แก้เคล็ดทำบุญให้น้ำประกาศบุญเเบบนี้หายาก~พระเณรกำลังขาดน้ำอย่างหนัก~

เชิญร่วมสร้างมหากุศลให้น้ำให้ชีวิตแก่พระเณรชีรวม 23 ชีวิต

ขอชี้แจงบอกบุญลัดคิวเพราะตอนนี้ทางวัดขาดน้ำอย่างปัจจุบันทันด่วนทำให้ที่

วัดเทียบศิลาราม ม.18 บ.หลักหินใหม่ ต.บักดอง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ

ตอนนี้น้ำบาดาลที่เคยใช้ปรากฎว่าแห้งดูดน้ำไม่ขึ้นแล้วทำให้พระเณรแม่ชีในวัดจำนวนทั้งหมด 23 ชีวิต

ไม่มีน้ำใช้น้ำฉัน ต้องทำการขุดเจาะใหม่เร็วไว แต่ติดที่ทางวัดไม่มีปัจจัยจึงขอลัดคิวจากการสร้างพระถวายตามวัดต่างๆเอาไว้ก่อน

ขอนำพาผู้มีจิตศรัทธาและมีกำลังทรัพย์มาร่วมกันให้น้ำให้ชีวิตแก่พระเณรชี ทั้ง 23 ชีวิต

ได้มีน้ำใช้น้ำฉันอีกครั้งการขุดเจาะต้องใช้งบจำนวนมากทีเดียวเพราะวางแผน

ให้ดีถึงการใช้ให้ไปถึงอนาคตอันยาวไกลเชิญท่านทั้งหลายได้พิจารณาถึงความจำเป็นอีกครั้ง

ค่าขุดเจาะ 8,500 บาท
ทำแท้งเก็บน้ำให้เป็นมาตรฐานดีที่สุดใช้งานให้ยาวนาน 70,000 บาท
ชื้อท่อพีวีซี 10,000 บาท
ค่าแรงช่างทำแท้งน้ำ 25,000 บาท

ทุกท่านสามารถร่วมทำบุญลัดคิวให้น้ำให้ชีวิตพระเณรชีได้ที่

ธนาคารกรุงไทยสาขาขุนหาญ
ชื่อบัญชีพระสุพิน อัตตสันโต
หมายเลขบัญชี 326-0-16077-9
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 085.657.8676

ขออ้างอิงคุณพระศรีรัตนตรัยอำนวยอวยพรให้ทุกท่านจงประสบแต่ความร่มเย็นแห่ง

จิตใจเหมือนดั่งที่ท่านให้น้ำให้ชีวิตแก่พระเณรชีขอความมั่งมีอุดมสมบูรณ์จง บังเกิดแก่ทุกท่านเทอญ

ที่มา:ประกาศบุญให้น้ำให้ชีวิตพระเณรกำลังขาดน้ำอย่างหนักเชิญร่วมเป็นเจ้าขุดเจาะน้ำบาดาล - PaLungJ

 

ปีนี้ภัยเเล้งอย่างเห็นได้ชัดไม่ว่าจะเเม่น้ำโขงเหือดเเห้งหรือภัยเเล้งตามเขื่อนต่างๆ

ภัยเเล้งหนักมากจริงๆสำหรับคนที่อยู่เเถบลุ่มเเม่น้ำโขง ครอบครัวกว่าล้านครอบครัวเเถบจะไม่มีน้ำใช้ดื่มกิน

ยังจำได้เลยว่าฟังข่าวเมื่อต้นเดือนเเล้วกังวลใจมากเรื่องภัยเเล้ง

คือ ถ้าฝนไม่ตกทั้งประเทศจะเหลือน้ำใช้อีกเพียงเเค่ 46 วัน

ดังนั้นเมื่อมีโอกาสสันโดษจะทำบุญใส่บาตรด้วยน้ำเสมอ

เพราะน้ำเป็นปัจจัยหลักเเละปัจจัยสำคัญที่สุด รองจากอากาศธาตุ

ถ้าไม่มีปัจจัยในการทำบุญช่วย Forward Mail บอกต่อด้วยก็ยังดีนะคะ

ประกาศทำบุญด้วยน้ำเเบบนี้หายาก

 

