏิบัติธรรมได้แล้วย่อมไม่มีการเสื่อม คงมีแต่เท่าเดิมหรือก้าวหน้าขึ้น
    นั่นขึ้นอยู่กับความเพียรของบุคคล


    ทำแล้วรู้ว่านี่กิเลส นั่นกิเลสก็หมายความว่า เราเริ่มรู้บ้างแต่ยังไม่กระจ่างแจ้ง
    เนื่องจากยังกระทำไม่มากพอ เลยเข้าทำนองที่ว่า "รู้หมด แต่ว่าอดไม่ได้"นั่นเอง
    กิจทางกายบางอย่างต้องค่อยๆทำ แต่กิจทางใจนั้นต้องเร่งกระทำโดยไว
    เพราะใจเป็นผู้สัมผัสได้แม้ไม่ต้องเห็นรูปและไม่มีรูป

    เวลาปฏิบัติไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขอให้มีสติรู้เท่าทัน นั่นแหละดีที่สุดจ้า...

    บุญรักษา/ธรรมสวัสดี
     
  6. khaw

    khaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2007
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +153
    ประเภทรู้ แต่อดไม่ได้นี่จะบาปมากมั้ยคะ
    เพราะว่าเรารู้ แต่เราก็ยังจะทำผิดนี่สิ แต่ตอนนี้พยายามอย่างที่แม่ชีบอกนะคะ
    แต่จิตใจมันก็วอกแวกบ้าง ต้องคอยดึงกลับมาเรื่อยเลย
    บางทีก็ฟุ้งซ่านหลุดไปไกลเลย ตามจนเหนื่อย กว่าจะกลับมาสงบเหมือนเดิม
    ตอนที่แม่ชีทำสมาธิใหม่ๆเป็นแบบนี้เหมือนกันหรือเปล้าคะ
    ตอนนี้หนูมีความสุข เพราะหนูไม่ได้คาดหวังอะไรมากเกินไป หนูว่าคนเรามีความทุกข์เพราะเราไม่เคยพอเองว่าไหมคะ ถ้าเราไม่อยากได้อะไรเราก็จะรู้สึกว่า ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยเพื่อหาทางเอามันมาเป็นของเรา
    ตอนนี้หนูพยายามใช้จ่ายอย่างไม่ฟุ่มเฟือย แต่บางครั้งมันก็อดไม่ได้อย่างที่บอก
    หนูต้องพยายามอย่างหนักเลยใช่ไหมคะนี่
     
  7. nuttadet

    nuttadet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +6,454
    ญาณทรรศนะ ที่เกิดขึ้นหลังจากฝึกสมาธิ ทำให้เห็นเหตุการณ์ล่วงหน้า หรือนิมิต ต่างๆได้ ครับ
    ไม่อันตรายหรอกครับ เพียงแต่ว่าอย่าไปยึด เห็นก็เห็น ไม่ต้องเอามาคิดต่อว่า ที่เห็นคืออะไร
    ทำไมต้องเห็น

    ถ้าเมื่อก่อนเราเป็นลิง อยู่ๆ จับลิงมานั่งนิ่งๆ แรกๆ ก็ทำไม่ได้นานหรอกครับ ต้องค่อยๆ นะครับ
    ลองมา ทำใน ตอนที่เดิน หรือ วิ่ง หรือยืนดูซิครับ การจะทำสมาธิ ไม่จำเป็นต้องนั่งนะครับ
    ลืมตาทำตลอดทั้งวันก็ได้ จะยืน เดิน นอน นั่ง ทำได้หมดทุกกิริยา

    เรื่องกิเลส ก็เช่นเดียวกัน การที่จะให้เราละเลย มันยาก ต้องค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ครับ ทีละนิด
    สำคัญคือ รู้ตัวหรือไม่

    โมทนาด้วยครับกับความตั้งใจในการปฏิบัติ ขอให้เห็นทางสว่างโดยไวนะครับ ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไป
    ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ ได้ทรงเข้าถึงแล้ว บรรลุแล้ว ขอให้ท่านได้เข้าถึงบรรลุโดยฉับพลันเช่นกัน ด้วยเทอญ สาธุ
     
