ลือกระสือแปดริ้วอาละวาด

UFO จิ๋ว หรือเปล่าครับ

 

ขอขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่นำมาเสนอครับ และเรื่องพวกนี้หลวงพ่อจรัญ เคยเล่าไว้ในครั้งอดีตของหลวงพ่อ ลองฟังที่หลวงพ่อยกตัวอย่างให้ฟังนะครับ ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมครับ...สาธุ[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1312073/[/MUSIC]

 

ผมก็เคยเจอครับ ไม่รู้ใช่หรือเปล่า ตอนใกล้จบ ม.6 ก็ไปนั่งคุยกันที่ท่าน้ำ เป็นป่าต้นมะขามเทศอยู่ริมน้ำนั่งใต้ต้นมะขามเทศที่ตายแล้วคือไม่มีใบครับมีแต่กิ่งแห้ง คุยกันก็มองลงไปในน้ำเห็นดวงไฟสีเขียวใหญ่ขนาดเท่าลูกมะพร้าวมากลอยอยู่ด้านบน(เงาสะท้อนในน้ำ)ก็เลยถามเพื่อว่าอะไรว๊ะ เพื่อก็เงยหน้าขึ้นไปดูและร้องเหมือนมันตกใจก็เลยลอยหนีข้ามแม้น้ำไป ก็ไม่ต้องบอกละครับว่าต้องทำอย่างไรก็วิ่งกันหมดทุกคนครับ

 

ถ้าจับได้เอามาใส่ขวดแก้วหนา ๆ ป้องกันไม่ให้ออกไปได้ <----- กลายเป็นตะเกียงซะงั้น
555+

 

อืมเคยเห็นเหมือนกัน แต่นี่เห็นเค้าลอยผ่านท้องนานะ น่ากลัวเนอะ
แต่ว่าเค้าก็ไม่ได้ทำอะไรคนแถวนี้นะ สัตว์ที่คนเลี้ยงกันไว้ก็ไม่ได้ถูกทำร้ายอะไรเลย
ก็ถือว่าทางใครทางมัน ถ้าเค้าไม่ทำให้เราต้องเดือนร้อนอะไรก็ปล่อยเค้าไปเถอะ
แค่กรรมที่รับอยู่ก็คงมากพอแล้วหละนะ

 

สวัสดีครับ สำหรับรูปที่ระบุว่าเป็นกระสือในเนื้อหาข่าวนี้ รูปเขียวๆที่ดูเหมือนมีใบหน้านั่นแหละครับ

ภาพดังกล่าวคือภาพที่จับช็อตมาจากการถ่ายวีดีโอ ของพี่คนนึงที่ผมรู้จักครับ ซึ่งสมัยก่อน พี่เขาทำเวปมหัศจรรย์ mahatsajan.com มีเรื่องราวเกี่ยวกับผี จานบิน และเรื่องแปลกๆมากมายในไทยครับ ซึ่งปิดตัวไปแล้วประมาณแปดปีครับ

สำหรับภาพที่ว่ากระสือนี้ก็มีที่มานะครับ ความจริงกลุ่มพี่เขาไป ตามหายูเอฟโอครับ ในจังหวัดติดชายแดนพม่า คือกาญจนบุรีครับ แต่ว่าสิ่งที่พบดันเป็นดวงไฟสว่าง จากกลางต้นไม้ใหญ่ กลุ่มพี่เขาวิ่งถือกล้องวีดีโอตามถ่ายเลยนะครับ เขาไม่กลัว แต่มันลอยไปไวมากๆ ตามที่พี่เขาเล่ามานะครับจนวิ่งตามไม่ทัน เช้ามาเลยไปดูบริเวณที่แสงปรากฏตอนแรก ซึ่งคือต้นไม้ใหญ่ และจากที่เวปดังกล่าวเปิดในยุคอินเตอร์ยังไม่ความเร็วสูง ยังไม่มียูทูป เลยไม่ได้มีวีดีโอลงเวปครับ มีแต่ภาพนิ่งภาพนี้เท่านั้น แต่ด้วยเกียรติของเขาแล้ว สิ่งที่ปรากฏไม่ได้มีการแกล้งกันแน่ๆครับ น่าเสียดายที่ผลงานของพี่เขาทั้งหมดได้ขายให้ ต่างประเทศไปทำสารคดี (พี่เขาบอกผมมาแบบนี้นะครับ) ผมว่ากลุ่มพี่เขามีเซนต์หลายๆอย่างครับ แต่หลังจากทำเวปพี่เขาก็หันไปสนใจเรื่องพระธาตุแทนครับ ผมเจอพี่เขาครั้งสุดท้ายล่าสุดก็สองปีก่อนครับ
อ.เทพพนมก็รู้จักพี่คนนี้ครับ



