เรื่องเด่น โพลชี้คนกรุงศรัทธา “พระมหาสมปอง” มากสุด-จำไม่ได้ “มาฆบูชา” ตรงวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 3

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย ษิตา, 17 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,174
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,647
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>โพลชี้คนกรุงศรัทธา “พระมหาสมปอง” มากสุด-จำไม่ได้ “มาฆบูชา” ตรงวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>16 กุมภาพันธ์ 2554 15:34 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=193 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=193>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>พระมหาสมปอง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>“บ้านสมเด็จโพล” ชี้ คนกรุงจำไม่ได้วันมาฆบูชา ตรงวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 เกินครึ่งไม่รู้เป็นวันเดียวกับ “วันกตัญญูแห่งชาติ” ระบุ ร้อยละ 35.1 ศรัทธา พระมหาสมปอง มากสุด รองลงมา ท่าน ว.วชิรเมธี - พระพยอม

    วันนี้ (16 ก.พ.) นายสิงห์ สิงห์ขจร อาจารย์ประจำโปรแกรมวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (มบส.) เปิดเผยถึงผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนในกรุงเทพมหานคร กับพระพุทธศาสนา ว่า ศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพล ทำการสำรวจความคิดเห็นประชาชนกลุ่มตัวอย่างใน กทม.จำนวนทั้งสิ้น 1,147 คน เก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 14-15 ก.พ.ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่า ชาว กทม. จำไม่ได้ว่าวันมาฆบูชาตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 และ ใน 1 เดือน คน กทม.1 ใน 4 ไม่เคยเข้าวัน ไหว้พระสวดมนต์ ตักบาตร และฟังธรรมเทศน์ นอกจากนี้ ประชาชนใน กทม.ร้อยละ 55.4 ไม่ทราบว่า วันมาฆบูชา เป็น “วันกตัญญูแห่งชาติ” ตามที่รัฐบาลได้ประกาศไว้ตั้งแต่ปี 2549 เนื่องจาก เยาวชนคนรุ่นใหม่ของไทยสนใจวันวาเลนไทน์ของต่างชาติ จึงกำหนดให้วันมาฆบูชาเป็นวันแห่งความกตัญญูแห่งชาติ หรืออีกนัยหนึ่ง คือ “วันแห่งความรักอันบริสุทธิ์” ของชาวพุทธศาสนา

    นายสิงห์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังพบว่าประชาชนใน กทม.ร้อยละ 35.1 ศรัทธา พระมหาสมปอง มากที่สุด รองลงมา พระมหาวุฒิชัย หรือ ว.วชิรเมธี ร้อยละ 34.4 พระพิศาลธรรมพาที หรือ พระพยอม กัลยาโณ ร้อยละ 21.1 ส่วนการรับทราบข่าวสารเกี่ยวกับพุทธศาสนานั้น ประชาชนรับทราบผ่านสื่อโทรทัศน์มากที่สุด ร้อยละ 47.8 รองลงมาสื่ออินเทอร์เน็ต ร้อยละ 13.6 และสื่อวิทยุกระจายเสียง ร้อยละ 11.6 ทั้งนี้ อยากให้พุทธศาสนาเผยแพร่ผ่านสื่อโทรทัศน์มากที่สุด ร้อยละ 39.2 รองลงมาสื่ออินเทอร์เน็ต ร้อยละ 29.1 และหนังสือพิมพ์ ร้อยละ 10.5
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    --------------
    http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9540000020914
     
  2. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,174
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,647
    อึ้งเมืองพุทธ เด็กไทยไม่รู้ 'วันมาฆบูชา'


    [​IMG]






    [​IMG]

    น่าเป็นห่วง เมืองพุทธศาสนา โพลชี้เด็กไทยส่วนใหญ่ไม่ทราบ "มาฆบูชา" ตรงกับวันที่ 18 ก.พ. แถมมึนตึ๊บส่ายหัวตอบไม่ได้พระพุทธเจ้าทรงแสดงหลักธรรมคำสอนอะไรในวันมาฆบูชา แต่ยังมีข้อดีเห็นความสำคัญทางศาสนามากกว่า “วันวาเลนไทน์” เปรยเด็กสมัยนี้มีความตั้งใจน้อยมากเกี่ยวกับการเข้าวัดฟังเทศน์ฟังธรรม

