เรื่องเล่าลี้ลับ “ทำเนียบรัฐบาล”

เรื่องเล่าลี้ลับ “ทำเนียบรัฐบาล”

• 15 ตุลาคม 2553 เวลา 10:27 น.

<!-- end tweetmeme_button --><SCRIPT>var fbShare = {url: 'http://bit.ly/cZ7BfO' }</SCRIPT><SCRIPT src="http://widgets.fbshare.me/files/fbshare.js"></SCRIPT>
<!-- end facebook-share -->
<!-- end main-sns --><!--end articleDetailPanel-->ความน่าสะพรึงกลัว ของสถานที่แห่งนี้ มีเรื่องเล่ากล่าวขานกันมายาวนานของ “ความเงียบ” ที่แฝงอยู่ในความ “เก่าแก่” ทุกพื้นที่บริเวณภายในรั้ว

โดย..นิติพันธุ์ สุขอรุณ


เมื่อนึกถึงสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่มีอายุเก่าแก่ คงหนีไม่พ้นสถานที่สำคัญ คือ ทำเนียบรัฐบาล ที่ถูกใช้เป็นสถานที่ทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงถูกใช้เป็นสถานที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองบุคคลสำคัญจากต่างแดน บนเนื้อที่ 47 ไร่ 3 งาน 44ตารางวา

ทำเนียบรัฐบาล เดิมมีชื่อว่า บ้านนรสิงห์ เจ้าของบ้านหลังนี้ก็คือ เจ้าพระยารามราฆพ (ม.ล.เฟื้อ พึ่งบุญ) โดยได้รับพระราชทานทรัพย์จากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) ให้มาจัดสร้างอาคารและสิ่งต่างๆ โดยให้ชาวอิตาเลียน ซึ่งเป็นผู้ออกแบบสร้างพระที่นั่งอนันตสมาคมเป็นผู้สร้าง แต่ยังไม่แล้วเสร็จพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ เสด็จสวรรคต ทำให้การก่อสร้างหยุดชะงัก

เรื่องประวัติการก่อสร้างเป็นที่รู้กันแล้ว แต่เรื่องที่หลายๆคนไม่เคยรับรู้เลยคือ ความน่าสะพรึงกลัว ของสถานที่แห่งนี้ มีเรื่องเล่ากล่าวขานกันมานานของ “ความเงียบ” ที่แฝงอยู่ในความ “เก่าแก่” ทุกพื้นที่บริเวณภายในรั้ว ในจำนวนอาคารทั้งหมดนี้ ตึกที่สำคัญที่สุด เห็นจะเป็น “ตึกไทยคู่ฟ้า” แต่เดิมมีชื่อว่า “ตึกไกรสร” ด้วยสถาปัตยกรรมเป็น “เวนิเชี่ยนโกธิค” ซึ่งมีรูปแบบอย่างมาจากอาคารวังริมน้ำของเจ้าผู้ครองนครเวนิส

“ตึกนารีสโมสร” เป็นชื่อที่ถูกตั้งขึ้นใหม่ในสมัยที่ จอมพล ป. พิบูลสงคราม เนื่องจาก ท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงคราม ใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรม เดิมชื่อ “ตึกพระขรรค์” มีที่มาจาก เจ้าพระยารามราฆพ เป็นมหาดเล็กผู้เชิญพระแสงขรรค์ชัยศรี หนึ่งในเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 6 ต่อมา ในสมัย จอมพลสฤษดิ์ และ จอมพลถนอม ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ตึกบริหาร” แต่ในปัจจุบันใช้เป็นสถานที่แถลงข่าวมาหลายสมัยและที่ทำการสำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

มีเรื่องเล่ากันว่า ตึกนารีสโมสร ในช่วงแรกๆ จอมพล ป.พิบูลสงคราม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีของประเทศ ได้เคยใช้ห้องหนึ่งภายในตึกเป็นห้องนอนด้วย เนื่องจากท่านต้องทำงานจนมืดค่ำ แต่ไม่เท่านั้น ข้าราชการบางคนที่ทำงานอยู่ภายในทำเนียบที่ต้องอยู่เวรดึก ก็ได้พบเห็นสิ่งลี้ลับ

อาทิเห็นเงาที่คาดว่าเป็นผู้ชายแต่งกาย นุ่งโจงกระเบน สวมเสื้อคอปิด แขนยาว ซึ่งเป็นรูปแบบการแต่งกายของขุนนางในสมัยรัชการที่ 6 บ้างก็ว่าช่วงเวลาตีหนึ่งกว่าๆเคยเห็นถึงขนาดร่างเด็กชายไว้ผมจุก นุ่งจงกระเบน กวักมือเรียกให้มาเล่นด้วยกัน

