9 วิธีเจริญสติในออฟฟิศ

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 26 มิถุนายน 2010.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]


    9 วิธีเจริญสติในออฟฟิศ

    เรื่องโดย ศรัณยู นกแก้ว



    รถติด งานล้น ลูกค้าขี้วีน เจ้านายขี้บ่น เพื่อนร่วมงานขี้นินทา
    สถานการณ์ทั้งหมดนี้ดูเหมือนจะเป็นสิ่งเร้าให้สติของชาวออฟฟิศอย่างเราๆ
    หลุดกระเจิงแทบทุก 5 นาที
    และด้วยเหตุนี้ที่ครึ่งค่อนชีวิตของเราๆ ท่านๆ ต้องอยู่กับงาน
    จึงไม่รอช้าที่จะชวนมาฝึกเทคนิคเรียกสติให้กลับคืนมาในระหว่างวันทำงาน


    เพราะเมื่อสติกลับคืนมา ปัญญาที่จะสร้างสรรค์งานให้มีคุณภาพ
    ก็จะตามมาทันทีโดยไม่ต้องสงสัย


    [​IMG] 1. “ไฟแดง” ไฟแห่งสติ
    : สิ่งแรกที่ทำให้สติของชาวออฟฟิศขาดกระเจิงพร้อมกับอารมณ์ที่ขุ่นมัวตามมา
    เห็นจะเป็นการจราจรที่แสนติดขัด ยิ่งวันไหนที่ต้องติดไฟแดงแทบทุกแยกด้วยแล้ว
    มักหนีไม่พ้นที่จะบ่นกับตัวเองว่า “วันนี้ต้องเป็นวันซวยอย่างแน่นอน”
    ทางออกก็คือ ต้อง “เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส”
    ลองใช้ไฟแดงเป็นเครื่องมือเตือนสติดู
    ติดไฟแดงครั้งใดก็ให้หยุดดูความหงุดหงิดของตัวเอง
    พร้อมทั้งดึงสติมาจดจ่ออยู่ที่ลมหายใจ
    คราวนี้กว่าจะถึงออฟฟิศ
    เชื่อได้เลยว่าคุณจะมีสติพร้อมยิ้มรับกับทุกเรื่องที่กำลังรออยู่แล้ว


    [​IMG] 2. ตั้งจิตอธิษฐานก่อนเริ่มงานทุกวัน
    : เมื่อมาถึงที่ทำงาน สิ่งแรกที่ควรทำไม่ใช่การเริ่มงานอย่างลุกลี้ลุกลน
    แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือ หาเวลาสัก 5 นาทีเพื่อทำใจให้สงบ
    จากนั้นตั้งจิตให้มั่น แล้วนึกถึงธรรมะที่ต้องการน้อมนำมาปฏิบัติ
    เช่นเมื่อวานขี้เกียจไปนิด วันนี้จะขอตั้งใจทำงานด้วยความเพียร
    การตั้งจิตอธิษฐานไม่ได้หมายถึงการขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    เพื่อช่วยให้ทำงานสำเร็จ ทว่าการอธิษฐานเป็นการเตือนใจ
    ไม่ให้พลัดหลงไปกับอารมณ์และความรีบเร่ง
    ที่จะมาบั่นทอนจิตใจในการทำงานนั่นเอง


    [​IMG] 3. ล้างจานเพื่อล้างจาน
    : การทำงานไม่ว่าอาชีพไหนก็สามารถเจริญสติขณะทำงาน
    หมายถึงการดึงจิตใจอยู่กับงาน รับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของอวัยวะต่างๆ
    จะล้างจานก็รู้ว่าล้างจาน ถูบ้านก็รู้ว่ากำลังถูบ้าน
    คิดเรื่องอะไรก็ใช้สติอยู่กับเรื่องนั้นๆ ไม่กังวลกับอดีตที่ผ่านไปแล้ว
    หรือพะวงอยู่กับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง
    ข้อดีของการเจริญสติตลอดเวลาที่ทำงานนั้น
    นอกจากจะทำให้งานสำเร็จแล้ว ยังทำให้ทำงานด้วยความผ่อนคลายโปร่งเบา
    เพราะจิตใจไม่มี “ขยะ” ให้ต้องแบกรับ


