สโมสรนักบุญภูเหล่าเงินฮาง ร่วมสร้างสรรกับ คณะเบิกบาน บันเทิงบุญ(อดีตรำลึกของบุญกุศล)

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย Nar, 8 กรกฎาคม 2006.

  1. นักเดินทาง

    นักเดินทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    726
    ค่าพลัง:
    +9,112

    พักนี้ยุ่งอะครับ มาอ่านบ่อยแต่ไม่ได้โพสต์อะไร
     
  2. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    กราบโมทนาครับคุณสิทธิพงษ์ ว่าไปก่อ่นนะครับ ผมอาจมีคำถามเพิ่มอีก แต่ถ้าในตอนต่อไปถ้ามีคำตอบผมก็ไม่ถามครับ

    กราบโมทนากับคุณเม้าฯ และน้องโย ที่ให้คำตอบ น้องโตมาโต ผัด เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนด้วยนะครับ
     
  3. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    เชิญร่วมบริจาค ซื้อ พระแม่ธรณี Server...สำหรับเว็บพลังจิตและโครงการพระไตร
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ผมได้โอนเงินร่วมบริจาค ซื้อ พระแม่ธรณี Server จำนวน 508.-บาท
    เข้าบัญชี นาย ณัฐพัชร จันทรสูตร
    บัญชีเงินฝากออมทรัพย์

    เลขที่บัญชี 134 - 7 - 02014 - 9
    ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
    สาขาสะพานใหม่ ดอนเมือง

    เรียบร้อยแล้ว ตามสลิป ATM

    วันที่ 8/12/49 เวลา 13.18 น. สถานที่ A00055
    ธนาคาร 006 รหัสรายการ RFT

    ขออนุโมทนากับทุกท่านที่ร่วมบริจาคทรัพย์ ซื้อ แม่พระธรณี Server
    ช่วยกันคนละเล็กละน้อย เดี๋ยวก็สำเร็จแล้วครับ
    สาธุๆๆ
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  4. tomato_patt

    tomato_patt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +328
    ขอบคุณมากนะคะพี่โย เดี๋ยวจะทำแจกเพื่อเผยแผ่ต่อไปค่ะ
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    พระพิมพ์ที่สร้างขึ้นที่วังหน้า ,วังหลวง หรือวังหลังนั้น และเริ่มสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2400 โดยเริ่มต้นขึ้นที่วังหน้า ในช่วงต่อมาทางวังหลวงและวังหลังจึงเริ่มมีการสร้างพระพิมพ์ขึ้น โดยมีการแยกกันชัดเจนในปีพ.ศ.2415 อันเป็นปีที่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ท่านทิวงคตแล้ว โดยมีการใช้ตราครุฑ ประทับด้านหลังพระพิมพ์ เพราะฉะนั้น พระพิมพ์ที่สร้างขึ้นจากวังหน้า ที่สร้างก่อนปี พ.ศ.2415 โดยส่วนใหญ่แล้วสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสีท่านจะเมตตามาเสกให้

    การที่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ท่านเสกพระพิมพ์และวัตถุมงคลให้นั้น หากทันท่านที่ยังมีขันธ์อยู่ พลังอิทธิคุณก็จะแตกต่างจากที่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสีทิวงคตแล้ว

    ส่วนพระพิมพ์ที่สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2400 ถึง ปีพ.ศ.2428 อันเป็นปีที่ท่านเจ้า(กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ) ท่านทิวงคตนั้น คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน) หลวงปู่จะเมตตามาเสกพระพิมพ์ให้ เพียงแต่ว่า เป็นองค์ไหนมาเสกเท่านั้นเอง โดยปกติแล้ว หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร) ท่านจะเป็นผู้ที่เสกพระพิมพ์และวัตถุมงคลเป็นส่วนใหญ่ (ในความคิดเห็นส่วนตัวผมไม่น่าจะต่ำกว่าร้อยละ 95 ถ้าเป็นหลวงปู่พระอุตรเถระเจ้าเสกนั้น ประมาณร้อยละ 3 ถ้าเป็นหลวงปู่พระโสณเถระเจ้า ประมาณร้อยละ 1 ถ้าหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 องค์เสกนั้น ไม่เกินร้อยละ 1 )

    เรื่องของพระปัญจศิรินั้น หากท่านใดที่มีหนังสือวิเคราะห์พระสมเด็จและพระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่านั้น จะพอทราบเป็นเบื้องต้นว่า พระปัญจศิรินั้น ลักษณะเนื้อหา , สี นั้นในยุคแรกๆ(ที่ทันสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสียังมีชีวิตอยู่) จะมีลักษณะเป็นอย่างไร แต่หากสร้างพระปัญจศิริหลังที่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ทิวงคตแล้ว จะมีการเชิญสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี โดยท่านเป็นอทิสมันกาย มาเสกให้ในบางพิธีเหมือนกัน แต่พลังอิทธิคุณที่อยู่ในองค์พระพิมพ์หรือวัตถุมงคลจะแตกต่างกัน