ทำเอาขนลุกซู่ ที่รองลงมาก็เป็นเพียงการได้ยิน เสียงคนเดิน เสียงปิดประตู ก็อกแก็กต่างๆ
ยิ่งเพิ่มน่ากลัวมากขึ้นในยามค่ำคืนเข้าไปอีกเมื่อย้อนไปครั้งการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บุกยึดทำเนียบรัฐบาล ได้เกิดเหตุการณ์ยิงระเบิด เอ็ม 79 เข้าใส่ผู้ชุมนุมบริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า จนมีผู้เสียชีวิต พร้อมๆกันกับการที่การ์ดของพันธมิตร ทำคุณไสยระหว่างการชุมนุมภายในทำเนียบ ที่พบว่าสภาพขององค์ท้าวมหาพรหมบนหลังคาตึกไทยคู่ฟ้า ถูกขี้ผึ้งป้ายดวงตาและใช้แผ่นทองคำเปลวปิดทับ หนำซ้ำยังพบร่องรอยการทำพิธีทางไสยศาสตร์ และเครื่องไสยศาสตร์ลึกลับกว่า 10 จุด ซึ่งผู้ดำเนินการคงหวังผลสะกด ข่ม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบ

โดยสิ่งที่พบ อาทิ มีการนำผ้ายันต์สีดำ มาแปะติดตามอาคารต่างๆ ทั้งตึกบัญชาการ 1-2 ตึกสันติไมตรี ตึกไทยคู่ฟ้า และยังไม่เท่านั้น การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ก็ร่วมปู้ยี่ปู้ยำ ซ้ำเติมด้วยการสาดเลือด บริเวณประตูทางเข้าต่างๆรอบทำเนียบ พร้อมทั้งเล่นของเข้าใส่ทำเอา “เสื่อม”กันไปใหญ่

ดังนั้นจะเห็นได้ว่ามีความสอดคล้องกันของสิ่งลี้ลับที่แฝงอยู่ภายในทำเนียบ ทั้งนี้ไม่มีหลักฐานยืนยันที่บันทึกไว้ได้แน่ชัดว่า ร่างของผู้ชายและเด็ก ที่พบเห็นนั้นเป็นใคร และช่วงที่กลุ่มพันธมิตรชุมนุมทำไมถึงต้องทำไสยศาสตร์ แต่ที่แน่ๆเป็นที่ยอมรับของข้าราชการทั้งทำเนียบรัฐบาลและผู้สื่อข่าวจากหลายสำนัก พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สถานที่แห่งนี้ไม่ขออยู่ค้างคืนแน่นอน ไม่เชื่ออย่าลบหลู่






เรื่องเล่าลี้ลับ “ทำเนียบรัฐบาล”
<IFRAME height=61 src="http://api.tweetmeme.com/button.js?url=http%3A//http://palungjit.org/forums/เรื่องเล่าลี้ลับ-“ทำเนียบรัฐบาล”-262260.html&style=normal&b=1" frameBorder=0 width=50 scrolling=no><.12/IFRAME><IFRAME height=69 src="http://widgets.fbshare.me/files/fbshare.php?size=large&url=http://bit.ly/cZ7BfO&title=" frameBorder=0 width=53 allowTransparency scrolling=no></IFRAME>

 

ทำเนียบรัฐบาลไม่ใช่สถานที่ ที่น่าอยู่อาศัยหรือทำกิจกรรมใดๆ นะครับ

เพราะเจ้าของเค้าไม่เคยอนุญาต แต่คนรุ่นหลังใช้อำนาจเข้าไปใช้สถานที่ของเค้า นะครับ
อีกทั้งฮวงจุ้ยก็ไม่ดี แก้ยาก ตลอดจนปัจจัยอื่นๆอีกมาก

ใครจะว่าสวยดีเป็นสง่า ก็ตามแต่จะพรรณา
แต่ถ้า Nirvana เป็นนายกฯ รับรองจะไม่ใช้ที่นี่เป็นทำเนียบรัฐบาลแน่ๆ.....อิอิอิอิ

 

ทำไมพระท่านไปวิปัสนากรรมฐานที่ป่าช้าได้ล่ะครับ
อยู่ที่เจตนามากกว่า พวกนักการเมืองที่ไม่มีคุณธรรม มีเจตนาฉ้อฉล ต่างหากล่ะครับ ที่จะได้รับอันตราย
หากผู้ที่มีกุศลเจตนา อยู่ที่ไหนยังไงก็มีความสุขความเจริญครับ

 

งดงามด้วยสถาปัตยกรรมชั้นสูงค่ะ

 

สถานที่สำคัญ โบราณสถาน ผ่านกาลเวลามาช้านาน ยแต่ละยุคสมัยย่อมมีอะไรที่ผ่านมามากมาย เคารพในสถานที่เคารพในบุคคลครับ

 

