พิธีประทานพระบรมสารีริกธาตุเพื่อประดิษฐานณะธุดงคสถานป่าศิริสมบูรณ์

​

แหะๆๆ งานนี้ผิดเต็มๆ จริงๆ ด้วย ลืมนึกถึงคำว่า"ทรงประทาน" น่ะค่ะท่านนานๆ พลาดทีเลยโดนผู้หวังดีรุมกันใหญ่เลยนะ หึๆๆ

​

 

สาธุ กราบอนุโมทนาบุญในครั้งนี้ด้วยนะคะ

 

อนุโมทนาสาธุ กับทุก ๆ ท่าน

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif][/FONT]​

 

อนุโมทนา สาธุคับ
....ขออนุญาต เอาลิ้งนี้ ไปลง เฟสบุค หน้าศิษย์ เก่าโนนสุวรรณพิทยาคมครับ
......เผื่อ มีเพื่อนๆ ที่มาทำงานที่กรุงเทพ กลับบ้านไป จะไปกราบใหว้ บูชา
...........และ จะได้รู้ว่า บ้านเรา ก็มีวัด ดีๆ ที่น่า ไปปฏิบัติ ธรรม และทำบุญ

 

ตามแต่ศรัทธาเถิดนะสาธุ ขออนุโมทนาด้วยใจอันบริสุทธิ์

 

ร่วมทอดผ้าป่า สร้างองค์พระประธานพระแก้วแดงหน้าตัก50นิ้ว+อุโบสถ

ทอด ณ สำนักปฏิบัติธรรมธุดงค์สถานป่าศิริสมบูรณ์ บ้านไร่สมบูรณ์ ต.โนนสุวรรณ อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์

ในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 12-13 กุมภาพันธ์ 2554




เนื่องด้วยทางสำนักปฏิบัติธรรมธุดงค์สถานป่าศิริสมบูรณ์ กำลังจะดำเนินการ

ก่อสร้างพระอุโบสถแต่ยังขาดปัจจัยจำนวนมากในการสร้างพระอุโบสถและการ

สร้างพระประธานที่ประดิษฐานในพระอุโบสถ เพื่อใช้ทำสังฆกรรมสำหรับสงฆ์

และใช้ประกอบพิธีอุปสมบท จึงขอเชิญสาธูชนทุกท่านร่วมเป็นเจ้าภาพงาน

ทอดผ้าป่าครั้งนี้ตามกำลังศรัทธาที่พอกระทำได้


คณะผู้ดำเนินการฝ่ายสงฆ์

พระใบฎีกาวิศวาธาร ปภทุสโธ ประธานสงฆ์

พระเมธชนัน อเนชากุล รองประธานสงฆ์




คณะผู้ดำเนินการฝ่ายฆราวาส

ดร.ปรานอม ขาวเมฆ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต

นายศุภณัฐ พนมนพธรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต

นางสาวอาทิตยาภรณ์ ภู่ดาย คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต

นายศุภโชค ช่างทอง คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต



ประธานคณะกรรมการ

คุณพ่อสุรเนตร และ ดร.ปรานอม ขาวเมฆ

คุณพ่อสุพจน์ และคุณแม่มุ่ยจิน พงษ์พวงเพชร

คุณพ่อนพดล คุณนันทพร คุณศุภณํฐ คุณสุวพร และคุณธนวัฒน์ พนมนพธรรม

คุณวัชรพล เจนสง่าและครอบครัว

คุณพ่อสมบูรณ์ คุณแม่พัชรี คุณณัฐพงษ์ และคุณณรัชชา ชื่นวิเศษ


คณะกรรมการ

นักศึกษาคณะเภสัชศาสตร์ ชั้นปีที่1/2553 มหาวิทยาลัยรังสิต






ทั้งนี้จึงใคร่ขอเรียนเชิญท่านผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญ สร้างองค์พระประธานพระแก้วแดงหน้าตัก50นิ้ว+อุโบสถ ณ สำนักปฏิบัติธรรมธุดงค์สถานป่าศิริสมบูรณ์ ได้ที่