    ผู้ที่จับพลังนั้น ผมเองเคยอธิบายแล้วว่า จะแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะคือ
    1.ผู้จับพลังได้
    2.ผู้จับพลังเป็น

    1.ผู้จับพลังได้นั้น เพียงแต่ทราบว่า มีพลังหรือไม่มีพลัง แต่ถ้าทราบมากไปกว่านี้ จะทราบในเบื้องต้นว่า ใครเป็นผู้เสก แต่จะไม่ทราบว่า การเสกนั้น ทันที่ท่านยังมีชีวิตอยู่หรือมรณภาพไปแล้ว
    2.ส่วนผู้ที่จับพลังเป็นนั้น จะทราบว่าใครเป็นผู้เสกพระพิมพ์ และยังทราบอีกว่า ผู้เสกนั้นยังมีชีวิตอยู่หรือมรณภาพแล้ว แต่มีบางท่านสามารถเห็นพิธีได้อีกด้วย และที่เหนือไปกว่านั้น บางท่านสามารถคุยกับองค์ผู้เสกพระพิมพ์ได้

    ผมขออธิบายย่อๆ เพียงแค่นี้ก่อนครับ

    .
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  6. oyoyo554

    oyoyo554 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    610
    ค่าพลัง:
    +9,199
    วันนี้ส่งพัสดุให้ดังนี้
    1.คุณพัฒนา ลงทะเบียน RC5327 5392 4 TH
    2.คุณสัณฐ์ ลงทะเบียน RC5327 5391 5 TH
    3.น้อง tomato_patt ลงทะเบียน RC5327 5390 7 TH

    เหลือแผ่น DVD อีก 1 แผ่นเท่านั้นจ้า

    ใครต้องการแผ่นสุดท้าย แจ้งมาได้เลย จะจัดส่งให้ค่ะ

    ช่วงหยุดยาวนี้ เพื่อนๆ พี่ๆ ท่านใดไปเที่ยวที่ไหน ก็ขอให้สนุกสนาน เดินทางปลอดภัย

    เดี๋ยวรอท่านอื่นมาคุยบ้าง
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
  8. พรหมประกาศิต

    พรหมประกาศิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,687
    ค่าพลัง:
    +13,541
    ตราที่ว่านี้ผมก็เคยเห็นครับ สมัยที่ผมไปที่ตำหนักบางขุนเทียนใหม่ๆ รู้สึกว่าจะเป็นครั้งที่สองหรือสามนี่หล่ะ เสด็จพ่อได้เรียกผมไปใกล้ๆ (ปกติผมจะนั่งห่างๆ
    คอยสังเกตุดูคนอื่น) พอเข้าไปใกล้ท่านแล้ว ท่านก็หยิบตราประจำตัวนี้มาแล้วก็เรียกหาหมึกพิมพ์จากลูกศิษย์ใกล้ชิด แล้วก็เอาตรานี้มาประทับที่หน้าผากผม
    แล้วท่านก็เรียกผมว่าลูกทุกคำ (ตอนแรกๆพูด มึง-กู ครับ) ไม่ทราบว่าผมเคยเกิดเป็นลูกท่านหรือเปล่านะ ก็สงสัยมากระทั่งทุกวันนี้แบบไม่มีคำตอบครับ

    พอผมโดนปั๊มหน้าผากแล้วผมก็ออกมาไปเข้าห้องน้ำครับ ส่องกระจกแล้วก็เอาน้ำล้าง ถูๆๆๆๆออก ไม่ให้ใครเห็นอายเขาครับ เสร็จแล้วพอเดินกลับผ่านหน้าตำหนักท่านก็ให้คนมาเรียกผมเข้าไปหาอีก แล้วก็ด่าครับทีนี้ ว่าผมล้างตราที่ประทับให้ออกทำไม ท่านว่าตรานี้ท่านไม่ประทับให้ใครง่ายๆหรอกนะ แล้วก็พูดให้คนอื่นได้ยินกันทั่วว่าผมทำยังไงบ้าง ราวกับว่าท่านตามไปดูผมที่ห้องน้ำ ท่านพูดว่า "ไอ้แว่นมันอายว่ะ มันไปห้องน้ำ เอาน้ำล้างหน้าแล้วก็ถูรอยหมึกที่กูปั๊มให้ออกใหญ่เลยว่ะ" แล้วท่านก็หัวเราะ คนฮากันตรึม ทั้งๆที่ท่านก็นั่งอยู่ในตำหนัก ไม่มีทางมองเห็นผมหรอกครับ เล่นเอาผมงงไปเลย