น่าเห็นใจจริงๆ ครับ ภัยแร้งเกิดขึ้นเกือบทั่วโลก ปีนี้หนักมาก
อนุโมธนา สาธุ

 

ภัยแล้ง หมายถึง ความแห้งแล้งของลมฟ้าอากาศ อันเกิดจากการที่มีฝนน้อยกว่าปกติ

หรือฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล เป็นระยะเวลานานกว่าปกติ และครอบคลุมพื้นที่บริเวณกว้าง

ทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้ พืชพันธุ์ไม้ต่างๆ ขาดน้ำ

ทำให้ไม่เจริญเติบโตตามปกติเกิดความเสียหาย และความอดอยากทั่วไป

ความแห้งแล้งเป็นภัยธรรมชาติประเภทหนึ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี

โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลางของประเทศไทย

เพราะเป็นบริเวณที่อิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้เข้าไปไม่ถึง ทำให้เกิดความอดอยากแร้นแค้น

ซึ่งหากปีใดที่ไม่มีพายุเคลื่อนผ่านเลยก็จะก่อให้เกิดความแห้งแล้งรุนแรงมากขึ้น

อันเนื่องมาจากฝนทิ้งช่วงยาวนาน โดยภัยแล้งที่เกิดขึ้นทุกปีจะอยู่ระหว่างเดือนมิถุนายนต่อเนื่องถึงเดือน กรกฎาคม

ในช่วงดังกล่าวพืชไร่ที่เพาะปลูกจะขาดน้ำได้รับความเสียหายมนุษย์- สัตว์ขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้

ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีพรวมถึงด้านเศรษฐกิจและสังคม

ทั้งนี้ความรุนแรงจะมากหรือน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน เช่น ความชื้นในอากาศ

ความชื้นในดิน ระยะเวลาที่เกิดความแห้งแล้ง และขนาดของพื้นที่ที่มีความแห้งแล้ง เป็นต้น

สาเหตุของการเกิดภัยแล้ง

ปัจจัยที่ก่อให้เกิดภัยแล้งสำหรับประเทศไทยแล้ว

นอกจากฝน ยังมีปัจจัยอื่นที่เป็นองค์ประกอบอีกหลายอย่าง เช่น ระบบการหมุนเวียนของบรรยากาศ

การเปลี่ยนแปลงส่วนผสมของบรรยากาศ การเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างบรรยากาศ กับน้ำทะเล หรือมหาสมุทร

ดังนั้นการเกิดภัยแล้งจึงมิใช่เกิดจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งเพียงอย่างเดียว ซึ่งพอจะประมวลสาเหตุของการเกิดภัยแล้งได้ ดังนี้

1. เนื่องจากสภาวะอากาศในฤดูร้อนที่ร้อนมากกว่าปกติ

2. เนื่องจากการพัดพาของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้

3. ความผิดปกติของตำแหน่งร่องมรสุม ทำให้ฝนตกในพื้นที่ไม่ต่อเนื่อง

4. ความผิดปกติ เนื่องจากพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนที่ผ่านประเทศไทยน้อยกว่าปกติ

5. การเปลี่ยนแปลงความสมดุลของพลังงานที่ได้รับจากดวงอาทิตย์ เช่น การเผาพลาสติก น้ำมัน และถ่านหิน ทำให้เกิดรูโหว่ในชั้นโอโซน

6. ผลกระทบจากปรากฏการณ์ภาวะเรือนกระจก เนื่องจากส่วนผสมของบรรยากาศ เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ ไอน้ำ