ส่วนคอมเม้นต์ของอ.เทพพนม ที่ได้ติดต่อชาวต่างดาวและสอบถาม (หรือว่าคอมเม้นต์ตามความเห็นของอ.เองนี่แหละเพราะนานละ) ได้ระบุว่าเป็นยานสปายอย่างหนึงของต่างดาวครับ คือตัวยานจะฉายหน้าของผู้บังคับยานสอดแนมนี้ (เลยได้เห็นเหมือนภาพหน้าคนอยู่ด้านบนไฟอ่ะครับ)

ก็แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละบุคคลนะครับว่าคืออะไรแน่

 

เข้ามาดู อืม

 

น่าสงสารนะ ถ้าเป็นแม่ของคนที่เล่นของก้อน่าสงสารมาก ๆ
ถ้าเป็นไปแล้วจะให้ทำยังไง ชีวิตเค้าก้อต้องกินของแบบนี้ เค้าคงไม่มีความสุขนักหรอก
น่าจะหาทางช่วยเขามากกว่าไปทำร้ายเขามากกว่านะ

 

เคยเห็นตอนเป็นเด็กเมื่อ10กว่าปีที่เเล้วเห็นดวงไฟสีส้มๆในป่าตอน3-4ทุ่ม

 

ถ้าจับได้เมื่อไหร่ ประเทศไทยจะดังไปทั่วโลก
--------------------------------------
ผีมีแน่ แต่คนที่เห็นผี มีน้อยกว่า

 

ยังมีอีกเหรอ.....................

 

คนเชื่อก็เดา คนไม่เชื่อก็เดา

 

หมายความว่าลูกชายเป็นกระหังแล้วหายตัวไปหมายถึงตาย จากนั้นแม่ได้ช่วยลูกให้ตายไปส่วนแม่นั้นรับเป็นทายาทเอง
เวรกรรมแท้ๆ หากเป็นดั่งข่าวว่าขอให้เขาจงเป็นสุขๆๆๆๆเถิด อย่าได้มีความทุกข์อีกต่อไป ขอให้หายจากกรรมนี้โดยพลัน

 

น่าไปพิสูจน์นะเนี่ยถ้าเจอ

จะได้เอามาบอกคนเค้าที่ไม่ชื่อกันบ้าง

 

ใส้ อ่อน ลวก จิ้ม อิ ๆๆๆcatt2

 

นานจิตตัง ทุกข์ขังโลเก

 

ย่าเคยเล่าให้ฟังสมัยสาวๆถ้านับย้อนลงไปก็ 40-50 ปีได้ บ้านที่ลพบุรีมีค่ะ

ถ้าเรานึกภาพสมัยก่อนอ่ะน่ากลัวขนาดไหน บ้านติดแม่น้ำลพบุรีด้วยแล้วเป็นใต้ถุนโล่ง
ย่าบอกว่าเจอบ่อยเป็นดวงไฟชัดมาก
ไม่รู้จริงไหมเพราะเราไม่เคยเห็น(ถ้าให้เห็นก็ไม่เอาด้วยหรอก )
ย่าบอกว่าถ้าเจอดวงไฟแบบนี้ ใครตากผ้าไว้กลางคืน ตอนเช้าตื่นมาผ้าจะมีรอยคราบค่ะประมาณว่ากระสือมาเช็ดปาก จึงไม่มีคนตากผ้าทิ้งไว้กัน
เด็กๆก็จะไม่มีคนลงจากบ้านเลยแม้แต่ออกมาเข้าห้องน้ำที่ชานเรือน บ้านย่าสมัยก่อนถ้าออกจากตัวบ้านจะมีนอกชานกว้างค่ะ
ตอนกลางวันก้ไปนอนเล่นกลิ้งๆมีความสุขดีหรอกแต่กลางคืนก็ปิดเงียบกริบเลย