    เมื่อวันที่ 16 ก.พ. ดร.นพดล กรรณิกา ผอ.ศูนย์เครือข่ายวิชาการเพื่อสังเกตการณ์และวิจัยความสุขชุมชน (ศูนย์วิจัยความสุขชุมชน) มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจเรื่องความรู้ ความเข้าใจของเด็ก-เยาวชนไทยเกี่ยวกับวันมาฆบูชา ศึกษาตัวอย่างเยาวชนอายุ 12-14 ปี จำนวน 1,325 คน ผลการสำรวจพบว่ามีเพียงร้อยละ 34.6 ทราบและระบุได้ถูกต้องว่าวันมาฆบูชาตรงกับวันที่ 18 ก.พ. ร้อยละ 65.4 ไม่ทราบ เมื่อสอบถามการรับรู้ในหลักธรรมคำสอนที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงในวันมาฆบูชาพบว่า ร้อยละ 37.3 ระบุได้อย่างถูกต้องว่าคือ “โอวาทปาติโมกข์” ขณะที่ร้อยละ 62.7 ไม่ทราบ ระบุไม่ถูกต้อง

    เมื่อสอบถามต่อไปว่าหลักธรรมโอวาทปาติโมกข์ หมายถึงอะไร มีเพียงร้อยละ 27.7 เท่านั้นที่สามารถสรุปใจความสำคัญได้อย่างถูกต้องว่าหมายถึง “การทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์” ส่วนร้อยละ 12.9 ระบุความหมายในแบบอื่น ๆ อาทิ หมายถึงการเดินทางสายกลาง การดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท ความละอายและเกรงกลัวต่อบาป ขณะที่ร้อยละ 51.0 ระบุถูกทุกข้อที่กล่าวมา และร้อยละ 8.4 ระบุไม่ทราบว่าหมายถึงอะไร สำหรับกิจกรรมที่จะทำในวันมาฆบูชา ร้อยละ 72.2 ทำบุญตักบาตร ร้อยละ 50.9 ร่วมพิธีเวียนเทียน ร้อยละ 42.0 ระบุใช้เวลาอยู่กับครอบครัว และรอง ๆ ลงมา คือ ถวายสังฆทาน ทำความสะอาดบ้านเรือน ปล่อยนก ปล่อยปลา บริจาค เข้าวัดฟังธรรม นั่งสมาธิ เป็นต้น

    ผอ.ศูนย์ฯ เปิดเผยต่อว่า สิ่งที่เยาวชนไทยต้องการให้รัฐบาลดำเนินการเพื่อส่งเสริมงานด้านพระพุทธศาสนา พบว่า ร้อยละ 65.7 ระบุจัดให้มีงานนิทรรศการ/กิจกรรมทางศาสนาในวันสำคัญเป็นประจำ ร้อยละ 32.9 ระบุรณรงค์ให้กลุ่มเยาวชนหันมาสนใจและเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาให้มากขึ้น ร้อยละ 15.5 ระบุจัดสรรงบประมาณในการบำรุงรักษา ศาสนสถานต่าง ๆ ร้อยละ 1.5 ดูแลพระภิกษุ/สามเณรไม่ให้ทำผิดศีลธรรม และร้อยละ 1.4 ระบุอื่น ๆ อาทิ การรักษาความปลอดภัยภายในวัด/ให้จัดกิจกรรมในวัดให้มากขึ้น เป็นต้น กลุ่มเด็กและเยาวชนไทยที่ให้ความสำคัญกับวันมาฆบูชามากกว่าวันวาเลนไทน์ ร้อยละ 43.2 ให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์ ร้อยละ 6.4 ร้อยละ 27.3 ให้ความสำคัญเท่ากัน และร้อยละ 23.1 ไม่มีความเห็น ทั้งนี้จากผลการสำรวจพบว่าความรู้ความเข้าใจและการให้ความสำคัญของเด็กและเยาวชนต่อวันมาฆบูชาอยู่ในเกณฑ์น้อย และเมื่อพิจารณาด้านการประพฤติปฏิบัติตนทางศาสนาแล้วพบว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าเป็นห่วงเพราะเด็กมีความตั้งใจน้อยมากในเรื่องการเข้าวัดฟังเทศน์ ฟังธรรม และการนั่งสมาธิเจริญภาวนา.