ธนาคาร กรุงเทพ

ชื่อบัญชี นาย วัชรพล เจนสง่า

สาขา ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต

เลขบัญชี 026-4-00914-3




ยุคพระศรีอริยเมตไตรย ก็จะมีพระแก้วแดงทำจากทับทิมแดง

ส่วนพระแก้วขององค์ปฐมนั้นจะเป็นองค์สีขาว

ยกตัวอย่างพระแก้วคู่บารมีพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ในภัทรกัปนี้

1.พระกกุสันธพุทธเจ้า

หลังจากได้รับพุทธพยากรณ์
เป็นครั้งแรกจากพระพุทธเจ้า เมื่อสมัย เป็นพระโพธิสัตว์
หลังจากนั้น 8 อสงไขยแสนกัป
ได้สร้างบารมีกับพระพุทธเจ้าอีกประมาณ 37,024 พระองค์
เป็นศรัทธาพุทธเจ้า อายุไขย 40,000 พรรษา
พระสรีระสูง 40 ศอก หรือ 20 เมตร
บำเพ็ญทุกกิริยาชาติสุดท้าย 10 เดือน
พุทธรังสีสร้านไปไกล 10 โยชน์ (160 กิโลเมตร)
พระแก้วประจำองค์พระแก้วขาว หน้าตักกว้าง 20 วา


2.พระโกนาคมพุทธเจ้า

หลังจากได้รับพุทธพยากรณ์เป็นครั้งแรกจากพระพุทธเจ้า
เมื่อสมัยเป็นพระโพธิสัตว์หลังจากนั้น 8 อสงไขยแสนกัป
ได้สร้างบารมีกับพระพุทธเจ้าอีกประมาณ 37,024 พระองค์
เป็นศรัทธาพุทธเจ้า อายุไขย 30,000 พรรษา
พระสรีระสูง 30 ศอก หรือ 15 เมตร
บำเพ็ญทุกกิริยาชาติสุดท้าย 1 เดือน
พุทธรังสีสร้านไปไกล ตามแต่พระประสงค์
พระแก้วประจำองค์พระแก้วเหลือง หน้าตักกว้าง 15 วา

3.พระกัสสปพุทธเจ้า

หลังจากได้รับพุทธพยากรณ์เป็นครั้งแรกจากพระพุทธเจ้า
เมื่อสมัยเป็นพระโพธิสัตว์หลังจากนั้น 8 อสงไขยแสนกัป
ได้สร้างบารมีกับพระพุทธเจ้าอีกประมาณ 37,024 พระองค์
เป็นศรัทธาพุทธเจ้า อายุไขย 20,000 พรรษา
พระสรีระสูง 20 ศอก หรือ 10 เมตร
บำเพ็ญทุกกิริยาชาติสุดท้าย 7 วัน
พุทธรังสีสร้านไปไกล ตามแต่พระประสงค์
พระแก้วประจำองค์ พระแก้วน้ำเงิน หน้าตักกว้าง 10 วา

4.พระศากยมุนีโคดมพุทธเจ้า

หลังจากได้รับพุทธพยากรณ์เป็นครั้งแรกจากพระพุทธเจ้า
เมื่อสมัยเป็นพระโพธิสัตว์หลังจากนั้น 4 องไขยแสนกัป
ได้สร้างบารมีกับพระพุทธเจ้าอีก 24 พระองค์ ซึ่งน้อยมาก
เป็นปัญญาพุทธเจ้า อายุไขย 80 พรรษา
พระสรีระสูง 4 ศอก หรือ 2 เมตร
บำเพ็ญทุกกิริยาชาติสุดท้าย 6 ปี
พุทธรังสีสร้านไปข้างละ 1 วา เป็นปกติ
พระแก้วประจำองค์ พระแก้วเขียว(เขียวมรกต) หน้าตักกว้าง 5 วา

