ใครมีความรู้เรื่อง"จิตสัมผัส"บ้างค่ะ

พอดีว่ามีสัมผัสแปลกๆค่ะ ถ้าเวลาที่มองใครแล้วใช่จิตโน้มเข้าไปจะสามารถสัมผัสสิ่งที่อยู่ในตัวผู้อื่นได้ เมื่อก่อนคิดว่าตัวเองจินตนาการไปเอง แต่นับวันมันก็ยิ่งสัมผัสได้ถูกต้องอย่างนี้เรียกว่า "จิตสัมผัส"รึเปล่าค่ะ

 

ปฏิบัติไปเรื่อย ๆ
ทดสอบดู พิสูจน์ว่าเป็นจริง

ให้พัฒนาให้ยิ่งขึ้น ๆ

 

รู้สึกไปเอง ไม่มีใครข้ามพ้นขีดจำกัดกายเนื้อไปได้หลอกนอกจากผู้มีบุญ

 

จิตของคุณสามารถรับคลื่นสัญญาณจิตของคนอื่นได้ครับ เพราะอนุภาคจากคนอื่นถูกส่งออกมานั้น จิตคุณเป็นตัวรับสัญญาณโดยส่งต่อไปยังสมองให้คุณเข้าใจครับ ไม่ได้เกิดกับทุกคนด้วยครับ

 

เก๋ไม่รู้จะฝึกแบบไหนค่ะ เคยนั่งสมาธิตอนเด็กๆ จะเห็นภาพของคนโบราณ พอเห็นแล้วตกใจ แต่ตอนนั้นเด็กเกินจะรับรู้ว่าคืออะไรค่ะ พอโตขึ้นสิ่งที่สัมผัสได้คือ การอ่านใจผู้อื่นค่ะ เก๋เคยลองใช้จิตสัมผัสกับผู้คนมาเยอะพอสมควร ผ่านทางโทรศัพท์ก็เคยน่ะค่ะ ปรากฎว่าสิ่งที่เก๋พูดออกไปจากการที่จิตได้สัมผัสคนผู้นั้น มันเป็นจริงทุกประการ มันเป็นเรื่องที่แปลกค่ะ เก๋ก็อธิบายไม่ได้เก๋ไม่อยากเป็นแบบนี้เลย มันเหมือนมีอะไรบ้างสิ่งบางอย่างทำให้เราต้องสัมผัสกับสิ่งที่มันเหนือธรรมชาติ และเราต้องรับรู้ เก๋จะทำให้สัมผัสพวกนี้หายไปได้ยังไงค่ะ

 

ดีชั่วที่ตัวทำ สูงต่ำที่ทำเอง

 

แนะนำว่าควรหันมาเริ่ม ปฏิบัติธรรม โดยการสวดมนต์ ภาวนา นั่งสมาธิ หากยังไม่ทราบว่าควรจะเริ่มตรงไหน หรือ ไม่เคยปฏิบัติมาก่อน... ลองแวะเข้าไปดูในกระทู้นี้ดูนะคะ ศิลามณี เห็นว่ากำลังเปิดรับสมัคอยู่พอดี

http://palungjit.org/threads/ชมรมนักปฏิบัติธรรมแห่งศินารา-ภราดรภาพ-โฉมใหม่.262616/page-5

 

ไม่น่าจะต้องกังวลนะเราว่า มันไม่ได้เป็นกันทุกคนนะแบบนี้ ถ้าเป็นจริงอย่างที่ว่า ของเก่าทำมาดี คิดว่าที่เรามีเอาไว้ช่วยคนที่เค้าเดือดร้อนดีมะ แล้วพัฒนาตัวเองขึ้นไป ลองฝึกนั่งสมาธิให้ใจสงบ เมื่อมีสมาธิบวกสติเราก็สามารถควบคุมได้ มันอยู่ที่คุณเอาจิตออกนอกมากไป อืม!!!เป็นกับทุกคนรึเปล่าละ หรือเฉพาะคนที่คุณอยากรู้เรื่องของเค้า ลองฝึกปฏิบัติดู ปรึกษาพระท่านว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไร เอาพระธรรมนำทางละกัน

 

คุณต้องฝึกสมาธิแบบอานาปานุสติ คือการกำหนดลมหายใจ ละทุกอย่างที่คุณรู้และสัมผัสได้ ไม่เช่นนั้นจะเกิดการยึดติดนานๆเข้าจะเป็นความลุ่มหลงได้ จะไม่สามารถแยกความจริงกับอุปธาน ให้พิจารณาแก่นแท้ของมันเสียก่อน แลัวสิ่งที่สัมผัสได้นั้นจะละเอียดมากขึ้น คุณก็จะสามารถใช้มันได้อย่างถูกต้องและสร้างบารมี ช่วยเหลือคนอื่นได้ และต้องรู้จักกับคำว่าอุเบกขา คือถ้ารู้เขาก็ต้องรู้กรรมของเขาด้วยไม่ทักไปมั่ว กรรมของเขาจะเข้าเราเอง ดังนั้นคุณต้องรู้ว่าควรช่วยหรือไม่ ไม่ใช่ว่าช่วยได้ทุกคนที่คุณรู้ สุดท้ายตัวเราจะลำบากเอง

 

จะนำไปปฎิบัติตามคำแนะนำของเพื่อนๆน่ะค่ะ ขั้นแรกต้องนั่งสมาธิ งั้นเก๋จะลองปฏิบัติ แต่ยิ่งนับวันมันก็ยิ่งจะเห็นจะสัมผัสมากขึ้นกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตไปแล้วเก๋จะแยกมันออกจากชีวิตยังไงค่ะ ในตัวเรามีจิตอะไรบ้างที่จะสัมผัสสิ่งต่างๆได้ เก๋กลัวคนอื่นว่าเก๋งมงาย