    ------------
    เดลินิวส์ออนไลน์
    Daily News Online > หน้าสังคม > อึ้งเมืองพุทธ เด็กไทยไม่รู้ 'วันมาฆบูชา'

    รูปภาพประกอบกระทู้จากอินเตอร์เน็ต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 กุมภาพันธ์ 2011
  3. Jochatu

    Jochatu สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +6
    ไม่รู้ หรืออาจหลงลืมไปบ้างไม่เป็นไร เพียงแค่
    คิดดี พูดดี ทำดี มีมิตรดี และไปสู่สถานที่ดีๆ
    จุดเริ่มต้นคือครอบครัว ที่จะต้องปลูกฝัง เป็นแบบอย่าง
    แนะนำ อบรม สั่งสอน ลูก หลาน
    ค่อยๆแทรกซึมคุณธรรมให้แก่เขา
    เพื่อให้เขาได้ตั้งตนไว้ถูก และเมื่อโตขึ้นเขาจะเป็นกำลังสำคัญ
    เป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคมต่อไป สาธุ
     
  4. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,174
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,647
    'ศาสนาน่าห่วง...'เมื่อคนรุ่นใหม่ให้ราคา'วันมาฆบูชา'ด้อยกว่า'วันวาเลนไทน์'..?


    <SCRIPT type=text/javascript> var omitformtags=["input", "textarea", "select"]; //var message="You may not right mouse click this page."; /* Disable Right Click */ if (navigator.appName == 'Microsoft Internet Explorer'){ function NOclickIE(e) { if (event.button == 2 || event.button == 3) { alert(message); return false; } return true; } document.onmousedown=NOclickIE; document.onmouseup=NOclickIE; window.onmousedown=NOclickIE; window.onmouseup=NOclickIE; } else { function NOclickNN(e){ if (document.layers||document.getElementById&&!document.all){ if (e.which==2||e.which==3){ //alert(message); return false; } } } if (document.layers){ document.captureEvents(Event.MOUSEDOWN); document.onmousedown=NOclickNN; } document.oncontextmenu=new Function("return false") } /* ห้ามคลุมดำ */ function disableselect(e){ for (i = 0; i < omitformtags.length; i++) if (omitformtags==(e.target.tagName.toLowerCase())) return; return false } function reEnable(){ return true; } function noSelect(){ if (typeof document.onselectstart!="undefined"){ document.onselectstart=new Function ("return false") if (document.getElementsByTagName){ tags=document.getElementsByTagName('*') for (j = 0; j < tags.length; j++){ for (i = 0; i < omitformtags.length; i++) if (tags[j].tagName.toLowerCase()==omitformtags){ tags[j].onselectstart=function(){ document.onselectstart=new Function ('return true') } tags[j].onmouseup=function(){ document.onselectstart=new Function ('return false') } } } } } else{ document.onmousedown=disableselect document.onmouseup=reEnable } } window.onload=noSelect; </SCRIPT>[​IMG]
    ถ้าเปรียบวันสำคัญที่อยู่ในเดือน ก.พ.ระหว่างวันที่ 14 ก.พ.หรือ"วาไลน์ไทน์"ของชนชาติตะวันตก กับวันที่ 18 ก.พ.หรือ"วันมาฆบูชา"สุดสำคัญของชนชาติไทยเป็นกราฟแผนภูมิสูงต่ำตีคู่ขนาบกัน