    และทุกครั้งที่ผมไป ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้เข้าไปหาท่านเพื่อให้ท่านช่วยเหลืออะไร เมื่อท่านเห็นผม ท่านก็จะทักว่า "ว่ายังไงลูก มาเยี่ยมพ่อเหรอ" ทำให้ผมรู้สึกทราบซึ้งมาก...รู้สึกว่าผมจะไม่ได้ไปเยี่ยมท่านนานมากแล้ว สัก 5 ปีได้แล้วมั๊ง..ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้ท่านเป็นอย่างไรบ้าง.....
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา http://www.konmeungbua.com/saha/Lung...pu_armpan.html

    ไหว้ 5 ครั้ง
    ของ
    สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวรมหาเถร)
    วัดเทพศิรินทราวาส
    ในวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง ไม่ว่าเวลาไร ตามแต่เหมาะต้องไหว้ให้ได้ 5 ครั้งเป็นอย่างน้อย ในคราวเดียวนั้น ถ้ามีดอกไม้ธูปเทียนก็บูชา ถ้าไม่มีก็มือ 10 นิ้วและปากกับใจ ควรไหว้จนตลอดชีวิต คือ
    ครั้งที่ 1 พึงนั่งกระโหย่งเท้าประณมมือว่า
    นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ฯ 3 หน แล้วว่าพระพุทธคุณ คือ
    อิติปิโส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควาติ ฯ
    หยุดระลึกถึงพระปัญญาคุณทรงรู้ดีรู้ชอบสิ้นเชิง พระบริสุทธิคุณทรงละความเศร้าหมองได้หมด พระกรุณาคุณทรงสงสารผู้อื่นและสั่งสอนให้ปฏิบัติตามของพระพุทธเจ้า จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ
    ครั้งที่ 2 ว่าพระธรรมคุณ คือ
    สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโน สนฺทิฆฐิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปนยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิญญูหีติ ฯ
    หยุดระลึกถึงคุณพระธรรมที่รักษาผู้ปฏิบัติตามไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ
    ครั้งที่ 3 ว่าพระสังฆคุณ คือ
    สุปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ อุชุปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ ญายปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ สามีจิปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฏฐปุริสปุคฺคลา เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโยทกฺขิเนยฺโย อญฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุญฺญกฺเขตฺตํ โลกสฺสาติฯ
    หยุดระลึกถึงคุณ คือ ความปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง ปฏิบัติถูก ปฏิบัติชอบ ของพระอริยสงฆ์ จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ
    นั่งพับเพียบประณมมือตั้งใจถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะไม่ถือสิ่งอื่นยิ่งกว่าจนตลอดชีวิต ว่าสรณคมน์ คือ
    พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ
    ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ
    สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ
    ทุติยมฺปิ พุทธํ สรณํ คจฺฉามิ
    ทุติยมฺปิ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ
    ทุติยมฺปิ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ
    ตติยมฺปิ พุทธํ สรณํ คจฺฉามิ
    ตติยมฺปิ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ
    ตติยมฺปิ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ

    ครั้งที่ 4 ระลึกถึงคุณมารดาบิดาของตน จนเห็นชัดแล้ว กราบลงหน 1 ฯ

    <CENTER><TABLE style="FONT-SIZE: 14pt; FONT-FAMILY: CordiaUPC, BrowalliaUPC, MS Sans Serif" width="50%" bgColor=#66ffff border=0 font><TBODY><TR><TD>ข้า ฯ ขอ</TD><TD>กราบไหว้คุณ</TD><TD>ท่านบิดา</TD><TD>และมารดา</TD></TR><TR><TD>เลี้ยงลูก</TD><TD>เฝ้ารักษา</TD><TD>แต่คลอดมา</TD><TD>จึงเป็นคน</TD></TR><TR><TD>แสนยาก</TD><TD>ลำบากกาย</TD><TD>ไป่คิดยาก</TD><TD>ลำบากตน</TD></TR><TR><TD>ในใจ</TD><TD>ให้กังวล</TD><TD>อยู่ด้วยลูก</TD><TD>ทุกเวลา</TD></TR><TR><TD>ยามกิน</TD><TD>พอลูกร้อง</TD><TD>ก็ต้องวาง</TD><TD>วิ่งมาหา</TD></TR><TR><TD>ยามนอน</TD><TD>ห่อนเต็มตา</TD><TD>พอลูกร้อง</TD><TD>ก็ต้องดู</TD></TR><TR><TD>กลัวเรือด</TD><TD>ยุงไรมด</TD><TD>จะกวนกัด</TD><TD>รีบอุ้มชู</TD></TR><TR><TD>อดกิน</TD><TD>อดนอนสู้ </TD><TD>ทนลำบาก</TD><TD>หนักไม่เบา</TD></TR><TR><TD>คุณพ่อ</TD><TD>แม่มากนัก</TD><TD>เปรียบน้ำหนัก</TD><TD>ยิ่งภูเขา</TD></TR><TR><TD>แผ่นดิน</TD><TD>ทั้งหมดเอา</TD><TD>มาเปรียบคุณ</TD><TD>ไม่เท่าทัน</TD></TR><TR><TD>เหลือที่ </TD><TD>จะแทนคุณ </TD><TD>ของท่านนั้น </TD><TD>ใหญ่อนันต์</TD></TR><TR><TD>เว้นไว้ </TD><TD>แต่เรียนธรรม์ </TD><TD>เอามาสอน</TD><TD>พอผ่อนคุณ</TD></TR><TR><TD>สอนธรรม</TD><TD>ที่จริงให้ </TD><TD>รู้ไม่เที่ยง</TD><TD>ไว้เป็นทุน</TD></TR><TR><TD>แล้วจึง</TD><TD>แสดงคุณ </TD><TD>ให้เห็นจริง</TD><TD>ตามธรรมดา</TD></TR><TR><TD>นั่นแหละ</TD><TD>จึงนับได้ </TD><TD>ว่าสนอง</TD><TD>ซึ่งคุณา</TD></TR><TR><TD>ใช้ค่า</TD><TD>ข้าวป้อนมา</TD><TD>และน้ำนม</TD><TD>ที่กลืนกิน ฯ</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </CENTER>ครั้งที่ 5 ระลึกถึงคุณของบรรดาท่านผุ้มีอุปการคุณแก่ตน เช่น พระมหากษัตริย์และครูบาอาจารย์ เป็นต้นไป จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ

    <CENTER><TABLE style="FONT-SIZE: 14pt; FONT-FAMILY: CordiaUPC, BrowalliaUPC, MS Sans Serif" width="50%" bgColor=#66ffff border=0 font><TBODY><TR><TD>ข้า ฯ ขอ</TD><TD>นอบน้อมคุณ</TD><TD>แด่ท่านครู </TD><TD>ผู้อารี</TD></TR><TR><TD>กรุณา</TD><TD>และปรานี</TD><TD>อุตส่าห์สอน</TD><TD>ทุก ๆ วัน</TD></TR><TR><TD>ยังไม่รู้ </TD><TD>ก็ได้รู้ </TD><TD>ส่วนของครู</TD><TD>สอนทั้งนั้น</TD></TR><TR><TD>เนื้อความ</TD><TD>ทุกสิ่งสรรพ์</TD><TD>ดีชั่วชี้ </TD><TD>ให้ชัดเจน</TD></TR><TR><TD>จิตมาก</TD><TD>ด้วยเอ็นดู</TD><TD>อยากให้รู้</TD><TD>เหมือนแกล้งเกณฑ์</TD></TR><TR><TD>รักไม่</TD><TD>ลำเอียงเอน</TD><TD>หวังให้แหลม</TD><TD>ฉลาดคม</TD></TR><TR><TD>เดิมมืด</TD><TD>ไม่รู้แน่</TD><TD>เหมือนเข้าถ้ำ</TD><TD>เที่ยวคลำงม</TD></TR><TR><TD>สงสัย</TD><TD>และเซอะซม</TD><TD>กลับสว่าง</TD><TD>แลเห็นจริง</TD></TR><TR><TD>คุณส่วน</TD><TD>นี้ควรไหว้ </TD><TD>ยกขึ้นไว้ </TD><TD>ในที่ยิ่ง</TD></TR><TR><TD>เพราะเรา</TD><TD>พึ่งท่านจริง</TD><TD>จึงได้รู้ </TD><TD>วิชาชาญ ฯ</TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