ที่บ้านหลังนั้นแม้ว่าตอนนี้จะถูกรื้อทิ้งไปแล้ว แต่เวลาเราไปทีไรก็ยังรู้สึกว่าบ้านแถวนั้นวังเวงน่ากลัวไม่เปลี่ยน
ไม่เหมือนบ้านแม่เราที่ชัยนาท(ใกล้แม่น้ำเหมือนกัน) กลางคืนถึงวังเวงเราก็ยังออกมาเดินนอกบ้านได้ เรายังไปนั่งเก้าอี้โยกคุยโทรศัพท์อยู่นอกบ้านเลยแต่ยุงเยอะจัง

บ้านที่ชัยนาทไม่เคยมีเรื่องเล่าถึงกระสือ พ่อเล่าแต่ว่าวัดศรีมณีวรรณเมื่อก่อนเป็นป่าช้า ได้ยินเสียงคนเดินคุยอยู่ด้านหลังล่ะ (พ่อเราขับรถไถนาคันใหญ่ๆผ่านวัดก็เกือบ 40 ปีแล้วนะ)

เรื่องผีเราก็ยืนยันนะว่าวัดที่บ้านเราปัจจุบันก็ยังมี ใครไม่เชื่อลองไปนอนที่กุฏิหลวงพี่เราได้ลองแกล้งๆแอบหยิบน้ำในตู้เย็นกินก็ได้รับรอง อิอิ

อ้อ...ที่สำนักสงฆ์หลวงลุงเรา (หลวงพ่อวิชา รติยุตโต) มีคนไปนอนเขามาจากที่อื่นเลยขอพักมั้งคะ พอตื่นเช้ามาตัวโดนลากมาอยู่ที่อีกที่หนึ่ง
เราคุยกันในหมู่ญาติบอกว่าคนนั้นเขาไปนอนขวางทางเดิน...ก็เลยโดนลากมาอีกทาง(ไม่ได้นอนดิ้นแน่นอน) เราก็ว่า...แล้วใครเขาไปนอนตรงนั้นกันล่ะ ที่นั่นดึกๆน่ากลัวมากเป็นป่าสัก (ต้นสัก)

เราเจอผีก็อุทิศบุญให้เขาค่ะ ผีไม่น่ากลัวถ้าเป็นผีปกติอ่ะนะ ^ ^

 

มีจริงหรือไม่มีจริงไม่ขอแสดงความคิดเห็นครับ แต่ติดใจรูปที่มาจากเดลินิวส์ในความเห็นที่12 ที่เป็นดวงไฟสีแดงๆครับ ลองเทียบกับคลิปข้างล่างดูครับ ดวงไฟที่เกิดในคลิปเกิดจาก laser beam ชนิดสีแดง ส่วนของลำแสงทางยาว บางทีอาจเห็นหรือไม่เห็นก็ได้ ถ้าใช้เครื่องมือนี้เปิดๆปิดๆเป็นจังหวะก็จะไม่เห็นลำแสงทางยาวเลย จะเห็นแต่เป็นดวงๆกระพริบๆ

ปากกาlaserแบบนี้พอจะซื้อได้ในราคา400-500บาทครับ

ข้อความและคลิปนี้ถ้าก้าวล่วงเกินผู้ใดในความเชื่อก็ขออภัยด้วยครับ

<object width="480" height="385">


<embed src="http://www.youtube.com/v/X-fnMwQHh2I?fs=1&hl=en_US" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="480" height="385"></object>

 

มองไม่ออกว่าเป็นกระสือ

 

นี่สิของจริงเลยเราเจอทุกคืนเลย.......ออกทีวีทุกวันทั้งกระสือ..กระหัง.............เข้าประชุมสภาก็ได้ด้วย(มีหลายสังกัด):boo: