เตือนการรับธรรมมะจากเจ้าแม่กวนกิมดีจริงหรือ

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย นิพ_พาน, 18 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. นิพ_พาน

    นิพ_พาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,984
    ค่าพลัง:
    +7,810
    เดี๋ยวนี้ลัทธินอกศาสนามีวิธีหากินกันแบบแปลกๆๆ
    พอดีไปเจอมากับตัวเองเลยเอามาเล่าสู่กันฟังค่ะ
    ไม่เคยคิดจะไปรับหรืออะไรหรอกค่ะ
    บังเอิญเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาค่ะ เอเย่นต์ที่เราซื้อของกับเขาน่ะ

    เขามาบอกว่าจะมาจันแล้วมาชวนไปดู เขาบอกแต่ว่าอคนนี้เก่ง
    แต่ไม่บอกตรงๆๆว่าไปทำอะไร เราก็เข้าใจว่าเป็นหมอดูมีญาณคง
    มาดูหมอก็เลยไปดูกะว่าตั้งแต่ซื้อขายกันมา 5 ปีเราก็ไม่เคยเจอหน้า
    เขาเลยก็ลองไปเจอสักหน่อยไหนๆๆเขาก็มาเยือนถิ่นเราแล้ว
    พอไปถึงเขามีตั้งพิธีกรรมแล้วเขาก็ให้เราเขียนชื่อแล้วยอดเงินบริจาก
    เราบริจากไป 500 แล้วเขาจะให้แฟนเราเขียนด้วยแฟนบอกไม่ครับ
    ผมมีพระพุทธเจ้าเป็นที่ตั้งผมศิษย์หลวงปู่มั่น เขาก็คะยั้นคะยอแฟนก็ไม่
    อย่างเดียว สรุปว่ากลายเป็นเราคนเดียวที่บริจากแล้วเขาก็พาเข้าห้อง
    ทำพิธีแล้วก็ มาอธิบายว่าทำเพื่อตายไปจะได้ไม่มีเราในนรก แล้วจะ
    ได้ไปพบพระศรีอริยเมตไตร เขามีรูปปั้นพระแม่กวนอิมด้วยซื่งเราก็นับถือ
    อยู่แล้วก็คิดว่า คงไม่เป็นไรรับธรรมมะก็คงได้บุญเหมือนกัน (แต่ก็ยังไม่รู้
    อยู่ดีว่ารับไปทำไม) แล้วเขาก็บอกว่าเขาเปิดตาที่สามให้แล้วนะต่อไปนั่ง
    สมาธิจะดีขึ้นนะ ก็ไม่ได้คิดอะไร แต่หลังจากทำพิธีรู้สึกได้ว่าใจเราเย็นขึ้น
    มากเขาก็สอนหลักธรรมประมาณว่าตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้ให้สร้างความดี
    ธรรมมะในครัวเรือนอยู่บ้านก็ทำได้เราก็อืมก็ดีนะ ที่นี้กลับมาบ้านมาหา
    กูเกิ้ลว่ามันคืออะไร ก็เห็นบางคนว่าเป็นลัทธิ แล้วก็มานึกเคืองเอเย่นต์คน
    นั้นว่าทำไมไม่บอกแต่แรกว่าพาไปรับธรรมมะ ถามก็พูดกำกวมแบบอ้ำๆ
    อึ้งๆ ก็เลยมาคิดว่าถ้าของเขาดีจริงทำไมเขาไม่เล่าให้ละเอียดนะ ไม่แฟร์
    เลยน่าจะบอกตรงๆๆ เหมือนกับเราโดนหลอกไปอ่ะค่ะ แล้วก็มาถามลุงหมานซึ่งลุงก็ไปหาข้อมูลมาให้ค่ะ เดี๋ยวลงข้อมูลที่ลุงหมานหามาให้ดูค่ะ
    ที่มาบอกเล่าเพื่อให้ทุกคนระวังไว้ ว่าถ้าหากเจอแบบเราอย่าได้หลวมตัวไป ไปแล้วเหมือนมัดมือชก อีกอย่างเขาน่าจะบอกตรงๆๆเลยว่าพาไปรับ
    ธรรมมะ ไม่ใช่บอกแบบว่าบอกไม่ถูกต้องมาดูเองถึงจะรู้นะ เราก็มีถามว่ามีเรียกเก็บเงินไหม เขาบอกไม่มีมีแต่เขาจะแจกหนังสือธรรมให้ แล้วก็แล้วแต่เราทำบุญ
    ลองเข้า GOOGLE แล้วไม่พบว่าอยู่ในศาสนาใดๆ


    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]"อนุตตรธรรม มิใช่ศาสนาหรือลัทธิศาสตร์ใดๆ แต่เป็นสัจจธรรมของฟ้าดิน เป็นธรรมอันเที่ยงแท้เป็นหลักหรือรากฐานของทุกชีวิต[/FONT]​


    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]วิถีอนุตตรธรรม จึงเป็นทางเดินที่ทุกคนไม่ว่าจะเป็นชนชาติใด ศาสนาใด เด็กหรือผู้ใหญ่ พึงได้รับการถ่ายทอดให้รู้ความเป็น ความจริงแห่งชีวิตตน จะได้บำเพ็ญเพื่อการหลุดพ้นโดยตรง หรืออย่างน้อยก็เพื่อมิให้จิตใจหลงใหลเสื่อทรามลง"[/FONT]​
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR vAlign=top><TD class=menu width="22%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]1. ศาสนาพุทธ[/FONT]</TD><TD class=menu width="78%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ของ พระพุทธเจ้า[/FONT]</TD></TR><TR vAlign=top><TD class=menu width="22%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]2. ศาสนาคริสต์[/FONT]</TD><TD class=menu width="78%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ของ พระเยซูคริสต์[/FONT]</TD></TR><TR vAlign=top><TD class=menu width="22%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]3. ศานาอิสลาม[/FONT]</TD><TD class=menu width="78%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ของ ท่านบีมุฮัดมัด[/FONT]</TD></TR><TR vAlign=top><TD class=menu width="22%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]4. ลัทธิเต๋า[/FONT]</TD><TD class=menu width="78%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ของ ท่านเหลาจื้อ[/FONT]</TD></TR><TR vAlign=top><TD class=menu width="22%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]5. ลัทธิยู้ (ขงจื้อ)[/FONT]</TD><TD class=menu width="78%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ของ ท่านขงจื้อ[/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE>[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]
    [/FONT]

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="97%" align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#eeeeee width="88%">วิถีอนุตรธรรม ไม่ใช่ศาสนาพุทธ และไม่เกี่ยวกับมหายาน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=5 width="98%"><TBODY><TR><TD vAlign=top background=Image/boardbody_blue.gif align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=7 width="96%" align=center><TBODY><TR></TR><TR><TD align=left>เรียน ท่านผู้เกี่ยวข้อง เว็บมาสเตอร์ และผู้จัดทำเว็บไซด์พุทธยาน

    เนื่องจากเว็บไซด์แห่งนี้เป็นเว็บไซด์ศูนย์กลายพุทธศานามหายาน แต่กลับเป็นที่เผยแพร่หลักของลัทธิ วิถีอนุตรธรรม ด้วย ซึ่งลัทธินี้ทางพุทธศานามหยานของไต้หวัน และจีนแผ่นดินใหญ่ มิได้ยอมรับว่าเป็นส่วนหนึ่งของพุทธศาสนามหายานแต่อย่างใด

    แต่กลับเป็นการแอบอ้างเอาพระสูตรไปดัดแปลงเป็นของตน หลายต่อหลายพระสูตร แอบอ้างพุทธวัจนะ ทางมหายานเองก็ประกาศไม่ยอมรับลัทธินี้มานานแล้ว

    เนื่องจากลัทธินี้ มีความเชื่อเกี่ยวกับพระเจ้า และหลักกรรมที่ขัดกับพุทธศาสนาอย่างรุนแรง โดยคนที่ไม่เข้าใจพุทธศานาอาจจะหลงผิดเชื่อโดยง่าย (ดูเหมือนว่าจะมีมากขึ้น)

    มีการเชิญพระสงฆ์เถรวาทไปคุกเข่ารับอนุตรธรรมจากฆราวาส แอบอ้างว่าเป็นสายพระโพธิสัตว์พระศรีอาริเมตยไตร

    อ้างหลักการทำบุญไถ่ปาปด้วยการรับธรรมะ ผิดหลักการพุทธศาสนา

    อ้างว่าปิดอบายภูมิ ปิดประตูนรกได้โดยการ"รับธรรมะ "

    อ้างว่าการกินเจเป็นบุญกุศล คนไม่กินเจเป็นคนปาป มีการประทับทรงลงเจ้า แอบอ้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ

    และอื่นๆอีกมากมาย

    ขอให้ท่านไปศึกษาดูนะครับ หากเราศึกษาธรรมมะของพุทธเจ้ามาพอสมควร ก็จะรู้ว่าพวกนี้เป็นมิ๗ฉาทิฐิค่อนข้างรุนแรง ว่และสมควรจะนำมาเผยแพร่หรือไม่


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="97%" align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#eeeeee width="88%">วิถีอนุตรธรรม ไม่ใช่ศาสนาพุทธ และไม่เกี่ยวกับมหายาน</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. ^บัวหลวง^

    ^บัวหลวง^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    543
    ค่าพลัง:
    +661
    อนุโมทนาค่ะ บัวเคยหลวมตัวไปรับ ไปเปิดตา ไปทำพิธีมาแล้วเหมือนกัน เมื่อนานมาแล้ว ไปเพราะเพื่อนชวนคะยั้นคะยอให้ไป ไปครั้งเดียวแล้วไม่ไปอีกค่ะ เค้าสอนไม่ถูกหลักพระพุทธศาสนา เจ้าแม่กวนอิมน่ะมีจริง บัวศรัทธา แต่ลัทธิอนุตรธรรมเนี่ยสอนไม่ถูกหลัก ไม่ตรงกับพระพุทธเจ้าท่านสอนค่ะ ไปเปิดตาแล้วไม่เห็นอะไรซักอย่าง สู้ไปวัดท่าซุงก็ไม่ได้ ฝึกมโนมยิทธิ ไม่ต้องเปิดตา ไม่ต้องแหกตา ก็เห็นค่ะ

    เรื่องกินเจเนี่ยก็เหมือนกัน พระพุทธองค์ท่านไม่เคยให้พุทธบริษัทกินเจ มีแต่พระเทวทัตและสาวกที่กินเจ ขนาดวัวควายมันกินผักกินหญ้ามานาน ยังไม่เห็นบรรลุเป็นอรหันต์เลย พระพุทธองค์ท่านห้ามภิกษุฉันเนื้อต้องห้าม10 อย่าง แต่ไม่ได้ให้กินเจค่ะ

    ถ้าไปเปิดตาแล้วลงนรกเป็นมิจฉาทิฏิ ไม่เปิดซะดีกว่าค่ะไม่คุ้มกัน ใครมีเพื่อน มีญาติ อย่าให้ไปเข้าลัทธิเชียวค่ะ สิ่งที่ได้มาไม่คุ้ม ถ้าเป็นมิจฉาทิฐิแล้วแก้ยากค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2011
  3. JitJailove

    JitJailove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    736
    ค่าพลัง:
    +741
    โอ้ว..แม่เจ้า เสีย 500 บาทไม่ตกนรก
    คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม ถ้าทำได้จริงๆ....
    มากกว่านี้ยังได้เลย....