  8. วีระพงษ์ ศมค

    วีระพงษ์ ศมค สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +14
    ท่านสำคัญผิดแล้วหนอ ท่านกำลังเลื่อนจาก ความผิดอย่างหยาบๆ เช่น ผิดศีล 5 ไปสู่ความผิดอย่างละเอียดคือการทำสมาธิด้วยความพอใจ ยกตัวอย่างบางคนติดเหล้ายังว่าเลิกยากสมาธิละเอียดยิ่งกว่านั้นอีก เลิกได้เลิกครับถ้าท่านยังไม่เลิกเขียนใส่สมุดโน๊ตไว้เลยว่าที่หมายของท่าน คือมหานรกอเวจี แน่นอนเหมือนจับไปวางไว้ครับ แต่ พระพุทธเจ้า สอนให้เรา พิจารณาขันธ์ 5 อินทรีย์ 6 ว่าไม่เที่ยง เกิดดับ นี่คือทางดับทุกข์ครับ แล้วในพระไตรปิฎก พระพุทธเจ้าจึงสอนสมาธิล่ะ ใช่ แต่ท่านขึ้นต้น ว่าดูกรภิกษุ ทั้งหลาย นั่น ท่านสอนพระอริยะบุคคล โสดาบันบุคคล ขึ้นไปนะครับ
     
  9. khaw

    khaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2007
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +153
    ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องตกนรก

    จากที่คุณวีระพงษ์บอกว่าที่หมายคือนรกนั้น
    มันคืออะไรคะ การที่ทำสมาธินั้น หากเรารู้สึกว่าจิตใจสงบเราถึงนั่ง มันผิดหรือเปล่าคะ หนูเองก็ไม่เข้าใจความหมายที่ท่านพูดเหมือนกัน รบกวนอธิบายผู้ไม่รู้อีกสักนิดด้วยเถิด
    ส่วนการพิจารณาอย่างที่ว่านั้น ก็เป็นเรื่องที่กระทำมาโดยตลอดค่ะ
    อะไรที่หนูไม่รู้ หรือรู้ไม่ทันก็รบกวนชี้แจงทีนะคะ


    ขอบพระคุณ
     
  10. แสงอุ่น

    แสงอุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    612
    ค่าพลัง:
    +1,036
    ขออนุญาติ แนะนำครับ
    การทำสามาธิ ส่งผลดีต่อจิตใจ และร่างกาย แนะนำว่าอย่าวิตกกังวนใดๆ เกี่ยวกับการทำสมาธิ ปล่อยใจและจิตให้สงบ เป็นการฝึกจิตใจเราให้นิ่งสงบ ตัดสิ่งที่เป็นต้นเหตุให้เกิดกิเรส ออกไปจากจิตใจ เมื่อไม่มีกิเรสใดๆแล้ว จิตใจย่อมสงบสุข การเห็นภาพนิมิตร หรือสัมผัสกับสิ่งต่างๆ เป็นสิ่งที่จริงและไม่จริง ให้เราดูไป อย่าไปกังวนกับสิ่งที่รับรู้ในขณะนั้น แนะนำว่าอย่าคิดว่ามันต้องถูกหรือต้องผิด หากคิดเช่นนี้แล้ว กรอบที่เราสร้างไว้ในใจ ก็เหมือนกิเรสจะทำให้เรายึดติด ต้องวิธีนั้น แบบนั้น เอาใหม่ วิธีนี้แบบโน้น อย่างนั้นอย่างนี้ นั้นตัวเราของเรา นั้นไม่สวย นั้นไม่สบาย นั้นสุข นั้นทุกข์
    แนะนำว่าให้ปล่อยจิตใจไปตามสบาย พบอะไรก็ต้องพบ ถ้าไม่พบก็ไม่พบ ปล่อยไปตามความเป็นธรรมชาติของสิ่งที่เราทำ ปล่อยวาง เพราะจิตกำลังเข้าสู่ภายในของข้างในและข้างใน ของจิตตนเอง ไม่ใช่ของคนอื่น สุดท้ายทุกจิตก็จะสื่อถึงกันได้ในทุกสรรสิ่ง
    ตัวผมเองก็ยังไม่ถึงใหนครับ ก็แค่ขอนุญาติแนะนำ
     