    บทประพันธ์สรรเสริญ
    คุณมารดาบิดา และ ครูบาอาจารย์
    ของ
    ท่านอาจารย์ จางวางอยู่ เหล่าวัตร
    วัดเทพศิรินทราวาส
    ลิขสิทธิ์เป็นของ
    ท่านเจ้าคุณพระโศภนศีลคุณ (หลวงปู่หลุย พาหิยาเถร)
    วัดเทพศิรินทราวาส
    ต่อไปนี้ไม่ต้องประณมมือ ตั้งใจพิจารณาเรื่อง และร่างกายของตนว่า จะต้องแก่ หนีความแก่ไปไม่พ้น จะต้องเจ็บ หนีความเจ็บไปไม่พ้น จะต้องตาย หนีความตายไปไม่พ้น จะต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งสิ้น มีกรรมเป็นของตัว คือ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นอนิจจังไม่เที่ยง ไม่แน่นอน เป็นทุกข์ลำบากเดือดร้อน เป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของตน ฯ ครั้งพิจารณาแล้ว พึงแผ่กุศลทั้งปวงมีการกราบไหว้เป็นต้นนี้ อุทิศให้แก่ท่านผู้มีคุณมีมารดาบิดา เป็นต้น ตลอดจนชั้นสูงสุด คือพระมหากษัตริย์ ทั้งเทพยดามนุษย์และสัตว์ทั้งหลายว่า จงเป็นสุข ๆ อย่ามีเวรมีภัยเบียดเบียนกันและกัน รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด ฯ
    การไหว้ 5 ครั้งนี้ ถ้าวันไหนขาด ให้ไหว้ใช้ 5 ครั้งในวันรุ่งขึ้น ถ้านั่งกระโหย่งเท้าไม่ได้ ก็นั่งพับเพียบ ถ้าไม่ได้ ก็นอนไหว้ เมื่อยกมือไม่ขึ้น ก็ปากกับใจ ถ้าทำได้อย่างนี้เป็นเครื่องพยุงตนให้เป็นคนดี ไม่ให้เป็นคนชั่ว และให้ตั้งอยู่ในที่ดี ไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว ถ้าผู้ใดประพฤติได้เสมอตลอดชีวิต ผู้นั้นจะอุ่นใจในตัวของตัวเอง มีความเจริญงอกงามไพบูลย์ยิ่ง ๆ ขึ้นเสมอทุกคืนทุกวัน คุ้มครองป้องกันภยันตรายปราศจากความเสียหายที่ไม่เหลือวิสัย และ ตั้งตัวได้ในทางคดีโลกและทางคดีธรรม เต็มภูมิเต็มขั้นของตน ๆ ทุกประการ จบเท่านี้ ฯ
    แม่เฒ่าปักษ์ใต้
    วิชาโลกเรียนเท่าไรไม่รู้จบ
    เพราะพิภพกลมกว้างใหญ่ลึกไพศาล
    วิชชาธรรมเรียนแล้วทำจนชำนาญ
    ย่อมพบพานจุดจบสบสุขเอย
    พระภาวนาปัญญาวิสุทธิ์
    ความไม่พอพาจนเป็นคนเข็ญ
    พอแล้วเป็นเศรษฐีมหาศาล
    จนทั้งนอกจนทั้งในไม่ได้การ
    ต้องคิดอ่านแก้จนเป็นคนพอ
    เจ้าคุณนรรัตนราชมานิต
    ผิดหนึ่งพึงจดไว้ในสมอง
    เร่งระวังผิดสองภายหน้า
    สามผิดเร่งคิดตรองจงหนักเพื่อนเอย
    ถึงสี่อีกที่ห้าหกซ้ำอภัยไฉน
    คัดมาจากหนังสืออนุสรณ์ ธมฺมวิตกฺโกภิกฺขุ พระยานรรัตนราชมานิต (ตรึก จินตยานนท์)
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา http://www.konmeungbua.com/saha/Lung...pu_armpan.html

    คำเตือนสติและโอวาทของท่านธมฺมวิตกฺโก
    จากพระภาวนาปัญญาวิสุทธิ์

    เห็นเสือหมอบ อย่าเชื่อ ว่าเสือไหว้
    เผลอเมื่อไร เสือกิน สิ้นทั้งขน
    เป็นคนต้อง เกรงเยงยำ น้ำใจคน
    เขาถ่อมตน อย่าเหมา ว่าเขากลัว
    เขาไม่สู้ อย่าเหมา ว่าเขาแพ้
    คชสีห์แท้ หรือจะสู้ หมูชั่ว
    วางตนสม คมประจักษ์ ในฝักตัว
    ชาติคนชั่ว หลบลู่ อย่าสู้มัน
    เมื่อน้ำไหว ไหลเชี่ยว เป็นเกลียวกล้า
    เอานาวา ขวางไว้ ภัยมหันต์
    เรื่องของคน ปนยุ่ง นังนุงครัน
    ต้องปล่อยมัน เป็นไป ใจสบาย
    อวดฉลาด พูดออก บอกว่าโง่
    ฟังเขาโอ้ อวดอ้าง อย่าขวางเขา
    ขัดคอเขา เขาโกรธ พิโรธเรา
    เป็นเรื่อง เร่าร้อนใจ ไม่เป็นการ
    ใครมีปาก อยากปูด ก็พูดไป
    เรื่องอะไร ก็ช่าง อย่าฟังขาน
    เราอย่าต่อ ก่อก้าว ให้ร้าวราน
    ความรำคาญ ก็จะหาย สบายใจ
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, พรหมประกาศิต </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ผมง่วงแล้วละน้าแผน กินกาแฟก็แล้ว ยังไม่หายง่วง ผมไปนอนก่อนละ ราตรีสวัสดิ์ครับน้า

    .
     