    แฟนเจ้าของกระทู้หล่ออะป่าว อยากรู้จินๆ
     
  4. Readome

    Readome เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +130
    สิ่งที่ท่านทั้งหลายกล่าวมานั้นก็จริง
    แต่ ท่านทั้งหลาย ต้องพิจารณาดังนี้
    ทุกวันนี้ มนุษย์ดิ้นลนกระเสือกกระสนเพราะ ต้องการความ
    เจริญรุ่งเรื่อง เพื่อประกอบสัมมาอาชีพ อย่าว่าแต่ ฆราวาสเลย พระก็เป็นกันทั้งนั้น เพราะหากยังมีกิเลสมารเป็นธรรมดาของมนุษย์
    ทุกวันนี้ ทุกคนหันมาปฏิบัติธรรมมาก หนังสือธรรมะก็ขายดี แต่ไม่ใช้ปัญญาพิจารณาว่า นี่คือเรา หรือนั่นคือเขา คนเราเกิดมามันไม่เหมือนกันฉะนั้น
    เราต้องอยู่แบบเราคิดอย่างเราน่าจะดีกว่าเพราะมันไม่ต้องไปทุกข์มาก มีแค่ ทาน ศีล ภาวนา เดี๋ยว ศีบ สมาธิ ปัญญา นั้นย่อมเกิดเอง
    หลังจากคนสนใจปฏิบัติธรรมแล้วละดับหนึ่งก็สนใจและต้องการ นิพพาน ต้องการเป็นเทพเทวดา พรหม
    แต่ไม่รู้จะคำว่า เทวดา นิพพาน พรหม นั้นมันเป็นอย่างไร
    เลยต้องแสวงหาความอยากตัวนี้ เพื่อจะเป็น ตัวเองจะได้พ้นทุกข์ นั่นมันไม่ใช่ นั่นมันทำให้เราเกิดมิจฉาทิฐฐิในใจว่าเราต้องรอดเราต้องดีกว่าเขาเราต้องไม่ลงนรก นรกคือ ความคิด สวรรค์ก็คือความคิด มนุษย์ก็คือความคิด คิดอย่างไงผลก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น ฉะนั้นอย่าหาสุขเพื่อได้สุข
    จงเจอทุกข์แล้วล่ะทุกข์จะพบสุขเพราะ สุขนั้นย่อมมีในใจเมื่อเกิดปัญญาจริงๆ
    ทุกวันนี้มนุษย์เราบ้าคำว่าบุญจนลืมว่าบุญคืออะไรกุศลคืออะไรเอ๊ะอ่ะอะไรก็ทำบุญ อยากจะบอกว่าบุญ คือ กำลังใจ ที่ตั้งใจ ไม่ใช่ทำเพื่อหวังผลตอบแทน
    ผมเคยฟังธรรมะ ของครูอาจารย์ท่านหนึ่ง ท่านบอกว่า อย่าปฏิบัติเพื่อหวังผล
    หากหวังผลมันมีแต่ความทะยานอยาก บางทีมิจฉาทิฐฐิเขาครอบงำจิตใจว่า ที่กูทำไปมันคือของกูกูต้องได้สักวันหนึ่ง หากทำแบบนี้ มันก็ไม่ต่างอะไรกับพวกซื้อล๊อตเตอรรี่ ที่รอวันที่จะถูกหวยอย่างเดี๋ยว ฉะนั้นอยากรู้ว่าบุญมันส่งตอนไหน ให้ไปถามว่า คนที่เขาถูกล๊อตเตอรรี่ เขาทำอย่างไร มันยังไม่รู้เลยเพราะมันก็ งง จนซ๊อค เพราะไม่ได้ตั้งใจ แต่เขามีกำลังใจ คือ อยากได้ แต่ไม่หวังอะไรมาก
    เขาคิดว่าได้ก็ดีไม่มีไม่ต้อง นี่แหล่ะบุญมันถึงเกิดและส่งผลได้จริง เพราะกำลังใจ
    ทุกวันนี้ คนเราคิดแต่ได้ต้องทำต้องทุ่มอะไรมากมาย สุดท้ายก็สร้างกำลังใจตัวเองไม่ได้เพราะ มันยังติดตัวตน ติดสมมุติทั้งนั้น ฉะนั้นบุญไม่มีสมมุติหรอก บุญมันแปรอะไรก็ได้ตามผลกรรมที่เราทำมา ถ้าพวกเอ็งฝากบัญชีธนาคาร 1000 บาท
    แล้ว อีก 7 วัน เอ็งไปขอดอกเบี๊ยเขาจะให้ไหม นั่นแหล่ะคือการเปรียบเทียบ
    แต่ถ้าหากเอ็งฝากเงินไปครบ 1 ปี ดอกเบี้ยก็มีตามกำหนดสัญญาธนาคาร
    เงินต้นพวกเอ็งก็มี ดอกเบี้ยก็ได้มา นั่นแหล่ะดอกเบี้ยมันคือบุญที่เราสร้างฝากไว้แล้วมันเป็นผลเป็นดอกให้เรานี่เอง
    เอ็งอย่าไปคิดอะไรมาก เพราะเดี๋ยวพวกเอ็งต้องตาย ความป่วยเป็นของไม่แน่นอนเพราะมันมีหาย ความตายซิวะเป็นของแน่นอน ได้นอนแน่
    แต่เอ็งจะนอนแบกอะไรจะเอาหินหรือเอาทรายให้คิดกันดู มันก็เหมือนกับ เอ็งจะเอาจิตที่มันเป็นกุศลหรือ อกุศลเท่านั้นแหล่ะที่พวกเอ็งแบกเอาไปได้



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2011
  5. Mantalay

    Mantalay เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,065
  6. primrose

    primrose เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +527
    ขอบคุณค่ะพี่นิพ_พาน ที่นำมาบอกเล่า และเตือนกัน

    เชื่อว่ายังมีคนอีกมากมายที่แสวงหาความสุขทางลัด
    อยากนิพพาน แต่ไม่ยอมภาวนา คิดแต่จะหาทางนิพพานแบบลัด ๆ

    อันที่จริงธรรมะนั้นอยู่ที่กายและใจของเรานี่เอง ไม่ได้อยู่ที่ไหนเลย
    ไม่อย่างนั้นพระพุทธองค์จะสอนสติปัฏฐาน4 ให้เราพิจารณากันหรือ

    พระอาจารย์ของใจสัยท่านพูดเสมอ ๆ ว่า

    "คนที่ภาวนาง่ายในชาตินี้ เพราะเขาภาวนายากลำบากมาก่อน
    คนที่ภาวนายากในชาตินี้ ต่อไปก็จะภาวนาง่ายเอง
    จุดหมายการภาวนาเพื่อเตรียมตัวตายอย่างมีสติ
    หากภาวนาเพราะอยากได้ดี อยากมีความสุข มุ่งหวังมรรคผลแล้ว
    จะไม่ได้ เพราะเป็นการภาวนาด้วยกิเลส คือ โลภะ"
     
