อยากถามคนที่อ่านใจคนอื่นได้ครับ

... คือ สำหรับการอ่านจิต โดยส่วนตัวขอแยกเป็น 2 แบบนะครับ

1) จิตสัมผัส ประเภทนี้ คือ จะใช้ความรู้สึกตัวเองจับความรู้สึกคนอื่น พื้นฐานจะเป็นคนที่มีความรู้สึกไว ถึงรู้ก็จะรู้แค่ลาง ๆ คนที่โดนสามารถปิดกั้น การสัมผัสจิตได้ง่าย ๆ ด้วยการปฎิเสธ เหมือนเวลามีคนจะมาจับมือเราแล้วเราสะบัดมือหนี ซึ่งพอเค้ามาสัมผัสจิตคนอื่นบ่อย ๆ แล้วโดนปัด บ่อย ๆ เขาจะเลิกไปเองครับ เพราะผลที่ย้อนกลับไปหาเค้าเวลาโดนปัดบ่อย ๆ เข้า คือ อาการไมเกรนครับ เพราะเวลาโดนปัดมันจะสั่นสะเทือนกลับไปที่จิตของเขาเอง แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ฝึกจิตมา ด้วยการนั่งสมาธิ หรือ วิปัสนา จนมีภูมิจิตที่เข้มแข็งแล้วเค้าก็ไม่สะเทือนหรอกครับ แต่ก็ยังมีวิธีปิดอีกอย่างคือ พวกจิตสัมผัสนี้ส่วนมากมักจะต้องใช้สื่อ เช่น การคุย การสัมผัส การดมกลิ่น หรือ อย่างหมอดูที่ใช้ไพ่ พวกนี้ก็จิตสัมผัส
วิธีปิดถ้ารู้ว่าเค้าใช้สื่ออะไรเราก็เลี่ยงจากสื่อนั้นซะ เขาก็จะสัมผัสได้แค่ราง ๆ มาก ๆ จนแทบจะอ่านเราไม่ได้เลย

..... ปริมาณการรับรู้ข้อมูลของพวกจิตสัมผัส ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย คือ 1) ความถี่ในการสัมผัสจิต 2) การเปิดจิตไปกระทบกับสื่อที่เขาส่งออกมาเอง ว่าเปิดมากขนาดไหน

2) ประเภทหยั่งรู้ ส่วนใหญ่ประเภทหยั่งรู้ นี้กลไกการทำงานคล้าย ๆ กับการเอาไม้จิ้มลงไปในจิตของคนที่โดนเลย คนส่วนมากที่โดน (จากที่อ่านการให้ปากคำของเจ้าของกระทู้ เข้าใจว่าโดนลักษณะนี้) จะรู้สึกอาย รู้สึกเหมือนโดนเค้าจับแก้ผ้า แม้ว่าเค้าจะยังไม่ได้พูดอะไรเลย ประเภทนี้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ฝึกจิต สมาธิ วิปัสนา เข้มข้น จนได้ญาณ คนที่ได้ระดับนี้เค้ามักจะเป็นคนใจเย็นแล้วก็รู้จักกาลเทศะ มากแล้ว เค้าจะไม่ตั้งใจทำให้เราต้องอับอายหรือรู้สึกแย่หรอกครับ สำหรับวิธีปิดกั้นจิต ... ไม่ทราบครับ

.... ปริมาณของการรับรู้ ..... ไม่ทราบครับ

ถ้าอยากทราบวิธีปิดกั้นจิตจากพวกจิตหยั่งรู้ จริงๆ ต้องลองถามจากคนที่เค้าเป็นเท่านั้นครับ
แต่คนที่เป็นพวกจิตหยั่งรู้ จริง ๆ หายากครับ

(... ปล. ข้อมูลพวกจิตหยั่งรู้ ลองถามหาสมาชิกในเว็บนี้ดูก็น่าจะมีอยู่บ้าง อิอิ แต่ถ้าจิตสัมผัสนะ รับประกันมีเพียบ)

 