  11. arrin123

    arrin123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +1,759
    อนุโมทนาค่ะ หนูก็เคยยึดนะคะ แรกๆที่ฝึก ยึดภาพ พอไม่เห็นก็ต้องการ(แต่ก็ช่างมันอดีตและ) ตอนนี้ก็ไม่ยึด แต่ไม่เห็น^ ^~ก็เลยปล่อย เพราะหลวงปู้เณรคำเคยบอกว่า
    คนที่ไม่เห็นอะไรเลย ดีกว่าคนเห็น(เพราะจะหลง)(ถึงไม่เห็นก็สามารถสำเร็จมรรคผลเหมือนท่านองคุลีมาร) แต่ถ้าเห็นแล้วปล่อยได้ก็ดีค่ะ

    ________________________________________

    <TABLE class=tborder id=post3268657 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1 id=td_post_3268657 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid">สุขใดเหมือนแม้นการไม่เกิดไม่มี" "จะไม่ละความเพียรถ้ายังไม่ถึงซึ่งนิพพาน"
    "สุขใดในโลกล้วนไม่ยั่งยืน ผู้ใดปล่อยวางพิจารณาในความทุกข์เห็นโทษของความสุขผู้นั้นชื่อได้ว่าพบความสุขอันยิ่งใหญ่"<!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("3268657")</SCRIPT> [​IMG] </TD><TD class=alt1 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    ธรรมสวัสดีค่ะ...

    หลายคนยังเข้าใจผิดในเรื่องของการทำสมาธิอยู่ สมาธิไม่ได้หมายความว่าต้องนั่งหลับตานิ่งๆอย่างเดียวนะ แต่สมาธิ หมายถึง จิตที่จดจ่อหรือตั้งมั่นอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น การอ่านหนังสือตาดูตัวอักษรแล้วคิดตามคำหรือประโยคนั้นๆ ในขณะเดียวกันก็ทำความเข้าใจกับคำหรือประโยคนั้น เมื่อเกิดเป็นความเข้าใจ ความจำได้ย่อมบังเกิด

    เมื่อทำเช่นนี้บ่อยๆก็ย่อมเกิดเป็นความชำนาญของจิตหรือความจำที่เกิดในสมอง คือไม่ว่าจะอ่านอะไรก็สามารถเข้าใจได้เร็ว ถ้าเราอ่านหนังสือเพียงผ่านไปเท่านั้น เรียกว่าสักแต่ว่าอ่าน บางครั้งก็จำไม่ได้ว่าหนังสือที่เราอ่านนั้นเขาเขียนว่าอะไรรวมทั้งได้สาระอะไรบ้าง

    การนั่งหลับตาทำสมาธิก็เช่นกัน หลับตาแล้วทำจิตให้ว่างจากกิเลสบ้าง เพราะในชีวิตประจำวันนั้นคนเราสั่งสมกิเลสกันทุกเวลานาที กิเลสผสมอุปาทานคือการปรุงแต่งให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ มันเลยติดอยู่ในใจหรือในจิตเป็นความเคยชินจนบางทีเจ้าตัวไม่รู้ตัว

    ครั้นนั่งหลับตาไปนานๆจิตเริ่มสลัดออกจากกิเลสคือความอยากได้บ้าง จิตจึงมีความสงบเข้ามาแทนที่ ดูเหมือนมีสุขใจ

    จากนั้นจิตที่เก็บความอยากไว้ก็จะแสดงอาการต่างๆออกมาให้เจ้าตัวได้รับรู้ในรูปแบบต่างๆในมโนจิตของตัวเอง คนที่รู้ไม่เท่าทันกับมันก็จะหลงผิดติดในมายาที่เกิดนั้นทันที บางทีมีคนบอกว่าผิดก็ไม่เชื่อยังคงยึดมั่นในสิ่งผิดอยู่อย่างนั้น เช่น เห็นนกเป็นงู ผู้ที่รู้บอกว่าสิ่งที่คุณเห็นนั้นเป็นงูก็ไม่เชื่อยังคงเชื่อตัวเองว่านั่นคือนก อย่างนี้เรียกว่าหลงผิดเพราะไม่รู้จริงจึงยึดมั่นในสิ่งที่ตนรู้นั้น

    ฉะนั้นการนั่งหลับตาทำสมาธิก็คือการขุดกิเลสและอุปาทานที่เจ้าตัวสั่งสมไว้ออกมา กิเลสนั้นแสดงในรูปแบบต่างๆด้วยอุปาทานของเจ้าตัวนั่นแหละ ถ้าเจ้าตัวรู้ทันกับมันก็ปล่อยมันไปคือเห็นก็สักแต่ว่าเห็นเท่านั้น แต่ถ้าเจ้าตัวยึดมันไว้อีกในขณะเดียวกันก็ปรุงแต่งที่เรียกว่าอุปาทานเข้าไปอีก นี่เรียกว่า หลง เพราะสิ่งที่มันเกิดขึ้นในจิตเรานั้นเดี๋ยวมันก็หายไปถ้าไม่ปล่อยมันก็หายเข้าไปในจิตอีก ถ้าปล่อยมันทิ้งไปด้วยความรู้ความเข้าใจที่เรียกว่า ปัญญา ใจมันก็สบายปัญญาก็เพิ่มมากขึ้น

    นี่แหละคนเราจะพ้นทุกข์ได้จริงนั้นก็ด้วยปัญญาที่รู้เท่าทันจิตของตัวเอง อย่ากลัวเรื่องการทำสมาธิเลย คนที่ผ่านมายาทางจิตได้เท่านั้นที่เป็นผู้ชนะ เพราะเมื่อชนะใจตัวเองได้ย่อมควบคุมพฤติกรรมที่ไม่ดีได้จึงเป็นผู้ชนะใจคนอื่นได้เช่นกัน
    พอแค่นี้ก่อนแล้วกันโอกาสหน้าจะอธิบายให้ฟังต่ออีกนะ
    บุญรักษา/ธรรมสวัสดี
     
  13. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    ก็วันวันนั้นพระพุทธเจ้ากำลังสอนภิกษุอยู่ ก็ต้อง ดูกรภิกษุทั้งหลาย (..วันนั้นมีภิกษุฟังกันอยู่มากจึงใช้พหูพจน์) หากวันนั้นสอนอุบาสก...ก็ดูกรอุบาสก หากสอนอุบาสิกา ก็ดูกรอุบาสิกา สมาธิฝึกได้ทุกคน ทุกเพศทุกวัย ทุกชาติทุกภาษา ฯลฯ

    http://fws.cc/whatisnippana/index.php?board=3.0
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2010
  14. rojanasak_m

    rojanasak_m เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +125
    หนทางมีเป็นหมื่นแสนล้านทางและทางที่ประเสร็ฐที่สุดมีอยู่ 8 ทางและในแปดทางก็มีสภาวะอีกหลายสภาวะกว่าเราจะเดินไปถึงทางสายเอกก็ต้องเจอกับสภาวะต่างๆนาๆทุกคนจะเกิดไม่เหมืนกัน....แล้วแต่บารมีที่สะสมมาต่างกัน....วิชา 3 อภิญญา 6 สมาบัติแปด
    และบางคนไม่มีอำนาจทางจิตเลย....แต่สุดท้ายก็จะไปสู่ที่เดียวกันคือ นิพพาน.....สาธุๆๆๆๆๆกับเจ้าของกะทู้ครับ...คุณสะสมบารมีทางด้านจิตเวลาทำสมาธิของเก่าที่สะสมมาแต่อดีตชาติมันก็ตามมาด้วยครับเป็นธรรมดาครับ.............ถ้าคุณไปถามหรือพูดคุยกับคนที่ทำ..สะมถ...ก็จะมีความตื่นเต้นและอยากก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไป...แต่ถ้าคุณพูดคุยกับคนที่ทำ วิปัสสนา...มันก็เป็นธรรมดาของจิตคือเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไป ไม่ใช่ตัวตน..ดูและรู้อยู่จนกะทั้งลดละปล่อยวางเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา.........สาธุ...เจริญในธรรม

    ( สมถ ) ผมไม่แน่ใจว่าพิมพ์ถูกหรือเปร่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...