ขอถามผู้รู้ค่ะ

หากมีผู้หญิงคนหนึ่งมักจินตนาการว่าตัวเองนั้นเป็นผู้หญิงที่สวยแต่ความเป็นจริงหญิงคนนั้นหน้าตาก็แค่ธรรมดาไม่สวยเลย ผู้หญิงคนนี้มักมีความรู้สึกชอบผู้ชายตั้งแต่เด็ก หรือเมื่อดูหนังแล้วชอบไปกับตัวละครและจึงมักจินตนาการว่าเป็นแฟนกับเค้า และเมื่อโตขึ้นเมื่อชอบผู้ชายคนใดก้ไม่เคยบอกใครแล้วเก็บไว้ในความรู้สึกบ้างก็จินตนาการถึงเค้าคนนั้น แม้แต่กับคนตายก็ยังจินตนาการไป ผู้หญิงคนนี้พยายามหนีออกจากกามรมณ์เหมือนปลาติดเบ็ตมันทุกข์ทรมานมากที่พยายามระงับกะเสือกกะสน ใครรู้บุพกรรมนี้ขอช่วยบอกหน่อย พระพุทธเจ้าตรัสว่าผู้ใดหลุดจากกามเป็นความสุขที่สุดในโลก

 

เอ่อ กลัวว่าจะเป็นจิตเภทขั้นอ่อนๆนะค่ะ คิดว่าไปปรึกษาหมอดีไหมค่ะ โรคจินตนาการ ความจริง กับ ความฝันมันต่างกันค่ะ พิจารณาสติให้ตั้งมั่นค่ะ

 

(deejai)


จขกท. ไม่ต้องไปสนใจอะไรหลอกครับ.....พยายามเจริญสติให้อยู่กับปัจจุบันขณะนะ.....เรื่องอะไรที่ออกไป...ที่คิดออกไป...ที่เผ้อออกไป....เป็นสภาพที่จิตได้หลงไป.....คือหลงออกไปจากความเป็นจริง.....

เข้าวัดปฏิบัติธรรม...คุยกับแม่ชีบ้าง.....เจริญสติบ่อยๆ...จะช่วยคุณได้มาก....

 

ถ้าแยกออกว่าเป็นเพียงแค่ความคิด หรือจิตนาการ อันนี้คงไม่แปลกหรอกครับ ผมว่า
ทุกคนก็ล้วนมีจิตนาการกันทั้งนั้น แต่ถ้าแยกไม่ออกว่าเป็นจิตนาการแล้วคิดว่าเป็นเรื่องจริง
อันนี้คงต้องปรึกษาจิตแพทย์โดยด่วน...หรือไม่ก็ควรฝึกสติปัฎฐานสี่ ให้รู้อยู่กับปัจจุบัน...

กาม คือความพึงพอใจ ทาง รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส หรือกามารมณ์ ที่จริงแล้วพวก
เราปฎิบัติธรรมก็เพื่อให้รู้ทุกข์ กายก็ทุกข์ ใจก็ทุกข์ ต้องดูว่าเป้าหมายแรกของพระโสดาบัน
คืออะไร? คือการล๊ะความเห็นผิดว่า กาย ใจ นี้เป็นเรา การจะละความเห็นผิดนี้ได้ ก็ต้อง
ฝึกสติปัฎฐานสี่ มี่สติตามรู้กาย รู้ใจ ลงเป็นปัจจุบันให้ได้ จนกว่าจะเห็นความจริง.....

นี่คือเป้าหมายที่พวกเรานักปฎิบัติ ต้องเริ่มก้าวไปให้ถึงจุดนี้ให้ได้ก่อน ยังไม่มีความจำ
เป็นที่จะต้องล๊ะกาม กามนั้นเป็นหัวหน้ามารตัวใหญ่สุด ล๊ะได้ยากที่สุด ต้องระดับพระ
สกทาคามี หรือพระอนาคามี ระดับสูงขึ้นไปถึงสามารถล๊ะได้ ส่วนคนธรรมดาอย่างเรา ถ้า
ตั้งเป้าหมายผิดไปล๊ะกามก่อน จะทุกข์แสนสาหัสครับ ค่อยๆก้าวอย่าข้ามขั้นตอนครับ....