ถ้าเค้าอยากดูก็ให้เค้าดูไปเถอะ อดีตแก้ไขไม่ได้ ก็ทำทุกวันนี้ให้มันดีแล้วกัน ถ้าบุคคลที่คุณ จขกท.เค้ามีญาณแล้วรู้เรื่องพวกนี้จริงๆ บาปกรรมของเค้าก็หนักหนาเกินมนุษย์ปรกติแน่ พรสวรรค์นี้ได้มาเพื่อช่วยเพื่อนมนษย์ ไม่ได้มีไว้ทำลายคนอื่น เค้ามาดูเรื่องราวของคุณโดยที่คุณไม่อนุญาติบาปก็ติดตัวเค้าไปนั้นละ

 

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->pk010209<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3499048", true); </SCRIPT>
สมาชิก

ถ้าเค้าอยากดูก็ให้เค้าดูไปเถอะ อดีตแก้ไขไม่ได้ ก็ทำทุกวันนี้ให้มันดีแล้วกัน ถ้าบุคคลที่คุณ จขกท.เค้ามีญาณแล้วรู้เรื่องพวกนี้จริงๆ บาปกรรมของเค้าก็หนักหนาเกินมนุษย์ปรกติแน่ พรสวรรค์นี้ได้มาเพื่อช่วยเพื่อนมนษย์ ไม่ได้มีไว้ทำลายคนอื่น เค้ามาดูเรื่องราวของคุณโดยที่คุณไม่อนุญาติบาปก็ติดตัวเค้าไปนั้นละ <!-- google_ad_section_end -->__________________
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ยอมที่จะถอย เพื่อก้าวต่อไป u.U




ไม่ขนาดนั้นม๊างงงงงงงงงงงงง

ก็อยู่นิ่งๆสิ... อย่าปล่อย Ego Wave ออกมามาก เหมือนที่ท่านเจ้าของข้อความด้านบนกำลังทำอยู่นี่ล่ะ

ไม่เห็นต้องมีใครอนุญาตเลย แสดงกันออกมาเองทั้งนั้น บาปด้วยเหรอเนี่ย...

 

อ่านของคุณitchyนี่เข้าใจขึ้นเยอะเลยครับ มิน่าล่ะ คนส่วนมากที่อ่านใจคนออกถึงเป็นโรคปวดหัวง่าย เป็นโรคประสาทอ่อนๆอะไรงี้

 

คุณมองพวกนี้ในแง่ดีไปป่าวคะ แต่ที่ฉันเจอมาจริงๆมันไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่คนพูด ก็เหมือนเกิดมาสวยเพราะทำบุญมาดี แต่นิสัยห่วย ทำตัวแย่ มีถมไป ขอบอกตามตรงว่าเกลียดพวกอ่านใจได้มาก เพราะฉันก็ไม่ได้ไปทำอะไรใครจะมารังควานฉันทำไม มีความสามารถพิเศษทำไมไม่เอาไปใช้ช่วยเหลือคน ช่วยตำรวจหาตัวคนร้ายก็ได้ว่าใครคิดจะทำผิดอะไร

 

พวกอ่านใจได้เป็นคนดีเหรอ ชั้นต่ำ เชอะ

 

ที่คุณทำอยู่เค้าเค้าไม่เรียกว่า Ego Wave เหรอ?? อ่านให้มันดีๆ แล้วค่อยแสดงความคิดเห็น

 

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->pk010209<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3499236", true); </SCRIPT>
สมาชิก

อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ytinretE
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->pk010209<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3499048", true); </SCRIPT>
สมาชิก

ถ้าเค้าอยากดูก็ให้เค้าดูไปเถอะ อดีตแก้ไขไม่ได้ ก็ทำทุกวันนี้ให้มันดีแล้วกัน ถ้าบุคคลที่คุณ จขกท.เค้ามีญาณแล้วรู้เรื่องพวกนี้จริงๆ บาปกรรมของเค้าก็หนักหนาเกินมนุษย์ปรกติแน่ พรสวรรค์นี้ได้มาเพื่อช่วยเพื่อนมนษย์ ไม่ได้มีไว้ทำลายคนอื่น เค้ามาดูเรื่องราวของคุณโดยที่คุณไม่อนุญาติบาปก็ติดตัวเค้าไปนั้นละ <!-- google_ad_section_end -->__________________
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ยอมที่จะถอย เพื่อก้าวต่อไป u.U