    ต้องยอมรับว่า หลายปีที่ผ่านมาความนิยมของวันวาเลนไทน์มักจะนำโด่งวันมาฆบูชาเสมอๆ (ดูราคา “ดอกบัว” วันมาฆบูชากำละไม่กี่บาท กับ “ดอกกุหลาบ” ในวันวาเลนไทน์ราคาดอกละเป็นพัน)

    และก็เชื่อว่า ผู้ที่รับผิดชอบ เช่น กรมศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม กระทั่งทุกรัฐบาลที่ผ่านมาก็เห็นสภาพดังความนิยมกันอยู่ดังที่ปรากฏ คำถามก็คือ การผูกปีพ่ายของวันสำคัญเช่นนี้ไม่มีผู้เกี่ยวข้องไหนจะทำอะไรให้สถานการณ์วันสำคัญของชนชาติไทยให้ชนะวัฒนธรรมตะวันตกได้เลยหรืออย่างไร

    และวันมาฆบูชาในปีนี้ก็เวียนมาบรรจบอีกครั้ง นอกจากนี้"ไทยรัฐออนไลน์"พาไปรู้จักวันมาฆบูชาพา
    ไปวิเคราะห์จุดอ่อนอีกครั้งแล้ว ยังรวมช่วยกันหาทางออกว่าทำอย่างไรคนรุ่นใหม่ (คนไทย) จะรักและเข้าใจวัฒนธรรมชาติไทยมากกว่า วันสำคัญของชนชาติตะวันตก...

    [​IMG]


    วันมาฆบูชากัน (อีกครั้ง!)

    ถือว่าเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาของชาวพุทธเถรวาท ปัจจัยหลักที่ได้รับการยกย่องให้เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเนื่องจากเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นเมื่อ 2,500 กว่าปีก่อนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง “โอวาทปาฏิโมกข์” โดยในครั้งนั้นมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นพร้อมกัน 4 ประการด้วยกันคือ พระสงฆ์สาวกที่มาประชุมพร้อมกันทั้ง 1,250 รูปโดยมิได้นัดหมาย, พระสงฆ์ที่มาประชุมทั้งหมดต่างล้วนเป็น“เอหิภิกขุอุปสัมปทา” หรือผู้ได้รับการอุปสมบทจากพระพุทธเจ้าโดยตรง, พระสงฆ์ทั้งหมดที่มาประชุมล้วนเป็นพระอรหันต์ผู้ทรงอภิญญา 6, และวันดังกล่าวตรงกับวันเพ็ญมาฆปุรณมีดิถี ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3

    จนมาสมัยร.4 ทรงปรารภถึงเหตุการณ์ครั้งพุทธกาลใน วันเพ็ญเดือน 3 ว่า เป็นวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญยิ่ง ควรมีการประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนาเพื่อเป็นที่ตั้งแห่งความศรัทธาเลื่อมใส จึงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้จัดการพระราชกุศลมาฆบูชาขึ้น โดยการประกอบพระราชพิธีคล้ายกับวันวิสาขบูชา คือมีการบำเพ็ญพระราชกุศลต่างๆ มีการพระราชทานจุดเทียนตามประทีปเป็นพุทธบูชาในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระอารามหลวงต่าง ๆ เป็นต้น จนได้รับนิยมขยายออกไปทั่วราชอาณาจักร

    โดยทราบทั่วกันว่า วันนี้จะมีการทำบุญกันเพื่อเป็นการบูชารำลึกถึงพระรัตนตรัยและเหตุการณ์สำคัญดังกล่าว ที่ถือว่าเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงประทานโอวาทปาฏิโมกข์ อันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา ได้แก่ การไม่ทำความชั่วทั้งปวง การบำเพ็ญความดีให้ถึงพร้อม และการทำจิตของตนให้ผ่องใส เพื่อเป็นหลักปฏิบัติของพุทธศาสนิกชนทั้งมวล

    ทั้งนี้ในปี พ.ศ. 2549 รัฐบาลไทยได้ประกาศให้วันมาฆบูชา ให้เป็น "วันกตัญญูแห่งชาติ" เนื่องจากปัจจุบันสังคมไทยวัยรุ่นสาวมักจะเสียตัวในวันวาเลนไทน์หลายหน่วยงานจึงพยายามรณรงค์ให้วันมาฆบูชาเป็นวันแห่งความรัก (อันบริสุทธิ์) แทนอีกด้วย


    [​IMG]


    เมื่อดอกกุหลาบผู้ผูกปีชนะดอกบัว...!