  7. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    ขอบคุณท่าน จขกท ที่ตั้งกระทู้เตือนเพื่อนสมาชิกให้ระวัง....เพราะเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นแล้วจริงๆ...
    โดยเฉพาะท่าน จขกท. เอง ถ้าพูดตามหลักธรรมว่าเวลาวิบากกรรมจะส่งผล
    ต่อให้คนที่ฉลาดหรือระวังยังไง ถ้าโมหะเกิดขึ้นย่อมปิดบังทำให้หลงลืม
    กระเป๋าตังส์ว่ารักมากวางไว้ข้างตัวเวลาลุกไปก็ยังลืมได้....มีให้เห็นก็บ่อยคนลืมกระเป๋าตังส์หรือสิ่งของบนรถแท็กซี่...
    ลักษณะ จขกท. เล่ามานั้นเหมือนตนเองก็รู้ แต่โมหะปิดบัง กลายเป็นเกรงใจ กลายเป็นอยากลอง กลายเป็นว่าเงินนิดหน่อย...บ่นให้ฟังเล่นๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 กุมภาพันธ์ 2011
  8. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,275
    ค่าพลัง:
    +82,733
    ตอนที่สอนอยู่โรงเรียนประถม เขาเคยมาทำพิธีที่โรงเรียน ติงก็ไปดู ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ตอนนั้นบริจาคเงินไป 100 บาท หลังจากนั้น เขาก็เทียวมาบ้าน มาชวนไปร่วมกิจกรรม รู้สึกว่าขาดความเป็นส่วนตัวมาก(ไม่เคยไปสักครั้งค่ะ เพราะไม่เลื่อมใส รู้สึกรำคาญมากๆ)โชคดีที่เขาชวนหลายครั้งแล้วติงไม่ไป เขาก็เป็นฝ่ายจากไปเอง
     
  9. หนีนรก

    หนีนรก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +666
    ตอนมัธยมเคยไป คล้ายๆแบบนี้ มีคนชวน เลยไปกับเพื่อน 3 คน นั่งฟังอะไรไม่เป็นประโยชน์อยู่ 2-3 ชั่วโมง สรุปใจความได้ดั้งนี้

    - นำสารจากเหล่าเทพเจ้า เพื่อช่วยมนุษย์ เปิดประตูสวรรค์ ปิดประตูนรก
    - หากใครเกิดเป็นลม หรือ ใครมาไม่ได้ (ไม่อยากมา) เพราะมาร,เจ้ากรรมนายเวรขัดขวาง
    - ใครๆก็อยากมาที่นี แม้แต่พระก็ยังอยากมา แต่มาไม่ได้
    - เอาเวลาส่วนใหญ่แนะนำตัวสรรญเสริญกันเอง(คนนำสาร) ว่าช่างมีบุญคุณเหลือคณา
    - จำคำ 5 คำ เป็นรหัสผ่านประตูสวรรค์ (ภาษาจีน) หากไม่มี,จำไม่ได้จะเข้าไปไม่ได้
    - ห้ามพูดรหัส หรือ เขียนไว้เป็นอันขาด ไม่งั้นจะปากเบี้ยว (มั่ง จำไม่ได้) ประมาณว่าขู่
    - ไม่รู้ให้จำจุด กลางระหว่างคิ้วทำไม ใครชี้จุดนี้ใครคนอื่นดูจะเสียนิ้วหรืออะไรสักอย่าง
    - เน้น กินเจมากๆ แค่กินเจญาติในนรกก็ได้บุญมหาศาล(ใครกินไม่ได้,ไม่กิน เพราะมาร)
    - ท่าไหว้ สมัยก่อน มือเดียว เหมือนหนังจีน ว่ากลีบ บัว เป็นยุคที่คนสอนง่าย
    - พนมมือ ท่า บัวตูม เพราะคนสอนยากขึ้นมา
    - ปัจจุบัน ท่ารากบัว เพราะลึกกว่า(คล้ายๆการรวบมือสงบนิ่งแบบฝรั่ง) แต่วางมือแถวๆใต้สะดือ
    - ให้คนที่มาเป็นคนดี คือ บอกว่าจากกนี้ไปจงเป็นคนดี (กว้างมั้ย? เหมือนที่พ่อแม่เราพูดกับเราว่า เป็นเด็กดีนะลูก แค่นั้นแหละ แต่ไม่หลักการอะไรให้ฟังจริงๆหรอก)
    - ใครคิดแปลกแยก คนนั้นเป็นมาร ไม่ก็ มีมารขวางอยู่ (ห้ามคิดแย้ง ให้เชื่ออย่างเดียว)
    - ส่งชื่อสกุล (วันเกิดด้วยมั่ง)แค่นี้ชื่อคุณก็อยู่บนสวรรค์แล้ว(แต่ก็พูดเหมือนว่าต้องมาอีก)