  12. พรหมประกาศิต

    พรหมประกาศิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,687
    ค่าพลัง:
    +13,541
    แวะมากินกาแฟตอนเช้าสักหน่อยครับ จากรูปนี่ของโปรดสมัยผมเด็กๆทั้งนั้นเลยครับ คุณหนุ่มกับผมนี่รุ่นเดียวกันเลยครับ คาดว่าน้องโยคงไม่เคยเห็น
    ให้ลองทายสิครับว่าอะไรอยู่ในกล่องตราแมวเหยียบเครื่องบิน ผู้อายุเกิน 35 ปี
    ห้ามทายครับ
     
  13. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    โหโห..... ระลึกย้อนอดีตกันน่าดู เชียวนะ
    เข้าตำรา หนุ่มสาว คิดนึกถึงอนาคต เฒ่าชะแลแก่ชรา นึกคิดถึงอดีต
    555555555555555555555555

    [​IMG]กล่องนี้เขาเรียกกล่องน้ำเต้า
    พอแกะขนมข้างในออกมากินแล้ว ก็จะเอากล่องน้ำเต้า หอย ปู ปลา
    เอาไปโยน เล่น ใครเลือกสัตว์ ตัวไหน ถ้าออกตัวนั้น ก็ได้ตังส์ใช้ อิอิ


    ยุคนั้น หมากฝรั่ง ออกมาเยอะ เวลาไปดูหนัง มักจะเจอหมากฝรั่งติดอยู่ที่เก้าอี้ ใครไม่ทันระวัง ติดกางเกงหนึบ มันแกล้งกันขนาดนี้เลยครับ
    เด็กสมัยนั้นก็เลยด่าเก่ง 5555555
    [​IMG]เด็กสมัยนั้น ได้เท่ห์ เลียนแบบผู้ใหญ่
    ก็มาจากกล่องนี้อะครับ

    ขอบคุณคุณสิทธิพงศ์ ที่ทำให้รู้ว่า พวกเรา รวมน้าพรหมฯ ที่ประกาศตัวแล้วเป็นรุ่นราวคราวเดียวกัน
    ไชโย มีเพื่อนร่วมรุ่นแล้ว หะหะหะ
    (b-oneeye)
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรื่องของคุณ ( ต่อ 3 ) โดยปรัศนี ประชากร<O:p</O:p



    ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร สงวนลิขสิทธิ์<O:p</O:p

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    พระพุทธคุณ<O:p</O:p

    เมื่อได้กล่าวถึงอริยคุณ อรหัตคุณ เป็นพื้นฐานแล้ว ต่อไปจะได้จำกัดความของคำว่า “ พุทธคุณ “ อันคือ พระบริสุทธิคุณ พระปัญญาธิคุณ และพระมหากรุณาธิคุณ ซึ่งเป็นคุณโดยเฉพาะของพระพุทธเจ้า พระอรหันตาเจ้าและพระปัจเจกโพธิ์เจ้ายังมีคุณไม่เท่าเทียม พระปัจเจกโพธิ์เจ้าไม่สามารถสั่งสอนสัตว์โลกได้ พระอรหันตาเจ้าก็มีถึง 6 ประเภท มีคุณต่างกันไม่เป็นมาตรฐานเพียงแต่สิ้นอาสวิวิสัยสังโยชน์เหมือนกันเท่านั้น พระพุทธองค์ตรัสรู้พระสัทธรรมอันขาวสะอาดขัดเกลากิเลสตัดอนุสัยสังโยชน์เครื่องร้อยด้วยเจโตวิมุต และปัญญาวิมุตเรียกว่าอุภโตภาควิมุต และสั่งสอนเวไนยสัตว์ให้บรรลุถึงอรหัตผลได้จำนวนมากพระองค์คิดค้นทั้งภาคปฏิบัติและภาคทฤษฎี ได้โดยไม่มีครูสั่งสอน พระปัญญาธิคุณนั้นทรงสัพพัญญารู้แจ้งแทงตลอดในสัจจธรรมทั้งหลายทั้งปวง โลกะวิทู แจ้งโลกเป็นครูของมนุษย์ เทวดา ตลอดทั้งอินทร์พรหม ตามพระบาลีกล่าวถึงแสงสว่างแห่งดวงปัญญา เช่นในการระลึกชาติไว้ดังนี้
    <O:p</O:p
    ความสว่างไสวในการระลึกชาติได้ แห่งโยคีและพระฤาษีซึ่งเป็นเยรถีย์ภายนอกพระพุทธศาสนานั้น ย่อมเปรียบได้กับรัศมีสีแสงแห่งหิ่งห้อย<O:p</O:p
    ความสว่างไสวในการระลึกชาติได้ แห่งพระปรกติสวกทั้งหลาย ย่อมเปรียบได้กับเสงสว่างแห่งแสงประทีป<O:p</O:p
    ความสว่างไสวในการระลึกชาติได้ แห่งพระอสิติมหาสวกทั้งหลาย ย่อมเปรียบได้กับแสงสว่างแห่งคบเพลิง<O:p</O:p
    ความสว่างไสวในการระลึกชาติได้ แห่งพระอัครสาวกทั้งหลาย ย่อมเปรียบได้กับแสงสว่างแห่งดาวประกายพรึก<O:p</O:p
    ความสว่างไสวในการระลึกชาติได้ของแห่งพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย ย่อมเปรียบได้กับแสงสว่างแห่งดวงจันทร์เจ้า<O:p</O:p
    ความสว่างไสวในการระลึกพระชาติได้ แห่งองค์สมเด็จสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายย่อมเปรียบได้กับแสงสว่างแห่งพระสุริยมณฑลอันแจ่มแจ้งในสรทกาล ซึ่งตระการไปด้วยรัศมีเป็นอันมาก<O:p</O:p
    สำหรับพระมหากรุณาธิคุณไม่มีกล่าวไว้สำหรับพระอรหันต์ เว้นแต่ท่านจะปารถนาพระพุทธพระพุทธเจ้าทุกพระองค์เป็นพระนิยตโพธิสัตว์มาก่อน โพธิกิจของพระองค์จึงหาที่อุปมามิได้ ด้วยปณิธาณที่จะรื้อสัตว์ขนสัตว์ให้พ้นจากโอฆะสงสาร และบำเพ็ญเพียรมานานนับชาติไม่ถ้วนอย่างนี้แล้ว อิฐ หิน ดิน ปูน โลหะ อันจัดอยู่ในประเภทเครื่องรางของขลัง เหตุใดจึงเรียกกันว่ามีพุทธคุณซึ่งพิจารณาดูแล้ว เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ชนชาวพระเครื่องไม่ได้ศึกษาธรรมะ ไม่สนใจในพระพุทธศาสนาจึงไม่สามารบัญญัติติศัพท์ที่ถูกต้องได้ ทั้งไม่คิดจะแก้ไขอีกด้วย
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    (เป็นความเชื่อ – ความคิดเห็นส่วนบุคคล(ของคณะลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร ท่านผู้อ่านอ่านแล้วก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละบุคคล)

    <O:p</O:p**********************************************************<O:p
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรื่องของคุณ ( ต่อ 4 ) โดยปรัศนี ประชากร<O:p</O:p


    ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร สงวนลิขสิทธิ์<O:p</O:p

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เอกคุณ<O:p</O:p

    ทีนี้จะกล่าวถึงพระเครื่องบ้างละ คำว่าเอกคุณไม่เคยใช้กันมาก่อนและก็ไม่จำเป็นที่จะใช่เว่นในกรณียพิเศษซึ่งหาคำใดเหมาะสมกว่านี้ไม่ได้ “ เอกคุณ “ คือคุณที่จัดเป็นเด่นเป็นเอกลักษณ์ของพระเครื่องชนิดใดชนิดหนึ่ง ซึ่งก็เป็นไปในด้านของนาม พระเครื่องนั้นโดยปกติย่อมมีรุณสมบัติหลายประการด้วยกัน แต่ชาวพระเครื่องมักจะมองในจุดเด่น เช่นพระรอดมีเอกคุณในด้านแคล้วคลาด ขึ้นชื่อว่าพระรอดไว้ว่ากรุใดย่อมมีความดีเด่นในด้านแลัวคลาดส่วนใหญ่ แต่ส่วนอื่นของท่านก็ไม่ต่ำกว่า 3 อย่าง พระหลวงพ่อหรือหลวงพ่อโป้มีเอกคุณทางชาตรี ทนตะพดดีนัก ส่วนแคล้วคลาด คงกระพัน มหาอุดบางกรุก็มี พระกริ่งคลองตะเคียน เอกคุณทุกองค์ดีทางคงกระพัน นอกนั้นให้สังเกตตัวนะอักรวิเศษที่ลงด้านหลัง เช่นนะคนึงหา จะดีดเด่นทางเสน่ห์ นะหน้าทอง จะดีเด่นทางมหานิยม แต่จุดยืนคือ คงกระพัน ที่สมมุติจุดยืนผิดคือพระนางพญาพิษณุโลกกรุแรก เป็นพระหน้าศึก ไม่มีเมตตามหานิยม มีแต่คงกระพันลูกเดียว<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    (เป็นความเชื่อ – ความคิดเห็นส่วนบุคคล(ของคณะลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร ท่านผู้อ่านอ่านแล้วก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละบุคคล)