    วันมาฆบูชาถือว่า เป็นวันที่ความหมายดี แต่ทำไมคนรุ่นใหม่ไม่ค่อยให้ความสำคัญ ทุกๆ ผลโพลเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดี

    ล่าสุด เอแบคโพลเผยผลวิจัย (วันที่ 10-12 ก.พ.54) เรื่อง ความรู้ ความเข้าใจของเด็ก-เยาวชนไทยเกี่ยวกับวันมาฆบูชา และความตั้งใจที่จะทำกิจกรรมต่างๆ ในวันมาฆบูชาการันตีได้เป็นอย่างดีผลการสำรวจ พบว่ามีเพียงร้อยละ 34.6 ทราบและระบุได้ถูกต้อง ว่าวันมาฆบูชาตรงกับวันที่ 18 ก.พ.ขณะที่เยาวชนร้อยละ 65.4 ไม่ทราบว่าเป็นวันไหน

    เมื่อถามถึงการรับรู้ในหลักธรรมคำสอนที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงในวันมาฆบูชานั้น พบว่ามีตัวอย่างเพียง ร้อยละ 37.3 เท่านั้นที่สามารถระบุได้อย่างถูกต้องว่าคือ “โอวาทปาฏิโมกข์” ในขณะที่ตัวอย่างประมาณ 2 ใน 3 คือร้อยละ 62.7 ไม่ทราบ/ระบุไม่ถูกต้อง

    ขณะเดียวกันผลสำรวจยังระบุอีกว่า เด็กและเยาวชนไทยร้อยละ 43.2 ให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์ มากกว่าวันมาฆบูชา ขณะที่ร้อยละ 6.4 ร้อยละ 27.3 ให้ความสำคัญเท่ากัน และร้อยละ 23.1 ไม่มีความเห็น

    ถือว่าเป็นผลวิจัยที่เศร้าใจพุทธศาสนิกชนไทยเป็นอย่างมาก นายเทวินทร์ อินทรจำนงค์ รองผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ กล่าวพร้อมกับ สะท้อนความรู้สึกของผลสำรวจของโพลย้อนหลัง5-10 ปีที่ผ่านมาว่า ปรากฏการณ์คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์มากกว่าวันมาฆบูชามากมายแบบนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

    “สิ่งหนึ่งที่เรารับรู้ได้จากผลโพลหลายปีทีผ่านมามันสะท้อนชัดว่าคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะเยาวชนให้ความสำคัญและรู้จักวาเลนไทน์มากกว่าวันมาฆบูชามากชนิดที่เทียบกันไม่ติด แสดงให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่เสพกระแสความนิยมจากต่างชาติ และสนใจเรื่องของปัจเจกบุคคล ในเรื่องของความรัก อารมณ์ และเน้นแต่การบริโภคนิยมในเชิงวัตถุนิยมมากกว่า ซึ่งมันเป็นอิทธิพลตะวันตกที่แพร่กระจายไปสู่คนรุ่นใหม่ได้เร็วมากๆ”

    แน่นอนว่าผลโพลออกมาแบบนี้ซ้ำๆ เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีนัก เพราะมันสะท้อนได้ว่าพื้นฐานความเป็นวัฒนธรรมไทยวิถีชีวิตที่สอดคล้องกับสภาพสังคมของไทยได้ถูกกลืนไปทุกวันเวลา แน่นอนว่าเราก็ไม่ได้ปฏิเสธค่านิยมใหม่ๆ เพราะมันเป็นประโยชน์และสามารถเอามาพัฒนาการดำเนินชีวิตให้มีคุณภาพที่ดีได้ แต่ในขณะเดียวกันที่เราเป็นห่วงก็คือว่าความเชื่อค่านิยม วัฒนธรรมที่มันเป็นตัวหล่อเลี้ยงสังคมไทยให้อยู่ร่วมกันโดยปกติสุข มันเริ่มลดลงไปตามกระแสสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นความเอื้ออาทร การกตัญญูรู้คุณ การให้เกียรติ แม้แต่การเคารพซึ่งกันและกัน ก็จะต้องมีอยู่