ไม่ขนาดนั้นม๊างงงงงงงงงงงงง

ก็อยู่นิ่งๆสิ... อย่าปล่อย Ego Wave ออกมามาก เหมือนที่ท่านเจ้าของข้อความด้านบนกำลังทำอยู่นี่ล่ะ

ไม่เห็นต้องมีใครอนุญาตเลย แสดงกันออกมาเองทั้งนั้น บาปด้วยเหรอเนี่ย...
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ที่คุณทำอยู่เค้าเค้าไม่เรียกว่า Ego Wave เหรอ?? อ่านให้มันดีๆ แล้วค่อยแสดงความคิดเห็น

มันก็เป็นรูปแบบหนึ่งนะ... ของคุณมันก็ใช่

การแสดงออกทุกอย่างก็ออกมาพร้อมกับ Ego Wave

แต่ว่า Ego ที่ประกอบด้วยอารมณ์ประเภทไหน ก็ต้องพิจาณาแยกแยะอีกที


อ่านดีแล้ว ข้อความก็ไม่ซับซ้อนนี่นะ เข้าใจไม่ยากหรอก

มีอารมณ์เหรอ หัวใจเต้นแรงหรือเปล่า ควบคุมลมหายใจเอาไว้ หายใจลึกๆ

 

ผมได้เจอท่านผู้มีความสามารถอ่านใจผู้อื่นได้จริงหลายท่านอยู่ แต่ที่ไม่จริงก็เยอะ ใครรู้จักผู้มีความสามารถอ่านจิตผู้อื่นได้จริงๆ กรุณาบอกผมด้วยครับจะเป็นพระคุณอย่างสูงยิ่งครับ

 

ทำใจให้ว่างๆกลางเวลาเจอเค้า หรือคนที่มีความสามารถทางนี้..เค้าจะอ่านคุณได้แค่ความว่างเปล่า..เท่ากับเค้าอ่านคุณไมได้เลย..ผู้ที่มีความสามารถทางนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ฝึกจิตแบบส่งจิตออกนอก เช่น กสิณ..มี 3 แบบ ที่เค้าสามารถกำหนดจิตได้ กำหนดปิด หมายถึงไม่ส่งจิตออกนอก..จะไม่รู้อะไรเลย รู้แต่ภายในตัวเองอย่างเดียว กำหนดเปิด หมายถึง เปิดจิตหมดรับรู้สภาวะจิตคนแวดล้อมได้..แต่จะพูดหรือไม่พูดเท่านั้น เปิดแบบปิดไม่ได้อะไรมีมารับได้หมด จนจิตรับไม่ทันจนเป็นไมเกรนเหมือนที่ท่านเกริ่นไว้ข้างหมด อันสุดท้ายน่ากลัวถ้าไม่แข็งพออาจเสียสติ หรืออันตรายจนถึงชีวิตได้เล่นรับลูกเดียวไม่มีกัน อันนี้เป็นกับคนใกล้ตัวคือน้องผมเอง เกิดจากของเก่าบวกการฝึกกสิณ..บางครั้งมีกระแสพลังงานที่ไม่ดีเช่น วิญญานมากระทบขอส่วนบุญรับเต็มๆเลย..ต้องทำใจเพราะทำงานในโรงพยาบาลและตังเองก้อมีทางนี้อยู่อาศัยการแผ่ส่วนกุศลและทำบุญให้วิญญานเหล่านั้นจึงอยู่ได้
ผมเองก้อมีประสบการณ์โดนอ่านเหมือนกันแต่เค้าอ่านไม่ได้เพราะเรากันได้ แนะนำลองภาวนาคาถามงกุฏพระพุทธเจ้า จะเป็นมงคลแก่ท่านเอง และที่สำคัญสามารถป้องกันการโดนอ่านใจจากผู้ที่เราไม่อยากให้อ่านได้

 