ลอยขึ้นไปเคลือบชั้นล่างของชั้นโอโซน ทำให้ความร้อนสะสมอยู่ในอากาศใกล้ผิวโลกมากขึ้น ทำให้อากาศร้อนกว่าปกติ

7. การพัฒนาด้านอุตสาหกรรมต่างๆ

8. การตัดไม้ทำลายป่า ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมอันเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่มีผลกระทบต่อ

การเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของภูมิอากาศ เช่น ฝน อุณหภูมิ และความชื้น

ฤดูกาลเกิดภัยแล้ง

การเกิดภัยแล้งโดยทั่วไปจะเกิดขึ้น 2 ช่วง ดังนี้

1. ในฤดูหนาวระหว่างเดือนตุลาคม ถึงเดือนกุมภาพันธ์ และต่อเนื่องมาถึงฤดูร้อน

ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนพฤษภาคม คือช่วงสิ้นสุดของฤดูฝน

ซึ่งเริ่มจากครึ่งหลังของเดือนตุลาคม เป็นต้นไป บริเวณประเทศไทยตอนบนจะไม่มีฝนตกมา หรือถ้ามีก็จะมีเพียงจำนวนเล็กน้อย

ส่วนมากจะเป็นฝนจากพายุฝนฟ้าคะนอง จึงทำให้เกิดความแห้งแล้งเป็นประจำทุกปีในช่วงนี้ และมักจะมีไฟป่าเกิดขึ้นตามมาด้วย

2. ในฤดูฝนระหว่างเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนตุลาคม ในช่วงของกลางฤดูฝน ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน ถึงเดือนกรกฎาคม

ในบริเวณประเทศไทยตอนบนจะเกิดความแห้งแล้ง เนื่องจากมีฝนทิ้งช่วงเกิดขึ้น ประมาณ 1 - 2 สัปดาห์ หรืออาจถึง 1 เดือน

ปริมาณฝนในช่วงนี้จะลดลงมีผลกระทบต่อการเกษตรมาก ทำให้พืชขาดน้ำ เหี่ยวเฉา และแห้งตายไปในที่สุด

ที่มา: http://www.siamvolunteer.com/autopagev4/show_page.php?topic_id=12&auto_id=7&TopicPk

 

สาธุครับ เดี๋ยวรอเงินเดือนออกก่อนครับ จะรีบโอนเงินไปร่วมบุญ ขอให้พญานาคช่วยกันพ่นน้ำให้เยอะๆเลยครับ

 

ปี 2551 มีประชากร มากกว่า 10 ล้านคนที่ได้รับผลกระทบนี้

<table id="post1131394" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 0px 1px 1px; border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255);"> 21-04-2008, 02:29 PM </td> <td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 1px 1px 0px; border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color;" align="right"> #5 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-width: 0px 1px; border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255);" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Falkman<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1131394", true); </script>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Jul 2006
ข้อความ: 6,056
Groans: 6
Groaned at 21 Times in 20 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 29,536
ได้รับอนุโมทนา 67,610 ครั้ง ใน 6,276 โพส
พลังการให้คะแนน: 3901


</td> <td class="alt1" id="td_post_1131394" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start --><big>2008-04-21 06:28:55 - Drought - Thailand</big>

<code> GLIDE CODE: DR-20080421-16406-THA
Date & Time: 2008-04-21 06:28:55 [UTC]
Area: Thailand, Provinces of Chiang Rai, Mae Hong, Si Sa Ket, Nong Khai, Ubon Ratchathani, Trang, Surat Thani, Ranong, ,

</code><fieldset style="border: 1px solid Maroon; background-color: Yellow; font-family: Verdana,Geneva,Arial,Helvetica,sans-serif; font-size: 10px; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: bolder; color: Red; text-align: center; text-decoration: blink; vertical-align: middle;">!!! WARNING !!!</fieldset>

Description:

The Disaster Prevention and Mitigation Centre said 55 provinces are now suffering from drought, affecting more than 10 million people.