 

tunyada ตอบ ครับ จริงๆแล้วไม่เคยออกจากกะทู้ ดูดวงเลย แต่มีเพื่อนๆ เค้าอยากให้ผมช่วย ผมเลยขออนุญาติ ตอบ ครัึบ........คุณปกติีดีทุกอย่างครับ ไม่ต้องไปหาหมอจิต ที่ไหน ครับ คนที่มีอารมณ์ กาม กับคน สัตว์สิ่งของ หรือการจินตนาการ ต่างๆ เค้าเรียก การ ช่วยตัวเองทางจิต ครับ เป็นกันทุกคนครับ ขึ้นอยู่้ืกับ ความรุนแรง ผม ก็เคย แอบคิดว่ามีรัย กับ มาช่า " ฮิๆๆๆๆตอนหลังเป็นชมพู่ ดังนั้น ไม่ผิดครับ ....และที่ว่า เมื่อไรจะออกจากกาม ได้ กามมันเสพไม่อิ่มครับ ตราบใดที่ยัง เป็นปถุชน คน ธรรมดา ไม่บรรลุเป็นพระอรหันต์ ต้องมีทุกคนครับ มิได้เป็นเรื่องแปลกเลย ครับ ....ไม่นาน ครับ เมื่อเจอคน ที่คุณถูกใจ เหมือนชายใน ฝัน ก็จะหายเองดี แล้ววันเวลา มันจะพาเราไปพบ กับธรรมต่างๆ ก็จะหายดี ครับไม่่ต้องรีบ ครับหายแน่นอน ครับ เพราะเอนโดฟิน จะหลั่งได้ 1 กินอาหารอร่อย 2 มีเซ็กส์ 3 ออกกำลังกาย 4 เจิริญสมาธิ 4ถูกหวย 5 ตื่นเต้น 6 สมหวังแบบไม่คาดหวัง ครับ แต่เผอิญ คุณชอบ เซกส์ ก็เลย ติดมันมากหน่อย ไม่เป็นไร ครับ ค่อยๆเปลี่ยนมาทำอาหาร ออกกำลังกาย นั่งสมาธิ ซื้อ ลอตโต้ และอื่นๆ ครับแค่นี้ ก็จะออกจากวังวนได้สบาย ครับ ส่วนคนตาย นั้น จิตนาการ มัน ทะ่ลุมิติ ไปแล้ว ครับ ก็ค่อยๆ คิิด ว่าตาย ไปก็เน่า ผม กก็ไม่อยากมา ใส่ในข้าวกิน ร่างกายก็เหม็น มีแต่หนังห่อขี้ โอ้ สังขารหนอ ช่าง สกปรก แค่นี้ ก็จะหาย ครับ ลุยต่อครับ ไม่รุ้ ถามผู้รู้ครับ ผู้รู้น้อย ก็ตอบ แบบ กั๊กๆ ไว้บ้างครับ .......เดินต่อ ครับ af5

 

โมทนาค่ะ อ.ก๋ง มาตอบแบบด่วนจี๋ไปรษณีย์จ๋า
ทั้งๆ ที่ปกติเป็นกบจำศิลไม่ค่อยออกจากถ้ำ .....

 

ขอขอบพระคุณค่ะ

คือเรื่องมันเป็นแบบนี้ดิฉันมักหลงไปตามจินตนาการมาตลอดเกือบชีวิตตอนนี้ก็ยี่สิบห้าพอมามีครอบครัวก็เลิกจินตนาการเกี่ยวกับความสวย อาจจะมีลูกด้วยก็เลยพยายามเลิกคิด แต่มันกลับทำให้ดิฉันเบื่อหน่ายโลกภายนอกใจก็พยายามจะหนีและอยากบวชมากเพราะเมื่อนึกถึงเหตุกับการหลงใหลมันทำให้ทุกข์และทุกข์ใจและอับอายหากมีใครรู้ในจิตใจเรา แต่ไม่เคยเป็นเฉพราะที่ไม่รู้ตัวเพราะรู้มาตลอดเหมือนติดเป็นนิสัย บ้างฟังเพลงก็จินตนาการว่าเราเป็นนักร้อง ใจตอนนี้พยายามจะลืมและหนีไปให้พ้นเพื่ออยากสงบให้เป็นปกติ บางคนที่ได้อาจอาจจะคิดว่าเราบ้า เราทุกข์ทรมานมากแต่มีสติทุกครั้งเมื่อคิดถึงว่าทำเราจึงหลงไปกับจินตนามานานขณะนี้มันมีแต่ทุกข์เท่านั้นที่เกิด และเมื่อไหร่ทุกข์ของการหลงใหลมันจะหมดไปเสียที อีกสามปีก็จะได้กลับบ้านก็บอกสามีไว้ว่าเราอยากบวชชีเพราะเราชอบความสงบ แต่เราชอบการทำบุญมากและตอนนี้เราก็สวดมนต์ แผ่บุญกุศลทุกวัน มันทำให้จิตใจดีขึ้น เราขอถามคนที่รู้ว่าเราทำกรรมอันใดไว้เราจึงต้องมารับกรรมที่อยู่ในใจซุกซ่อนเอาไว้โดยที่ไม่กล้าบอกใคร เราเพิ่งเปิดเผยที่นี้เป็นครั้งแรกในชีวิต เพราะเราคิดว่าเราไม่สมควรที่จะอาย แต่เราไม่ได้บ้าเรามีสติครบถ้วน