    หลังจากนั่งหลังแข็งมาตั้งนานสองนาน ห้ามไขว่ห้าง ห้ามลุก ห้ามคุยกัน ห้ามหันซ้ายขวา ก็พาไปทานอาหาร (เจ) หลังจากนั้น คนที่พาเราไปก็จะพูดกับเราว่า ต้องทำบุญด้วย 200 บาท ทำมากกว่านี้ได้ แต่ห้ามน้อยกว่า 200 เพื่อนเราคนนึง ไม่ได้พกตังค์มา เพราะฉุกละหุก และมาตามมารยาทเฉยๆ เขาอุตส่าห์เอารถมารับ-ส่ง ถึงที ไม่ไปก็เกรงใจ (สรุป จ่ายไป 3 คน 600 ว่าเป็นเงินทำหนังสือแจก) เพื่อนเราคิดว่า ต้องหาคนมา แล้วได้ค่าหัวแน่ๆเลย

    ไหนๆก็เล่าแล้ว เล่าให้หมดเลยแล้วกัน ให้เพื่อนๆทั้งหลายพิจารณากันเอาเอง

    เมื่อปลาย ปี 52 ก็มีคนลูกค้า นุ่งขาวห่มขาวคนนึง มาชวนแม่เราไป พูดจูงใจต่างๆนาๆ แม่เราเลยมาถาม พอเราฟังก็คิดว่าต้องเป็นที่นั้นแน่ๆเลย เลยบอกแม่ว่าไปแล้วจะเจอไรบ้าง เขาจะพูดอะไร แล้วแม่จะไปมั้ยละ ไปก็ได้นะ ไม่ไปก็ได้เพราะมันไม่มีอะไร เสียเวลา แต่ถ้าจะไปก็ดี อยากรู้เหมือนกันว่า จะพูดอะไรใหม่ๆรึเปล่า หรือจะพูดแค่นี้มาตลอด 10 ปี แม่เราก็ไม่ได้รับปากหรอกแค่บอกว่าถ้าวันนั้นไปได้ก็จะไป พอถึงวัน แม่เราไม่อยากไป เราเลยบอกแม่ว่างั้นก็ทานยาแล้วเข้าไปนอนซะ มันเลยเวลานัดแล้วด้วย แม่หลับไป 3-4 ชม. เขาก็มา เราบอกว่าแม่เข้านอนแล้ว เขาก็คะยั้นคะยอไม่ลดละ บอกว่าแม่ปวดหัว ทานยาแล้วถ้าฝืนไม่นอนจะปวดหัว ไปไม่ได้หรอก สุดท้ายเราต้องเดินเข้าไปปลุกแม่เพราะรำคาญ คุณเธอพร่ำ แม่ลุกไม่ไหวเพราะฤทธิ์ยา ปวดหัว เพราะถูกปลุกให้ตื่นขณะที่ฤทธิ์ยายังไม่หมด แต่ที่น่าตกใจ ผู้หญิงคนนั้นตามเข้ามาถึงในห้องนอน และพร่ำว่าปวดหัวเนี้ยเพราะมารขัดขวาง ไปเถอะญาติที่ตายไปเขาจะได้บุญด้วย ถ้าทนรำคาญไม่ได้ อยากให้เธอหยุดพูดก็ต้องรีบไปมันจะได้จบ (อย่าเสียเวลาเถียง เหมือนสีซอ...) พอแม่ออกมา เราบอกแม่ให้เอาเงินไปด้วย แม่งงว่าไปนิดเดียวจะเอาตังค์ไปทำไม เรายัดเงินใส่มือแม่ แล้วบอกว่าแม่ได้ใช้เงินแน่คอยดู ถ้าไม่ขึ้น ก็ 200 ชัวร์