ศูนย์บรรเทา และ ป้องกันภัยพิบัติ กล่าวว่า 55 จังหวัด (ในประเทศไทย ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งแล้ว), มีประชากร มากกว่า 10 ล้านคนที่ได้รับผลกระทบนี้

Some of the provinces affected by the drought include Chiang Rai and Mae Hong Son in the North, Si Sa Ket, Nong Khai and Ubon Ratchathani in the northeastern region, and the southern provinces of Trang, Surat Thani and Ranong.

จังหวัดที่แล้งนี้ รวมไปถึง เชียงราย และแม่ฮ่องสอน (ทางเหนือ), ศรีสะเกษ, หนองไข่, อุบลราชธานี (อีสาน) และทางภาคใต้ได้แก่ ตรัง, สุราษฏร์ธานี และ ระนอง

Four reservoirs contain contain about 30 to 40 per cent of capacity of water reserves. The government has dispatched more than 286 million litres of water for irrigation and drinking purposes to help villagers affected by the drought. The Centre uses "drought" to describe the annual dry season, from about March to July.

แหล่งเก็บน้ำสี่แห่ง เก็บน้ำได้ 30-40% ของความจุ รัฐบาลกำลังเร่งช่วยโดยการทำชลประทาน มากกว่า 286 ล้านลิตร และเพื่อใช้สำหรับเป็นน้ำดื่มเพื่อข่วยเหลือชาวบ้านจากภัยแล้งแล้ว ทางศูนย์ได้ใช้คำว่า "ภัยแล้ง" อธิบายถึงฤดูแล้งประจำปี จากมีนา ถึง กรกฎาคม

Damage level: Heavy (Level 3)
</td></tr></tbody></table>

 

โคราชแล้งจัด ถ.มิตรภาพสายเก่าโผล่กลางอ่างเก็บน้ำลำตะคอง สุดวิกฤติในรอบ19ปี
​

​

เมื่อ วันที่ 18 มิ.ย.2553 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ความแห้งแล้งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาที่ได้ ขยายเป็นวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำที่สำคัญๆในจังหวัดนครราชสีมา เหลือไม่ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ จึงทำให้ที่อ่างเก็บน้ำละตำคอง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา มีถนนโผล่ขึ้นกลางอ่างเก็บน้ำ ที่มีระยะทางยาวกว่า 15 กิโลเมตร จากการสอบถามประชาชนในพื้นที่เล่าว่าถนนที่โผล่ขึ้นมาเป็นถนนสายมิตรสายภาพ เก่าที่ประชาชนใช้สัญจรไปมา ก่อนที่จะมีการสร้างถนนมิตรภาพสายใหม่ที่เป็น 6 เลน จึงทำให้ประชาชนในพื้นที่สามารถใช้ถนนมิตรภาพสายเก่าที่โผล่ขึ้นมากลางอ่าง เก็บน้ำใช้สัญจรไปมา และเกษตรกรบางรายยังได้นำสัตว์เลี้ยง มาหากินหญ้าในบริเวณอ่างเก็บน้ำลำตะคอง โดยปริมาณน้ำที่ลดจนทำให้ถนนมิตรภาพสายเก่าโผล่ขึ้นกลางอ่างเก็บน้ำลำตะคอ งไม่เคยเกิดขึ้นมานานกว่า 19 ปี หลังจากเมื่อ พ.ศ. 2534 ในช่วงที่จังหวัดนครราชสีมาประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอย่างหนัก

