สวดมนต์แล้วจู่ ๆ ตัวก็สั่น.. ช่วยแนะนำเราด้วยนะคะ

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย mhutom, 14 ธันวาคม 2010.

  1. mhutom

    mhutom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    130
    ค่าพลัง:
    +264
    สวัสดีค่ะทุกท่าน

    เล่าเลยนะคะ..
    เมื่อคืนเราไหว้พระ ก็สวดมนต์ปกติ แต่พอตอนแผ่เมตตา อธิฐาน เกือบจบ จู่ ๆเราก็รู้สึกว่า ใจเต้นแรง ตัวเบา เหมือนมีอะไรสักอย่างมาทำให้เรารู้สึกว่า จะเป็นลม ใจเต้นแรง เสียงที่เคยเปล่งออกมาดังๆ เริ่มสั่นเครือขาด ๆหาย ๆ (ตอนนั้นหลับตา ) .. พอเสียงเริ่มไม่ไหว ก็เลยกลัว ตัวสั่น ก็อุทิศในใจ แล้วก็พร่ำไปเรื่อย ขอคุณพระคุ้มครองมั่ง อ้างหลวงพ่อที่เคารพ และสุดท้ายก็บอกว่า ไม่รู้ว่าตัวเองได้ไปทำอะไรผิดไว้รึเปล่า เราขอขมา ก็วกไปวกมา สับสน ไม่ได้กลัว แต่ก็ไม่รุ้ว่าตัวเองเป็นอะไร(ตามจริงเราก็มีบทสวดขอขมาอยู่แล้ว ) ก็ผ่านไปได้สัก 2-3 นาที ก็ดีขึ้นบ้าง แต่ยังสั่นอยู่ " จากนั้นก็สวดบท ขมา อโหสิกรรม ตามปกติ

    เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ... ผู้รู้ช่วยชี้ทางสว่างให้เราทีเถอะค่ะ
    อ้อลืมบอกไปว่า สวดเสร็จ หันมาดูนาฬิกา ก็ประมาณ เที่ยงคืนนิด ๆ...
     
  2. ลุงเจ

    ลุงเจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    463
    ค่าพลัง:
    +598
    สวดไปเรื่อยๆครับ ไม่ต้องสนใจ ในสิ่งที่เกิดขึ้น

    เพียงแค่จิตสัมผัสกับธรรมะได้
     
  3. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,275
    ค่าพลัง:
    +82,733
    ติงไม่เคยเป็นแบบนี้สักที
    ไม่เป็นไรหรอกนะคะ อย่ากลัวไปเลย
     
  4. nuttyty

    nuttyty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    198
    ค่าพลัง:
    +579
    สวดมนต์ไปเรื่อย ๆ ครับ พระท่านคุ้มครองเราอยู่ ไม่ต้องกลัวครับ สำหรับผมก็เคยเป็น แค่ขนลุก หนาว ๆ ขึ้นมา ช่วงสวดมนต์ครับ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพียงเรามั่นคงและตั้งใจที่จะสวดมนต์ไม่มีอะไรจะมาขัดขวางได้ครับ
     
  5. สายฝนฉ่ำเย็น

    สายฝนฉ่ำเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,474
    ค่าพลัง:
    +7,070
    ค่ะ สวดไปเรื่อยๆ ค่ะ หลังจากเสร็จแล้ว ควรแผ่เมตตาด้วยนะคะ ทำบ่อยๆ ค่ะ
    ก็จะไม่เป็นอีกค่ะ .... สาธุด้วยนะคะ
     
  6. jinautha

    jinautha สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +1
    ค่ะ ก็เป็นอีกคนที่รู้สึกเช่นกัน ก็พยายามตั้งจิตสวดมนต์แผ่เมตตา แล้วก็ทำบุญใส่บาตรด้วย เวลาสวดมนต์จะเป็นเวลาที่เรามีสมาธิมากที่สุด บ้างก็รับรู้ อาจจะอยู่ที่สภาพแวดล้อม และจิตใจของเราด้วย ก่อนนอนก็ท่องบท ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก และ คาถาชินบัญชร ด้วย จะทำให้รู้สึกดีขึ้น และหลับสบายด้วยค่ะ (ทำเป็นประจำทุกคืนจะดีมากค่ะ)
     
  7. Pariyawit

    Pariyawit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2008
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +777
    อย่างนี้ต้องเน้นขั้นตอนหน่อยครับ คือ
    1. ก่อนสวด ให้ตั้งจิตบอกกล่าว พระรัตนตรัย บิดามารดา ครูบาอาจารย์และเทพยดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายก่อนว่า จะเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อบูชาพระรัตนตรัย ขอให้ทุกรูปทุกนามรับรู้และร่วมโมทนาครับ
    2. สวดมนต์ตามปกติ
    3. เมื่อสวดเสร็จแล้ว ให้กล่าวบทขอขมา และขออโหสิกรรมต่อพระรัตนตรัย บิดามารดา ครูบาอาจารย์และเทพยดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย และที่สำคัญเจ้ากรรมนายเวร ครับ
    4. แล้วค่อยแผ่เมตตา ครับ
    5. อธิษฐานตามประสงค์ได้เลยครับ


    โมทนา สาธุ นะครับ ^^
     
  8. Chanko.8

    Chanko.8 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    338
    ค่าพลัง:
    +88
    เคยเป็นคล้ายๆกันครับ... แต่ผมจะขนลุก เสียงสั่น เคยสอบถามพี่ๆ ที่นับถือ ท่านบอกว่า "อาจเกิดจากการที่จิตเราสัมผัสกับดวงวิญญาณที่มารอรับบุญกุศลที่เราแผ่เมตตาให้"
    ซึ่งก็ไม่จำเป็นต้องตกใจอะไรครับ.. เค้ามารับ..รับแล้วก็ไปเท่านั้นเอง..