    สำหรับวิธีการแก้ไขการผูกปีพ่ายแพ้ รองผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ เสนอว่า หลักๆ มีอยู่ 2-3 เรื่อง ที่ยังเป็นอุปสรรคต่อการรักษาวัฒนธรรมไทย 1.เรื่องของศาสนา ประเด็นแรกก็คือ ศาสนาไม่มีการพัฒนาไปกับโลกสมัยใหม่ ด้วยหลักธรรมคำสอนที่ยังไม่ได้รับการพัฒนาทั้งในเชิงลึกและในเชิงกว้าง

    “ในเชิงลึกก็หมายความว่า การศึกษาอย่างลึกซึ้งเข้าถึงและสามารถเชื่อมโยงไปกับศาสตร์ต่างๆ ซึ่งมันสามารถที่จะนำมาเปรียบเทียบกับแนวคิดสมัยใหม่ได้ ในเชิงกว้างก็หมายความว่าการพัฒนาหลักธรรมคำสอน ให้มันสอดคล้องกับวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ให้คนทั่วไปเข้าใจได้ง่ายซึ่งยังไม่สามารถทำได้เช่นกัน”

    ต่อมาก็คือเรื่องบุคลากรและองค์กรทางพระพุทธศาสนาตั้งแต่กระทรวงศึกษาธิการนักพุทธศาสนาไปจนถึงวัดวาอารามต่างๆ ที่ยังไม่ได้ปรับตัวให้เท่าทันกับยุคสมัย ไม่มีการบริหารจัดการดูแลที่ดี

    “รวมถึงวัดปล่อยทิ้งร้าง ถ้าเปรียบเทียบกับศาสนาคริสต์เขาจะมีการบริหารจัดการที่ดีมีประสิทธิภาพ มีคนรุ่นใหม่เข้ามาบริหาร รวมถึงสถานที่ที่มีความสะดวกสบาย ประการสุดท้ายคือ เรื่องของกิจกรรมที่ยังไม่สอดคล้องถ้าจะมาจัดกิจกรรมเฉพาะวันหรือเทศกาลสำคัญทางศาสนาอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอเพราะวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่เขาไม่ค่อยมีเวลาว่าง ซึ่งอาจจะต้องปรับให้มีการจัดกิจกรรมในวันหยุดมากขึ้นกว่าวันอาทิตย์ไปทำบุญกันเถอะ เป็นต้น” นายเทวินทร์กล่าว


    [​IMG]


    วันมาฆบูชาจะชนะวาเลนไทน์ได้ ต้องอินเทรนด์

    พระไพศาล วิสาโล พระนักเทศน์ชื่อดัง ที่ได้ยอมรับว่าเป็นกลางมากที่สุด กล่าวว่า ประเด็นที่หลายคน
    ตั้งคำถามเรื่องศาสนาเชยเพราะไม่ปรับตัวให้เข้าและเท่าทันยุคสมัย ทำให้คนไม่ค่อยให้ความสำคัญเท่ากับวันวาเลนไทน์ เรียกว่าผลสำรวจโพลเดือนกุมภาพันธ์เวียนมาบรรจบทีไรศาสนาเป็นพ่ายแพ้ความนิยมของวันวาเลนไทน์ทุกที เป็นการตั้งข้อสังเกตุที่ถูกต้องและตรงเป้ามากที่สุด