    พอแม่กลับมาเราก็ซักว่าเป็นไง สรุป ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จริงๆ เรางง ว่า 10 ปีมานี้ พูดซ้ำ แค่นี้นะ ทำไมคนที่คลั่งลัทธินี้ ทนฟังอะไรเดิมซ้ำไปซ้ำมา ไม่ฉุกคิดอะไรเลยเหรอ อย่างมากมันก็แค่ทำให้รีแลกซ์จากงานการได้นิดหน่อย ถึงจะโฆษณาให้เข้าว่านี้เป็นแก่นธรรม แต่จริงๆแล้ว ยังไม่ถึงผิวเลยด้วยซ้ำ มองในแง่ดี เหมือนคนที่อยู่นั้นจะ ใฝ่ดีและมีศรัทธาแรงกล้า แต่ในทางกลับกัน ก็น่ากลัวเพราะคำสอนโดยรวม วางไว้บนเส้นที่มีชื่อว่าความประมาท งมงายมากๆสามารถนำไปสู่การปรามาสพระรัตนไตรยได้ เพราะไม่รู้ว่าแก่นของศาสนา แต่กลับบอกว่าสิ่งที่ตนยึดถือนั้นเป็นที่สุดแห่ง ธรรม ที่ปัจจุบันไม่สามารถหาจากที่ไหนได้นอกจากที่นี้ (มันเหมือนกับว่าคนที่หลงไหลในคำสอนนี้ จะห่างไกลศาสนาเหลือเกินจึงไม่รู้อะไร จึงเชื่อว่าวิเศษ เปิดประตูสวรรค์ ไปรออยู่นั้น จนถึงยุคพระศรีอาริย์ ก็มาเกิดแล้วไปนิพพานเลย โดยอาศัยความดีจากการกินเจเป็นสำคัญกับการเป็นคนดีแบบหลักลอย

    หลายครั้งที่เขาตื้อลากแม่ไป แต่เราปฏิเสธชัดเจนทุกครั้ง แนะเขาเพราะเห็นว่าเจตนาดีน่าจะไปให้ถูกทาง แต่ก็ไร้ประโยชน์ จะทำแถบสี แยกคำพูดเรากับเขานะ
    เคยบอกว่าจะอาศัยความดีจากการกินเจ จะพอให้ตนเกิดทันยุคพระศรีอาริย์ มันไม่น้อยไปเหรอ (เหมือนฝันอะไรลมๆแล้ง) ต้องปฏิบัติธรรมด้วย ชวนให้หาเวลาไปปฏิบัติธรรม แต่กลับได้คำตอบว่า การปฏิบัติธรรมไม่ได้บุญไม่ช่วยอะไร วัดไม่สามารถสอนอะไรใครได้อีกแล้ว เพราะพระพุทธเจ้าตายไปแล้ว ไม่มีใครสอนได้แบบพระพุทธเจ้าหรอก (นั่นมันก็ใช่ แต่จะพึ่งพระพุทธเจ้าอย่างเดียว ตัวเองไม่ต้องทำอะไรเลยรึไง) ต้องรอให้พระศรีอาริย์มาสอนเท่านั้น แล้วจะลำดับพระพุทธเจ้าให้เราฟัง (ให้เหมือนมีองค์ความรู้)เราบอก พระศรีอาริย์ที่จะมาถัดจากพระสมณโคดมใช่มั้ย นานดับดิ้นเลยนะ จะรอเฉยๆเลย ไม่ต้องทำอะไร ไม่ปฏิบัติธรรมเลยเนี้ยนะ นี่ปฏิบัติกรรมฐานไปด้วยดีมั้ย สรุปคุยกับกี่ครั้งก็ไม่เป็นประโยชน์ ไม่รู้เพราะความเชื่อหรือ เพราะเขามีผลประโยชน์ร่วมกับที่นั้นไม่รู้ แต่เขาบอกว่าแค่ชวนคนไปได้นะ จะได้บุญมากมายมหาศาล