สิ่งที่กล่าวมา มีที่มาที่ไปเป็นหลักฐานยืนยันไหมครับ
แต่ สิ่งเก่าๆของโบราณ ก็ต้องมีอะไรแอบแฝงเป็นเรื่องธรรมดา
คนที่เข้าไป เคยเคารพเจ้าของเก่าบางหรือเปล่า

 

อืม...กล่าวได้ดี ทำตัว ทำใจ ให้บริสุทธิ์ ทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ เพื่อประชาชนมีความสุขโดยถ้วนหน้า
หากนักการเมือง มีศีลมีธรรม ใช้พรหมวิหารธรรม บริหารบ้านเมือง สิ่งไม่ดีอันเป็นกรรมของบ้านเมืองก็จะลดน้อยลง
แล้วมีนักการเมืองกี่เปอร์เซ็น ที่ทำได้ครับ เรื่องไม่ดีทั้งหลายจึงมีมาไม่หยุดหย่อน

 

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งเลยครับผม ชอบมากๆ

ได้อะไรมากมาย...........................

 

อนุโมทนาสาธุครับ แผ่นดินทุกที่ตั้งแต่อดีตเราไม่รู้ผ่านอะไรมาบ้าง อาจจะเป็นที่ฝังศพเพราะสมัยโบราณยังไม่มีการจับจองเป็นเจ้าของที่ดินเวลามีใครตายก็อาจจะนำไปฝังที่ๆไกลๆหมู่บ้าน จะทำอะไรก็เคารพสถานที่นั้นๆไว้ด้วยครับ

 

เจ้าของคงจะหวงไม่ยอมไปไหน

 

ถ้าเขาคิดได้งี้ก็ดีสิครับ

ชอบครับ โมทนาสาธุ

 

สถานที่เก่าแก่ งดงามมากๆๆค่ะ

 

ผมว่าบ้านพิษณุโลก บ้านคู่แฝดของทำเนียบก็ขลังไม่เบานะครับ
สมัยก่อนผมเรียนพาณิชย์พระนคร เลิกเรียน 13.30น. ก็เข้าไปเล่น ไปเดินเที่ยวบ่อย ๆ
สวยงามมากครับ
ต่อมา ใช้เป็นบ้านพนักนายกฯ บูรณะใหม่ แต่ปรากฎว่าไม่มีใครอยู่ได้
ขนาดป๋าเปรมที่ว่าแน่ ๆ ยังอยู่ได้แค่คืนเดียวเอง
วันดีคืนดี ม้าทองแดงหน้าตึก ก็ร้องฮี้ กับ ๆ อยู่บ่อย ๆ
รูปปั้นพญานาค ก็เลื้อยเพ่นพานรอบ ๆ ตึก
บางทีก็เจอคนแปลก ๆ เครื่องแต่งกายสมัยเก่า เดินยั้วเยี้ยอยู่ในตึก
ยังเคยฝันไว้ว่า หากมีเงิน จะมาซื้อไว้อยู่ครับ
เรื่องที่ผมบอก หาอ่านได้ในหนังสือพิมพ์ ช่วงปี 2525-2528 ครับ

 

สถานที่สำคัญๆก็ย่อมมีผู้ที่เขาคอยคุ้มครองเป็นธรรมดา สาธุคับ
​

________________________________________________________________________

เล่ม 1. หนทางแห่งการพ้นทุกข์.rar
เล่ม 2. หนทางแห่งการบรรลุ.rar

 

อย่างนี้น่าเข้าไปลองของ ถ้าผมทำงานในนั้น จะนอนค้างให้ดู อยากลอง

 

น่ากัวจิงๆๆ

 

งดงามมากๆ แต่น่ากลัว

 

เมื่อ เร็ว ๆ นี้ ทีวี ช่อง NATION พาเข้าไปชม..........

เสียดาย หาดู ระบบ ย้อนหลัง ไม่ได้.......

 

ตอนนั้น เจ๊ไปพักที่ศูนย์อบรม พระยาดำรงค์ฯ ที่ตจว. ก็มีข้าทาสบริวาร นุ่งจงกระเบน มาแอบดูเจ๊ตอนนอนหลับเพียบเลย ยกแก๊งค์มา เหมือนจะตื่นเต้น ที่เจ๊มาเยี่ยม

ทุกที่ที่ไป ก็เจอการต้องรับขับสู้แบบนี้ เลยกลายเป็นความเคยชิน เป็นที่รู้กันว่า เวลาจัดอบรมสมมนาต่างจังหวัด ต้องจัดห้องเดี่ยวให้เจ๊นอน เพราะเพื่อนๆ ที่มานอนด้วย แตกหนีกระเซอะกระเซิงไปทุกราย เรียกว่า กลัวเจ๊มากกว่ากลัวผีอีก

เซ็งจัง