ด้านนาย ทรรศนันทน์ เถาหมอ ผู้อำนวยการชำนักชลประทานที่8 กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด ก็คือที่อ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นแหล่งกักเก็บน้ำขนาดใหญ่และถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ของชาวจังหวัด นครราชสีมา ที่ทำหน้าที่แจกจ่ายน้ำให้กับประชาชนในพื้นที่ถึง 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.สีคิ้ว , อ.สูงเนิน , อ.เมือง และ อ.เฉลิมพระเกียรติ โดยปริมาณน้ำที่เหลืออยู่ขณะนี้ไม่สามารถที่แจกจ่ายเพื่อการเกษตรกรได้อย่าง สิ้นเชิง คงเหลือการระบายน้ำเพียงเพื่อหล่อเลี้ยงระบบนิเวศน์และให้ประชาชนได้ใช้ใน การอุปโภคบริโภคในระบบประปาเท่านั้น แต่ไม่สามารถที่จะแจกจ่ายให้กับการเกษตรได้

นายทรรศนันทน์ เปิดเผยว่า นอกจากการประกาศให้เกษตรกรเลื่อนการทำนาปีออกไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีฝนตกลงมาในพื้นที่ในปริมาณที่พ้นวิกฤติ และการประสานของให้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงเร่งทำฝนเทียมเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำ ในอ่างเก็บน้ำแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำที่สำคัญๆในจังหวัดนครราชสีมา เหลือไม่ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ เช่น อ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว ที่เหลือปริมาณน้ำอยู่ที่ 83.460 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 26.54 % จากความจุกักเก็บ 314 ล้านลูกบาศก์เมตร , ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำลำแชะ อ.ครบุรี เหลือปริมาณน้ำอยู่ 113.53 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 41.29% จากความจุกักเก็บ 275 ล้านลูกบาศก์เมตร , ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำมูลบน อ.ครบุรี ปริมาณน้ำเหลืออยู่ 34.84 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 24.71% จากความจุกักเก็บ 141 ล้านลูกบาศก์เมตร และอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย ระดับน้ำที่เหลืออยู่ 43.72 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 39.88 % จากความจุกักเก็บ 109.63 ล้านลูกบาศก์เมตร


http://www.matichon.co.th

​

 

แห่ชม "เมืองบาดาล" โผล่พ้นน้ำที่กาญจน์หลังจมอยู่ใต้เขื่อนมานาน 27 ปี​

นักท่องเที่ยวแห่ชมเมืองบาดาลโผล่พ้นน้ำครั้ง ประวัติศาสตร์ที่กาญจนบุรี หลังจมอยู่ใต้เขื่อนเขาแหลมมานานกว่า 27 ปี หากน้ำไม่แห้งขอดคงไม่ได้เห็น ด้านจังหวัดหวังผลักดันนักท่องเที่ยวเข้าชมก่อนน้ำจะท่วมอีก 2 เดือน

​

 

<table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr align="center"><td></td> </tr> <tr align="center"> <td valign="bottom" height="25">คลิ๊ก เพื่อดูภาพใหญ่</td> </tr> </tbody></table> <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td>
</td> </tr> </tbody></table>
เขื่อน สิริกิติ์ เจอวิกฤติภัยแล้งในรอบ 18 ปี เหลือนํ้าใช้แค่ 54 วัน ปริมาณน้ำลดลงจนเรือและแพที่มีไว้ใช้บริการนักท่องเที่ยว ต้องจอดเกยตื้น ถ้าฝนไม่ตกอีกสองเดือนที่จะถึงปีหน้าจะประสบปัญหาภัยแล้งหนักมากกว่าที่เป็น อยู่.....

เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.นายประเสริฐ ธำรงวิศวะ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์-ฝ่ายบริหารเปิดเผยถึงสถานการณ์

ปริมาณ น้ำในเขื่อนสิริกิติ์ซึ่งขณะนี้ระดับนํ้าได้ลดปริมาณลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำออกจากเขื่อนฯในปริมาณมากได้ ประกอบกับปริมาณฝนที่ตก ทิ้งช่วงเป็นเวลานานส่งผลทำให้ไม่มีน้ำไหลเข้าสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อน สิริกิติ์ ซึ่งในขณะนี้เขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเหลือเพียงร้อยละ 6 หรือ 539.68 ล้านลูกบาศก์เมตร เหลือน้ำที่จะใช้ได้เพียงแค่ 54 วัน ซึ่งกรมชลประทานได้ประสานกับทางเขื่อนสิริกิติ์ให้ระบายน้ำ วันละ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยปกติจะมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บนํ้าเขื่อนสิริกิติ์ เพียงวันละ 3 ล้านลูกบาศก์เมตร ในปริมาณน้ำที่มีอยู่ เขื่อนจะสามารถปล่อยน้ำใช้ประโยชน์ท้ายเขื่อน เพียง 2 เดือน เพื่อช่วยเหลือเกษตรบริเวณท้ายเขื่อน รวมไปถึงเกษตรกรที่อาศัยน้ำตามโครงการสูบน้ำด้วยไฟฟ้า จ.อุตรดิตถ์ จำนวน 89 สถานี พื้นที่ส่งน้ำทั้งหมด 229,769 ไร่เพื่อรักษาระดับการผลิตกระแสไฟฟ้าและไม่ให้น้ำในอ่างเก็บน้ำแห้งขอดจน เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของเขื่อนและวิกฤติภัยแล้ง จึงจำเป็นต้องให้เกษตรกรเลื่อนการทำนาปีออกไปก่อน ประมาณกลางเดือน ก.ค.2553 ส่วนเกษตรผู้ปลูกข้าวนาปรัง จะทำนาได้เพียง 1 ครั้ง เนื่องจากต้นทุนนํ้า ปี 53 ตํ่ากว่าเกณฑ์มากคาดว่าปี 54 จะเกิดปัญหาวิกฤติภัยแล้งอย่างหนัก

นาย ประเสริฐ กล่าวอีกว่า เมื่อหลายปีที่ผ่านมาประมาณวันที่ 9 ก.ค.2535 ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ เคยมีปริมาณนํ้าตํ่าสุด 128 เมตร



ณ ปัจจุบันสถานการณ์ปริมาณน้ำของเขื่อนสิริกิติ์ในช่วงเดือน มิ.ย.ปีนี้ ถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำมากในรอบ 18 ปี หากเกษตรกรไม่วางแผนการใช้น้ำและไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการผลผลิต ทางการเกษตรอาจได้รับความเสียหาย


ทาง ด้าน นายโยธินศร์ สมุทรคีรีจ์ ผวจ.อุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนสิริกิติ์ มีไม่เพียงพอที่จะส่งน้ำให้สถานีสูบน้ำ ในแม่น้ำน่าน


กรม ชลประทานจึงได้แจ้งให้เกษตรกร เลื่อนการทำนาปี ออกไปก่อนเพื่อป้องกันข้าว กล้า เสียหาย สำหรับจำนวนสถานีสูบน้ำในเขต จ.อุตรดิตถ์ ที่ใช้น้ำจากแม่น้ำน่าน มีจำนวน 89 สถานี พื้นที่ส่งน้ำทั้งหมด 229,769 ไร่ ได้แก่ โครงการน้ำริด อำเภอเมือง จำนวน 1 สถานี พื้นที่ส่งน้ำ 44.659 ไร่ เป็นพื้นที่ในเขตชลประทาน 34,446 ไร่ และนอกเขตชลประทาน 10,213 ไร่ สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า (ที่ถ่ายโอนให้ อปท.แล้ว) คือ อำเภอ ท่าปลา จำนวน 4 สถานี พื้นส่งน้ำ 3,000 ไร่ , อำเภอเมือง, จำนวน 32 สถานี พื้นที่ส่งน้ำ 55,440 ไร่ อำเภตรอน, 15 พื้นที่ส่งน้ำ 39,070 ไร่ อำเภอพิชัย จำนวน 37 สถานีสูบน้ำ พื้นที่ส่งน้ำ 87,300 ไร่ เกษตรกรโดยเฉพาะกลุ่มในจังหวัดภาคกลางจะต้องเลื่อนการทำนาปี ปี 2553 ออกไปก่อน เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนสิริกิติ์ไม่เพียงพอและทางเขื่อนสิริกิติ์คาดการ ว่าหากว่าอีกสองเดือนยังไม่มีฝนพายุลูกใหญ่ พัดผ่านตกในต้นน้ำจะส่งผลทำให้ เขื่อนสิริกิติ์ไม่มีน้ำเพียงพอต่อการเกษตรทั่วๆไป.



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

 

ใครพร้อมก็ช่วยๆกันนะครับ ไม่ว่าพระไม่ปุถุชนล้วนแล้วเกิดร่วมกรรมด้วยกัน
แบ่งปันน้ำใจให้ผู้อื่นโดยไม่คิดสิ่งตอบแทนนี่คือบุญใหญ่หลวงที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์และเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้มนุษย์มีจิตสูงส่งกว่าภพที่ต่ำกว่า

ส่วนใครไม่พร้อมหรือไม่อาจจะสามารถช่วยได้ ก็จงใช้น้ำใช้พลังงานอย่างประหยัด
เป็นการช่วยทางอ้อมที่มีผลโดยตรงมนุษยชาติ

อนุโมทนาครับ

 

เมื่อวานได้ร่วมทำบุญกับหลวงพ่อไปแล้วค่ะ 500 บาท

 

<table id="post3465664" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr valign="top"><tr><td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 0px 1px 1px; border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255);"> วันนี้, 11:17 AM </td><td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 1px 1px 0px; border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color;" align="right"> #1 </td></tr><tr valign="top"><td class="alt2" style="border-width: 0px 1px; border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255);" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->เทวานิน<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_3465664", true); </script>
ผู้สนับสนุนเว็บ พลังจิต



วันที่สมัคร: Nov 2007
ข้อความ: 299
Groans: 0
Groaned at 0 Times in 0 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 404
ได้รับอนุโมทนา 2,134 ครั้ง ใน 308 โพส
พลังการให้คะแนน: 121


</td><td class="alt1" id="td_post_3465664" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <center><!-- google_ad_section_start -->ทำ บุญเรื่องน้ำมา 2 งาน ขอทุกท่านมีส่วนอนุโมทนาครับ<!-- google_ad_section_end -->

</center>
<hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- google_ad_section_start -->ผม เทวานินและแก๊งส์ลูกหมี

ได้รวบรวมปัจจัยกับเพื่อนๆ ได้ช่วยงานพระศาสนา 2 งาน
เกี่ยวกับ เรื่อง การขุดเจาะน้ำบาดาล
ซึ่งนับวันเรื่องน้ำจะเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
ดังนี้

1.
ประกาศบุญให้น้ำให้ชีวิตพระเณร กำลังขาดน้ำอย่างหนักเชิญร่วมเป็นเจ้าขุดเจาะน้ำบาดาล
วันที่ 25 มิถุนายน 2553 โอนเงินจำนวน 6,000 บาท


2.
ขอร่วมขุดเจาะบ่อบาดาล วัดเขาพานทอง << น้ำกินน้ำใช้ต้องซื้อขึ้นเขามาวันละ 800 บาท>>
วันที่ 25 มิถุนายน 2553 โอนเงินจำนวน 10,000 บาท


ขอท่านทั้งหลายได้อนุโมทนาเสมือนได้ทำเองเถิด


ที่มา: ทำบุญเรื่องน้ำมา 2 งาน ขอทุกท่านมีส่วนอนุโมทนาครับ - PaLungJit.com



============================================================

ร่วมบุญสร้าง สมเด็จองค์ ปฐมปางจักรพรรดิ์ <st1:metricconverter productid="30 นิ้ว"></st1:metricconverter>30 นิ้วประดับเพชรและฐานประดับ กระจก​

​

www.konmeungbua.com/forum/topic10282.html
</td></tr></tr></tbody></table>