    [​IMG] 4. ตามลมหายใจไปกับเสียงโทรศัพท์
    : เคยไหมขณะกำลังทำงานอยู่เพลินๆ
    ก็มีเสียงโทรศัพท์จากลูกค้าขี้วีนที่สุดเข้ามา
    ทำให้อารมณ์ขุ่นมัวไปครึ่งค่อนวัน
    และเมื่อมีโทรศัพท์เข้ามีอีกครั้ง (แม้จะไม่ใช่คนเดิมก็ตาม)
    คราวนี้เราก็พร้อมจะระเบิดความขุ่นมัวเผื่อแผ่ไปให้ปลายสายอย่างไม่ยั้งคิด
    ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ แน่นอนว่ามีแต่เสียมากกว่า
    เผลอๆ อาจทำให้เราต้องเสียลูกค้าๆไปโดยไม่ได้คาดคิด
    ทางออกนั้นก็ใช่ว่าจะไม่มี
    ขอแนะนำให้ใช้โทรศัพท์นี่แหละ เป็นเครื่องเรียกสติ
    โดยก่อนรับสายให้ค่อยๆ ตามลมหายใจเข้า-ออก ช้า3 ครั้ง
    เพื่อให้อารมณ์สงบนิ่ง บางคนอาจใช้อุปกรณ์เสริม
    อย่างเช่น กระจกบานเล็กๆ วางใกล้ๆโทรศัพท์ ขณะคุยอาจยิ้มน้อยๆไปด้วย
    การมองตัวเองในกระจก
    ช่วยให้ไม่เผลอส่งอารมณ์โกรธไปถึงคนปลายสายโดยไม่รู้ตัว


    [​IMG] 5. เจริญสติด้วยคำวิจารณ์
    : การทำงานกับการวิพากษ์วิจารย์เป็นสิ่งคู่กัน
    แต่หลายคนมักสติหลุดเพียงเพราะถูกวิพากวิจารณ์
    ดังนั้นสิ่งที่ต้องท่องให้ขึ้นใจเมื่อได้ยินคำวิพากษ์วิจารณ์คือ
    เราเอาปัญญาออกหน้า หรือเอาอัตตาออกหน้า
    หากเอาปัญญาออกหน้า จะเกิดคำถามในใจว่า “ฉันผิดพลาดตรงไหน”
    แต่หากเลือกอัตตาก็จะมีประโยคหนึ่งตามมาคือ “แกทำให้ฉันเสียหน้า”
    สุดท้ายถ้าเราพยายามเตือนตัวเองให้ใคร่ครวญแต่ข้อผิดพลาด
    ความทุกข์ ความรู้สึกเสียหน้าก็จะมาไม่ถึง
    เหมือนอย่างที่คุณเล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์ ผู้ก่อตั้งเมืองโบราณ
    มักเตือนตัวเองเสมอว่า “วันไหนไม่ถูกตำหนิวันนั้นเป็นวันอัปมงคล”
    เพราะนั่นหมายถึงมีแต่คนสรรเสริญเยินยอ
    จนหลงลืมตัวซึ่งอาจนำไปสู่ความเสื่อมในที่สุด