    “จนวันนี้ศาสนาก็ยังไม่ปรับตัวให้สื่อสารกับคนรุ่นใหม่ และยิ่งที่ผ่านมาแทบจะไม่มีกิจกรรมวันมาฆบูชาที่ไหนที่สามารถดึงดูดให้คนรุ่นใหม่สนใจได้เลย ทำให้ไม่เพียงวันมาฆบูชา ศาสนาจึงกลายเป็นความเฉยชาของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะวันนี้เราอยู่ในกระแสเชี่ยวกรากของยุคบริโภคนิยมแรงมาก ยิ่งแรงมากเท่าไหร่จะยิ่งกลบพระพุทธศาสนาไปเท่านั้น ที่สำคัญวันนี้ยังไม่มีใครสามารถนำเอาสาระสำคัญ
    ทางพระพุทธศาสนามาโยงเข้ากับชีวิตประจำวันของคนทั่วๆ ไปได้อย่างกลมกลืน นี่คือจุดอ่อนใหญ่
    ของศาสนาที่ยังไม่มีใครเข้ามาแก้ไขได้สำเร็จ”

    พระนักเทศน์ เสนอแนวทางแก้ไขว่า ศาสนาจะต้องรีบปรับให้ตัวเองมีส่วนร่วมกับสมัยนิยมด้วยเช่น
    วันมาฆบูชาเด็กนักเรียนก็อาจจะชวนกันไปทำบุญ แต่การทำบุญนี้ไม่ได้หมายถึงต้องเข้าวัดทำบุญ
    อย่างเดียว สามารถทำบุญด้วยการทำจิตอาสาก็ได้

    “วันมาฆบูชา พระพุทธเจ้าตรัสว่าให้ละชั่ว ทำดี ซึ่งก็หมายถึงการที่เราไปช่วยเหลือผู้อื่นก็ได้ โดยการ
    เอาคำสอนมาทำให้เป็นรูปธรรมมากขึ้นด้วยการช่วยหลือสังคมหรือจัดกิจกรรมทำสมาธิภาวนาให้เด็กมีสมาธิมีความสงบในจิตใจซึ่งสามารถทำได้ทุกที่ ไม่จำเป็นต้องเข้าวัดอย่างเดียวเพราะมันจะไม่อินเทรนด์ แค่ทำดี ละชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธ์ อยู่ที่ไหนก็สามารถทำได้เหมือนกัน” พระไพศาลกล่าว

    สุดท้ายการที่วัฒนธรรมตะวันตกมักจะเอาชนะวัฒนธรรมอันดีงามของคนไทยนั้น ก็เพราะว่าไม่เพียงคนที่อยู่ในวงการศาสนาไม่ทันสมัย กระทรวงที่รับผิดชอบไม่ใส่ใจ และรัฐบาลไม่คิดนอกกรอบ เหมือนกับความเป็นไทยดีๆ หลายอย่างที่กำลังตายจากหัวคนรุ่นใหม่ไปนั่นเอง.


    ---------
    ไทยรัฐออนไลน์
    http://www.thairath.co.th/content/life/149747
     
  5. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,800
    อนุโมทนาด้วยครับ พระมหาสมปอง ท่านนำเงินส่วนใหญ่ที่ได้ช่วยเหลือหลวงพ่ออลงกตแห่ง

    วัดพระบาทน้ำพุไว้มากมายครับ คนดี ทำดี แม้ไม่มีใครเห็น แต่ฟ้าดินย่อมเห็นครับ
     
  6. Fabreguz

    Fabreguz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +1,911
    ผมไปเวียนเทียน ก็เห็นวัยรุ่นมากันมากเต็มวัดเลยครับ แต่ที่น่าเป็นห่วงอีกอย่างคือ การแต่งกายครับ ผู้หญิงวัยรุ่นบางคนนุ่งห่มไม่เหมาะสม ต้องตักเตือนด้วยครับ ผมคิดว่าในเมื่อสื่อโทรศัทศ์ มีอิทธิพลต่อประชาชนมากที่สุด น่าจะมีรายการเกี่ยวกับธรรมมะ ในช่วงเวลาที่คนดูมากๆด้วยครับ ไม่ใช่จะเอาแต่บันเทิง..ไม่ต้องหวังเรื่องเรตติ้งมากเกินไป รัฐต้องเข้ามา เปลี่ยนแปลงสังคมด้วยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...