5.พระอริยเมตตรัยพุทธเจ้า

หลังจากได้รับพุทธพยากรณ์เป็นครั้งแรกจากพระพุทธเจ้า
เมื่อสมัยเป็นพระโพธิสัตว์หลังจากนั้น 16 อสงไขยแสนกัป
ได้สร้างบารมีกับพระพุทธเจ้าอีกประมาณ 477,029 พระองค์
เป็นวิริยะพุทธเจ้า อายุไขย 80,000 พรรษา
พระสรีระสูง 80 ศอก หรือ 40 เมตร
บำเพ็ญทุกกิริยาชาติสุดท้าย 7 วัน
พุทธรังสีสร้านไปไกล ยังกำหนดไม่ได้
พระแก้วประจำองค์ พระแก้วแดง และทรงเครื่องบรมหาจักรพรรดิ
หน้าตักกว้าง 20 วา

พระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์จะมีพระแก้วประจำองค์
และมีได้ตั้งแต่ยังเป็นโพธิสัตว์อยู่และจะปรากฎชัดขึ้น
ตามความเข้มข้นของบารมีที่สร้าง
ยุคพระศรีก็จะมีพระแก้วแดงทำจากทับทิมแดง
ปัจจุบันนี้ประดิษฐานเตรียมไว้แล้ว ณ ภูมิทิพย์
ซึ่งซ้อนอยู่กับ สถานที่แห่งหนึง
และพระแก้วแดงจะปรากฏออกมา เมื่อถึงยุคพระศรี

พระแก้วคู่บารมีของพระพุทธเจ้า องค์ปัจจุบันก็คือพระแก้วมรกต
ส่วนพระแก้วคู่บารมีของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ
เป็นพุทธนิมิตอยู่ที่พระนิพพานคู่วิมานพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์

<!-- google_ad_section_end -->


(ภาพจาก Internet)

พุทธลักษณะพระแก้วแดง องค์ที่จะสร้างก็คล้ายๆแบบนี้ (แต่ไม่ใช่องค์นี้น่ะ)<!-- google_ad_section_end -->




อ้างอิง http://palungjit.org/threads/ร่วมทอดผ้าป่า-สร้างองค์พระประธานพระแก้วแดงหน้าตัก50นิ้ว-อุโบสถ.275711/
<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

สาธุ พระแก้วแดงองค์นี้ขอให้ท่านที่มาโพสท์ช่วยแก้ไขรายละเอียดสักหน่อยนะ จาก 50 นิ้ว เป็น 30 นิ้ว ราคา 65,000 บาท หล่อที่ปฏิมาประทีป โรงหล่ออยุทธยา ตอนนี้มัดจำไปแล้ว 10,000 บาท โดยท่าน ดร.ปรานอม ขาวเมฆ
ซึ่งอาตมาเป็นผู้ติดต่อโรงหล่อ และเดินทางไปสั่งเอง ที่ลดขนาดลงนั้นเนื่องด้วยทางคณะสงฆ์เห็นสมควร ว่าขนาด 30 นิ้ว จะเหมาะสมกว่า 50นิ้ว เนื่องจากฐานขององค์พระแก้วจะกว้างมาก จะดูไม่งามนัก

จึงขอแจ้งรายละเอียดเอาไว้เพียงนี้ สาธุ ขออนุโมทนา

 

​

​

ขออนุโมทนา สาธุ ๆ
กับท่านทั้งหลายที่ได้ร่วมกันทำบุญ
สร้างกุศลทุกอย่าง ในกาลนี้ด้วยครับ
การสะสมบุญ คือ การสะสมความสุขความเจริญ
นิพพานัง ปรมัง สุขขัง
นิพพานัง ปัจจโย โหตุ​