 

จริงๆไม่มีอะไรหรอกครับ......ขอให้คิดพิจารณาดังนี้

ชีวิตคนเราแบ่งเป็น 3 มิติ

1. มิติแรกคือ ตัวเราที่คนอื่นอยากให้เป็นไป เช่น พ่อ-แม่ เราอาจจะตั้งอนาคตให้เป็น หมอ โดยที่ตัวเราอาจจะไม่ต้องการเดินทางนั้นเลย น่ะ ครับ
2. มิติที่ตัวเราอยากจะเป็น คือ จินตนาการของเราเองว่าอยากเป็นโน่นเป็นนี่ เช่น อยากเป็นนางงามจักรวาลทั้งๆที่ตัวเองไม่มีทางไปถึงขั้นนั้นได้
3. มิติสุดท้ายคือ ตัวของเราเองในปัจจุบันที่เป็นอยู่ นี่คือสภาพความเป็นจริงของชีวิตคนเรา เราเป็นแม่บ้านก็เพราะเราแต่งงานมีสามี มีบุตรและมีหน้าที่ของภรรยาที่ดี

ฉะนั้นที่คุณกล่าวมาก็คือ คุณอยู่ในมิติที่ 2 ซึ่งเป็นเพียงแต่จินตนาการเท่านั้น ไม่มีทางเป็นไปได้หรือถ้าเป็นอาจจะทุกข์สนั่น ดังนั้นก็ให้คิดกลับมาพิจารณามิติที่ 3 นะครับ

อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง พิจารณาเหตุปัจจัยในปัจจุบัน อย่าไปเพ้อฝัน ครับ
แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง ถ้ารู้เท่าทันตรงนี้

 

ไม่ใช่กรรมเก่าอะไรหรอกครับ เป็นกรรมในปัจจุบันนั่นเอง กามกิเลสปรุงแต่งให้คิดไปนั่นไปนี่เสมอครับ เป็นกันทั้งโลกแหละครับ ถ้าไม่ปรุงแต่งก็เป็นพระอรหันต์กันไปแล้ว
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบอกว่า "กามเกิดจากดำริ" ดังนั้นวิธีแก้ไขก็ง่ายนิดเดียว คือเลิกคิดซะ พูดง่ายแต่ทำยาก เพราะจิตมีธรรมชาติไหลลงสู่ที่ต่ำ จึงต้องหาอุบายมายกใจให้สูงพ้นจากกาม ง่ายๆก็คือพุทธนานุสติ สูงขึ้นไปก็สมถะและวิปัสสนานั่นแหละครับ

 

ทำจิตใจให้สงบเข้าวัด ถือศีลห้าอย่างเคร่งครัด สวดมนต์ ทำบุญอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร หยุดคิดเรื่องอดีต อนาคต อยู่กับปัจจุบัน รู้ลมหายใจเข้า ออก ปรับสภาวะจิตใจให้คิดถึงแต่สิ่งที่ดีงาม เช่น พระประธานวัดที่คุณไปไหว้บ่อยๆ นึกถึงภาพตอนค่อยๆประคองทัพพีข้าวสวยลงสู่บาตรพระ หรือฟังบทสวดมนต์ก่อนนอน เช่น พระคาถาชินบัญชร พระจุลละมงคลชัยยะคาถา สรุปคือ พยายามโน้มนำจิตคุณให้มาทางธรรม ค่อยกระทำสิ่งเหล่านี้จนเกิดความเคยชิน สภาจิตคุณจะถูกเปลี่ยนจากอกุศลจิตมาเป็นกุศลจิตในที่สุด

 

อนุโมทนาสาธุครับ ต้องพยายามอย่าให้ว่างครับลองไปเล่นกีฬา หรือปลูกต้นไม้ก็ได้ครับ ส่วนผมก็เลี้ยงพวกชวนชมอยู่ เพลินดีครับ

 

เมื่อเทียบเคียงแล้ว น่าจะเป็นกรรม ในด้านกาเมสุมิฉาจาร ในอดีตชาติ นะ ถ้าเป็นกรรมนี้ ลองสังเกตุ ดูซิ บริวารค้างเคียง เชื่อฟังมั้ย ทำดีเหมือน ตำน้ำพริกละลาย หรือเปล่า มีปัญหาในเรื่องความรักนี้ มาตลอดหรือเปล่า


การที่จะหลุด จากตรงนี้ เป็นของไม่ยาก เพียงแค่ ชนะตัวเองเท่านั้น หาเหตุ หาผลให้เจอ แล้วค่อย ๆ แก้ที่ต้นเหตุ ไฟที่เราแบกไว้ โดยไม่ปล่อยวาง แล้วก็บ่นว่าร้อน ว่าร้อน วางไฟ คือ กิเลส ตัณหา อุปทาน ซะนะ คนที่จะแก้ปัญหา นี้ได้ คือตัวเราเอง

สุข หรือทุกข์ มันเกิดจากความคิด ของเราเอง สุขที่แท้จริง คือสุขที่ไม่อิงด้วย อมิสสิ่งของ คือรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสระหว่างเพศ ลองทำดู นะ

 

มีสติ รู้และปล่อยวางนะคะ ไม่มีอะไรเที่ยงและน่าหลงใหลเลย ทุกสิ่งเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป หมั่นทำบุญ เจริญภาวนาให้มาก แล้วจิตใจเราจะสบายขึ้นนะคะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ ^^

 

ขอขอบคุณค่ะ

ขอบพระคุณมากๆที่มาให้กำลังใจ ตอนนี้ก็ดีขึ้นที่ตั้งใจสวดมนต์และอ่านหนังสือสัทธรรมปุณฑริกสูตร และก็ได้กรวดน้ำรู้สึกดีขึ้น
ข้าพเจ้าเคยแปลกใจตัวเองว่าทำไมเราเป็นแบบนี้ ครั้งนั้นที่มีเหตุการณ์สินามึข้าพเจ้าได้ซื้อหนังสือเกี่ยวกับวิญาณที่ผู้คนได้พบเจอ และอะไรไม่รู้ใจก็คิดไปถึงผู้ชายคนหนึ่งที่ตายไปกับสึนามึ ทั่งๆที่ไม่เคยพบเห็นและเห็นหน้ากำลังนั่งฟังเพลงอยู่ๆใจก็คิดถึงเค้าว่าได้พบเจอเค้าและสัญญาในจินตนาการและเหมือนหลงเห็นภาพในนั้น ตอนนี้เมื่อรู้สึกตัวก็ได้ถอนคำสัญญาว่าขอโทษที่ได้ไปล่วงเกิน เพราะเหมือนว่าเป็นกรรมที่ข้าพเจ้าจะต้องช่วยเค้าให้พ้นจากความทุกข์ ใครเคยอ่านเจอหนังสือสินามึ ตอนนที่คนขับแทคซี่ได้เจอชายสี่คน และอีกคนหนึ่งได้ตายไปและมานั้งรถแทคซี่ให้ไปส่งที่ศาลากลาง ชายคนนั้นแหละที่ข้าพเจ้าได้หลงจินตนาไปว่าสัญญากับเค้า แต่มันก็แค่ความหลงและดูอาจจะบ้า เวรกรรมของข้าพเจ้าจริง;9k

 

สู้ๆครับ ผมก็เป็น

ถ้าชอบปรุงแต่ง ตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง แล้วเก็บเอามาจินตนาการ เอามาคิดเผ้อฝันไป

ลมๆแล้งๆ

แสดงว่า ท่าน จขกท สติอ่อน เจริญสตินะครับ สังเกตลมหายใจเข้า ลมหายใจออก

พยามทำใจไห้อยู่ในปัจจุบัน

ถ้าชอบปรุงแต่งเรื่องกามารมณ์ เรื่องทางเพศ ไห้ พิจรณาคนตาย ซากศพ โครงกระดูก

มองว่าจริงๆแล้ว เจ้าร่างกายนี่ ไม่ได้เป็นแท่งทึบ ข้างใน ภายใน มีแต่ควา่มสกปรกโสโครก

อามรมณ์ทางกามเขาเป็นศัตรู กับความสกปรกของร่างกาย งัดเอามาสู้กับมันนะครับ ถ้าสู้กัน ถ้าเราชนะใจเราจะเป็นสุข

ถ้าไม่ชนะ ก็ยันกันอยู่ ถึงยันกันอยู่ อย่างน้อยก็ทำไห้กำลังของกิิเลสทางกามอ่อนลงได้เช่นกัน ทำบ่อยๆนะ


อนุโมทนาครับ

 

ไม่เห็นยากเลยคะ เด๋วมีสามีก็เลิกคิดเอง

 

ธรรมชาติของจิต....ไม่ได้ผิดปกติตรงไหน...แต่ละคนคงไม่เหมือนกัน.อิอิ...จิตที่รักสวยรักงาม...ละเอียด ...จุดเล็กจุดน้อยเห็นหมด....สักวันถ้าได้เจริญสติแล้ว...จะได้สมาธิที่ดี....จะคิดเป็นเวลา...หยุดมันได้ชั่วคราว....และจะมีความสามารถพิเศษ....อย่างน้อยก็กำหนดให้คนอื่นฝันเห็นเราได้.