 

จิตสัมผัสเป็นยังไงหรอคะ

 

ต้องวางเฉยกับสิ่งที่ได้รับรู้ แล้วพิจารณาไปด้วยว่าสิ่งนั้นคืออะไร คุณไม่สามารถแยกออกจากคุณได้ แต่คุณวางเฉยได้ คุณต้องมีสติอยู่ตลอดเวลาไม่เช่นคุณจะลุ่มหลงไปกับมัน
จิตคือคลื่นพลังงานอย่างหนึ่งที่มาจากความคิดความรู้สึก มีความซับซ้อนมากปกติคนเราแยกมันไม่ออก แต่ถ้าหากทำให้สงบเช่นการทำสมาธิจะสามารถแยกออกได้ ความคิดความรู้สึกที่ครอบงำเราคือกิเลส อุปธาน จึงทำให้เราไม่สามารถมองเห็นได้ แต่ก็มีบางคนที่สามารถสัมผัสความละเอียดของพลังงานได้ เช่นคุณ พลังงานความคิดและความรู้สึกก็เป็นเหมือนคลื่นวิทยุ หากเราเป็นตัวรับที่สามารถรับคลื่นนั้นได้ ก็จะรู้ภาวะของคนอื่น แต่เป็นการสัมผัสแบบหยาบ ไม่ละเอียดเหมือนจิตที่เป็นสมาธิ

 

การนั่งสมาธิจะทำให้เก๋ไม่ลุ่มหลง และไม่อุปธาน จิตคนเราซับซ้อนจังค่ะ แต่สิ่งที่เก๋เป็นอยู่ ณ ตอนนี้เค้าเรียกว่าอะไรค่ะ และจะพัฒนาไปเพื่ออะไร แล้วเก๋จะได้อะไรบ้างค่ะ เคยมีคนลองที่จะให้เก๋ใช้จิตสัมผัสโดยการให้สื่อทางโทรศัพท์โดยการพูดคุยทางโทรศัพท์โดยที่เก๋ก้อไม่ได้รู้จักและรู้ตัวตนของเค้าพอเก๋ใช้จิตสื่อปรากฎว่ามันเห็นภาพในจิตและสามารบอกได้ค่อยข้างถูกต้องเหมือนกับว่าเก๋ไปอยู่ ณ สถานที่แห่งนั้น

 

ตอนนี้ผมคิดอะไรเอ่ย?

 

อ่านจิตคนอื่นได้ แล้วอ่านจิตคนอื่นได้ถูกต้องหรือเปล่า ไม่ใช่เขาเกลียดก็หาว่าเขารักเขาหลงนะตัวเอง

 

ก็ดีครับ มีสมาธิแบบอ่อนๆ แต่ก็อย่าสนุกมากนัก เอาใจกลับมาไว้กับตัว หมั่นทำสมาธิภาวนาให้ใจมั่นคงกว่านี้

 

ความสามารถพิเศษที่มีควรทำเพื่อเป็นการสร้างบารมี คือทำให้คนพ้นทุกข์ แต่ต้องทำด้วยปัญญา การทำสมาธิคือการทำให้เกิดปัญญา ปัญญามาจาการที่เราได้พิจารณาได้เสวนากับผู้รู้ สิ่งนี้คือปัญญา
ถ้าคุณรู้ว่าเขากำลังจะมีทุกข์หรือมีเคราะห์ คุณก็ไปคึงเขาออกมา นั่นแสคงว่าคุณทำผิด คุณอาจช่วยเขาได้ แต่คุณต้องรับใช้กรรมแทนเขา คุณยอมหรือเปล่า
แต่ถ้าคุณรู้ว่าเขากำลังมีทุกข์และมีเคราะห์ คุณก็ไปสอนให้เขารู้จักกรรม รู้จักการแผ่เมตตา เข้าไปสอนให้เขารู้จักดีชั่ว คุณก็จะเกิดบารมี เคราะห์กรรมก็ไม่มี เทวดาก็อนุโมทนา

ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าคุณเห็นคนหิวข้าวคุณก็ยื่นอาหารให้ เขาหิวเมื่อไหร่คุณก็ยื่นอาหารให้ สุดท้ายเขาก็รอพึ่งคุณอย่างเดียว
แต่ถ้าคุณสอนให้เขารู้จักทำมาหากิน เขาก็จะเป็นคนฉลาดรู้จักทำมาหากิน ไม่มาทำให้คุณเดื่อดร้อน

จะทำอย่างไรให้สิ่งที่มีอยู่กับเรา มีประโยชน์มากที่สุด และให้เกิดบารมีสูงที่สุดต่างหากที่จะต้องทำ

 

อ่านจิตตัวเองสิครับ ไปอ่านจิตคนอื่นอยู่ทำไม

 

สิ่งที่คณเป็นอยู่นั้น อาจเป็นด้วย บุญเก่า ต้องการหนุนให้คุณนั้นเพิ่มบุญ สิ่งที่คุณมีนั้นสามารถช่วยเหลือคนอื่นได้...หากคุณใช้เป็น จะเป็นกุศลยิ่ง...สาธุ

 

จิตสัมผัส

ถูกต้องแล้วครับจิตเรารู้จิตเลยสัมผัสได้ว่าอย่างนั้นจะดีกว่านะครับ