    อ้อ.. มีคำที่ผมกล่าวก่อนสวดมนต์มาแนะนำด้วยครับ เผื่อสนใจนำไปกล่าวด้วย

    "ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าพเจ้า (นาย/นาง/นางสาว .. ชื่อ-สกุล) เป็นผู้ไม่มีฤทธิ์ ไม่มีเดช ไม่มีเจโตปริยญาณ ไม่มีหูทิพย์ ไม่มีตาทิพย์ ข้าพเจ้า ขอเมตตาบารมีสวดพระคาถา (คาถาที่จะสวด) และพระคาถาอันเป็นมหามงคล หาก ณ สถานที่แห่งนี้ มีสัตว์ในโลกทิพย์ โปรดมาร่วมรับฟังและร่วมอนุโมทนา และขออย่าได้รับความเดือดร้อนจากการสวดพุทธมนต์ในครั้งนี้ด้วยเทอญ... สาธุ."
     
  9. mhutom

    mhutom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    130
    ค่าพลัง:
    +264
    ขออนุโมทนากับคำแนะนำของทุกท่านด้วยนะคะ ... เราพร้อมน้อมรับไปปฏิบัติ
    จริง ๆเรื่องขนลุกขนพอง เราเป็นวันนึง ก็หลายหน เกือบตลอดเวลา เป็นแบบนี้มาได้ ปีเศษ ๆ เราก้ไม่รู้ว่าเป็นอะไร แต่ก็จะพยายามตั้งสติกำหนดรู้เท่าที่ทำได้...
    ยังไงขอบคุณทุกท่านด้วยนะคะ สาธุ
     
  10. Noppy_

    Noppy_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2006
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +227
    อาการนี้เป็นเหมือนกันนะ แล้วโปรดสังเกตุดูที่แขนทังสองข้างนะ
    มันเหมือนกากเพชรที่ละเอียดมากอยู่ทั่วแขน ดูตอนกลางวันจะเห็นชัดเลยอ่ะคับ
    นี่คงเป็นอีกอาการกระมัง ^_^
     
  11. biww

    biww เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +202
    เค้าเรียกว่าปีติครับ
    ปีติ มี ๕ อย่าง
    ๑.ขุททกาปีติ ปีติเล็กน้อย เช่น ขนลุก น้ำตาไหล ตัวสั่น
    ๒.ขณิกปีติ ปีติชั่วขณะ มีอุปมาเหมือนสายฟ้าแลบ เห็นแสงพุ่งไปมา
    ๓.ผรณาปีติ ปีตีซาบซ่าน เอิบอาบไปทั้งตัว ตัวขยาย ตัวหด ตัวเอียง
    ๔.โอกกันติกาปีติ ปีติเหมือนระลอกคลื่นซัดเข้าหาฝั่ง ตัวหมุน ตัวเบา บางคนเหมือนนั่งอยู่ในเรือ
    ๕.อุเพงคาปีติ คือ ปีติโลดโผน เกิดกับผู้มีบุญบารมีเก่าดี เช่น ตัวลอย หายตัวไปในที่ที่คิดถึง กำหนดถึง ปีตินี้ หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล พระอาจารย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านมีอุเพงคาปีติแรงมาก สมัยที่ท่านภาวนาใหม่ ตัวจะลอยถึงยอดไม้เลยทีเดียว และ คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม แม่ชีอภิญญา วัดอาวุธฯ สมัยท่านนั่งสมาธิใหม่ ท่านหายตัวไปอยู่ที่ที่ท่านคิดถึงเลยนะครับ ตอนแรกๆ ท่านตกใจมาก

    ปีติเป็นสภาวธรรมหนึ่ง ของการปฏิบัติธรรมไม่ว่าจะสวดมนต์ นั่งสมาธิ หรือเดินจงกรม เมื่อจิตสงบในระดับหนึ่ง ธรรมปีติทั้ง ๕ (อาจอย่างใด อย่างหนึ่ง แต่ก็ไม่ใช่จะเกิดกับทุกคน) จะผุดขึ้น เป็นขึ้น อย่าตกใจ เป็นบุญวาสนาบารมีของท่าน ในตำราของสมเด็จพระพนรัตน์วัดป่าแก้วและตำราวิปัสสนากรรมฐาน ของสมเด็จพระสังฆราชสุกไก่เถื่อน วัดพลับฯสมเด็จพระอาจารย์ของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี วัดระฆังฯ ทรงชื่นชมว่าเป็นความก้าวหน้าทางธรรม เป็นปัจจัตตัง (คือ รู้ได้เฉพาะตัว เป็นของเฉพาะบุคคลเท่านั้น) ถ้าผู้ปฏิบัติตกใจ จิตเคลื่อนจากที่ตั้งปีตีจะคลายตัว แล้วหายไป ถ้าบุคคลใดกำหนดจิตรู้เท่าทันได้ กรรมฐานจะเดินดีมาก จิตจะเข้าสู่อัปปนาสมาธิ (รูปฌาน ได้ไวมาก พระมงคลเทพมุนี หลวงพ่อสด จันทะสโร วัดปากน้ำภาษีเจริญ ต้นตำรับวิชชาพระธรรมกาย ท่านเรียกว่า "อาสนะเดียว" คือ นั่งตรงนั้นก็ได้ธรรม ได้ปัญญา ได้ฌานเลย ถ้าไม่ลุกขึ้น ไม่เลิกปฏิบัติกลางคัน เป็นวาสนาบารมีนะครับ ....:cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...