คุณต้องแข็งกับเขาให้ได้ โดยการทำสมาธิให้จิตใจแข็งกว่าคนที่มองจิตเราให้ได้

 

กลัวไปทำไมหรือ......คนที่อ่านได้เค้ารู้ขอบเขต...ยิ่งรู้หมดทั่วทั้งในหัวคุณเค้าไม่พูดออกมาหรอกถ้าคุณไม่อนุญาตหรืออยากรู้เป็นธรรมทาน หรือเพื่อการแนะนำทางออกแห่งปัญหา...ประเภทที่ว่าเรากำลังนึกภาพผู้หญิงแก้ผ้าแล้วเค้าจะเอามาแฉมานินทาหรือไปพูดต่อเป็นที่สนุกสนานขบขัน หรือเป็นเรื่องคะนองปากเค้าไม่ทำหรอก......เพราะว่ามันไร้สาระน่ะสิ.....แล้วถ้ามีคนทำแบบนั้นก็เชื่อเถอะว่าึถึงอ่านได้จริงเค้าก็เตรียมรับผลแห่งอกุศลกรรมในไม่ช้าไม่นานและจะหนักหน่วงกว่าการติฉินท์นินทาแบบธรรมดาด้วยซ้ำไปนะ...กรรมบถสิบถ้าผิดก็มีขุมนรกที่รอลงทัณฑ์อยู่แล้ว...ถ้าเอาอภิญญามาใช้ทำผิดอีกก็ยิ่งหนักนะ....ว่าแต่เธอเถิดจะกลัวไปทำไมกันเล่า....ในเมื่อเวลาเธอลำบากหรือทุกข์ร้อน คนที่เค้าอ่านใจเธอก็ไม่ได้ช่วยเธอหรือให้หนทางหรือทำให้เธอดับทุกข์ได้เสียนี่....ดังนั้นสิ่งที่เธอน่าจะกลัวควรเป็น...ความทุกข์จากการวิตกกังวลของเธอและเธอไม่คิดที่จะหาทางดับมันให้สิ้นไปมากกว่าการหลบหนีปัญหาให้มันพ้นๆหน้าไปต่างหากเล่า.....และหากชีวิตเธอไม่รับรู้ถึงการดับทุกข์รู้จักแต่เพียงการหลีกหนีปัญหา.....ชีวิตเธอนั้นช่างน่าเศร้าเหลือเกินจะบรรยายนะ...ที่อุตส่าห์เกิดมาเป็นมนุษย์ผู้สามารถเรียนรู้และขัดเกลาตนได้....แต่กลับหวาดกลัวทุกสิ่งประดุจลูกสุนัขที่กลัวแม้กระทั่งเศษกิ่งไม้ที่ตกกระทบบนหลังหูจนตัวสั่น...ไปตรึกตรองให้ดีเถิด....ว่าสิ่งใดกันที่เธอนั้นควรหวาดกลัว

 