​

<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

ได้มีโอกาส กลับบ้าน...จากกรุงเทพ
...แวะไปที่วัด เข้าไปกราบพระ..บรรยากาศสงบร่มรื่น
......แอบนั่งสมาธิสักพัก
.........กำลังจะกลับบ้าน เพราะไม่พบใครเลย สงสัยพระท่านกำลัง นั่งสมาธิปฏิบัติ....
...........ได้ยินเสียงตีระฆัง ...ก็เลย กลับเข้าไปใหม่ เป็นบุญ ได้เจอ กับท่านเจ้าอาวาส...
..............สนทนากับท่านสักพัก ......
.................ก่อนที่จะไปวัดนี้...มีนถามหลายคน ว่าจะไปหาอาจารย์เต้ย หรือ......
...................แม้แต่ ท่านเจ้าอาวาส ยังถามว่า มาหา อาจารย์เต้ย หรือ เปล่า...
....................ยังไม่รู้เลยว่า ท่าน อาจารย์เต้ย คือใคร....
........................เลยอยากเข้าไปกราบท่านสักครั้ง............
...........................แต่บุญไม่มี....เข้าไปถึงที่แต่ไม่พบท่านเลย......

 

อาจารย์เต้ย เป็นพระภิกษุที่คนในแถบนั้นจะรู้จักกันดี เพราะท่านช่วยเหลือชาวบ้านมากมาย ชาวบ้านที่มีปัญหามักจะเข้าไปปรึกษาท่านและจะได้รับวิธีแก้ไขปัญหหาจากท่านทุกคน
แต่ท่านจะหาตัวยากสักหน่อย ท่านเคยปรารภธรรมบทหนึ่งเอาไว้ว่า มีแต่คนอยากพ้นทุกข์ แต่ไม่มีคนยอมทิ้งเหตุแห่งทุกข์เลยสักคน มีแต่แบกทุกข์มาหาเรา มาให้เราช่วยแก้ให้ อยากดังก็มาหาเรา อยากรวยก็มีหาเรา แต่คนอยากดีนี่สิ เราต้องแบกสังขารตัวเองเข้าไปหาถึงที่ ไปขอไปพูดถึงบ้านถึงตัวจึงจะยอมทำดีรักษาศีลกันบ้าง
คนอยากรวย อยากดังนี่ทำไมมันมากจัง บางคนเป็นมะเร็งปอด อุตส่าแบกสังขารมาหาเรามาจะให้เราช่วย พอเราบอกให้เลิกสูบบุหรี เลิกกินเนื้อ ให้มาถือศีล กลับบอกว่า โอ้ยข้าน้อยยังอดบ่อได้ดอก มันอะไรก็ไม่รู้ จะตายอยู่แล้วยังจะชอบนักไอ้เรื่องไม่มีประโยชน์นี่
แล้วท่านก็บอกว่า แล้วแต่บุญใครบุญมันนะ ให้มาหาเราเจอก็คือเจอ ไม่เจอก็คือไม่เจอ จะให้เรามานั่งแบกวิบากกรรมของพวกท่านไว้คนเดียวนี่คงไม่ไหว เถียงกันตักันฆ่ากันด่ากันฟ้องศาลกัน ก็ยังมาหาเรา มีแต่คนอยากจะชนะทั้งนั้น คนยอมแพ้ไม่เห็นจะมีสักคน
ศิษย์เราต้องแพ้ แพ้เพื่อชนะกิเลส นั่นหละศิษย์ของเราแท้ๆเลย นอกนั้นก็แค่คนรู้จักไม่ใช่ศิษย์ เพราะเขาไม่ทำตามเราสอน มีแต่มาใช้เราให้ทำนู่นทำนี่ให้
เพราะเหตุนี้แหละครับ ท่านจงหาตัวยากมาก ถึงยากที่สุด แต่สำหรับบางท่านเท่านั้นนะครับ ส่วนบางท่านไปปุ๊บเจอปั๊บ

ขอให้เจอท่านนะครับ สวัสดีครับ