    [​IMG] 6. เจริญสติด้วยคำนินทา
    : หลายคนคงจะเคยเจอปัญหาที่แก้เท่าไรก็แก้ไม่ตก
    นั่นก็คือ คำนินทา ซึ่งถ้าเป็นเรื่องดีก็คงไม่มีปัญหา
    แต่ถ้าเป็นเรื่องไม่จริงก็อาจทำให้หลายคนเกิดอาการเครียดไปตามๆ กัน
    ทางที่ดีที่สุด แม้เราจะห้ามคนนินทาไม่ได้
    แต่เราก็สามารถห้ามใจไม่ให้คิดตามจน “จิตตก” ได้
    และหนึ่งในวิธีได้ผลชะงัดคือ การมองโลกในแง่ดี
    คิดเสียว่าที่เขานินทา คือการเตือนทางอ้อม
    ให้เราได้แก้ไขปรับปรุงในเรื่องที่เรายังบกพร่อง
    เวลาที่ได้ยินเสียงนินทาให้ถือเสียว่าเป็นระฆังแห่งสติ
    ที่จะเตือนให้เราหันกลับมามองตัวเอง
    สิ่งไหนจริง ก็ปรับปรุงแก้ไข สิ่งไหนไม่จริงก็ปล่อยให้ผ่านไป
    ที่สำคัญที่สุดคือ เราต้องคิด พูด และทำแต่สิ่งดีๆ
    เพื่อจะได้ไม่หวั่นไหวไปกับคำนินทาที่ไม่เป็นความจริง


    [​IMG] 7. สร้างทางเดินแห่งสติ
    : ปัญหาอย่างหนึ่งผู้ปฏิบัติธรรมมักใช้เป็นข้ออ้าง
    เมื่อการปฏิบัติไม่คืบหน้า คือ ไม่มีเวลา ไม่มีสถานที่จะฝึกฝน
    เราจึงขอเสนอเส้นทางเดินแห่งสติในที่ทำงาน
    เริ่มตั้งแต่ลานจอดรถ ขั้นบันได ทางเดินไปห้องน้ำ
    และที่จะขาดไม่ได้เลยคือ ทางเดินไปห้องเจ้านาย
    แม้ทางเดินเหล่านี้จะเป็นระยะทางสั้นๆเพียงไม่กี่ก้าว
    แต่หากเราเดินด้วยความรู้สึกตัว มีสติในทุกย่างก้าว ซ้ายก็รู้ ขาวก็รู้
    ขึ้นบันไดก็รู้ไม่เผลอคิดฟุ้งซ่าน
    ถ้าทำได้อย่างนี้ สติจะไม่อยู่กับเราขณะทำงานก็ให้รู้ไป


    [​IMG] 8. พักยกด้วยระฆังแห่งสติ
    : สำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศที่งานยุ่งจนไม่มีแม้แต่เวลาจะดูนาฬิกา
    ขอแนะนำให้ใช้บริการระฆังแห่งสติเป็นผู้ช่วย
    ระฆังแห่งสตินี้อาจใช้โทรศัพท์มือถือในการตั้งเวลาปลุก
    ทุกครึ่งชั่วโมงหรือ 1 ชั่วโมง หรือถ้าจะง่ายกว่านั้น
    เพียงคลิกเข้าไปที่ http://www.thaiplumvillage.org
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 มิถุนายน 2010
  2. อรชร

    อรชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,768
    ค่าพลัง:
    +11,465
    [​IMG]
    ขอขอบคุณค่ะ
    บทความดีมากค่ะ
    ช่วยคืนสติ ให้มีสมาธิ ของคนทำงานค่ะ
     
  3. somkiatdhana

    somkiatdhana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +619
    อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ครับ (ขาดข้อ 9 ครับ)
    -------------------------------------------------
    พุทธวจน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. tent006

    tent006 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +28
    ขอบคุณมากๆเลยครับ:cool:
     
  5. shesun

    shesun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +1,327
    มีประโยชน์ดีจัง...ขอบคุณค่ะ
     
  6. mind^-^power

    mind^-^power เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +607
    ตามลิ้งค์เข้าไปดู เจอหมู่บ้านพลัม รู้สึกดีจัง ขอบคุณมากๆค่ะ สำหรับการแบ่งปันสิ่งที่ดีๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...