เธอเอ๋ย.....เหรียญเองยังมีสองด้านประสาอะำไรกับมนุษย์กันเล่า.....บุคคลผู้มีอภิญญาหาใช่ว่าเค้าเหล่านั้นจะเป็นผู้หลุดพ้นบ่วงกรรมและกิเลสทั้้งปวง แต่ประการสำคัญคือตัวเธอนั้นพึงรู้ซึ่งความดี ความสงบและร่มเย็นในใจหรือยัง มองเห็นวิธีดับความกลัดกลุ้มและปัญหาในใจแล้วหรือยัง.....พึงมองให้เห็นกองไฟที่เผาสุมในใจของเธอให้ออกเสียก่อน กองไฟที่แผดเผาประหนึ่งกองฟอนที่มอดไหม้ศพให้เป็นธุลี....ประหนึ่งคำเธอที่เขียนบรรยายออกมา แม้เราก็รับรู้ถึงความคับแค้นใจและอัดอั้นของเธอ แต่การใช้วาจาเสียดแทงเพื่อความสะใจเช่นนี้ไม่เป็นการดับกองฟอนในใจเธอหรอก แต่จะยิ่งแผดเผาใจให้หนัก ปวดร้าวเร่าร้อนเพิ่มขึ้น...เพราะในความเป็นจริงแม้ว่าเธอจะใช้วาจาในการระบายความอัดอั้นแต่เธอเองก็ยังเลือกที่จะเดินหนี ผู้ที่เข้ามารุกรานจิตใจเธอเช่นนั้นมิใช่หรือ.....เธอเหนื่อยหรือยังกับการคอยระวังและหลีกหนี.....เธอเหนื่อยหรือยังกับการเอาความโกรธ ไม่พอใจมาเผาใจให้ร้อนรุ่มไปทั้งอก......สงบใจลงมา ดูให้เห็นปัจจุบัน ให้รู้ว่าเวลานี้เธอทำอะไร.......วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันคือไม่ป้องกันอะไรเลย.....เค้าอยากรู้ก็ให้เค้าสักแต่ว่ารู้ไป.....ช่างเค้าเถิด...เธอจงทำใจให้สบายว่าสิ่งใดในโลกก็ไม่ใ่ช่ของเรา...อย่าไปมัวยึดว่าเค้ามารู้ใจกู..รู้ของกู..แล้วก็จะเป็นกูที่เจ็บและจนใจเอง......เค้ารู้เรื่องเรา เราก็ไม่ตายหรอกนะ....แล้วแทนที่เราจะมาระวังไม่ให้เค้ารู้เรื่องเรา....เราลองมาระวังไม่ให้ใจเราไปสนใจเรื่องภายนอกและการรับรู้ของเค้าหรือการรุกรานในใจของเค้าดูสิ.......แล้วเธอจะเห็นได้เองว่าความอึดอัด คับแค้นและการดิ้นรนหลีกหนีจนต้องหาทางต่างๆนานาในกรระบายที่เธอนั้นทำอยู่ทุกวันนี้...เป็นอย่างทุกวันนี้....มันจะหายไปได้เองนะ.......

 

ทำตัวให้โปร่งโล่ง รู้สึกให้เหมือนสายลมพัดผ่านร่างกายเรา
เมื่อมีลมอ่อนๆพัดมา ให้โน้มใจตามกระแสลมให้พัดผ่านทะลุ

กำหนดจิตอยู่นอกกาย แลเห็นสายลมภายใน ภายนอก
เมื่อนั้นจิตก็จะอยู่เหนือธาตุขันธ์ ขณะนั้น แม้เทวดาผู้มีตาทิพย์ก็หาเราไม่เจอ
อย่าว่าแต่อ่านใจเลย เพราะขณะนั้น แม้ความคิดปรุงแต่งก็มีไม่มากอย่ามาอ่าน
ใจซะให้ยากคับ ...จบคับ ง่ายๆ

 

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->จิ-โป<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3500955", true); </SCRIPT>
สมาชิก

ทำตัวให้โปร่งโล่ง รู้สึกให้เหมือนสายลมพัดผ่านร่างกายเรา
เมื่อมีลมอ่อนๆพัดมา ให้โน้มใจตามกระแสลมให้พัดผ่านทะลุ
อืมมมมม ช่างจินตนาการดีจริงๆ...

กำหนดจิตอยู่นอกกาย แลเห็นสายลมภายใน ภายนอก
อยู่ข้างในไม่ดีแล้วเหรอ
เมื่อนั้นจิตก็จะอยู่เหนือธาตุขันธ์ ขณะนั้น แม้เทวดาผู้มีตาทิพย์ก็หาเราไม่เจอ
แจ๋วขนาดหาไม่เจอด้วย
อย่าว่าแต่อ่านใจเลย เพราะขณะนั้น แม้ความคิดปรุงแต่งก็มีไม่มากอย่ามาอ่าน
ใจซะให้ยากคับ ...
ทำไมและอะไรถึงทำให้แน่ใจว่าเป็นอย่างที่พูด ทำได้แล้ว หรือว่าเคยเป็นเทวดา ถึงได้รู้ว่าจะหาอะไรเจอหรือจะหาอะไรไม่เจอ มองเห็นหรือไม่เห็นอะไร