    ที่เห็นว่าเป็นลัทธิที่ตั้งอยู่ในความประมาทยังไง

    ลองคิดสิว่า คนที่ตั้งหน้าตาทำงาน หรือ ดำรงชีวิตตามวัฏจักร โดยสนใจโลกนี้มากกว่าโลกหน้า จึงใช้ชีวิตตามใจตัวเองตามยถากรรมมากกว่าจะมาห่วงโลกหน้าของตนจะเป็นยังไง ไม่ได้มีความคิดมาพอจะหาหลักธรรมมายึดเหนี่ยวจิตใจ ที่ว่าศีลครบยังตกนรกได้ หากใจมัวหมอง กับ คนอีกคนที่บอกว่าคำสอนปัจจุบันช่วยอะไรคุณไม่ได้ เพราะชื่อทุกคนอยู่ในนรกเกือบหมดแล้ว มีผู้นำสารที่สามารถติดต่อกับเทพเจ้าได้ เทพเจ้าได้บอกวิธีปิดประตูนรกเปิดประตูสวรรค์ และให้คีย์การด์เป็นรหัสผ่านประตู หากคุณลืมก็ไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ ต้องรอค้างอยู่หน้าประตู โดยไปนรกก็ไม่ได้เพราะไม่มีชื่ออยู่ ฉะนั้นห้ามลืมเด็ดขาด เมื่อไหร่ที่คุณลืมคุณต้องมาเอาใหม่(รหัสเดียวกันทุกคน) เพราะการลืมเป็นเครื่องแสดงว่าชื่อคุณหายไปจากสวรรค์แล้ว ต้องมาลงชื่อใหม่ ไม่มีการทำพิธีให้ดูหรอก ลงชื่อแล้วคนที่พาเราไปจะเอาบัตรอะไรไม่รู้ที่มีชื่อเรามาให้บอกว่าให้เก็บไว้ดีๆตายไปจะได้เผาไปมั่ง (เห็นว่าต้องจำชื่อคนที่ชักชวนไปให้ได้ด้วยนะ) แค่จ่ายเงินทำบุญ 200 คุณก็ไม่ได้ไปนรกแน่ๆเพราะชื่อคุณถูกลบไปแล้ว แล้วก็เปิดประตูสวรรค์ให้คุณชื่อคุณอยู่ที่นั้นแล้ว ดีมั้ย(ถ้ามันจริงนะ) เพียงแค่คุณจากนี้คุณไปจงเป็นคนดี ถ้ากินเจด้วยจะได้บุญมากๆ มันช่วยให้คุณประมาทกับชีวิตรึเปล่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 กุมภาพันธ์ 2011
  10. นิพ_พาน

    นิพ_พาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,984
    ค่าพลัง:
    +7,810
     
  11. นิพ_พาน

    นิพ_พาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,984
    ค่าพลัง:
    +7,810
    ลุงเคสนี้นะวิบากกรรมส่งผล+ความเกรงใจค่ะ
    ถ้าหนูรู้ว่าเป็นลัทธิคงไม่ไปรับเด็ดขาด ที่บริจากเงินไป
    เพราะเขาบอกว่าเอาไปพิมพ์หนังสือธรรมมะแจกคนน่ะค่ะ
    แต่มาฉุกคิดได้ตอนที่หลวมตัวไปแล้ว ที่เขาให้คาถามา5คำ
    แล้วบอกว่า ห้ามจดให้จำแล้วห้ามบอกใคร คนที่จะได้คาถานี้
    คือคนที่ต้องมารับธรรมะเท่านั้น แม้แต่สามีก็ห้ามบอก เหมือน
    เป็นระหัสเซฟพอเราตายไป เขาจะถามเราว่ามีคาถานี้ไหมถ้า
    มีก็ได้ไปสวรรค์ มันฉุกคิดตรงที่ทำไมมันถึงลึกลับนักหนาถ้า
    อยากเผยแผ่ธรรมะจริงๆๆทำไมต้องปิดๆๆปังๆๆๆว้า นี่ถ้าเขาบอก
    ว่าให้ไปรับธรรมมะแต่ต้นๆๆคงไม่ไปหรอกลุง
    วิบากกรรมของหนูก่อนจะมีสตินะวันนี้โดนไปเยอะ
    โดนซินแสจีน ซินแสมา... มาหลอกตั้งศาลเจ้าที่จีน
    หย่อน 5 พันก็ครบแสน แล้วยังโดน คนตั้งศาลพระพิคเณศ
    พรามห์ไทยแต่เหมือนฮินดูอีกครึ่งแสน มิหน้าหมอดูเขาถึงว่า
    หนูเป็นโรคไม่รักเงินเลยนี่......
    ขอบคุณน้องใจสัย ติงๆๆ และน้องอีกท่านที่มาเล่าประสพการณ์
    ให้ฟังนะคะ


     
  12. อรชร

    อรชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,768
    ค่าพลัง:
    +11,465
    ขอบคุณกับประสบการณ์ต่างๆที่ควรรู้เพื่อเตือนและได้ระวังตัวกันค่ะ

    อนุโมทนา สาธุ...ค่ะ
     
  13. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    ถ้าเรานำมาเล่าสู่กันฟังให้มากขึ้นหรือกว้างขวางมากขึ้น
    โอกาสที่มิจฉาชีพ ก็จะมีพื้นที่ลดน้อยลง
     
  14. boontar

    boontar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,717
    ค่าพลัง:
    +5,514
    ในเว็บบ์นี้ก็ต้องระวัง
    พวกผู้วิเศษกล่าวอ้างวิชาแปลกๆปลอมๆศาสนาพุทธ
    โพสต์ซักพักนึง จะวกไปพูดเรื่องค่าวิชาค่าครู
     
  15. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
     

แชร์หน้านี้

Loading...