    <O:p</O:p**********************************************************
    <O:p</O:p
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมยังวัยรุ่นอยู่นาคร๊าบ ผมต้องยกย่องลุงเม้า กับน้าแผน เป็นผู้อาวุโส อิอิอิ (deejai)
     
  17. oyoyo554

    oyoyo554 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    610
    ค่าพลัง:
    +9,199
    [​IMG]

    เห็นรูปขนมทั้งหมดที่นำมาโพสไว้แล้ว แว่บแรกเห็น รู้สึกนึกถึงตอนเป็นเด็ก เรียนอยู่ประมาณ ป.4 ตอนนั้นจำได้ว่าฮิตมากเลย

    มีทั้งหมากฝรั่ง(ที่เห็นในรูป ทำเลียนแบบกล่องบุหรี่ แต่ด้านในเป็นมวนๆๆ เหมือนบุหรี่ แต่ที่จริงเป็นหมากฝรั่ง) อันนี้ก็เคยซื้อมาทาน

    สมัยก่อนจะมีร้านค้า ไว้หลอกเด็ก จะมีขนมแบบนี้แหละ และมีโหล ที่ด้านในใส่พวกถั่ว และมีไข่พลาสติก พอหยอดเหรียญและหมุน ของในโหลก็จะไหลออกมา ไว้ลุ้นว่ามีอะไรบ้าง

    อันนั้นคือความทรงจำในวัยเด็ก

    แต่ในปัจจุบัน เด็กๆ เค้าทานอะไรกัน ขนม ส่วนใหญ่เป็นพวก อากิโกะ แบบของญี่ปุ่น และพวกขนมถุงกรอบ อะไรประมาณนี้มั้ง

    [​IMG]

    ส่วนเกมกดนั้น เป็นยุคแรกๆๆ เลยมั้ง เห็นแล้วจำได้ว่า เคยขอยืมเพื่อนเล่น(เพราะตัวเองไม่มี) เคยเล่นเกมคิงคอง สนุกดี สมัยนี้ใครเล่นแบบนี้คงเรียกปู่แน่ๆๆ อิอิ

    [​IMG]

    ส่วนตัวตุ๊กตุ่น ตุ๊กตา เคยเห็นเพื่อนผู้ชาย เค้าจะเล่นทอยตุ๊กตากัน ก็เคยเล่นเหมือนกัน หุหุ

    สรุปว่า เห็นแล้ว ก็นึกเห็นภาพในวัยเด็ก เหมือนกับเรื่องบุญเรื่องกุศล(ขอกลับเข้ามาเรื่องนี้) เราทำบุญใดไว้ ไม่เคยจด แต่จะจำได้บางอย่าง บางเรื่อง แต่จิตมีสภาพจำ จะจำเอาเรื่องที่เราได้ทำไว้ ไม่ว่าดีหรือไม่ดี

    อย่างงานบุญที่วัดภูเหล่าเงินฮางนี้ ขอเรียนว่า ติดตาตรึงใจ ไม่มีลืม โดยเฉพาะมีการถ่ายวีดีโอ ไว้ด้วย คิดถึงเมื่อไร นำออกมาดู ก็นึกถึงบุญอยู่เสมอ

    ดังนั้น ตอนนี้เหลือแผ่น ดีวีดี ที่พี่ณรงค์ส่งมาให้ มีสกรีนหน้าแผ่นสวยงาม เหลือ 1 แผ่น ท่านใดต้องการก็แจ้งมานะคะ จะจัดส่งให้ค่ะ

    สโมสรแห่งนี้ สนุกสนานและมีประโยชน์ ท่านใดมีข้อมูลอะไรดี ก็นำมาโพสให้อ่านกันนะคะ

    ใกล้เที่ยงแล้ว ขอตัวไปธุระก่อน ไว้มาใหม่ค่ะ
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948

    อ้าว คุณโย ก็รุ่นเดียวกับลุงเม้า ,น้าแผนละซิเนี่ย อย่างนี้ต้องเรียกน้าโยแล้ว (verygood)
     
  19. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    555 เป็นน้องพี่อยู่ดีๆ เขาให้กลายเป็นน้าไปแย้ว (f)
     
  20. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
     

แชร์หน้านี้

Loading...