จบคับ ง่ายๆ
แล้วทำได้อย่างที่พูดหรือยัง ถ้าทำได้ถึงขั้นหมดปรุงแต่งก็คงจบจริงๆ

 

สวัสดีค่ะ เคยลองเดาใจคนอื่นค่ะ เดานะคะก็เหมือนหลายๆคนที่อยากลองว่าตัวเองทำได้ไหม แต่ที่เค้าว่าเสื่อมก็จริง เรื่องแบบนี้เทวดาคงไม่ชอบให้เหลวไหลหลงละเริงโอ้อวด ซึ่งมันไม่ได้มีประโยชน์ รังแต่จะพาผิดศีลขอที่สี่ มันจะทำให้การฝึกของเราไม่ก้าวหน้า เพราะต้องพยายามตั้งมั่นในศีลและละกิเลสความอยาก ไม่ง่ายแต่พยายามวกกลับมาเริ่มใหม่ได้ให้ดีขึ้น เมื่อเรามีซิกเซนคิดว่าเอาเก็บไว้ใช้เองดีกว่า ไม่เสื่อมและอ่านคนอื่นได้ก็เอามาใช้ให้เกิดประโยชน์กับตัวเองดีกว่าค่ะ อิอิ อ่ออ่านจิตเคยลองค่ะทั้งลองเองและกะผู้ที่มีตา เค้ายังบอกเลยว่า ถ้าใจเราหรือจิตไม่เปิดเค้าก็อ่านไม่ได้ และถ้าหย่อนการปฏิบัติ ไม่มีสมาธิพอเราก็อ่านไม่ถูกเหมือนกัน แต่เชื่อว่าคนที่เก่งและรู้จริงที่สำเร็จจิตไม่มีไรที่เค้าอ่านไม่ได้ แต่ก็อีกหละค่ะ อะไรก็หนีสัจธรรมของพระพุทธองค์ไม่พ้นหลอกค่ะ ทุกสิ่งล้วนอนิจจัง ไม่มีสิ่งใดแน่นอน
อนุโมทนาค่า

 

ก็อ่านใจตัวเองซ่ะก่อนสิครับ

อ่านใจตัวเองกับอ่านใจคนอื่นนิ อะไรยากกว่ากันอ่ะ

 

ง่ััะ จะกลัวทำไม

คนที่อ่านใจคนอื่นได้้เค้าไม่มาสนใจหรอกว่าคุณคิดอะไร

เพราะนั้นเป็นธรรมชาติของมนุษย์

สิ่งที่เค้าสนใจคือหาทางพ้นจากความคิดนั้นอย่างไร

 

แหม

ขอเล่าเรื่องตัวเองสักนิดนะ
ไปฝึกวิปัสสนากรรมฐานมาด้วยความเพียรอย่างยิ่งยวด

ผลก้าวหน้าเป็นที่พอใจ
บางครั้งก็ก้าวเกินอะไรๆที่เกินจะคาดเดาได้ก็มี

บางทีเผลอๆ ไม่ได้ตั้งใจ กลับอ่านใจคนในครอบครัวได้ซะอย่างงั้น

ถามว่าเราพูดไหม เราไม่พูด เพราะคนในครอบครัว ไม่มีใครศรัทธามาทางนี้เลย (พุทธนิกายอื่นค่ะ)

สรุปคือ อยากแก้ที่ไหน ถ้าอยากแก้ที่ตัวเอง ก็ฝึกสติปัฏฐาน ให้สติกลับมาระลึกรู้อยู่กับร่างกาย เมื่อกำลังของสติเข้มแข็ง เราจะไม่นึกกัลวใครมาอ่านใจ หรือใครอยากอ่านใจก็อ่านไป มันก็เรื่องของพลังงานล้วนๆ

ถ้าอยากแก้ที่คนอื่น ก็หลีกให้ไกล เลี่ยงปัจจัยทุกสิ่งที่ทำได้

แบบไหนดีกว่ากันก็ลองดู

 

ปล ลองดูกรรมฐานอื่นก็ได้นะ ตามจริตที่ชอบ ไม่จำเป็นต้องเลือกตามที่แนะนำหรอก